สำหรับมนุษย์เงินเดือนแล้ว เวลาที่มีช่วงหยุดยาว หรือลาพักร้อนไปหลายวัน เมื่อกลับมาสู่โลกความเป็นจริงที่ต้องทำงานอีกครั้ง ส่วนใหญ่มักจะมีความรู้สึกหมดไฟ สภาพจิตใจไม่พร้อมที่จะทำงานอีกครั้ง ด้วยเหตุผลต่างๆ นาๆ อย่างเช่น ความเหนื่อยล้าที่สะสมจากการไปเที่ยว, Jet Lag (เจ็ตแล็ก) หรือกลับมาเห็นงานกองโตแล้วไม่อยากจะเริ่มเคลียร์ จะจัดการกับความรู้สึกเหล่านั้นอย่างไรดี เรามีเทคนิคดีๆ มาแนะนำ
มันมีประโยคที่เรามักจะได้ยินบ่อยๆ เวลาที่ขอลาว่า "ให้เคลียร์งานให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ก่อนจะลา" เราค่อนข้างเห็นด้วยกับเรื่องนี้นะ หากไม่อยากกลับมาเจอกับงานกองโตเต็มโต๊ะ สมาคมการท่องเที่ยวแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Travel Association) เคยสำรวจความคิดเห็นนักท่องเที่ยวแล้วพบว่า มีคนมากถึง 46% ที่กังวลว่าจะต้องเจอกับงานปริมาณมหาศาล
หนึ่งในวิธีแก้ไขที่ดีสำหรับกรณีนี้ คือ วางแผนการทำงานล่วงหน้าเอาไว้ก่อน และจัดการส่วนที่ต้องมีการประสานงานกับคนอื่นก่อนเป็นอันดับแรก ลองนึกภาพว่าเรากลับมาแล้วพบว่ามีคนจำนวนมากที่ทำงานต่อไปไม่ได้ เพราะติดงานที่รอเราส่งให้อยู่สิ มันค่อนข้างกดดันนะ
ใช้เวลาก่อนจะหยุดยาว วางแผน และดูว่างานส่วนไหนที่มอบหมายให้ใครช่วยได้บ้าง งานไหนที่ต้องส่งต่อรีบจัดการให้หมด มีงานไหนที่เราสามารถขอให้คนอื่นในทีมช่วยเราได้บ้าง แผนการเหล่านี้ นอกจากจะช่วยให้เรากลับมาทำงานต่อได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังช่วยลดการโดน "โทรตามงาน" ในระหว่างที่คุณกำลังท่องเที่ยวได้อีกด้วย
เป็นเรื่องดีที่เราจะท่องเที่ยวโดยเผื่อเวลาล่วงหน้าเอาไว้สักหน่อย ด้วยการเริ่มหยุดล่วงหน้าก่อนวันเดินทางสัก 1 วัน เพื่อจัดกระเป๋า, วางแผนการเดินทาง และตรวจสอบความเรียบร้อย ในขณะเดียวกัน ถ้าสามารถจบทริปก่อนหมดวันลาสัก 1-2 วัน เพื่อนอนกลิ้งโง่ๆ อยู่ในบ้าน ก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน ร่างกายจะได้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการท่องเที่ยว
แม้บางคนอาจจะรู้สึกว่าควรใช้วันหยุดให้คุ้มด้วยการเที่ยวทุกวันจนครบ แต่เชื่อสิว่าการบินกลับมาตอนดึกคืนวันอาทิตย์ แล้วต้องตื่นเช้าไปทำงานทันทีในวันรุ่งขึ้น มันสาหัสต่อร่างกาย และจิตใจจนเกินไปจริงๆ นะ
ภาพจาก https://www.pexels.com/photo/beach-blue-car-combi-386025/
โชคดีที่สมัยนี้ งานนิยมใช้การติดต่อสื่อสารผ่านทางอีเมล ซึ่งมันก็จะมีระบบตอบอีเมลอัตโนมัติให้เราใช้งานด้วย เวลาที่เราลาพักยาวๆ การตั้งค่าให้อีเมลตอบข้อความอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ติดต่อได้รับทราบว่าตอนนี้คุณพักร้อนอยู่นะ, ไม่อยู่บริษัท และทางที่ดีในข้อความตอบกลับนั้น ควรจะใส่ชื่อผู้ติดต่อที่คุณไว้วางใจว่าสามารถช่วยตัดสินใจแทนคุณได้ ในกรณีฉุกเฉิน หรือปัญหาเร่งด่วนเอาไว้ด้วย รวมถึงวันเวลาที่คุณพร้อมกลับมาทำงานที่แน่นอนอีกด้วย
เมื่อคุณหยุดงานไปหลายวัน อย่าคาดฝันว่าเราจะสามารถกลับมาทำงานใน "จังหวะเดิม" ได้ภายในวันแรก เป็นการดีที่จะไล่เช็คงานทั้งหมดที่คุณต้องทำออกมาเป็นรายการก่อน ลองไล่ติ๊กตามลำดับสิ่งที่ควรทำก่อน หรือหลัง จากนั้นพยายามหาเวลาพักสักครู่ ให้สมองผ่อนคลาย แล้วกลับมาพิจารณารายการใหม่อีกครั้ง คุณอาจจะเห็นภาพรวมมากขึ้น หรือมีไอเดียใหม่ๆ ในการจัดการกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ดีกว่าเดิม
หากมีงานที่ทำเป็นทีม ควรจะพูดคุยกับทีมให้รู้ว่าระหว่างที่คุณไม่อยู่ งานได้ดำเนินไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว หากคุณเป็นหัวหน้าทีมที่มีลูกน้องลางานไป ควรทำใจเอาไว้ด้วยว่าเป็นการยากที่ลูกน้องจะกลับมาแล้วสามารถตามงานได้ทันภายในวันแรก ควรให้เวลาเขาสัก 1-2 วันด้วย
ภาพจาก https://www.pexels.com/photo/pen-calendar-to-do-checklist-3243/
เพื่อให้งานกลับมาดำเนินการต่อได้อย่างราบรื่น หัวหน้าทีมควรวางแผนการประชุมทีม และสมาชิกในทีมก็ควรที่จะเตรียมข้อมูลสิ่งที่เกิดขึ้น หรือทำแทนคนที่ลางานไปให้เขาได้รับรู้ด้วย เพื่อให้แต่ละคนรู้ว่าตอนนี้งานไปถึงไหน แล้วต้องทำตรงส่วนไหนต่อ
ถ้าจะให้ดี ควรจะกำหนดวันที่จะประชุมเอาไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะหยุดยาว เพื่อให้แต่ละคนได้เตรียมตัวเอาไว้ก่อน พวกเขาจะได้ไม่กดดันมากเกินไป ลองนึกภาพตามดู หากว่าคุณเพิ่งจะกลับมาจากการหยุดยาว แล้วหัวหน้าบอกคุณตอนเช้าว่า บ่ายนี้มีประชุมนะ โดยที่คุณไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน
สิ่งสำคัญในระหว่างการประชุม คือ อย่าให้ตัวคุณตกเป็นเป้าความคิดว่าคุณทิ้งงานเอาไว้โดยไม่รับผิดชอบ พยายามแสดงให้ทีมเห็นว่า คุณยังคงอยู่ในงานเสมอ และกำลังกลับมาทำงานต่อได้อย่างราบรื่น โดยไม่มีปัญหาใดๆ
ใครที่ยังกังวลกลับการกลับมาทำงานหลังจากหยุดยาว คิดว่าอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ก็น่าคลายความกังวลไปได้บ้างไม่มากก็น้อยแล้วล่ะเนอะ ขยันทำงานมันก็ดีแหละ แต่การพักให้สมองได้ผ่อนคลายบ้าง มันก็ช่วยให้เราทำงานได้ดีขึ้นนะ ขอให้ทุกคนสนุกกับการลาพักร้อนจ้ะ
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |