แบดเซคเตอร์ (Bad Sector) ที่ว่านี้ก็คือ พื้นที่ส่วนหนึ่งในฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk) แบบจานหมุน (คนละแบบกับ SSD นะ อย่าเข้าใจผิด) ที่ทำงานผิดปกติ หรือมีอาการอ่านเขียนข้อมูลไม่ได้ ส่งผลให้เวลาเปิดดูไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่มีจุด Bad Sector อยู่ มักจะเกิดอาการคอมฯ ค้าง (Not Responding) อยู่เป็นประจำ หรือในกรณีที่เกิด Bad Sector บนไดรฟ์สำคัญๆ ที่เก็บ Windows จะทำให้เกิดอาการจอฟ้า (Blue Screen of Dead) จนไม่สามารถบูทเข้าระบบฯ ได้ เรียกได้ว่าใครเจออาการแบบนี้ไป ก็เตรียมตัวเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ได้เลย
โดยทั่วไปแล้ว Bad Sector จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
เมื่อรู้กันไปแล้วว่า Bad Sector มีอยู่ 2 รูปแบบ ทีนี้ลองมาดูกันว่า "แบดแท้" และ "แบดเทียม" จะเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง
สังเกตได้ว่า แบดแท้จะเกิดจากการกระทำโดยตรง ส่วนแบดเทียมจะเป็นที่ระบบฯ คงพอเข้าใจคร่าวๆ เกี่ยวกับเจ้า Bad Sector แล้วใช่ไหมครับ ว่ามันคืออะไร และเกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง ทีนี้มาถึงขั้นตอนการตรวจสุขภาพฮาร์ดดิสก์กันบ้างว่าจะมีเจ้า Bad Sector หรือไม่
เป็นความจริงที่ว่า ฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนทุกลูกมีโอกาสเกิด Bad Sector แต่จะเร็วหรือช้านั้น มันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งลักษณะการใช้งาน ภาคจ่ายไฟ หรือแม้แต่ส่วนประกอบภายใน ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้ ไม่มีใครรู้ และไม่สามารถระบุระยะเวลาที่ชัดเจนได้
ง่ายๆ เลยคือ เราจะเห็นสัญญาณเตือนแบบชัดเจน อย่างเช่น คอมฯ มีอาการค้างเป็นประจำเวลาเปิดดูไฟล์เดิมๆ หรือเกิดอาการจอฟ้า (Blue Screen) ขณะบูทเข้าระบบฯ ซึ่งอาการนี้แม้จะทำการรีสตาร์แล้ว แต่ก็ไม่หายไป ยังคงเกิดขึ้นซ้ำๆ
วิธีที่ช่วยยืดอายุของฮาร์ดดิสก์ก็คือ หมั่นทำการจัดเรียงข้อมูล (Disk Defragment) ภายในเพื่อให้ฮาร์ดิสก์อ่านเขียนข้อมูลได้อย่างลื่นไหล (แต่สำหรับใครที่ใช้ SSD ไม่ควรทำ Defragment เพราะจำนวนครั้งในการอ่านเขียนมีจำกัด ถ้าทำบ่อยๆ อายุการใช้จะสั้นลง) และทำการเช็คสุขภาพของฮาร์ดดิสก์ด้วยโปรแกรมดังนี้
รูปภาพประกอบจากโปรแกรม HDDTune
เจ้าโปรแกรมเหล่านี้ จะใช้ในการตรวจสอบสุขภาพของฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน ว่าทุกส่วนยังทำงานปกติอยู่หรือไม่ หรือถ้าไม่ปกติเกิดจากจุดไหน เพื่อที่จะได้ซ่อมแซมและแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด โดยผลจาการสแกนส่วนมากจะแบ่งออกเป็น 2 สีหลักๆ คือ
ทุกครั้งที่ทำการสแกนเชื่อเลยว่า ทุกคนคงไม่อยากเห็นเจ้าจุดแดงๆ โผล่ขึ้นมาใช่ไหมครับ นั่นก็เพราะมันเป็นสัญญาณบอกว่า ฮาร์ดดิสก์มีปัญหาแล้ว
หมายเหตุ : ใช้โปรแกรมทดสอบฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน กับ SSD ไม่ได้เพราะเทคโนโลยีที่ใช้ไม่เหมือนกัน การเก็บข้อมูลไม่เหมือนกัน อาจทำให้ค่าที่แสดงออกมาผิดพลาดอาจเห็นจุดสีแดงโผล่ขึ้นมา ทั้งๆ ที่ไม่เป็นอะไร
เมื่อรู้ตัวว่าฮาร์ดดิสก์ติด Bad Sector แล้ว เราไม่รู้หรอกว่าเป็นแบดแท้หรือแบดเทียม วิธีรับมือที่ดีที่สุด ส่งไปสำรองข้อมูล (Back up) ภายในกับศูนย์ที่ให้บริการ เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย
แต่ถ้าใครอยากลองแก้ Bad Sector ด้วยตัวเองก็มีหนทางอยู่ แต่ต้องเข้าใจก่อนนะว่าหากทำผิดขั้นตอน ข้อมูลอาจหายไปหมดได้แบบง่ายๆ เลย มีความเสี่ยงพอตัว แต่ถ้าใครรับความเสียงได้ก็มาดูวิธีทำกันเลย โปรแกรมเฉพาะทางที่ใช้แก้ Bad Sector สำหรับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน ก็มีดังนี้
ซึ่งเจ้าพวกนี้ "สามารถซ่อมแซม Bad Sector ได้เฉพาะ แบดเทียม" และไม่สามารถป้องกันหรือทำให้หายขาดได้ ถ้าเกิดซ่อมแซม 1-2 รอบแล้วจุดแดงยังไม่หายไป ก็ให้ตีไปเลยว่ามันเป็น "แบดแท้" ซ่อมไม่ได้เตรียมตัวส่งศูนย์ แล้วโบกมือบ๊ายบายฮาร์ดดิสก์ลูกนั้นไปเลย
ฮาร์ดดิสก์เกิด Bad Sector แบบ "แบดเทียม" สามารถซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้ แต่ไม่รับประกันนะว่า จะไม่เกิดอีก โดยวิธีการซ่อม Bad Sector แบ่งออกเป็น 2 กรณีหลักๆ คือ บูทเข้าระบบฯ ได้ กับ บูทเข้าไม่ได้
สองกรณีนี้ มีวิธีการซ่อมแซมที่แตกต่างกัน โดยกรณีแรกมีขั้นตอนที่ง่ายกว่า เพราะมันสามารถบูทเข้าไปในระบบปฎิบัติการ Windows แล้วใช้ฟีเจอร์ Error Checking (ที่มีติดมากับระบบฯ อยู่แล้ว) ในการสแกนและซ่อมแซม Bad Sector ด้วยการกดเพียงไม่กี่ครั้ง แล้วก็รอจนเสร็จ ดูขั้นตอนการทำที่ด้านล่าง
ส่วนกรณีที่สอง บูทเข้าระบบฯ Windows ไม่ได้ เพราะติดจอฟ้ามรณะ จะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่า ทั้งต้องเตรียมคอมฯ อีกเครื่อง เตรียมแฟลชไดรฟ์ ดาวน์โหลดโปรแกรม ติดตั้งโปรแกรมลงแฟลชไดรฟ์ ฯลฯ ซึ่งต้องทำหลายขั้นตอนมากๆ ดูขั้นตอนการทำที่ด้านล่าง
วิธีติดตั้งโปรแกรมลงในแฟลชไดรฟ์
เมื่อบูทได้แล้วจะเข้ามาอยู่ในหน้าหลักของโปรแกรม HDD Recovery จากนั้นใส่ตัวเลขเพื่อเลือกฮาร์ดดิสก์ที่ติด Bad Sector (ในกรณีมีฮาร์ดิสก์หลายลูก)
สุดท้ายลองเช็คดูว่าฮาร์ดดิสก์ของคุณที่ทำการสแกนไปแล้วนั้น มี Bad Sector ทั้งหมดกี่จุด และแต่ละจุดอยู่ตรงไหนบ้างโดยดูที่ด้านล่าง ตรงข้อความ "bad sectors found" กับ "bad sectors recovered" หรือกด ESC เพื่อออกไปเลือกที่หัวข้อ Show Statistics เพื่อดูตำแหน่งก็ได้
ถ้าหากจุดไหนที่สามารถซ่อมได้ มันจะขึ้นตัวอักษร R (Repaired) ให้เห็นแต่ถ้าจุดไหนที่ซ่อมไม่ได้มันจะขึ้นเป็นตัวอักษร B (Bad) ถ้าไม่แน่ใจก็ลองสแกนซ้ำดูอีกทีก็ได้ แต่ถ้าสแกนซ้ำยังเหมือนเดิม ให้คาดเดาไว้เลยว่าเปิด "แบดแท้" ซ่อมด้วยโปรแกรมไม่ได้
สุดท้ายนี้ หวังว่าข้อมูลที่ทางทีมงานนำมาแชร์จะมีประโยชน์ เพื่อที่ทุกคนจะได้เอาไปใช้ดูแลรักษาหรือซ่อมแซมนะครับ
|
How to .... |
ความคิดเห็นที่ 1
18 พฤษภาคม 2563 23:49:10
|
||
GUEST |
![]() |
Tee
บูทเข้าหน้าแฟลชไดร์ฟยังไงหรอครับ
|