ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
THAIWARE.COM | ทิปส์ไอที
 

Diff Tool คืออะไร ? รู้จักเครื่องมือที่ช่วยเช็คความเปลี่ยนแปลงในโค้ดแบบง่าย ๆ

Diff Tool คืออะไร ? รู้จักเครื่องมือที่ช่วยเช็คความเปลี่ยนแปลงในโค้ดแบบง่าย ๆ

เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 2,254
เขียนโดย :
0 Diff+Tool+%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B9%87%E0%B8%84%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2+%E0%B9%86
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

Diff Tool คืออะไร ? รู้จักเครื่องมือที่ช่วยเช็คความเปลี่ยนแปลงในโค้ดแบบง่าย ๆ

เวลาที่เราทำงานเขียนโปรแกรม ไม่ว่าจะเป็นโปรเจกต์เล็ก หรือใหญ่ สิ่งหนึ่งที่มักเจอคือต้องตรวจสอบว่าโค้ดที่เขียนมีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง ยิ่งถ้าเป็นโค้ดที่ต้องแก้ไขหลายครั้ง หรืออาจทำงานร่วมกับคนอื่น เรื่องนี้ยิ่งยุ่งยาก และใช้เวลามากขึ้นไปอีก แต่ถ้ามีเครื่องหนึ่ง ที่ช่วยเปรียบเทียบไฟล์โค้ดสองเวอร์ชันให้อัตโนมัติ พร้อมบอกเราว่าส่วนไหนถูกเพิ่ม, ลบ หรือแก้ไข มันจะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นแค่ไหนกันนะ ?

บทความเกี่ยวกับ Programming อื่นๆ

Diff Tool ก็คือเครื่องมือแบบนั้น ทำหน้าที่เหมือนแว่นขยายที่ช่วยให้เราเห็นความแตกต่างของโค้ดอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเปลี่ยนบรรทัดไหน, เปลี่ยนชื่ออะไร หรือเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใด เครื่องมือนี้ช่วยให้ติดตามความเปลี่ยนแปลง ง่ายและเร็วขึ้น เราลองมาสำรวจดูกันว่า Diff Tool จริง ๆ แล้วมันคืออะไร, เป็นมาอย่างไร, มีประเภทใด และมีข้อดี-ข้อสังเกต อะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย ...

เนื้อหาภายในบทความ

Diff Tool คืออะไร ? (What is Diff Tool ?)

ดังที่ได้กล่าวไว้ในเบื้องต้น ในบางครั้งเวลาที่เราทำงานเขียนโปรแกรมก็จำเป็นต้องเปรียบเทียบไฟล์โค้ดสองไฟล์ที่ดูคล้ายกัน แต่มีความแตกต่างกันอยู่ เพื่อให้รู้ว่าอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เครื่องมือที่เรียกว่า "Diff Tool" หรือ "เครื่องมือเปรียบเทียบความแตกต่าง" จึงเข้ามาช่วย เราสามารถเปิดดูไฟล์ทั้งสองข้าง ๆ กัน แล้วสังเกตเห็นได้ทันทีว่ามีการเพิ่มบรรทัดไหน, เปลี่ยนชื่อตัวแปรตรงไหน ? หรือบรรทัดใดถูกลบออกไป

Diff Tool คืออะไร ? รู้จักเครื่องมือที่ช่วยเช็คความเปลี่ยนแปลงในโค้ดแบบง่าย ๆ
ภาพจาก : https://www.git-tower.com/blog/diff-tools-windows

ในทางเทคนิค Diff Tool เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยตรวจสอบความแตกต่างระหว่างข้อมูลภายในไฟล์ โดยจะเปรียบเทียบทีละบรรทัด (ไม่ใช่ทีละตัวอักษร) เพื่อหาแนวทางที่ทำให้ไฟล์หนึ่งกลายเป็นอีกไฟล์หนึ่งด้วยการเพิ่มหรือลบบรรทัดให้น้อยที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้จะถูกจัดแสดงในรูปแบบที่มนุษย์ และโปรแกรมคอมพิวเตอร์สามารถอ่าน และนำไปใช้ต่อได้ เช่น อาจไปทำเป็นตัวอัปเดตไฟล์โดยอัตโนมัติผ่านคำสั่ง แพทช์ (Patch) ในระบบ Unix

ด้วยเหตุนี้ คำว่า “diff” ไม่ได้หมายถึงแค่ชื่อโปรแกรมเฉพาะ แต่กลายเป็นคำทั่วไปที่ใช้เรียกการวิธีการ และซอฟต์แวร์ ที่เปรียบเทียบ และแสดงความแตกต่างของข้อมูลในไฟล์ต่าง ๆ ซึ่งมาตรฐาน POSIX ก็ได้กำหนดรูปแบบ และการทำงานของโปรแกรม Diff กับ Patch ไว้ให้เป็นแบบเดียวกันทั่วโลกแล้ว

ความเป็นมาของ Diff Tool (History of Diff Tool)

Diff Tool เริ่มพัฒนาขึ้นในช่วงต้นทศวรรษที่ ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513) บนระบบปฏิบัติการ Unix ที่ Bell Labs ในสหรัฐอเมริกา โดย Douglas McIlroy และ James Hunt ซึ่งร่วมกันเขียนโปรแกรม diff ถูกบรรจุไว้ใน Unix Edition 5 ปี ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517) งานวิจัยของพวกเขาเผยได้แพร่ในปี ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519) โดยอัลกอริทึมที่ใช้ใน Diff สามารถหาความแตกต่างของไฟล์โดยการเพิ่ม และลบบรรทัดให้น้อยที่สุด

Diff Tool คืออะไร ? รู้จักเครื่องมือที่ช่วยเช็คความเปลี่ยนแปลงในโค้ดแบบง่าย ๆ
ภาพจาก : https://en.wikipedia.org/wiki/History_of_Unix#/media/File:DEC_VT100_terminal.jpg

ก่อนหน้าการพัฒนา diff มีโปรแกรมเปรียบเทียบไฟล์หลายตัว เช่น โปรแกรมของ Steve Johnson และ Mike Lesk แต่ยังไม่เสถียรเลย  McIlroy จึงออกแบบ Diff ให้ใช้งานได้ดีขึ้นบนฮาร์ดแวร์ PDP-11 และผสานกับตัวแก้ไขไฟล์ ed เพื่อสร้าง “Edit Scripts” ซึ่งช่วยให้สามารถอัปเดตไฟล์ต้นฉบับเป็นไฟล์ใหม่ได้โดยอัตโนมัติ และประหยัดพื้นที่จัดเก็บมากขึ้น

ในปี ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) Larry Wall ได้สร้างโปรแกรม Patch เพื่อใช้ร่วมกับผลลัพธ์จาก Diff ช่วยอำนวยความสะดวกในการแก้ไขไฟล์โดยอัตโนมัติ และ Diff ถูกบรรจุในมาตรฐาน POSIX เพิ่มฟีเจอร์โหมด Context ในปี ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) และโหมด Unified ในปี ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) เพื่อให้ผลลัพธ์อ่านง่าย และชัดเจนยิ่งขึ้น

Diff Tool ในยุคแรกใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อเปรียบเทียบโค้ดโปรแกรม ตรวจสอบผลลัพธ์จากการ ดีบัก (Debug) และช่วยจัดการเวอร์ชันของไฟล์ ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาระบบควบคุมเวอร์ชันแรก เช่น Source Code Control System (SCCS) ในช่วงปลายทศวรรษ ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2520) ที่ใช้หลักการเก็บ Edit Scripts จาก Diff เป็นพื้นฐานการทำงานนั้นเอง

ประเภทของ Diff Tool (Types of Diff Tool)

Diff Tool มีอยู่หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับวิธีการใช้งาน และแพลตฟอร์มที่รองรับ โดยทั่วไปสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

1. Diff Tool ออนไลน์ (Online Diff Tool)

เป็นเครื่องมือที่ใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม เหมาะสำหรับการเปรียบเทียบไฟล์อย่างรวดเร็ว หรือเมื่อต้องทำงานบนอุปกรณ์ที่ไม่สามารถลงโปรแกรมได้นั่นเอง ตัวอย่างเช่น Diffchecker หรือ Mergely

Diff Tool คืออะไร ? รู้จักเครื่องมือที่ช่วยเช็คความเปลี่ยนแปลงในโค้ดแบบง่าย ๆ
ภาพจาก : https://www.crx4chrome.com/screenshot/166610/

2. Diff Tool สำหรับเดสก์ท็อป (Desktop Diff Tool)

เป็นโปรแกรมที่ติดตั้งใช้งานบน คอมพิวเตอร์ (PC) โดยตรง มักมีฟีเจอร์ครบถ้วน และรองรับการเปรียบเทียบไฟล์หลายประเภท รวมถึงการเปรียบเทียบโฟลเดอร์ เช่น WinMerge, Beyond Compare, DiffMerge และ Kaleidoscope เป็นต้น

Diff Tool คืออะไร ? รู้จักเครื่องมือที่ช่วยเช็คความเปลี่ยนแปลงในโค้ดแบบง่าย ๆ
ภาพจาก : https://winmerge.org/

3. Diff Tool ที่ผสานกับระบบควบคุมเวอร์ชัน (Integrated Version Control Diff Tool)

เป็น Diff Tool ที่ทำงานร่วมกับระบบจัดการเวอร์ชันโค้ด เช่น ระบบ Git โดยจะช่วยเปรียบเทียบไฟล์ที่มีการแก้ไขระหว่างเวอร์ชันต่าง ๆ และช่วยให้ทีมพัฒนาเห็นความแตกต่างของโค้ดได้สะดวกขึ้น ตัวอย่างเช่น คำสั่ง git diff หรือโปรแกรม Meld ที่ทำงานรวมกับ Git ได้

การเลือกใช้ Diff Tool ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการ และรูปแบบการทำงานของแต่ละคน บางครั้งก็ต้องการแค่ตรวจสอบอย่างรวดเร็วใช้งานผ่านออนไลน์ หรือ บางทีต้องการเครื่องมือที่มีฟีเจอร์ครบสำหรับการทำงานที่ซับซ้อน ก็อาจต้องพิจารณาตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า

การอ่านผลจาก Diff Tool (How to Read Diff results ?)

เมื่อใช้ Diff Tool เพื่อเปรียบเทียบไฟล์ หรือโค้ด ผลลัพธ์ที่ได้มักจะแสดงในรูปแบบที่ช่วยให้เราเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน ด้วยการใช้ สีสัน และ สัญลักษณ์ ต่าง ๆ ซึ่งมีความหมายเฉพาะตัว เราลองมาดูรายละเอียดกันว่าแต่ละอย่างหมายถึงอะไร และควรตีความอย่างไรบ้าง

Diff Tool คืออะไร ? รู้จักเครื่องมือที่ช่วยเช็คความเปลี่ยนแปลงในโค้ดแบบง่าย ๆ
ภาพจาก : https://mergely.com/

1. สีของบรรทัด

สีแดง (หรือ สีชมพู - ส้ม ในบางโปรแกรม)

บ่งบอกถึงบรรทัดที่ถูก ลบออก หรือไม่มีอยู่ในไฟล์เป้าหมาย (ไฟล์ใหม่) สีนี้แสดงว่าบรรทัดนั้นถูกเอาออกจากไฟล์เวอร์ชันล่าสุด ถ้าหากเราเห็นบรรทัดสีแดง พร้อมเครื่องหมายลบ (-) หมายความว่าบรรทัดนี้ถูกตัดออกจากโค้ดที่เราเอามาเปรียบเทียบใหม่นั่นเอง

สีเขียว (หรือ นำเงิน ในบางโปรแกรม)

บ่งบอกบรรทัดที่ถูก เพิ่มเข้าไป ในไฟล์เป้าหมาย สีนี้แสดงว่ามีโค้ดหรือข้อความใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในไฟล์ใหม่ เช่น บรรทัดสีเขียวพร้อมเครื่องหมายบวก (+) หมายถึงบรรทัดนี้เพิ่มขึ้นมาใหม่จากต้นฉบับนั่นเอง

สีเทา หรือสีปกติ

บรรทัดที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ จะแสดงด้วยสีปกติ ทำให้เราสามารถโฟกัสเฉพาะจุดที่ต่างกันได้ง่าย

2. สัญลักษณ์นำหน้า (ส่วนใหญ่มีในโปรแกรม Desktop)

เครื่องหมายลบ (-)

อยู่ข้างหน้าบรรทัดที่ถูกลบหรือถูกตัดออก

เครื่องหมายบวก (+)

อยู่ข้างหน้าบรรทัดที่ถูกเพิ่มเข้าไป

เครื่องหมายเว้นวรรค ( )

บรรทัดเหมือนกันในทั้งสองไฟล์ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง

3. การเน้นข้อความ (Highlight) ภายในบรรทัด

บางครั้งความแตกต่างไม่ได้อยู่ที่บรรทัดทั้งบรรทัด แต่อยู่ที่ตัวอักษร หรือคำบางส่วนในบรรทัดเดียวกัน เครื่องมือ Diff จะเน้นส่วนที่เปลี่ยนแปลง เช่น ตัวแปรที่เปลี่ยนชื่อ, ตัวอักษรที่แก้ไข หรือสัญลักษณ์ที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง

ตัวอย่างเช่นถ้าในบรรทัดเดียวกันมีคำว่า listitem ถูกเปลี่ยนเป็น ListItem เครื่องมือจะแสดงตัว “l” เป็นสีแดงและตัว “L” เป็นสีเขียว เพื่อให้เห็นความแตกต่างนั่นเอง

4. การแบ่งกลุ่มบรรทัด (Hunks)

Diff Tool จะจัดกลุ่มบรรทัดที่เปลี่ยนแปลงเป็นชุด ๆ เรียกว่า "Hunks" โดยแต่ละกลุ่มจะแสดงบริเวณที่มีการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราไม่ต้องไล่ดูไฟล์ทั้งหมด แต่สามารถเข้าใจภาพรวมของการแก้ไขในแต่ละส่วนได้ง่ายขึ้น

5. โหมดแสดงผลต่าง ๆ

บางโปรแกรมมีโหมดการแสดงผลที่แตกต่างกัน เช่น

  1. Unified Diff : แสดงบรรทัดที่เปลี่ยนแปลงในรูปแบบรวมกันโดยแสดงทั้งส่วนที่ถูกลบ และเพิ่ม ในกลุ่มเดียวกัน
  2. Context Diff : แสดงบรรทัดที่เปลี่ยนแปลงพร้อมบรรทัดบริบทรอบ ๆ เพื่อให้เห็นภาพรวมของโค้ด
  3. Side-by-Side Diff : แสดงไฟล์ทั้งสองเวอร์ชันข้างกัน ทำให้เปรียบเทียบได้ง่ายขึ้น

ข้อดี และข้อสังเกต ของการใช้ Diff Tool (Pros and Cons of using Diff Tool)

ข้อดีของ Diff Tool

1. ช่วยเปรียบเทียบไฟล์อย่างรวดเร็ว

Diff Tool สามารถแสดงความแตกต่างระหว่างไฟล์สองไฟล์ได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาคอยไล่ดูบรรทัดทีละบรรทัด

2. ช่วยตรวจสอบเวอร์ชันของโค้ด

เหมาะสำหรับการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงโค้ดในโปรเจกต์ โดยเฉพาะเมื่อต้องทำงานร่วมกับทีมงาน ที่มีการแก้ไขโค้ดซ้ำ ๆ

3. ลดความผิดพลาดในการแก้ไขโค้ด

การเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนช่วยลดโอกาสลืม หรือผิดพลาดในการแก้ไขโค้ด และทำให้การแก้ไขมีความแม่นยำมากขึ้น

4. รองรับการทำงานกับระบบควบคุมเวอร์ชัน

Diff Tool ทำงานผสานกับระบบควบคุมเวอร์ชันอย่าง Git ได้อย่างดี ช่วยให้ทีมพัฒนาเห็นภาพรวมของการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายขึ้น

5. ช่วยในการเรียนรู้ และรีวิวโค้ด

ผู้เริ่มต้น หรือทีมพัฒนาสามารถใช้ Diff Tool ในการเรียนรู้โค้ดที่ถูกแก้ไข หรือช่วยรีวิวโค้ดของกัน และกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อสังเกต และข้อจำกัดของ Diff Tool

1. ไม่สามารถเปรียบเทียบผลลัพธ์ที่เกิดนอกไฟล์โค้ดได้

Diff Tool ทำงานบนไฟล์ที่เป็นข้อความเท่านั้น ไม่สามารถเปรียบเทียบผลลัพธ์จากการรันโปรแกรมในเทอร์มินอล หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนอกไฟล์โค้ดได้

2. บางครั้งความแตกต่างไม่ได้แปลว่าโค้ดผิด

การเปลี่ยนแปลงที่ Diff Tool แสดงอาจเป็นแค่รูปแบบการเขียนโค้ดที่ต่างกันไป แต่ทั้งสองเวอร์ชันทำงานได้ถูกต้องเหมือนกัน จึงไม่ควรสับสนว่าความแตกต่างหมายถึงข้อผิดพลาดเสมอไป

3. ผลลัพธ์อาจมีความซับซ้อนเมื่อไฟล์มีการเปลี่ยนแปลงมาก

ถ้าไฟล์มีการแก้ไขจำนวนมาก หรือแก้ไขซับซ้อน ผลการเปรียบเทียบอาจดูยากต่อการวิเคราะห์ ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจพอสมควร

4. การตั้งค่าหรือรูปแบบผลลัพธ์แตกต่างกันตามโปรแกรม

Diff Tool แต่ละโปรแกรมมีรูปแบบการแสดงผล และการตั้งค่าที่ต่างกัน อาจทำให้ผู้ใช้ต้องปรับตัวเรียนรู้ใหม่

5. บางเครื่องมืออาจไม่รองรับไฟล์ไบนารี หรือไฟล์ที่ไม่ใช่ข้อความ

Diff Tool ส่วนใหญ่เน้นที่ไฟล์ข้อความ หากเป็นไฟล์ ไบนารี (Binary) เช่น รูปภาพ หรือไฟล์ที่เข้ารหัส อาจไม่สามารถเปรียบเทียบได้ หรือแสดงผลได้ไม่ชัดเจนเท่าไฟล์ข้อความนั่นเอง

ข้อสรุปของ Diff Tool (Diff Tool Conclusion)

ในท้ายที่สุด Diff Tool ก็คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้การทำงานกับโค้ด และไฟล์ต่าง ๆ ง่ายขึ้นมาก ทำให้เราเห็นความแตกต่างระหว่างไฟล์อย่างชัดเจน, รวดเร็ว และแม่นยำ ด้วยการใช้สี และสัญลักษณ์ช่วยให้เห็นภาพได้มากขึ้น

ทั้งนี้ การเลือกใช้ Diff Tool ให้เหมาะสมกับงาน และลักษณะการทำงานของแต่ละคนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเครื่องมือแต่ละประเภทมีข้อดี และข้อจำกัดที่แตกต่างกัน รวมถึงการอ่านผลลัพธ์จาก Diff Tool ก็ต้องทำความเข้าใจสี, สัญลักษณ์ และรูปแบบผลลัพธ์ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง นำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ หากใช้ให้เป็น Diff Tool จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทำให้การเขียนโค้ด และจัดการไฟล์ของเรานั้นง่ายขึ้นอย่างมาก


ที่มา : en.wikipedia.org , www.codecademy.com

0 Diff+Tool+%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B9%87%E0%B8%84%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2+%E0%B9%86
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
นักเขียน : Editor    นักเขียน
 
 
 

ทิปส์ไอทีที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
31 พฤษภาคม 2568 19:30:25
GUEST
Comment Bubble Triangle
Hazel
Franchising Path Carlsbad
Carlsbad, ⲤA 92008, United Ѕtates
+18587536197
start ɑ domino's franchise