รวมรหัสลับ iPhone เบอร์ลัด บน iPhone ที่คุณอาจไม่เคยรู้ !

รหัสลับ เบอร์ลัด บน iPhone ที่คุณอาจไม่เคยรู้ !

รหัสลับ หรือ เบอร์ลัด ที่เรากำลังจะพูดถึงต่อไปนี้ จริง ๆ แล้ว มันคือเบอร์โทรศัพท์ที่เราสามารถกดให้ครบตามที่บอก แล้วกดโทรออกเพื่อให้มันแสดงสถานะที่ต้องการทราบได้ ซึ่งในต่างประเทศจะมีหลากหลายเบอร์ที่สามารถกดได้และใช้ได้จริงในหมวดหมู่ของการจัดการการโอนสายอัตโนมัติ และการจัดการแพ็คเกจรวมถึงโปรโมชันต่าง ๆ แต่ในไทยนั้น จะถูกจำกัดไว้ที่ผู้ให้บริการเครือข่ายมากกว่า ซึ่งจะมีเบอร์ไหนใช้ได้จริง และทำอะไรได้บ้าง เราคัดไว้ให้แล้วที่นี่

1. เช็ค IMEI ของ iPhone (Check iPhone's IMEI)

เช็ครหัส IMEI : *#06#

สำหรับ การเช็ครหัส IMEI คนที่ไม่รู้จัก มันคือสิ่งที่คนไทยนิยมเรียกกันว่า อีมี่ หรือ อีมี่เครื่อง โดย IMEI นั้นย่อมาจาก International Mobile Equipment Identity มีชื่อภาษาไทยอย่างเป็นทางการว่า รหัสสากลประจำอุปกรณ์เคลื่อนที่ เอาไว้กำกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือโทรศัพท์มือถือที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้นี่ล่ะ

โดยรหัสอีมี่นั้น มีประโยชน์อย่างยิ่งเวลาที่เราทำมือถือหาย หรือถูกขโมย โดยเจ้าของมือถืออย่างเรา มีหน้าที่ที่จะต้องโทรหาผู้ให้บริการเครือข่ายที่เราใช้อยู่ในขณะนั้นเพื่ออายัด (ซื้อเครื่องค่ายเขียว ใช้ซิมค่ายแดง ก็ต้องโทรหาค่ายแดงนะ) ซึ่งก็จะทำให้คนที่ได้มือถือของเราไป ไม่สามารถใช้งานได้

2. เช็คสถานะบริการโอนสาย เมื่อสายไม่ว่าง
(Check Call Forwarding Status when Busy)

เช็คสถานะการส่งต่อเมื่อสายไม่ว่าง : *#67#

สำหรับ การเช็คสถานะการส่งต่อสายโทรเข้า / โทรออก เมื่อสายไม่ว่าง เมื่อกดโทรออก ระบบจะแสดงผลขึ้นมาว่า สถานะการส่งต่อสายโทรเข้าโทรออก ถูกปิด / เปิดไว้หรือไม่ อย่างไร และสามารถเช็คสถานะการส่งต่อ SMS และ Fax ได้ที่นี่ด้วย

3. เช็คสถานะบริการโอนสาย ในทุกสายที่โทรเข้ามา
(Check Call Forwarding Status on All Calls)

เช็คสถานะการส่งต่อทุกสายที่เข้ามา : *#21#

เมื่อเรากดรหัสนี้ จะสามารถ เช็คสถานะการส่งต่อสายโทรเข้าโทรออกทุกสายที่โทรเข้ามา ได้ รวมไปถึงการโทรแบบการโอนสายข้อมูล, SMS, แฟกซ์, ฯลฯ ซึ่งการเปิดใช้งานในประเทศไทย จะสามารถโทรหาผู้ให้บริการเครือข่ายเพื่อสอบถามเพิ่มเติมได้

4. เช็คสถานะบริการโอนสาย เมื่อไม่ได้รับสาย
(Check Call Forwarding Status when Unanswered)

เช็คสถานะการส่งต่อเมื่อไม่ได้รับสาย : *#61#

รหัสลับ 61 จะสามารถตรวจสอบได้ว่า เวลาที่เรา ไม่ได้ตอบรับสายสนทนาในเวลาที่กำหนด ซึ่งเราสามารถโทรไปขอตั้งค่าในส่วนนี้ได้ที่ผู้ให้บริการเครือข่าย โดยมันจะรวมทุกอย่างที่เป็นการติดต่อหาเรา ไม่ว่าจะเป็น การโทร, การโอนสายข้อมูล, SMS, การซิงก์ข้อมูล, ฯลฯ

5. เช็คสถานะบริการโอนสาย เมื่อไม่สามารถติดต่อได้
(Check Call Forwarding Status when Unreachable)

เช็คสถานะการส่งต่อเมื่อไม่สามารถติดต่อได้ : *#62#

ในเวลาที่เรา ไม่สามารถติดต่อได้ หากตั้งค่ากับผู้ให้บริการเครือข่ายไว้ ก็จะสามารถตรวจสอบสถานะได้ว่า เปิดการใช้งานไว้แล้วหรือไม่ ในเวลาที่ไม่มีสัญญาณ หรือปิดเครื่อง เป็นต้น

6. ตรวจสอบบริการระงับการใช้เครื่อง (Check Call Barring Status)

ตรวจสอบการยกเว้นสายเรียกเข้า, SMS และข้อมูลอินเตอร์เน็ต : *#33#

เราสามารถจัดการบริการระงับใช้เครื่อง (Call Barring) ไม่ว่าจะเป็น การระงับการโทรเข้า, การใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ต, แฟกซ์, ข้อความ SMS ผ่านทางผู้ให้บริการเครือข่ายที่เราใช้อยู่ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโดยการกดปุ่มลัดดังกล่าวได้ ซึ่งปุ่มลัดนี้ จะมีไว้เพื่อตรวจสอบรายละเอียดเท่านั้น ซึ่งโดยปกติแล้ว จะถูกตั้งค่าเป็น Disabled โดยอัตโนมัติ

7. เปิดใช้งานโหมดทดสอบภาคสนาม (Enable Field Test Mode)

เปิดใช้งานโหมด Field Test : *3001#12345#*

รหัสลับนี่จะเปิดหน้าต่าง การใช้งานโหมด Field Test หรือแปลไทยง่าย ๆ แบบตรงตัวคือ ทดสอบภาคสนาม ซึ่งหน้าต่างนี้จะแสดงข้อมูลเฉพาะตัวของ iPhone เครื่องนั้น ๆ, ข้อมูลแบตเตอรี่, รวมไปถึงข้อมูลเครือข่ายในเชิงเทคนิคด้วย

8. เช็คระบบการแจ้งเตือนฉุกเฉิน
(Check Emergency and Government Alerts Status)

เปิดระบบการแจ้งเตือนฉุกเฉิน : *5005*25371#

เบอร์ เช็คระบบการแจ้งเตือนฉุกเฉิน นั้น สามารถกดใช้งานได้ แม้ไม่ได้อยู่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในเวลาที่ได้รับข้อความแจ้งเตือนพิเศษดังกล่าว เราจะได้ยินเสียงพิเศษที่คล้ายกับเสียงนาฬิกาปลุก ซึ่งตามปกติแล้ว จะถูกเปิดไว้โดยอัตโนมัติเมื่อครั้งตั้งค่ามาจากโรงงาน โดยการแจ้งเตือนฉุกเฉินที่ว่า หมายถึงการแจ้งเตือนเกี่ยวกับสภาพอากาศที่รุนแรง, เหตุคุกคามที่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยหรือต่อชีวิต, การแจ้งเตือนเกี่ยวกับความปลอดภัยสาธารณะ เป็นต้น

ปิดระบบการแจ้งเตือนฉุกเฉิน : *5005*25370#

แต่ถ้าหากต้องการปิดการ เช็คระบบการแจ้งเตือนฉุกเฉิน ก็สามารถกดคีย์ลัด *5005*25370# เพื่อปิดได้