"โปรแกรมแปลงไฟล์" เชื่อว่าหลายคนคงเคยใช้มาไม่มากก็น้อย เพราะในสมัยก่อนมันเป็น "ของจำเป็นต้องมีติดเครื่อง" สมัยที่โปรแกรมเล่นวิดีโอเล่นไฟล์ FLV ไม่ได้ สมัยที่เครื่องเล่น MP3 รองรับแค่ไฟล์ MP3 อย่างเดียว ในช่วงนั้นโปรแกรมชื่อดังที่หลายคนนึกถึงคงจะเป็น Fomat Factory โปรแกรมแปลงไฟล์ครอบจักรวาล ที่แปลงไฟล์สากกะเบือยันเรือรบ จะเอกสาร รูปภาพ วิดีโอ ฯลฯ ก็ได้หมด
แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นก็ผ่านพ้นไป เพราะว่าปัจจุบัน "อุปกรณ์รุ่นใหม่เล่นรองรับไฟล์หลายนามสกุลมากขึ้น" และการมาของ "อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง" ที่เร็วกว่าเดิมชนิดที่ว่าหน้ามือเป็นหลังมือ ทำให้โปรแกรมแปลงไฟล์วิดีโอถูกใช้งานน้อยลง ส่งผลให้หลายคนเลือกที่จะไม่ติดตั้งลงเครื่อง และเปลี่ยนไปใช้โปรแกรมออนไลน์มากขึ้น เพราะมันตอบโจทย์มากกว่า
" ถ้าเราจะแปลงไฟล์วิดีโอบนเว็บ เราจะใช้เว็บไหนดีล่ะ...? "
ในบทความนี้เราจะมาแนะนำ 5 เว็บแปลงไฟล์วิดีโอออนไลน์ ที่ใช้งานง่าย ช่วยเสกวิดีโอนามสกุลเดิมให้กลายเป็นนามสกุลอื่นได้ในเวลาไม่นาน ไม่ต้องเสียเวลาติดตั้งลงเครื่อง แต่จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย
เรียกใช้งาน Apowersoft Free Online Video Converter ที่นี่
เริ่มที่ตัวแรก Apowersoft Free Online Video Converter เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการแปลงไฟล์วิดีโอ มันแปลงไฟล์วิดีโอและเสียงได้หลายนามสกุล เช่น MP4, MOV, AVI, WMV, MKV, FLV, VOB, 3GP, WEBM, MPG, M4A, MP3, WAV, FLAC และอื่นๆ ซึ่งไฟล์ที่ได้ก็เอาไปเปิดเล่นบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้ทั้ง Samsung / iPhone / Huawei / Oppo / One Plus ฯลฯ
จุดแข็งของเว็บไซต์นี้ก็คือ "แปลงไฟล์ฟรี | ใช้ง่าย | เซิร์ฟเวอร์แปลงไฟล์เร็วมาก" จากที่ได้ทดสอบโดยใช้ไฟล์วิดีโอขนาด 300MB ใช้เวลาแปลงไฟล์บนเซิร์ฟเวอร์เพียง 1-2 นาทีเท่านั้น (ไม่รวมเวลาอัพโหลดและดาวน์โหลด)
นอกจากนี้แล้วยังมีพวก "เครื่องไม้เครื่องมือ สำหรับแก้ไขวิดีโอเล็กๆ น้อย" ให้ใช้งานอีกด้วย เช่น เครื่องมือตัดวิดีโอ ตัดเอาเฉพาะส่วนที่ต้องการ เครื่องมือใส่เอฟคเฟค เครื่องมือใส่ลายน้ำ เครื่องมือใส่ฟิลเตอร์ เสร็จแล้วค่อยแปลงไฟล์ออกมา
ด้านหน้าตา (User Interface) ก็ดูสวยงาม เข้าใจง่าย เหมาะกับทุกคน วิธีแปลงไฟล์วิดีโอเป็นนามสกุลอื่นๆ ก็มีไม่กี่ขั้นตอน แค่ติดตั้ง Launcher ก่อนใช้เวลาไม่นาน จากนั้นก็เริ่มอัพโหลดไฟล์วิดีโอที่จะแปลงไฟล์ได้เลย แล้วค่อยเลือกนามสกุลที่ต้องการ จากนั้นก็กดปุ่มแปลงไฟล์ สุดท้ายเลือกโฟลเดอร์ที่จะใช้เซฟ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย หรือถ้าใครต้องแปลงไฟล์บ่อยๆ ก็มีเวอร์ชันโปรแกรมติดตั้งลงเครื่องให้ดาวน์โหลดไปใช้ด้วยนะ
เรียกใช้งาน 123apps Video Converter ที่นี่
123apps Video Converter เป็นการตั้งชื่อโปรแกรมที่โคตรง่าย เหมาะสมกับ "วิธีการแปลงไฟล์ที่ง่ายเช่นกัน" ง่ายปานกับต้มมาม่ากิน สามารถแปลงไฟล์วิดีโอได้ใน 3 ขั้นตอน แถมไม่ต้อง Login เข้าใช้งานด้วย เปิดหน้าเว็บปุ๊ป แปลงไฟล์ได้ปั๊ป แถมแปลงได้แบบไม่จำกัดอีกด้วย (แต่อาจมีโฆษณาเด้งขึ้นมากวนใจนิดหน่อย) โดยมันรองรับไฟล์วิดีโอและเสียงหลายนามสกุล เช่น MP4, AVI, MPEG, MOV, FLV, 3GP, WEMB, MKV, MP3, WAV, M4A, FLAC ฯลฯ
ขั้นตอนการแปลงก็แค่ "เลือกไฟล์ที่ต้องการ เลือกนามสกุลที่อยากได้ จากนั้นก็กด Convert และรอรับไฟล์เลย" แต่ก็มีข้อแม้นิดหน่อย โดยไฟล์ที่นำมาแปลงต้องมีขนาดไม่เกิน 2GB
จากที่ได้ทดสอบตัวเซิร์ฟเวอร์แปลงไฟล์ได้เร็วพอสมควร (เร็วเป็นสองรองจาก Apowersoft ตัวแรก) แปลงไฟล์วิดีโอขนาด 380MB ใช้เวลาแค่ 2-3 นาที (ไม่รวมเวลาอัพขึ้นและโหลดกลับ) นอกจากนี้แล้วยังเชื่อมกับ Cloud Service อย่าง Google Drive / Drop Box เพื่อดึงไฟล์มาแปลงได้อีกด้วยนะ
เรียกใช้ CloudConvert ที่นี่
CloudConvert เว็บไซต์แปลงไฟล์วิดีโอออนไลน์ลำดับที่สามที่เรานำมาแนะนำ มีจุดเด่นจุดแข็งอยู่ที่ "แปลงไฟล์ได้หลายประเภท" ไม่ได้จำกัดจำเขียดอยู่แค่วิดีโออย่างเดียว แต่มันครอบคลุมไฟล์รูปภาพ ไฟล์เสียง ไฟล์เอกสาร ไฟล์บีบอัดอีกด้วย ฯลฯ รวมๆ แล้วรองรับไฟล์กว่า 200 นามสกุล
ด้านการใช้งานก็ "ไม่ต้อง Login" เปิดมาก็แปลงไฟล์ได้เลย หน้าตาการใช้งาน (User Interface) ก็ดูเข้าใจง่าย มีปุ่มกดเท่าที่จำเป็น ขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยาก จะอัพโหลดจากคอมฯ หรือ "ดึงไฟล์จาก Cloud Service มาแปลงก็ได้" จะเป็น Dropbox, Box, Google Drive หรือ OneDrive ก็ไม่มีปัญหา แถมแปลงเสร็จอัพคืนกลับไปให้เลย
แต่ "การใช้งาน CloudConvert เวอร์ชันฟรีมีข้อจำกัด" อยู่ก็คือ จำกัดเวลาใช้อยู่แค่ 25 นาที และจำกัดไฟล์ขนาดไม่เกิน 1GB / วัน
เรียกใช้ Convert to Video Files Online ที่นี่
ในบรรดาเว็บแปลงไฟล์วิดีโอที่แนะนำทั้งหมด เจ้าตัว Convert to Video Files Online นี้ "ใช้งานฟรี 100% จริงๆ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม" เลย แต่ก็แลกมาด้วยข้อจำกัดคือ "ต้องรอคิวและแปลงไฟล์ช้า" จากการทดสอบแปลงไฟล์ขนาด 280MB ดูก็พบว่า ต้องใช้รอคิวซักพัก และเมื่อถึงคิวก็ใช้เวลาแปลงไฟล์บนเซิร์เวอร์ประมาณ 10 นาที (ไม่รวมเวลาอัพไปและโหลดกลับมา) ซึ่งถือว่าช้าที่สุดในบรรดาเว็บที่แนะนำ
ด้านฟีเจอร์เสริมอื่นๆ จะมีก็เพียงแค่ตัวเลือกในการปรับแต่งขนาดของวิดีโอ (Resolution) และคุณภาพ (Quality) ไม่มากแต่ก็ใช้ได้จริง และ "รองรับการแปลงไฟล์ที่มีขนาดมากกว่า 4K"
มันมีข้อจำกัดคือ "แปลงไฟล์วิดีโอได้แค่ 300MB" ถึงอย่างนั้น "มันก็มีข้อดีคือใช้ฟรี แบบไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม" เอาเข้าจริงแล้วเจ้าเว็บนี้เหมาะกับการแปลงไฟล์ขนาดเล็กๆ มากกว่า ด้วยข้อจำกัดเรื่องขนาดและความเร็วของเซิร์ฟเวอร์ แต่ก็ไงยังถือเป็นหนึ่งตัวเลือกที่โอเคเลย (สำหรับคนที่ต้องการแปลงไฟล์เร็วๆ มองหาตัวอื่นดีกว่า)
เรียกใช้ ClipChamp ที่นี่
สำหรับ ClipChamp ตัวนี้ มีจุดเด่นเรื่อง "แปลงไฟล์วิดีโอ (Convert) และยังใช้อัดวิดีโอเว็บแคม (Webcam) ได้ในตัวเดียวกัน" แต่ถึงกระนั้นมันก็มีข้อจำกัดอยู่ก็คือ "จำกัดจำนวน และ วิดีโอจะถูกใส่ลายน้ำหลังแปลงไฟล์เสร็จ" สำหรับคนที่คิดจะใช้ฟรี เจ้าตัวนี้ไม่เหมาะเท่าไร ควรมองหาตัวอื่นจะดีกว่าแต่สำหรับใครที่พร้อมจะเสียเงิน เจ้าตัวนี้ถือว่าเป็นโปรแกรมชั้นเยี่ยมเลย เพราะว่ามันมีหลายความสามารถทั้งแปลงไฟล์และอัดวิดีโอเว็บแคม พร้อมกับแชร์ไฟล์ต่อได้อย่างสะดวกสบาย จะส่งไป Facebook, YouTube, Google Drive ก็ง่าย
ฟีเจอร์เพิ่มความสะดวกในการแปลงไฟล์ ก็มีพวกเครื่องมือแก้ไขวิดีโอ อย่าง ครอป ปรับขนาด ตัดเอาเฉพาะส่วนที่ต้องการ ปรับหมุน กลับด้าน และปรับความสว่าง ฯลฯ ซึ่งมันแก้ไขก่อนแปลงไฟล์ได้ค่อนข้างดีเลย ส่วนไฟล์ที่รองรับก็เป็น MP4, WebM, WMV และ FLV โดยสามารถเลือกคุณภาพของวิดีโอได้ ทั้งคุณภาพ (Quality) และขนาด (Resolution) โดยขนาด "มีให้เลือกสูงสุด 4K"
สำหรับข้อจำกัดก็จะเป็นในส่วนของลายน้ำที่ติดมากับวิดีโอ และเซิร์ฟเวอร์แปลงไฟล์ค่อนข้างช้า (ไม่แน่ว่าถ้าเป็นเวอร์ชันเสียเงินอาจจะเร็วกว่านี้) ใช้เวลาแปลงไฟล์ 380MB ประมาณ 5 นาที
ส่วนข้อดีก็คือ "มันใช้ง่ายมาก แถมแก้ไขวิดีโอได้ในตัวอีกด้วย" น่าจะเหมาะกับการแปลงไฟล์เล็กน้อยๆ ที่ไม่ได้เยอะมากและไม่ได้เอาไปใช้จริงจังๆ
อย่างไรก็ดีหากไฟล์วิดีโอที่เราแปลงเป็นวิดีโอสำคัญที่ไม่อยากให้หลุดไปที่ไหน ไม่ควรเลือกช่องทางการแปลงไฟล์ออนไลน์เป็นอย่างยิ่ง แต่ถ้าเป็นวิดีโอธรรมดาๆ ไม่ซีเรียสมากก็ใช้ได้ตามต้องการเลย และสุดท้ายนี้หวังว่า 5 เว็บไซต์แปลงไฟล์ที่ทางเราเอามาแนะนำจะมีประโยชน์กับทุกคนนะครับ
|
How to .... |