เคยสงสัยกันไหมครับ ว่า …. ไอ้เจ้าเว็บไซต์ที่มีสัญลักษณ์สีแดงรูป "ปุ่ม Play" นามว่า YouTube ที่มาที่ไปยังไง ต้นกำเนิดมันมาจากไหน เดี๋ยวผมจะมาเล่าให้ฟัง
จริง ๆ แล้วโลโก้ของ YouTube เพิ่งมาเปลี่ยนแปลงแบบชัดเจนเป็นรูปปุ่ม Play เมื่อตอนปี ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) เนี่ยแหละครับ เพราะตั้งแต่เปิดให้บริการ ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) จนถึงปี ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) ก็เป็นรูปลักษณ์ที่คล้ายกัน แตกต่างกันแค่สีเท่านั้น
ที่มาภาพ : https://medium.com/@aandy315/youtube-logo-refresh-386a43e7361e
YouTube เกิดมาจากชายหนุ่ม 3 คน ชื่อ Chad Hurley, Steve Chen และ Jawed Karim
Steve Chen, Chad Hurley, Jawed Karim
ที่มาภาพ : https://uzone.id/14-tahun-berdiri-ini-fakta-menarik-youtube-dalam-angka
Hurley จบด้านการออกแบบมาจากมหาวิทยาลัย Indiana ส่วน Chen และ Karim จบวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัย Illinois ทั้ง 3 คนมาเจอกันตอนทำงานอยู่กับบริษัทผู้ให้บริการจ่ายเงินบนอินเตอร์เน็ตที่มีคนใช้งานมากที่สุดในโลก PayPal ก่อนที่จะออกมาช่วยกันสร้าง YouTube
Chad Hurley, Steve Chen, Jawed Karim
ที่มาภาพ : https://www.goodworklabs.com/6-amazing-youtube-facts/
เริ่มแรกเดิมที จุดประสงค์ในการทำ YouTube ไม่ใช่เพื่อเป็นเว็บดูคลิปอย่างทุกวันนี้ แต่มันเริ่มจากการเป็นเว็บหาคู่ออนไลน์ ใช่ครับฟังไม่ผิดหรอกครับ แต่มันเป็นเว็บหาคู่โดยใช้รูปแบบวิดีโอในการหาคู่ แล้วเข้าดูโปรไฟล์โดยมันมีสโลแกนว่า
Tune In, Hook Up
แต่มันก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ พวกเขาถึงกับจ้างผู้หญิงด้วยจำนวนเงิน 20 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 600 บาท) เพื่อให้อัปวิดีโอตัวเองขึ้นบน YouTube แต่ไม่มีใครสนใจเลย...ไอเดียนี้จึงล่มไป
แต่แล้วไอเดียใหม่ก็บังเกิดในปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) มันเริ่มมาจากเรื่องบังเอิญกับการที่พวกเขาทั้ง 3 คนอยากจะดูคลิปของ Janet Jackson ที่โดน Justin Timberlake ดึงเสื้อให้เห็นไฟหน้าของเธอ (แต่มีอะไรปิดไว้นะ) ระหว่างที่แสดงช่วงพักครึ่ง SuperBowl XXXVIII (38) แต่ดันหาไม่เจอ
และเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในคาบสมุทรอินเดียพวกเขาก็อยากหาคลิปดูก็ดูไม่ได้อีก
ทั้ง 3 คนเลยตระหนักว่าเห้ย อยากดูคลิปหาจากไหนก็ไม่มี มันไม่มีแพลทฟอร์มที่เอาไว้หาดูและแชร์วิดีโอออนไลน์เลยว่ะในตอนนี้
ที่มาภาพ : https://en.wikipedia.org/wiki/2004_Indian_Ocean_earthquake_and_tsunami
ซึ่งจริง ๆ ภายหลังมีการเปิดเผยจากตัว Chen นะครับว่า 2 เหตุการณ์หลักในการสร้าง YouTube ปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) อย่างคลิป Janet Jackson และเหตุการณ์สึนามิเป็นเรื่องราวที่ปรุงแต่งขึ้นมาจากทีม PR เพื่อกลบเรื่องราวอันเลวร้ายต้นกำเนิดไอเดียของ YouTube กับการทำเป็นเว็บหาคู่
และเมื่อทั้ง 3 มีความคิดไปในทิศทางเดียวกัน พวกเขาก็ได้เงินทุนสนับสนุนมาจำนวน 11.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 345 ล้านบาท) จากบริษัทร่วมทุนสัญชาติอเมริกาอย่าง Sequoia Capital ที่ได้ให้การสนับสนุนบริษัทใหญ่มาแล้วมากมายหลาย แห่งไม่ว่าจะเป็น Apple, Google, Nvidia, Paypal, LinkedIn, , , Instagram, Yahoo!, PicsArt รวมถึง WhatsApp
ที่มาภาพ : https://www.ft.com/content/965f6468-ea16-11e5-bb79-2303682345c8
จนกระทั่งในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์ปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) Hurley, Chen และ Karim ก็ได้ร่วมกันจดทะเบียนเป็นบริษัท ทำโลโก้และมีโดเมนนามว่า www.youtube.com มีสำนักงานใหญ่อยู่บนร้านพิซซ่าเมือง San Mateo, California ประเทศอเมริกา
YouTube First HQ
ที่มาภาพ : https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Youtubeheadquarters.jpg
และแล้วในวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) ก็ได้มีคลิปวิดีโอแรกที่ถูกอัพโหลดขึ้นบน YouTube นั่นก็คือคลิปของ Karim ที่ชื่อว่า “Me at the zoo” เป็นคลิปความยาว 18 วิที่ไม่ได้มีอะไรมาก นอกจากตัวเขาเองยืนอยู่หน้ากรงช้างในสวนสัตว์ และบอกเล่าถึงความเจ๋งของความยาวงวงช้าง...นั่นละ
ในเดือนพฤษภาคมปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) ทาง YouTube ก็ได้ทดลองเปิดใช้เวอร์ชัน Beta ต่อหน้าสาธารณะชนเป็นครั้งแรก มีผู้ใช้งานต่อวัน 30,000 รายโดยประมาณ
YouTube Beta Version
ที่มาภาพ : https://web.archive.org/web/20050622045250/https://youtube.com/
ซึ่งในระหว่างนั้นก็ได้มีการพัฒนาฟังก์ชันต่าง ๆ เรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็นการใส่ Video HTML embed, การให้เรทคลิป รวมถึงการเกิดปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) กับการที่มีคลิปวิดีโอแรกทำยอดวิวแตะ 1 ล้านวิว นั่นก็คือคลิปโฆษณาของ Nike ที่มี Ronaldinho นั่งสวมรองเท้าคู่ใหม่ของ Nike และฝึกซ้อมฟุตบอลเล็ก ๆ น้อย ๆ ตัวคลิปความยาวประมาณเกือบ 3 นาที (2.46)
และในวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) ทาง YouTube ก็ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ซึ่งในขณะนั้นมียอดคนดู YouTube จำนวน 8 ล้านวิวต่อวัน และมียอดคนดูเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมเพิ่มเติมฟังชักส์มากมายมาเป็น YouTube อย่างทุกวันนี้
YouTube Official Lauch
ที่มาภาพ : https://web.archive.org/web/20051219115418/https://youtube.com/
จริง ๆ แล้วมันไม่ได้มีความหมายซับซ้อนอะไรขนาดนั้น และมันก็ตรงตัวโดยแยกเป็นคำว่า “You” มาจากการแทนตัวคุณเองที่เป็นคนสร้างเนื้อหา หรืออัปโหลดวิดีโอด้วยตัวคุณเอง และคำว่า “Tube” มาจากส่วนประกอบหนึ่งในทีวีสมัยก่อน
Tube
ที่มาภาพ : https://www.nesglobal.net/proposed-regulations-offer-revised-crt-glass-disposal-options/crt-extracted-from-crt-television-monitor-2/
หลังเปิดมา 1 ปี คงไม่มีใครคิดและเห็นว่าไอ้เว็บที่ให้คนเอาวิดีโอตัวเองมาลงให้คนอื่นดู มันจะยิ่งใหญ่กลายเป็นธุรกิจที่เติบโต ทำเงินได้ และเป็นเว็บแรก ๆ ที่คนนึกถึงเวลาอยากดูวิดีโออย่างทุกวันนี้
แต่ Google เห็นครับ !
ในปี ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) Google ได้ตัดสินใจขอซื้อ YouTube ในราคา 1,650 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 54,450 ล้านบาท) แต่ไม่ได้เป็นการรวมบริษัทนะครับ ยังคงให้ YouTube ใช้ชื่อและดำเนินการเช่นเดิมอยู่ และในวันเดียวกันนั้น YouTube ก็ได้ย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่ San Bruno, California
ที่มาภาพ : https://apnews.com/article/f1751de4e13b45c098a312780a44b840
โดยเหตุผลที่ Google ทำเช่นนี้ เพราะว่าในปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) พวกเขาเนี่ยได้เปิดตัวบริการวิดีโอในชื่อ Google Video แต่มันไม่สำเร็จและถือว่าล้มเหลวเลยทีเดียว เพราะยอดทราฟฟิกนั้นต่ำเหลือเกิน และพอเห็น YouTube เติบโตมาก ๆ เลยตัดสินใจซื้อซะเลย
Google Video
ที่มาภาพ : https://blog.maisnam.com/archives/google_video/
ซึ่ง YouTube ก็น่าจะเข้ากับระบบของ Google ได้เป็นอย่างดีเพราะสามารถนำ Google Ads มาใช้บนวิดีโอเพื่อสร้างรายได้จากค่าโฆษณา
ปัจจุบัน YouTube กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนหลายคนไปซะแล้ว ไม่ว่าจะ ตัวอย่างหนัง ฟังเพลง ดู MV ดูข่าว และอีกมากมาย ตื่นนอนก็หยิบมาดู ว่างก็หยิบมาดู นั่งรถกลับบ้านก็หยิบมาดู นั่งขี้ก็หยิบมาดูกันทุกครั้งไป
YouTube เป็นเว็บไซต์ที่มีคนเข้าชมมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกโดยเป็นรองเพียงแค่ Google เท่านั้น
และรู้ไหมว่าวิดีโอที่มีคนดูเยอะที่สุดในโลกตอนนี้ของ YouTube คืออะไร ? คำตอบคือคลิปนี้ครับ Baby Shark Dance ของช่อง Pinkfong! Kids กับยอด 7.9 พันล้านวิว
และรู้หรือไม่ว่าช่องที่มียอด Subscribers เยอะที่สุดในโลกคือช่องไหน ไม่ใช่นักแคสเกมชื่อดังอย่าง PewDiePie หากแต่เป็นช่อง T-Series ช่องเพลงและตัวอย่างหนังของอินเดีย (171 ล้าน Subscribers)
YouTube ได้เข้ามาเปิดบริการในเมืองไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) เราก็ได้เห็นความ เปลี่ยนแปลงมากมายที่เกิดขึ้นจากแพลตฟอร์มนี้ ใครหลายคนนี้ผันตัวมาเป็น YouTuber สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้กันมากมายเลยทีเดียว และเหล่า Creator ในไทยก็เกิดขึ้นมากมายเช่นเดียวกัน
ช่องของ YouTube ในไทยที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านซับ มีมากกว่า 450 ช่องเลยทีเดียว
ช่องที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในประเทศไทยนั้นก็คือ WorkpointOfficial (32.4M Subscribers)
ส่วนช่องเพลงทื่มีผู้ติดตามมากที่สุดคือ GMM GRAMMY OFFICIAL (19.9M Subscribers) เป็นอันดับที่ 4 ของช่องทั้งหมดในประเทศไทย
ส่วนช่องที่เป็นคนที่มีผู้ติดตามมากที่สุดคือ Kaykai Salaider (14.5M Subscribers) เป็นอันดับที่ 7 ของช่องทั้งหมดในประเทศไทย
Google ได้เปิดสถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับ YouTube ในประเทศไทยช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายนของปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ก็จะเห็นว่ามีการระบาดของไวรัส อยุ่ในช่วงนั้นด้วย เลยทำให้การรับชมวิดีโอออนไลน์เพิ่มขึ้น
นั่นแหละครับคือการเดินทางด้วยไอเดียจาก 3 เกลอที่อยากทำเว็บหาคู่ กลายมาเป็นเว็บดูวิดีโอที่ยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก นั่นแหละครับ YouTube
|
สบายสบายให้มันสมายเวลาสบายแล้วจะได้สบายสมาย... :) |