สิ่งที่น่าติดตามช่วงนี้ก็คงหนีไม่พ้น iOS 10 ที่ทาง Apple ได้ปล่อยมาให้เราได้ใช้เมื่อไม่นานมานี้ใช่ไหมละครับ ซึ่งหลายๆ คนอัพไปแล้วก็คงสงสัยว่า แล้วมันมีอะไรใหม่ ทำอะไรได้บ้าง วันนี้ทางทีมงานไทยแวร์จึงมาเสนอทิปส์ การใช้ฟีเจอร์ใหม่ทั้งหลายใน iOS 10 กันครับ
เริ่มด้วย iPhone ที่วางบนโต๊ะ แค่เพียงเรายกไอโฟนของเราขึ้นมา หน้าจอไอโฟนก็จะเปิดเองอัตโนมัติและจะแสดงแจ้งเตือนต่างๆ ที่เรายังไม่ได้อ่าน ซึ่งฟีเจอร์นี้ใช้ได้กับไอโฟนรุ่น 6s ขึ้นไปเท่านั้นนะครับ
การเข้าโหมดกล้องถ่ายรูป ก็จะไม่ยุ่งยากอีกต่อไป เพียงแค่เราเลื่อนหน้าจอที่ล๊อคอยู่ไปด้านขวา แค่นี้ก็ถ่ายรูปได้ง่ายขึ้นแล้ว (ปกติเราต้องเลื่อนไอคอนกล้องจากมุมล่างด้านขวาตอนล๊อคจอ แล้วองศามันไม่ได้)
เราสามารถ Remove ไอคอนแอปฯ ต่างๆ ที่มาพร้อมกับตัวเครื่องได้แล้ว แอปฯ ที่ไม่ค่อยได้ใช้ ก็เคลียร์ออกไม่ต้องเก็บไว้ให้รก อย่างเช่น แอป Stocks หรือ News ก็สามารถลบได้ วิธีลบก็ง่ายๆ เหมือนเราลบแอปฯ ทั่วไปเลย แต่การลบแอปฯ พวกนี้เป็นการลบแบบ Remove เท่านั้น ไม่ได้หายไปจากเครื่องจริงๆ (อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่) แล้วถ้าวันไหนเราอยากใช้แอปฯ เหล่านี้เราก็สามารถเข้าไปดึงกลับมาจาก App Store ได้เลย
เข้าถึง Battery, Cellular Data, Wi-Fi controls, Bluetooth ได้ง่ายขึ้นเพียงกด 3D Touch บนแอป Setting
เข้าถ่ายเซลฟี่ง่ายๆ เพียงเปิด Control Center ขึ้นมาแล้วกด 3D Touch บนกล้องแล้วเลือก Selfie กันได้เลยหรือถ้าอยากถ่ายแบบอื่นก็ได้นะ
ใน iOS 10 เราสามารถปรับค่าความสว่างของ ไฟฉาย ในมือถือเราได้อีกด้วยนะ ปรับได้ด้วยกันทั้งหมด 3 ระดับนะครับ
ใช้ 3D Touch ดูแจ้งเตือนแอปฯ ในโฟลเดอร์ แยกแต่ละแอปฯ ได้
แอป Notes เราสามารถให้คนอื่นเข้ามาอ่านโน้ตที่เราเขียนไว้ได้ด้วยการแชร์ แต่ผู้อ่านต้องเป็น iOS 10 เท่านั้น ถึงจะเข้ามาอ่านได้
ในส่วนนี้ จะเป็นฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เราสามารถใช้ได้ใน Messages ทำให้เราติดต่อสื่อสารกับคนรอบข้างเราได้สนุกและสบายมากขึ้น
เพียงแค่เราพิมพ์ข้อความ แล้วกดปุ่มส่งค้างไว้ เราก็จะส่งข้อความในรูปแบบใหม่ๆ ได้ ซึ่งมีทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน ดังนี้
1. Invisible Ink - จะเป็นคล้ายๆ การพิมพ์ข้อความแล้วเบลอไว้ ถ้าผู้รับอยากอ่านต้องกดเข้าไปดู ตัวหนังสือถึงจะขึ้น
2. Slam - การทำให้ข้อความที่ส่งไปเป็น Bubble
3. Loud - ทำให้ข้อความตัวใหญ่
4. Gentle - ทำให้ข้อความตัวเล็ก
และก่อนส่งรูปหรือวิดีโอเราสามารถตกแต่งในรูปหรือวิดีโอเหล่านั้นได้อีกด้วย เพียงแค่เรากด 1 ครั้งในรูปภาพหรือวิดีโอที่เราจะส่งแล้วเลือก "Markup" แค่นี่เราก็สามารถแต่งภาพหรือวิดีโอก่อนส่งให้เพื่อนๆ เราได้แล้ว
หรือจะใช้เป็น Digital Touch ในการส่งอนิเมชั่นสวยๆ ก็ได้ มีทั้งอนิเมชั่น 6 แบบให้เลือกใช้ หรือจะวาดเองแล้วส่ง Message ไปได้เช่นกัน ส่วนวิธีการใช้งานก็ให้เลือกที่ไอคอนรูป 2 นิ้วในแอปฯ แล้วจะปรากฏหน้าจอดำๆ จิ้มหน้าจอด้วยรูปแบบต่างๆ ส่งเป็นอนิเมชั่นได้เลย
หรือถ้าเพื่อนๆ ส่งคำว่า "Happy Birthday" คนรับข้อความก็จะได้รับบอลลูนมากมาย เป็นอนิเมชั่น (ที่รู้ตอนนี้ นอกจาก Happy Birthday ก็มี Happy New Year ถ้าทางทีมงานรู้อะไรเพิ่มจะมาบอกนะครับ )
แถมเวลาส่งข้อความเรายังสามารถ ใส่เอฟเฟคลงไปได้อีกด้วยนะ
เราสามารถตั้งค่าให้คนที่ส่งข้อความ มาหาเรารู้ได้ว่า เราอ่านข้อความของเขาหรือยัง? วิธีก็ง่ายๆ เลย เลือกมุมบนด้านขวาแล้วทำตามรูปเลยครับ ถ้าเรากดเปิดไว้ เวลาเราอ่านคนที่ส่งข้อความมาก็จะรู้ว่าเราอ่าน (จะขึ้นเวลาที่เราอ่านไว้) ส่วนถ้าเราตั้งปิดไว้ก็จะขึ้นแค่ Delivered (ผู้ส่งจะไม่รู้ว่าเราเข้าไปอ่านหรือยังไม่อ่าน) ถ้าจะให้แฟร์ๆ ก็เปิดทั้ง 2 ฝั่งนะครับ
หรือถ้าเพื่อนๆ ใช้ WhatsApp ก็สามารถใช้ Siri ช่วยเราในการส่งข้อความไปหาเพื่อนของเราได้ (ใช้เวลาเราขับรถอยู่ หรือไม่สะดวกพิมพ์ข้อความ) แต่ก่อนอื่นเพื่อนๆ ต้องเข้าไปตั้งค่าใน Siri ก่อนนะ ตามรูปภาพด้านล่างนี้เลย
แต่เป็นที่น่าเสียดายนะครับ เพราะ Siri ยังไม่รองรับการใช้งานใน LINE ซึ่งเป็นแอปฯ ที่ได้รับความนิยมมากกว่าในประเทศไทย
นี่ก็เป็นฟีเจอร์ที่ทางทีมงานไทยแวร์คัดมาแนะนำเพื่อนๆ ให้ได้ทราบกัน ความจริงยังมีอีกหลายฟีเจอร์เลยนะครับ แต่บางฟีเจอร์ก็ยังไม่รองรับกับระบบในประเทศเราเท่าไร เช่น ฟีเจอร์ที่เปลี่ยน Voice Mail มาเป็นคำพูด เป็นต้น ถ้าในอนาคตมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจอีก ทางทีมงานไทยแวร์จะมาแนะนำเพื่อนๆ ให้อีกนะครับ