ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
THAIWARE.COM | ทิปส์ไอที
 

วิธีใช้งาน Parental Control (การควบคุมโดยผู้ปกครอง) บน iPad และควบคุมด้วย iPhone

วิธีใช้งาน Parental Control (การควบคุมโดยผู้ปกครอง) บน iPad และควบคุมด้วย iPhone
ภาพจาก : https://www.freepik.com/free-photo/vlogging-with-tablet-playing-caucasian-boy-s-portrait-dark-studio-background-neon-light-beautiful-curly-model-concept-human-emotions-facial-expression-sales-ad-modern-tech-gadgets_13934308.htm
เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 22,400
เขียนโดย :
0 %E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99+Parental+Control+%28%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%29+%E0%B8%9A%E0%B8%99+iPad+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2+iPhone
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

วิธีใช้งาน Parental Control (การควบคุมโดยผู้ปกครอง)
บน iPad และควบคุมด้วย iPhone

ถ้าหากว่าคุณมีอุปกรณ์ในระบบปฏิบัติการ iOS มากกว่า 1 เครื่อง และต้องการตั้งค่าเพื่อไม่ให้บุตรหลานใช้อุปกรณ์อื่น ๆ แล้วเผลอซื้อของในเกมโดยที่คุณไม่รู้ตัว, เข้าหน้าเว็บไซต์ที่จำกัดอายุผู้เข้าชม, หรือแม้กระทั่งรับชมคลิปที่ไม่เหมาะสม ก็สามารถตั้งค่าเครื่องแยกออกไปได้ โดยไม่จำเป็นต้องสมัครบัญชีผู้ใช้งานแอปเปิล หรือ Apple ID เพิ่มแต่อย่างใด

บทความเกี่ยวกับ iOS อื่นๆ

ซึ่งการกำหนดดังกล่าวสามารถทำผ่าน "เมนู Parental Control" มีวิธีการอย่างไร ? และสามารถกำหนดในส่วนไหนได้บ้าง ? เรามีวิธีการตั้งค่าพร้อมรูปประกอบอย่างละเอียดมาฝาก (สามารถตั้งได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ)

 

เนื้อหาภายในบทความ

 

วิธีการตั้งค่าเครื่อง iPad ให้เป็น "เครื่องลูก" (How to set iPad as Child's Device)

ถ้าหากคุณต้องการตั้งค่าเครื่องแบบแยกกันอย่างเป็นอิสระ โดย ยก iPad ให้เป็นของลูกไปเลยโดยตรง (แต่แน่นอน ยังอยู่ในความดูแลของเรานะ) สามารถทำได้ดังนี้

วิธีตั้งค่าเครื่อง iPad ให้เป็น "เครื่องลูก"

1. ทำการสมัคร Apple ID แบบแยกใช้กัน

Apple ID เปรียบเสมือนบัญชีอีเมลที่เป็นส่วนตัวแบบของใครของมัน ถ้าเกิดคุณ ยกให้ แบบให้ไปทั้งเครื่อง แล้วให้บุตรหลานจัดการเครื่องของตัวเองได้ตามชอบ ควรจะมี Apple ID แยกกัน เพื่อไม่ให้บุตรหลานของคุณสามารถเข้าถึงข้อมูลอื่น ๆ ที่คุณไม่ต้องการแชร์ร่วมกันโดยไม่ตั้งใจ

สามารถสมัคร Apple ID ใหม่ได้ที่ : 

2. ทำการล็อกอินเข้าใช้ iPad ด้วย Apple ID

เมื่อมี Apple ID เป็นของตนเองแล้ว ให้ทำการล็อกอินเข้าสู่เครื่อง iPad โดยแตะที่ "ไอคอน การตั้งค่า (Settings)" และทำการล็อกอินที่ "เมนู ล็อกอินเข้าสู่ไอแพด (Sign in to your iPad)" บริเวณซ้ายบนของแถบเมนูใต้คำว่า การตั้งค่า (Settings) ให้เรียบร้อยด้วยบัญชีที่เพิ่งสมัครมา

ล็อกอินเข้าใช้ iPad ด้วย Apple ID

3. เริ่มต้นกลุ่มครอบครัว

เราสามารถเริ่มต้นสร้างกลุ่มครอบครัวได้บน iPhone (หรือ iPad และ iPod Touch ที่เป็นของคุณเอง) โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้

  1. ไปที่ "ไอคอน การตั้งค่า (Settings)" แล้ว แตะที่ "เมนู ชื่อของคุณด้านซ้ายบน" และแตะที่ "เมนู การแชร์กันในครอบครัว (Family Sharing)"

แชร์กันในครอบครัว (Family Sharing)

  1. แตะ "ปุ่ม ตั้งค่าครอบครัว (Set Up Your Family)" และแตะ "ปุ่ม เพิ่มสมาชิก (Invite People)" แล้วเลือกช่องทางที่จะเชิญคนอื่น ๆ เข้ามา เช่น ทางข้อความ ทางอีเมล หรือโดยการล็อกอิน Apple ID ของสมาชิกที่ต้องการเพิ่มลงไป และเมื่อการตอบรับเข้าเป็นสมาชิกครอบครัวเสร็จสิ้น คุณก็จะสามารถเลือกบทบาทของ iPad ของลูก เป็น Parent / Guardian หรือเป็นบุตรหลานได้

แชร์กันในครอบครัว (Family Sharing)

ข้อสังเกต : โดยปกติแล้ว ในตอนที่สมัคร Apple ID ใหม่ หากบุตรหลานของคุณกรอกวันเดือนปีเกิดได้อย่างถูกต้อง สถานะจะถูกแทนที่ด้วยอายุโดยอัตโนมัติหากมีอายุไม่ถึง 18 ปี โดยไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนสถานะอีก

Family's Children

การป้องกันการซื้อผ่าน iTunes และ App Store (Prevent iTunes & App Store Purchases)

คุณยังสามารถป้องกันไม่ให้บุตรหลานของคุณติดตั้งหรือลบแอป ซื้อสินค้าภายในแอป และอื่น ๆ ได้อีกด้วย หากต้องการ ป้องกันการซื้อหรือดาวน์โหลดใน iTunes และ App Store ให้ทำดังต่อไปนี้

1. ไปที่ "ไอคอน การตั้งค่า (Settings) " แล้วแตะ "เมนู เวลาหน้าจอ (Screen Time)" เลื่อนลงไปที่ "เมนู ครอบครัว (Family)" แล้วแตะที่ชื่อบุตรหลาน

การป้องกันการซื้อผ่าน iTunes และ App Store (Prevent iTunes & App Store Purchases)

2. แตะ "เมนู จำกัดเนื้อหาและความเป็นส่วนตัว (Content & Privacy Restrictions)" หากระบบร้องขอ ให้ป้อนรหัสผ่านของคุณ

การป้องกันการซื้อผ่าน iTunes และ App Store (Prevent iTunes & App Store Purchases)

3. แตะ "สินค้าที่ซื้อใน iTunes & App Store (iTunes & App Store Purchases)"

การป้องกันการซื้อผ่าน iTunes และ App Store (Prevent iTunes & App Store Purchases)

4. เลือกแตะเมนูที่ต้องการตั้งค่า และตั้งเป็น "ไม่อนุญาต (Don't Allow)"

การป้องกันการซื้อผ่าน iTunes และ App Store (Prevent iTunes & App Store Purchases)

คุณยังสามารถเปลี่ยนการตั้งค่ารหัสผ่านของคุณสำหรับรายการสินค้าเพิ่มเติมจาก iTunes Store และ App Store หรือร้านหนังสือได้อีกด้วย ทำตามขั้นตอนที่ 1 - 3 แล้วเลือก "ตัวเลือก ต้องใส่เสมอ (Always Require)" หรือ "ตัวเลือก ไม่ต้องใส่ (Don't Require)"

การอนุญาตแอปพลิเคชัน และคุณสมบัติต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับเครื่อง (Allow Built-in Apps and Features)

คุณสามารถ จำกัดการใช้งานแอปและคุณสมบัติที่มาพร้อมกับเครื่องได้ หากคุณปิดแอปหรือคุณสมบัติ ระบบจะไม่ลบแอปหรือคุณสมบัติดังกล่าวออก แต่จะซ่อนรายการเหล่านั้นจากหน้าจอโฮมเพียงชั่วคราวเท่านั้น ตัวอย่างเช่น หากคุณปิดแอปเมล แอปเมลจะไม่ปรากฏบนหน้าจอโฮมของคุณจนกว่าคุณจะเปิดแอปนั้นอีกครั้ง

หากต้องการเปลี่ยนแปลงแอปที่อนุญาต ให้ทำดังต่อไปนี้

1. ไปที่ "ไอคอน การตั้งค่า" แล้วแตะ "เมนู เวลาหน้าจอ" เลื่อนลงไปที่ "เมนู ครอบครัว" แล้วแตะที่ชื่อบุตรหลาน

การอนุญาตแอปพลิเคชัน และคุณสมบัติต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับเครื่อง (Allow Built-in Apps and Features)

2. แตะ "เมนู จำกัดเนื้อหาและความเป็นส่วนตัว"

การอนุญาตแอปพลิเคชัน และคุณสมบัติต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับเครื่อง (Allow Built-in Apps and Features)

4. แตะ "เมนู แอปที่ได้รับอนุญาต (Allowed Apps)" พร้อมป้อนรหัสล็อกหน้าจอของคุณ

การอนุญาตแอปพลิเคชัน และคุณสมบัติต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับเครื่อง (Allow Built-in Apps and Features)

5. เลือกแอปที่คุณต้องการอนุญาต

การอนุญาตแอปพลิเคชัน และคุณสมบัติต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับเครื่อง (Allow Built-in Apps and Features)

การป้องกันเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และการจัดประเภทเนื้อหาความบันเทิง (Prevent Explicit Content and Content Ratings)

เราสามารถ ควบคุมการเล่นเพลงที่มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และภาพยนตร์หรือรายการทีวี ที่มีการจัดประเภทเฉพาะ ได้อีกด้วย นอกจากนี้ แอปต่าง ๆ ยังมีการจัดประเภทเนื้อหาที่สามารถกำหนดค่าโดยใช้การจำกัดเนื้อหาได้อีกด้วย

หากต้องการจำกัดเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและการจัดประเภทเนื้อหา ให้ทำดังต่อไปนี้

1. ไปที่ "ไอคอน การตั้งค่า" แล้วแตะ "เมนู เวลาหน้าจอ" เลื่อนลงไปที่ "เมนู ครอบครัว" แล้วแตะที่ชื่อบุตรหลาน

การป้องกันเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และการจัดประเภทเนื้อหาความบันเทิง (Prevent Explicit Content and Content Ratings)

2. แตะ "เมนู จำกัดเนื้อหาและความเป็นส่วนตัว"

การป้องกันเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และการจัดประเภทเนื้อหาความบันเทิง (Prevent Explicit Content and Content Ratings)

3. แตะ "เมนู การจำกัดเนื้อหา (Content Restrictions)"

การป้องกันเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และการจัดประเภทเนื้อหาความบันเทิง (Prevent Explicit Content and Content Ratings)

4. เลือกการตั้งค่าที่ต้องการสำหรับแต่ละคุณสมบัติ หรือตั้งค่าใต้เนื้อหาของร้านที่อนุญาต

การป้องกันเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และการจัดประเภทเนื้อหาความบันเทิง (Prevent Explicit Content and Content Ratings)

ป้องกันเนื้อหาบนเว็บไซต์ (Prevent Web Content)

ในระบบปฏิบัติการ iOS และ iPadOS สามารถ กรองเนื้อหาของเว็บไซต์โดยอัตโนมัติเพื่อจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ ใน เว็บเบราว์เซอร์ Safari และแอปฯ ต่าง ๆ บนอุปกรณ์ที่ต้องการได้ นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มเว็บไซต์บางเว็บไปยังรายการที่อนุมัติหรือรายการที่บล็อกได้ และยังสามารถจำกัดการเข้าถึงเฉพาะเว็บไซต์ที่อนุมัติได้อีกด้วย โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

1. ไปที่ "ไอคอน การตั้งค่า" แล้วแตะ "เมนู เวลาหน้าจอ" เลื่อนลงไปที่ "เมนู ครอบครัว" แล้วแตะที่ชื่อบุตรหลาน

ป้องกันเนื้อหาบนเว็บไซต์ (Prevent Web Content)

2. แตะ "เมนู จำกัดเนื้อหาและความเป็นส่วนตัว" และป้อนรหัสล็อกหน้าจอของคุณ 

ป้องกันเนื้อหาบนเว็บไซต์ (Prevent Web Content)

3. แตะ "เมนู การจำกัดเนื้อหา"

ป้องกันเนื้อหาบนเว็บไซต์ (Prevent Web Content)

4.แตะ "เมนู เนื้อหาเว็บ (Web Content)"

ป้องกันเนื้อหาบนเว็บไซต์ (Prevent Web Content)

5. ให้เลือกตัวเลือกที่ต้องการจำกัดได้แก่ "ตัวเลือก การเข้าถึงไม่จำกัด (Unrestricted Access)", "ตัวเลือก จำกัดเว็บไซต์ผู้ใหญ่ (Limit Adult Websites)" หรือ "ตัวเลือก เว็บไซต์ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น (Allowed Websites Only)"

ป้องกันเนื้อหาบนเว็บไซต์ (Prevent Web Content)

การจำกัดการเข้าถึงเครือข่ายเกมออนไลน์ (Restrict Game Center)

หากต้องการ จำกัดคุณสมบัติของ Game Center สามารถทำได้ดังต่อไปนี้

1. ไปที่ "ไอคอน การตั้งค่า" แล้วแตะ "เมนู เวลาหน้าจอ" เลื่อนลงไปที่ "เมนู ครอบครัว" แล้วแตะที่ชื่อบุตรหลาน

การจำกัดการเข้าถึงเครือข่ายเกมออนไลน์ (Restrict Game Center)

2. แตะ "เมนู จำกัดเนื้อหาและความเป็นส่วนตัว" แล้วแตะ "เมนู การจำกัดเนื้อหา"

การจำกัดการเข้าถึงเครือข่ายเกมออนไลน์ (Restrict Game Center)

3. เลื่อนลงไปที่ "เมนู Game Center" แล้วเลือกการตั้งค่าที่ต้องการ ว่าต้องการจะจำกัดการเข้าถึงทางด้านไหนบ้าง

การจำกัดการเข้าถึงเครือข่ายเกมออนไลน์ (Restrict Game Center)

การจำกัดเวลาการใช้งาน (Restrict Screen Time)

การจำกัดเวลาการเล่น นี้ เราสามารถตั้งได้จาก iPhone ของเราโดยตรง โดยจะสามารถตั้งได้ทั้งแบบ กำหนดเวลาที่สามารถเปิดใช้งานเครื่อง iPad ได้ และ กำหนดเวลาเล่นต่อเนื่องในแต่ละแอป

กำหนดเวลาที่สามารถเปิดใช้งานเครื่อง iPad

1. ไปที่ "ไอคอน การตั้งค่า" แล้วแตะ "เมนู เวลาหน้าจอ" เลื่อนลงไปที่ "เมนู ครอบครัว" แล้วแตะที่ชื่อบุตรหลาน

การจำกัดเวลาการใช้งาน (Restrict Screen Time)

2. ในหน้านี้จะแสดงกราฟเวลาที่บุตรหลายของคุณใช้เวลาไปบน iPad ให้เลื่อนรายการลงมาด้านล่าง แล้วแตะที่ "เมนู เวลาไม่ใช้งาน (Downtime)" จากนั้นให้ใส่รหัสล็อกหน้าจอ

การจำกัดเวลาการใช้งาน (Restrict Screen Time)

3. แตะเปิด "ตัวเลือก เวลาไม่ใช้งาน" ให้สวิทช์เป็นสีเขียว ซึ่งตรงนี้ เราจะสามารถเลือกได้ว่า เวลาที่ไม่อนุญาตให้ใช้งาน จะเริ่มตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมงในทุก ๆ วัน

การจำกัดเวลาการใช้งาน (Restrict Screen Time)

ซึ่งถ้าหากคุณต้องการตั้งค่าเป็นรายวัน เช่น วันหยุดสุดสัปดาห์สามารถเล่นได้ดึกหน่อย ก็สามารถเลือก "ตัวเลือก กำหนดวัน (Customize Days)" เพื่อกำหนดเวลาเป็นรายวันได้

การจำกัดเวลาการใช้งาน (Restrict Screen Time)

กำหนดเวลาเล่นต่อเนื่องในแต่ละแอป

1. ไปที่ "ไอคอน การตั้งค่า" แล้วแตะ "เมนู เวลาหน้าจอ" เลื่อนลงไปที่ "เมนู ครอบครัว" แล้วแตะที่ชื่อบุตรหลาน

การจำกัดเวลาการใช้งาน (Restrict Screen Time)

2. ในหน้านี้จะแสดงกราฟเวลาที่บุตรหลานของคุณใช้เวลาไปบน iPad ให้เลื่อนรายการลงมาด้านล่าง แล้วแตะที่ "เมนู การจำกัดการใช้แอป (App Limits)" จากนั้นให้ใส่รหัสล็อกหน้าจอ

การจำกัดเวลาการใช้งาน (Restrict Screen Time)

3. แตะเปิด "ตัวเลือก การจำกัดการใช้แอป" ให้เป็นสีเขียว แล้วแตะที่ "เมนู แอปและหมวดหมู่ (All Apps & Categories)"

การจำกัดเวลาการใช้งาน (Restrict Screen Time)

4. เมื่อเข้ามาในหน้านี้ เราจะสามารถตั้งค่าเวลาการใช้งานสำหรับแต่ละแอปที่มีในเครื่อง iPad ได้อย่างละเอียดที่นี่

การจำกัดเวลาการใช้งาน (Restrict Screen Time)

ใน "เมนู เวลา (Time)" เราสามารถเลือกจำกัดเวลาในแต่ละวันได้ว่า จะสามารถเล่นได้เป็นเวลานานเท่าไหร่ในแต่ละแอป และจะจำกัดทุกวันหรือไม่ โดยการแตะที่  "เมนู เวลา"

การจำกัดเวลาการใช้งาน (Restrict Screen Time)

และที่ "เมนู หมวดหมู่, แอป, และเว็บไซต์ (Categories, Apps, and Websites)" ก็จะสามารถเลือกแอปที่ต้องการกำหนดเวลาการเล่นได้ด้วย หรือจะเลือกทั้งหมดเลยก็ทำได้เช่นกัน

การจำกัดเวลาการใช้งาน (Restrict Screen Time)


ที่มา : support.apple.com , support.apple.com

0 %E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99+Parental+Control+%28%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%29+%E0%B8%9A%E0%B8%99+iPad+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2+iPhone
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
สมาชิก : Member    สมาชิก
เกมเมอร์หญิงทาสแมว ถ้าอยู่กับแมวแล้วจะน้วยแมวทั้งวัน
 
 
 

ทิปส์ไอทีที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น