ช่วงนี้บางคนอาจเริ่มได้ยินชื่อของแอปพลิเคชันใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมสูงอย่าง แอป Clubhouse กันมาบ้าง และผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS บางส่วนก็น่าจะได้เห็นชื่อของแอปพลิเคชันนี้บน App Store อยู่บ่อย ๆ เพราะมันไต่อันดับขึ้นไปเป็นแอปพลิเคชันยอดนิยมอันดับ 5 ในหมวด Social Networking เป็นที่เรียบร้อย (ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2021 - พ.ศ. 2564)
ภาพจาก : https://apps.apple.com/us/app/clubhouse-drop-in-audio-chat/id1503133294
แอป Clubhouse เป็น แอปพลิเคชันโซเชียลมีเดีย น้องใหม่สัญชาติอเมริกันที่เป็นผลงานของ Paul Davidson และ Rohan Seth ที่ถึงแม้ว่าจะเพิ่งเปิดตัวไปไม่ถึง 1 ปี (เปิดตัวครั้งแรกใน App Store เมื่อเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา ส่วนในระบบ Android ยังไม่สามารถใช้งานได้) ก็มียอดผู้ใช้งานกว่า 5 ล้านคนทั่วโลก และทำยอดรีวิวได้สูงถึง 4.9 ดาว (จากผู้ใช้กว่า 260,000 คน) ซึ่งทางผู้พัฒนาก็ได้อธิบายเอาไว้ว่ามันเป็น
โซเชียลรูปแบบใหม่ที่ใช้เสียงเป็นตัวกลางให้ผู้คนทั่วโลกสามารถร่วมพูดคุย, บอกเล่าเรื่องราว, แลกเปลี่ยนความคิด, กระชับความสัมพันธ์ และพบปะกับผู้คนใหม่ ๆ ที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันจากทั่วทุกมุมโลก
ดูเผิน ๆ แล้วก็อาจไม่ได้มีความน่าสนใจมากมายอะไร แต่ความพิเศษของ แอป Clubhouse นี้อยู่ที่ การเข้าใช้งาน เพราะไม่ใช่ว่าผู้ใช้จะสามารถดาวน์โหลดและลงทะเบียนใช้งานได้ทันทีเหมือนกับแอปพลิเคชันอื่น ๆ ทั่วไป แต่ผู้ใช้นั้นจะต้องได้รับ “คำเชิญ” จากผู้ใช้คนอื่นก่อนจึงจะสามารถใช้งานแอปพลิเคชันดังกล่าวได้ (คล้ายกับการเข้าร่วมสมาคมลับ)
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าการจะเป็นส่วนหนึ่งในสมาชิก Clubhouse นั้นจะต้องได้รับ "คำเชิญ (Invite)" จากสมาชิกคนอื่น ๆ จึงจะสามารถใช้งานแอปพลิเคชันนี้ได้ แต่ระหว่างที่รอรับคำเชิญก็สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันลงเครื่อง และจองชื่อผู้ใช้งาน (Username) ที่ต้องการจะใช้เอาไว้ก่อนได้
ภาพจาก : https://www.socialmediaexaminer.com/clubhouse-app-how-to-get-started/
นอกจากนี้ ทางบริษัทยังระบุอีกว่าได้วางแผนจะขยายขอบเขตการใช้งานของ Clubhouse นี้ให้มากขึ้นในเร็ว ๆ นี้ โดยขณะนี้กำลังดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปเนื่องจากต้องการให้ Clubhouse นี้เติบโตขึ้นมาอย่างช้า ๆ และมีความพร้อมที่จะรองรับผู้คนจำนวนมากที่ต้องการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Clubhouse นี้ อีกทั้งยังระบุว่ากำลังเตรียมการเปิดตัวแอปพลิเคชันใน ระบบปฏิบัติการ Android ตามมาด้วย
เมื่อผู้ใช้ได้รับคำเชิญชวนจากผู้ใช้คนอื่น ๆ และลงทะเบียนเข้าใช้งาน Clubhouse เป็นที่เรียบร้อยแล้วก็จะสามารถเข้าร่วม Conversation Room (ห้องสนทนา) เพื่อพูดคุยหรือร่วมฟังการสนทนาในหัวข้อต่าง ๆ ตามความสนใจของผู้ใช้ได้ เช่น เทคโนโลยี, หนังสือ, ธุรกิจ, สุขภาพ และหัวข้ออื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย (สามารถเชื่อมต่อกับแอคเคาท์ Instagram และ Twitter ได้อีกด้วย)
ภาพจาก : https://images.yourstory.com/cs/2/dc9aa1302d6c11e9aa979329348d4c3e/Clubhouseapp41-1610628514114.png
โดยภายใน Conversation Room นี้จะมีลักษณะคล้ายกับการประชุมทางไกล (Conference Call) ที่มีทั้งผู้ดูแลห้อง (Moderators), พิธีกรหรือผู้พูด (Speakers) และผู้ฟัง (Listeners) ที่สามารถกดยกมือเพื่อขอสอบถามหรือพูดเสริมในประเด็นต่าง ๆ ได้ (ผู้ดูแลห้องจะดูแลสิทธิการพูดของแต่ละคน) และห้องสนทนานี้ก็จะปิดตัวลงหลังจากจบการสนทนาและไม่มีรีรันให้สามารถฟัง (หรือรับชม) ซ้ำอีกครั้ง (ปัจจุบันยังไม่มีระบบบันทึกภายในตัวแอปพลิเคชัน แต่สามารถกดอัดวิดีโอหน้าจอเพื่อบันทึกการพูดคุยในห้องนั้น ๆ นำเอาไปลงโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ได้)
ภาพจาก : https://www.vox.com/the-goods/22276715/clubhouse-invite-only-audio-app-explained
สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของผู้ใช้จากทั่วโลกก็คาดว่าน่าจะเป็น รายชื่อผู้ใช้ ของ Clubhouse นั่นเอง เพราะแอปพลิเคชันนี้ได้รับความสนใจจากผู้คนที่มีชื่อเสียงจากวงการต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Oprah, Kevin Hart, Drake, Chris Rock, Ashton Kutcher รวมทั้งเจ้าพ่อเทคโนโลยีเบอร์ต้น ๆ ของโลกอย่าง Mark Zuckerberg และ Elon Musk เองก็เป็นหนึ่งในผู้ใช้งานแอปพลิเคชันดังกล่าวนี้เช่นเดียวกัน
ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ Elon Musk ก็ได้เปิดห้องใน Clubhouse เพื่อพูดคุยประเด็นต่าง ๆ ที่เขากำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ และปิดท้ายด้วยการพูดคุยกับ Vlad Tenev ที่เป็น CEO ของ Robinhood (บริการเทรด Cryptocurrency ที่กำลังได้รับความสนใจสูงในขณะนี้)
โดยหลังจากจบเซคชันบน Clubhouse แล้วผู้ฟังหลาย ๆ คนก็ได้นำเอาคลิปการพูดคุยในครั้งนี้มาลง YouTube ด้วย ซึ่งผู้ที่ได้รับชมคลิปดังกล่าวก็รู้สึกถึงความ “พิเศษ” ของ Clubhouse และทำให้หลาย ๆ คนต้องการที่จะเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับคำเชิญเข้าร่วม Clubhouse นี้เพื่อเป็นหนึ่งในผู้ที่มีโอกาสที่จะได้พูดคุยและเข้าร่วมวงสนทนาที่น่าสนใจระหว่างคนดังต่าง ๆ จึงทำให้ ความนิยมของ Clubhouse พุ่งสูงขึ้น ในเวลาอันรวดเร็วนั่นเอง
คลิปวิดีโอการพูดคุยของ Elon Musk ใน Clubhouse
ส่วนการที่แอปพลิเคชันนี้ได้รับความนิยมสูงในประเทศจีนนั้นเป็นเพราะมันเป็นแอปพลิเคชันที่ สามารถใช้งานในประเทศจีนได้ และยังไม่ถูกแบนจากทางรัฐบาลเหมือนกับโซเชียลมีเดียอื่น ๆ อย่าง Facebook หรือ Twitter ดังนั้นชาวจีนจำนวนมากจึงให้ความสนใจในแอปพลิเคชันนี้จนได้มีการ "เปิดขาย" Invite Code (รหัสเชิญเข้าร่วม Clubhouse) ในราคาตั้งแต่ 50 - 400 หยวน (ประมาณ 240 - 1,900 บาท) บน เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ (Ecommerce) ในประเทศจีนอย่าง Xianyu และ Taobao
การซื้อ - ขาย Invite Code บน Xianyu
ภาพจาก : https://qz.com/1968015/clubhouse-invite-codes-are-becoming-hot-merchandise-in-china/
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มันได้รับความนิยมสูงจากประเทศจีนในเวลาอันรวดเร็วก็ทำให้รัฐบาลจีนเข้ามาแทรกแซงและ บล็อกการทำงานของ Clubhouse ไปเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) โดยจากรายงานก็พบว่าเหตุผลสำคัญที่ทำให้มันถูกแบนจากประเทศจีนไม่ใช่เพราะมันได้รับความนิยมสูงเป็นเท่านั้น แต่เป็นเพราะมีการพูดถึงเรื่อง "จัตุรัสเทียนอันเหมิน" และ "มณฑลซินเจียง" ภายใน Conversation Room ต่างหาก
|
ตัวเม่นผู้รักในการนอน หลงใหลในการกิน และมีความใฝ่ฝันจะเป็นนักดูคอนเสิร์ตแต่เหมือนศิลปินที่ชื่นชอบจะไม่รับรู้ว่าโลกนี้มียังประเทศไทยอยู่.. |