AnyDesk คืออะไร ? มีกี่รุ่น ? มีประโยชน์กับธุรกิจอย่างไรบ้าง ?

AnyDesk คืออะไร ? มีประโยชน์อย่างไร ?

เชื่อว่าคนที่ทำงานอยู่ในสาย IT โดยส่วนใหญ่จะรู้จักคุณประโยชน์ของ โปรแกรมรีโมทคอมพิวเตอร์ (Remote Desktop Software) กันดีอยู่แล้ว แต่สำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์โดยทั่ว ๆ ไป อาจยังไม่รู้จัก หรือยังไม่เข้าใจคุณประโยชน์ของโปรแกรมรีโมทคอมพิวเตอร์ เราก็จะขอเล่าให้ฟังประมาณนี้ครับ

โปรแกรมรีโมทคอมพิวเตอร์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของแผนก IT ในองค์กรธุรกิจ ผู้ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ (System Administrator) และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ IT Support หรือ IT Helpdesk ที่ต้องคอยแก้ปัญหาทางเทคนิคที่เกิดขึ้นกับเครื่อง คอมพิวเตอร์/โน้ตบุ๊ก ของพนักงาน และด้วยความที่มีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จำนวนมาก กระจายอยู่ตามแผนก สาขา หรือในแต่ละสำนักงานของธุรกิจ ก็ทำให้เกิดความยุ่งยาก และเสียเวลาในการที่เจ้าหน้าที่ IT Support จะต้องเดินทางไปถึงหน้าเครื่อง เพื่อทำการแก้ปัญหาให้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์กลับมาใช้งานได้เป็นปกติ

โปรแกรมรีโมทคอมพิวเตอร์ ก็เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความรวดเร็วในงาน IT Support เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ของตัวเอง ทำเชื่อมต่อเพื่อเข้าควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ของพนักงานที่เกิดปัญหาได้จากระยะไกล โดยทำการเชื่อมต่อผ่าน อินเทอร์เน็ต/ระบบเครือข่าย ทำให้เจ้าหน้าที่ IT Support สามารถเข้าควบคุมเพื่อจัดการแก้ปัญหาให้กับเครื่องที่อยู่ในระยะไกล ได้เหมือนว่าไปนั่งแก้ปัญหาอยู่หน้าเครื่องเลย ทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นถูกจัดการอย่างรวดเร็ว เมื่อผู้ใช้งานมีการร้องขอความช่วยเหลือ

ทำให้เจ้าหน้าที่ IT Support ไม่ต้องเสียเวลา ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อเดินทางไปถึงหน้าเครื่อง ไม่ว่าเครื่องที่เกิดปัญหาจะอยู่ในสาขาของธุรกิจที่อยู่ต่างเมือง หรือสาขาที่อยู่ในต่างประเทศ ก็สามารถทำการเชื่อมต่อเพื่อเข้าแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ขอเพียงให้มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างกัน

โปรแกรมรีโมทคอมพิวเตอร์ ก็ยังช่วยให้ผู้ดูแลระบบ (System Administrator) สามารถทำงานได้ง่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดูแลระบบคอมพิวเตอร์, การบำรุงรักษา (MA), การปรับแต่งการงานของเครื่องเซิร์ฟเวอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์ ทำงานได้จากระยะไกล โดยไม่ต้องเสียเวลาเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปถึงหน้าเครื่อง ทำงานได้เร็วขึ้นในเวลาอันจำกัด

ทางฟากฝั่งของพนักงานออฟฟิศ หรือผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่ว ๆ ไป ก็ได้ประโยชน์จากโปรแกรมรีโมทคอมพิวเตอร์เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ ทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) ก็สามารถใช้เครื่อง คอมพิวเตอร์ / โน้ตบุ๊ก ที่อยู่ที่บ้าน เชื่อมต่อเข้าใช้งานเครื่องของตัวเองที่ตั้งอยู่ในสำนักงาน ทำให้สามารถเข้าถึงไฟล์งานสำคัญ เข้าถึงโปรแกรมทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการทำงานได้ไม่ต่างอะไรกับการเข้าไปนั่งทำงานหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ในสำนักงานเลย ช่วยให้ทำงานจากที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โปรแกรมรีโมทคอมพิวเตอร์ยังเหมาะกับคนทำงาน ฟรีแลนซ์ (Freelance) ที่จะต้องเดินทางตลอดเวลา โปรแกรมรีโมทคอมพิวเตอร์ จะช่วยให้เข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ในสำนักงาน หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ที่บ้าน ขอแค่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้การทำงานไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาและสถานที่อีกต่อไป

โดยที่โปรแกรมรีโมทคอมพิวเตอร์ ก็มีให้เลือกใช้งานกันมากมายหลายแบรนด์ โดยหนึ่งในโปรแกรมที่มีความโดดเด่น และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับโลกคือ โปรแกรม AnyDesk จากบริษัทผู้พัฒนาสัญชาติเยอรมัน (German) และได้รับการยอมรับโดยลูกค้าในองค์กรธุรกิจกว่า 170,000 รายทั่วโลก มียอดดาวน์โหลดโปรแกรมกว่า 200 ล้านครั้ง และในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับ AnyDesk กัน

โปรแกรม AnyDesk มีกี่เวอร์ชัน และเหมาะกับใครบ้าง ? (How many versions of AnyDesk ? and Who is it suitable for them ?)

โปรแกรม AnyDesk แบ่งการใช้งานออกเป็น 5 เวอร์ชัน สำหรับความต้องการที่แตกต่าง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. AnyDesk Free

โปรแกรมรีโมทหน้าจอ รุ่นใช้งานฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน สำหรับการใช้งานแบบส่วนบุคคล คนทำงาน Work from Home หรือคนทำฟรีแลนซ์ มีข้อจำกัดเมื่อเทียบกับโปรแกรมในเวอร์ชันเสียเงินใช้งานคือ จำกัดการเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์ปลายได้เพียง 3 อุปกรณ์ ทำให้ไม่ตอบโจทย์คนที่ต้องการเชื่อมต่อเข้าใช้งานอุปกรณ์จำนวนมาก และยังไม่มีฟีเจอร์การสั่งรีสตาร์ทเครื่องปลายทาง (Remote Restart) ทำให้ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในลักษณะ IT Support โดยที่ทาง AnyDesk จะมีการตรวจสอบลักษณะการใช้งานของผู้ใช้งานอย่างสม่ำเสมอ หากพบว่ามีการใช้งานในเชิงธุรกิจ ก็อาจถูกระงับการใช้งาน

2. AnyDesk Solo

โปรแกรมรีโมทหน้าจอ รุ่นสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปเพียงคนเดียว แบบต้องเสียเงินซื้อลิขสิทธิ์การใช้งาน (AnyDesk ไม่อนุญาตให้ใช้งานในธุรกิจ) เหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟีเจอร์ที่สูงกว่ารุ่น Free รองรับการเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์ปลายทางที่ไม่มีคนคอยให้สิทธิ์ในการเข้าถึง ได้สูงสุดถึง 100 อุปกรณ์ (Unattended Access) และยังรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์พกพาอีกด้วย (Mobile Device Support) โดยที่ลิขสิทธิ์การใช้งานรูปแบบนี้ ทาง AnyDesk ไม่แนะนำให้ใชัในเชิงธุรกิจ

3. AnyDesk Standard

โปรแกรมรีโมทหน้าจอ รุ่นมาตรฐาน สำหรับองค์กรธุรกิจระดับ SME แบบต้องเสียเงินซื้อลิขสิทธิ์การใช้งาน โดยมีฟีเจอร์ที่เพิ่มมาจากรุ่น Solo คือ รองรับการใช้งานของทีม IT Support หรือทีมงานในองค์กรธุรกิจ ได้เป็นจำนวนสูงสุด 20 คน รองรับการเชื่อมไปยังอุปกรณ์ปลายทางที่ไม่มีคนคอยให้สิทธิ์ให้ในการเข้าถึงได้สูงสุดถึง 500 อุปกรณ์ รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์พกพา

(ดูรายละเอียด : โปรแกรม AnyDesk Standard)

4. AnyDesk Advanced

โปรแกรมรีโมทหน้าจอ รุ่นระดับสูง สำหรับองค์กรธุรกิจขนาดกลาง และใหญ่ แบบต้องเสียเงินลิขสิทธิ์ค่าใช้งาน โดยมีฟีเจอร์ที่เพิ่มมาจากรุ่น Standard คือ รองรับการใช้งานของทีม IT Support หรือทีมงานในองค์กรธุรกิจ ได้เป็นจำนวนสูงสุด 50 คน รองรับการเชื่อมไปยังอุปกรณ์ปลายทางที่ไม่มีคนคอยให้สิทธิ์ให้ในการเข้าถึงได้สูงสุดถึง 1,000 อุปกรณ์ รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์พกพา และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมายที่จะมีพูดถึงในลำดับถัดไป

(ดูรายละเอียด : โปรแกรม AnyDesk Advanced)

5. AnyDesk Ultimate

โปรแกรมรีโมทหน้าจอ รุ่นสำหรับองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ แบบต้องเสียเงินลิขสิทธิ์ค่าใช้งาน ความพิเศษของ AnyDesk รุ่นนี้คือ มีให้เลือกใช้งาน 2 เวอร์ชันย่อย ดังนี้

1. เวอร์ชัน Cloud : ใช้บริการรีโมทหน้าจอ ผ่านระบบคลาวด์ของ AnyDesk เหมือนกับโปรแกรมในเวอร์ชัน Free, Solo, Standard และ Advanced แต่จะมีฟีเจอร์ที่สูงกว่า อาทิ ปรับแต่งจำนวนผู้ใช้งานได้ตามต้องการ รองรับการเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์ปลายทางที่ไม่มีคนคอยให้สิทธิ์ให้ในการเข้าถึงได้สูงสุดถึง 2,000 อุปกรณ์ และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมาย
2. เวอร์ชัน On-Premise : ใช้บริการรีโมทหน้าจอ ในรูปแบบการจัดตั้งเซิร์ฟเวอร์ของระบบ AnyDesk ขึ้นมาเองในองค์กร (On-Premise) โดยมีความสามารถเทียบเท่ารุ่นบน Cloud ทุกประการ ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรธุรกิจ ที่ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวข้อมูล อาทิ ธนาคาร สถาบันการเงิน ธุรกิจสถานพยาบาล หรือธุรกิจที่มีข้อกำหนดว่าห้ามใช้งานโปรแกรมที่มีการส่งผ่านข้อมูลกับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ภายนอกองค์กร

(ดูรายละเอียด : โปรแกรม AnyDesk Ultimate)

โปรแกรม AnyDesk แต่ละเวอร์ชัน แตกต่างกันอย่างไร ? (How each version of AnyDesk are different ?)

ความแตกต่างของ โปรแกรม AnyDesk ทั้ง 5 เวอร์ชัน (หรือ 5 รุ่น) สามารถแจกแจงรายละเอียดได้ดังต่อไปนี้

1. AnyDesk Free

• จำนวนผู้ใช้งาน (Licensed User) : 1 คน
• จำนวนอุปกรณ์ปลายทางที่สามารถเชื่อมต่อเข้าควบคุมได้ : จำกัดที่ 3 อุปกรณ์
• อุปกรณ์ที่อยู่ในความดูแล (Managed Devices เชื่อมต่อได้โดยไม่ต้องมีคนให้สิทธิ์รออยู่ที่หน้าเครื่อง หรือที่เรียกว่าการเข้าถึงแบบ Unattended Access) : รองรับสูงสุด 3 อุปกรณ์
• สมุดรายชื่อเครื่องปลายทาง (Address Book) : 1 เล่ม เก็บได้ 5 รายชื่อเครื่อง
• รองรับการสั่งเปิดเครื่องปลายทางจากระยะไกล (Wake-On-LAN) : โดยที่เครื่องปลายทางที่ต้องการสั่งเปิด จะต้องเชื่อมต่อระบบเครือข่ายผ่านสาย LAN และต้องมีคอมพิวเตอร์อย่างน้อย 1 เครื่องในระบบเครือข่ายเดียวกัน ที่มีการติดตั้งโปรแกรม AnyDesk และเปิดเครื่องรออยู่ จึงจะสามารถสั่งเปิดเครื่องจากระยะไกลได้

2. AnyDesk Solo

• จำนวนผู้ใช้งาน (Licensed User) : 1 คน
• จำนวนอุปกรณ์ต้นทางที่สามารถเชื่อมต่อออกไปได้สำหรับแต่และผู้ใช้งาน : จำกัดอยู่ที่ 3 อุปกรณ์
• อุปกรณ์ที่อยู่ในความดูแล : รองรับสูงสุด 100 อุปกรณ์
• รองรับการสั่งรีสตาร์ทเครื่องปลายทาง (Remote Restart)
• รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์พกพา iOS/Android (Mobile Device Support) : ให้การ Support ปัญหาที่เกิดบนอุปกรณ์ iOS/Android โดยรองรับการแชร์หน้าจอจากอุปกรณ์พกพามายังอุปกรณ์ปลายทาง (ที่เป็น PC หรือ อุปกรณ์พกพา) เป็นประโยชน์สำหรับฝ่าย IT Support เพื่อแนะนำวิธีแก้ปัญหาที่เกิดบนอุปกรณ์พกพา (รองรับการเข้าควบคุมอุปกรณ์ Android จากระยะไกลโดยต้องติดตั้งปลั๊กกอิน) และยังรองรับการใช้อุปกรณ์พกพา เชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์ปลายทางที่เป็น PC
• สมุดรายชื่อเครื่องปลายทาง (Address Book) : 1 เล่ม เก็บได้ 100 รายชื่อเครื่อง
• รองรับการสั่งเปิดเครื่องปลายทาง ผ่านการสั่งงานจากระยะไกล (Wake-On-LAN)

3. AnyDesk Standard

• จำนวนผู้ใช้งาน : 1 - 20 คน
• จำนวนผู้ใช้งานที่สามารถเชื่อมต่อพร้อมกันในแต่ละช่วงเวลา (Concurrent Connection) : ปกติ 1 คน แต่สามารถขยายเพิ่มได้อีก 19 คน รวมเป็น 20 คน
• จำนวนอุปกรณ์ต้นทางที่สามารถเชื่อมต่อออกไปได้สำหรับแต่และผู้ใช้งาน : ไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์
• อุปกรณ์ที่อยู่ในความดูแล : รองรับสูงสุด 500 อุปกรณ์
• รองรับการสั่งรีสตาร์ทเครื่องปลายทาง
• รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์พกพา iOS/Android
• สมุดรายชื่อเครื่องปลายทาง : 6 เล่ม (ส่วนตัว 1 เล่ม, แชร์ 5 เล่ม)
• รองรับการสั่งเปิดเครื่องปลายทาง ผ่านการสั่งงานจากระยะไกล (Wake-On-LAN)

4. AnyDesk Advanced

• จำนวนผู้ใช้งาน : 2 - 50 คน
• จำนวนผู้ใช้งานที่สามารถเชื่อมต่อพร้อมกันในแต่ละช่วงเวลา : ปกติ 2 คน แต่สามารถขยายเพิ่มได้อีก 48 คน รวมเป็น 50 คน
• จำนวนอุปกรณ์ต้นทางที่สามารถเชื่อมต่อออกไปได้สำหรับแต่และผู้ใช้งาน : ไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์
• อุปกรณ์ที่อยู่ในความดูแล : รองรับสูงสุด 1,000 อุปกรณ์
• รองรับการสั่งรีสตาร์ทเครื่องปลายทาง
• รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์พกพา iOS/Android
• สมุดรายชื่อเครื่องปลายทาง : 16 เล่ม (ส่วนตัว 1 เล่ม, แชร์ 15 เล่ม)
• รองรับการสั่งเปิดเครื่องปลายทาง ผ่านการสั่งงานจากระยะไกล (Wake-On-LAN)
• รองรับการติดตั้งโปรแกรม AnyDesk ลงในเครื่องปลายทางจำนวนมากในคราวเดียว (Mass Deployment Options via MSI)

5. AnyDesk Ultimate

• จำนวนผู้ใช้งาน : ปรับแต่งได้ตามต้องการ (Fully Customizable)
• จำนวนผู้ใช้งานที่สามารถเชื่อมต่อพร้อมกันในแต่ละช่วงเวลา : ปรับแต่งได้ตามต้องการ
• จำนวนอุปกรณ์ต้นทางที่สามารถเชื่อมต่อออกไปได้สำหรับแต่และผู้ใช้งาน : ไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์
• อุปกรณ์ที่อยู่ในความดูแล : รองรับสูงสุด 2,000 อุปกรณ์
• รองรับการเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์ปลายทางหลาย ๆ เครื่องพร้อมกัน : ไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์
• รองรับการสั่งรีสตาร์ทเครื่องปลายทาง
• รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์พกพา iOS/Android
• สมุดรายชื่อเครื่องปลายทาง : รองรับแบบไม่จำกัดจำนวน (Unlimited Entries)
• รองรับการสั่งเปิดเครื่องปลายทาง ผ่านการสั่งงานจากระยะไกล (Wake-On-LAN)
• รองรับการติดตั้งโปรแกรม AnyDesk ลงในเครื่องปลายทางจำนวนมากในคราวเดียว (Mass Deployment Options via MSI)
• รองรับการเข้าสู่ระบบครั้งเดียว Single Sign-On (SSO)
• มีตัวเลือกการใช้งานแบบ On-Premise

ตารางเปรียบเทียบฟีเจอร์ของ โปรแกรม AnyDesk แต่ละเวอร์ชัน (AnyDesk Features Comparison Table of each version)

Access & Control (ฟีเจอร์ด้านการเข้าถึง และการควบคุม)

Administration & Customization (ฟีเจอร์ด้านการจัดการ และปรับแต่งการใช้งาน)

Security & Privacy (ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย)

ทำไมโปรแกรม AnyDesk ได้รับความเชื่อมั่นจากทั่วโลก ? (Why does the World trust AnyDesk ?)

ประสิทธิภาพที่ดี

ด้วยประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อที่ดีเยี่ยม ทำให้โปรแกรม AnyDesk สามารถดึงภาพหน้าจอจากอุปกรณ์ปลายทาง มาแสดงบนหน้าจอของเครื่องที่เรานั่งทำงานอยู่ได้อย่างลื่นไหลที่อัตราการแสดงผล 60 fps (ภาพต่อวินาที) และการควบคุมเครื่องปลายทางก็ทำได้แบบความหน่วงต่ำ ไม่ว่าจะเป็นการรีโมทคอมพิวเตอร์ผ่านระบบเครือข่ายท้องถิ่น รวมถึงการเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตโดยส่วนใหญ่ โดยใช้แบนด์วิดท์ในการเชื่อมต่อที่ต่ำเพียง 100 kb/sec (100 กิโลบิตต่อวินาที) ตอบโจทย์การใช้งานในพื้นที่ที่อินเทอร์เน็ตความเร็วต่ำ

ปรับแต่งได้ตามต้องการ

โปรแกรม AnyDesk มาพร้อมกับความสามารถในการปรับแต่งภาพลักษณ์โปรแกรม ให้สอดคล้องภาพลักษณ์ของธุรกิจ และสามารถปรับแต่งรูปแบบการใช้งานของโปรแกรม AnyDesk ที่มีติดตั้งอยู่ในแต่ละอุปกรณ์ได้ตามต้องการ โดยการปรับแต่งทำได้อย่างง่ายดาย ในขณะเดียวกันก็ยังมีความปลอดภัยในการใช้งานระดับสูง ด้วยตัวเลือกด้านความปลอดภัยจำนวนมาก และยังมีลักษณะการใช้งานแบบ On-Premise ทำให้การสื่อสารข้อมูลทั้งหมด ทำงานอย่างเป็นอิสระจากเซิร์ฟเวอร์ของ AnyDesk นั่นเอง

มาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง

เครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการด้านการทำรีโมทคอมพิวเตอร์ของ AnyDesk ได้รับการรับรอง ISO/IEC 27001 ที่เป็นมาตรฐานสากลด้านการรักษาความปลอดภัยข้อมูล ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าข้อมูลการใช้งานได้รับการป้องกันจากความเสี่ยง และภัยคุกคามด้านความปลอดภัยข้อมูล

และอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นเครื่องยืนยันด้านความปลอดภัยให้กับองค์กรธุรกิจที่เลือกใช้ โปรแกรม AnyDesk ได้เป็นอย่างดี คือการที่เลือกใช้กรอบการทำงานแบบ OWASP Top 10 ที่เป็นแนวปฏิบัติสำหรับการให้บริการด้านเว็บแอปพลิเคขัน เพื่อรับมือกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยในการใช้งานสูงสุด

ด้วยระบบการจัดการแบบ Identity & Access Management ของ โปรแกรม AnyDesk ช่วยลดความเสี่ยงในการที่บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง จะทำการเข้าถึงระบบการรีโมทคอมพิวเตอร์ขององค์กรธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต ป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล มั่นใจได้ว่ามีเฉพาะผู้ใช้งานที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น จะสามารถดำเนินการรีโมทคอมพิวเตอร์ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้

นอกจากนี้แล้วยังมีการรีโมทคอมพิวเตอร์ในรูปแบบโหมดความเป็นส่วนตัว (Privacy Mode) ที่ปิดหน้าจอเครื่องปลายทางเป็นสีดำ ทำให้คนที่อยู่แถวหน้าเครื่อง ไม่เห็นว่าเราทำงานอะไรบนเครื่องนั้น ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวข้อมูลสำหรับคนที่ทำงานจากที่บ้าน ได้เป็นอย่างดี

ยิ่งไปกว่านั้นระบบของ AnyDesk ยังมีการเก็บข้อมูลล็อกการใช้งาน (Session Logs) ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับ เรียกดูรายละเอียดในทุกการเชื่อมต่อระยะไกลที่เกิดขึ้น เพื่อการปฏิบัติตามข้อกำหนด และเหตุผลด้านความปลอดภัย และรองรับระบบ การยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอน (2FA) เพื่อป้องกันการเชื่อมต่อระยะโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงป้องกันการเข้าถึงคอนโซลกลางของระบบ AnyDesk (my.AnyDesk) โดยไม่ได้รับอนุญาต

ไม่มีข้อจำกัดเรื่องระบบปฏิบัติการ

โปรแกรม AnyDesk รองรับการเข้าควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกลได้โดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของอุปกรณ์ โดยรองรับการรีโมทคอมพิวเตอร์ระหว่างอุปกรณ์ต้นทาง และอุปกรณ์ปลายทาง ได้หลากหลายระบบปฏิบัติการ ทำให้ไม่มีข้อจำกัดเรื่องการรีโมทเข้าควบคุมเครื่อง คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก เซิร์ฟเวอร์ หรือแม้แต่การรีโมทไปยังอุปกรณ์พกพา โดยระบบปฏิบัติการที่ AnyDesk รองรับ มีดังต่อไปนี้

• Windows
• macOS
• Android
• iOS
• Linux
• Raspberry Pi

ยกระดับความปลอดภัย และจัดการได้อย่างยืดหยุ่นจากส่วนกลาง

โปรแกรม AnyDesk มาพร้อมกับคอนโซลกลาง my.anydesk II ที่เปิดโอกาสให้ผู้ดูแลระบบ สามารถจัดการเรื่องความปลอดภัยในการใช้งาน และปรับแต่งการทำงานของโปรแกรม Cilent ที่มีติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์จำนวนมากของธุรกิจได้อย่างยืดหยุ่น อาทิ

• จัดการอุปกรณ์ที่อยู่ในความดูแล และทำการปรับแต่งตัวโปรแกรม Client ที่อยู่ในอุปกรณ์แบบเรียลไทม์ได้ในทันทีที่มีการป้อน Private Key เป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต มาทำการปรับแต่ง Client ที่อยู่ในความดูแลของเรา
• กำหนดกฎเกณฑ์การใช้งานสำหรับโปรแกรม Client ของแต่ละอุปกรณ์ที่อยู่ในความดูแลได้อย่างยืดหยุ่น และสามารถกำหนดให้ เปิด/ปิด ฟีเจอร์ของโปรแกรม Client ที่อยู่อุปกรณ์ใด ๆ ได้อย่างเฉพาะเจาะจง อาทิ การปรับเปลี่ยน Permission Profiles รวมถึงการกำหนดการทำงานของฟีเจอร์ Discovery
• ปรับแต่ง Build ของโปรแกรม Client ได้แบบเรียลไทม์ ถึงแม้จะได้ทำการติดตั้ง Build นั้นลงไปในอุปกรณ์ไปแล้วก็ตาม สามารถปรับแต่งการทำงานของโปรแกรม Client ในหลายอุปกรณ์ได้พร้อม ๆ กันโดยการปรับแต่ง Build จากนั้นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะถูกนำประยุกต์ใช้ในอุปกรณ์ปลายทางที่ใช้ Build นั้นโดยอัตโนมัติ
• จัดกลุ่มและคัดกรองการแสดงรายชื่ออุปกรณ์ทั้งหมดที่มีการติดตั้งตัวโปรแกรม Client ในแต่ละ Build รวมถึงสามารถทำการ Search หาชื่อ Build ที่ต้องการได้จากหน้า Clients List บนระบบคอนโซลกลาง my.anydesk II

ตัวอย่างการนำโปรแกรม AnyDesk ไปใช้ ที่น่าสนใจ (An interesting examples of AnyDesk usage)

เมือง Haverhill ใช้ AnyDesk อำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่

Haverhill เป็นเมืองหนึ่งใน รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา มีประชากรราว ๆ 67,787 คน ความท้ามทายเกิดขึ้นในช่วงเหตุการณ์ระบาดของโควิด 19 ทำให้หน่วยงานของเมือง ต้องจัดตั้งการเชื่อมต่อแบบ VPN เพื่อให้พนักงานสามารถเข้าถึงโฟลเดอร์ และไฟล์ที่จำเป็นสำหรับการทำงานได้จากที่บ้าน ซึ่งการสร้างแอคเคาน์ VPN สำหรับพนักงานจำนวนมาก รวมถึงการที่ต้องสอนพนักงานให้เซ็ตอัปการเชื่อมต่อ VPN ได้จากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านนั้นเป็นอะไรที่ยุ่งยากมาก

โดยโปรแกม AnyDesk เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาให้กับหน่วยงานของเมือง Haverhill ด้วยความง่ายในการใช้งาน ในราคาค่าลิขสิทธิ์ที่ไม่แพง รวมถึงยังสอดคล้องกับมาตรฐานด้านความปลอดภัยข้อมูลของหน่วยงาน ทำให้พนักงานทั้งหมดสามารถ ทำงานจากที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัท AutoForm ใช้ AnyDesk เป็นช่องทางให้ลูกค้าฝึกการใช้งานโปรแกรมด้านงานวิศวกรรม

AutoForm เป็นบริษัทผู้นำในการพัฒนาโปรแกรมด้านงานวิศวกรรม อาทิ โปรแกรมจำลองกระบวนการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งเดิมที AutoForm เปิดให้ลูกค้าเข้ามาอบรมการใช้งานโปรแกรมในศูนย์ฝึกของบริษัท แต่เมื่อเกิดการระบาดของโควิด 19 ทำให้ลูกค้าต้องเปลี่ยนไปฝึกการใช้งานโปรแกรมผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านของแต่ละคน ซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องสเปกของฮาร์ดแวร์ ทำให้การฝึกใช้งานโปรแกรมไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร

เพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดดังกล่าว AutoForm เลือกใช้โปรแกรม AnyDesk เป็นช่องทางให้ลูกค้าได้ทำการรีโมทเข้ามาใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงจำนวน 50 เครื่องที่อยู่ในศูนย์ฝึกอบรม ด้วยความหน่วงที่ต่ำในการเชื่อมต่อแบบรีโมทคอมพิวเตอร์ของ AnyDesk ทำให้ลูกค้าสามารถฝึกอบรมการใช้งานโปรแกรมของ AutoForm ได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าบ้านของลูกค้าจะอยู่ไกลจากศูนย์ฝึกอบรมมากแค่ไหนก็ตาม

ตากล้องมืออาชีพ ใช้ AnyDesk จัดการข้อมูลจำนวนมหาศาลจากระยะไกล

คุณ Deniz Saylan เป็นตากล้องและผู้สร้างภาพยนตร์ระดับมืออาชีพ ทำงานอยู่ใน เมืองเบอร์ลิน (Berlin) และ เมืองสตุทท์การ์ดต (Stuttgart) ประเทศเยอรมัน (German) เขาใช้เวลาประมาณ 200 วันในแต่ละปีบนท้องถนนเพื่อการถ่ายรูป

ด้วยความที่ต้องทำงานแบบไม่ประจำที่ และจำเป็นต้องจัดการกับไฟล์งานที่มีขนาดใหญ่มากถึง 40 เทระไบต์ (TB.) ทำให้การจัดเก็บเอาไว้บนคลาวด์สตอเรจไม่ตอบโจทย์การใช้งาน รวมถึงการเชื่อมต่อเพื่อจัดการไฟล์ข้อมูลผ่านช่องทาง VPN ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ไม่ตอบความต้องการของเขา เพราะเมื่อต้องทำงานนอกสถานที่ ก็ต้องดาวน์โหลดไฟล์รูปทั้งหมดที่อยู่ในโฟลเดอร์ แทนที่จะเลือกดาวน์โหลดเพียงเฉพาะรูปที่ต้องการ

ซึ่งผลคือ โปรแกรม AnyDesk ตอบโจทย์ความต้องการ ของคุณ Deniz Saylan ด้วยการเชื่อมต่อรีโมทที่มีความเสถียร ทำให้เขาสามารถทำงานกับไฟล์ภาพได้ในทุกสถานที่ แม้ในที่ที่ความเร็วการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตค่อนข้างต่ำ และไม่ต้องพกอุปกรณ์ราคาแพงติดตัว แค่เพียงใช้สมาร์ทโฟน หรือเครื่องโน้ตบุ๊กเพื่อเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้าน แค่นี้ก็สามารถเข้าถึงทุกไฟล์ที่ต้องการ และเข้าถึงทุกเครื่องมือการแต่งรูปที่จำเป็นได้อย่างรวดเร็ว

HAAS Media Group ใช้ AnyDesk ในแบบ On-Premise ตอบโจทย์ความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

HAAS Media Group บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์รายวันหลายฉบับ มีบริษัทย่อยกว่า 23 แห่ง จำนวนพนักงานกว่า 700 คน ฝ่าย IT ของธุรกิจต้องรับมือกับความท้าทายในเรื่องการจัดหาโปรแกรมรีโมทคอมพิวเตอร์ ที่สามารถรับมือกับการกระจายตัวของพนักงานจำนวนมาก และต้องรองรับการฝึกอบรมให้พนักงานใช้โปรแกรมที่จำเป็นสำหรับการทำงาน โดยทำผ่านช่องทางการรีโมทคอมพิวเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการปกป้องข้อมูลความลับของธุรกิจก็เป็นปัจจัยที่ต้องให้ความสำคัญ และโซลูชันการรีโมทคอมพิวเตอร์โดยส่วนใหญ่ ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานด้านความปลอดภัยข้อมูลของ HAAS Media Group

โปรแกรม AnyDesk ในแบบ On-Premise ที่เป็นการจัดตั้งเซิร์ฟเวอร์สำหรับงานด้านรีโมทคอมพิวเตอร์ขึ้นมาเองภายในองค์กรธุรกิจ ตอบความต้องการของ HAAS Media Group ได้เป็นอย่างดี ในสภาพแวดล้อมที่มีการแยกส่วนระบบเครือข่ายอย่างชัดเจน โดยที่ฝ่าย IT สามารถเข้าถึงคอนโซลกลาง my.anydesk ที่จัดตั้งขึ้นมาบนเซิร์ฟเวอร์ของธุรกิจ สามารถตรวจสอบ Logs ของทุกการเชื่อมต่อที่เกิดขึ้น สามารถปรับแต่งตัวโปรแกรม Client เพื่อกำหนดให้มีเฉพาะบางเครื่องที่สามารถรีโมทออกไปข้างนอกได้ และผู้ใช้งานระดับสูงสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของเพื่อนร่วมงานได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังง่ายและปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน และฝ่าย IT Support

Sun Chemical เลือกใช้ ใช้ AnyDesk ในแบบ On-Premise เพื่อเชื่อมต่อทีม IT ที่กระจายอยู่ในหน่วยธุรกิจทั่วโลก

Sun Chemical เป็นบริษัทในเครือ DIC Group ผู้นำด้านการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ และวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ โดยเจ้าหน้าที่ในฝ่าย IT กระจายอยู่ตามหน่วยธุรกิจในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก โดยที่ฝ่าย IT ต้องการให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคที่เกิดปัญหาได้จากระยะไกล โดยเมื่อโปรแกมรีโมทคอมพิวเตอร์ตัวเก่าที่ Sun Chemical ใช้งานอยู่ ได้มีการถอนบางฟีเจอร์การใช้งานออกไป ทำให้ต้องมองหาโปรแกรมรีโมทคอมพิวเตอร์ตัวใหม่ที่สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยข้อมูลที่เข้มงวดของ Sun Chemical

เมื่อมีการพิจาณาโซลูชันรีโมทคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการหลายราย ก็พบว่าการใช้งาน โปรแกรม AnyDesk ในรูปแบบ On-Premise โดดเด่นที่สุดในช่วงเวลาของการทดสอบการใช้งาน ด้วยคอนเซ็ปต์และเลย์เอาต์ที่ชัดเจน รวมถึงประสิทธิภาพและการใช้งานแบนด์วิดท์ในการสื่อสารข้อมูลอย่างเหมาะสม แต่ปัจจัยในการคัดเลือกที่สำคัญที่สุดของ Sun Chemical คือเรื่องของความปลอดภัยข้อมูล ทำให้ความสามารถในการจัดตั้งเซิร์ฟเวอร์สำหรับงานรีโมทคอมพิวเตอร์ขึ้นมาเองในองค์กรเป็นตัวตัดสินชี้ขาด 

โดยคุณ Kai Neubauer, Head of Global IT Client Services ประจำภูมิภาค ยุโรป, ตะวันออกกลาง, และแอฟริกา (EMEA) ของบริษัท Sun Chemical กล่าวว่า "เราต้องการให้ข้อมูลทุกอย่างเก็บอยู่ภายในระบบเครือข่ายของเราเอง ต้องมั่นใจว่าข้อมูลและหมายเลข IP ของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ จะต้องไม่ถูกเก็บบันทึกเอาไว้ภายนอก และเราต้องการให้เครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ทำงานด้านรีโมทคอมพิวเตอร์ ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดในศูนย์ข้อมูลของเราเอง"

ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้การใช้งาน โปรแกรม AnyDesk ที่อยู่ในรูปแบบ On-Premise เป็นโซลูชันที่ตอบความต้องการของ Sun Chemical ได้ดีที่สุด