ทำไมหน้าร้อน ค่าไฟแพง ? แชร์เคล็ดลับ บ้านเย็น บอกลาบ้านร้อน แบบไม่ง้อแอร์

ทำไมหน้าร้อน ค่าไฟแพง? แชร์เคล็ดลับ บ้านเย็น ไม่ง้อแอร์

ช่วงหน้าร้อนของทุกปี จะสังเกตได้ว่าค่าไฟของทั้งตามบ้านเรือน และห้างร้านต่างๆ พุ่งขึ้นกระฉูด ทั้งที่จากความรู้สึกแล้ว เราเองก็ใช้ไฟฟ้าตามปกติเหมือนทุกๆ เดือน ซึ่งสาเหตุที่ค่าไฟแพงในช่วงหน้าร้อนนี้ ก็เป็นเพราะอุณหภูมินอกบ้านสูงขึ้น จึงทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ทำงานอย่างหนัก และใช้ไฟฟ้ามากขึ้น ในระยะเวลาการใช้งานที่เท่ากัน โดยเฉพาะ แอร์ หรือ เครื่องปรับอากาศ (Air Conditioner) 

เปิดแอร์เท่ากัน แต่อากาศร้อนทำให้เสียค่าไฟแพงกว่า

การไฟฟ้านครหลวง (MEA) ได้ยกตัวอย่างกรณีนี้ไว้ว่า ...

หากเราตั้งอุณหภูมิแอร์ในห้องไว้ที่ 26 องศาเซลเซียส จะพบว่าในช่วงฤดูร้อนแอร์จะทำงานหนักมากขึ้นกว่าเดิมมาก เพื่อปรับลดอุณหภูมิจาก 40 องศาเซลเซียส ให้ถึงอุณหภูมิ 26 องศาเซลเซียส ตามที่ตั้งค่าไว้ ซึ่งต่างกันถึง 14 องศาเซลเซียส จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้หน่วยการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าสูงขึ้น

นอกจากนี้ในทางกลับกัน ในช่วงฤดูหนาว หรือสภาวะอากาศปกติ หากมีอุณหภูมิในห้องก่อนเปิดแอร์อยู่ที่ 30 องศาเซลเซียส และมีการตั้งอุณหภูมิแอร์ในห้อง 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิจะต่างกันเพียง 4 องศาเซลเซียส จึงทำให้การทำงานของแอร์น้อยกว่าในช่วงฤดูร้อนหรือสภาพอากาศที่ร้อน

ที่มา : POSTTODAY

7 เคล็ดลับช่วยให้บ้านเย็น ไม่ง้อแอร์

ในบทความนี้จึงได้รวบรวมเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยให้บ้านของคุณมีอุณหภูมิลดลง และเมื่อบ้านเย็น ก็จะได้ใช้แอร์น้อยลง ช่วยประหยัดไฟในหน้าร้อนได้นั่นเอง

1. เลือกใช้วัสดุในการก่อสร้าง ที่ช่วยให้บ้านเย็น

ขั้นตอนนี้อาจจะต้องเริ่มต้นตั้งแต่การออกแบบ สร้างบ้าน หรือการรีโนเวตบ้าน (Home Renovate) นั่นก็คือการเลือกใช้วัสดุ หรือนวัตกรรมต่างๆ ที่ช่วยทำให้บ้านเย็น ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา, ติดตั้งฉนวนที่ผนัง หรือการทาสีหลังคาให้สว่าง เพื่อการดูดซับความร้อนที่น้อยกว่า และการเลือกใช้สีโทนเย็น หรือสีสะท้อนความร้อนที่ตัวบ้านก็จะช่วยให้บ้านเย็นได้เช่นกัน

2. เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน

คุณควรเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน โดยสังเกตจาก ฉลากประหยัดไฟ เบอร์ 5 หรือเทคโนโลยีต่างๆ เช่น ระบบ Inverter เป็นต้น และบำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าตามเวลาที่กำหนดไว้เป็นประจำ เช่น ทำความสะอาด และเปลี่ยนไส้กรอง เพื่อไม่ให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานหนัก หรือทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ 

3. เปลี่ยนไปใช้หลอดไฟ LED

หลอดไฟประเภท LED นั้น นอกจากจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ยังเป็นหลอดไฟที่ใช้พลังงานน้อยกว่าหลอดไฟประเภทอื่นๆ และยังปล่อยความร้อนออกมาน้อยกว่า จึงไม่ทำให้บ้านร้อน และไม่ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น เรียกได้ว่าประหยัดไฟหลายต่อเลยทีเดียว

4. เลือกใช้หน้าต่าง ผ้าม่าน แบบกรองแสง

ความร้อนและแสง UV จากแสงแดด จะผ่านเข้ามาในตัวบ้านได้ทางหน้าต่าง ดังนั้นวิธีที่จะช่วยลดความร้อน และทำให้เครื่องปรับอากาศของคุณทำงานไม่หนักจนเกินไป ก็คือการเลือกใช้หน้าต่างกระจกแบบกรองแสง และการติดผ้าม่านกรองแสง เพื่อให้บ้านได้รับแสงแดดน้อยลง และมีอุณหภูมิน้อยลง 

5. ใช้น้ำเป็นตัวช่วย

การติดสปริงเกอร์บนหลังคา และเปิดน้ำในช่วงกลางวัน จะช่วยระบายความร้อนบนหลังคาที่โดนแสงแดดโดยตรงได้ โดยไม่เก็บสะสมหรือกระจายความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน นอกจากนี้น้ำที่ไหลลงมายังช่วยระบายความร้อนบนพื้นรอบตัวบ้านอีกด้วย หรือจะใช้วิธีฉีดน้ำบริเวณรอบตัวบ้าน ก็สามารถช่วยได้เช่นเดียวกัน

6. ปลูกต้นไม้รอบบ้าน

การปลูกต้นไม้รอบๆ ตัวบ้าน จะช่วยเพิ่มร่มเงาให้บริเวณบ้านเป็นอย่างดี นอกจาากนี้การปลูกไม้เลื้อยคลุมผนัง เพื่อทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อน ช่วยกันแดดที่ผนัง ก็เป็นอีกวิธีที่นิยมใช้ทั้งในและต่างประเทศ

7. จัดบ้านเพื่อให้อากาศถ่ายเท ไม่มีความร้อนในตัวบ้าน

ข้อสุดท้ายจะพูดถึงการจัดบ้าน อันดับแรกควรสังเกตทิศทางของลม และแดดที่ส่องเข้ามาในตัวบ้าน และจัดวางเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงจัดห้องต่างๆ ให้เหมาะสม โดยมีหลักการง่ายๆ คือ

• จัดทิศทางให้ลมเข้าบ้านทั่วถึง ไม่ขวางทิศทางลมที่จะไหลเวียนเข้าตัวบ้าน

• ใช้เฟอร์นิเจอร์วางเพื่อลดแสงที่จะเข้าตัวบ้านได้

• ใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆ มาวางเพื่อบังคับทิศทางลมได้ตามต้องการ

• ควรมีช่องเปิดให้อากาศร้อนไหลออกด้านบนของบ้าน ไม่ให้อากาศร้อนสะสมชั้นล่าง โดยใช้วิธีเจาะช่องระบายอากาศเพิ่ม หรือเปิดหน้าต่างก็ได้

• แยกครัวร้อนไว้นอกบ้าน เพื่อลดกลิ่น และลดความร้อนขณะทำอาหาร

สรุปเกี่ยวกับ 7 เคล็ดลับช่วยให้บ้านเย็น ไม่ง้อแอร์

หลักการสำคัญของการทำให้บ้านเย็น และประหยัดค่าไฟฟ้านั้นก็คือ การเลือกใช้วัสดุสร้างบ้านที่ลดความร้อนสะสมในตัวบ้าน การจัดบ้าน หรือเลือกใช้ต้นไม้ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ มาช่วย ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถทำได้ง่ายดาย และช่วยไม่ให้เครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณทำงานหนัก โดยบางอย่างก็เป็นสิ่งที่เราคาดไม่ถึง หรือไม่รู้ว่าช่วยประหยัดไฟได้ อย่างไรก็ตามอย่าลืมนำไปปรับใช้กับบ้านของคุณ เพื่อไม่ให้ค่าไฟพุ่งในหน้าร้อนกัน