ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
THAIWARE.COM | ทิปส์ไอที
 

macOS คืออะไร ? รู้จักความน่าสนใจ และประวัติ ของระบบปฏิบัติการบน เครื่อง Mac กัน

macOS คืออะไร ? รู้จักความน่าสนใจ และประวัติ ของระบบปฏิบัติการบน เครื่อง Mac กัน

เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 117,309
เขียนโดย :
0 macOS+%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4+%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%99+%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87+Mac+%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

macOS คืออะไร ?

หากพูดถึง ระบบปฏิบัติการ (OS) มันไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือในการสั่งงาน เครื่องคอมพิวเตอร์ แต่เปรียบได้กับหัวใจหลักในการมอบประสบการณ์ให้กับผู้ใช้งาน และหนึ่งในระบบปฏิบัติการที่ทรงอิทธิพลที่สุดในยุคนี้ก็คือ macOS ผลงานชิ้นเอกจากบริษัท Apple ที่ผสานความงามแห่งดีไซน์ เข้ากับพลังแห่งนวัตกรรมอย่างลงตัว

บทความเกี่ยวกับ Operating System อื่นๆ

บทความนี้จะพาผู้อ่านย้อนรอยเส้นทางการเดินทางของ macOS จากรากเหง้าในยุคเริ่มต้นจนมาถึงปัจจุบันนี้ ที่มันได้เปลี่ยนโฉมการใช้คอมพิวเตอร์ให้กลายเป็นประสบการณ์ที่ "คิดต่าง" อย่างแท้จริง จนมันกลายเป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในสายงานสร้างสรรค์ และการใช้งานทั่วไป

ถ้าเริ่มสนใจแล้วล่ะก็ มาอ่านเรื่องราวของ macOS กันได้เลย ...

เนื้อหาภายในบทความ

macOS คืออะไร ? รู้จักความน่าสนใจ และประวัติ ของระบบปฏิบัติการบน เครื่อง Mac กัน
ภาพจาก : https://www.apple.com/imac/

macOS คืออะไร ? (What is macOS ?)

ระบบปฏิบัติการ "แมคโอเอส (macOS)" หรือที่เดิมทีก่อนหน้านี้ใช้ชื่อว่า "โอเอสเอ็กซ์ (OS X)" และถ้าย้อนไปเก่ากว่านั้นก็คือ "Mac OS X" เป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Apple ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) โดยมีพื้นฐานการพัฒนามาจากระบบ Unix

ปัจจุบัน macOS เป็นระบบปฏิบัติการหลักสำหรับคอมพิวเตอร์ตระกูล Mac ของ Apple และเป็นระบบปฏิบัติการบนคอมพิวเตอร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสอง รองจาก ระบบปฏิบัติการ Windows ของบริษัท Microsoft และมีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า ลีนุกซ์ (Linux), ChromeOS และ SteamOS

ระบบปฏิบัติการ Mac ในปัจจุบันคือ macOS ซึ่งเดิมใช้ชื่อว่า Mac OS X จนถึงปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) และเปลี่ยนเป็น OS X จนถึงปี ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) ระบบนี้ได้รับการพัฒนาระหว่างปี ค.ศ. 1997 ถึง 2001 (พ.ศ. 2540 ถึง 2544) หลังจากที่ Apple เข้าซื้อบริษัท NeXT โดยได้นำสถาปัตยกรรมแบบใหม่จาก NeXTSTEP ซึ่งเป็นระบบ ยูนิกซ์ (Unix) มาใช้ ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาทางเทคนิคหลายอย่างที่ระบบ Mac OS แบบดั้งเดิมเคยเผชิญ เช่น ปัญหาการจัดการหน่วยความจำ

แม้ว่า Mac OS เวอร์ชันแรก ๆ และ macOS (Mac OS X) จะมีโครงสร้างภายในที่แตกต่างกัน แต่ทั้งสองระบบก็มีหลักการของ ส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้ (GUI) ที่คล้ายคลึงกัน เช่น แถบเมนูที่อยู่ด้านบนสุดของหน้าจอ 

ปัจจุบัน macOS ถูกติดตั้งล่วงหน้ามากับเครื่อง Mac ทุกเครื่อง และจะมีการอัปเดตครั้งใหญ่ปีละครั้ง อีกทั้งยังเป็นพื้นฐานของระบบซอฟต์แวร์ของ Apple สำหรับอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น iOS, iPadOS, watchOS และ tvOS

ก่อนที่ เครื่อง Macintosh จะเปิดตัวในปี ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) ระบบปฏิบัติการของ Apple เริ่มต้นจากคอมพิวเตอร์ Apple II ในปี ค.ศ. 1977 (พ.ศ. 2520) ซึ่งใช้ระบบ Apple DOS, ProDOS และ GS/OS ตามด้วย Apple III ในปี ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) ซึ่งใช้ระบบ Apple SOS และ Lisa ในปี ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) ซึ่งใช้ระบบ Lisa OS และต่อมาคือ MacWorks XL ซึ่งเป็นอีมูเลเตอร์ของ Macintosh

คุณสมบัติของ macOS (Features of macOS)

หน้าตาเป็นมิตรต่อผู้ใช้

macOS มีหน้าตาที่ใช้งานง่าย ไม่ว่าจะเป็น หน้าต่าง และเมนูที่ใช้งาน ที่มีความง่าย ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถนำทาง และค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างสะดวก

แอปพลิเคชันในตัว

macOS มาพร้อมแอปพลิเคชันที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้าหลากหลาย พร้อมใช้งานทันที เช่น Mail สำหรับจัดการอีเมล และ Photos สำหรับจัดการรูปภาพ หรือจะเป็น Pages, Numbers และ Keynote ที่ใช้ทำงานเอกสารต่าง ๆ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อเหมือนกับระบบปฏิบัติการของคู่แข่ง

ระบบนิเวศที่เหนือชั้น

macOS สามารถเชื่อมต่อกับ iPhone, iPad และอุปกรณ์อื่นของ Apple ได้อย่างราบรื่น ผู้ใช้สามารถตอบข้อความ รับสาย หรือแม้แต่เริ่มทำงานบนอุปกรณ์หนึ่ง และไปต่อบนอีกอุปกรณ์ได้แบบต่อเนื่องไร้รอยต่อ

ความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัย

macOS ได้รับการออกแบบให้มีระบบความปลอดภัยสูง เพื่อป้องกันมัลแวร์ และไวรัส พร้อมทั้งให้ผู้ใช้สามารถควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลของแต่ละแอปพลิเคชันได้ด้วยตนเองอย่างละเอียด

การอัปเดตระบบ

Apple ปล่อยอัปเดตให้กับ macOS อย่างสม่ำเสมอ ทั้งในด้านฟีเจอร์ใหม่ และแพทช์ความปลอดภัย ซึ่งสามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเสมอ และไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

การใช้งานสำหรับผู้พิการ

macOS มีฟีเจอร์สนับสนุนการเข้าถึงสำหรับผู้พิการ เช่น VoiceOver สำหรับผู้มีปัญหาทางการมองเห็น และ Dictation สำหรับผู้ที่มีความลำบากในการพิมพ์ ที่ออกแบบมาดี ใช้งานได้จริง

ประวัติความเป็นมาของ macOS (History of macOS)

รากฐานของ macOS มีจุดเริ่มต้นจากบริษัท NeXT ซึ่งก่อตั้งโดย สตีฟ จอบส์ (Steve Jobs) หลังจากที่เขาออกจาก Apple ในปี ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) ที่ NeXT มีการพัฒนาระบบปฏิบัติการแบบยูนิกซ์ชื่อ NeXTSTEP ก่อนจะเปิดตัวในปี ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) โดยที่ เคอร์เนล (Kernel) ของ NeXTSTEP มีพื้นฐานจาก Mach kernel ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกที่มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon พร้อมเสริมชั้นเคอร์เนล และโค้ดระดับผู้ใช้ที่ได้จาก FreeBSD และ ระบบปฏิบัติการ BSD อื่น ๆ

ส่วน GUI ของระบบนี้ถูกสร้างขึ้นบนชุดเครื่องมือ GUI เชิงวัตถุ (Object-Oriented GUI Toolkit) โดยใช้ภาษาโปรแกรม Objective-C

ตลอดช่วงทศวรรษ ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) Apple ได้พยายามสร้างระบบปฏิบัติการ “ยุคใหม่” ที่จะมาแทน Mac OS แบบดั้งเดิม ผ่านโครงการต่าง ๆ ได้แก่ Taligent, Copland และ Gershwin แต่ทั้งหมดก็ถูกยกเลิกในท้ายที่สุด

จนกระทั่ง Apple เข้าซื้อกิจการ NeXT ในปี ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) ทำให้ NeXTSTEP ซึ่งภายหลังเรียกว่า OPENSTEP ถูกนำมาใช้เป็นพื้นฐานสำหรับระบบปฏิบัติการยุคใหม่ของ Apple การซื้อกิจการครั้งนี้ยังนำ Steve Jobs กลับสู่ Apple ในฐานะ CEO ชั่วคราว และต่อมาเป็น CEO อย่างถาวร โดยเขาได้ดูแลการปรับเปลี่ยน OPENSTEP ที่เป็นมิตรกับนักพัฒนา ให้กลายมาเป็นระบบที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ทั่วไป และสายครีเอทีฟของ Apple

โปรเจกต์นี้ใช้ชื่อรหัสว่า "Rhapsody" ก่อนจะถูกตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า Mac OS X

Mac OS X

ตัวอักษร "X" ในชื่อ Mac OS X หมายถึงเลข 10 ซึ่งเป็นเลขโรมัน โดย Apple ระบุว่าควรอ่านว่า “เท็น” ในบริบทนี้ อย่างไรก็ตาม ในหมู่ผู้ใช้มักนิยมการอ่านว่า "เอ็กซ์" ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับชื่อของ iPhone X, iPhone XR และ iPhone XS ที่ตามมาในภายหลัง

ระบบปฏิบัติการ Macintosh ก่อนหน้า ซึ่งถูกจัดว่าเป็นเวอร์ชันของ Classic Mac OS ใช้ตัวเลขอารบิก เช่น Mac OS 8 และ Mac OS 9 จนถึง macOS Big Sur ซึ่งเป็นเวอร์ชัน 11 Apple ได้ใช้การตั้งเลขเวอร์ชันแบบ 10.x ตั้งแต่ 10.0 ถึง 10.15 ก่อนจะเปลี่ยนไปใช้การเพิ่มเลขหลักเวอร์ชันในแต่ละการอัปเดตหลักตั้งแต่เวอร์ชัน Big Sur เป็นต้นมา

เวอร์ชันแรกของ Mac OS X คือ Mac OS X Server 1.0 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยมีส่วนติดต่อผู้ใช้ที่คล้ายกับ Classic Mac OS ถึงแม้จะไม่สามารถใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาสำหรับระบบเดิมได้

ในรุ่นสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป มีการเพิ่มความสามารถในการรองรับซอฟต์แวร์เก่า โดยแอปพลิเคชันสามารถเขียนใหม่เพื่อให้ทำงานแบบ Native ผ่าน Carbon Application Programming Interface (API) หรือสามารถใช้งานผ่าน Classic Environment ได้ แม้ว่าจะลดประสิทธิภาพลงก็ตาม

ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544)

Mac OS X เวอร์ชันสำหรับผู้ใช้ทั่วไปเปิดตัวในเดือนมีนาคม ปี ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) พร้อม Mac OS X 10.0 ซึ่งได้รับคำชื่นชมอย่างมากในเรื่องหน้าตาแบบ Aqua ที่มีความหรูหรา และล้ำยุค แต่ก็ถูกวิจารณ์เรื่องความเชื่องช้า ด้วยความนิยมของ Apple ที่อยู่ในช่วงตกต่ำ บริษัท Adobe Inc. ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโปรแกรม FrameMaker จึงปฏิเสธที่จะทำเวอร์ชันใหม่สำหรับ Mac OS X นักเขียนคอลัมน์จากสื่อ Ars Technica อย่าง John Siracusa ซึ่งเป็นผู้ที่เคยได้รีวิวทุกเวอร์ชันหลักของ OS X จนถึงเวอร์ชัน 10.10 ได้กล่าวไว้ว่า OS X ในช่วงแรกนั้น "ช้ามาก และมีฟีเจอร์น้อย" และ Aqua ก็ "ช้าเกินทน และกินทรัพยากรระบบมหาศาล"

เพื่อแก้ไขปัญหา ทาง Apple ได้พัฒนาระบบ Mac OS X รุ่นใหม่อย่างรวดเร็ว โดยในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) ได้ออก Mac OS X 10.1 ซึ่งมาพร้อมการปรับปรุงคุณภาพการใช้งาน

ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)

จากนั้นเริ่มต้นในเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) บริษัทก็ได้ติดตั้ง Mac OS X เป็นระบบปฏิบัติการหลักในเครื่อง Mac ทุกเครื่อง ต่อมาในปีเดียวกัน Apple เปิดตัว Mac OS X Jaguar เวอร์ชัน 10.2 ซึ่งเป็นเวอร์ชันแรกที่มีการใช้ชื่อรหัสอย่างเป็นทางการในการโฆษณา และการตลาด

ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546)

เมื่อ Mac OS X Panther (เวอร์ชัน 10.3) เปิดตัวในปี ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) John Siracusa ได้กล่าวไว้ว่า "มันช่างแปลกที่มีการออกเวอร์ชันใหม่ครั้งใหญ่แบบต่อเนื่องทุกปี" ส่วน Mac OS X Tiger (เวอร์ชัน 10.4) ที่ออกในปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) ได้สร้างความตกตะลึงให้กับผู้บริหารของ Microsoft ด้วยการนำเสนอฟีเจอร์หลายอย่าง เช่น การค้นหาไฟล์ที่รวดเร็ว และระบบประมวลผลกราฟิกที่ดีขึ้น ซึ่ง Microsoft ใช้เวลาหลายปีในการพัฒนาเพื่อให้ทำงานได้อย่างเหมาะสมบน Windows Vista

ในขณะที่ระบบมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง Apple ก็เริ่มแยกตัวออกจากแนวทางของ Classic Mac OS โดยมีการเพิ่ม และลบแอปพลิเคชันอย่างสม่ำเสมอ เมื่อมองว่าตลาดเพลงคือกลุ่มเป้าหมายสำคัญ Apple จึงพัฒนาเครื่องเล่นเพลง iPod และซอฟต์แวร์ด้านดนตรี เช่น iTunes และ GarageBand สำหรับเครื่อง Mac โดยเฉพาะขึ้นมา

Apple ยังมุ่งเน้นไปยังผู้บริโภค และตลาดสื่อ โดยผลักดันแนวคิด "ไลฟ์สไตล์ดิจิทัล" ผ่านแอปพลิเคชันชุด iLife การบันเทิงภายในบ้านผ่านระบบ Front Row และเบราว์เซอร์ Safari เมื่ออินเทอร์เน็ตได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น Apple ก็เปิดตัวบริการออนไลน์เพิ่มเติม เช่น .Mac, MobileMe และล่าสุดคือ iCloud นอกจากนี้ ยังเริ่มจำหน่ายแอปของ บุคคลที่สาม (3rd-Party) ผ่าน Mac App Store

ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ของ Mac OS X ยังมีการเปลี่ยนแปลงด้านหน้าตา เช่น ลดความเงา และโปร่งใสของ ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ (UI) ในรุ่นแรก ๆ โดยแอปบางตัวเริ่มใช้หน้าตาแบบโลหะ หรือแถบชื่อหน้าต่างแบบไม่เป็นริ้วใน Mac OS X Tiger และใน Mac OS X Leopard (เวอร์ชัน 10.5) ต่อมา Apple ได้ประกาศรวมรูปแบบหน้าตา UI โดยใช้สไตล์หน้าต่างแบบไล่ระดับสีเทามาตรฐาน

ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549)

สุดท้ายในปี ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) ทาง Apple ได้เปิดตัวเครื่อง Mac ที่ใช้ชิป Intel รุ่นแรก ซึ่งมาพร้อม Mac OS X Tiger เวอร์ชันพิเศษ ที่ปรับให้ทำงานกับสถาปัตยกรรมใหม่

การพัฒนาที่เป็นก้าวกระโดดที่สำคัญของระบบคือ การประกาศ และเปิดตัว iPhone โดยอุปกรณ์ iPod ของ Apple ที่เคยออกมาก่อนหน้านั้น ใช้ระบบปฏิบัติการที่เรียบง่ายมาก แต่ iPhone กลับใช้ระบบปฏิบัติการที่มีพื้นฐานมาจาก Mac OS X ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น iPhone OS และในที่สุดกลายเป็น iOS การที่ต้องจัดการระบบปฏิบัติการสองระบบที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานเดียวกันในเวลาเดียวกันสร้างความกดดันให้กับ Apple

โดยบริษัทระบุว่า iPhone เป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องเลื่อนการเปิดตัว Mac OS X Leopard อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ Apple เปิดให้บุคคลภายนอกสามารถพัฒนาแอปสำหรับ iPhone ได้ ความสำเร็จเชิงพาณิชย์ของ iPhone ก็กลายเป็นแรงกระตุ้นสำคัญให้ Mac OS X ได้รับความสนใจมากขึ้น โดยมีนักพัฒนาซอฟต์แวร์ iPhone จำนวนมากเริ่มให้ความสนใจกับการพัฒนาโปรแกรมบน Mac ด้วย

ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550)

ในปี ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) Apple ได้เปิดตัว Mac OS X Leopard ซึ่งมีการใช้ Universal Binary ทำให้สามารถติดตั้งได้ทั้งบนเครื่องที่ใช้ชิป Intel และชิป PowerPC โดยเวอร์ชันนี้ถือเป็นเวอร์ชันสุดท้ายที่รองรับ Mac รุ่นที่ใช้ PowerPC

ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552)

ส่วน Mac OS X Snow Leopard (เวอร์ชัน 10.6) ซึ่งออกในปี ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) ถือเป็นเวอร์ชันแรกที่สร้างขึ้นสำหรับเครื่อง Mac ที่ใช้ชิป Intel เท่านั้น และยังเป็นเวอร์ชันสุดท้ายที่รองรับเครื่อง Intel แบบ 32 บิต โดยชื่อ "Snow Leopard" มีจุดประสงค์เพื่อสื่อว่าเป็นรุ่นปรับปรุงจาก Leopard โดยเน้นประสิทธิภาพ และเทคนิคการทำงานเบื้องหลังมากกว่าฟีเจอร์ที่เห็นได้ชัดเจนจากฝั่งผู้ใช้ ซึ่ง Apple ก็ประกาศชัดเจนต่อกลุ่มนักพัฒนาว่าเป็นรุ่นที่ "ไม่มีฟีเจอร์ใหม่" นับจากนั้นเป็นต้นมา ระบบปฏิบัติการหลายรุ่น เช่น OS X Mountain Lion, OS X El Capitan, macOS High Sierra และ macOS Monterey ก็ใช้แนวคิดการตั้งชื่อในลักษณะเดียวกัน ซึ่งคล้ายกับรูปแบบ ‘Tick–Tock’ ที่ Intel ใช้ในการออกผลิตภัณฑ์

ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554)

เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) กับ Mac OS X Lion (เวอร์ชัน 10.7) และ OS X Mountain Lion (เวอร์ชัน 10.8) Apple ได้ปรับดีไซน์ของแอปบางส่วนให้มีสไตล์ Skeuomorphic รูปแบบการออกแบบที่เลียนแบบลักษณะของวัตถุในโลกแห่งความเป็นจริง เพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกคุ้นเคย ที่ได้แรงบันดาลใจจาก iOS รุ่นใหม่ในยุคนั้น พร้อมกับลดความซับซ้อนในบางจุด เช่น ทำให้แถบเลื่อน (Scroll Bar) จางหายไปเมื่อไม่ใช้งาน

ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้บางกลุ่ม แต่ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์การเพิ่มลูกเล่นเคลื่อนไหว และความหลากหลายใน UI ซึ่งเคยปรากฏมาก่อนในฟีเจอร์อย่าง Time Machine ที่ใช้ภาพพื้นหลังเป็นหมอกจักรวาล และ Dock แบบโปร่งแสงใน Leopard กับ Snow Leopard

macOS คืออะไร ? รู้จักความน่าสนใจ และประวัติ ของระบบปฏิบัติการบน เครื่อง Mac กัน
OS X Mountain Lion
ภาพจาก : https://www.techradar.com/reviews/pc-mac/software/operating-systems/os-x-10-8-mountain-lion-1089822/review

นอกจากนี้ ในเวอร์ชัน Lion Apple ได้ยุติการออก Mac OS X เวอร์ชันเซิร์ฟเวอร์แยกต่างหาก โดยเปลี่ยนไปขายเครื่องมือเซิร์ฟเวอร์ผ่าน Mac App Store แทน 

OS X

ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)

ในปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) เมื่อ Apple เปิดตัว OS X Mountain Lion ได้มีการปรับเปลี่ยนชื่อระบบจาก "Mac OS X" เป็น "OS X" อย่างเป็นทางการ โดยเวอร์ชันก่อนหน้าได้เริ่มใช้ชื่อย่อในลักษณะเดียวกันมาแล้วหนึ่งปี ในปีเดียวกันนั้น Apple ได้ถอด Scott Forstall หัวหน้าฝ่ายพัฒนาระบบ OS X ออกจากตำแหน่ง และปรับทิศทางการออกแบบให้มีความเรียบง่ายมากขึ้น

ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556)

ดีไซน์ใหม่ของ Apple ที่เน้นการใช้สีที่ดูเข้มขึ้น, ปุ่มที่เป็นข้อความล้วน และ UI ที่เรียบแบนแบบมินิมอล ถูกเปิดตัวครั้งแรกใน iOS 7 เมื่อปี ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) โดยในขณะนั้นมีรายงานว่า วิศวกรฝ่าย OS X ก็มีส่วนร่วมในการพัฒนา iOS 7 ด้วย ทำให้ OS X Mavericks เวอร์ชัน 10.9 ที่เปิดตัวในปีเดียวกัน มีลักษณะเป็นเวอร์ชันเปลี่ยนผ่าน โดยเริ่มลดความเป็น Skeuomorphic ลง แม้ว่าองค์ประกอบหลักใน UI ยังคงเหมือนเดิมเป็นส่วนใหญ่

macOS คืออะไร ? รู้จักความน่าสนใจ และประวัติ ของระบบปฏิบัติการบน เครื่อง Mac กัน
OS X Mavericks
ภาพจาก : https://www.theverge.com/2013/10/28/5036102/mac-os-x-10-9-mavericks-review

ในเวอร์ชันถัดมา OS X Yosemite เวอร์ชัน 10.10 ได้รับการออกแบบให้คล้ายกับ iOS 7 มากขึ้น แต่มีความซับซ้อนกว่า เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานด้วยเมาส์ในระบบเดสก์ท็อป

นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) Apple เริ่มใช้กำหนดการออกเวอร์ชันใหม่แบบรายปีอีกครั้ง ซึ่งคล้ายกับช่วงก่อน Mac OS X 10.4 Tiger และยังมีการลดค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจาก Snow Leopard ก่อนที่จะยกเลิกค่าธรรมเนียมอัปเกรดทั้งหมดในเวอร์ชัน OS X Mavericks

ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558)

แม้ว่าการปล่อยฟีเจอร์ใหม่อย่างรวดเร็วจะถือเป็นข้อดี แต่ก็มีนักข่าว และนักพัฒนาบางส่วนตั้งข้อสังเกตว่า แนวทางนี้อาจส่งผลต่อความเสถียรของระบบ โดยไม่มีเวอร์ชันใดของ OS X ที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้ที่เน้นความเสถียร และประสิทธิภาพเหนือคุณสมบัติใหม่ Apple จึงได้ประกาศว่า OS X El Capitan เวอร์ชัน 10.11 ซึ่งเปิดตัวในปี ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) จะเน้นการปรับปรุงด้านเสถียรภาพและประสิทธิภาพเป็นหลัก

macOS คืออะไร ? รู้จักความน่าสนใจ และประวัติ ของระบบปฏิบัติการบน เครื่อง Mac กัน
OS X El Capitan
ภาพจาก : https://www.anandtech.com/show/9380/os-x-el-capitan-first-look

macOS

ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559)

ในปี ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) เมื่อเปิดตัว macOS Sierra เวอร์ชัน 10.12 Apple ได้เปลี่ยนชื่อระบบปฏิบัติการจาก OS X มาเป็น "macOS" อย่างเป็นทางการ เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อของระบบปฏิบัติการอื่นในเครือ ได้แก่ iOS, watchOS และ tvOS

macOS Sierra ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง เช่น Siri บนเดสก์ท็อป, การรวมระบบ iCloud Drive, การรองรับการเล่นวิดีโอแบบ Picture-In-Picture (PIP), โหมด Night Shift ที่ช่วยเปลี่ยนโทนสีหน้าจอให้อบอุ่นขึ้นในเวลากลางคืน และฟีเจอร์ Continuity สองรายการ คือ Universal Clipboard ที่ซิงค์คลิปบอร์ดระหว่างอุปกรณ์ Apple และ Auto Unlock ที่ใช้ Apple Watch ปลดล็อกเครื่อง Mac ได้โดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังเพิ่มการรองรับ Apple File System (APFS) ซึ่งเป็นไฟล์ระบบใหม่ที่มาแทน HFS+ รุ่นเก่าของ Apple

ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560)

ในปี ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) macOS High Sierra เวอร์ชัน 10.13 ได้ถูกเปิดตัว โดยมีการปรับปรุงประสิทธิภาพ รองรับ Metal 2 และ HEVC (วิดีโอ H.265) พร้อมเปลี่ยนมาใช้ APFS เป็นไฟล์ระบบเริ่มต้นสำหรับ อุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบ SSD ที่ใช้บู๊ตระบบ

ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561)

macOS Mojave เวอร์ชัน 10.14 เปิดตัวในปี ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) โดยเพิ่มโหมดมืด (Dark Mode) และวอลเปเปอร์แบบไดนามิก ส่วน macOS Catalina เวอร์ชัน 10.15 ในปี ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ได้แยก iTunes ออกเป็นแอปแยกออกไป และเพิ่ม Catalyst ซึ่งเป็นระบบสำหรับพอร์ตแอปจาก iOS มาสู่ macOS

ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

ในปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) Apple เปิดตัว macOS Big Sur เวอร์ชัน 11 ที่งาน WWDC ถือเป็นการปรับเลขเวอร์ชันหลักครั้งแรกตั้งแต่ Mac OS X Public Beta ในปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) โดยมีการเปลี่ยนมาใช้รูปแบบเลขเวอร์ชัน 11.x ให้สอดคล้องกับระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ของ Apple Big Sur มีการเปลี่ยนแปลง UI ครั้งใหญ่ และเป็น macOS เวอร์ชันแรก ที่สามารถทำงานบน Apple Silicon ซึ่งใช้สถาปัตยกรรม ARM

ค.ศ. 2021-2024 (พ.ศ. 2564-2567)

หลังจากนั้น Apple ยังคงรูปแบบเลขเวอร์ชันใหม่อย่างต่อเนื่อง macOS Monterey เวอร์ชัน 12 ในปี ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) macOS Ventura เวอร์ชัน 13 ในปี ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), macOS Sonoma เวอร์ชัน 14 ในปี ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566) และ macOS Sequoia เวอร์ชัน 15 ในปี ค.ศ. 2024 (พ.ศ. 2567)

ค.ศ. 2025 (พ.ศ. 2568)

ในปี ค.ศ. 2025 (พ.ศ. 2568) macOS Tahoe เวอร์ชัน 26 จะเป็นเวอร์ชันแรกที่มีเลขเวอร์ชันอิงตามปีหลังจากเปิดตัว ซึ่งจะรวมถึงระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ทั้งหมดของ Apple ด้วย ไม่ว่าจะเป็น iOS, iPadOS, watchOS, tvOS และ visionOS เพื่อให้ระบบทั้งหมดใช้เลขเวอร์ชันแบบเดียวกัน Tahoe จะมาพร้อมการออกแบบ UI ใหม่ที่เรียกว่า Liquid Glass ซึ่งจะถูกนำมาใช้กับแพลตฟอร์มอื่นของ Apple เพื่อรวมแนวทางการออกแบบให้เป็นหนึ่งเดียว และจะเป็น macOS เวอร์ชันสุดท้ายที่สามารถใช้งานได้บนเครื่อง Mac ที่ใช้ชิป Intel


ที่มา : en.wikipedia.org , www.geeksforgeeks.org , en.wikipedia.org , gs.statcounter.com

0 macOS+%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4+%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%99+%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87+Mac+%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
ระดับผู้ใช้ : Admin    Thaiware
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ
 
 
 

ทิปส์ไอทีที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
วันนี้ 00:06:49
GUEST
Comment Bubble Triangle
Bailey
Refresh Renovation Southwes Charlotte
1251 Arrow Pine Ɗr c121,
Charlotte, NC 28273, United States
+19803517882
Easy mɑkes your home renovating refresh
วันนี้ 00:52:09
GUEST
Comment Bubble Triangle
Arletha
Cabinet IQ McKinney
3180 Eldorado Pkkwy STE 100, McKinney,
TX 75072, Unites Ѕtates
(469) 202-6005
Functionalspace (Christen)
 
วันนี้ 07:46:05
GUEST
Comment Bubble Triangle
Kellee
Cabinet IQ
15030 N Tatum Blvd #150, Phoenix,
AZ 85032, United Տtates
(480)424-4866
Materialexperts
 
วันนี้ 09:29:01
GUEST
Comment Bubble Triangle
Candice
4M Dental Implaant Center
3918 ᒪong Beach Blvd #200, Lοng Beach,
CA 90807, United Stаtеs
15622422075
cosmetic smile design (ekcm7.mssg.mе)
 
วันนี้ 10:45:50
GUEST
Comment Bubble Triangle
Kathlene
Cabinet IQ Cedar Park
2419 Տ Bell Blvd, Cedar Park,
TX 78613, United Statеs
+12543183528
Countrykitchen