ในช่วงสิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา (วันที่ 30 เม.ย. ค.ศ. 2020 หรือ พ.ศ. 2563) ทางด้านของ สื่อ Forbes ได้รายงานว่าสมาร์ทโฟน Xiaomi มีการส่งข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ไปยังเซิร์ฟเวอร์ในประเทศสิงคโปร์ จีน และรัสเซีย โดยเป็นเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba
รายงานของ Forbes ระบุว่า เว็บเบราว์เซอร์ หรือ โปรแกรมเปิดเว็บ ทั้ง Mi Browser, Mi Browser Pro และ Mint Browser มีการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ทั้งหมดของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการค้นหาผ่าน Google หรือเสิร์ชเอนจิ้นที่มีความปลอดภัยสูงอย่าง DuckDuck Go รวมไปถึงข้อมูลใน News Feed ที่อยู่ในซอฟต์แวร์ของ Xiaomi ด้วย ซึ่งการเก็บข้อมูลของผู้ใช้เหล่านี้เกิดขึ้นแม้ว่าจะใช้งานในโหมดไม่ระบุตัวตนแล้วก็ตาม (Incognito)
นอกเหนือไปจากการพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตแล้ว Forbes ยังระบุด้วยว่า Xiaomi เก็บบันทึกข้อมูลการใช้งานอุปกรณ์อย่างเช่น ผู้ใช้เปิดโฟลเดอร์อะไร, มีการทัชหน้าจอตรงไหนบ้าง, การใช้งานแถบสเตตัส และหน้าการตั้งค่า ข้อมูลทั้งหมดจะถูกมัดรวมส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ในประเทศที่กล่าวไว้ข้างต้น ถึงแม้ว่าเว็บโดเมนจะถูกจดทะเบียนเอาไว้ที่ปักกิ่งก็ตาม แน่นอนว่างานนี้ Xiaomi ออกมาปฏิเสธนะครับ ว่าไม่เป็นความเป็นจริง การเก็บข้อมูลที่เกิดขึ้นมีแค่บางส่วนที่เป็นข้อมูลพื้นฐาน ที่เว็บเบราว์เซอร์รายไหนๆ ก็เก็บกันเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งเราก็จะไม่ไปพูดถึงประเด็นนั้นว่า สรุปมันจริง หรือไม่จริง แต่มาดูวิธีแก้ปัญหากันดีกว่า
Xiaomi ได้ทำการอัปเดต Mi Browser/Mi Browser Pro (v12.1.4) และ Mint Browser (v3.4.3) โดยได้เพิ่มตัวเลือกการตั้งค่า สามารถปิดการเก็บข้อมูลในขณะที่อยู่ใน Incognito Mode ได้แล้ว แน่นอนว่ามันไม่ได้ถูกตั้งค่ามาให้เป็นค่าเริ่มต้น ผู้ใช้ต้องทำการปิดด้วยตนเองเท่านั้น
ซึ่งเบราว์เซอร์ทั้ง 3 ตัว มีขั้นตอนการปิดที่เหมือนกันนะครับ โดยให้เราไปที่ Settings แล้วเข้าไปในเมนู Incognito Mode จะมีตัวเลือกให้เราเปิด/ปิด “Enhanced Incognito Mode” อยู่ให้เรา แตะ "ปิด" การทำงานของมันไปครับ เท่านี้ก็เรียบร้อย
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |