ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
THAIWARE.COM | ทิปส์ไอที
 

Copyright Claim และ Copyright Strike คืออะไร ? พร้อมวิธีรับมือกับปัญหาลิขสิทธิ์บน YouTube

Copyright Claim และ Copyright Strike คืออะไร ? พร้อมวิธีรับมือกับปัญหาลิขสิทธิ์บน YouTube

เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 13,648
เขียนโดย :
0 Copyright+Claim+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0+Copyright+Strike+%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%82%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B8%99+YouTube
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

วิธีรับมือกับปัญหาลิขสิทธิ์บน YouTube

YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในการแบ่งปันโมเมนต์วิดีโอดี ๆ ที่เกิดขึ้น อาจจะเป็นไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจของตัวคุณเอง, งานอดิเรก, ศิลปะ, การท่องเที่ยว หรืออะไรก็ตาม ตราบใดที่คุณบันทึก หรือสร้างสรรค์มันขึ้นมาในรูปแบบวิดีโอ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องพึงระวังเอาไว้ ในเวลาที่เราจะอัปโหลดวิดีโออะไรสักอย่างขึ้นไปบนแพลตฟอร์ม YouTube ก็คือเรื่อง "ลิขสิทธิ์ (Copyright)"

บทความเกี่ยวกับ Youtube อื่นๆ

โดยแพลตฟอร์ม YouTube นั้น ถือว่ามีความเข้มงวดในเรื่องลิขสิทธิ์ เป็นอย่างมาก ซึ่งจริงๆ แล้วลิขสิทธิ์นั้น ไม่ได้มีเฉพาะกับคลิปวิดีโออย่างเดียว แต่มันยังรวมไปถึง ลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์, ลิขสิทธิ์เพลง, ลิขสิทธิ์ภาพวาด และอื่นๆ อีกมากมาย

ดังนั้น หากเราต้องการอัปโหลดวิดีโอบนแพลตฟอร์มนี้อย่างจริงจัง ก็ควรจะศึกษาเรื่องระบบลิขสิทธิ์ของ YouTube เอาไว้สักหน่อย เพราะหากคุณทำผิดกฏข้อบังคับเป็นเวลาหลายครั้ง คุณสามารถถูกลงโทษถึงขั้นถูกลบช่อง และวิดีโอทั้งหมดทิ้งได้เลย

เนื้อหาภายในบทความ

หากคุณสร้างวิดีโอขึ้นมา แล้วทำการอัปโหลดขึ้นไปบน YouTube นั่นก็จะเป็นเนื้อหาของคุณ และคุณก็จะเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เนื้อหาดังกล่าวทันที นั่นหมายความว่า หากมีคนอื่นนำวิดีโอของคุณไปใช้ โดยที่ไม่ได้รับการอนุญาตจากคุณผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน บุคคลนั้นกำลังละเมิดลิขสิทธิ์ในวิดีโอของคุณอยู่

อย่างไรก็ตาม หากในวิดีโอของคุณมีการเนื้อหาที่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ และไม่ได้รับการอนุญาตให้มาใช้ ไม่ว่าจะเป็นเพลงประกอบ, คลิปวิดีโอ, รูปภาพ ฯลฯ นั่นหมายความว่าคุณก็กำลังละเมิดลิขสิทธิ์อยู่เช่นกัน

สำหรับ YouTube แล้ว ลิขสิทธิ์เป็นสิ่งที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก การไปลบหลู่มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เราควรพยายามทำตามกฏที่ถูกกำหนดไว้ให้ถูกต้องที่สุด แม้ทาง YouTube จะเปิดช่องให้แก้ต่างได้หากระบบตรวจพบว่าช่องของคุณมีการละเมิดลิขสิทธิ์ แต่หากมีการละเมิดกฏเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ทาง YouTube อาจตัดสินใจลบบัญชีดังกล่าวทิ้งทันทีโดยไม่เปิดช่องให้ยื่นอุทธรณ์อีกต่อไป

บนแพลตฟอร์ม YouTube เมื่อระบบตรวจพบการละเมิดลิขสิทธิ์ จะมีการดำเนินการอยู่ 2 รูปแบบ คือ

  • Copyright Claim
  • Copyright Strike

เรามาทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Copyright Claim และ Copyright Strike กันก่อน

Copyright Claim คืออะไร ?

Copyright Claim นั้นหมายถึงการเรียกร้องลิขสิทธิ์ด้วย Content ID นั่นอาจทำให้คุณผู้อ่านเกิดคำถามตามมาว่า "แล้ว Content ID มันคืออะไร ?"

Content ID เป็นระบบอัตโนมัติที่ทาง YouTube ใช้ในการตรวจสอบวิดีโอทุกตัวที่ถูกอัปโหลดขึ้นไปบนแพลตฟอร์ม เพื่อให้แน่ใจว่าในวิดีโอดังกล่าวไม่มีเนื้อหาละเมิดลิขสิทธิ์อยู่ในคลิปวิดีโอดังกล่าว

มาดูยกตัวอย่างการทำงานของระบบ Content ID กันสักเล็กน้อย สมมติว่าคุณเป็นศิลปินที่อัปโหลดเพลงของคุณขึ้นไปบน YouTube แล้วคุณต้องการให้ YouTube ตรวจสอบว่าไม่มีคนอื่นนำเพลงของคุณไปใช้ หรือละเมิดลิขสิทธิ์เพลงของคุณ ทางตัวศิลปินจะต้องส่งไฟล์สำหรับใช้อ้างอิงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ให้กับทาง YouTube เช่น ไฟล์งานต้นฉบับของคุณ เพื่อให้ทางระบบ YouTube ตรวจสอบว่าคุณเป็นเจ้าของผลงานตัวจริงที่ครอบครองลิขสิทธิ์อยู่ หลังจากที่ผ่านการยืนยันแล้ว ผลงานของคุณก็จะได้รับการระบุ Content ID ลงในระบบ

ระบบ Content ID ใน YouTube จะทำหน้าที่สแกนวิดีโอทั้งหมดที่มีอยู่บนแพลตฟอร์ม และหากมันตรวจพบว่ามีวิดีโอที่ถูกอัปโหลดขึ้นไปมีข้อมูลที่ตรงกับข้อมูลที่ได้รับการระบุ Content ID เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอ, เสียง หรือภาพนิ่งก็ตาม มันจะทำการเรียกร้องลิขสิทธิ์ Copyright Claim ให้กับผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์โดยอัตโนมัติ แน่นอนว่า ทางตัวเจ้าของลิขสิทธิ์ ก็จะได้รับการแจ้งเตือนให้ทราบด้วยเช่นกัน

Copyright Claim และ Copyright Strike คืออะไร ? พร้อมวิธีรับมือกับปัญหาลิขสิทธิ์บน YouTube
ตัวอย่างแจ้งเตือน Copyright Claim
ภาพจาก : https://hellothematic.com/so-you-received-a-copyright-claim-on-your-youtube-video/

เรื่องสำคัญเกี่ยวกับ Copyright Claim ก็จะมีอยู่สองสามประการ

  1. Copyright Claim จะไม่ส่งผลกระทบต่อวิดีโอทั้งหมดในช่องของผู้ที่โดน Copyright Claim
  2. Copyright Claim มีผลต่อวิดีโอที่มีการนำเนื้อหาลิขสิทธิ์มาใช้โดยไม่ได้รับการอนุญาต โดยคุณจะไม่สามารถสร้างรายได้จากวิดีโอดังกล่าวได้ รายได้ที่เกิดขึ้นจะถูกส่งไปให้กับเจ้าของลิขสิทธิ์แทน
  3. เจ้าของลิขสิทธิ์สามารถดำเนินการบางอย่างเกี่ยวกับวิดีโอที่ละเมิดลิขสิทธิ์ได้ อย่างการสร้างรายได้ และกำหนดข้อจำกัด เช่น คุณอาจจะวางโฆษณาบนวิดีโอดังกล่าว, จำกัดโฆษณาในบางประเทศ หรือจะไม่ทำอะไรเลยก็ได้ (แต่ส่วนใหญ่เจ้าของลิขสิทธิ์ก็ไม่อยู่นิ่งหรอก)

หากวิดีโอของคุณโดน Copyright Claim แต่คุณมั่นใจว่าคุณไม่ได้ทำอะไรผิด คุณสามารถยื่นข้อโต้แย้งเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ เนื่องจากระบบ Content ID นั้นเป็นระบบอัตโนมัติ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่จะมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้

เมื่อคุณยื่นข้อโต้แย้งไป บุคคลที่ทางระบบ Content ID มองว่าเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์จะได้รับการแจ้งเตือน และมีเวลาตอบกลับมาภายใน 30 วัน ระหว่างนั้นคุณก็อดใจรอ และเตรียมหลักฐานสำหรับใช้พิสูจน์ความบริสุทธิ์รอไว้ก่อนเลย

Copyright Strike คืออะไร ?

Copyright Strike เป็นสิ่งที่ค่อนข้างร้ายแรงสำหรับผู้ทำ YouTube ที่โดนข้อหานี้เข้าไป เนื่องจากมันส่งผลกระทบต่อช่องของคุณ ไม่ได้แค่เพียงวิดีโอตัวเดียวเหมือนกับ Copyright Claim

การโดนแจ้ง Copyright Strike นั้นมีสาเหตุไม่ต่างจาก Copyright Claim มันจะเกิดขึ้นเมื่อคุณอัปโหลดวิดีโอที่มีเนื้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นภาพ, เพลง, วิดีโอ หรืออะไรก็ตามที่คุณไม่ได้รับอนุญาต

เมื่อผู้ถือครองลิขสิทธิ์ได้รับแจ้งเตือนว่ามีผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ เจ้าของลิขสิทธิ์สามารถเลือกที่จะดำเนินการสั่งให้ระบบดำเนินการ Copyright Strike ไปยังวิดีโอที่มีปัญหาได้ทันที ซึ่งจะส่งผลให้วิดีโอดังกล่าวถูกปิดกั้นการรับชม หรือลบออกจากเซิร์ฟเวอร์ นั่นหมายความว่าคุณจะไม่สามารถสร้างรายได้จากคลิปดังกล่าวได้อีกต่อไป แต่นั่นยังไม่ใช่ปัญหาหลักที่คุณต้องสนใจ

Copyright Claim และ Copyright Strike คืออะไร ? พร้อมวิธีรับมือกับปัญหาลิขสิทธิ์บน YouTube
ตัวอย่างวิดีโอที่ถูก Copyright Strike
ภาพจาก : https://en.wikipedia.org/wiki/YouTube_copyright_strike

ระบบ Three-Strike ของ YouTube

บทลงโทษการละเมิดลิขสิทธิ์นั้น ถูกเรียกว่า Three-Strike ของ YouTube โดยมีที่มาจากการที่คุณสามารถโดนแจ้งข้อนี้ได้ 3 ครั้ง ก่อนที่ช่องของคุณจะถูกลบ

โดยหากคุณโดนแจ้งเตือน Copyright Strike เป็นครั้งแรก บัญชีของคุณจะไม่สามารถใช้คุณสมบัติไลฟ์สตรีมได้ และช่องของคุณก็จะไม่สามารถสร้างรายได้เป็นเวลาอย่างน้อย 90 วัน

Copyright Claim และ Copyright Strike คืออะไร ? พร้อมวิธีรับมือกับปัญหาลิขสิทธิ์บน YouTube
ตัวอย่างแจ้งเตือน Copyright Strike
ภาพจาก : https://www.reddit.com/r/offlineTV/comments/s7pecd/important_yt_channel_httpswwwyoutubecomcairrickq/

หลังจากผ่านไป 90 วัน คุณสามารถไปเรียนรู้เรื่องลิขสิทธิ์ได้จาก Copyright School​ ของ YouTube ซึ่งจะมีให้คุณตอบแบบสอบถามหลังรับชมจบ หากคุณสามารถตอบถูกได้หมด ช่องของคุณจะได้รับการล้างโทษ Copyright Strike ที่ได้รับมาทิ้งไป

ถ้าคุณโดน Copyright Strike ครั้งที่สองก่อนที่โทษจากครั้งแรกจะสิ้นสุดลง คุณก็จะโดนลงโทษเพิ่มต่อเนื่องเข้าไปอีก 90 วัน

แต่หากคุณโดน Copyright Strike ครั้งที่สามในระหว่างที่ถูกลงโทษอยู่ ช่องของคุณจะถูกลบทิ้งทันที วิดีโอทั้งหมดจะถูกลบออกจาก YouTube และบัญชีของคุณก็จะโดนแบนไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป แถมไม่สามารถสร้างช่องใหม่ได้อีกด้วย

หากคุณโดนข้อหา Copyright Strike การรับมือกับปัญหาจะมีอยู่ 3 วิธี

  1. ยอมรับ และอดทนจนกว่าจะพ้นโทษ
  2. ขอให้เจ้าของลิขสิทธิ์ถอนข้อกล่าวหา : โดยคุณจะต้องหาทางติดต่อกับผู้ที่ร้องเรียนคุณโดยตรง เพื่ออธิบายเหตุผล แล้วเจรจาของให้เขาเพิกถอนคำร้องการละเมิดลิขสิทธิ์
  3. โต้แย้งกับคำเตือน Copyright Strike : หากคุณรู้สึกว่าคุณไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ เนื้อหาที่คุณนำมาใช้แล้วถูกแจ้งเตือน อาจเป็นเนื้อหาที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขการใช้งานแบบ "Fair use" (การใช้ลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยชอบ)

Fair Use คืออะไร ?

การที่คุณที่นำเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์มาใช้ประกอบความคิดเห็น, ล้อเลียน, รีวิว หรือวิจารณ์ แสดงว่าวิดีโอของคุณมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาดังกล่าวให้ต่างไปจากเดิม และไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ คุณสามารถโต้แย้งกลับไปได้

ซึ่งไม่ว่าคุณจะเลือกรับมือด้วยวิธีการไหน อย่างไรก็ควรเตรียมใจเผื่อเอาไว้ในกรณีที่สถานการณ์เลวร้ายจนถึงขั้นถูกลบช่องเอาไว้ด้วย


แม้ว่าระบบลิขสิทธิ์ของ YouTube จะค่อนข้างเข้มงวด แต่มันก็มีประโยชน์ต่อคนผลิตคอนเทนท์เป็นอย่างมาก อย่าให้ความกลัวที่จะถูกลบช่องทำให้คุณไม่กล้าที่จะเริ่มทำช่องของตนเองล่ะ

ไม่แน่ว่า คุณอาจจะกลายเป็นหนึ่งในยูทูปเบอร์หน้าใหม่ที่ประสบความสำเร็จในอนาคตก็เป็นได้นะ


ที่มา : www.makeuseof.com

0 Copyright+Claim+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0+Copyright+Strike+%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%82%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B8%99+YouTube
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
ระดับผู้ใช้ : Admin    Thaiware
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ
 
 
 

ทิปส์ไอทีที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น