วันเกิดคนดังวงการฮอลลีวูดในเดือนกรกฎาคม

วันเกิดคนดังวงการฮอลลีวูดในเดือนกรกฎาคม

1 กรกฎาคม

LÉA SEYDOUX

Léa Seydoux มีชื่อเต็มว่า Léa Hélène Seydoux-Fornier de Clausonne เกิดวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) ที่ Paris, France 

จุดเริ่มต้นในการแสดงของ Seydoux คือการแสดงหนังในประเทศฝรั่งเศส ปรากฏตัวในซีรีส์ Père et maire ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) และ Mes copines ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) แต่กลายมาเป็นที่สนใจจากการถูกเสนอชื่อเข้าชิง César Award จากการแสดงในเรื่อง La belle personne ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) และคว้ารางวัล Trophée Chopard

หลังจากนั้นเธอก็ได้ก้าวเข้าสู่แวดวง Hollywood ร่วมงานกับ Quentin Tarantino ในหนังเรื่อง Inglourious Basterds ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), ร่วมงานกับ Ridley Scott ใน Robin Hood ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), ร่วมงานกับ Woody Allen ใน Midnight in Paris ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) และร่วมงานกับ Brad Bird ใน Mission: Impossible - Ghost Protocol ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554)

ในประเทศฝรั่งเศสเธอยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล César Award จากการแสดงในเรื่อง Belle Épine ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) และเข้าชิงจากเรื่อง My Queen ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) ด้วย

ในปี ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) Seydoux เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นจากการได้มาร่วมงานกับ  Adèle Exarchopoulos ผลงานของผู้กำกับ Abdellatif Kechiche ที่คว้ารางวัลปาล์มทองคำในงานเทศกาลหนังเมืองคานส์จากหนังเรื่อง Blue Is the Warmest Colour ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556)

และในปีเดียวกันนั้นเธอยังได้รับรางวัล  Lumières Award ตามมาด้วยในปี ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) เธอก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง BAFTA Rising Star Award 

หลังจากนั้นก็มีผลงานของเธอให้เราได้เห็นอีกมากมาย ทั้ง The Grand Budapest Hotel ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Beauty and the Beast ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), The Lobster ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Spectre ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Zoe ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Kursk ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), The French Dispatch ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), No Time to Die ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Tromperie ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Un beau matin ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

2 กรกฎาคม

LINDSAY LOHAN

Lindsay Dee Lohan เกิดวันที่ 2 กรกฎาคม ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) ที่ The Bronx, New York ประเทศอเมริกา

เธอเริ่มต้นอาชีพของเธอตั้งแต่อายุเพียง 3 ปีเท่านั้น กับการเป็นนางแบบตัวน้อยให้กับทาง Ford และปรากฏในโฆษณาอีกมากมายกว่า 60 ตัว เช่น The Gap, Pizza Hut, Wendy's และ Jell-O

แต่การแสดงของเธอจริง ๆ เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1996 กับบทบาทในเรื่อง Another World แต่ก่อนหน้านั้นเธอก็ไปปรากฏตัวทั้งใน Late Night with David Letterman ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) และ Sesame Street ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538)

Lohan ได้แสดงหนังเรื่องแรกกับเรื่อง The Parent Trap ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) และประสบความสำเร็จอย่างมาก เธอได้รับเสียงชื่นชมมากมาย แถมยังคว้ารางวัล Young Artist award สาขา Best Leading Young Actress รวมถึงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Blockbuster Entertainment และ YoungStar award

ไม่นานเธอก็ได้เซ็นสัญญากับทาง Disney ไว้ 3 เรื่อง คือ The Wonderful World of Disney: Life-Size ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) Bette ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) และ Get a Clue ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) 

ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) เธอได้ใช้เวลาช่วงสั้น ๆ กับการเอาดีทางด้านดนตรี และได้ทำเพลงออกมาถึง 5 อัลบั้มเลยทีเดียว

แต่การกลับมาสู่วงการแสดงของเธอนับว่าไม่ค่อยเปรี้ยงเหมือนก่อนหน้านี้ จนกระทั่งได้รับบทใน Freaky Friday ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) ตัวหนังก็ฮิตแบบสุด ๆ ทำเงินไปไม่น้อยและเสียงวิจารณ์ต่อการแสดงของเธอก็ออกมาดีเลยทีเดียว จนส่งให้เธอได้รับรางวัล MTV Movie Award สาขา Best Breakthrough Femanl และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Saturn Award รวมถึงถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Young Artist Award

บทบาทต่อมาของเธอคือในเรื่อง Drama Queen ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) ที่รายได้ค่อนข้างจะล้มเหลวบน Box Office แต่การแสดงของเธอก็ยังได้รับเสียงชื่นชมอยู่ดี

โปรเจคต่อมาของเธอทำให้หลายคนรู้จักเธอมากขึ้น นั่นคือจากเรื่อง Mean Girls ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) และช่วงนั้นเธอก็ดังจริง ๆ หลายคนทั้งในและนอกวงการ Hollywood ต่างหลงรักเธอ จนเธอได้รับบทต่อมาในเรื่อง Just My Luck ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) ตามมาด้วย Herbie Fully Loaded ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), A Prairie Home Companion ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549)

ในปี ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) Lohan ได้ปล่อยแบรนด์แฟชั่นของตัวเองกับชื่อแบรนด์ 6126 ที่จะโฟกัสไปที่กางเกง Leggings ของผู้หญิง

หลังจากนั้นเธอก็ยังคงได้รับบทในหนังบ้าง แต่ก็ไม่ใช่บทเด่นบทดังอะไร รวมถึงไปปรากฏใน ซีรีส์และ MV บ้าง แต่ก็ไม่มีเรื่องไหนสามารถส่งชื่อเสียงให้เธอได้เลย

แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าเธอเริ่มสร้างปัญหาต่าง ๆ มากมาย ทั้งเรื่องเหล้า, เรื่องการใช้สารเสพติด และที่สำคัญเคยโดนจับด้วยอีกหลายปี กลายเป็นบทเรียนชีวิตอันล้ำค่าจริง ๆ

ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้วแต่มันกลายเป็นภาพลักษณ์ที่คนตราหน้าเธอไปแล้ว 

MARGOT ROBBIE

Margot Elise Robbie เกิดวันที่ 2 กรกฎาคม ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) ที่ Dalby, Queensland ประเทศออสเตรเลีย

เธอเริ่มต้นอาชีพการแสดงกับบทบาท Donna Freedman ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 2008-2010 (พ.ศ. 2551-2553) ในซีรีส์ Neighbours ที่ส่งให้เธอได้เข้าสองรางวัลจาก Logie Awards และทำให้เธอได้เปิดกว้างในวงการ Hollywood ทันที

และระหว่างนั้นเธอก็ได้รับบททั้งในซีรีส์แหละหนังอีกบ้าง ทั้ง City Homicide ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Review with Myles Barlow ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), The Elephant Princess ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), I.C.U. ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552)

หลังจากนั้นเธอก็ได้รับบทในซีรีส์ทาง ABC เรื่อง Pan Am ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) และได้เดบิวต์หนังเรื่องแรกกับเรื่อง About Time ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556)

ชีวิตของเธอก็ยังคงโรดรุ่งอย่างต่อเนื่อง เพราะเธอได้ไปแสดงเคียงข้างกับดาราระดับ A-List อย่าง Leonardo DiCaprio สำหรับบท Naomi Lapaglia ในหนังของ Martin Scorsese เรื่อง The Wolf of Wall Street ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) จนมันส่งให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Breakthrough Performance MTV Movie Award และเข้าชิงอีกหลายเวที

ในปี ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) เธอได้ก่อตั้งบริษัทโปรดักชั่นของเธอขึ้นมาเองในชื่อ LuckyChap Entertainment

หลังจากนั้นเธอก้ได้แสดงหนังอีกหลายเรื่อง ทั้ง Suite Francaise ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Focus ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Z for Zachariah ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) และไป cameo ใน The Big Short ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558)

ในปี ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) เธอได้หักอกชายทั่วโลกไปหลายคน เพราะเธอได้แต่งงานกับ Tom Ackerley ที่ Byron Bay, New South Wales ประเทศออสเตรเลีย

ในปีเดียวกันนั้นเธอก็ยังได้แสดงนำในบทบาท Jane Porter ในเรื่อง The Legend of Tarzan ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Tango Foxtrot ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) และมาสร้างชื่อแบบสุด ๆ จนหลายต่อหลายคนรู้จักเธอมากขึ้นและแทบจะเปลี่ยนชื่อเรียกเธอไปแล้วจากบทบาทที่เธอได้รับ นั่นก็คือบทบาท Harley Quinn ใน Suicide Squad (2016) ที่มันส่งให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Teen Choice Award และอีกมากมายหลายรางวัลจากบทบาทนี้

ซึ่งในบทบาท Harley Quinn นี้ยังคงส่งให้เธอได้กลับมารับบทเดิมใน Birds of Prey ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และใน The Suicide Squad ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) ของ James Gunn เหตุเพราะเขาชอบการแสดงในบทบาทนี้ของ Margot Robbie มาก ๆ

ต่อมาเธอได้รับบทบาทที่พิสูจน์ให้เห็นเลยว่าเธอมีดีมากกว่ารูปร่างหน้าตา นั่นก็คือในเรื่อง I, Tonya ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) ที่มันส่งให้เธอได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมหนังประเภทคอเมดี้หรือเพลงด้วย และยังเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมเช่นกัน

งานแสดงของเธอเริ่มมีมากขึ้นเรื่อย ๆ หลายบทบาท ไม่ว่าจะเป็น Goodbye Christopher Robin ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Peter Rabbit ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Terminal ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Mary Queen of Scots ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561, Once Upon a Time...in Hollywood ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และล่าสุด Peter Rabbit 2: The Runaway ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

และก็พิสูจน์การแสดงอันยอดเยี่ยมอีกครั้งในบทบาท Kayla Pospisill ในหนังที่สร้างมาจากเรื่องจริงเรื่อง Bombshell ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ที่ส่งให้เธอเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยมจากทั้งเวทีลูกโลกทองคำและออสการ์

และมีผลงานอย่างต่อเนื่อง ทั้ง The Suicide Squad ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Amsterdam ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Barbie ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566) และอีกมากมาย

สวย แสบ บ้า กล้า เก่ง นักแสดงที่ใครหลายคนตกหลุมรัก

- Margot Robbie

 3 กรกฎาคม

TOM CRUISE

Thomas Cruise Mapother ที่ 4 เกิดวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 1962 (พ.ศ. 2505) ที่ Syracuse, New York ประเทศอเมริกา

Tom ใช้ชีวิตในช่วงวัยเด็กย้ายบ้านและโรงเรียนบ่อยมาก เมื่อเขาอายุ 14 ปี เขาย้ายโรงเรียนไปถึง 15 ครั้ง

เมื่อเขาอยู่มัธยมปลาย Tom อยากเป็นนักบวช แต่ไม่นานเขาก็เริ่มหันเหความสนใจมาทางด้านการแสดง และทิ้งความอยากเป็นนักบวชไปทันที และออกจากโรงเรียนตอนอายุ 18 ปี เพื่อหวังว่าจะได้เป็นนักแสดงอาชีพอย่างเต็มตัว

จนกระทั่งเขาได้แสดงหนังครั้งแรกในเรื่อง Endless Love ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524) ที่ถึงแม้จะไม่ใช่หนังดังหรือหนังใหญ่อะไร แต่นักแสดงหน้าใหม่อย่าง Tom กลับเป็นที่ต้องตาต้องใจของคนดูอย่างมาก

ด้วยใบหน้าอันหล่อเหลา และรอยยิ้มที่ดึงดูด ไม่ถึง 5 ปี เขาก็ได้มาแสดงหนังที่ทำให้คนทั้งโลกต่างรู้จักเขาเริ่มจากใน Risky Business ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งแรกในชีวิต, Top Gun ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529), Rain Man ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) และ Born on the Fourth of July ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) คว้ารางวัลลูกโลกทองคำและเข้าชิงรางวัลออสการ์

ทำให้ในช่วงปี ค.ศ. 1990s (พ.ศ. 2533-2542) เขาได้กลายเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ทำรายได้มากที่สุดในโลกถึง 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 466 ล้านบาท) เช่นในเรื่อง A Few Good Men ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ที่ได้เข้าชิงลูกโลกทองคำ, Interview with the Vampire: The Vampire Chronicles ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) และได้กลายมาเป็นสายลับที่มีแฟรนไชส์ออกมาอีกมากมาย เป็นหนึ่งในตัวละครที่หลายคนจดจำ Ethan Hunt ในเรื่อง Mission: Impossible ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) ที่ออกมามากมายหลายภาค, ตามมาด้วยการแสดงอันยอดเยี่ยม Jerry Maguire ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) ที่คว้ารางวัลลูกโลกทองคำและเข้าชิงรางวัลออสการ์ และท้ายปีกับเรื่อง Magnolia ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ที่คว้ารางวัลลูกโลกทองคำและเข้าชิงรางวัลออสการ์

และหลังจากนั้นก็มีผลงานของเขามาให้ดูอีกมากมายหลายบทบาท ไม่ว่าจะเป็น Minority Report ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), The Last Samurai ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) เข้าชิงลูกโลกทองคำ, War of the Worlds ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Valkyrie ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Tropic Thunder ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) เข้าชิงลูกโลกทองคำ, Jack Reacher ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Oblivion ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Edge of Tomorrow ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), The Mummy ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), American Made ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) และอีกมากมายหลายเรื่อง

ผลงานของเขามีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Top Gun: Maverick ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Mission: Impossible 7 ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Mission: Impossible 8 ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566), Live Die Repeat and Repeat, Luna Park และโปรเจคหนังที่จะไปถ่ายทำกันในอวกาศร่วมมือกับทาง Space X อีกด้วย

และนั่นทำให้ Tom Cruise กลายมาเป็นนักแสดงระดับ A-List แห่งวงการ Hollywood ที่ทั่วทั้งโลกไม่มีใครไม่รู้จักเขา

6 กรกฎาคม

SYLVESTER STALLONE

Sylvester Enzio Stallone เกิดวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 1946 (พ.ศ. 2489) ที่ New York City ประเทศอเมริกา ปัจจุบันมีอายุ 75 ปี

Stallone ได้เริ่มต้นอาชีพการแสดงกับบทบาทเล็กๆ ใน The Party at Kitty and Stud's ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513), Klute ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) และ Bananas ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) จนกระทั่งได้มาร่วมแสดงนำกับเพื่อน Henry Winkler ในเรื่อง The Lords of Flatbush ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517) จนทำให้เขาเปิดกว้างในแวดวงการแสดงและได้รับบทอีกมากมายจากในซีรีส์และหนังตามมา

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม Stallone ถูกจดจำในฐานะนักเขียนบทมากกว่านักแสดง โดยเฉพาะการเขียนบทเรื่อง Rocky ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519)

โดย Rocky ถูกเขียนขึ้นมาจากแรงบันดาลใจในคืนหนึ่ง Stallone ได้ไปดูมวยคู่หนึ่ง เป็นการปะทะกันระหว่าง Muhammad Ali และ Chuck Wepner ชื่อชั้นของทั้งคู่ต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่ด้วยเม็ดเงินที่จะได้แล้ว Wepner พร้อมยอมขึ้นชก

แน่นอน Wepner แพ้ราบคาบ แต่ความประทับใจของ Stallone ไม่ใช่การชกของ Ali แต่เป็นความอึดของ Wepner ที่ทนจนได้ถึงยกสุดท้าย เขาจึงได้ไอเดียเกี่ยวกับชายผู้ยืนหยัดต่อสู้ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค นำเรื่องราวเหล่านี้มาเขียนเป็นหนังความยาว 90 หน้า และใช้เวลาเขียนแค่ 3 วันเท่านั้น นั่นคือเรื่อง Rocky

เขานำบทไปขาย กับผู้อำนวยการสร้าง แต่ไม่อยากให้ Stallone แสดงนำ สรุปผู้อำนวยการสร้างจึงขอซื้อหนังเรื่องนี้แต่มีเงื่อนไขว่าห้าม Stallone แสดง แต่เขาปฏิเสธเพราะเขาอยากแสดงบทนี้เองจริงๆ

แต่พอผู้อำนวยการสร้างเอาบทหนังไปขายค่าย ทางค่ายตัดงบออก 1 ล้านดอลลาร์ เหตุเพราะ Stallone แสดงนำ ไม่ใช่ดาราชื่อดัง ณ ตอนนั้น

Stallone จึงจำเป็นต้องใช้ครอบครัว เพื่อนๆ มารับบทในหนังเรื่องนี้ บางฉากใช้มือถือถ่ายด้วยซ้ำ แถมยังมีการถ่ายแบบกองโจร คือไม่จัด ไม่เซ็ท ไปสถานที่นั้นๆ แล้วแอบถ่าย ไม่มีการขอใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อประหยัดงบในการถ่าย โดยเฉพาะฉากวิ่ง Jogging ของ Rocky โดยมันใช้เวลาถ่ายทำไปทั้งหมด 28 วัน

แน่นอนตัวหนังประสบความสำเร็จมากๆ ทำรายได้ทั่วทั้งโลกไปถึง 117 ล้านดอลลาร์สหรัฐอีกต่างหาก จากทุนสร้างเพียง 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น

หนังยังเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 10 สาขา!!! และคว้าไปได้ 3 สาขา (Best Film Editing, Best Director, Best Picture)

เข้าชิงลูกโลกทองคำ 6 สาขา และคว้าไป 1 สาขา (Best Motion Picture - Drama)

ในตอนจบของ End Credits มีการอุทิศถึง Jane Oliver ผู้ที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวของ Stallone ตอนเขาพึ่งดัง เธอตายด้วยโรคมะเร็งก่อนที่หนัง Rocky จะได้ออกฉาย และอีก 4 ภาคหลังจากนี้ก็มีการอุทิศถึงเธอทุกครั้งหลังจบ End Credits

หลังจากนั้นชีวิตในวงการแสดงของเขาก็เปลี่ยนไป เขามีบทมารองรับอีกมากมาย ทั้ง F.I.S.T ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521), Paradise Alley ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521), Rocky II ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522), Nighthawks ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524), Victory ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524), Rocky III ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525)

แค่นั้นชื่อเขาก็โด่งดังมากพอแล้ว และไม่นานเขาก็มารับอีกหนึ่งบทบาทที่เป็นเหมือนไอค่อนประจำตัวเขาไปแล้ว นั่นก็คือบทบาท John Rambo ในหนัง First Blood ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) หลังจากหนังออกฉายมันฮิตมากๆ ทำให้มีภาคต่อออกมาอีกมากมายจนถึงภาคล่าสุดเมื่อปี ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) กับ Rambo: Last Blood

ส่วนแฟรนไชส์ Rocky ก็มีมาอย่างยาวนานเช่นกันนับตั้งแต่ภาค 3 ก็ตามมาด้วย Rocky IV ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528), Rocky ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533), Rocky Balboa ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Creed ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Creed II ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561)

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากมายในชีวิตการแสดง เขาก็รับบทมาอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ ทั้ง The Expendables ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), The Expendables 2 ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Escape Plan ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), The Expendables 3 ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Guardians of the Galaxy Vol. 2 ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) 

และในอนาคตยังมีบทบาทของเขารองรับอีกด้วยทั้ง The Suicide Squad ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) ให้เสียงพากย์ King Shark, Samaritan ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Little America และ The Expendables 4

เขาเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 3 ครั้ง

• Best Writing, Screenplay Written Directly for the Screen | Rocky ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519)
• Best Actor in a Leading Role | Rocky ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519)
• Best Performance by an Actor in a Supporting Role | Creed ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558)

และเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีก 3 ครั้ง และสามารถคว้าไปได้ 1 ครั้ง

• Best Screenplay - Motion Picture | Rocky ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519)
• Best Actor in Motion Picture - Drama | Rocky ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519)
• Best Performance by an Actor in a Supporting Role in a Motion Picture | Creed ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) [WINNER]

เขาคือนักแสดงแค่พูดชื่อก็นึกหน้าตาและบทบาทอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาออก - Sylvester Stallone

KEVIN HART

Kevin Darnell Hart เกิดวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) ที่ Philadelphia, Pennsylvania ประเทศอเมริกา

หลังจากเรียนจบเขาย้ายมายัง Brockton, Massachusetts เพื่อทำงานเป็น salesman ขายรองเท้าและเขาก็ลาออก เพื่อจะมาเริ่มต้นการเป็น stand-up comedy ใน nightclub แห่งหนึ่งที่ Philadelphia

และทางด้านนี้เขาทำได้ดีอย่างมาก เริ่มออกทัวร์และหลายคนเริ่มรู้จักเขา

จนเขาได้มาแสดงหนังครั้งแรกในเรื่อง Paper Soldiers ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) และสร้างการจดจำในหนังตลกอีกมากมายหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น Scary Movie 3 ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Soul Plane ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), The 40 Year Old Virgin ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Death at a Funeral ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Little Fockers ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), The Five-Year Engagement ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), ปรากฏเป็น cameo ในเรื่อง This Is the End ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Grudge Match ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Ride Along ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Central Intelligence ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), The Upside ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) และสร้างเสียงหัวเราะกับบทอันน่าจดจำใน Jumanji: Welcome to the Jungle (2017), Jumanji: The Next Level ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), ซีรีส์ Die Hart ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563), Fatherhood ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

เขายังมีผลงานอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น The Man from Toronto ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Borderlands ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), DC League of Super-Pets ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), My Own Worst Enemy, Uptown Saturday Night, The Great Outdoors, Ride Along 3 และ Monopoly

ตลอดชีวิตการแสดงของเขา เขาได้แสดงหนังมากกกว่า 90 เรื่องเลยทีเดียว

นึกถึงเขา นึกถึงเสียงหัวเราะ - Kevin Hart

8 กรกฎาคม

KEVIN BACON

Kevin Norwood Bacon เกิดวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 1958 (พ.ศ. 2501) ที่ Philadephia, Pennsylvania ประเทศอเมริกา

Kevin ได้ฝึกทักษะทางด้านการแสดงจาก The Manning Street และได้เริ่มแสดงครั้งแรกในซีรีส์ Search for Tomorrow ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) ก่อนที่จะมาเดบิวต์ในหนังใหญ่กับบทบาท Chip Diller ในหนังเรื่อง National Lampoon's Animal House ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521) 

แต่จุดเปลี่ยนในชีวิตการแสดงของเขาเริ่มมาจากเรื่อง Diner ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) ที่ทำให้เขาได้รับโอกาสทางการแสดงมากมาย เช่นใน Footloose ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527), Having a Baby ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531), Tremors ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533), Flatliners ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533), Apollo 13 ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538)

ในปี ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) เขาเคยถูกเลือกโดยนิตยสาร Empire Magazine ให้เป็น 1 ใน 100 ดาราที่เซ็กซี่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ (100 Sexiest Stars in film history)

และเจ้าตัวก็มาสร้างชื่อเสียงกับหนังเรื่อง The River Wild ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) ที่ได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งแรกในชีวิตการแสดง แถมหลังจากนั้นก็ยังมีผลงานมาอย่างต่อเนื่อง และที่หลายคนรู้จักกันดีคือบทบาท Sebastian Caine จากเรื่อง Hollow Man ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543)

Bacon โชว์ฝีมือในการแสดงได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้งจากเรื่อง Taking Chance ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) ที่ในครั้งนี้ เจ้าตัวไม่เพียงแต่เข้าชิงลูกโลกทองคำเท่านั้น แต่สามารถคว้ารางวัลลูกโลกทองคำแรกในชีวิต (และครั้งเดียว) ไปครอบครอง

ซึ่งหลังจากนั้นก็ยังมีผลงานของเขามาบ้างอีกประปราย และมาเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีกครั้งจากซีรีส์เรื่อง I Love Dick ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) 

ล่าสุด Kevin Bacon เพิ่งฝากผลงานเอาไว้ในซีรีส์ City on a Hill ค.ศ. 2019-2021 (พ.ศ. 2562-2564) และซีรีส์ No Activity ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

JADEN SMITH

Jaden Christopher Syre Smith เกิดวันที่ 8 กรฏาคม ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) ที่ Malibu, California ประเทศอเมริกา

Jaden เป็นลูกของดาราระดับ A List แห่งวงการ Hollywood อย่าง Will Smith และ Jada Pinkett Smith

ก่อนที่เขาจะมีชื่อเสียง เขาได้เข้าช่วยเหลือใน Project Zambia และ Hasbro เพื่อดูแลเด็กใน Zambia ที่พ่อแม่ของพวกเขาเสียชีวิตด้วยโรค AIDS เขาได้กลายเป็นทูตวัยเด็กของ Project Zambia ร่วมกับพี่น้องของเขา

Jaden เริ่มต้นการแสดงกับบทบาท Reggie ในซีรีส์เรื่อง All of Us ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003-2006 (พ.ศ. 2546-2549)

Jaden ก้าวเข้าสู่การแสดงหนังครั้งแรกในปี ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) ที่ได้แสดงร่วมกับพ่อของเขา Will Smith ในเรื่อง The Pursuit of Happyness และได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากมาย

หลังจากนั้นชื่อเสียงของเขาก็เริ่มมากขึ้นแสดงร่วมกับดาราดังด้วย เริ่มจาก The Day the Earth Stood Still ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) ได้แสดงร่วมกับ Keanu Reeves ส่งให้ Jaden คว้ารางวัล Saturn Award, The Karate Kid ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) ได้แสดงร่วมกับเฉินหลง และกลับมาแสดงหนังกับพ่อของเขา Will Smith ในเรื่อง After Earth ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556)

แต่สิ่งที่ Jaden ชื่นชอบและใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กๆ คือการเป็นศิลปิน โดยเขาได้เริ่มร้องแรปร่วมกับ Justin Bieber ในเพลง Never Say Never

และในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) Jaden ได้ปล่อยเทปชุดแรกออกมาในชื่อ The Cool Cafe และหลังจากนั้นก็มีผลงานทางด้านดนตรีของเขาออกมาอีกมากมายจนถึงปัจจุบัน

Jaden ได้สร้างแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองออกมาในชื่อ MSFTSrep ด้วย

ช่วงหลัง ๆ นี้เราไม่ค่อยได้เห็นผลงานการแสดงของ Jaden สักเท่าไหร่ ล่าสุดได้ไปแสดงเรื่อง Life in a Year ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ที่แสดงร่วมกับ Cara Delevinge และมาให้เสียงในซีรีส์ The Proud Family: Louder and Prouder ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) รวมถึง Entergalactic ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) แต่ผลงานเพลงของเขาก็มีมาอย่างต่อเนื่อง

9 กรกฎาคม

TOM HANKS

Thomas Jeffrey Hanks เกิดวันที่ 9 กรกฎาคม ค.ศ. 1956 (พ.ศ. 2499) ที่ Concord, California ประเทศอเมริกา

Hanks ย้ายไปนู่นไปนี่บ่อยมาก เนื่องจากพ่อแม่เขาหย่ากันตั้งแต่เด็ก ๆ เขาจึงต้องไปอยู่กับครอบครัวอื่น ๆ ที่รับเลี้ยงดูเขา แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาเป็นเด็กเกเรออกนอกลู่นอกทางแต่อย่างใด ไม่เป็นเด็กมีปัญหา ยาไม่เล่น ของมึนเมาไม่แตะ เป็นแค่เด็กวัยรุ่นสับสนวุ่นวายในชีวิตทั่ว ๆ ไป 

เขาไม่มีประสบการณ์ทางด้านการแสดงเลยแม้แต่นิดเดียวตอนมหาลัย อันที่จริงเขาไม่ได้รับโอกาสให้ไปคัดเลือกในการแสดงด้วยซ้ำ ทำให้เขาตัดสินใจออกไปหาประสบการณ์นอกมหาวิทยาลัย ไปออดิชั่นตามโรงละครต่าง ๆ แต่ก่อนหน้านั้นเขาก็ได้ไปปรากฏตัวในหนังกับบทเล็กๆ และซีรีส์ทางทีวีอีกหลายเรื่องเช่นกัน จนกระทั่งเขาได้รับโอกาสจากผู้กำกับคนนึง ทำให้ชีวิตการแสดงของเขาเริ่มต้นขึ้นและกลายเป็น Tom Hanks ในทุกวันนี้

Ron Howard ตอนนั้นกำลังกำกับ Splash ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) และเขาเล็งเห็นศักยภาพบางอย่างในตัว Hanks จึงตัดสินใจให้ Hanks มารับบทนำในเรื่องนี้ทันที และผลปรากฏว่าหนังเรื่องนี้ทำเงินบน Box Office ไปไม่น้อยเลย และประตูสู่วงการ Hollywood ก็เปิดกว้างทันที

Hanks ได้รับบทต่าง ๆ อีกมากมายในวงการ ไม่ว่าจะเป็น Dragnet ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530), Big ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ที่เรื่องนี้ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ และคว้ารางวัลลูกโลกทองคำแรกในชีวิตมาครอบครอง, A League of Their Own ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), Sleepless in Seattle ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) ที่ส่งให้เขาเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ, Philadelphia ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) ที่ได้รับเสียงวิจารณ์ในด้านการแสดงอย่างล้นหลาม ส่งเขาคว้ารางวัลควบจากทั้ง 2 เวทีกับออสการ์และลูกโลกทองคำ 

เขายังคงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง และมารับบทเป็นอัจฉริยะปัญญานิ่มใน Forrest Gump ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) ที่ทำเงินแบบสุดๆ และการแสดงอันยอดเยี่ยมที่เอาอยู่ทั้งเรื่อง ส่งให้เขาคว้ารางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมจากทั้งเวทีออสการ์และลูกโลกทองคำอีกด้วย เจ้าตัวเคยบอกเอาไว้ว่า

เมื่อผมได้อ่านบทของ Gump ผมเห็นว่ามันเป็นหนึ่งในหนังที่ยิ่งใหญ่ และเป็นหนังที่มีความหวังที่ผู้คนสัมผัสได้ ความหวังมากมายในชีวิตและการแสดงหาจุดยืนในชีวิต ซึ่งผมได้รับสิ่งนั้นมากมายหลายร้อยล้านครั้งเมื่อตอนผมดูหนังในวัยเด็ก ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะรับเล่นบทนี้

บทบาทต่อมาเขากลับมาร่วมงานกับ Ron Howard ในหนัง Apollo 13 ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) ตามมาด้วยอีกบทบาทที่หลายคนคุ้นเคยกับการให้เสียงพากย์นายอำเภอ Woody ในหนังอนิเมชันขจอง Disney/Pixar เรื่อง Toy Story ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) จนได้กลายมาเป็นเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวละครนี้ที่หลายคนรู้สึกอบอุ่นและจดจำ

เส้นทางการแสดงของ Hanks เรียกได้ว่าพุ่งอย่างสุด ๆ รับบทไหนก็ปังแบบหยุดไม่อยู่จริงๆ ไม่ว่าจะเป็น Saving Private Ryan ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ควบลูกโลกทองคำ, Cast Away ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) หนังติดเกาะที่ได้เข้าชิงออสการ์และคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ, Charlie Wilson's War ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) ที่เข้าชิงลูกโลกทองคำ, Captain Phillips ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) เข้าชิงลูกโลกทองคำ, The Post ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) เข้าชิงลูกโลกทองคำ และล่าสุด A Beautiful Day in the Neighborhood ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ที่ได้เข้าชิงควบทั้งออสการ์และลูกโลกทองคำเลยทีเดียว

ผลงานของเขายังมีมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดก็ได้ฝากผลงานเอาไว้มากมายในปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ทั้ง Greyhound, Finch ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Pinocchio ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Elvis ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) และอีกมากมาย

ชื่อเสียงของเขาโด่งดังอย่างมากมาหลายยุคหลายสมัย จวบจนทุกวันนี้คนแทบจะทั้งโลกต่างก็รู้จักชื่อของเขา แสดงมาแล้วแทบจะทุกบทบาท แต่ไม่รู้ว่าเพราะเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ หนังแต่ละเรื่องที่เขาแสดงต่างก็มักจะประสบปัญหาอะไรบางอย่าง เช่น ติดเกาะ ติดสนามบิน ติดอยู่แนวศัตรู เป็นต้น และเรียกได้เลยว่าถ้าหากหนังเรื่องไหนมีชื่อ Tom Hanks แสดง รับประกันความยอดเยี่ยมของหนังเรื่องนั้นได้อย่างแน่นอน

11 กรกฎาคม

STEPHEN LANG

Stephen Lang เกิดวันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 1952 (พ.ศ. 2495) ที่ New York ประเทศอเมริกา

หลายต่อหลายคนเริ่มรู้จักเขามาจากบทบาทในหนังของ James Cameron เรื่อง Avatar ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) แต่จุดเริ่มต้นการแสดงของเขาคือการแสดงในละครบรอดเวย์ เขาแสดงได้อย่างยอดเยี่ยมจนเคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Tony จากการแสดงในเรื่อง The Speed of Darkness, Death of a Salesman, A Few Good Men และ Wait Until Dark

และนอกบรอดเวย์เขาก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน กับการแสดงใน Defiance, The Guys, Finishing the Picture และ Beyond Glory ซึ่งเจ้าตัวเคยไปโชว์ที่ฐานทัพทหารและเรือรบรอบโลก 

ในปี ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) Lang ได้รับ Patriot Award จาก Medal of Honor Society สำหรับเป็นเกียรติให้การที่เขาได้ไปแสดงละครการกุศลให้กองทัพสหรัฐ

บทบาทการแสดงหนังของเขาเริ่มต้นกับหนังทางทีวีเรื่อง We're Fighting Back ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524) และก็มีผลงานที่พิสูจน์การแสดงของเขาตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ Crime Story ค.ศ. 1986-1988 (พ.ศ. 2529-2531), Babe Ruth ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534), Last Exit to Brooklyn ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532), Tombstone ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536), Gettyburg ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536), ซีรีส์ The Fugitive ค.ศ. 2000-2001 (พ.ศ. 2543-2544), Gods and Generals ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Public Enemies ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), The Men Who Stare at Goats ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), Terra Nova ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554)

อีกหนึ่งบทบาทที่สร้างชื่อเสียงให้เขาไม่น้อย คือบทบาทลุงตาบอดสุดเหี้ยมใน Don't Breathe ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) และ Don't Breathe 2 ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) รวมถึงบทบาทในภาคต่อ Avatar ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2559) ยาว ๆ ไปกับ Avatar 2 ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Avatar 3 ค.ศ. 2024 (พ.ศ. 2567), Avartar 4 ค.ศ. 2026 (พ.ศ. 2569) และ Avartar 5 ค.ศ. 2028 (พ.ศ. 2571)

การแสดงของเขาการีนตีด้วยการถูกเสนอชื่อเข้าชิงและคว้ารางวัลมากมาย ทั้ง Grace Prize, Outer Critics Circle, Drama Desk, Helen Hayes และ Tony Awards รวมถึงรางวัลในงาน VisionFest ปี 2010 และ Buffalo Niagara Film Festival อีกด้วย

13 กรกฎาคม 

PATRICK STEWART

Patrick Stewart เกิดวันที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ. 1940 (พ.ศ. 2483) ที่ Mirfield, Yorkshire ประเทศอังกฤษ

Stewart เป็นสมาชิกของชมรมการละครท้องถิ่นเมื่อครั้นอายุ 12 ปี

พออายุได้ 15 ปี เขาก็ลาออกจากโรงเรียนและทำงานเป็นนักรายงานข่าววัยเยาว์ให้กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นแห่งหนึ่ง แต่ไม่นานเขาก็ต้องออก เพราะฝ่ายตัดต่อบอกว่าเขาใช้เวลามากเกินไปกับทางโรงละคร และไม่มีเวลามากพอที่จะมาทำงาน

ต่อมาเขาก็ได้ไปทำงานเป็นพนักงานขายเฟอร์นิเจอร์ เพื่อเก็บตังไปเรียนด้านการแสดง

ในปี ค.ศ. 1957 (พ.ศ. 2500) เขาจึงได้เข้าไปเรียนที่ Bristol Old Vic Theatre School จนได้เดบิวต์งานแสดงครั้งแรกในโรงละครแถบ Lincoln และก็ได้มาทำงานที่โรงละคร Manchester Library Theatre และได้ออกทัวร์กับทาง Old Vic ตลอดช่วงปี ค.ศ. 1960s (พ.ศ. 2503-2512)

จนในปี ค.ศ. 1966 (พ.ศ. 2509) เขาก็ได้เข้าร่วมกับคณะละคร Royal Shakespeare Company และได้แสดงอยู่ร่วมกันมาจนตลอดถึงช่วงกลางยุค ค.ศ. 1980s (พ.ศ. 2523-2532) ซึ่งในระหว่างนั้นเขาก็ได้แสดงซีรีส์และหนังบ้างบางเรื่องประปราย แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร

หลังจากนั้นเขาก็เดินทางมายังนครแห่งดารา Los Angeles, California และได้รับบทใน Star Trek: The Next Generation ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) แฟรนไชส์ซีรีส์ชื่อดังที่ออนแอร์ตั้งแต่ ค.ศ. 1987-1994 (พ.ศ. 2530-2537) เขารับบทเป็นกัปตัน Jean-Luc Picard ตัวละครหลักสำคัญของเรื่อง ที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับเขาไปไม่น้อยเลย

เจ้าตัวสร้างชื่อในการแสดงของตัวเองในซีรีส์เรื่อง Moby Dick ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) เพราะมันส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งแรกในชีวิต กับสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในซีรีส์หรือหนังทางทีวี และเข้าชิงรางวัล Primetime Emmy Award อีกด้วย

ซึ่งเจ้าตัวก็ยังกลับมารับบทบาทเดิมในฉบับหนังอีกมากมาย Star Trek: Generations ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537), Star Trek: First Contact ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539), Star Trek: Insurrection ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541), Star Trek: Nemesis ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) และซีรีส์ Star Trek: Picard ค.ศ. 2020-2022 (พ.ศ. 2563-2565) จนกลายเป็นเหมือนบทบาทประจำตัวเขาไปแล้ว

อีกหนึ่งบทบาทที่กลายเป็นที่จดจำเมื่อนึกถึงชายคนนี้ คือบทบาทมนุษย์กลายพันธุ์ผู้มีพลังจิตแข็งกล้า Professor X หรือ Charles Xavier แห่งแฟรนไชส์ X-Men โดยเขาเริ่มรับบทนี้มาตั้งแต่ X-Men ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543), X-2: X-Men United ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), X-Men: The Last Stand ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), X-Men Origins: Wolverine ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), X-Men: Days of Future Past ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) และรับบทบาทนี้ครั้งสุดท้ายใน Logan ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560)

The Lion in Winter ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) คือหนังทางทีวี ที่ Stewart ได้แสดงเอาไว้อย่างยอดเยี่ยม จนส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 2 รวมถึงเข้าชิงรางวัล Primetime Emmy Awards เป็นครั้งที่ 2 และเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีกครั้งในเรื่อง Blunt Talk ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558)

และยังเข้าชิงรางวัล Primetime Emmy Awards อีก 2 ครั้งจาก Extras ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) และ Hamlet ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552)

นอกจากบทบาท Jean-Luc Picard และ Charles Xavier เขายังแสดงหนังอีกมากมายหลายบทบาท อีกเกินกว่า 100 เรื่องเลยทีเดียว และถึงแม้เขาจะไม่ใช่พระเอกซะทีเดียว แต่เขาคือตัวละครสำคัญในหลาย ๆ เรื่องที่ส่งผลกระทบกับเรื่องราวไม่แพ้ตัวละครเอกเลยทีเดียว

ในปี ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) เขาได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นอัศวินแห่งจักรวรรดิอังกฤษ กับการเป็นเกียรติในการรับใช้ประเทศในฐานะนักแสดง

HARRISON FORD

Harrison Ford เกิดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ. 1942 (พ.ศ. 2485) ที่ Chicago, Illinois เขาเป็นนักแสดงชาวอเมริกันมากความสามารถ ที่รับบทดัง ๆ มาแล้วมากมาย

Ford ได้เริ่มต้นการแสดงครั้งแรกในหนังเรื่อง Dead Heat on a Merry-Go-Round ค.ศ. 1966 (พ.ศ. 2509) แต่ยังไม่ได้เครดิต จนกระทั่งต่อมาเขาถึงได้รับเครดิตครั้งแรกในเรื่อง A Time For Killing ค.ศ. 1967 (พ.ศ. 2510)

แต่บทบาทที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักและสร้างชื่อเป็นใบเบิกทางให้เขาในฐานะนักแสดงคือบทบาท Han Solo จาก Star Wars ค.ศ. 1977 (พ.ศ. 2520)

ต้องขอบคุณ George Lucas ที่เห็นแววการแสดงของเขา เขาได้ให้ Ford อ่านบทของดาราที่ได้มาแคสต์คนอื่นๆ ในบท Han Solo แต่หลังจากได้อ่านบท George ถูกอกถูกใจ และเห็นแววแจ้งเกิด และนั่นคือบทบาทเปลี่ยนชีวิตของ Harrison Ford เลยทีเดียว

ต่อมาเขาได้เล่นเป็นพระเอกนักผจญภัยที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จักอย่าง Indiana Jones นั่นยิ่งเป็นตัวจุดประกายให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังแบบทวีคูณเข้าไปอีก ตามมาด้วยหนังไซไฟที่มาก่อนกาลอย่าง Blade Runner ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) กับบทบาทของ Rick Deckard

แต่ก็มีอีกยอดผลงานนึงที่สร้างชื่อให้เขาไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ เลยก็คือ บทบาท John Book จากเรื่อง Witness ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) ที่ส่งผลให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

Harrison Ford ได้แสดงในวงการอีกมากมายหลายเรื่องและจนถึงทุกวันนี้ ตัวเขาเองก็ยังคงฝากผลงานแสดงให้เราได้เห็นกันบ้างประปราย ล่าสุดเพิ่งผ่านพ้นไปกับ The Call of the Wild ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) แถมในอนาคตยังมีผลงานของเขาให้เราได้ติดตามกัน กับการกลับมารับบท Indiana Jones ใน Indiana Jones 5 ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

นับว่าเป็นนักแสดงคนนึงที่สร้างภาพจำและเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ในบทบาทที่เขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม ถ้าพูดถึง Han Solo, Indiana Jones หรือ Rick Deckard แน่นอนว่า ใครต่อใครหลายคนก็คงจะติดภาพ Harrison Ford กับการแสดงของเขาอย่างแน่นอน

นักแสดงผู้สร้างภาพจำและกลายเป็นไอค่อนในหนังที่เขาแสดง - Harrison Ford

KEN JEONG

Kendrick Kang-Joh Jeong เกิดวันที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) ที่ Detroit, Michigan ประเทศอเมริกา เขาเป็นคนอเมริกาแต่กำเนิด ส่วนพ่อแม่ของเขาเป็นคนเกาหลี

.Jeong เริ่มสนใจทางด้านการแสดงเมื่อเรียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัยที่ Duke University เขาสนใจที่จะเรียกเอกการละคร ในขณะที่ยังคงเรียนหลักสูตรเตรียมแพทย์ไปด้วย จนกระทั่งเขาเรียนจบในปี ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) และเรียนจบปริญญาโทใน UNC School of Medicine ในปี ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) ในช่วงฤดูร้อนก่อนเข้าเรียนแพทย์ เขาก็ได้เข้าเรียนวิชาการละครที่มหาวิทยาลัย California, Los Angeles (UCLA)

เขาได้ก้าวเข้าสู่วงการครั้งแรกในขณะที่กำลังเป็นนักศึกษาแพทย์อยู่ที่ North Carolina เขาได้เริ่มแสดงเดี่ยวไมโครโฟนในผับและบาร์หลายที่ จนได้มีโอกาสแสดงครั้งแรกในซีรีส์ The Big Easy ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) และนั่นนำเขาก้าวเข้าสู่นครแห่งดารา Los Angeles

ในขณะที่อยู่ LA เจ้าตัวก็ได้ประกอบวิชาชีพแพทย์มาหลายปีในฐานะแพทย์อายุรกรรมที่โรงพยาบาล Kaiser Permanente และยังคงแสดงเดี่ยวไมโครโฟนในผับอยู่ด้วย จนมันนำให้เขาได้มีโอกาสแสดงในหลายเรื่อง ทั้ง Black Jaq ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) และซีรีส์สร้างชื่อให้เขาอย่าง The Office ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Entourage ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) และ Curb Your Enthusiasm ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550)

จนในที่สุดเขาก็ได้เล่นหนังโรงครั้งแรกในเรื่อง Knocked Up ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) และนี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาเปลี่ยนจากวิชาชีพแพทย์มาเป็นนักแสดงอย่างเต็มตัว อย่างไรก็ตามเขายังมีใบอนุญาตทางการแพทย์และได้ช่วยเหลือปัญหาฉุกเฉินต่าง ๆ ทางการแพทย์ในระหว่างการแสดงและในกองถ่ายด้วย

หลายคนรู้จักและจดจำเขามาจากไตรภาค The Hangover ค.ศ. 2009, 2011, 2013 (พ.ศ. 2552, 2554, 2556)

ชื่อเสียงของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับผลงานที่มากขึ้น ทั้ง, Pineapple Express ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Despicable Me ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Transformers: Dark of the Moon ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Zookeeper ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), The Muppets ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Pain & Gain ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Despicable Me 2 ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Turbo ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Crazy Rich Asians ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Then Came You ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Avengers: Endgame ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Lady and the Tramp ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), My Spy ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563), Scoob! ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ล่าสุดกับผลงานอย่าง Tom and Jerry ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) และ Boss Level ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) รวมถึงซีรีส์ Bob's Burgers ค.ศ. 2012-2021 (พ.ศ. 2555-2564)), Bless the Harts ค.ศ. 2020-2021 (พ.ศ. 2563-2564), The Casagrandes ค.ศ. 2019-2021 (พ.ศ. 2562-2564)

นักแสดงมากความสามารถ มีเอกลักษณ์ชัดเจน เรียกเสียงหัวเราะได้ทุกเรื่องที่แสดง เป็นทั้งตลกและแพทย์ เขาคือ Ken Jeong

15 กรกฎาคม

FOREST WHITAKER

Forest Steven Whitaker เกิดวันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ. 1961 (พ.ศ. 2504) ที่ Longview, Texas ประเทศอเมริกา

ครอบครัวของ Whitaker ย้ายมายัง Los Angeles ในปี ค.ศ. 1965 (พ.ศ. 2508) ซึ่งตัวของ Whitaker ได้มีทักษะทางด้านกีฬาและทำให้ได้รับทุนนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ตัดสินใจเข้าเรียนที่ USC และได้โฟกัสไปที่ดนตรีกับการมองหาทุนเรียนต่อ และมันก็ทำให้เขาได้ทุนไปเรียนต่อทางด้านการแสดงที่ Berkeley

Whitaker ได้แสดงครั้งแรกในซีรีส์เรื่อง Making the Grade ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) และได้แสดงหนังครั้งแรกเมื่อตอนเขาอายุได้ 21 ปี ในหนังคอเมดี้เรื่อง Fast Times at Ridgemont High ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) และตามมาด้วยหนังอย่าง Vision Quest ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528)

ในระหว่างนั้นเขาก็มีผลงานทางซีรีส์อีกด้วย ทั้ง Cagney & Lecey ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526), Diff'rent Strokes ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) และ North and South ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528)

แต่หนังที่ทำให้เขากลายเป็นที่น่าจับตามองคือเรื่อง The Color of Money ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) และนั่นก็นำพาให้เขาได้รับบทในหนังเกรด A อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Platoon ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529), Stakeout ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530), Good Morning, Vietnam ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) และ Bird ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ซึ่งในเรื่องนี้ทำให้เขาคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองคานส์อีกด้วยและได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งแรกในชีวิต

หลังจากนั้นเราก็ได้เห็นผลงานของเขาอีกมากมาย The Crying Game ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), Species ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538), The Twilight Zone ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), Panic Room ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), Phone Booth ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), ซีรีส์ ER ค.ศ. 2006-2007 (พ.ศ. 2549-2550), Vantage Point ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Taken 3 ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Southpaw ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Rogue One ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Black Panther ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), How It Ends ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) และฝากผลงานล่าสุดเอาไว้ในซีรีส์ Godfather of Harlem ค.ศ. 2019-2021 (พ.ศ. 2562-2564)

และเจ้าตัวเคยฝากผลงานอันยอดเยี่ยมสุด ๆ ในชีวิตการแสดงเอาไว้ในบทบาท Idi Amin จากเรื่อง The Last King of Scotland ที่ส่งให้เจ้าตัวคว้ารางวัลออสการ์และคว้ารางวัลลูกโลกทองคำอีกด้วย

YAHYA ABDUL-MATEEN II

Yahya Abdul-Mateen II เกิดวันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) ที่ New Orleans, Louisiana ประเทศอเมริกา

เขาเรียนจบจาก University of California ด้วยปริญญาสาขาสถาปัตยกรรมศาสตร์ และหลังจากนั้นก็ทำงานเป็นนักวางผังเมืองใน San Francisco

หลังจากถูกเลิกจ้าง เขาก็ได้ใช้โอกาสนี้ไปเข้าเรียนการละครที่ New York University Tisch School of the Arts, Harvard Graduate School of Arts and Sciences และ Yale School of Drama จนกระทั่งเขาเรียนจบจาก Yake ด้วยปริญญาด้านศิลปศาสตรมหาบัณฑิตและได้ก้าวเข้ามาเป็นนักแสดงละครเวที

จุดเริ่มต้นในการแสดงของเขาคือการได้ร่วมแสดงในซีรีส์ของ Baz Luhrmann เรื่อง The Get Down ค.ศ. 2016-2017 (พ.ศ. 2559+2560) และได้รับเสียงชื่นชมมากมาย

หลังจากนั้นเขาก็เริ่มมีผลงานมากขึ้น ทั้งใน Sidney Hall ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Baywatch ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), The Greatest Showman ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), First Match ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Boundaries ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), ซีรีส์ The Handmaid's Tale ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) และเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากการแสดงในบทบาท Manta จากเรื่อง Aquaman ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561)

และก็ฝากฝีมือการแสดงอันยอดเยี่ยมเอาไว้ใน Us ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), ซีรีส์ Black Mirror ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ตามมาด้วยการคว้ารางวัล Primetime Emmy Awards จากซีรีส์ Watchmen ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

ล่าสุดมีผลงานของเขาให้เราได้เห็นกันไปกับ All Day and a Night ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และ The Trail of the Chicago 7 ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) 

รวมทั้ง Candyman ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), The Matrix ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Ambulance ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Aquaman and the Lost Kingdom ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) และ Furiosa ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566)

16 กรกฎาคม

WILL FERRELL

John William Ferrell เกิดวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1967 (พ.ศ. 2510) ที่ Irvine, California ประเทศอเมริกส

Ferrell เริ่มสนใจการแสดงมาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย ซึ่งทุกเช้าก่อนเข้าเรียนเขาจะปลอมเสียงคอยประกาศเสียงตามสาย ต่อมาเขาได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของชมรมการแสดงที่ Los Angeles ซึ่งทักษะการใช้เสียงของเขาก็ทำให้เขาได้ไปพากย์การ์ตูนเรื่อง The Oblongs ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) อีกด้วย

จุดเริ่มต้นการแสดงของเขาคือการได้ไปแสดงในซีรีส์ On Our Own ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) และปรากฏตัวในซีรีส์อีกมากมายตลอดยุค ค.ศ. 1990s (พ.ศ. 2533-2542) แต่บทบาทที่สร้างชื่อให้กับเขาจริง ๆ คือการแสดงใน Saturday Night Live ค.ศ. 1995-2018 (พ.ศ. 2538-2561) ที่ในปี ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) มันส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัล Primetime Emmy Awards อีกด้วย

Ferrell เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นทำให้มีผลงานตามมาอีกมากมาย ทั้ง Zoolander ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Elf ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Anchorman: The Legend of Ron Burgundy ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), The Other Guys ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Megamind ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), ซีรีส์ The Office ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Anchorman 2: The Legend Continues ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), The Lego Movie ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Get Hard ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Daddy's Home ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Zoolander 2 ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Daddy's Home 2 ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560)

นอกเหนือจากเข้าชิง Primetime จาก Saturday Night Live แล้ว เจ้าตัวยังเข้าชิงอีกหลายครั้ง รวมถึงคว้าไป 3 ครั้ง จากการแสดงใน Live in Front of a Studio Audience: Norman Lear's 'All in the Family' and 'The Jeffersons' ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Live in Front of a Studio Audience: 'All in the Family' and 'Good Times' ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และ Succession ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561)

แน่นอนว่าผลงานของเขายังมีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง The Shrink Next Door ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Spirited ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Strays ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566), Barbie ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2565) และอีกมากมาย

17 กรกฎาคม

DAVID HASSELHOFF

David Michael Hasselhoff เกิดวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1952 (พ.ศ. 2495) ที่ Baltimore, Maryland ประเทศอเมริกา 

การแสดงครั้งแรกของ David เริ่มต้นขึ้นเมื่อเขาอายุได้ 7 ปีเท่านั้น เขาเริ่มเข้าเรียนการแสดง, การร้องเพลง และการเต้นด้วย แต่เมื่อเขาได้แสดงบนเวทีต่อหน้าสาว ๆ เขากลับมีความรู้สึกเขินอาย เพราะเขาเป็นคนที่มีรูปร่างผอมสูง แต่เมื่อเขาได้แสดงเขาก็ทำได้ดี

ชาวอเมริกันเริ่มรู้จักเขากับบทบาท Dr. Snapper Foster ในซีรีส์ The Young and the Restless ค.ศ. 1973 (พ.ศ. 2516)

และแจ้งเกิดกับตัวเองสุด ๆ กับบทบาทสุดเท่ Michael Knight ในซีรีส์ Knight Rider ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) มันส่งให้เขาได้รับรางวัล People's Choice Award ทั้งตัวเขาและซีรีส์นับว่าประสบความสำเร็จมากมาย และจากความสำเร็จใน Knight Rider ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) ส่งให้ชื่อเสียงของ David ดังกระฉ่อนไปทั่ววงการ

หลังจากซีรีส์ Knight Rider จบลง David ก็ได้ไปอัดเทปกับทางยุโรป จนในปี ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) เขาได้ปล่อยเพลง Looking for Freedom จนมันติดชาร์ตของประเทศเยอรมันอันดับ 8 ประจำสัปดาห์เลยทีเดียว จนทำให้เขาได้เล่นคอนเสิร์ตและปล่อยอัลบั้ออกมาอีกถึง 9 อัลบั้มเลยทีเดียว

David ก็ได้กลับมาแสดงซีรีส์อีกครั้ง กับบทบาท Mitch Buchannon ในซีรีส์ Baywatch ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) และนั่นก็ทำให้ชื่อเสียงทางด้านการแสดงของเขากลับมาโด่งดังอีกครั้ง ถึงแม้ว่าซีรีส์จะได้รับเสียงชื่นชมมากมายจากบทที่สนุกและตัวละครของ David ทางค่ายก็ได้ประกาศยกเลิกซีรีส์นี้กลางคันหลังจากปล่อยฉายไปเพียงซีซั่นเดียวเท่านั้น จนทำให้ตัว David และหุ้นส่วนของซีรีส์นี้ต้องชุบชีวิตซีรีส์นี้ขึ้นมาอีกครั้งในปี ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) ผลปรากฏว่ามันดังเป็นพลุแตก เข้าฉายใน 140 กว่าประเทศ คนดูเป็นพันล้านในแต่ละสัปดาห์ หลังจากนั้น David ก็กลายเป็นดาราแถวหน้าแห่งแวดวงการแสดงไปโดยปริยาย

หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ได้แสดงหนังและซีรีส์มากมายหลายบทบาท ไปรับเชิญบ้าง แสดงนำบ้าง สมทบบ้าง ตัวประกอบบ้าง แต่เขาก็ยังแสดงมาอย่างต่อเนื่องยาวมาจนถึงปัจจุบัน ล่าสุดก็ได้ไปปรากฏตัวในซีรีส์ Young Sheldon ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), The Helgason Show ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

David เป็นหนึ่งในนักแสดงที่ชอบเล่นกีฬามาก เขาทั้งชอบดำน้ำ, ปีนเขา, เทนนิส, จอกกิ้ง หลายคนมักจะเห็นเขาไปดูกีฬาในที่ต่าง ๆ ทั้งในฟุตบอลโลก, NBA, Olympics, Indy 500, Kentucky Derby เขาเคยไปเรียนโดดร่มกับทางทหารอเมริกาด้วย แถมเจ้าตัวยังชอบท่องเที่ยวไปยังที่ต่าง ๆ ทั้งออสเตรเลีย, แอฟริกา, เอเชีย, ยุโรป หรือแถบแคริบเบียนเขาก็ไปมาหมดแล้ว ที่สำคัญเขายังใช้เวลาหลายครั้งหลายคราในการไปเยี่ยมเด็ก ๆ ที่โรงพยาบาลทั่วโลก ตัวเขาเองได้มีโครงการการกุศล Race For Life เพื่อเด็กที่ป่วยหนักและพิการในอเมริกา

18 กรกฎาคม

VIN DIESEL

Vin Diesel มีชื่อจริงว่า Mark Sinclair เกิดวันที่ 18 กรกฎาคม ค.ศ. 1967 (พ.ศ. 2510) ที่ Alameda County, California ประเทศอเมริกา 

เขาเกิดมาพร้อมพี่น้องฝาแฝดชื่อว่า Paul Vincent เขามีแม่เป็นโหราจารย์และนักจิตวิทยา และพ่อเลี้ยงที่เป็นอาจารย์สอนการแสดงและผู้จัดการโรงละครใน New York City Greenwich Village และตัวเขาไม่เคยรู้จักพ่อที่แท้จริงของเขาเลยว่าเป็นใคร

จุดเริ่มต้นการแสดงของเขาเกิดขึ้นจากโอกาสแบบไม่คาดฝัน เมื่ออายุได้ 7 ขวบ เขาและเพื่อนได้บุกเข้าไปในโรงละครแห่งหนึ่ง แต่ไม่นานก็มีผู้หญิงมาหยุดพวกเขาและเสนอบทให้พร้อมเงินค่าจ้างอีก 20 ดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเงื่อนไขว่าพวกเขาต้องมาที่นี่ทุกวันหลังเลิกเรียน หลังจากนั้นเขาก็มาตลอดเริ่มมีอาชีพ เริ่มก้าวหน้า จนทำให้ได้เข้าไปแสดงในโรงละครที่ New York ที่ดูแลโดยพ่อเลี้ยงของเขา

เมื่ออายุได้ 17 ปี เขาเริ่มเล่นกีฬา จนร่างกายเริ่มใหญ่โต และได้เป็นคนคุมคลับที่ New York จนได้รับเงินพิเศษมาบ้าง นั่นแหละคือช่วงเวลาที่เขาเปลี่ยนชื่อจาก Mark Sinclair มาเป็น Vin Diesel

ในระดับชั้นมัธยมปลาย เขาก็ได้ลาออกกลางคันเสียก่อน เพราะเขาต้องออกไปเดินตามหาความฝันในการเป็นนักแสดงที่ Hollywood แต่การเป็นนักแสดงให้กับทางโรงละครไม่ได้สร้างความประทับใจให้กับคนในวงการ Hollywood เลยแม้แต่น้อย 

หลังจากดิ้นรออยู่เป็นปีในนครแห่งดารา เขาก็ท้อใจและกลับไปตั้งต้นใหม่ที่ New York แม่ของเขาได้มอบหนังสือให้เล่มนึงชื่อว่า Feature Films at used Car Prices เขียนโดย Rick Schmidt หลังจากได้อ่านหนังสือนั่น ทำให้เขาได้ตระหนักว่าเขาสามารถสร้างอาชีพเองได้ และเขาสามารถทำหนังเองได้ 

ไม่นานเขาก็เริ่มเขียนบทหนังสั้นโดยอิงมาจากประสบการณ์ในการเป็นนักแสดงของเขา มันมีชื่อเรื่องว่า Multi-Facial ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) เขาได้ถ่ายทำหนังเรื่องนี้ใช้เวลาน้อยกว่า 3 สัปดาห์กับทุนสร้างเพียง 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 95,058 บาท) จนมันได้ไปเข้าฉายที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ในปี ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) ด้วย แต่เสียงวิจารณ์ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ 

หลังจากเรื่องนั้นความมั่นใจของ Vin Diesel ก็เริ่มกลับมา เขาได้เดินทางไปยัง Los Angeles อีกครั้ง และคราวนี้เขาใช้เงินกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1 ล้าน 5 หมื่นบาท) ทำการตลาดทางโทรศัพท์ ลงทุนสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง จนได้แสดงหนังเรื่องแรก Strays ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) ซึ่ง 6 เดือนหลังจากถ่ายทำเสร็จ ตัวหนังก็ได้ไปฉายที่เทศกาลหนัง Sundance Film Festival แถมยังได้รับเสียงวิจารณ์ที่ดีอีกด้วย แต่ถึงจะอย่างนั้นมันก็ยังไม่ทำเงินมากเท่าที่หวัง 

Vin Diesel ท้อหนักกว่าเดิม เข้าเดินทางกลับ New York ด้วยความผิดหวัง แต่ก็มีความหวังอย่าลิบหรี่ว่าจะมีโทรศัพท์เข้ามาเพื่อทำให้ฝันเป็นจริง 

และไม่นานฝันของเขาก็เป็นจริงขึ้นมา เมื่อพ่อมดแห่งวงการ Hollywood อย่าง Steven Spielberg ประทับใจเขาจากหนัง Multi-Facial ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) และทำให้เขาอยากไปพบกับ Vin Diesel เพื่อให้เขามารับบทแสดงในหนัง Saving Private Ryan ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) และจากเรื่อง Multi-Facial ก็เรียกงานให้เขาอีก เมื่อ Brad Bird ได้เห็นดูหนังเรื่องนั้น เขาจึงตัดสินใจที่จะให้ Vin Diesel มาพากย์เสียงแสดงนำในหนังของเขาเรื่อง The Iron Giant ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542)

และนับตั้งแต่นั้น อาชีพทางการแสดงของเขาก็เริ่มเจริญรุ่งเรืองขึ้น จนทำให้เขาได้แสดงนำในหนังเรื่องแรก กับบทบาท Richard B. Riddick ในหนังไซไฟเรื่อง Pitch Black ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) จากบทบาทนี้ชื่อเสียงของเขาเป็นที่น่าจับตาของคนทั้งในและนอกวงการ Hollywood ถึงกับขนาดมีแฟน ๆ ที่ยอมอุทิศตนให้เลยทีเดียว

หลังจากนั้นหนัง Blockbusters อีกหลายเรื่อง ก็มีชื่อของ Vin Diesel ปรากฏอยู่มากมาย xXx ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), The Pacifier ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Find Me Guilty ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Babylon A.D. ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Guardians of the Galaxy เจ้า Groot, The Last Witch Hunter ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Bloodshot ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

และหนึ่งในแฟรนไชส์ที่สร้างชื่อให้เขาจนมันกลายเป็นภาพลักษณ์ประจำตัวมาจนถึงทุกวันนี้ บทบาท Dominic Toretto ในแฟรนไชส์รถซิ่ง (ที่หลัง ๆ อาจจะเกินกว่าหนังรถแข่งไปแล้ว) กับ Fast & Furious ที่เดินทางมาถึง 9 ภาค รวมถึงได้เห็นกันแน่นอนในภาคปิด Fast 10 และปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่า ถ้าไม่มี Vin Diesel ก็คงจะเรียก Fast ไม่ได้อย่างเต็มปาก 

แถมเจ้าตัวยังมีผลงาน รองรับเขาอีกมากมาย ทั้ง ARK: The Animated Series ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), The Guardians of the Galaxy Vol. 3 ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566), xXx 4 

KRISTEN BELL

Kristen Anne Bell เกิดวันที่ 18 กรกฎาคม ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) ที่ Huntington Woods, Michigan ประเทศอเมริกา

Bell คือนักแสดงและนักร้อง เธอค้นพบความสามารถของเธอตั้งแต่ยังเด็ก ในช่วงปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) เธอได้ไปออดิชั่นครั้งแรกในชีวิตและคว้าบท Raggedy Ann กับ Andy และแม่ของเธอก็ได้ติดต่อหาตัวแทนให้เธอตั้งแต่เธออายุเพียง 13 ปี และก็ทำให้เธอได้ไปถ่ายโฆษณาลงหนังสือพิมพ์และเล่นโฆษณาทางทีวีด้วย ในช่วงเวลาเดียวกันนี้เธอยังได้เข้าเรียนการแสดงแบบส่วนตัว จนได้รับบทเล็ก ๆ แต่ไม่ได้เครดิตใน Polish Wedding ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541)

ในตอนเรียนระดับมัธยมปลาย เธอก็ได้เป็นส่วนหนึ่งในชมรมการละครและดนตรี เธอชนะการออดิชั่นคว้าบท Dorothy ในละครเวทีเรื่อง The Wizard of Oz 

หลังจากเรียนจบมัธยมปลายเธอย้ายไปยัง New York เพื่อเข้าเรียนที่ Tisch School of the Arts เรียนเกี่ยวกับการแสดงละครเวที

ในปี ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) Bell ก็ออกจากมหาวิทยาลัย เพื่อมารับบท Becky ใน Tom Sawyer และในปีเดียวกันนั้นเธอก็ได้เครดิตเรื่องแรกจากหนังเรื่อง Pootie Tang ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) แต่ฉากที่เธอแสดงก็ถูกตัดออก เธอปรากฏอยู่แค่เพียงชื่อในเครดิตเท่านั้น 

ในปี ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) Bell ได้ปรากฏตัวในละครบรอดเวย์เรื่อง The Crucible แสดงร่วมกับ Liam Neeson รวมถึงบทเล็ก ๆ ใน People Are Dead ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) และให้เสียงพากย์ใน Neko no ongaeshi ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)

หลังจากนั้นเธอก็ย้ายมาอยู่ที่ Los Angeles, California และปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์บ้างในซีรีส์บ้างฐานะบทรับเชิญ และยังคงควานหาบทบาทที่เธอจะได้แสดงจริง ๆ อยู่ 

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) Bell ก็ได้แสดงหนังทางทีวีเรื่อง Gracie's Choice ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) ที่เรตติ้งดีไม่ใช่น้อย และในปีเดียวกันเธอยังคว้าบทใน Veronica Mars ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) แสดงยาวมาจนถึงปี ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2552) เลยทีเดียว ในระหว่างนั้นก็มีผลงานของเธอออกมาอีกมากมาย 

ในปี ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) ชื่อเสียงของ Bell ก็กลายเป็นที่ประจักษ์แก่คนทั้งโลกกับการให้เสียงพากย์เจ้าหญิง Anna แห่ง Arendelle ในหนังอนิเมชันของ Disney เรื่อง Frozen ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) เสียงพูดสุดน่ารักและเสียงร้องอันไพเราะ ทั้งในเพลง For the First Time in Forever, Love is an Open Door, Do You Want to Build a Snowman ล้วนแล้วแต่ทำให้หลากต่อหลายคนชื่นชอบตัวละครนี้ ต้องยกเครดิตให้เธอเลยจริง ๆ และตัวหนังก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก จนมีภาคต่อออกมาใน Frozen II ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

ผลงานของเธอยังมีมาให้เห็นต่อเนื่องทั้งใน Gossip Girl ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), ซีรีส์ Do, Re & Mi ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), ซีรีส์ The Woman in the House, ซีรีส์ Ultra City Smiths ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), The People We Hate at the Wedding และ Molly and the Moon

19 กรกฎาคม

BENEDICT CUMBERBATCH

Benedict Cumberbatch มีชื่อจริงว่า Timothy Carlton Cumberbatch (ชื่อยาวโคตร) เกิดวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519) ที่ Hammersmith, London ประเทศอังกฤษ 

ด้วยความที่เขามีพ่อและแม่เป็นนักแสดงทั้งคู่ ตัวเขาเองจึงมีความสนใจทางด้านการแสดงตั้งแต่เด็ก ๆ เขาได้เข้าเรียนที่ Brambletye School และ Harrow School ที่นั่น เขาได้ทุนทางด้านศิลปะ แถมยังเป็นที่ที่การแสดงของเขาเริ่มต้นขึ้น เพราะหลังจากเขาเรียนจบ เขาใช้เวลาเป็นปีไปเป็นครูอาสาสอนภาษาอังกฤษในวัดที่ทิเบต และหลังจากเขากลับมาเขาจึงได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยสอนการแสดง Manchester University และสานต่อความฝันฝึกทักษะทางด้านการแสดงที่ London Academy of Music and Dramatic Art จนเรียนจบสาขาการแสดงมาโดยตรง ซึ่งในระหว่างที่เขาเรียนจบนั้น เขาก็มีตัวแทนติดต่อเขามาเรียบร้อย

Cumberbatch เริ่มต้นจากการแสดงในโรงละคร, ทีวี, หนังบ้าง และละครทางวิทยุ แต่บทบาทอันน่าจดจำของเขา ที่ได้สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการ Hollywood หันมาจับจ้องชายคนนี้ นั่นคือบทบาท Stephen Hawking จากเรื่อง Hawkings ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) 

และชื่อเสียงนั้นก็ส่งให้เขาได้รับบทบาทอีกมากมาย จนกระทั่งดังเปรี้ยงปร้างอีกครั้ง เมื่อเขาได้รับบท Sherlock Holmes ในซีรีส์ Sherlock ค.ศ. 2010-2017 (พ.ศ. 2553-2560) การแสดงของเขากลายเป็นภาพลักษณ์และเอกลักษณ์ประจำตัวของเขาไปโดยปริยาย แถมยังส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำในปี ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) อีกด้วย

ในปี ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) เขาได้แสดงหนังที่ได้เข้าชิงออสการ์ถึง 2 เรื่อง นั่นก็คือ War House และ Tinker Tailor Soldier Spy 

ชื่อเสียงของเขาโด่งดังขึ้นเรื่อย ๆ จนได้รับบทในหนังใหญ่อีกหลายเรื่อง ทั้ง Star Trek Into Darkness ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), 12 Years of Slave ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), The Fifth Estate ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), August: Osage County ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) 

และบทบาทที่หลายต่อหลายคนยกให้เขาแสดงได้ดีที่สุดนั่นคือบทบาท Alan Turing จากเรื่อง The Imitation Game ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ และที่สำคัญเขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งแรกในชีวิต 

ในปี ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) Cumberbatch ได้รับเครื่องเครื่องราชอิสริยาภรณ์อังกฤษ จากราชินี Elizabeth ที่ 2 สำหรับการแสดงและการกุศลของเขา

ต่อมาเขาก็ได้รับบทบาทที่ทุกคนต่างจดจำและชื่นชอบมาจนถึงทุกวันนี้ นั่นก็คือบทบาท Dr. Stephen Strange หรือ Doctor Strange ใน Doctor Strange ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) ซึ่งก็ได้กลายมาเป็นตัวละครสำคัญแห่งจักรวาล MCU แถมยังมีภาคต่อกับ Doctor Strange in the Multiverse of Madness ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) 

ในปี ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) เขาได้แสดงในซีรีส์ Patrick Melrose ซึ่งก็ส่งให้เขาเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีกเป็นครั้งที่ 3 ด้วย 

Cumberbatch ยังคงแสดงในวงการมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ฝากผลงานไว้ใน The Courier ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563), The Mauritanian ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), The Power of the Dog ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), ซีรีส์ What If...? ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

ยังคงมีบทบาทสำคัญใน Spider-Man: No Way Home ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Doctor Strange in the Multiverse of Madness ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) ที่ยังคงโลดแล่นอยู่ในจักรวาล MCU รวมถึงมีผลงานอื่น ๆ อีกมากให้เราได้ติดตามกัน

หนึ่งในนักแสดงผู้มากไปด้วยเสน่ห์ ความสามารถ และมักจะได้รับบทบาทอัจฉริยะ 
- Benedict Cumberbatch 

20 กรกฎาคม

SANDRA OH

Sandra Oh มีชื่อแต่กำเนิดว่า Sandra Miju Oh เกิดวันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) ที่ Nepean, Ontario ประเทศแคนาดา พ่อแม่เป็นคนเกาหลี

จุดเริ่มต้นอาชีพอาชีพการแสดงของเธอคือการเป็นนักเต้นบัลเลต์และได้เข้าเรียนที่โรงเรียนสอนการแสดง National Theatre School ใน Montreal และหลังจากนั้นเธอก็ได้ไปแสดงละครเวทีที่ London 

จุดเริม่ต้นในการแสดงของเธอคือการแสดงหนังสั้นเรื่อง The Journey Home ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) ตามมาด้วยการแสดงซีรีส์ Denim Blues ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532), หนังทางทีวี School's Out! ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), ซีรีส์ E.N.G. ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) และหนังทางทีวีเรื่อง The Dairy of Evelyn Lau ที่เธอคว้าบทมาได้จากผู้สมัครกว่า 1,000 คน

หลังจากนั้นเธอก็มีผลงานอีกมากมายจวบจนถึงปัจจุบัน ฝากผลงานการแสดงอันยอดเยี่ยมไว้หลายเรื่อง ทั้ง Under the Tuscan Sun ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Sideways ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Grey's Anatomy ค.ศ. 2005-2021 (พ.ศ. 2548-2564), Killing Eve ค.ศ. 2018-2022 (พ.ศ. 2561-2565) 

การแสดงของเธอเคยได้เข้าชิงรางวัล Primetime Emmy Awards มากถึง 12 ครั้ง ซึ่ง 10 ใน 12 ครั้งนั้นคือการแสดงจากใน Grey's Anatomy และ Killing Eve

ล่าสุดเธอก็ได้ฝากผลงานไว้ในการให้เสียงพากย์อนิเมชันในเรื่อง Over the Moon ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563), Raya and the Last Dragon ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) และในอนิเมชันซีรีส์ Invincible ค.ศ. 2021-2022 (พ.ศ. 2564-2565), ซีรีส์ The Chair ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), อนิเมชัน Turning Red ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Umma และอนิเมชัน The Tiger's Apprentice ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566)

21 กรกฎาคม

ROBIN WILLIAMS

Robin William มีชื่อจริงว่า Robin McLaurin Williams หลาย ๆ คนรู้จักเขาในฐานะตลก และนักแสดง

เขาเกิดเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ค.ศ. 1951 (พ.ศ. 2494) ใน Chicago, Illinois ประเทศสหรัฐอเมริกา

เขาได้เริ่มการแสดงครั้งแรกกับการแสดง Stand-up Comedy ใน San Francisco และ Los Angelis ซึ่งที่แห่งนั้นทำให้เขาได้รับบท Mork หนึ่งในตัวละครตอนของซีรีส์ Happy Days ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517) จนต่อมาเขาก็สร้างชื่อเสียงโด่งดังจนได้แสดงนำในซีรีส์ Mork & Mindy ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521) ซึ่งแจ้งเกิดอย่างแท้จริง

ส่งผลให้ชนะรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในซีรีส์ตลกหรือเพลง (Best Actor in a Television Series - Comedy or Musical) และเข้าชิงในปีต่อมาจากซีรีส์นี้อีกด้วย

ตามมาด้วยแสดงนำในบท Popeye จากเรื่อง Popeye ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) ต่อมาเส้นทางในชีวิตการแสดงของเขาก็ดูสวยหรูและงดงามขึ้นทันที ค่ายหนังต่างก็อยากได้เขาไปแสดงในหนังของตัวเอง เขาจึงได้เล่นหนังชื่อดังหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น The World According to Garp ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 3636), Awakenings ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533), Hook ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534), Jumanji ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538), Bicentennial Man ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ยาวมาจนถึงศตวรรษที่ 21 ทั้ง ให้เสียงพากย์ใน Happy Feet ค.ศ. 2006, 2011 (พ.ศ. 2549, 2554), Night at the Museum ค.ศ. 2006, 2009, 2014 (พ.ศ. 2549, 2552, 2557) ทั้ง 3 ภาค

แต่ผลงานที่ประสบความสำเร็จที่สุดของเขาคือบทบาทใน Good Will Hunting ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) ที่ส่งเขาคว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Best Actor in a Supporting Role)

และได้ถูกเสนอเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Best Actor in a Leading Role) อีกหลายครั้ง ได้แก่ Good Morning, Vietnam ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) ที่เรื่องนี้ควบรางวัลลูกโลกทองคำด้วย, Dead Poets Society ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) ตามมาด้วย The Fisher King ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) ที่ถึงแม้จะแค่เข้าชิงออสการ์แต่ได้รางวัลจากเวทีลูกโลกทองคำ แถมยังคว้ารางวัลลูกโลกทองคำในเรื่อง Aladdin ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) กับการให้เสียงพากย์ยักษ์ Genie

และบทบาทที่สร้างเสียงหัวเราะจากเรื่อง Mrs. Doubtfire ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) และเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำจากอีกหลายเรื่องตลอดยุค ค.ศ. 80s-90s (พ.ศ. 2523-2542) เลยทีเดียว

แต่ถึงกระนั้น ตลกและดารามากฝีมือก็ไม่ได้ลืมตาดูโลกอีกต่อไป

เมื่อวันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) มีรายงานว่าพบศพ Robin Williams ในบ้านของเขาที่ Tiburon, California ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยสาเหตุการเสียชีวิตคือการผูกคอตาย จบชีวิตลงด้วยวัย 63 ปี

ช่วงแรกมีข่าวลือว่าเขาตายเพราะเป็นโรคซึมเศร้า แต่ต่อมาภรรยาของเขา Susan Williams ได้ออกมาเปิดเผยสาเหตุที่แท้จริงว่า เขาฆ่าตัวตายเพราะทรมานจากโรคร้ายต่าง ๆ ที่รุมเร้า ไม่ว่าจะเป็นโรคสมองเสื่อม พาร์กินสัน โรคบ้า และโรคจิตเภทต่าง ๆ

หลาย ๆ คนคงจะรู้สึกโชคดีที่ได้อยู่ทันดูผลงานการแสดงของเขาในขณะที่เขายังมีชีวิต แต่โชคร้ายเหลือเกินที่เขาต้องจากไปอย่างน่าใจหาย

รู้สึกยินดีและปลาบปลื้มว่าครั้งหนึ่งเคยมีนักแสดงที่สร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความประทับใจเอาไว้ให้โลกใบนี้ เขามีชื่อว่า Robin Williams

ผมคิดว่า คนที่เคยเศร้าที่สุดต่างก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะทำให้คนอื่น ๆ มีความสุข เพราะพวกเขารู้ว่าความรู้สึกว่าไร้ค่ามันเป็นยังไง และพวกเขาพยายามที่จะไม่ให้คนอื่น ๆ รู้สึกแบบนั้น

- Robin Williams

22 กรกฎาคม

DANNY GLOVER

Danny Glover มีชื่อแต่กำเนิดว่า Danny Lebern Glover เกิดวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1946 (พ.ศ. 2489) ที่ San Francisco, California ประเทศอเมริกา

เขาคือนักแสดง, ผู้อำนวยการสร้าง และคนใจบุญ ที่ใช้เวลาในฐานะนักแสดงทั้งบนจอ บนเวที มากกว่า 35 ปี

จุดเริ่มต้นการแสดงของเจ้าตัวจริง ๆ คือการได้แสดงในซีรีส์ B.J. and the Bear ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) และได้มาแสดงหนังครั้งแรกในเรื่อง Escape from Alcatraz ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) จนสร้างชื่อเสียงมีบทบาททั้งหนังและซีรีส์ตามมามากมาย

Glover ได้ฝึกทักษะการแสดงมากับทาง Black Actors Workshop ที่โรงละคร American Conservatory Theater จนได้เดบิวต์แสดงละครบรอดเวย์จนไปเตะตาผู้กำกับ Robert Benton ที่แคสให้เขาไปรับบทแสดงนำใน Places in the Heart ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527)

หลังจากนั้นไม่กี่ปีเขาก็ได้แสดงในอีก 2 หนังเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขา Best Pictures กับหนังของ Peter Weir เรื่อง Witness ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) และหนังของ Steven Spielberg เรื่อง The Color Purp[e ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) 

จนกระทั่งสร้างชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักมาจากบทบาทตำรวจที่ได้แสดงร่วมกับ Mel Gibson ในเรื่อง Lethal Weapon ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) ตัวหนังประสบความสำเร็จอย่างมากจนมีภาคต่อและ Glover ก็ร่วมแสดงในทุกภาคทั้ง Lethal Weapon 2 ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532), Lethal Weapon 3 ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), Lethal Weapon 4 ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541)

นอกเหนือจากนั้นก็ยังมีงานแสดงของเขาอีกกว่า 200 เรื่อง เคยเข้าชิงรางวัล Primetime Emmy Awards 4 ครั้งจากเรื่อง Mandela ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530), Lonesome Dove ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532), Fallen Angels ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) และ Freedom Song ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543)

และในอนาคตก็ยังมีงานของเขาให้เราได้เห็นกันอีก ทั้ง Killing Winston Jones, Press Play, Long Day Journey, American Dreamer, Saint Paul, Dionne, The Ninja He Will Rise, Prairie Bones และ The Lighthouse 

Glover ยังได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในงานการกุศลที่สนับสนุนความยุติธรรมทางเศรษฐกิจและการเข้าถึงการดูแลสุขภาพ การศึกษาในอเมริกาและแอฟริกา สำหรับความพยายามนี้ทำให้เขาดได้รับรางวัล DGA Honor ในปี ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549)

ในระดับสากล Glover ดำรงตำแหน่งทูตสันถวไมตรีในโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998-2004 (พ.ศ. 2541-2547) ที่โฟกัสประเด็นความยากจน, โรคภัยไข้เจ็บและการพัฒนาเศรษฐกิจในแอฟริกา, ละตินอเมริกา และแถบแคริบเบียน รวมถึงทำหน้าที่เป็นทูตของ UNICEF ด้วย

ในปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) Glover ได้ร่วมก่อตั้งบริษัท Louverture Films ที่จะทำการพัฒนาและผลิตหนังที่มีความเกี่ยวข้องทางประวัติศาสตร์, สังคม, มีมูลค่าทางการค้าและมีความสมบูรณ์ทางศิลปะ ที่เคยทำหนังคว้ารางวัล Grand Jury Prize ในปี ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) ที่งานเทศกาลหนัง Sundance และมีอีกมากมาย

WILLEM DAFOE

William J. Dafoe เกิดวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1955 (พ.ศ. 2498) ที่ Appleton, Wisconsin ประเทศอเมริกา

ผ่านผลงานการแสดงมามากกว่า 100 เรื่อง Willem Dafoe คือหนึ่งในแสดงที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลในเรื่องของความสามารถ, ความกล้าหาญ และการแสดงอันโดดเด่นตลอดในยุคของเขา กับการมีส่วนร่วมในหนังต่าง ๆ ทั่วโลก ทั้งหนังเล็กใหญ่ใน Hollywood รวมถึงหนังอิสระอีกมากมาย

ในปี ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) เขาได้รับบทในหนังของ Michael Cimino ในเรื่อง Heaven Gate ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) แต่ก็ถูกไล่ออก หลังจากนั้นเขาก็ได้ร่วมงานกับผู้กำกับมากฝีมือ ทั้ง James Wan, Robert Eggers, Kenneth Branagh Sam Raimi, Robert Rodriguez, Josh Boone และอีกมากมาย

ซึ่งจุดเริ่มต้นการแสดงของเขาเริ่มจากบทบาทในหนังเรื่อง The Loveless ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524) และนั่นคือจุดเริ่มต้นการสร้างผลงานอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Born on the Fourth of July ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532), American Psycho ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543), Spider-Man ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), Finding Nemo ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Once Upon a Time in Mexico ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Spider-Man 2 ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), The Aviator ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), xXx: State of the Union ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Mr. Bean's Holiday ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Spider-Man 3 ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Odd Thomas ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), The Grand Budapest Hotel ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), The Fault in Our Stars ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), John Wick ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Finding Dory ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) Death Note ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Murder on the Orient Express ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Aquaman ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), The Lighthouse ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และล่าสุดกับ The French Dispatch ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) และอีกมากมาย

ซึ่งเจ้าตัวเคยได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ 4 ครั้ง จากในเรื่อง Platoon ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529), Shadow of the Vampire ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543), The Florida Project ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) และ At Eternity's Gate ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) รวมถึงเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำจาก 3 เรื่องหลังเช่นกัน

มีผลงานของเขาอีกมาก ทั้ง Nightmare Alley ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), The Card Counter ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), The Northman ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Poor Things ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Inside, Tropico และ Dead for A Dollar 

และการกลับมาให้แฟน ๆ ได้หายคิดถึงในบท Norman Osborn/Green Goblin ใน Spider-Man: No Way Home ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

SELENA GOMEZ

Selena Gomez มีชื่อจริงว่า Selena Marie Gomez เกิดวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ที่ Grand Prairie, Texas ประเทศอเมริกา

เธอเป็นที่รู้จักในฐานะนักร้องนักแสดง ซึ่งผลงานแรกของเธอคือการได้แสดงในบท Gianna รายการทีวีเด็กชื่อดัง Barney & Friends ค.ศ. 2002-2004 (พ.ศ. 2545-2547) นั่นส่งให้เธอได้รับบทใน Spy Kids 3: Game Over ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Walker, Texas Ranger: Trial by Fire ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), House Broken ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) และมีผลงานอีกมากมาย

ต่อมา Gomez ย้ายมาอยู่อาศัยที่ Los Angeles, California ที่ส่งให้เธอได้รับบท Alex Russo ในซีรีส์ทาง Disney Channel เรื่อง Wizards of Waverly Place ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) รวมถึงได้แสดงใน Another Cinderella Story ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), พากย์เสียงอนิเมชันครั้งแรกใน Horton Hears a Who! ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) และร่วมแสดงกับเพื่อนวัยเด็ก Demi Lovato ใน Princess Protection Program ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552)

ในปี ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) Gomez ได้ปล่อยอัลบั้มเพลงแรกของเธอในนามวง Selena Gomez & The Scene ที่ได้อันดับ 9 บน Billboard 200 album charts ตามมาด้วยการปล่อยอีก 2 อัลบั้มในนามวงกับ และมีผลงานแสดงมาอย่างต่อเนื่องใน Monte Carlo ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Spring Breakers ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) และให้เสียงพากย์ใน Hotel Transylvania ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) Gomez ได้ปล่อยอัลบั้มเดี่ยวแรกของเธอในชื่อ Star Dance และเพลง Come & Get It ก็ส่งให้เธอติด 1 ใน 10 Billboard Hot 100 list อีกด้วย และแน่นอนว่างานแสดงเธอก็ไม่ได้ลดน้อยลงแต่อย่างใด เพราะเราก็ยังเห็นเธอแสดงทั้งใน Getaway ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Rudderless ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) และ Behaving Badly ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)

ในปี ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) เธอก็ได้ปล่อยอัลบั้มเดี่ยวที่ 2 ของเธอในชื่อ Revival ที่คราวนี้ติดอันดับ 1 บน Billboard 200 list เลยทีเดียว แถมงานแสดงที่มากขึ้น ทั้ง Hotel Transylvania 2 ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), The Fundamentals of Caring ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), In Dubious Battle ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) และ Neighbors 2: Sorority Rising ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559)

และล่าสุดในปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ก็ปล่อยอัลบั้ม Rare ติดอันดับ 1 บน Billboard 200 list อีกครั้ง และมีผลงานของเธอให้เห็นอยุ่กับ Dolittle ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

ซึ่งผลงานเพลงที่จุดกระแสอีกครั้งคือการที่เธอได้ร่วมงานกับ Black Pink ในเพลง Ice Cream ที่เกิดเป็นกระแสทั่วโลกเลยทีเดียว

ในอนาคตยังมีผลงานการแสดงของเธอให้เราได้เห็นอีก ทั้งการกลับมาให้เสียงพากย์ Mavis ใน Hotel Transylvania: Transformania ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), ซีรีส์ Only Murders in the Building ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) และ In the Shadow of the Mountian ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

นอกเหนือจากผลงานการแสดงและร้องเพลงแล้ว เธอได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตอายุน้อยที่สุดของ UNICEF ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) ในตอนนั้นเธอมีอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น

เธอเคยส่วนช่วยเหลือองค์กรการกุศล Raise Hope for Congo ที่ช่วยปลุกจิตสำนึกเกี่ยวกับความรุงแรงต่อผู้หญิงชาวคองโก

เคยคบกับ Justin Bieber และเคยออกเดทกับ The Weeknd ด้วยเช่นกัน

เป็นดารานักร้องคนแรกที่ได้ยอดผู้ติดตามบน Instagram ถึง 100 ล้าน

นิตยสาร Wonderlist's ได้จัดอันดับให้ Selena Gomez เป็นผู้หญิงที่มีใบหน้าที่งดงามที่สุดในโลก ประจำปี 2016

เป็นตัวของตัวเองเสมอ ไม่มีใครเป็นเราได้ดีกว่าเราอีกแล้ว

- Selena Gomez

23 กรกฎาคม

WOODY ALLEN

Woody Harrelson มีชื่อจริงว่า Woodrow Tracy Harrelson เกิดวันที่ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 1961 (พ.ศ. 2504) ที่ Midland, Texas ประเทศอเมริกา

Harrelson เรียนจบเอกการแสดงและภาษามาจากมหาวิทยาลัย Hanover College ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็ได้ใช้เวลาช่วงสั้น ๆ ทำงานที่โรงละคร New York

ไม่นานเขาก็ได้ถูกทาบทามให้มารับบท Woody ในซีรีส์ทางทีวีเรื่อง Cheers ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) ซึ่งมันได้กลายเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากและส่งให้ Harrelson ได้รับรางวัลและเข้าชิง Emmy หลายสมัยเลยทีเดียว

ในปี ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) เขาได้มารับบท Doc Hollywood ซึ่งเป็นหนังใหญ่เรื่องแรกของเขา และส่งให้เขาได้รับบทบาทต่อมาใน White Men Can't Jump ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), Indecent Proposal ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536), Natural Born Killers ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537), The People vs. Larry Flynt ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งแรกและเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งแรกในชีวิต และ No Country for Old Men ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550)

เขาเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากบทบาทนักล่าซอมบี้สุดกวนในหนังเรื่อง Zombieland ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) และจากเรื่องนั้นก็ยังคงส่งผลให้เขาได้แสดงหนังในวงการ Hollywood อีก ทั้ง 2012 ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), The Messenger ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 2 และได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 2 เช่นกัน และตามมาด้วยบทแย่งซีนใน Friends with Benefits ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554)

ซึ่งเจ้าตัวก็ได้มารับบทตัวละครในแฟรนไชส์หนังดัง กับบทบาท Haymitch Abernathy ใน The Hunger Games ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) และในภาคต่อด้วย

ตามมาด้วย Game Change ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) ที่ได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำเป็นครั้งที่ 3, Now You See Me ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) และบทบาทอันยอดเยี่ยมจากซีรีส์ True Detective ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) ที่ทำให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 4 แต่น่าเสียดาย จากการเข้าชิงทั้ง 4 ครั้ง เขาไม่สามารถคว้ารางวัลไปได้สักครั้ง

หลังจากนั้นเขายังรับบทบาทมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Now You See Me 2 ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), War for the Planet of the Apes ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Three Billboards Outside Ebbing, Missouri ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์อีกครั้ง, Solo: A Star Wars Story ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Venom ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Zombieland: Double Tap ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Midway ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

รวมถึง Carnage/Cletus Kasady ใน Venom: Let There Be Carnage ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) แถมยังมีบทบาทรองรับอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Kate ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Triangle of Sadness ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), The Man From Toronto ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), ซีรีส์ The White House Plumbers และซีรีส์ The Most Dangerous Man in America

Woody Harrelson คือนักแสดงที่อยู่คู่วงการ Hollywood มาอย่างยาวนาน ผลงานการแสดงตลอดอาชีพกว่า 100 เรื่องเลยทีเดียว

DANIEL RADCLIFFE

Daniel Jacod Radcliffe เกิดเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532)  ที่ London ประเทศอังกฤษ

หลาย ๆ คนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาเขาจากบทบาทที่โคตรสร้างชื่อเสียงให้กับตนเอง อย่าง "Harry Potter"

Radcliffe เริ่มต้นโชว์ความสามารถทางการแสดงในโปรดักชันเล็ก ๆ ของโรงเรียน แต่บทบาทการแสดงของเขาจริง ๆ เริ่มต้นจากบทในซีรีส์ช่วงปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) กับเรื่อง David Copperfield ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) และ Radcliffe ก็ได้แสดงเป็น Copperfield วัยหนุ่ม แต่ก็แสดงเพียง 2 ตอนเท่านั้น แต่เขาก็ได้มาแสดงหนังเรื่องแรกในบทบาท Mark จากเรื่อง Tailor of Panama ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544)

แน่นอนว่าบทบาทที่ทำให้คนจดจำเขามากที่สุดคือ Harry Potter ที่หลาย ๆ คนบอกว่าแทบจะถอดแบบออกมาจากหนังสือนิยายของ J.K. Rowling เลยก็ว่าได้

ซึ่งนักแสดงอย่าง Jamie Lee Curtis ได้บอกกับแม่ของ Radcliffe ว่า เขาสามารถเล่นเป็น Harry Potter ได้เลยนะ และไม่นานเขาก็ได้แคสตัวจากผู้กำกับอย่าง Chris Columbus ให้มารับบทนี้จริง ๆ

แต่รู้หรือไม่ว่า เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ เขาได้พยายามอ่านนิยาย Harry Potter ภาคแรก แต่เขาก็อ่านไม่จบเพราะเขารู้สึกไม่ชอบมันซะเลย เขาพึ่งมาอ่านจบตอนที่ได้รับบทนี้เนี่ยแหละ และก็เริ่มอ่านหลาย ๆ เล่มต่อมา แต่เล่มที่เขาชอบมากที่สุดคือภาค 3 "Harry Potter and the Prisoner of Azkaban"

Radcliffe รับบทบาท Harry Potter ครั้งแรกใน Harry Potter and the Sorcerer's Stone ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) และภาคสุดท้ายใน Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 2 ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) เขารับบทบาทนี้มาอย่างยาวนานถึง 10 ปี และหลังจากเขาสิ้นสุดบทบาทนั้น เขาก็มีงานแสดงน้อยลง แต่ก็ยังคงแสดงในหนังหลายเรื่องหลายแนวเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น The Women in Black ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Horns ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Victor Frankenstein ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Swiss Army Man ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Now You See Me 2 ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Playmobil: The Movie ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Guns Akimbo ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Escape from Pretoria ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563), Unbreakable Kimmy Schmidt: Kimmy vs the Reverend ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ซีรีส์ Miracle Workers ค.ศ. 2019-2021 (พ.ศ. 2562-2564) และ Lost City of D ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

เรียกได้ว่า Daniel Radcliffe กลายเป็นดาราที่นับว่าเป็นที่จดจำและเป็นไอค่อนคนหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ หลาย ๆ คนต่างเรียกเขาว่า Harry Potter มากกว่าชื่อจริง ๆ ของเขาเสียอีก

24 กรกฎาคม

DOUG LIMAN

Doug Liman เกิดวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ. 1965 (พ.ศ. 2508) ที่ New York ประเทศอเมริกา

เขาเป็นที่รู้จักทั้งในฐานะผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้าง ที่ได้สร้างผลงานชื่อดังเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Swingers ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539), Go ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542), The Bourne Identity ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), Mr. & Mrs. Smith ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Jumper ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Fair Game ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Edge of Tomorrow ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), The Wall ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), American Made ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Locked Down ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) และล่าสุดกับ Chaos Walking ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

ยังมีผลงานให้เราได้ติดตามกันใน Live Die Repeat and Repeat, The Cannonball Run และ Luna Park

JENNIFER LOPEZ

Jennifer Lynn Lopez เกิดวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) ที่ The Bronx, New York ประเทศอเมริกา

Jennifer ใฝ่ฝันมาตลอดว่าเธออยากไปซุปเปอร์สตาร์ในหลากหลายด้าน ตั้งแต่เด็ก ๆ เธอมักจะเอนจอยกับดนตรีหลากหลายแนวเป็นอย่างมาก ถึงแม้เธอจะรักดนตรีมากแค่ไหน เธอก็ให้ความสนใจในวงการหนังไม่แพ้กันเลย

เมื่อเธออายุได้ 5 ปี เธอเริ่มเรียนเกี่ยวกับการร้องเพลงและเต้น ในระดับมัธยมปลายเธอมีทักษะทางด้านกีฬาอย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะทางด้านกรีฑาและเทนนิส

จุดเริ่มต้นในวงการของเธอเริ่มต้นขึ้นเมื่อเธอได้รับบทให้แสดงในเรื่อง My Little Girl ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529)

เมื่ออายุได้ 18 ปี เธอก็ย้ายออกจากบ้านพ่อแม่ไปใช้ชีวิตตัวคนเดียว เธอทำงานพาร์ทไทม์สำนักงานกฏหมาย และตอนกลางคืนก็รับหน้าที่เป็นนักเต้น จนเธอได้แจ้งเกิดในฐานะนักแสดงกับซีรีส์ In Living Color ค.ศ. 1991-1993 (พ.ศ. 2534-2536) และหลังจากนั้นเธอก็รับหน้าที่เป็นแดนเซอร์ให้กับนักร้องชื่อดัง Janet Jackson

เธอได้แสดงบทหลักครั้งแรกในหนังเรื่อง My Family ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) และจุดเปลี่ยนในฐานะนักแสดงของเธอเริ่มต้นขึ้นเมื่อเธอได้รับบท Selena Quintanilla ในหนังเรื่อง Selena ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) ส่งให้ชื่อเสียงของเธอโด่งดังแบบสุด ๆ

แน่นอนว่าหลังจากนั้นผลงานการแสดงของเธอก็มีให้เราเห็นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Anaconda ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540), Gigli ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Parker ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Ice Age: Collision Course ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), ซีรีส์ Will & Grace ค.ศ. 2004-2018 (พ.ศ. 2547-2561) และผลงานการแสดงล่าสุด Hustlers (2019)

ในอนาคตยังมีหนังของเธอให้เราได้ติดตามกันอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Marry Me ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Shotgun Wedding ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), The Mother ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), The Godmother และ Atlas ซึ่งทั้งหมดนี้เธอรับหน้าที่อำนวยการสร้างเองอีกด้วย

นอกเหนือจากบทบาทนักแสดง หลายต่อหลายคนก็รู้จักเธอในนามศิลปิน เมื่อในปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) เธอได้เซ็นสัญญากับทาง Sony Music ปล่อยอัลบั้มแรก On The 6 ที่เพียงซิลเกิลแรกอย่าง If You Had My Love ก็พุ่งทะยานคว้าอันดับ 1 บน Billboard Chart ยอดขายอัลบั้มทำได้ถึงหลักล้านเลยทีเดียว และต่อมาก็มีอีกหลากหลายอัลบั้ม พร้อมเพลงฮิตอีกมากมายที่ทำให้คนได้รู้จักเธอ ไม่ว่าจะเป็น Love Don't Cost A Thing, I'm Real, Ain't It Funny, Jenny From the Block, All I Have, Get Right, Control Myself และอีกมากมาย

แถมเธอยังมีผลิตภัณฑ์น้ำหอมเป็นของตัวเองด้วยทั้ง Glow, Still, Miami Glow แถมยังมีแบรนด์เสื้อผ้าในชื่อ Sweetface

ไม่ว่าจะในฐานะนักแสดงหรือศิลปิน คนทั้งโลกก็ต่างรู้จักชื่อของเธอ Jennifer Lopez

PATTY JENKINS

Patricia Lea Jenkins เกิดวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) ที่ George Air Force Base, Victorville, California ประเทศอเมริกา

Patty เริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นนักวาดภาพให้กับ The Cooper Union ที่ New York City ก่อนที่ภายหลังจะผันตัวมาเป็นผู้กำกับ เธอใช้เวลา 8 ปีในฐานะผู้ช่วยตากล้องกับการทำโฆษณาและ MV และหลังจากเธอเข้าเรียนที่ AFI (สถาบันภาพยนตร์อเมริกัน) เธอก็ได้รับโอกาสให้เขียนบทและกำกัุบหนัง Monster ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546)

AFI ยกย่องให้ Monster เป็นหนังที่ดีที่สุดติด 1 ใน 10 ของปีนั้น ซึ่งตัวของ Patty เองก็ได้รับรางวัลและเสนอชื่อเข้าชิงจากหลากหลายเวที แถมยังส่งให้นักแสดงนำอย่าง Charlize Theron คว้ารางวัลออสการ์ควบลูกโลกทองคำ และคว้ารางวัลอื่น ๆ กับเข้าชิงจากอีกหลากหลายเวที

หลังจากนั้น Patty ก็ได้มากำกับโฆษณา และซีรีส์อีกมากมาย จนการกำกับซีรีส์ The Killing ตอน Pilot ก้ได้ส่งให้เธอเข้าชิงรางวัล Primetime Emmy Awards

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) เธอได้มีโอกาสมากำกับหนังฮีโร่หญิงของจักรวาล DC เรื่อง Wonder Woman ที่ส่งให้ชื่อของเธอกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เพราะเธอได้กู้หน้าจักรวาล DCEU ได้อย่างงดงาม กลายเป็นผู้กำกับที่น่าติดตาม และจากความสำเร็จในภาคแรกก็ส่งให้มีภาคต่อกับ Wonder Woman 1984 ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ที่กระแสและคำวิจารณ์อาจไม่ดีเท่าภาคแรก แต่ก็มีแผนการสร้าง Wonder Woman 3 เรียบร้อยแล้ว

26 กรกฎาคม

STANLEY KUBRICK

Stanley Kubrick เกิดวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1928 (พ.ศ. 2471) ที่ Manhatten, New York ประเทศอเมริกา

Stanley คือเด็กอัจฉริยะ ถึงแม้ว่าเกรดในโรงเรียนเขาจะไม่ดีก็ตาม เมื่อพ่อของเขาได้สอนให้เขารู้จักกับการเล่นหมากรุก และผลคือเขาเข้าใจเกมอย่างรวดเร็ว แถมยังเก่งเอามาก ๆ ซึ่งการเล่นหมากรุกนี้กลายเป็นส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนการทำหนังของ Kubrick มาโดยตลอด เปรียบเสมือนเครื่องมือในการคิด ในการทำหนังของเจ้าตัวเลยก็ว่าได้

ต่อมาพ่อของเขาจึงตัดสินใจที่จะมอบกล้องให้กับ Kubrick ตัวนึงในวันเกิดครบรอบ 13 ปี และหวังว่ามันจะเป็นการกระทำที่ฉลาดสร้างลูกของเขาให้เป็นอัจฉริยะในด้านนี้อีก และแน่นอน Kubrick เกิดความสนใจอย่างรวดเร็ว เขาออกไปถ่ายรูปทั่ว New York แถมยังล้างเองในห้องล้างฟิล์มบ้านเพื่อนอีกด้วย ความยอดเยี่ยมนั้นยังไม่พอ เมื่อเขาสามารถนำรูปที่เขาถ่ายไปขายให้กับนิตยสาร Look Magazine จนได้ทำงานในฐานะช่างภาพเมื่ออายุได้ 17 ปีเท่านั้น

หลังจากทำงานกับ Look ไม่กี่ปี เขาก็หันมาสนใจในด้านการทำหนัง เขาจึงได้ร่วมกับเพื่อน Alexander Singer จนออกมาเป็นสารคดีสั้นเรื่อง Day to the Fight ค.ศ. 1951 (พ.ศ. 2494) สารคดีที่บอกเล่าเรื่องราวของนักมวย Irish นามว่า Walter Cartier ผ่านการบอกเล่าของนักข่าว Douglas Edwards ซึ่งมันก็ตามมาด้วย Flying Padre ค.ศ. 1951 (พ.ศ. 2494), The Seafarers ค.ศ. 1953 (พ.ศ. 2496) และ Fear and Desire ค.ศ. 1953 (พ.ศ. 2496)

แต่ทำหนังมันเป็นประสบการณ์ที่ไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่นักสำหรับตัว Kubrick เอง เพราะหนังที่เขาทำก็ได้รับคำวิจารณ์ที่ผสมปนเปกันไปไม่ดีนัก แต่เขาก็ยังคงทำหนังต่อไป จนเกิดมาเป็นเรื่อง Killer's Kiss ค.ศ. 1955 (พ.ศ. 2498) และ The Killing ค.ศ. 1956 (พ.ศ. 2499) ที่ในเรื่องหลังมันคือยอดผลงานการกำกับของเขา กับเรื่องราวของชายกลุ่มหนึ่งรวมทีมกันเพื่อวางแผนโจรกรรมการแข่ง หนังเรื่องนั้นได้สร้างแรงกระเพื่อมสู่วงการ Hollywood ทำให้ทั้งวงการจับตามามองชายคนนี้

ในปี ค.ศ. 1957 (พ.ศ.  2500) เขาได้มากำกับหนัง Paths of Glory และประสบความสำเร็จไม่น้อยเลย จนต่อมาได้กำกับหนังเรื่อง Spartacus ค.ศ. 1960 (พ.ศ. 2503) นับว่าเป็นหนังใหญ่เรื่องแรกของเขา และหลายต่อหลายคนต่างสบประมาทว่ามันอาจจะเป็นโปรเจคที่ใหญ่เกินไปสำหรับเจ้าตัวหรือเปล่า แต่ผลไม่ใช่แบบนั้น เมื่อเขารับผิดชอบโครงการทั้งหมด กำหนดแนวความคิดวางรากฐานของตัวเองลงในเรื่อง ทีมงานหลายคนถึงกับอารมณ์เสียกับสไตล์การทำหนังของเขา ช่างกล้องคนหนึ่งก็ออกมาบ่นว่า Kubrick มาขโมยงานผมไป เอากล้องไปถ่ายเอง โดยตัวของ Kubrick บอกว่าให้ช่างกล้องคนนั้นนั่งเฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย และความยอดเยี่ยมจากการกำกับของ Kubrick ส่งให้เจ้าตัวได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมเป็นครั้งแรกในชีวิต

ต่อมาเขาก็ได้บินมาทำหนังที่อังกฤษ จากความผิดหวังที่ไม่ได้ทำหนัง One-Eyed Jacks ค.ศ. 1961 (พ.ศ. 2504) และผิดหวังจากความรัก เมื่อมาอังกฤษ เขาก็ได้ทำหนัง Lolita ค.ศ. 1962 (พ.ศ. 2505) และความยอดเยี่ยมของเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำในฐานะผู้กำกับเป็นครั้งที่ 2

หลังจากนั้นเขาก็คลอดยอดผลงานออกมาในชื่อ Dr. Strangelove or: How I Learned to Stop Worrying and Love the Bomb ค.ศ. 1964 (พ.ศ. 2507) ตัวหนังประสบความสำเร็จทั้งคำวิจารณ์และรายได้ ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 3 สาขา ทั้งหนังยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม และเขียนบทยอดเยี่ยม

หลังจากความสำเร็จใน Dr. Strangelove or: How I Learned to Stop Worrying and Love the Bomb เจ้าตัวก็ได้หันมาทำละครเวทีอยู่ประมาณ 3-4 ปี

จนกระทั่งเขากลับมาทำหนังอีกครั้ง และการกลับมาในครั้งนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ เพราะเขาร่วมกับนักเขียนนิยาย Sci-fi อย่าง Arthur C. Clarke ร่วมกันทำหนังที่หลายต่อหลายคนยกให้เป็นหนังที่ยอดที่สุดเท่าที่เขาเคยทำมา 2001: A Space Odyssey ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2511) ผลคือมันได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ 3 สาขา กับผู้กำกับยอดเยี่ยม, เขียนบทยอดเยี่ยม, เอฟเฟคยอดเยี่ยมและเป็นสาขาเอฟเฟคยอดเยี่ยมที่เขาสามารถคว้ารางวัลออสการ์ไปครอบครองครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต เป็นหนัง Sci-fi ในตำนานขวัญใจใครหลายต่อหลายคน

ผลงานต่อมา A Clockwork Orange ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) ที่เจ้าตัวยังคงรักษาความยอดเยี่ยมในการทำหนังเอาไว้ได้อย่างดี จนได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม และได้เข้าชิงอีก 3 รางวัลออสการ์ กับสาขาหนังยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม และเขียนบทยอดเยี่ยม

หนังเรื่องต่อมาก็ยังคงทำให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 1 สาขา กับสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม และยังได้เข้าชิงรางวัลออสการ์อีก 3 สาขา กับสาขาหนังยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม และเขียนบทยอดเยี่ยม จากเรื่อง Barry Lyndon ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518)

หลังจากนั้นเขาได้ถูกทาบทามให้ไปกำกับหนังผี The Exorcist ค.ศ. 1973 (พ.ศ. 2516) แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธไป หันมาสร้างผลงานที่หลายต่อหลายคนน่าจะคุ้นเคยไม่แพ้ 2001: A Space Odyssey ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2511)กับเรื่อง The Shining ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) ดัดแปลงมาจากนิยายของ Stephen Kingที่ยอดเยี่ยมทั้งการเดินเรื่อง นักแสดง การถ่ายทำ จนมันกลายเป็นหนังระทึกขวัญขวัญใจใครหลายคนเลยทีเดียว จนเกิดมาเป็นภาคต่อกับ Doctor Sleep ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

แต่ทางทีมงานและนักแสดงก็มีข่าวลือว่าไม่ชอบการทำงานของ Kubrick ใน The Shining รวมถึงตัวของ Stephen King เองก็ไม่ชอบผลงานนี้ของ Kubrick ด้วย บอกว่านี่คือหนังทีดัดแปลงนิยายของเขาได้แย่ที่สุด

ต่อกันที่ผลงานอย่าง Full Metal Jacket ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) ที่เป็นหนังเรื่องสุดท้ายที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาเขียนบทยอดเยี่ยม

ในช่วงปี ค.ศ. 1990s (พ.ศ. 2533-2542) ทางด้าน Kubrick ได้ทำงานร่วมกับ Brian Aldiss ในหนัง Sci-fi เรื่องใหม่ที่ชื่อว่า Artificial Intelligence (AI) แต่ความคืบหน้าของหนังเรื่องนี้ช้ามาก และเทคโนโลยี ณ ตอนนั้นยังไม่สามารถทำอย่างที่ Kubrick ต้องการได้

เขาจึงหันมาทำหนังเรื่องสุดท้ายในชีวิตกับ Eye Wide Shut ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) นำแสดงโดย Tom Cruise และ Nicole Kidman ผ่านไปถึง 2 ปีกว่าหนังเรื่องนี้จะได้เข้าฉาย โดยทาง Kubrick บอกว่า นี่คือหนังที่ดีที่สุดตั้งแต่ที่เขาเคยทำมา

ในขณะนั้นเทคโนโลยีต่างๆ เริ่มพัฒนามากขึ้น จนทำให้ Kubrick สามารถกลับมาทำหนัง AI ต่อได้ ซึ่งนั่นก็คือ A.I. Artificial Intelligence ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) แต่อุบัติเหตุอันน่าเศร้าก็มาพรากชีวิตเขาไปเสียก่อน

วันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) เขาเกิดสภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันในขณะกำลังนอนอยู่ และเสียชีวิตลงอย่างน่าใจหาย

หลังจากการเสียชีวิตของ Kubrick ทาง Steven Spielberg ก็ขอรับอาสาทำหนัง A.I. Artificial Intelligence ต่อในฐานะเพื่อน และแน่นอนหนังเรื่องนี้ก็ได้ออกสู่สายตาชาวโลก โดยที่ยังคงความเป็น Kubrick และเพิ่มเติมด้วยวิสัยทัศน์ของ Spielberg

ตลอดชีวิต 71 ปีของ Stanley Kubrick เขากำกับหนังมาเพียง 13 เรื่อง (สารคดีอีก 2 เรื่อง และ A.I. ที่ไม่มีโอกาสได้กำกับ) แต่หนังหลายเรื่องได้กลายเป็นครู เป็นแม่แบบให้หนังรุ่นหลัง และกลายเป็นตำนาน ที่ยังคงถูกพูดถึงมาจนทุกวันนี้

ผู้กำกับที่มีลายเซ็นอันเป็นเอกลักษณ์ในทุกเรื่อง การถ่ายทำที่ละเอียดลออ การใช้ดนตรีที่ชาญฉลาด เนื้อเรื่องสะท้อนสังคม ถึงแม้ว่างานของเขาจะมีข้อโต้เถียงมากมาย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคืออัจฉริยะ ตำนานของคนทำหนัง - Stanley Kubrick

HELEN MIRREN

Helen Lydia Mironoff เกิดวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 (พ.ศ. 2488) ที่ Hammersmith, London ประเทศอังกฤษ

หนึ่งในนักแสดงตัวแม่แห่งวงการ Hollywood นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นในการแสดงกับหนังเรื่อง Herostratus ค.ศ. 1967 (พ.ศ. 2510)

และหลังจากนั้นเธอก็ได้ฝากผลงานเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Hamlet ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519), Excalibur ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524), ให้เสียงพากย์ใน The Prince of Egypt ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541), Inkheart ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), RED ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Arthur ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), ให้เสียงพากย์ใน Monsters University ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), RED 2 ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Winchester ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), The Nutcracker and the Four Realms ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Berlin, I Love You ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Anna ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), ให้เสียงพากย์ The One and Only Ivan ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563), F9 ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

และบนเวทีรางวัลอย่างออสการ์ เธอก็เคยคว้ารางวัลมา 1 ครั้งจากเรื่อง The Queen ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) และเข้าชิงอีก 3 ครั้งจากเรื่อง The Madness of King George ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537), Gosford Park ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) และ The Last Station ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552)

ส่วนบนเวทีลูกโลกทองคำเธอเคยคว้ารางวัลมา 3 ครั้งจาก Losing Chase ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539), Prime Suspect: The Final Act ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) และ The Queen ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) รวมถึงเข้าชิงอีกมากถึง 13 ครั้งจาก The Passion of Ayn Rand ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542), Gosford Park ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Door to Door ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), The Roman Spring of Mrs. Stone ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Calendar Girls ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Prime Suspect: The Final Act ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), The Last Station ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), Hitchcock ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Phil Spector ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), The Hundred-Foot Journey ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Trumbo ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), The Leisure Seeker ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Catherine the Great ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

และยังเคยคว้ารางวัล Primetime Emmy Awards อีก 4 ครั้ง รวมถึงเข้าชิงอีก 6 ครั้งเลยทีเดียว

ถึงอายุเธอจะมากแล้ว ยังมีผลงานของเธอให้เราได้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง ทั้ง White Bird: A Wonder Story ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Shazam! Fury of the Gods ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Fast X ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566), Sniff ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

KEVIN SPACEY

Kevin Spacey Fowler เกิดวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ .1959 (พ.ศ. 2502) ที่ South Orange, New Jersey ประเทศอเมริกา

Kevin เริ่มต้นการแสดงในช่วงปี ค.ศ. 1980s (พ.ศ. 2523-2532) กับการเป็นนักแสดงบนเวที แต่จุดเริ่มต้นในวงการจริง ๆ คือช่วงปี ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) กับบทบาทเล็ก ๆ เป็นโจรที่รถไฟใต้ดินจากเรื่อง Heartburn

หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ได้รับโอกาสอีกมากมายทั้งในซีรีส์และหนัง ให้มารับบทที่แตกต่างกันออกไป แต่ที่สร้างชื่อให้กับเขาจริง ๆ แถมยังประสบความสำเร็จอย่างมาก นั่นก็คือเรื่อง The Usual Suspects ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538)

ด้วยการแสดงของเขาใน The Usual Suspects ส่งผลให้เขาได้รับ 1 รางวัลออสการ์ (Best Actor in Supporting Role) และเข้าชิง 1 รางวัลลูกโลกทองคำ (Best Performance by an Actor in a Supporting Role in a Motion Picture)

และรางวัลออสการ์อีกครั้งที่เขาได้ คือจากเรื่อง American Beauty ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) กับการแสดงนำในบทของ Lester Burnham เช่นเดียวกัน เรื่องนี้ก็ได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำเท่านั้น

ในบทบาทการแสดงซีรีส์ของ Kevin ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้การแสดงหนังเลย กับบทบาทของ Francis Underwood ในซีรีส์การเมืองเข้มข้นทาง Netflix กับเรื่อง House of Cards ค.ศ. 2013-2017 (พ.ศ. 2556-2560) ที่ได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำปีนึง และได้รางวัลลูกโลกทองคำจากเรื่องเดียวกันในปีต่อมา

แต่ทว่า ซีซั่นสุดท้ายของ House of Cards เจ้าตัวโดนตัดบทออก เหตุจากการถูกกล่าวหาว่าลวนลามนักแสดง!

และผลงานล่าสุดที่เราได้เห็นกันคงจะเป็นเรื่อง Billionaire Boys Club ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) ที่กระแสต่อต้านค่อนข้างรุนแรงในระดับนึงเลยทีเดียว

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ก็ต้องยอมรับว่าฝีมือในการแสดงของ Kevin Spacey ยอดเยี่ยมไม่แพ้ดาราคนอื่น ๆ ในวงการเหมือนกัน และก็สร้างภาพจำกับการแสดงของตัวเอง ในหนังอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Se7en ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538), The Shipping News ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Beyond the Sea ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Superman Returns ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), 21 ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Casino Jack ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Horrible Bosses ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Elvis & Nixon ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Baby Driver ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) และอื่น ๆ อีกมากมาย

SANDRA BULLOCK

Sandra Annette Bullock เกิดวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ .1964 (พ.ศ. 2507) ที่ Arlington, Virginia ประเทศอเมริกา

ตอนเด็ก ๆ เธอได้แสดงความสามารถทางการร้องเพลงกับโปรดักชั่นที่แม่เธออยู่ และจากความสามารถในการร้องเพลงของเธอนั้นมันส่งให้เธอได้บทในเรื่อง The Thing Called Love ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536)

แต่จุดเริ่มต้นในการแสดงจริง ๆ ของเธอเริ่มขึ้นกับเรื่อง Hangmen ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) และนั่นก็มากพอที่จะส่งให้ตัวเธอได้รับบทอื่นๆ อีกมากมายทั้งหนังและซีรีส์

หลังจากในเรื่อง The Thing Called Love เธอก็ได้มาเรียนที่ East Carolina University ซึ่งเธอได้เรียนการแสดงที่นั่น และไม่นานเธอก็ได้ย้ายไปยัง New York เพื่อไขว่คว้าความฝันในการเป็นนักแสดงในละครเวที และมันก็นำพาให้เธอได้รับบทในซีรีส์แหละหนังอีกมากมายหลายเรื่อง

หนึ่งในบทบาทที่น่าจดจำคือการแสดงใน Demolition ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) และ Wrestling Ernest Hemingway ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) แต่ก็ไม่ได้สร้างความก้าวหน้าให้อาชีพการแสดงของเธอสักเท่าไหร่ จนกระทั่งเธอได้รับบทใน Speed ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) ที่ได้เล่นประกบคู่กับ Keanu Reeves และนั่นได้เปลี่ยนโฉมหน้าการแสดงของเธอไปเลย ทำให้เธอกลายเป็นนักแสดงชื่อดังแห่งวงการ Hollywood ไปโดยปริยาย

ในสมัยที่เล่นเรื่อง Speed ค.ศ .1994 (พ.ศ. 2537) ตัวของเธอก็แอบชอบนักแสดงคู่กันอย่าง Keanu Reeves ด้วย โดยที่เธอพึ่งออกมาเปิดเผยไม่นานนี้เอง แต่เธอไม่เคยได้บอกความรู้สึกนี้กับเจ้าตัว เธอได้ให้สัมภาษณ์ว่า

มันเป็นเรื่องที่ยากมากเวลาที่มองน่าเขาแล้วจะไม่ยิ้มออกมา

ส่วนทางด้าน Keanu ก็แอบชอบเธอเหมือนกัน >///< (แต่ตอนนี้ทั้งคู่รู้แล้วแหละว่าเคยชอบกัน)

เธอเคยถูกโหวตให้เป็นนักแสดงหญิงที่ดีที่สุดจากผู้อ่านนิตยสาร US Magazine ค.ศ .1995 (พ.ศ. 2538)

ถูกโหวตให้เป็นนักแสดงหญิงที่ดีที่สุดจากผู้ชม MTV (ในหนัง The Big Picture) ค.ศ. 1994-1995 (พ.ศ. 2537-2538)

ถูกโหวตจากเหล่านักเรียนม.ปลายที่โรงเรียนมัธยมของเธอให้เป็น Most Likely to Brighten Up Your Day ถ้าจะให้แปลอย่างง่ายๆ คงเป็น คนที่ทำให้แต่ละวันของคุณสดใสขึ้น (แถมตอนมหาวิทยาลัยเธอยังได้ถูกโหวตให้เป็นราชินีวันงานคืนสู่เหย้าด้วย)

เธอเคยถูกโหวตจากเหล่าทหารอเมริกัน ว่าเป็นดาราที่เหล่าทหารอยากเจอมากที่สุดในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544)

ตอนอายุ 40 เธอได้ถูกโหวตให้เป็นผู้หญิงที่เซ็กซี่ที่สุดในโพลของทีวีที่อังกฤษ

เธอเคยบอกว่า ถ้าเธอไม่เป็นนักแสดง เธอก็จะไปเป็นนักเขียนนิยายโรแมนติก

แน่นอนว่าชื่อของ Sandra Bullock นี่โด่งดังมาก ใคร ๆ ก็ต่างต้องรู้จัก และคุ้นหน้าเธอจากหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น The Proposal ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), The Heat ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Minions ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Ocean's Eight ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Bird Box ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561)

และมีผลงานมาอย่างต่อเนื่องทั้งใน The Lost City ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Bullet Train ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

แต่สุดยอดการแสดงของเธอต้องยกให้ในเรื่อง The Blind Side ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) ที่คว้าทั้งรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำด้วย รวมไปถึง Gravity ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) ที่ถึงแม้ไม่ได้รางวัล แต่ก็ได้เข้าชิงจากทั้งสองเวทีเช่นกัน

JASON STATHAM

Jason Statham เกิดเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1967 (พ.ศ. 2510) ที่ Shirebrook, Derbyshire ประเทสอังกฤษ ปัจจุบันมีอายุ 53 ปี

เขาเคยเป็นนักกีฬาว่ายน้ำให้กับทีมชาติอังกฤษด้วย แถมยังเคยได้เข้าร่วมแข่งระดับโลกจบอันดับที่ 12 ในปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) แถมยังเคยเป็นนายแบบ, เซลล์แมน และแน่นอน นักแสดง

จุดเริ่มต้นการแสดงของเขาคือการได้มาออดิชั่นรับบทในเรื่อง Lock, Stock and Two Smoking Barrels ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) หนังผลงานการกำกับของ Guy Ritchie ที่เจ้าตัวเป็นคนชวน Statham มาออดิชั่นรับบทนี้ด้วยตัวเอง จนได้รับบทไป และหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้มาร่วมงานกันอีกใน Snatch ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543)

เขาเป็นนักแสดงที่มีทักษะทางด้านศิลปะการต่อสู้ที่น่าชื่นชม และบทที่เขาได้รับส่วนมากก็มักจะเป็นหนังแอ็คชั่น ที่ไม่ว่าใคร ๆ รุ่นไหน ก็ต้องรู้จักเขาจากหนังแอ็คชั่นไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น The Transporter ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), The Italian Job ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Crank ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Death Race ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), The Expendables ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), The Expendables 2 ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Furious 6 ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), The Expendables 3 ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Spy ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Fast & Furious 7 ค.ศ .2015 (พ.ศ. 2558), Mechanic:Resurrection ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), The Fate of the Furious ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), The Meg ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และล่าสุดใน Wrath of Man ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) ที่กลับมาร่วมงานกับ Guy Ritchie อีกครั้ง รวมถึงในเรื่อง Operation Fortune: Ruse de guerre ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

เรายังได้เห็นเขาทั้งใน Expend4bles ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566), The Meg 2: The Trench ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566), Spy 2 และผลงานอื่น ๆ ด้วย

30 กรกฎาคม

ARNOLD SCHWARZENEGGER

เขามีชื่อจริงว่า Arnold Alois Schwarzenegger เกิดวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 (พ.ศ. 2490) ที่ Thal, Styria ประเทศออสเตรเลีย

ตั้งแต่เด็ก Arnold ให้ความสนใจในกีฬาเพาะกายอยู่เสมอ ทำให้เขาเริ่มออกกำลังกายเข้าฟิตเนสตั้งแต่อายุยังน้อย และไปเอาดีทางด้านนี้

• ครองตำแหน่ง Mr. Universe 5 สมัย
• ได้รับตำแหน่งชายรูปร่างดีที่สุดในยุโรป
• ครองตำแหน่ง Mr. Olympia 6 ครั้งติดต่อกัน

เขาได้เดบิวต์ในวงการบันเทิงในฐานะ Arnold Strong กับบทบาทหนังทุนต่ำในเรื่อง Hercules in New York ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513) หลังจากนั้นเขาก็ถูกทาบทามตัวจากผู้กำกับ Bob Rafelson ให้ไปแสดงในเรื่อง Stay Hungry ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519) และในเรื่องนี้ส่งให้ Arnold คว้ารางวัลลูกโลกทองคำจากการเข้าชิงครั้งแรกในชีวิตกับสาขา Best Acting Debut in a Motion Picture - Male

หลังจากเรื่องนั้นชื่อเสียงของเขาก็เริ่มโด่งดังขยายเป็นวงกว้าง คนเริ่มให้ความสนใจ ทำให้เขาได้แสดงหนังอีกไม่ว่าจะเป็นสารคดี Pumping Iron ค.ศ. 1977 (พ.ศ. 2520), หนังคอเมดี้ The Villain ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522), The Jayne Mansfield Story ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523)

แต่สิ่งที่ Arnold ต้องการจริง ๆ คือบทบาทการเป็นฮีโร่ หรือนักรบ ที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายอันบึกบึนใหญ่โตของเขา และบทบาทที่เหมาะสมสำหรับเขาก็มาถึง กับเรื่อง Conan the Barbarian ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) ซึ่งจากเรื่องนี้ก็ส่งให้ชื่อของเขาโด่งดังไปทั่วโลก จนทำให้เกิดภาคต่อ Conan the Destroyer ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527)

ในขณะนั้นความดังของเขาพุ่งสุด ๆ จนกระทั่ง James Cameron ได้เขียนหนังเรื่องนึงขึ้นมา จากบทบาทตัวละครหนึ่งที่เป็นนักล่าผู้แข็งแกร่ง ไม่มีใครหยุดได้ จนออกมาเป็น The Terminator ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) และไม่มีใครเหมาะสมกับบทบาทนี้ไปมากกว่า Arnold อีกแล้ว และเขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามันเหมาะสมกับเขาจริง ๆ จนตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของชายคนนี้ และในบ้านเรา เรารู้จักเขาในนาม "คนเหล็ก" ที่มีภาคต่อออกมาอีกมากมาย

บทบาทอื่นๆ ยังคงถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และแน่นอนว่าส่วนมากมันคือหนังแอ็คชันล้วน ๆ ไม่ว่าจะเป็น Commando ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528), Raw Deal ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529), Predator ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530), The Running Man ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530), Red Heat ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531), Total Recall ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533), Terminator 2: Judgment Day ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) และอื่น ๆ อีกมากมาย

มีบทบาทในหนังรอมคอม Sci-Fi ที่ส่งให้ Arnold ได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำด้วย นั่นก็คือเรื่อง Junior ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) แต่ตัวหนังโดนกระแสวิจารณ์ยับไม่ใช่เล่น

ซึ่งเจ้าตัวก็เพิ่งจะยุติบทบาท "คนเหล็ก" ไปกับภาคล่าสุด Terminator: Dark Fate ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ที่กระแสวิจารณ์และรายได้ไม่ค่อยเข้าเป้าสักเท่าไหร่

แต่ถึงจะอย่างนั้นเจ้าตัวก็ยังมีอีกหนึ่งบทบาทในตำนานกับ Conan ที่มีประกาศจะสร้างทำภาคใหม่ในชื่อ The Legend of Conan และผลงานอื่น ๆ อีกในอนาคต ทั้ง Kung Fury 2 ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Triplets และซีรีส์ Outrider

นอกจากบทบาททางการแสดง เขายังเป็นนักการเมืองสังกัดพรรคริพับลิกัน และผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย คนที่ 38 อีกด้วย

หนึ่งในนักแสดงที่เขียนชื่อยากที่สุดคนหนึ่ง และเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ไม่ว่าจะไปอยู่เรื่องไหนชื่อเรื่องภาษาไทยต้องมีคำว่า "คนเหล็ก" เสมอ เขาคือ Arnold Schwarzenegger

LAURENCE FISHBURNE

Laurece John Fishburne ที่ 3 เกิดวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 1961 (พ.ศ. 2504) ที่ Augusta, Georgia ประเทศอเมริกา

เมื่อ Fishburne อายุได้ 10 ปี เขาก็ได้แสดงละครเวทีเรื่องแรกกับ In My Many Names and Days ในโรงละครเล็ก ๆ ที่ Manhattan ณ ช่วงเวลานั้นเขาใช้ชื่อว่า Larry Fishburne เขาไม่เคยเรียน ไม่เคยฝึกเทคนิคอะไรเกี่ยวกับการแสดงเลยแม้แต่น้อย แต่เขาก็ทำมันออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม

ในปี 1973 เมื่ออายุได้ 12 ปี Fishburne ได้คว้าบทใน One Life to Live ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2511) และนั่นส่งให้เขาได้เดบิวต์หนังเต็มตัวเรื่องแรกกับ Cornbread, Earl and Me ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518)

เมื่ออายุได้ 14 ปี Francis Ford Coppola ก็ได้ทาบทามให้เขามารับบทใน Apocalypse Now ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) และจากการแสดงในครั้งนั้นก็สร้างความประทับใจให้ Coppola มากพอที่จะจ้างให้เขาได้แสดงในหนังอีกทั้ง Rumble Fish ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526), The Cotton Club ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) และ Garden of Stone ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530)

ตลอดปี ค.ศ. 1980s (พ.ศ. 2523-2532) ตัวของ Fisburne เริ่มก่อร่างสร้างชื่อให้ตัวเองกับหนังและซีรีส์หลายเรื่อง ยาวมาจนปี 1990s และเมื่อเขาเริ่มมีคนรู้จักในวงกว้าง ตอนนี้เขาก็ได้เปลี่ยนจาก Larry Fisburne มาเป็น Laurence Fishburne

เขาได้ฝากผลงานการแสดงอันยอดเยี่ยมเอาไว้กับบทนำในเรื่อง What's Love Got to Do with It ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) เพราะการแสดงในเรื่องนี้ของเขาได้ส่งให้เขาเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต

และไม่กี่ปีต่อมาเขาก็ฝากผลงานการแสดงที่ไม่ธรรมดา เอาไว้ในซีรีส์ The Tuskegee Airmen ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) ที่ส่งให้เขาเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีกด้วย

เชื่อว่าหลายต่อหลายคนน่าจะรู้จัก Fishburne จากบทบาท Morpheus ในหนัง Sci-fi ระดับตำนาน The Matrix ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) และภาคต่อด้วย

Fisuburne เคยกำกับ เขียนบท และแสดงหนังเรื่อง Once in the Life ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) กับหนังดราม่าอาชญากรรม ที่นับว่าเป็นงานเดบิวต์ในด้านนี้ของเจ้าตัว แต่กระแสวิจารณ์ไม่ค่อยดีเสียเท่าไหร่

ถึงกระนั้นเขายังปรากฏในหนังต่าง ๆ มากมายหลายแนวหลายบทบาทร่วมงานกับนักแสดงและผู้กำกับมากหน้าหลายตา ซึ่งอาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จทุกเรื่อง แต่หน้าของเขาก็ปรากฏให้เราเห็นอยู่หลายเรื่องเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Mystic River ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Akeelah and the Bee ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), 21 ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Predators ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Contagion ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Man of Steel ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), ซีรีส์ Hannibal ค.ศ. 2013-2015 (พ.ศ. 2556-2558), Batman v Superman: Dawn of Justice ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Passengers ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), John Wick: Chapter 2 ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Ant-Man and the Wasp ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), The Mule ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), John Wick: Chapter 3 - Parabellum ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และอีกมากมาย

รวมถึงติดตามผลงานเขาอย่างต่อเนื่องใน The School for Good and Evil ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Marvel's Moon Girl and Devil Dinosaur ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), All the Old Knives, Sneaks, Rendlesham, Blacksmith, ซีรีส์ MacGruber และจะกลับมารับบท Bowery King ใน John Wick: Chapter 4 ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

TERRY CREWS

Terry Alan Crews เกิดวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2511) ที่ Flint, Michigan ประเทศอเมริกา

Crews ได้รับทุนเรียนต่อดา้นศิลปะที่มหาวิทยาลัย Western Michigan และยังได้รับทุนนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลด้วย ซึ่งความสามารถของเขาไม่ธรรมดา เพราะในปี ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) เขาเคยถูกดราฟท์ไปเล่นในลีคอเมริกันฟุตบอลอาชีพ NFL กับทีม Los Angeles Rams

Crews ได้ใช้เวลาเล่นอเมริกันฟุตบอลใน NFL 6 ปี ตั้งแต่ทีม L.A. Rams, San Diego Chargers, Rhein Fire, Washington Redskins และ Philadelphia Eagles

ในปี ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) เขาก็ได้เริ่มเป็นผู้ร่วมเขียนบทและผู้ร่วมอำนวยการสร้างให้หนังเรื่อง Young Boys Incorporated

และในปีต่อมา ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) เจ้าตัวก็ได้รีไทร์จากการเล่น NFL และได้ย้ายไปยัง Los Angeles เพื่อไล่ล่าความฝันการเป็นนักแสดงอาชีพ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) เมื่อเขาไปออดิชันรับบทใน Battle Dome ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) และเขาได้รับเลือกจนหลายต่อหลายคนรู้จักเขาในนาม T-Money

ในปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) เขาได้เดบิวต์แสดงหนังใหญ่ครั้งแรกกับเรื่อง The 6th Day ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ที่ได้แสดงร่วมกับ Arnold Schwarzenegger และหลังจากนั้นเขาก็ได้แสดงอีกมากมายหลายเรื่อง White Chicks ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Starsky & Hutch ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Get Smart ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), ซีรีส์ Everybody Hates Chris ค.ศ. 2005-2009 (พ.ศ. 2548-2552), Terminator Salvation ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), The Expendables ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Bridesmaids ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), The Expendables 2 ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), ซีรีส์ The Newsroom ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Scary Movie 5 ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Cloudy with a Chance of Meatballs 2 ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Draft Day ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), The Expendables 3 ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Deadpool 2 ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Brooklyn Nine-Nine ค.ศ. 2013-2021 (พ.ศ. 2556-2564) และการมาให้เสียงพากย์ใน Rumble ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

นักแสดงหน้าโหดผู้มักอยู่ในโหมดตลก Terry Crews

CHRISTOPHER NOLAN

Christopher Edward Nolan เกิดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513) เขาเกิดที่ Westminster, London ประเทศอังกฤษ เป็นทั้งผู้กำกับ, นักเขียนบท และผู้อำนวยการสร้าง ยอดฝีมือแห่งวงการ Hollywood

Nolan มักจะทำหนังแนวจิตวิทยา, เล่าเรื่องแบบไม่ลำดับเวลา เต็มไปด้วยบทพูดที่เฉียบคมแทบจะทุกประโยค แถมมักจะทำหนังที่ไม่ใช้ CG ช่วยอีกด้วย โดยเจ้าตัวชื่นชอบหนังมาตั้งแต่เด็ก และเคยถ่ายหนังสั้นกับพ่อของเขาตั้งแต่อายุเพียงแค่ 7 ขวบ ด้วยกล้อง Super-8 camera ไม่กี่ปีต่อมาก็ทำหนังสั้นทาง TV กับเรื่อง Tarantella ค.ศ .1989 (พ.ศ. 2532) ตามมาด้วย Larceny ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) และ Doodlebug ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540)

แต่เขาก็ได้เริ่มกำกับและเขียนบทกับหนังยาวเรื่องแรกของเขาในเรื่อง Following ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) ที่แค่เรื่องแรกก็สร้างชื่อให้กับตัวเองไม่น้อยเลย จนกระทั่งมาถึงหนังจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขากลายเป็นผู้กำกับยอดฝีมือที่ใคร ๆ ก็ต่างจับตามอง กับเรื่อง Memonto ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ที่นำเรื่องสั้นของน้องชาย Jonathan Nolan มาเรียบเรียงใหม่ และกำกับด้วยตัวเอง และแค่เพียงเรื่องที่สองก็สามารถส่งเข้าชิงรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

จุดเปลี่ยนในชีวิตของ Nolan เริ่มต้นขึ้นกับการทำหนังแฟรนไชส์ Batman ในปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) เริ่มต้นกับ Batman Begins ณ ตอนนั้น แปลก แหวกแนวกับหนังฮีโร่เรื่องอื่น ๆ พอสมควร มีความดาร์ค มืดหม่น แต่โดยรวมแล้วถือเป็นเรื่องเปิดไตรภาคได้ดีเรื่องนึงเลยทีเดียว และมันยังได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ 1 รางวัลด้วย (Best Achievement in Cinematography)

และก่อนที่เขาจะไปทำภาคต่อของหนัง Batman เขาก็ได้มากำกับ The Prestige ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) และร่วมงานกับ Christian Bale ประชันบทบาทกับ Hugh Jackman เป็นเรื่องราวระหว่างการเฉือนคมของนักมายากลชื่อดังแห่งยุคทั้งสองที่ชิงดีชิงเด่นกันมาตลอด ทั้งคู่ต่างแลกทุกอย่างในชีวิตเพียงเพื่อคำว่าชื่อเสียงและต้องการเอาชนะอีกฝ่ายเท่านั้น ตัวหนังได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ 2 สาขา (Best Achievement in Cinematography และ Best Achievement in Art Direction)

ในปี ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) Nolan ก็ได้มาทำภาคต่อ Batman กับ The Dark Knight ที่หลายต่อหลายสำนักยกให้เป็นที่สุดของ Nolan ไม่ใช่แค่หนังฮีโร่ธรรมดา เพราะมันคือหนังจิตวิทยา ที่แฝงไปด้วยแง่คิด บทพูดคมคาย และการแสดงอันยอดเยี่ยม

หนังประสบความสำเร็จมากมายทั้งในเรื่องรายได้และคำวิจารณ์ ในด้านของคำวิจารณ์ฺ เป็นหนังที่ได้รับคะแนนเยอะที่สุดของ Nolan จากทั้ง IMDb และ Rotten Tomatoes

ส่วนในด้านของรายได้ เป็นหนังที่ทำรายได้ในประเทศเยอะที่สุดตั้งแต่ Nolan เคยทำหนังมาเลย (535 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 16,500 ล้านบาท) แถมยังเป็นหนังจากคอมิกส์เรื่องแรกที่แตะพันล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย!

ด้วยความสุดยอดของหนังฮีโร่ที่เป็นมากกว่าหนังฮีโร่ ส่งให้เรื่องนี้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 8 สาขา และชนะไป 2 สาขา (ชนะ Best Performance by an Actor in a Supporting Role - Heath Ledger และ Best Achievement in Sound Editing)

นอกจากจะได้รางวัลออสการ์แล้ว มันยังควบรางวัลจากเวทีลูกโลกทองคำอีกด้วย (Best Performance by an Actor in a Supporting Role in a Motion Picture - Heath Ledger)

ในปี ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) ผลงานของ Nolan ก็สร้างปรากฏการณ์อีกแล้ว กับหนังแนววิทยาศาสตร์ฝันซ้อนฝันเรื่อง Inception หนังที่โคตรสร้างสรรค์และใช้จินตนาการสุด ๆ ของ Nolan เขาต้องใช้เวลาเขียนบทเกือบ 8 ปี กับเรื่องราวฝันซ้อนฝัน ที่ได้แรงบันดาลใจมากจากภาวะที่เราตระหนักรู้ว่าอยู่ในฝันหรือ Lucid Dream และหลายๆ ฉากเขาได้แรงบันดาลใจมากจากศิลปินที่ชื่อว่า M.C. Escher ที่มักทำภาพแบบหลอกตา

โดยจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการขโมยความฝันของคนกลุ่มหนึ่ง ที่หวังเข้าไปในฝันของเป้าหมายเพื่อล้วงข้อมูลความลับบางอย่าง ที่บอกเลยว่าซับซ้อนตั้งแต่เรื่องย่อ ยันเรื่องราวในหนัง กับการฝันซ้อนฝัน แต่มันก็สนุก และนับเป็นหนังขึ้นชื่อของ Nolan เลยจริง ๆ

ซึ่งในเรื่องก็เป็นหนังของ Nolan ที่ได้รางวัลออสการ์มากที่สุดจากทั้งหมดที่เขาเคยทำหนังมา เข้าชิง 8 สาขา และคว้ารางวัลมาถึง 4 สาขา (ชนะ Best Achievement in Cinematography, Best Achievement in Sound Mixing, Best Achievement in Sound Editing, Best Achievement in Visual Effects)

ต่อกันด้วยภาคปิดไตรภาค Batman อย่าง The Dark Knight Rises ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) ที่ทำออกมาได้ดีไม่แพ้ภาคอื่น และกลับมาทำหนัง Sci-Fi แฝงปรัชญากับ Interstellar ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) เรื่องราวเมื่อโลกมนุษย์จะไม่สามารถดำรงอยู่ได้อีกต่อไป ทำให้ทีมนักสำรวจต้องเดินเดินทางผ่านกาแล็กซี่ผ่านรูหนอนในอวกาศ เพื่อหาดาวดวงใหม่ให้มนุษย์ได้อาศัยอยู่

ด้วยความเข้มข้น ผสมความดราม่าสุด ๆ ส่งให้มันได้เข้าชิง 5 สาขารางวัลออสการ์และคว้าไป 1 รางวัล (Best Achievement in Visual Effects) แถมยังได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีก 1 สาขาด้วย (Best Original Score - Motion Picture)

ต่อด้วยหนังดราม่าอิงประวัติศาสตร์ที่สร้างมาจากเรื่องจริงเพียงเรื่องเดียวของ Nolan ซึ่งเจ้าตัวได้ไอเดียในการทำหนังเรื่องนี้มาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ในขณะที่นั่งเรือไปกับแฟนสาวของเขา (ซึ่งภายหลังก็ได้เป็นสามีภรรยากัน)

Dunkirk ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) เป็นหนังที่สร้างมาจากเหตุการณ์จริงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เกี่ยวกับยุทธการที่อ่าวดันเคิร์ก เป็นเหตุการณ์ที่ทหารอังกฤษ เบลเยี่ยม แคนาดา เนเธอร์แลน และฝั่งเศส ได้ถูกเหล่าทหารเยอรมันปิดล้อมเอาไว้ที่หาดดันเคิร์ก ทำให้ต้องอพยพทหารกว่า 400,000 นาย ออกมาจากชายหาด โดยใช้เวลาเกือบ 10 วัน และต้องอาศัยเรือพลเรือนมาช่วยด้วย

ซึ่งนับว่า Dunkirk เป็นหนังสงครามที่ไม่ใช่หนังสงคราม เพราะมันเป็นหนังที่ถ่ายทอดเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ในช่วงสงครามออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม และเหตุนั้น ก็ส่งผลให้มันเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 8 สาขา และคว้ารางวัลไป 3 สาขา (Best Achievement in Film Editing, Best Achievement in Sound Editing, Best Achievement in Sound Mixing)

และผลงานล่าสุดอย่าง Tenet ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ที่ยกระดับทั้งการเล่าเรื่องและการถ่ายทำที่เล่นเอาคนดูมึนตึ๊บ!

ทั่วทั้ง Hollywood ต่างชื่นชมและทุกคนต่างก็รู้จักชื่อของ Christopher Nolan ว่าชื่อนี้ การันตีคุณภาพแน่นอน เรียกได้ว่าหลายๆ คนต่างจดจ้องและเฝ้ารอทุกครั้งที่เขาจะทำหนังสักเรื่อง แถมแต่ละเรื่องยังได้รับเสียงชมและสร้างปรากฏการณ์แทบทุกเรื่อง!

HILARY SWANK

Hilary Ann Swank เกิดวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517) ที่ Lincoln, Nebraska ประเทศอเมริกา และเมื่ออายุได้ 6 ขวบเธอกับครอบครัวก็ย้ายมายัง Bellingham, Washington

Hilary ได้ถูกค้นพบความเป็นดาวโดยผู้อำนวยการสร้าง Suzy Sachs ผู้ที่สอนการแสดงให้กับเธอ เมื่อเธออายุได้ 9 ขวบ เธอก็ได้รับบทบาทแรกในชีวิตกับบทบาท Mowgli ใน The Jungle Book ฉบับละครเวที หลังจากนั้นเธอก็เริ่มปรากฏตัวในละครเวทีท้องถิ่นหลายที และการแสดงของโรงเรียน

เมื่ออายุได้ 16 ปี เธอได้คว้ารางวัล Junior Olympics และคว้าแชมป์ Washington State Championships ในกีฬาว่ายน้ำ แถมเธอยังได้อันดับ 5 ในกีฬายิมนาสติกแบบ all-around อีกด้วย

ในปี ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) แม่ของเธอย้ายไปยัง Los Angeles และนั่นคือจุดเริ่มต้นการเป็นนักแสดงอาชีพของเธอ เพราะเธอได้ไปแสดงในหนัง Buffy the Vampire Slayer ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ตามมาด้วย The Karate Kid ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) กับการที่เธอแข่งขัน ออดิชั่นผ่านนักแสดงกว่า 100 คนเพื่อมารับบทนี้

หลังจากนั้นชื่อของเธอก็เป็นที่เตะตาต้องใจในวงการ Hollywood ทันที เธอแสดงหนังและซีรีส์มาอีกอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเธอได้รับบทใน Boys Don't Cry ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ที่มันส่งเธอเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำและออสการ์ครั้งแรกในชีวิต ที่สำคัญเธอยังสามารถคว้ารางวัลได้จากทั้งสองเวทีเลยทีเดียว

นาทีนั้นไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของเธอแล้ว เธอก็ยังคงแสดงหนังมาอยู่เรื่อย ๆ ร่วมกับดารา ผู้กำกับดังมากมาย ทั้งร่วมงานกับ Cate Blanchett และ Keanu Reeves ในหนังของผู้กำกับ Sam Raimi เรื่อง The Gift ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543), ร่วมงานกับ Al Pacino และ robin Williams ในหนังของ Christopher Nolan เรื่อง Insomnia ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)

และมาสร้างความยอดเยี่ยมในงานแสดงอีกครั้งกับซีรีส์เรื่อง Iron Jawed Angels ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) ที่ส่งให้เธอเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำเป็นครั้งที่สอง แต่น่าเสียดายที่ในครั้งนี้เธอไม่ได้ไปครอบครอง

แต่ถึงกระนั้น ในปีเดียวกันกับเรื่อง Million Dollar Baby ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) ที่ได้แสดงร่วมกับ Clint Eastwood และ Morgan Freeman เรื่องราวของหญิงสาวผู้มีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักชกอาชีพ และจากการแสดงอันยอดเยี่ยมของเธอในบทบาทนี้ มันส่งให้เธอคว้ารางวัลลูกโลกทองคำและรางวัลออสการ์ไปครอบครองอีกด้วย

ทำให้เธอกลายเป็นนักแสดงหญิงที่เด็กที่สุดในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้า 2 รางวัลออสการ์ในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมไปครอบครอง (Best Performance by an Actress in a Leading Role)

ทุกวันนี้เธอก็ยังคงแสดงหนังและซีรีส์มาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง P.S. I Love You ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Logan Lucky ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), ซีรีส์ Trust ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), I Am Mother ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), The Hunt ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563), ซีรีส์ Away และล่าสุดอย่าง Fatale ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

แต่น่าเสียดายที่เราไม่ค่อยได้เห็นเธอกับผลงานฟอร์มยักษ์สักเท่าไหร่แล้ว แต่เธอก็ยังคงนักแสดงผู้มากไปด้วยความสามารถจริง ๆ

31 กรกฎาคม

MICHAEL BIEHN

Michael Connell Biehn เกิดวันที่ 31 กรกฎาคม ค.ศ. 1956 (พ.ศ. 2499) ที่ Anniston, Alabama ประเทศอเมริกา

เมื่อตอนอายุ 14 ปีเขาได้ย้ายไปที่ Lake Havasu, Arizona ประเทศอเมริกา ที่นั่นเขาชนะทุนการละครเพื่อเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Arizona แต่เขาเรียนได้เพียง 2 ปี ก็ออกจามหาวิทยาลัยเพื่อไปสู่เส้นทางนักแสดงอาชีพที่ Hollywood

บทใหญ่ครั้งแรกของเขารับบทเป็นหนุ่มโรคจิตใน The Fan ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524) และหลังจากนั้นเขาก็ไปปรากฏตัวใน The Lords of Discipline ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526)

แต่หลายต่อหลายคนรู้จัก และเขาได้สร้างชื่อตัวเองกับบทบาท Kyle Reese นายทหารผู้กอบกู้โลกจาก Skynet ในหนังเรื่อง The Terminator ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) ของ James Cameron

สานสัมพันธ์ของ Biehn กับ Cameron ก็แน่นแฟ้น ทั้งคู่ยังได้มาร่วมงานกันอีกในเรื่อง Aliens ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529), The Abyss ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532)

ในช่วงปี ค.ศ. 1990s (พ.ศ. 2533-2542) เขาได้มาแสดงในหนังเรื่อง Navy Seals ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533), K2 ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) และอีกหนึ่งบทบาทอันน่าจดจำกับ Johnny Ringo ในหนังเรื่อง Tombstone ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) และหลังจากนั้นเขาก็แสดงหนังกับซีรีส์ต่ออย่างเรื่อยมาจนปัจจุบันแต่ไม่ได้เด่นดังเท่าแต่ก่อน

ซึ่งผลงานล่าสุดของเขาคือหนัง Killer Weekend ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และการได้มาร่วมแสดงปรากฏตัวในซีรีส์ The Mandalorian ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ตอน 13