วันเกิดคนดังวงการฮอลลีวูดในเดือน มกราคม

วันเกิดคนดังวงการฮอลลีวูดในเดือนมกราคม

3 มกราคม

J.R.R. TOLKIEN

John Ronald Reuel Tolkien เกิดวันที่ 3 มกราคม ค.ศ. 1892 (พ.ศ. 2435) ที่ Bloemfontein, Orange Free State (ตอนนี้อยู่ในอเมริกาใต้)

J.R.R. Tolkien คือนักเขียนชาวอังกฤษ เขาเป็นทั้งกวี, นักปรัชญา และศาตราจารย์ หลายคนรู้จักเขาดีจากการเขียนนวนิยายแฟนตาซีอันยอดเยี่ยมอย่าง The Hobbit, The Lord of the Rings และ The Silmarillion

จริง ๆ แล้ว Tolkien ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าเรื่องของเขาจะโด่งดังขนาดนั้น แต่มันเกิดขึ้นจากเรื่อง The Hobbit ที่เขาเขียนเพื่อลูก ๆ ของเขาในช่วงปี ค.ศ. 1936 (พ.ศ. 2506) โดยเรื่องนี้ได้รับความสนใจจาก Susan Dangnall ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัท George Allen & Unwin สำนักพิมพ์ของ London ที่ชักชวนให้ Tolkien ส่งเรื่องนี้ลงตีพิมพ์สิ และเมื่อมีการตีพิมพ์ออกมา หนังสือเล่มนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก ดึงดูดผู้อ่านทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ๆ และมันได้รับความนิยมมากพอจนทำให้ Tolkien สร้างภาคต่อออกมาเลยทีเดียว

และคำร้องให้สร้างภาคต่อจากแฟน ๆ ก็เกิดเป็นหนึ่งในผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเขาในเวลาต่อมากับเรื่อง The Lord of the Rings ตีพิมพ์ครั้งแรก 3 ภาค ใน 1954-1955 (พ.ศ. 2497-2498) โดยตัวของ Tolkien ใช้เวลาเขียนเรื่องนี้เป็น 10 ปีเลยทีเดียว เขาได้รับการสนับสนุนจาก Inklings อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก C.S. Lewis เพื่อนสนิทของเขา ผู้เขียนเรื่อง The Chronicles of Narnia

ในตอนแรก Tolkien จะให้ The Lord of the Rings เป็นเรื่องเล่านิทานแบบเด็ก ๆ เหมือนอย่าง The Hobbit แต่ในระหว่างเขียนเขาก็ตัดสินใจให้เนื้อเรื่องมันดาร์คขึ้นและจริงจังมากขึ้น ถึงแม้จะเป็นภาคต่อโดยตรงของ The Hobbit ก็ตาม แต่ก็สนองผู้อ่านที่มีอายุมากขึ้น

The Lord of the Rings ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปี ค.ศ. 1960 (พ.ศ. 2503) และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มันได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในนิยายยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษที่ 20 โดยตัดสินจากทั้งยอดขายและผู้อ่าน และทำให้ Tolkien ได้รับการขนานนามว่า บิดาแห่งวรรณกรรมแฟนตาซีระดับสูงยุคใหม่ (Father of the modern high fantasy genre) ถึงแม้ว่าจะเขียนมานานแล้วก็ตาม และมันก็ยังเป็นแรงบันดาลใจให้แก่งานแฟนตาซีในยุคหลัง ๆ อีกมากมายหลายเรื่อง

และแน่นอนว่าจากความนิยมของนิยายมันก็ได้ถูกนำมาสร้างเป็นไตรภาคหนังเรื่อง The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), The Lord of the Rings: The Two Towers ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), The Lord of the Rings: The Return of the King ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), The Hobbit: An Unexpected Journey ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), The Hobbit: The Desolation of Smaug ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) และ The Hobbit: The Battle of the Five Armies ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)

Tolkien เสียชีวิตด้วยวัย 81 ปี และเขาได้สั่งให้ฝังตัวเองไว้หลุมศพเดียวกับภรรยาของเขา ที่สลักป้ายชื่อไว้ว่า Lúthien ซึ่งเป็นตัวละครเอลฟ์ที่เขาแต่งมา และเขาให้เติมคำว่า Beren ลงไปข้างหลังชื่อเขา

Edith Mary Tolkien
Lúthien
1889–1971

John Ronald Reuel Tolkien
Beren
1892–1973

MEL GIBSON

Mel Columcille Gerard Gibson เกิดวันที่ 3 มกราคม ค.ศ. 1956 (พ.ศ. 2499) ที่ Peekskill, New York ประเทศอเมริกา ปัจจุบันมีอายุ 64 ปี

Mel และครอบครัวของเขาย้ายไป Australia ในช่วงปี ค.ศ. 1960 (พ.ศ. 2503)

หลังจากจบมัธยม เจ้าตัวได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย New South Wales ที่ Sydney เรียนเกี่ยวกับการแสดงที่คณะ National Institute of Dramatic Arts

หลังจากเรียนจบเขาก็เดินสายเข้าสู่อาชีพการแสดง โดยเริ่มมีงานแสดงบนเวทีบ้าง และแสดงในรายการ TV นิดหน่อย จนกระทั่งเขาถูกทาบทามให้ไปรับบทในหนังเรื่องนึง จนทำให้เขามีชื่อเสียงนับตั้งแต่นั้น นั่นก็คือเรื่อง Mad Max ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งโลกรู้จักชายที่ชื่อ Mel Gibson

หลังจากนั้นเขาได้แสดงหนังในอีกหลายเรื่อง Gallipoli ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524), The Bounty ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) รับบทเป็น Martin Riggs ใน Lethal Weapon ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) จนกลายเป็นซิกเนเจอร์ของเรื่องนั้นไปเลย ตามมาด้วย Forever Young ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), The Man Without a Face ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) และในปี ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) ก็โด่งดังเป็นพลุแตกอีกครั้งกับบท Sir William Wallace ในเรื่อง Braveheart แถมยังลงมือกำกับเองอีกด้วย

ตามมาด้วยผลงานที่ทำรายได้ไปไม่น้อยทั้ง Ransom ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539), Payback ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542), The Patriot ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543)

เจ้าตัวเคยค้วารางวัลออสการ์ 2 ครั้งจากเรื่อง Braveheart ในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมและภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงอีกครั้งจากเรื่อง Hacksaw Ridge ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559)

ในเวทีลูกโลกทองคำ เจ้าตัวก็คว้ารางวัลมาได้ 1 ครั้ง จากเรื่อง Braveheart เช่นกัน แถมยังเคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงอีก 3 ครั้ง จากเรื่อง Ransom ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539), What Women Want ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) และ Hacksaw Ridge ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559)

ทุกวันนี้ Mel Gibson ยังคงเป็นเจ้าพ่อระดับซุปเปอร์สตาร์แห่งวงการ Hollywood แถมยังติดลิสต์ผู้ชายที่งดงามที่สุดและเซ็กซี่ที่สุดแห่งวงการอีกด้วย

FLORENCE PUGH

Florence Rose C M Pugh เกิดวันที่ 3 มกราคม ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) ที่ Oxford, Oxfordshire ประเทศอังกฤษ 

Pugh รู้ตัวตั้งแต่เด็กเลยว่าโตขึ้นเธออยากมีอาชีพเป็นนักแสดง จนทำให้ในตอนอายุได้ 6 ปี ได้ได้แสดงละครเวทีของโรงเรียนประถมด้วย 

บทบาทเดบิวต์ในการแสดงระดับอาชีพของเธอคือเรื่อง The Falling ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เธอได้ไปออดิชั่นแบบจริง ๆ จัง ๆ ด้วย และจากบทบาทนี้มันก็ส่งให้ชื่อเสียงของเธอเริ่มมีมากขึ้นอย่างรวดเร็ว

เธอได้รับบทในหนังและซีรีส์อีกหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น ซีรีส์ Marcella ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Lady Macbeth ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), The Commuter ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Outlaw King ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Malevolent ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), ซีรีส์ The Little Dummer Girl ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) จนทำให้ในปี ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) เธอได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงดาวรุ่ง BAFTA EE Rising Star Award เลยทีเดียว

ในปี ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ยังมีผลงานของเธอให้ได้ชมกันอย่างต่อเนื่อง หลายแนว หลายรสชาติ ทั้ง Fighting with My Family, Midsommar และ Little Women ที่ในเรื่องหลังเธอได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยม และได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล BAFTA Film Award ในสาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน

ซึ่งในปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ผลงานของเธอก็ยังคงมีให้เราได้เห็น ทั้งซีรีส์ Acting for a Cause และบทบาท Yelena Belova ในหนังเดี่ยว Black Widow ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) ซึ่งนับว่าเป็นก้าวสำคัญในการแสดงของเธอ เพราะบทบาทนี้ยังคงมีต่อเนื่องในซีรีส์ Hawkeye ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) ที่จะฉายทาง Disney+ และในจักรวาล MCU

หนึ่งในนักแสดงหญิงที่น่าจับตาสุด ๆ คนหนึ่งแห่งวงการ Hollywood - Florence Pugh 

5 มกราคม

GEORGE REEVES

George Keefer Brewer เกิดวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 1914 (พ.ศ. 2457) ที่ Wollstock, Iowa ประเทศอเมริกา

Reeves โตที่ Pasadena, California และเรียนที่ Pasadena Jonior College

หลายคนอาจไม่รู้ Reeves มีทักษะด้านการต่อยมวย และดนตรีด้วย

เขาเริ่มฝึกงานในฐานะนักแสดงที่ Pasadena Playhouse เป็นสถานที่จัดแสดงศิลปะการแสดงอันโด่งดัง และถูกค้นพบไปแคสติ้งเป็นดาราโดยผู้กำกับนามว่า Maxwell Arnow

เขาถูกคัดตัวให้ไปรับบท Stuart Tarleton ในเรื่อง Gone with the Wind ค.ศ. 1939 (พ.ศ. 2482) และในระหว่างที่ถ่ายทำเรื่องนั้นอยู่เขาก็ยังคงแสดงอยู่ที่ Pasadena Playhouse และทาง Warner Bros. ก็สนใจทำให้ตกลงเซ็นสัญญากัน

เขาประสบความสำเร็จอย่างมากในฐานะนักแสดงนำในเรื่อง So Proudly We Hail! ค.ศ. 1943 (พ.ศ. 2486) แต่อาชีพการแสดงของเขาก็โดนขัดเพราะดันเกิดสงครามเสียก่อน และหลังจากที่เขากลับมาแสดงหลังสงคราม เขาก็ไม่สามารถทำให้ตัวเองแสดงอยู่ได้ในระดับเดิม

หลังจากภาวะสงครามทำให้เขาจับพลัดจับพลูเดินทางไปยังมหานคร New York สำหรับแสดงทางทีวี และที่นั่นทำให้เขาได้กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้งจนนำให้เขาได้ไปแสดงซีรีส์ที่ทำให้หลายคนรู้จักเขามากขึ้น

เขาได้มารับบทตัวการ์ตูนเอกลักษณ์ของค่าย DC อย่าง Superman ใน Adventures of Superman ค.ศ. 1952-1958 (พ.ศ. 2495-2501)

และหลังจากนั้นเขาก็ได้แสดงในอีกหลายเรื่องตลอดช่วง ค.ศ. 1950s (พ.ศ. 2493-2502) แต่แน่นอนว่าไม่มีบทไหนที่คนจะจดจำเขาได้เหมือนกับบท Superman

แต่ในวันที่ 16 มิถุนายน ค.ศ. 1959 (พ.ศ. 2502) ตำรวจมาพบศพเขา โดยสันนิษฐานว่าเป็นการฆ่าตัวตายด้วยการยิงตัวเอง ทำให้ชื่อของ George Reeves จบชีวิตลงด้วยวัยเพียง 45 ปี

หลายคนมองว่าเป็นอาถรรพ์จากบทบาทนี้ บ้างก็บอกว่าเขามีปัญหาส่วนตัว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนรอบตัวเขาไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะฆ่าตัวตาย แต่การตายของเขาอาจจะเกี่ยวข้องกับประเด็นความสัมพันธ์กับ Toni Lanier ภรรยาของฝ่ายบริหารที่ MGM อย่าง E.J. Mannix แต่ก็ไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงข้อสันนิษฐานนั้นแต่อย่างใด ทุกวันนี้ยังคงเป็นข้อถกเถียงว่าการตายของเขาเป็นการฆ่าตัวตายหรือการฆาตกรรมกันแน่

ROBERT DUVALL

Robert Selden Duvall เกิดวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 1931 (พ.ศ. 2474) ที่ San Diego, California ประเทศอเมริกา 

Duvall ได้เข้าเรียนที่ Principia College สาขาการละคร และหลังจากนั้นก็ออกมารับใช้ชาติเป็นเวลา 2 ปี ก่อนที่จะเรียนจบในปี ค.ศ. 1953 (พ.ศ. 2496)

จนกระทั่งเขาได้เข้าร่วมกับคณะละคร The Neighborhood Playhouse School ที่โรงละคร Theatre In New York City จาก G.I. Bill โครงการช่วยเหลือทหารผ่านศึก ในช่วงปี ค.ศ. 1955 (พ.ศ. 2498) ที่ได้เรียนการแสดงภายใต้การสอนของ Sanford Meisner เคียงข้างกับ Dustin Hoffman ที่ทั้งคู่ได้ร่วมกันหารค่าอพาร์ทเม้นต์อยู่ด้วยกัน 

ต่อมา Meisner ได้เลือก Duvall ให้แสดงละครเวทีเรื่อง The Midnight Caller โดย Horton Foote จากเรื่องนี้เขาได้รับเสียงชื่นชมจากการแสดงไปไม่น้อยเลย ซึ่งทำให้ Foote ได้แนะนำให้ Duvall ไปรับบทในหนังเรื่อง To Kill a Mockingbird ค.ศ. 1962 (พ.ศ. 2505) อีกด้วย

Duvall สร้างชื่อด้วยการเป็นนักแสดงละครเวทีที่ New York ชนะรางวัล Obie Award ในปี ค.ศ. 1965 (พ.ศ. 2508) จากละครบรอดเวย์เรื่อง A View from the Bridge ที่มีรูมเมทของเขาอย่าง Hoffman รับหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้กำกับ ซึ่งต่อมาเขาก็มีผลงานในหนังและซีรีส์ออกมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น The Chase ค.ศ. 1966 (พ.ศ. 2509), Countdown ค.ศ. 1967 (พ.ศ. 2510), The Rain People ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512)

บทบาทอันน่าจดจำของเขาคือบทบาทในเรื่อง True Grit ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) ตามมาด้วยผลงานอย่าง MASH ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513), THX 1138 ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) และ The Godfather ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515) ที่การแสดงของเขาในเรื่องนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่า Duvall คือนักแสดงชั้นยอด และจากเรื่องนี้มันส่งให้เขาเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมครั้งแรกในชีวิตอีกด้วย

หลังจากนั้นผลงานของ Duvall ก็ออกมาอีกมากมาย ทั้ง Tomorrow ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515), Badge 373 ค.ศ. 1973 (พ.ศ. 2516), The Godfather: Part II ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517), The Killer Elite ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518), Network ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519), The Seven-Per-Cent Solution ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519), The Eagle Has Landed ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519) และ Apocalypse Now ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) ยอดผลงานที่ส่งให้เขาเข้าชิงรางวัลออสการ์และคว้ารางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม

และโลดแล่นบนเวทีออสการ์กับลูกโลกทองคำอีกไม่น้อย

The Great Santini ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522)
- เข้าชิงรางวัลออสการ์

Tender Mercies ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526)
- คว้ารางวัลออสการ์
- คว้ารางวัลลูกโลกทองคำ

Lonesome Dove ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532)
- คว้ารางวัลลูกโลกทองคำ

Stalin ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535)
- คว้ารางวัลลูกโลกทองคำ

The Apostle ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540)
- เข้าชิงรางวัลออสการ์

A Civil Action ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541)
- เข้าชิงรางวัลออสการ์
- เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ

Broken Trail ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549)
- เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ

The Judge ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)
- เข้าชิงรางวัลออสการ์
- เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ

HAYAO MIYAZAKI

Hayao Miyazaki นับว่าเป็นหนึ่งในผู้กำกับอนิเมชั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งแห่งวงการอนิเมชั่นญี่ปุ่น ทั้งการวางพล็อตเรื่องที่เยี่ยมยอด, มิติของตัวละคร, และความเหนือจินตนาการ ที่สร้างชื่อให้เขาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก 

Miyazaki เกิดวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 1941 (พ.ศ. 2484) ที่ Tokyo ประเทศญี่ปุ่น 

เขาเริ่มต้นอาชีพการเป็นนักทำอนิเมชั่นในปี ค.ศ. 1963 (พ.ศ. 2506) ที่สตูดิโอ Toei Douga และเขาก็มีส่วนร่วมในผลงานอนิเมชั่นคลาสสิคหลายเรื่องในวงการญี่ปุ่น และตั้งแต่เขาเริ่มต้น เขามีฝีมือในการวาดภาพที่สวยอย่างเหลือเชื่อ

ในปี ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) เขาได้ย้ายไปทำกับสตูดิโอ A Pro และได้ทำงานร่วมกับ Isao Takahata , หลังจากนั้นก็ย้ายไป Nippon Animation ในปี ค.ศ. 1973 (พ.ศ. 2516) และที่บริษัทนี้เจ้าตัวได้มีส่วนร่วมอย่างหนักในการทำผลงานซีรีส์ ชิ้นโบว์แดงให้กับอนิเมชั่นทาง TV ใน 5 ปีต่อมา กับการกำกับ Mirai shônen Konan (Conan, The Boy in Future) ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521)

หลังจากนั้นเขาก็ย้ายไป Tokyo Movie Shinsha ในปี ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) และสถานที่แห่งนั้นทำให้เขาได้กำกับหนังอนิเมชั่นเรื่องแรกกับเรื่อง Rupan sansei: Kariosutoro no shiro

ตามมาด้วยในปี ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) เขาก็ได้ปล่อยผลงานออกมาอีกกับเรื่อง Kaze no tani no (Naushika Nausicaä of the Valley of the Wind)

หลังจากความสำเร็จของเรื่องนั้นทำให้เขาได้ตั้งสตูดิโอที่หลาย ๆ คนรู้จักในปัจจุบันกับ Studio Ghibli (Sutajio Jiburi) ที่ซึ่ง Miyazaki ทั้งกำกับ, เขียนบท, และอำนวยการสร้างร่วมกับ Takahata และ Toshio Suzuki

ซึ่งมีผลงานชื่อดังมากมาย ทั้ง Castle in the Sky ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529), Grave of the Fireflies ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531), My Neighbor Totoro ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531), Kiki's Delivery Service ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532), Pom Poko ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537), Whisper of the Heart ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538), Princess Mononoke ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540), Spirited Away ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Howl's Moving Castle ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Ponyo ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) และอื่น ๆ อีกมากมาย

แท้จริงแล้ว Miyazaki อยากวางมือจากการกำกับตั้งแต่เรื่อง Princess Mononoke แล้ว แต่เขาเกิดไอเดียบางอย่างขึ้นจึงสร้างเรื่อง Spirited Away ขึ้นมา

Spirited Away เป็นหนังที่ทำรายได้มากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และเป็นอนิเมชั่นเรื่องแรกที่ได้รางวัลออสการ์สาขาอนิเมชั่นยอดเยี่ยม แถมยังเป็นอนิเมชั่นเพียง 1 ใน 2 เรื่องที่ได้รางวัลจากเวที Japan Academy Prize และยังติดอันดับ 1 หนังอนิเมชั่น 250 เรื่องจากเว็บ IMDb 

ความสำเร็จของ Studio Ghibli ส่งผลให้ทาง Walt Disney ซื้อลิขสิทธิมาปรับปรุงคุณภาพทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นอีกด้วย

ในปี ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) นักวิจารณ์ชื่อดังชาวอเมริกัน Roger Ebert ได้บอกว่า Miyazaki เป็นนักทำอนิเมเตอร์ที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ยกย่องถึงความลึกซึ้งและศิลปะในการสร้างภาพยนตร์ของเขา 

ในปี ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) Miyazaki ได้รับรางวัลพิเศษเกียรติยศจากเวทีออสการ์สำหรับที่เขาทำในวงการอนิเมชั่นและภาพยนตร์ เขาคือนักทำอนิเมชั่นจากญี่ปุ่นคนที่สองที่ได้รางวัลนี้ - คนแรกคือ Akira Kurosawa ในปี ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533)

และผลงานเรื่องสุดท้ายของ Miyazaki กับชื่อเรื่อง How Do You Live? ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566) ที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อหลานชายของเขา ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กชายวัย 15 ปี ที่ย้ายไปอยู่กับลุงของเขาหลังจากที่พ่อเสียชีวิต 

BRADLEY COOPER

Bradley Charles Cooper เกิดวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) ที่ Philadelphia, Pennsylvania ประเทศอเมริกา

ทันทีที่ Cooper เรียนจบจากมหาวิทยาลัย Georgetown University ในปี ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) เขาก็ได้ย้ายไปยังมหานคร New York เพื่อเข้าเรียนโปรแกรมสอนการแสดง Masters of Fine Arts program ที่ Actors Studio Drama School ในมหาวิทยาลัย New School University ซึ่งในขณะที่เขาอยู่ที่นั่นเขาก็ได้แสดงละครเวที และธีสิสของเขาคือการแสดงละครเวทีในบท John Merrick เรื่อง The Elephant Man ของ Bernard Pomerance ที่ได้แสดงใจกลาง New York 

และในขณะที่กำลังศึกษาอยู่ที่นั่น Cooper ก็ได้รับโอกาสมากมายสำหรับอาชีพการเป็นนักแสดง ได้แสดงในเรื่อง Sex and the City ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541), The Beat ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) และใช้เวลาในช่วงวันหยุดไปกับองค์กร LEAP (Learning through the Expanded Arts Program) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่สอนการแสดงและการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ให้กับเด็กนักเรียนในเมือง 

ช่วงหน้าร้อน Cooper ได้เดินทางไปทั่วโลก ตั้งแต่พายเรือคายัคที่ British Columbia ร่วมกับวาฬเพชรฌฆาต, ปีนภูเขาน้ำแข็งที่ Peruvian Andes เพราะเขาต้องเป็นพิธีกรในรายการ Treks in a Wild World ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ทางช่อง Discovery Channel

Cooper ไม่ได้เข้ารับปริญญาบัตรจาก Actors Studio เพราะเขาต้องไปแสดงใน Wet Hot American Summer ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544)

หลังจากที่ได้แสดงในหนังเรื่องที่ 2 ในชีวิตกับ Bending All the Rules ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) แผนที่เขาจะไปอาศัยอยู่ที่ Los Angeles ตอนแรกก็ต้องล่าช้าลงไป เมื่อ Darren Star ได้ข้างเขาไปแสดงในซีรีส์เรื่อง The $treet ค.ศ. 2000-2001 (พ.ศ. 2543-2544)

Cooper ได้ชนะการออดิชั่นคว้าบท Gordon Pinella นักศึกษากฏหมาย ในเรื่อง Changing Lanes ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) ที่ได้ร่วมแสดงกับ Ben Affleck และ Sameul L. Jackson หลังจากนั้นเขาก็ได้รับบทเป็น Travis Paterson ในเรื่อง My Little Eye ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) 

ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจว่าครั้งนี้เขาจะย้ายไป Los Angeles จริง ๆ สักที และโอกาสก็เหมาะเจาะ มันพาเขาได้มารับบทในเรื่อง Alias ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) พอดิบพอดี

หลังจากที่รับบทสมทบทั้งใน Wedding Crashers ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Failure to Launch ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), The Comebacks ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), The Rocker ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) และ Yes Man ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) ในที่สุดเขาก็ได้รับบทนำในเรื่อง He's Just Not That Into You ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) ตามมาด้วย The Hangover ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) และ Valentine's Day ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) ทำให้ชื่อของเขาเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างและเป็นที่น่าจับตามองสุด ๆ จนได้ร่วมแสดงใน The A-Team ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) และ Limitless ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554)

จนในปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) Cooper ได้แสดงฝีมือทางการแสดงเอาไว้อย่างยอดเยี่ยมที่ได้แสดงนำร่วมกับ Jennifer Lawrence ในหนังของผู้กำกับ David O. Russell เรื่อง Silver Linings Playbook ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์และรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

และยิ่งเวลาผ่านไป Cooper ก็ยิ่งโชว์ฝีมือในการแสดงที่เจนจัดมากขึ้นใน American Hustle ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) ที่ส่งให้เขาได้ชิงรางวัลออสการ์และรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมอีกด้วย

Cooper ยังคงฝากผลงานเอาไว้ใน The Hangover Part III ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) และได้มารับบทบาทสำคัญในจักรวาล MCU กับบทบาท Rocket ใน Guardians of the Galaxy ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) ที่ไม่มีใครแล้วจริง ๆ ที่เหมาะไปกว่าเขาแล้ว ซึ่งเจ้าตัวเคยบอกเอาไว้ว่าเขาได้ค่าจ้างในเรื่องนี้มากกว่าที่แสดงใน Silver Linings Playbook ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) และ The Hangover ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) รวมกันเสียอีก 

ตามมาด้วยบทบาทที่อิงมาจากเรื่องจริงของ Chris Kyle มือสไนเปอร์ใน American Sniper ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) ที่ส่งเขาเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม 

ตามมาด้วยผลงานอีกมากมาย Aloha ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), ซีรีส์ Wet Hot American Summer: First Day of Camp ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Burnt ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Baby, Baby, Baby ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Joy ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), ซีรีส์ Limitless ค.ศ. 2015-2016 (พ.ศ. 2558-2559), War Dog ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), The Mule ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) และมาให้เสียงพากย์ตัวละคร Rockey ใน Guardians of the Galaxy Vol. 2 ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Avengers: infinity War ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Avengers: Endgame ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Nightmare Alley ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Guardians of the Galaxy Vol.3 ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566)

แต่อีกหนึ่งผลงานอันยอดเยี่ยมคือ A Star Is Born ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) ที่เจ้าตัวทั้งกำกับ, เขียนบท และแสดงนำด้วยตัวเอง เคียงคู่กับนักร้องเสียงทรงพลัง Lady Gaga ในเรื่องนี้ Cooper ทั้งเล่นกีตาร์และร้องเพลงจริง ๆ ด้วย เหตุที่เป็นแบบนั้นส่วนนึงก็เพราะว่า Gaga เป็นคนโน้มน้าวให้เขาทำแบบนั้น เพราะว่าเธอเกลียดการที่ต้องดูหนังเกี่ยวกับเพลงและนักแสดงในเรื่องมาลิปซิงค์ ซึ่งทาง Cooper เองก็เป็นคนโน้มน้าวให้ทาง Warner Bros. เลือก Lady Gaga มารับบท Ally เขาเปิด Iphone ที่อัดเสียงตัวเขาร้องเพลงคู่กับเธอให้ทางค่ายฟัง จนทางค่ายยอมตกลง

ความยอดเยี่ยมของ Cooper ในหนังเรื่องนี้ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 3 สาขา
- Best Adapted Screenplay 
- Best Performance by an Actor in a Leading Role 
- Best Motion Picture of the Year

และเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีก 2 สาขา
- Best Performance by an Actor in a Motion Picture - Drama
- Best Director - Motion Picture

6 มกราคม

ROWAN ATKINSON

Rowan Sebastian Atkinson เกิดวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 1955 (พ.ศ. 2498) ที่ Consett Co. Durham ประเทศอังกฤษ 

หลายคนอาจไม่รู้ว่า Rowan เรียนที่ Newcastle University และ Oxford University จบมาในคณะวิศวกรรมไฟฟ้า

ในปี ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) เขาได้ร่วมเขียนบทและปรากฏตัวใน Not the Nine O'Clock News ซึ่งนั่นทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างมาก จนทำให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จัก ทำให้เขาคว้ารางวัล International Emmy Award และ British Academy Award เท่านั้นยังไม่พอ เขายังได้รับการจารึกชื่อใน BBC Personality of the Year (บุคคลแห่งปีของ BBC) อีกด้วย

ก่อนที่เขาจะกลายมาเป็นที่รู้จักกับบทบาท Mr. Bean เขาเล่นหนังมาแล้วหลายเรื่องด้วยกัน ไล่ไปตั้งแต่ Pleasure at Her Majesty's ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519), Dead on Time ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526), Never Say Never Again ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) และ The Tall Guy ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) แต่ไม่ได้คาแรคเตอร์แบบ Mr. Bean นะ 

ซึ่งบทบาทล่าสุดของเขาก็คือ Mr. Bean ในซีรีส์สั้นเรื่อง Handy Bean ค.ศ. 2018-2020 (พ.ศ. 2561-2563) และในอนาคตยังมีผลงานของเขาให้เราได้เห็นอีกหนึ่งเรื่องกับซีรีส์ Man vs. Bee ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

แต่แน่นอนว่าหลายคนรู้จักและจดจำ Rowan Atkinson ในบทบาท Mr. Bean เรียกได้ว่าหลายคนเรียกเขา Mr. Bean มากกว่าชื่อจริงเขาเสียอีก 5555

รู้หรือไม่ว่า สิ่งที่ Rowan คลั่งไคล้และสนใจมากที่สุดคือรถแข่ง เขาเป็นเจ้าของรถแพง ๆ หลายคันมาก เช่น Aston Martin Vantages และอื่น ๆ อีกมากมาย เขาเคยแข่งรถ (และเคยชนด้วย) ที่ Aston Martins Owners club series

รถ Aston Martin DB7 Vantage ที่ปรากฏในหนัง Johnny English ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) นั่นแหละคือรถของเขา

เขาเคยขับรถ Mclaren F1 มูลค่ากว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ชนด้วย! 

เขาชอบถึงขนาดเขียนบทความเกี่ยวกับรถลงในนิตยสาร British cas magazine เลยทีเดียว

NORMAN REEDUS

Norman Mark Reedus เกิดวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) ที่ Hollywood, Florida ประเทศอเมริกา

ก่อนที่ Reedus จะมารับหน้าที่เป็นนักแสดง เขาได้มีช่วงเวลาที่อาศัยอยู่ที่อังกฤษและญี่ปุ่นด้วย 

หนังเรื่องแรกที่ Reedus ได้แสดงคือหนังของ Guillermo Del Toro เรื่อง Mimic ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) ซึ่งก่อนหน้าที่เขาจะได้แสดงหนังเรื่องนี้ เขาต้องทำงานที่ร้านมอเตอร์ไซต์ Harley Davidson ใน Venice, California เพื่อหาเลี้ยงชีพ โดยตอนนั้นเขาได้เงิน 7.50 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 224 บาท)

ต่อมาเขาก็ได้รับบทในอีกมากมายหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Floating ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540), Six Ways to Sunday ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540), 8MM ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542), Gossip ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543), Deuces Wild ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), Blade II ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), American Gangster ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Hero Wanted ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Pandorum ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), The Conspirator ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553)

แต่บทบาทสร้างชื่อและทำให้ Reedus เริ่มเป็นที่รู้จักจริง ๆ คือบทบาท Murphy MacManus ในหนังเรื่อง The Boondock Saints ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ได้แสดงร่วมกับ Sean Patrick Flanery และ Willem Dafoe และได้มาแสดงในภาคต่อ The Boondock Saints II: All Saints Day ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552)

ในปี ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) Reedus ได้รับบทบาทนึงที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล เพราะคราวนี้ทั้งโลกต่างรู้จักเขา และชื่นชอบตัวละครที่เขาแสดงแบบสุด ๆ กับบทบาท Daryl Dixon ในซีรีส์ของ AMC เรื่อง The Walking Dead ที่ดัดแปลงมาจากคอมิกส์ชื่อดัง 

ซึ่งจริง ๆ แล้วตัวละคร Daryl ไม่ได้มีในฉบับคอมิกส์ด้วย มันถูกสร้างขึ้นมาให้กับ Reedus โดยเฉพาะ หลังจากที่เขาได้เข้ามาออดิชั่นเพื่อรับบท Merle Dixon แต่ตกไปเป็นของ Michael Rooker ทำให้ทีมงานเสียดายมาก ๆ เพราะ Reedus ออดิชั่นได้ดีมาก จนต้องสร้างตัวละครมาเพื่อให้เขาอยู่ในซีรีส์นี้ และผลคือคิดถูกสุด ๆ กลายเป็นหนึ่งในตัวละครขวัญใจ ใครจะตายก็ตายได้ แต่ถ้าตัวนี้ตายแฟน ๆ ได้สาปส่งแน่นอน

Reedus รับบท Daryl มาตั้งแต่ ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553 จนถึงปัจจุบันเลยทีเดียว ซึ่งในระหว่างนั้นมันก็สร้างชื่อมากพอให้เขาได้รับงานอื่น ๆ อีก อาจจะไม่มากพอเพราะต้องติดถ่ายซีรีส์ แต่ก็ยังสร้างชื่อให้ตัวเองไม่น้อยเหมือนกัน โดยเฉพาะในเกมของ Hideo Kojima กับเกม Death Stranding ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) บทบาท Sam Porter Bridges 

หลายคนอาจจะรู้จักเขาในฐานะนักแสดง แต่เจ้าตัวก็เล่น MV และถ่ายแบบกับแบรนด์ชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Prada, Alessandro Dell'Acqua, Durban, Levi's, Lexus และ Morgenthal Frederics

ในช่วง กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) Reedus ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ Berlin ประเทศเยอรมัน เมื่อเขากำลังจะเดินทางไปดูคอนเสิร์ตวง R.E.M. คนขับรถของเขาได้หักเลี้ยวรถอย่างกระทันหันทำให้ไปชนกับรถบรรทุก ทำให้เขาถูกเหวี่ยงกระเด็นทะลุกระจกหน้ารถและตกลงไปบนทางเท้า ทำให้ใบหน้าด้านซ้ายของเขาเป็นแผลต้องเข้ารับการผ่าตัดเลยทีเดียว (เบ้าตาเขาเป็นไทเทเนียมนะ)

Reedus เป็นชายที่ชอบศิลปะ เขาจึงได้สักตามตัวบ้าง ไม่ว่าจะเป็น ชื่อพ่อของเขาที่หน้าอกซ้าย, ปีศาจบนแขนขวาท่อนบน, Mingus สีแดงตรงท่อนแขนขวา (ชื่อลูกของเขา), ดาวบนมือขวา, ปีศาจสองตัวที่แผ่นหลัง, หัวใจตรงข้อมือขวา และงูตรงขาซ้าย

Reedus เคยคบหากับนางแบบ Helena Christensen ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) แต่ก็เลิกรากันไปในปี ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) ซึ่งทั้งคู่มีลูกชายด้วยกัน 1 คน ชื่อว่า Mingus Lucien Reedus ปัจจุบันน้องมีอายุ 22 ปี และถึงแม้ทั้งคู่จะเลิกรากันไปแล้ว แต่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แถมยังช่วยกันดูแลลูกชายอยู่เรื่อย ๆ ด้วย

EDDIE REDMAYNE

Edward John David Redmayne เกิดวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) และโตที่ London ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันมีอายุ 37 ปี เขาเป็นคนเดียวในตระกูลที่เป็นทั้งนักแสดงและนายแบบด้วย

เขาเรียนที่ Eton College หลังจากนั้นจึงไปเรียนที่ Trinity College ตามด้วย Cambridge ที่นั่นเขาเรียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์แห่งศิลปะ (History of Art) 

Redmayne สนใจการแสดงมาตั้งแต่เด็ก ๆ เขาเข้าเรียนการแสดงตั้งแต่อายุยังน้อย และได้แสดงครั้งแรกบนเวทีเรื่อง Oliver! ของ Sam Mendes และก็ได้แสดงตลอดช่วงการเรียนที่มัธยมและมหาวิทยาลัย รวมถึงได้ไปแสดงร่วมกับ National Youth Music Theatre ด้วย

แต่ผลงานการแสดงจริงจังของเจ้าตัวเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) กับบทบาทการแสดงบนเวทีเรื่อง Twelfth Night กับบท Viola

ในปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) เขาได้ชนะรางวัล Evening Standard Outstanding Newcomer Award จากบทบาทใน The Goat

หลังจากประสบความสำเร็จจากงานแสดงบนเวที เขาก็เริ่มย้ายไปที่อื่นในปี ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) และได้แสดงเรื่อง Red ที่ Donmar Warehouse และที่นั่นทำให้เขาได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามแถมยังชนะรางวัล Oliver Award สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมอีกด้วย 

เขาจึงก้าวเข้าสู่เวทีใหญ่ของละครเวทีกับบรอดเวย์ในปี ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) แถมเขายังชนะรางวัล Tony Award สาขา Best Performance by a Featured Actor in a Play

นอกเหนือจากงานแสดงละครเวทีแล้ว เจ้าตัวยังแสดงหนังและซีรีส์ทางทีวีด้วย เช่น To Good Shepherd ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Elizabeth: The Golden Age ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Tess of the D'Urbervilles ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), The Pillars of the Earth ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) และ My Week with Marilyn ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) 

เขาเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นกับหนังมิวสิคัลเรื่อง Les Misérables ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) 

แต่เขาสร้างชื่อให้ตัวเองอย่างจริงจังในวงการ Hollywood จนทำให้เขารู้จักไปทั่วโลกกับบทบาท Stephen Hawking ในหนังชีวประวัติของ The Theory of Everything ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)

จากเรื่องนั้นเขาทุ่มเทศึกษาโรค ALS อย่างจริงจัง และเขาแสดงได้อย่างยอดเยี่ยมจนส่งผลให้เขา ชนะรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และกลายเป็นชายคนแรกในวงการ Hollywood ที่เกิดปี ค.ศ. 1980s (พ.ศ. 2523-2532) คว้ารางวัลออสการ์จากผลงานแสดง แถมยังคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมหนังประเภทดราม่าของเวทีลูกโลกทองคำจากเรื่องนี้เช่นกัน

เขายังทำผลงานมาอย่างยอดเยี่ยมมารับบทผู้รับการผ่าตัดแปลงเพศครั้งแรก Lili Elbe ใน The Danish Girl ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากทั้งเวทีออสการ์และลูกโลกทองคำ

ก่อนที่ภายหลังเขาจะไปแจ้งเกิดอีกครั้งกับบทบาท Newt Scamander ในแฟรนไชส์ Fantastic Beasts ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) และแสดงต่อมาอีก 2 ภาคใน Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) และ Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

นอกเหนือจากนั้นยังมีผลงานในอนาคตของเขาให้เราได้ติดตามกันอีกกับ The Good Nurse  

Redmayne แต่งงานและมีลูก 2 คน กับ Hannah ในวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) และปัจจุบันทั้งคู่ก็รักกันหวานชื่นแบบสุด ๆ

7 มกราคม

NICOLAS CAGE

Nicolas Cage เกิดวันที่ 7 มกราคม ค.ศ. 1964 (พ.ศ. 2507) ที่ Long Beach, California ประเทศอเมริกา

จริง ๆ เขามีชื่อแต่กำเนิดคือ Nicolas Kim Coppola เป็นลูกของ August Coppola ซึ่งเป็นน้องของผู้กำกับชื่อดัง Francis Ford Coppola (The Godfather) แต่ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเมื่อเข้าสู่แวดวงการแสดง เพื่อให้คนมองการแสดงเขามากกว่าเป็นลูกหลานผู้กำกับชื่อดัง 

Cage เรียนที่ Beverly Hills High School และดร็อปไปตั้งแต่ตอนอายุ 17 ปี 

เขาได้มีส่วนร่วมกับหนังเรื่อง Fast Times at Ridgemont High ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) แต่ส่วนใหญ่บทของเขาก็โดนตัดออก ทำให้เขาเริ่มหมดหวัง เขาจึงเริ่มหันไปทำงานเป็นคนขายป๊อปคอร์นที่โรงหนัง Fairtax เพราะเขาคิดว่านั่นคือหนทางเดียวที่จะทำให้เขาได้ข้องเกี่ยวกับวงการหนัง และเปลี่ยนเป็นชื่อ Nicolas Cage ในที่สุด (ชื่อของ Cage มาจากตัวละครที่เจ้าตัวชื่อชอบจากคอมิกส์ นั่นก็คือ Luke Cage) และมันก็เป็นใบเบิกทางให้เขาจริง ๆ เพราะมันทำให้เขาได้รับบทใน Rumble Fish ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) ตามมาด้วยบทใน Valley Girl ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) ซึ่งเป็นหนังที่เปิดทางให้ตัวเขาในอาชีพการแสดงเลยทีเดียว

ในช่วงยุค 90s นี่ถือว่าเป็นยุคของ Cage อย่างแท้จริง เขาแสดงหนังดังเปรี้ยงปร้างหลายเรื่องมาก เช่น Honeymoon in Vegas ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), Leaving Las Vegas ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538), Con Air ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540), Face/Off ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) 

ช่วงนั้น Cage ก็เล่นหนังมาอีกมากมายหลายเรื่อง แต่มีอยู่เรื่องนึง Vampire's Kiss ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) มีฉากที่เจ้าตัวต้องกินแมลงสาป และนั่นคือเขาต้องกินมันจริง ๆ เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า "ทุกส่วนในร่างกายของเขาไม่ได้อยากทำ แต่ก็ต้องจำใจทำอยู่ดี" และเรื่องนี้แหละที่ทำให้เขากลายเป็น meme ที่โด่งดังไปทั่วโลก

ตามมาด้วยบทบาทสร้างชื่อและโด่งดังแบบสุด ๆ อีกครั้งกับบท Benjamin Franklin Gates ในหนังหาสมบัติ National Treasure ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) และแสดง National Treasure: Book of Secrets ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550)

และมีผลงานตามมาอีกไม่น้อย Ghost Rider ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Next ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Bangkok Dangerous ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Knowing ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), ให้เสียงพากย์ใน G-Force ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), ให้เสียงพากย์ใน Astro Boy ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), Kick-Ass ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Ghost Rider: Spirit of Vengeance ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), ให้เสียงพากย์ใน The Croods ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) และอีกมากมาย

และช่วงที่ตัวของ Cage ดังนั่นแหละ เขาก็ใช้เงินมือเติบมากถึงมากที่สุด ซื้อนู่นซื้อนี่ ของประหลาด ๆ เอย บ้านเอย รถเอย เกาะเอย รวม ๆ แล้วเยอะมาก จนโดนภาษีย้อนหลังเข้าไป ทำให้ตัวเองจากดาราเกรด A จนต้องไปรับเล่นหนังเกรด B-C

นับตั้งแต่นั้นมาเราก็ไม่เคยเห็น Cage รับเล่นหนังเกรด A ของวงการ Hollywood อีกเลย ยิ่งช่วงหลัง ๆ นี้ยิ่งพังเข้าไปใหญ่ ไม่ว่าจะใน 211 ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Kill Chain ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) หรือแม้กระทั่ง Primal ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Jiu Jitsu ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) Prisoners of the Ghostland ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

แต่ Willy's Wonderland ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) ก็พอเพลิน ๆ ไม่รู้ผู้สร้างจงใจกวนตีนเฮียแกหรือเปล่า ดันให้แกไม่พูดสักคำทั้งเรื่อง แต่ผลงานอย่าง PIG ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) ก็ได้รับเสียงวิจารณ์ที่ดี จนได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากหลายเวที แต่ที่น่าสนใจที่สุดมีอยู่เรื่องนึง The Unbearable Weight of Massive Talent ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) ที่ Nicolas Cage มารับบทเป็น Nicolas Cage ในช่วงตกต่ำของชีวิต เขาได้รับจ้างให้ไปปรากฏตัวในงานวันเกิดของมหาเศรษฐีชาวเม็กซิกัน แต่ทางด้าน CIA ก็ได้รับข่าวมาว่ามหาเศรษฐีรายนั้นคือเจ้าพ่อค้ายารายใหญ่ผู้ที่ได้จับตัวลูกของผู้ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเม็กซิโกอยู่ ทำให้ Cage ต้องร่วมมือกับทางรัฐบาลสหรัฐ เพื่อช่วยเด็กคนนั้นไว้ให้ได้ โดยการสวมบทบาทที่เจ้าตัวเคยได้รับจากหนังเรื่องต่าง ๆ 

Cage เคยเกือบได้รับบท Superman แล้วด้วย แต่ในที่สุดก็ไม่ได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม Cage เป็นคนหนึ่งที่พากย์เสียงดีนะ เขาก็ยังได้พากย์เสียงเป็นบท Superman ใน Teen Titans Go! To the Movies และ Spider-Man Noir ในหนังอนิเมชั่น Spider-Man: Into the Spider-Verse ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561)

เขายังเคยเกือบได้รับบท Osborn/Green Goblin ใน Spider-Man ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) ด้วย เพราะเขาคือตัวเลือกแรกของ Sam Raimi ก่อนที่ภายหลังตัวของ Sam จะไปพบกับ Willem Dafoe เสียก่อน 

Cage แต่งงานไป 4 ครั้ง มีลูก 1 คน และหย่าไปแล้วทั้งหมด

แต่ช่วงพีค ๆ ของ Cage เจ้าตัวก็สามารถเข้าชิงรางวัลออสการ์ไป 2 ครั้งในบทบาทนักแสดงนำ และสามารถคว้าไปได้ครึ่งนึง จากเรื่อง Leaving Las Vegas ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) ส่วนอีกครั้งที่ได้ชิงคือจากเรื่อง Adaptation ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)

บนเวทีลูกโลกทองคำ Cage ได้เข้าชิงไป 4 ครั้ง และสามารถคว้าไปได้ 1 ครั้ง จากเรื่อง Leaving Las Vegas ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) ส่วนอีก 3 ครั้งคือจากเรื่อง Moonstruck ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530), Honeymoon in Vegas ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), Adaptation ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)

ยังแอบหวังอยู่ลึก ๆ ว่าจะได้เห็นผลงานดี ๆ จากชายคนนี้เหมือนที่เราเคยเห็นเมื่อนานมาแล้ว เรายังเชื่ออยู่ลึก ๆ ว่าเขายังมีความสามารถในการแสดงที่เหมือนแต่ก่อน 

9 มกราคม

J.K. SIMMONS

Jonathan Kimble Simmons เกิดวันที่ 9 มกราคม ค.ศ. 1955 (พ.ศ. 2498) ที่ Grosse Pointe, Michigan ประเทศอเมริกา

Simmons เข้าศึกษาที่ Ohio State University และในตอนแรก Simmons วางแผนอยากทำงานด้านดนตรี เขาจึงได้เข้าศึกษาต่อที่ University of Montana เพื่อที่จะเป็นนักประพันธ์เพลง

แต่ Simmons ก็มีโอกาสได้มาโลดแล่นในแวดวงการแสดง กับการรับบทเป็น Captain Hook และ Mr. Darling ในละครบรอดเวย์เรื่อง Peter Pan และเขาก็แสดง]tครเวทีอยู่บ้างร่วมกับแสดงหนังและซีรีส์ พร้อมด้วยการลงเสียงโฆษณาต่าง ๆ อีกด้วย

จุดเริ่มต้นการแสดงหนังใหญ่ครั้งแรกของ Simmons คือบทบาท Siskel ในเรื่อง The Ref ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) และมันตามมาด้วยผลงานอีกมากมาย

Simmons เริ่มมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักจากในซีรีส์ Law & Order ค.ศ. 1994-2010 (พ.ศ. 2537-2553), Law & Order: Special Victims Unit ค.ศ. 2000-2001 (พ.ศ. 2543-2544) และ Law & Order: Criminal Intent (2545)

แต่หลายต่อหลายคนเริ่มรู้จัก Simmons จากการร่วมงานกับ Sam Raimi ในบทบาท J. Jonah Jameson จากเรื่อง Spider-Man ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), Spider-Man 2 ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) และ Spider-Man 3 ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) ซึ่งก็ปรากฏตัวในบทบาทเดิมใน Spider-Man: Far from Home ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ตามมาด้วย Spider-Man: No Way Home ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) พร้อมให้เสียงพากย์ตัวละครนี้ในฉบับการ์ตูนอีกมากมายหลายเรื่อง

Simmons ยังฝากผลงานไว้อีกมากมายทั้ง ซีรีส์ Oz ค.ศ. 1997-2003 (พ.ศ. 2542-2546), Hidalgo ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Juno ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2548), Burn After Reading ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2549), Jennifer's Body ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2550), Up in the Air ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2550), Megamind ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2551), The Good Doctor ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2552), Contraband ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2553), Jobs ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2554), Labor Day ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2554), Terminator Genisys ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2556), La La Land ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2557), The Acoountant ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2557), Patriots Day ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2557), Justice Leage ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2558), The Front Runner ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2559), 21 Bridges ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2560) และ Zack Snyder's Justice League ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), The Tomorrow War ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Ghostbusters: Afterlife ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) รวมถึง Batgirl ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

นอกเหนือจากผลงานแสดง Simmons ยังเป็นหนึ่งในนักแสดงที่พากย์เสียงได้ยอดเยี่ยมคนหนึ่งของวงการ เขาฝากผลงานไว้มากมาย เช่น Kung Fu Panda 3 ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2557), Zootopia ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2557), ซีรีส์ Robot Chicken ค.ศ. 2011-2018 (พ.ศ. 2554-2561), ซีรีส์ The Simpsons ค.ศ. 2006-2019 (พ.ศ. 2549-2562), Klaus ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Invincible ค.ศ. 2021-2022 (พ.ศ. 2564-2565)

แต่ผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตการแสดงของ Simmons คือ Whiplash ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) ที่ส่งให้เขาคว้ารางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ต้องบอกว่าเรื่องนี้เขาเล่นได้ไร้ที่ติจริง ๆ

13 มกราคม

MICHAEL PEÑA

คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้นะ...

Michael Peña เกิดวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519) ที่ Chicago, Illinois ประเทศอเมริกา เขาถูกเลี้ยงดูและเติบโตขึ้นที่ Chicago แต่เดิมทีพ่อแม่เขาอาศัยอยู่ที่ประเทศเม็กซิโก 

งานแรกที่ Peña ได้ทำในชีวิตคือการเป็นพนักงานแบงค์ แต่จุดเริ่มต้นชีวิตการแสดงคือบทบาทในเรื่อง Running Free ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537)

ต่อมา Peña ได้ย้ายที่อยู่มายังนครแห่งดารา Los Angeles และเขาก็ใช้เวลาไม่นานสร้างโอกาสให้ตัวเองได้ไปแสดงหนัง ทั้ง My Fellow Americans ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539), Star Maps ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540), La Cucaracha ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541), Bellyfruit ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542), Gone in Sixty Seconds ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) และอีกมากมายหลายเรื่องทั้งหนังและซีรีส์

หลังจากนั้นเราก็เริ่มคุ้นหน้าคุ้นตาและเห็นผลงานของ Peña อีกมากมาย เช่น Million Dollar Baby ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Babel ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), World Trade Center ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Shooter ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Lions for Lambs ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Battle: Los Angeles ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), The Good Doctor ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), 30 Minute or Less ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Tower Heist ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), End of Watch ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Gangster Squad ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), American Hustle ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Fury ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), The Martian ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), 12 Strong ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), The Mule ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Dora and the Lost City of Gold ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Jexi ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), ซีรีส์ Narcos: Mexico ค.ศ. 2018-2020 (พ.ศ. 2561-2563), Tom and Jerry ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

แต่บทบาทที่เรียกเสียงฮาและเป็นที่ชื่นชอบของใครอีกหลายคนคือบทบาทจากจักรวาล MCU เพื่อนจอมพล่ามของ Scott Lang อย่าง Luis ในเรื่อง Ant-Man ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) และบทบาทนี้ก็กลายเป็นที่ถูกอกถูกใจใครหลายคน และเป็นเหมือนตัวละครสำคัญที่หนังจะขาดไปไม่ได้ จนทำให้ Peña ได้มาปรากฏตัวอีกใน Ant-Man and the Wasp ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561)

Peña เปิดเผยว่าทุกหนังที่เขาแสดง เขาจะถามคนเขียนบทก่อนเสมอว่าเขียนให้ตัวละครเขาเป็นลูกครึ่งเม็กซิกัน-อเมริกันได้ไหม? เขาก็มักจะได้รับบทแบบนั้นจริง ๆ แต่ไม่ใช่ในรูปแบบปกติหรือที่คนเม็กซิกัน-อเมริกันเป็นในหนัง เพราะเขามักจะมีบทฉลาด, ตลก และมีงานที่ดี/น่าสนใจ ที่สำคัญ เขาชอบความจริงที่ว่าการที่ให้ตัวเขามีเชื้อสายแบบนั้นมันจะสร้างความภาคภูมิใจสำหรับแฟน ๆ ชาวอเมริกันเชื้อสายเม็กซิกันที่ไปดูหนังด้วย

ORLANDO BLOOM

Orlando Jonathan Blanchard Bloom เกิดวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1977 (พ.ศ. 2520) ที่ Canterbury, Kent ประเทศอังกฤษ

พ่อของ Bloom เสียชีวิตไปด้วยโรคหลอดเลือดในสมองตั้งแต่เขาอายุเพียง 4 ปี หลังจากนั้นเขาและพี่สาว Samantha Bloom จึงถูกเลี้ยงดูโดยผู้เป็นแม่และเพื่อนของครอบครัวอย่าง Colin Stone เมื่อ Bloom อายุได้ 13 ปี เขาก็ค้นพบว่า Colin คือพ่อที่แท้จริงของเขา 

Bloom เข้าเรียนที่ St. Edmund's School ใน Canterbury แต่เจ้าตัวก็ต้องพบปัญหาในหลาย ๆ อย่างเพราะเขาเป็นโรค Dyslexia โรคความบกพร่องในการอ่านและเขียน แต่นั่นมันทำให้เขาชื่นชอบในศิลปะและชอบเกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผา, งานปั้น และการถ่ายภาพ เขายังได้เข้าร่วมแสดงละครเวทีและเข้าร่วมแสดงกับโรงละครในท้องถิ่นด้วย ซึ่งงานแรกในวัยเด็กของเขาการเป็นคนดักดินที่สนามยิงยกพิราบ

Bloom และพี่สาวได้รับการผลักดันจากแม่ให้เรียนเกี่ยวกับด้านกวีนิพนธ์และร้อยแก้ว จนในที่สุดเขาก็เริ่มอ่านคล่อง และได้ไปอ่านหนังสือเปิดงาน Kent Festival ด้วย แถมทั้งเขาและพี่สาวชนะการแข่งขันกวีนิพนธ์และการท่องคัมภีร์อีกมากมายหลายครั้ง

หลังจากนั้น Bloom ก็เริ่มหันมาสนใจการแสดงอย่างจริงจัง ตอนอายุได้ 16 ปี เขาได้ย้ายไป London และได้เข้าร่วมกับโรงละครแห่งชาติ National Youth Theatre ใช้เวลาเกือบปีอยู่ที่นั่นและได้ทุนไปฝึกการแสดงที่ British American Drama Academy

Bloom ก็ทำเหมือนที่เด็กมีความฝันอยากเป็นนักแสดงทุกคนทำ ตระเวนไปออดิชั่นหนัง, ซีรีส์ และรายการทีวีต่าง ๆ จน จนทำให้เขาได้รับบทในซีรีส์ทางทีวีของอังกฤษ ทั้ง Casualty ค.ศ. 1994-1996 (พ.ศ. 2537-2539), Smack the Pony ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) รวมถึงได้แสดงในหนังเรื่อง Wilde ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) อีกด้วย

หลังจากนั้น Bloom ก็ได้ศึกษาด้านการแสดงต่อที่ Guildhall School of Music and Drama ในระหว่างเรียนอยู่ที่นั่นเขาได้ตกลงมาจากชั้นดาดฟ้า 3 ชั้น ทำให้หลังของเขาหัก จนหมอสั่งห้ามทำการเคลื่อนไหวหนัก ๆ ไม่งั้นจะเป็นอัมพาตถาวร แต่ถึงแม้เจ้าตัวจะกลัวว่าจะเป็นอัมพาตถาวรก็ตาม เขาก็ยังพักฟื้นตัวและกลับมาแสดงละครเวทีได้อย่างรวดเร็ว

และการกลับมาในครั้งนี้ เหมือนโชคชะตาช่างเป็นใจเหลือเกิน เพราะผู้ชมละครเวทีคืนหนึ่งในปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) นั่นคือผู้กำกับอย่าง Peter Jackson 

หลังจากการแสดงในคืนนั้น Jackson ขอพบกับ Bloom เพื่อถามเขาว่าอยากจะไปออดิชั่นเพื่อรับบทในหนังใหม่ของเขาไหม ซึ่งเรื่องที่ Jackson พูดถึงก็คือ "Lord of the Rings"

แต่แรกเดิมทีบทที่ Bloom ไปออดิชั่นคือ Faramir แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะใจกรรมการได้ แต่เขาถูกมาทาบทามภายหลังให้ไปรับบท Legolas 

Bloom เข้ารับการฝึกฝนมากมายทั้งการใช้มีด, ขี่ม้า, พายเรือ และยิงธนู โดยเขามีทักษะการต่อสู้มาบ้างตอนเรียนอยู่ที่ Guildhall School of Music and Drama เพราะเขาเคยได้รับการชื่นชมอย่างมากกับ stage combat เข้าฉากต่อสู้ในละครเวที

ในระหว่างการถ่ายทำ The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) เขาได้ตกหลังม้าและทำกระดูกซี่โครงหักด้วย 

จากการแสดงของ Bloom ในบทบาท Legolas ทำให้เขาได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Best Ensemble Action บนเวที Sceen Actors Guild Awards ตามมาด้วยการคว้ารางวัล Empire Awards สาขา Best Debut ในปี ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) และรางวัล Breakthrough Male จากเวที MTV Movie Award ในปี ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) และในปีเดียวกันนั้นเขายังได้ถูกเลือกจานิตยสาร Teen People ให้ติด 1 ใน ดาราอายุต่ำกว่า 25 ปีที่ฮอตที่สุดอีกด้วย (25 Hottest Stars Under 25)

เขาใช้เวลา 18 เดือนใน New Zealand เพื่อสวมบทบาท Legolas นอกจากจะเป็นการเดบิวต์การแสดงหนังของ Bloom ที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ ยังส่งให้สาว ๆ กรี๊ดกร๊าด และที่สำคัญมันทำให้กีฬายิงธนูในอังกฤษพุ่งสูงหลังหนังออกฉาย มีเด็กหลายคนดูเขาจากหนังเรื่องนี้และตัดสินใจไปเข้าเรียนการยิงธนูเลยทีเดียว

หลังจากนั้น Bloom ก็ได้ไปปรากฏตัวจนครบไตรภาค ทั้ง The Lord of the Rings: The Two Towers ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), The Lord of the Rings: The Return of the King ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) แถมยังไปปรากฏตัวในภาคย้อนต้นแฟรนไชส์ The Hobbit อย่าง The Hobbit: The Desolation of Smaug ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), The Hobbit: The Battle of the Five Armies ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)

จากชื่อเสียงอันโด่งดังในบทบาท Legolas งานการแสดงก็ไหลมาเทมา จนทำให้ Bloom ได้รับบทในอีก 1 แฟรนไชส์ที่เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน กับบทบาท Will Turner ใน Pirates of the Caribbean: The Curse of the Black Pearl ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) และได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ได้มาปรากฏตัวในอีก 3 ภาค ทั้งใน Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) , Pirates of the Caribbean: At World's End ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Pirates of the Caribbean: Dead Men Tell no Tales ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560)

และนอกเหนือจาก 2 แฟรนไชส์ใหญ่ ยังมีผลงานของ Bloom ให้เห็นอีกมาก ทั้ง Black Hawk Down ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Troy ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Kingdom of Heaven ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), The Good Doctor ค.ศ. 2011(พ.ศ. 2554), The Three Musketeers ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Zulu ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Romeo and Juliet ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), ซีรีส์ Carnival Row ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และบทบาทล่าสุด The Outpost ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

นับว่ายังเป็นนักแสดงที่หลับตาก็ยังนึกถึงและตราตากับทั้งบทบาท Legolas และ Will Turner หวังว่าในอนาคตจะได้เห็นผลงานยักษ์ใหญ่จากชายคนนี้อีก - Orlando Bloom

LIAM HEMSWORTH

Liam Hemsworth เกิดวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) ที่ Melbourne, Victoria ประเทศออสเตรเลีย

Liam เป็นน้องชายคนเล็กของตระกูล Hemsworth (Chris และ Luke) ครอบครัว Hemsworth ส่วนมากอาศัยอยู่ที่ Phillip Island เกาะเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของ Melbourne 

Liam เจริญลอยตามพี่ชายทั้ง 2 ด้วยการมุ่งหน้าเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่วัยรุ่น จนเขาได้ไปออดิชั่นตอนอายุ 16 ปี และได้ไปปรากฏตัวในซีรีส์ในทีวีของออสเตรเลียเรื่อง Home and Away ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) และ McLeod's Daughters ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) ก่อนที่ภายหลังจะได้ไปเล่นละครเรื่อง Neighbours ค.ศ. 2007-2008 (พ.ศ. 2550-2551) ที่ Luke พี่ชายเขาได้ร่วมแสดงด้วย ตามมาด้วยบทบาทในซีรีส์ The Elephant Princess ค.ศ. 2008-2009 (พ.ศ. 2551-2552) และ Satisfaction ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) หลังจากสั่งสมประสบการณ์มาสักพัก เขาก็ได้ตัดสินใจเดินทางไปอเมริกาเพื่อไล่ล่าความฝันในการเป็นนักแสดง

แต่เส้นทางในวงการ Hollywood ไม่สวยหรูและไม่เป็นใจให้กับเขานักในช่วงแรก เพราะเขาต้องทนทุกข์กับความผิดหวังถึง 2 ครั้งเต็ม ๆ ในช่วงเวลา 2 ปี เรื่องแรกตัวละครของเขาถูกตัดบทออกจากหนังเรื่อง The Expendables ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) เพียงหนึ่งวันก่อนเริ่มถ่ายทำ และเขาก็พลาดเสียบทบาท Thor ให้กับพี่ชายตัวเอง Chris ในหนัง Thor ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554)

หลังจากนั้นเขาก็ไปรับบทและแสดงร่วมกับ Miley Cyrus ในเรื่อง The Last Song (2010) จนทำให้เป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่และเริ่มออกเดทกัน จน Liam ได้ไปปรากฏตัวใน MV เพลงของ Cyrus เรื่อง When I Look at You จนได้แต่งงานกันในวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) และหย่ากันในวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

จากความสำเร็จไม่มากนักของหนังที่ Liam เล่น อาชีพการงานเขาก็เริ่มดีขึ้น ชื่อเสียงของเขาก็เริ่มมากขึ้น จนทำให้เขาได้รับโอกาสสำคัญถูกทาบทามให้ไปรับบท Gale Hawthorne ในหนังที่ดัดแปลงจากนิยายขายดีชื่อดัง The Hunger Games ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)

และเมื่อชื่อเสียงของ Liam มากขึ้น ทำให้เขาได้กลับไปรับบทสมทบใน The Expendables 2 ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) ตามมาด้วยบทบาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Love and Honor ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Empire State ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Paranoia ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), The Hunger Games: Mockingjay - Part 1-2 ค.ศ. 2014-2015 (พ.ศ. 2557-2558), Independence Day: Resurgence ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), The Duel ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Isn't It Romantic ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), ซีรีส์ Most Dangerous Game ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563), Arkansas ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และผลงานล่าสุดมินิซีรีส์อย่าง James and the Giant Peach with Taika and Friends ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

เรื่องการแสดงอาจจะไม่ได้มีบทโดดเด่นและมากมายเท่า Chris ผู้เป็นน้อง แต่หน้าตาของเขาหล่อเหลาไม่แพ้กันเลย ในปี ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) เขาเคยติดอันดับ 3 Sexiest Man ของ Glamour ทั้ง ๆ ที่ Chris ติดอันดับ 7 แน่ะ 

14 มกราคม

STEVEN SODERBERGH

Steven Andrew Soderbergh เกิดวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 1963 (พ.ศ. 2506) ที่ Atlanta, Georgia ประเทศอเมริกา

เมื่ออายุได้ 15 ปี Soderberg ก็ได้ลงทะเบียนเรียนในชั้นเรียนอนิเมชันในระดับมหาวิทยาลัย และได้เริ่มสร้างหนังสั้นด้วยอุปกรณ์มือ 2 ต่าง ๆ เท่าที่จะหาได้ หนึ่งในนั้นคือหนังสั้นที่ชื่อว่า Janitor

หลังจากเรียนจบระดับชั้นมัธยมปลาย Soderbergh ก็ได้มุ่งหน้าสู่ Hollywood โดยเขาทำงานเป็นนักตัดต่อฟรีแลนซ์ แต่มันก็เป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น เพราะหลังจากนั้นไม่นานเขาก็กลับบ้านและทำหนังสั้นกับเขียนบทต่อไป

จนกระทั่งโอกาสมาถึง ในช่วงปี ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) เมื่อวงดนตรีร็อคนามว่า Yes ได้ติดต่อให้ Soderbergh ถ่ายทำคอนเสิร์ตสำหรับวงให้หน่อย และมันก็ทำให้เขาได้เข้าชิงรางวัล Grammy สำหรับวิดีโอนั้น Yes: 9012 Live 

หลังจากประสบความสำเร็จกับการทำวิดีโอคอนเสิร์ต เขาก็ได้มีโอกาสถ่ายทำหนังเรื่อง Winston ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) หนังสั้นที่ภายหลังได้ขยายกลายเป็นหนังใหญ่ในชื่อเรื่อง Sex, Lies, and Videotape ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) ซึ่งหนังเรื่องนั้นได้ทำให้เขาคว้ารางวัลปาล์มทองคำจาก Cannes Film Festival, คว้ารางวัล Best Director จาก Independent Spirit Award for Best Director และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์สาขา Best Original Screenplay 

หลังจากนั้นก็มีผลงานของเขาให้เราได้เห็นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Kafka ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534), King of the Hill ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536), Underneath ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) และ Gray's Anatomy ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539), Out of Sight ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) 

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) Soderberghได้ทำหนังสองเรื่องที่นับว่าเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอาชีพการงานของเขา กับเรื่อง Erin Brokovich และ Traffic เพราะทั้งสองเรื่องได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขา Best Pictures และมันยังส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำสาขา Best Director ทั้ง 2 เรื่อง และสามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขา Best Director จากเรื่อง Traffic ไปได้ 

ตามมาด้วยผลงานอย่าง Ocean's Eleven ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), ซีรีส์ K Street ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Ocean's Twelve ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Ocean's Thirteen ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Che: Part One-Part Two ค.ศ. 2008-2009 (พ.ศ. 2551-2552), Contagion ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Magic Mike ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), ซีรีส์ The Knich ค.ศ. 2014-2015 (พ.ศ. 2557-2558), Logan Lucky ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), ซีรีส์ Mosaic ค.ศ. 2017-2018 (พ.ศ. 2560-2561), High Flying Bird ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Let Them All Talk ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) 

กับเรื่อง Contagion ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) ที่ตอนแรกมันก็เป็นแค่หนังโรคระบาดธรรมดา ๆ เนี่ยแหละ แต่พอมีสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ในปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ทำให้หนังเรื่องนี้กลับมาฮิตติดชาร์ตอีกครั้ง เพราะหลาย ๆ อย่างมันช่างละม้ายคล้ายกับหนังเรื่องนี้ไม่ใช่เล่น ตอนแรกหนังเรื่องนี้อยู่อันดับ 270 ของค่ายอย่าง Warner Bros. ในตอนธันวาคม ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และตอนต้นปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) หนังเรื่องนี้ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2 เป็นรองเพียงแค่ Harry Potter เท่านั้น ที่มันสมจริงก็เพราะว่าหนังเรื่องนี้ได้มีการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจริง ๆ และในอนาคต Sorderbergh มีแผนจะสร้างโปรเจคที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อีกด้วย

JASON BATEMAN

Jason Kent Bateman เกิดวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) ที่ Rye, New York ประเทศอเมริกา

ในปี ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524) ตอนอายุได้ 12 ปี Bateman ได้เดบิวต์เล่นซีรีส์ทางทีวีในบท James Cooper Ingalls เรื่อง Little House on the Prairie ค.ศ. 1981-1982 (พ.ศ. 2524-2525) ตามมาด้วยซีรีส์อย่าง Silver Spoons ค.ศ. 1982-1984 (พ.ศ. 2525-2527) ซึ่งในระหว่างนั้นเจ้าตัวก็ได้แสดงหนังทางทีวีด้วย กับเรื่อง Just a Little More Love ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) และ The Fantastic World of D.C. Collins ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) เขายังเคยได้ไปร่วมแสดงใน Knight Rider ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) กับ David Hasselhoff ด้วย

ในช่วงกลางปี ค.ศ. 1980s (พ.ศ. 2523-2532) เขาได้กลายมาเป็นผู้กำกับที่เด็กที่สุดของ DGA กับการกำกับ 3 ตอนของซีรีส์ Valerie ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) แถมยังได้แสดงด้วย ณ ตอนนั้นเขามีอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น 

ช่วงปี 2000s ถือว่าเป็นช่วงที่ผลงานของเขาออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น The Sweetest Thing ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), Starsky & Hutch ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Dodgeball: A True Underdog Story ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), อนิเมชันซีรีส์ The Simpsons ค.ศ. 2005-2020 (พ.ศ. 2548-2563), The Break-Up ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), ซีรีส์ The Jake Effect ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), The Kingdom ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Jono ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Hancock ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Tropic Thunder ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Up in the Air ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) 

และฝากผลงานการแสดงอันยอดเยี่ยมเอาไว้ในซีรีส์ Arrested Development ค.ศ. 2003-2019 (พ.ศ. 2546-2562) ที่คว้ารางวัลลูกโลกทองคำ 1 ครั้ง และเข้าชิงอีก 1 ครั้ง กับสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในซีรีส์ประเภทตลกหรือเพลง

หลังจากนั้นก็มีผลงานการแสดงของ Bateman อีกเรื่อย ๆ ทั้ง Horrible Bosses ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Hit and Run ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Horrible Bosses 2 ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Zootopia ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Central Intelligence ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Office Christmas Party ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Game Night ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), ซีรีส์ The Outsider ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และ Ozark ค.ศ. 2017-2020 (พ.ศ. 2560-2563) ที่เจ้าตัวทั้งกำกับและแสดงด้วย ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีก 2 ครั้งสาขานักแสดงนำชาย และคว้ารางวัล Primetime Emmy Awards อีก 1 ครั้งในสาขา Outstanding Directing for a Drama Series พร้อมด้วยการเข้าชิงอีกหลายครั้งในฐานะนักแสดงและผู้กำกับ

Bateman มีชีวิตส่วนตัวที่มีความสุข เขามีภรรยาที่ดี Amanda Anka แต่งงานตั้งแต่วันที่ 3 กรกฏาคม ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2545) และมีลูกด้วยกัน 2 คน ครองรักมาจนถึงปัจจุบัน 

16 มกราคม

JOHN CARPENTER

John Howard Carpenter เกิดวันที่ 16 มกราคม ค.ศ. 1948 (พ.ศ. 2491) ที่ Carthage, New York ประเทศอเมริกา

Carpenter เข้าเรียนที่ Western Kentucky University และหลังจากนั้นก็ไปเรียนด้านการทำหนังที่ USC film school ใน Los Angeles 

Carpenter เริ่มต้นทำหนังสั้นในช่วงปี ค.ศ. 1962 (พ.ศ. 2505) จนหนังเรื่องนั้นคว้ารางวัลออสการ์สาขา Best Live-Action Short Subject ในปี ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513) กับเรื่อง The Resurrection of Broncho Billy

ในช่วงกลางปี ค.ศ. 1970s (พ.ศ. 2513-2522) Carpenter ก็ได้ฟอร์มวงดนตรีขึ้นมาในชื่อว่า The Coupe de Villes ที่ในวงประกอบไปด้วยผู้กำกับอย่าง Tommy Lee Wallace และ Nick Castle

และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Carpenter ก็สร้างชื่อทั้งในฐานะผู้กำกับ, คนเขียนบท, อำนวยการสร้าง และนักประพันธ์เพลงให้วงการหนังอย่างมากมาย เริ่มสร้างความสนใจให้วงการนี้กับเรื่อง Dark Star ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517)

Carpenter คือคนที่คลั่งไคล้ในการสร้างหนังสยองขวัญในวงการบ้างก็เรียกเขาว่า Master of Horror หรือ Prince of Darkness เขาคือผู้สร้างผลงานขึ้นหิ้งของหนังแนว Slasher ที่ปลุกกระแสหนังแนวนี้ให้กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง และกลายเป็นไอค่อนจวบจนทุกวันนี้กับตัวละครหน้ากากขาว Michael Myers จากเรื่อง Halloween ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521)

ในเรื่อง Halloween นั้นเป็นหนังที่ถือว่าทุนต่ำมาก ใช้ไปเพียง 325,000 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น (ประมาณ 10 ล้านบาท) เท่านั้น แต่มันกลับทำรายได้ทั่วทั้งโลกไปถึง 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,119 ล้านบาท) นับว่าเป็นหลายเท่าตัวเลยทีเดียว และนั่นทำให้ตัวละครอย่าง Michael Myers กลายมาเป็นไอค่อนของหนังแนวนี้ไปโดยปริยาย และถูกทำออกมาหลายต่อหลายภาค รวมถึงการรีบูทด้วย

นอกเหนือจากเรื่องนั้นแล้ว เจ้าตัวยังมีผลงานสร้างชื่อมากมายไม่ว่าจะเป็น The Fog ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523), Escape from New York ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524), The Thing ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525), Starman ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527)

และแน่นอนว่าเขามีส่วนร่วมกับแฟรนไชส์ Halloween ทุกภาค รวมถึงในไตรภาคใหม่ที่เขารับหน้าที่ประพันธ์เพลง, อำนวยการสร้างให้ด้วยใน Halloween ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Halloween Kills ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) และ Halloween Ends ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

17 มกราคม

JIM CARREY

หากพูดถึงนักแสดงตลก และเรียกเสียงหัวเราะให้คนดูได้ด้วยท่าทางการแสดงแบบเวอร์ ๆ ความยืดหยุ่นของร่างกาย การเล่นใหญ่จัดเต็ม แน่นอนว่า Jim Carrey น่าจะเป็นชื่อแรก ๆ ที่หลายคนนึงถึง

James Eugene Carrey เกิดวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1962 (พ.ศ. 2505) ที่ Newmarket, Ontario, Canada ได้สัญชาติคนอเมริกาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547)

Carrey เป็นคน Extrovert มาก ๆ คนนึงตั้งแต่เกิด เขามักจะแสดงให้คนอื่น ๆ ดูเสมอ และเขาก็ส่งการแสดงของเขาไปให้รายการ The Carol Burnett Show ดู ตั้งแต่เขาอายุเพียง 10 ขวบ เท่านั้น ตอนมัธยมต้น เขาก็มักจะใช้เวลาหลังเลิกเรียนแสดงตลกให้เพื่อน ๆ ร่วมชั้นดูอีกด้วย

แต่ชีวิตของเขาค่อนข้างจะน่าเศร้า เพราะขอบครัวของเขาถูกบังคับให้ย้ายออกจากบ้านเกิดไปยัง Scarborough ทำให้ครอบครัวต้องไปทำงานในโรงงาน และตัวของ Carrey เองก็ต้องไปทำงานหลังเลิกเรียนต่ออีก 8 ชม. ซึ่งมันทำให้ผลการเรียนของเขาไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ พวกเขาไม่มีแม้กระทั่งบ้าน ต้องอาศัยแคมป์ตามที่จอดรถตู้

แต่ภายหลังพวกเขาก็ได้ย้ายมาที่ Toronto เป็นที่ซึ่ง Carrey ได้แจ้งเกิดกับการแสดง Stand-Up Comedy

ในปี ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) เขาก็ได้ย้ายมาอยู่ที่ LA และได้แสดงใน The Comedy Store จนไปเตะตา สร้างความประทับใจอย่างมากให้กับ Rodney Dangerfield นักแสดงตลกขึ้นชื่อ และเขาได้เซ็นสัญญา Carrey ให้มาแสดงที่นี่ตลอดฤดูกาลเลยทีเดียว

เขาเริ่มผันตัวเองจากการแสดงบนเวทีไปสู่การแสดงในจอทีเดียวซิทคอมเรื่อง The Duck Factory ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) แต่ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่ แต่นั่นก็เป็นการให้ประสบการณ์อะไรหลายๆ อย่างแก่ตัวของ Carrey และทำให้เขามีความมั่นใจในการแสดงมากขึ้น

จนกระทั่งเขาได้แสดงหนังเรื่องแรกในชีวิต Once Bitten ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528), ตามมาด้วย Peggy Sue Got Married ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529), Earth Girls Are Easy ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) และได้ไปปรากฏตัวในรายการ In Living Color ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) นั่นจึงทำให้ชื่อของ Carrey ก้าวกระโดดเป็นอย่างมาก หลายๆ คนเริ่มรู้จักนักแสดงตลกรายนี้มากขึ้น

และต่อมาเขาก็ได้แจ้งเกิดเต็มตัวในหนังเรื่อง Ace Ventura: Pet Detective ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) เขาได้สร้างเสียงหัวเราะให้กับคนทั่วโลก และการแสดงของเขาในเรื่องนี้ก็ได้กลายเป็นเหมือนเอกลักษณ์ประจำตัวของเขาไปแล้ว

หลังจากนั้นชีวิตของเขาก็สวยหรูมาก ๆ ได้ไปแสดงในเรื่อง The Mask ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) และในเรื่องนี้ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมประเภทตลกหรือเพลงอีกด้วย

และแน่นอนว่าหลังจากนั้นงานก็ถาโถมเข้ามาเป็นกอบเป็นกำ หนังตลกหลาย ๆ เรื่องต่างยื่นเสนอมาให้เขาแสดง ไม่ว่าจะเป็น Dumb and Dumber ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537), หรือแม้กระทั่งบท The Riddler ใน Batman Forever ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538), Ace Ventura: When Nature Calls ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538), The Cable Guy ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539), Liar Liar ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) และอื่น ๆ อีกมากมาย

เจ้าตัวเคยพลิกบทบาทครั้งใหญ่มาก ๆ จากความตลกขบขัน ไปสู่ความซีเรียสจริงจังกับบท Tadek ในเรื่อง True Crimes ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559)

แต่ถึงจะเห็นเขาเป็นดาราตลกแต่ก็เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำมาหลายครั้ง รวมถึงเคยคว้ามาด้วย 2 ครั้ง

[WINNER]

- The Truman Show ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541)

- Man on the Moon ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542)

[NOMINEE]

- Tha Mask ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537)

- Liar Liar ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540)

- How to Grinch Stole Christmas ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543)

- Eternal Shunshine of the Spotless Mind ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547)

- Kidding ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561)

เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยผ่านผลงานการแสดงของเขามาไม่มากก็น้อย และถ้าพูดถึงชื่อเขา Jim Carrey หลายๆ คนก็คงมีภาพการแสดงของแวปขึ้นมาบ้างแน่นอน

18 มกราคม

DAVE BAUTISTA

David Michael Bautista Jr. เกิดวันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) ที่ Washington D.C. ประเทศอเมริกา

จุดเริ่มต้นในวงการบันเทิงของ Bautista คือการเป็นนักมวยปล้ำ เริ่มต้นกับสมาคม WXW ในชื่อว่า Kahn ก่อนจะย้ายไป WWF/E, OVW และพอในปี ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) ก็ได้มาเซ็นสัญญาอยู่กับค่าย WWE ทางฝั่ง SmackDown และภายหลังก็ย้ายมาอยู่ RAW โดยใช้ชื่อว่า Batista ฉายา "The Animal" 

Bautista ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองอย่างมากในฐานะนักมวยปล้ำ เป็นที่ชื่นชอบของทั้งประธานและแฟน ๆ ด้วยการปล้ำที่ดุดัน แข็งแกร่ง ร่วมทีม/ปะทะกับดาราดังของค่ายและคว้าแชมป์มากมาย

ในระหว่างที่ยังเป็นนักมวยปล้ำ Bautista ก็ได้แวะมาแสดงบ้างเล็กน้อย เริ่มต้นจากการปรากฏตัวในซีรีส์ Smallville ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) กับบทบาท Aldar, Chuck ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) กับบทบาท T.I.

การแสดงหนังครั้งแรกเต็มตัวของเขาคือหนังแอ็คชันในเรื่อง Wrong Side of Town ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) และในปีต่อมาก็ได้แสดงในหนังแอ็คชันอีกกับ House of the Rising Sun ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) แต่ทั้งสองเรื่องคำวิจารณ์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ตามมาด้วยผลงานอย่าง The Scorpion King 3: Battle for Redemption ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), The Man with the Iron Fists ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) และได้มาแสดงร่วมกับดาราบิ๊กเนมอย่าง Vin Diesel ใน Riddick ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556)

ซึ่งในปี ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) ทาง Bautista ก็ได้ประกาศลาออกจากวงการมวยปล้ำไปช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่เขาก็กลับมาในช่วงปี ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) แต่ก็ออกไปอีก เนื่องจากเขาต้องไปโปรโมทหนังที่เปลี่ยนชีวิตของเขาในฐานะนักแสดง กับเรื่อง Guardians of the Galaxy Vol. 1 ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) กับบทบาท Drax ที่มันได้กลายมาเป็นหนึ่งตัวละครสำคัญและโลดแล่นในจักรวาล MCU อย่างต่อเนื่องใน Guardians of the Galaxy Vol. 2 ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Avengers: Infinity War ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Avengers: Endgame ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และในอนาคตยังมีบทบาทของเขาอีกกับ Guardians of the Galaxy Vol. 3 ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566)

ระหว่างนั้น Bautista ก็มีผลงานทางการแสดงอีกมากมายหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Spectre ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Heist ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Kickboxer: Vengeance ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), The Warriors Gate ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Bushwick ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Blade Runner 2049 ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Hotel Artemis ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Escape Plan 2: Hades ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Final Score ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Master Z: Ip Man Legacy ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Stuber ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Escape Plan: The Extractors ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), My Spy ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563), ซีรีส์ Room 104 ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) 

ช่วงหลังเราก็ได้เห็น ทั้งหนังปล้นที่มีซอมบี้ของ Zack Snyder ที่มีกำหนดฉายทาง Netflix เรื่อง Army of the Dead ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), หนังแอ็คชันฟอร์มยักษ์จาก Warner Bros. Pictures อย่าง Dune ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Knives Out 2 ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

ในปี ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) Bautista ได้กลับมาปรากฏตัวใน SmackDown ครบรอบตอนที่ 1000 และสร้างภาพจำความดุดันเอาไว้เช่นเคย จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) เจ้าตัวก็ได้ประกาศรีไทร์อำลาสังเวียนอย่างเป็นทางการ และเจ้าตัวก็ได้รับการประกาศให้เข้าสู่หอเกียรติยศ WWE Hall of Fame ประจำปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และยังคงโลดแล่นในฐานะนักแสดงวงการ Hollywood ต่อไป

24 มกราคม

SHARON TATE

Sharon Marie Tate เกิดวันที่ 24 มกราคม ค.ศ. 1943 (พ.ศ. 2486) ที่ Dallas, Texas ประเทศอเมริกา

Tate เป็นเด็กน่ารักตั้งแต่เกิด เธอชนะการประกวดความสวยงามมากมายก่อนจะครบรอบวันเกิดของเธอในปีแรกของชีวิตเสียอีก เธอเป็นเด็กที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และงดงาม เธอถูกโหวตให้เป็น Homecoming Queen ในตอนมัธยมปลาย ซึ่งมันเปรียบเสมือนใบเบิกทางให้เธอได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งการแสดงอย่างรวดเร็ว 

และหลังจากที่เธอได้แสดงเป็นตัวประกอบในหนังอิตาลี เธอก็ได้มุ่งหน้ามาสู่ Hollywood และแสดงเป็นตัวประกอบอีกบ้าง รวมถึงถ่ายโฆษณา และถ่ายแบบอีกมากมาย

และโอกาสใหญ่ในการแสดงก็มาถึง เพราะเธอได้เซ็นสัญญา 7 ปี ในฐานะนักแสดงอาชีพ กับซีรีส์เรื่อง The Beverly Hillbillies ค.ศ. 1963-1965 (พ.ศ. 2506-2508)

ในปี ค.ศ. 1967 (พ.ศ. 2510) เธอก็ได้พบกับว่าที่สามีในอนาคตอย่าง Roman Polanski ในกองถ่ายหนังที่อังกฤษเรื่อง Dance of the Vampires และในปีเดียวกันนั้นเธอก็ยังได้รับบทใหญ่ในเรื่อง Valley of the Dolls

จนกระทั่งในเดือนมกราคม ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2511) ที่อังกฤษ ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปตลอดการ เพราะเธอได้ตกลงปลงใจแต่งงานกับ Polanski ทำให้เธอได้ออกไปปาร์ตี้, เดินทาง, เจอคนดังมากมายที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน

และด้วยความสามารถทางการแสดง บวกกับใบหน้าและรูปร่างอันสวยสดงดงาม ทำให้เธอมีผลงานตามมาอีก ทั้ง The Wrecking Crew ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2511)

ตามมาด้วยผลงานอย่าง 12+1 ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) ที่ในตอนถ่ายทำหนังเรื่องนี้ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) ที่อิตาลีและฝรั่งเศส เธอกำลังท้องอยู่ 2 เดือน โดยที่หารู้ไม่ว่านี่คือผลงานสุดท้ายในชีวิตของเธอ

และเรื่องเลวร้ายก็เกิดขึ้นในวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512)....เธอโดนฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม...เป็นเรื่องสุดอัปยศแห่งยุครุ่งเรืองของ Hollywood 

ซึ่งเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเนื่องจาก Charles Manson และสาวก จะไปอัดเทป และโปรดิวเซอร์รายหนึ่งไม่ยอม จึงทำให้พวกเขาไม่พอใจ เลยวางแผนจะลงมือจะฆาตกรรมโปรดิวเซอร์รายนั้น

แต่บังเอิญโปรดิวเซอร์คนนั้นย้ายออกไปแล้วและคนที่มาเช่าต่อคือ Roman Polanski และภรรยาของเขา Sharon Tate นั่นเอง

โดยวันคืนวันที่เกิดเหตุตัวของ Roman ไม่อยู่ เหล่าสาวกจึงบุกเข้ามาและได้ฆ่าคนในบ้านทิ้งทั้งหมดเพราะนึกว่าเป็นญาติของโปรดิวเซอร์รายนั้น

คนในบ้านได้แก่ Abigail Folger, Jay Sebring, Steve Parent, Voytek Frykowski และ Sharon Tate โดนฆาตกรรมอย่างเลือดเย็นโดยฝีมือของสาวก Charles Manson 3 คน ได้แก่ Charles Watson, Susan Atkins, Patricia Krenwinkel และแน่นอนว่าหลังจากฆาตกรทั้งหมดถูกจับ พวกเขาไม่มีทีท่าจะรู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย แถมยังยิ้มอย่างร่าเริงอีกต่างหาก

Sharon Tate ในขณะนั้นเธอมีอายุเพียง 26 ปีเท่านั้น แถมเธอยังกำลังตั้งท้องอยู่ 8 เดือน และโดนแทงถึง 16 แผล อย่างเลือดเย็น เธอโดนการกระทำทารุณที่ยากเกินอธิบาย เท่านั้นยังไม่พอเหล่าสาวกยังใช้เลือดของเธอ เขียนที่หน้าประตูบ้านว่า PIG อีกด้วย

จนเรื่องราวนี้นำไปสู่การสร้างหนังลำดับที่ 9 ของ Quentin Tarantino ในเรื่อง Once Upon a Time in...Hollywood ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) กับเรื่องราวของนักแสดงที่กำลังหมดยุคที่บังเอิญมีบ้านอยู่ติดกับ Roman Polanski

ซึ่งตัวหนังทำได้ดีตามแบบฉบับ Quentin เพลิดเพลินมาก มันเหมือนกับการหลุดเข้าไปอยู่ใน Hollywood ยุคนั้น เหมือนเป็นการถ่ายทอดสิ่งที่ Quentin รักออกมาให้เราได้ดู และแน่นอนจุดด่างพร้อยเดียวของ Hollywood ยุคนั้น คือคดีฆาตกรรม Sharon Tate และ Quentin ก็รู้สึกเจ็บปวดเหมือนทุกคน และแสดงออกในแบบที่เขาถนัดจัดการลบมันออกแบบเอาเรื่องสุด ๆ สไตล์ Quentin ทำให้เหล่าพวกสาวก Manson กลายเป็นตัวตลก แล้วโดน Cliff Booth ยำซะเละแบบโคตรสะใจ แถมหนึ่งในนั้นยังโดน Rick Dalton เผาซะเกรียม และองค์นี้ของหนังยอดเยี่ยมที่สุดแล้วจริง ๆ

Sharon Tate คือนักแสดงสาวสุดสวย มีเสน่ห์ ที่ใครต่อใครต่างก็หลงรัก เธอไม่ได้ทำอะไรผิด เธอแค่บังเอิญซวย อยู่ผิดที่ ผิดเวลาเท่านั้น...

28 มกราคม

FRANK DARABONT

Frank Arpad Darabont เกิดวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 1959 (พ.ศ. 2502) ที่ Montbéliard, Doubs ประเทศฝรั่งเศส ในค่ายผู้ลี้ภัย เขามีพ่อแม่เป็นชาวฮังการี ที่หลบหนีจากบูดาเปสต์ในช่วงการปฏิวัติฮังการีที่ล้มเหลวในช่วงปี ค.ศ. 1956 (พ.ศ. 2499)

ไม่นาน Darabont ก็ย้ายมายังอเมริกาตั้งแต่ยังเป็นทารก อาศัยอยู่กับครอบครัวที่ Los Angeles เข้าเรียนที่โรงเรียน Hollywood High School 

งานแรกในการทำหนังของ Darabont เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524) กับหนังทุนต่ำเรื่อง Hell Night แสดงนำโดย Linda Blair

Darabont ใช้เวลา 6 ปีทำงานด้านการตกแต่งและสร้างฉาก ในขณะเดียวกันเขาก็ดิ้นรนเพื่อสร้างชื่อให้ตัวเองในฐานะนักเขียนด้วย

งานเขียนแรกของเขาที่ได้ร่วมเขียนบทหนังเรื่องนี้ เริ่มต้นในปี ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) กับหนังเรื่อง A Nightmare on Elm Street 3: Dream Warriors กำกับโดย Chuck Russell 

Darabont คือหนึ่งในผู้กำกับเพียง 6 คนในประวัติศาสตร์ที่ทำหนังสองเรื่องแรกได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขา Best Picture 

เรื่องแรก - The Shawshank Redemption ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537)
- หนังอันดับ 1 บนเว็บวิจารณ์หนังชื่อดัง IMDb ตัวหนังเข้าชิงออสการ์ 7 สาขา และ เข้าชิงลูกโลกทองคำอีก 2 สาขา 

เรื่องสอง - The Green Mile ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542)
- เข้าชิงออสการ์ 4 สาขา และเข้าชิงลูกโลกทองคำอีก 1 สาขา

และทั้งสองเรื่องนั้นนับได้ว่าเป็นตำนานเลยทีเดียว เป็นหนังที่ทำให้ใครต่อใครหลายคนต้องเสียน้ำตา เรียกได้ว่าเป็นหนังที่ควรหามาดูก่อนตายจริง ๆ 

นอกเหนือจากนั้น Darabont ยังมีผลงานเลื่องชื่อและน่าจดจำอีกไม่แพ้กัน ทั้งหนังหักมุม จุกอก ชวนอึ้งที่สุดเรื่องนึงกับเรื่องราวของสัตว์ประหลาดที่แฝงตัวอยู่ในหมอกที่ปกคลุมทั้งเมืองอย่าง The Mist ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), เรื่องราวเปิดซีรีส์ซอมบี้ชื่อดัง The Walking Dead - Day Gone Bye ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) และยังเขียนบทซีรีส์นี้อีกมากมายหลายตอน
.
ทั้งหมดนี่คือผลงานการกำกับและเขียนบทของชายยอดฝีมือที่ชื่อ Frank Darabont

ELIJAH WOOD

Elijah Jordan Wood เกิดวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524) ที่ Cedar Rapids, Iowa ประเทศอเมริกา 

เขาคือนักแสดงที่หลายคนรู้จักกันดีจากบทบาท Frodo Baggins ในหนังไตรภาค Lord of the Rings ของ Peter Jackson

ตัวของ Elijah แสดงความสามารถในด้านการแสดงให้เห็นตั้งแต่ยังเด็ก จนทำให้แม่ของเขาลองพาไปที่ International Modeling and Talent Association ศูนย์ฝึกอบรมความสามารถทางด้านนายแบบ นักแสดง เต้น ร้องเพลง จนกระทั่งตัวเขาได้รับบทบาทเล็ก ๆ ในซีรีส์ทางทีวี

เขาได้รับเครดิตครั้งแรกจากบทเล็ก ๆ ในหนังเรื่อง Back to the Future Part II ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532)

หลังจากนั้นเขาก็ได้แสดงนำครั้งแรกเต็มตัวในหนังเรื่อง Avalon ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) กับบทบาท Barry Levinson

ซึ่งการแสดงของเขาในเรื่องนั้น ทำให้เขาเป็นดาราเด็กที่หลาย ๆ เรื่องต้องการตัวเขาไปแสดง เขาก็ได้รับบทอีกมากมายเช่นในเรื่อง Paradise ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534), Radio Flyer ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) และ The Good Son ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) ที่แสดงร่วมกับดาราเด็กชื่อดังอีกคน Macaulay Culkin

ในปี ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) เขาได้แสดงนำในหนังรีเมคจากซีรีส์เก่าเรื่อง Flipper และผลคือเขาได้รับเสียงชื่นชมมากมาย ตามมาด้วยหนังชื่อดังขึ้นเรื่อยๆ ทั้ง The Ice Storm ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540), Deep Impact ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) และ The Faculty ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541)

แต่ในปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) เขาก็ได้แสดงหนังอีกสามเรื่อง แต่ก็ไม่ได้ถูกปล่อยฉายไปทั่วโลก อย่าง The Bumblebee Flies Anyway ฉายทาง TV ดาวเทียม, Black and White ฉายเป็นวิดีโอ และ Chain of Fools ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543)

จนกระทั่งเจ้าตัวได้มารับบทที่สร้างชื่อและทำให้หลายคนรู้จักเขา โดยเขาได้ร่วมงานกับผู้กำกับ Peter Jackson จากผลงานดัดแปลนวนิยายชื่อดังของ J.R.R. Tolkien เรื่อง The Lord of the Rings ทั้ง 3 ภาค The Fellowship of the Ring ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), The Two Towers ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), The Return of the King ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546)

หลังจากนั้นเขาก็เล่นหนังและให้เสียงพากย์อีกหลายเรื่อง ทั้ง Eternal Sunshine of the Spotless Mind ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Sin City ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) ผลงานการพากย์เสียงกับ Happy Feet ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), 9 ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) รวมถึงผลงานทางทีวีทั้ง American Dad! ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Robot Chicken ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548)

หลาย ๆ ปี ก็มีผลงานของเขาทยอยออกมาเรื่อย ๆ ทั้งในด้านงานพากย์หรือแสดงก็ตาม ทั้ง Happy Feet Two ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) กลับมารับบท Frodo ใน The Hobbit ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Cooties ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), The Last Witch Hunter ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), ให้เสียงพากย์ใน Star Wars: Resistance ค.ศ. 2018-2020 (พ.ศ. 2561-2563) กับบทบาท Jace Rucklin

และถึงแม้เจ้าตัวจะไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างเหมือนช่วง Frodo แต่เขาก็มีการแสดงที่ไม่ธรรมดา เป็นนักแสดงที่น่าจดจำคนหนึ่งแห่งวงการ Hollywood และในอนาคตยังมีผลงานของเขาให้เราได้ติดตามกันอีก กับ No Man of God และ L.A. Rush

30 มกราคม

OLIVIA COLMAN

Sarah Caroline Olivia Colman เกิดวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517) ที่ Norwich, Norfolk ประเทศอังกฤษ

จุดเริ่มต้นการแสดงของ Colman มาจากบทบาทในซีรีส์ Bruiser ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) และเธอก็ทำได้ดีจนได้รับเสียงชื่นชมมากมาย และมันก็ตามมาด้วยซีรีส์อีกมากมายหลายเรื่อง

Colman เริ่มมีชื่อเสียงมาจากซีรีส์เรื่อง Peep Show ค.ศ. 2003-2015 (พ.ศ. 2546-2558) จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) Colman ก็ได้แสดงหนังครั้งแรกในเรื่อง Zemanovaload ตามมาด้วย Buried Alive ในปีเดียวกัน

หลังจากนั้นเราชื่อเสียงของเธอก็เพิ่มมากขึ้นตามบทบาทที่เธอได้รับ ได้เห็นผลงานของเธออีกมากมาย ทั้งในหนังและซีรีส์ ไม่ว่าจะเป็น ซีรีส์ Green Wing ค.ศ. 2004-2006 (พ.ศ. 2547-2549), Hot Fuzz ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Beautiful People ค.ศ. 2008-2009 (พ.ศ. 2551-2552), Tyrannosaur ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), The Iron Lady ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), The Lobster ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Murder on the Orient Express ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), ซีรีส์ Flowers ค.ศ. 2016-2018 (พ.ศ. 2559-2561), The Night Manager ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), The Favourite ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), ซีรีส์ Fleabag ค.ศ. 2016-2019 (พ.ศ. 2559-2562), The Father ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563), ซีรีส์ The Crown ค.ศ. 2019-2020 (พ.ศ. 2562-2563)

บนเวทีรางวัลเธอก็ถือว่าทำผลงานได้ดี เคยคว้า 1 รางวัลออสการ์จาก The Favourite ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) และคว้า 3 รางวัลลูกโลกทองคำ จาก The Night Manager ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), The Favourite ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), The Crown ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

และยังมีผลงานให้เราได้ติดตามกันอีก ไม่ว่าจะเป็น The Mitchells vs. the Machines (2021), The Lost Daughter (2021), Mothering Sunday (2021), มินิซีรีส์ Landscapers (2021)

CHRISTIAN BALE

Christian Charles Philip Bale เกิดวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517) ที่ Haverfordwest, Pembrokeshire, Wales ประเทศอังกฤษ 

การแสดงครั้งแรกของเขามาจากการโฆษณาซีเรียลในปี ค.ศ. 1983  (พ.ศ. 2526) และปีต่อมาเขาได้แสดงละครเวทีเรื่อง The Nerd

ในปี ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) เขาได้เล่นซีรีส์กับทาง NBC เรื่อง Anatasia: The Mystery of Anna มันไปเตะตาพ่อมดแห่งวงการ Hollywood อย่าง Steven Spielberg จนเขาได้รับบทในเรื่อง Empire of the Sun ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) และการแสดงอันยอดเยี่ยมเรื่องนั้น ส่งผลให้เขาได้รับรางวัลจากเวที National Board of Review อีกด้วย

หลังจากนั้นเจ้าตัวก็มีชื่อเสียงในระดับนึง แต่ชื่อเสียงแหละการได้รับความสนใจมากขนาดนั้น ทำให้ตัวเขาคิดเกือบจะเลิกอาชีพการแสดงซะแล้ว เพราะมันไม่มีความเป็นส่วนตัวเอาเสียเลย แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังรับบทงานแสดงเรื่อยมา ทั้ง Henry V ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532), Treasure Island ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533), Newsies ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), Swing Kids ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536), Little Women ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537), The Portrait of a Lady ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539), The Secret Agent ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539), Metroland ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540), Velvet Goldmine ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541), All the Little Animals ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541), A Midsummer Night’s Dream ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) และช่วงทศวรรษนั่น Bale ได้ค้นพบว่าตัวเองยิ่งโด่งดังเข้าไปอีก ในยุคที่อินเทอร์เน็ตเริ่มเข้ามามีบทบาทในสังคม เขากลายเป็นคนดังในโลกออนไลน์ไปเลย

Bale รุ่งสุด ๆ สร้างชื่ออีกครั้งกับหนังเรื่อง American Psycho ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ตามมาด้วย Shaft ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543), Captain Corelli’s Mandolin ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Laurel Canyon ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), Reign of Fire ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), Equilibrium ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) และ The Machinist ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) ซึ่งเรื่องหลังนี้ทำให้ทั้งโลกต่างตกตะลึงเพราะในเรื่องนี้เขาลดน้ำหนักตัวเองลงมาจนเห็นกระดูกเหลือเพียง 55 กิโลกรัมเท่านั้น และมันส่งผลต่อสุขภาพเขามาก ๆ เขาทรมานจากการนอนไม่หลับเป็นปี

ที่น่าเหลือเชื่อคือจาก 55 กิโลกรัมในปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) กับเรื่อง The Machinist นั้น เขากลับมาปั้มหุ่นตัวเองไป 86 กิโลกรัมเพื่อมารับบท Bruce Wayne (Batman) ในปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) ของ Christopher Nolan 

แน่นอนว่าเขาได้รับเล่นหนังอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อย ๆ ทุกปีต้องมีผลงานของเขาให้เห็นสักเรื่อง Rescue Dawn ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), The Prestige ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), I’m Not There ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) กลับมารับบท The Dark Knight ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Terminator Salvation ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), Public Enemies ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), The Fighter ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), The Flowers of War ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) กลับมาปิดไตรภาค Batman ใน The Dark Knight Rises ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Out of the Furnace ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), American Hustle ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) แน่นอนว่าระหว่างนั้นน้ำหนักเขาขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ตลอด

2000
~ 81 kg - American Psycho

2002
~ 83 kg - Reign of Fire 
~ 81 kg - Equilibrium

2004
~ 55 kg - The Machinist

2005
~ 86 kg - Batman Begins

2006
~ 61 kg - Rescue Dawn
~ 80 kg - The PRestige

2008
~ 86 kg - The Dark Knight

2010
~ 66 kg - The Fighter

2012
~ 90 - The Dark Knight Rises

2013
~ 100 - American Hustle

2015
~ 90 - The Big Short

2018
~ 108 - Vice

2019
~ 75 - Ford v Ferrari

ล่าสุดเจ้าตัวได้บอกเกี่ยวกับการลดน้ำหนักเพื่อเล่นหนังเรื่องต่าง ๆ เอาไว้ว่า “ผมพอแล้ว” หลายคนคงจะเข้าใจได้ดีจากการทุ่มเทบทบาทของเขาขนาดนั้น เพราะน้ำหนักจริง ๆ เขาประมาณ 84 กิโลกรัม แต่บางเรื่อง 55-70 นี่ก็ถือว่าเกินมนุษย์มากพอแล้ว เป็นเรื่องที่ว้าวมาก แต่ตัว Christian Bale เองคงจะไม่แฮปปี้สักเท่าไหร่ เพราะเขาประสบปัญหามากมายเหลือเกินในการลดน้ำหนักไป ๆ มา ๆ แบบนี้ จนเขาบอกเอาไว้ว่า

ผมพูดอยู่เสมอว่าผมพอแล้ว ผมคิดจริง ๆ ว่าผมพอแล้วหล่ะ

เขาคือนักแสดงที่ทุ่มสุดตัวทุกบทบาท ทุกการแสดง ไม่ใช่เพียงแต่การแสดงเท่านั้น เขายังอินกับคาแรคเตอร์ลดน้ำหนักเพื่อให้เหมาะสมกับบทบาทที่เขาได้รับมากที่สุด 

Bale เคยคว้ารางวัลออสการ์ 1 ครั้ง จากเรื่อง The Fighter ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) และเข้าชิงอีก 3 ครั้งจาก American Hustle ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), The Big Short ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) และ Vice ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561)

คว้าลูกโลกทองคำอีก 2 ครั้งจาก The Fighter ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) และ Vice ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) เข้าชิงอีก 3 ครั้งจาก American Hustle ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), The Big Short ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) และ Ford v Ferrari ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

Thor: Love and Thunder ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) กับการก้าวมารับบทตัวร้าย Gorr the God Butcher

31 มกราคม

JUSTIN TIMBERLAKE

Justin Randall Timberlake เกิดวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524) ที่ Memphis, Tennessee ประเทศอเมริกา

ตอนอายุ 11 ปี เจ้าตัวเคยเข้าไปประกวดรายการค้นหาดาราอย่าง Star Search ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) แต่ก็ไม่ชนะในรายการนั้น

แต่ต่อมาเขาก็ได้ไปปรากฏในรายการ MMC ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) ที่ได้เจอกับอนาคตนักร้อง นักแสดงมากมายทั้ง Britney Spears, Ryan Gosling, Keri Russell, Christina Aguilera และอนาคตเพื่อนร่วมวงอย่าง J.C. Chasez

เมื่อเขาเข้าอายุ 14 ปี เขาได้กลายมาเป็นสมาชิกของวงบอยแบนด์ *NSYNC และประสบความสำเร็จอย่างมากมาย

เมื่อเข้าสู่ปี ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) เจ้าตัวได้ใช้เวลาไปกับการเขียนเพลงและออกอัลบั้มเดี่ยว จนทำให้หลายคนรู้จักเขามากขึ้น

คงไม่มีใครปฏิเสธความสามารถในการร้องและแต่งเพลงของ Justin Timberlake แน่นอน แต่เรื่องการแสดง เขาก็ถือเป็นอีกหนึ่งคนที่ถือว่ามีความสามารถไม่ใช่เล่นเลย

นอกจากการแสดงใน MV แล้ว เจ้าตัวยังเล่นหนังด้วย โดยหนังเรื่องแรกที่เขาเล่นคือ Longshot ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544)

หลังจากนั้นก็มีผลงานเพลงสลับกับงานแสดงออกมาเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็น Edison ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Alpha Dog ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Southland Tales ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Black Snake Moan ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), ให้เสียงพากย์ใน Shrek the Third ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) พากย์เป็น Artie, The Love Guru ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), The Open Road ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552)

แน่นอนว่าหลายคนรู้จักเขามาจากงานเพลง แต่คนจดจำการแสดงและคุ้นเคยมาจากบท Sean Parker ใน The Social Network ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553)

และหลังจากเรื่องนั้นเขาก็ได้รับบทเล่นหนังดังๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Bad Teacher ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Friend with Benefits ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) และมาเป็นพระเอกหนังแอ็คชันเต็มตัวในเรื่อง In Time  ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554)

ผลงานการแสดงของเขาก็ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Trouble with the Curve ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Inside Llewyn Davis ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Runner Runner ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Trolls ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Wonder Wheel ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) และกลับมาให้เสียงพากย์ใน Trolls World Tour ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ในปีนี้ยังมีผลงานการแสดงของเขาให้ติดตามกับหนังดราม่า Palmer ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

เจ้าตัวเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จากการแต่งเพลงประกอบให้กับหนังอนิเมชั่นเรื่อง Trolls ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) ด้วย ควบเข้าชิงลูกโลกทองคำเช่นกัน กับเพลง Can't Stop the Feeling

และได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีกครั้งจากเพลงประกอบ Please Mr. Kennedy ในเรื่อง Inside Llewyn Davis ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556)

Justin Timberlake คือชายผู้เต็มไปด้วยความสามารถ ไม่ว่าจะร้องเพลง แต่งเพลง หรือการแสดง เขาก็ทำมันได้ดีทั้งนั้น แถมหน้าตายังหล่อเหลาเป็นนายแบบได้สบาย ๆ เลยทีเดียว ผู้ชายอย่างเรายังอิจฉาเลย 555