Jensen Ross Ackles เกิดวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521) ที่ Dallas, Texas ประเทศอเมริกา
Jensen เป็นคนที่ชื่นชอบกีฬาเป็นอย่างมาก เขาเล่นกีฬาหลายชนิด ตั้งแต่ฟุตบอล, ลาครอส, เบสบอล และบาสเก็ตบอล ซึ่งเบสบอลและลาคลอสเจ้าตัวได้เล่นให้กับทีมโรงเรียนด้วย
Jensen เข้าสู่วงการครั้งแรกตั้งแต่อายุเพียง 2 ขวบเท่านั้นกับการถ่ายแบบ พออายุได้ 4 ขวบ เขาก็ได้มาปรากฏตัวในโฆษณาทางทีวีทั้ง Nabisco, RadioShack และ Wal-Mart
Jensen ได้รับแรงบันดาลใจในการเป็นนักแสดงมาจากพ่อที่เป็นนักแสดงของเขา เขาชอบที่จะเห็นพ่อตัวเองซ้อมบทและนั่นเป็นการสอนให้เขาได้พอเข้าใจถึงอะไรหลาย ๆ อย่างในวงการอุตสาหกรรมนี้ จนทำให้ตอนชั้นมัธยมปลาย เจ้าตัวก็ได้เข้าเรียนคลาสสอนการแสดง ไม่นานหลังจากนั้นเพื่อนของเขาก็ได้ชวนเขาไปร่วมงานสัมนาเกี่ยวกับการแสดงท้องถิ่น จนทำให้ไปเตะตาชายสองคน Craig Wargo และตัวแทนของเขา Michael Einfeld ทั้งคู่สนใจความสามารถในการแสดงของ Jensen และต้องการให้ Jensen ไป Los Angeles กับพวกเขา
แต่ Jensen ก็เอ่ยปากปฏิเสธข้อเสนอนั้น เมื่อ Jensen เดินทางไปยัง Los Angeles และคิดว่า 2 คนนั้นคงลืมเขาไปแล้วล่ะ แต่ทั้ง 2 คนก็ยังคงมาช่วยเหลือและยังสนใจในตัว Jensen อยู่ ซึ่งจริง ๆ ในช่วงเวลานั้นตอนแรกเจ้าตัวตัดสินใจที่จะเรียนต่อทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาที่มหาวิทยาลัย Texas Tech University และกลายมาเป็นนักกายภาพบำบัด แต่เขาก็ตัดสินใจมายัง Los Angeles เพื่อลองมาเป็นนักแสดงดูก่อน
ต่อมา Jensen ได้รับบทรับเชิญในซีรีส์เรื่อง Wishbone ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538), Mr. Rhodes ค.ศ. 1996-1997 (พ.ศ. 2539-2540) และ Sweet Valley High ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) แต่บทบาทแจ้งเกิดของเขาคือการได้มาแสดงในเรื่อง Days of Our Lives ค.ศ. 1997-2000 (พ.ศ. 2540-2543) และได้แสดงในเรื่องนี้มา ถึง 3 ปี ต่อมาก็ได้ไปเล่นซีรีส์ Blonde ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544)
Jensen เคยมาออดิชั่นบทบาท Clark Kent ในซีรีส์ Smallville แต่สุดท้ายก็เสียบทพ่ายแพ้ให้กับ Tom Welling ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาก็ยังได้รับบทอื่น กับบทบาท Jason Teague ที่ได้มาแสดงในช่วงปี ค.ศ. 2004-2005 (พ.ศ. 2547-2548)
แน่นอนว่า Jensen ยังไม่หมดหวัง เขายังเดินหน้าไปออดิชั่นและไปปรากฏตัวในซีรีส์อีกหลายเรื่อง ทั้ง Dark Angel ค.ศ. 2001-2002 (พ.ศ. 2544-2545), Dawson's Creek ค.ศ. 2002-2003 (พ.ศ. 2545-2546), Still Life ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), The Plight of Clownana ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547)
บทบาทที่สร้างชื่อและกลายเป็นที่จดจำมากที่สุดบทบาทหนึ่งของ Jensen คือการได้มาแสดงในซีรีส์ของ CW เรื่อง Supernatural ในบทบาท Dean Winchester ซึ่งเจ้าตัวได้รับบทบาทนี้มาอย่างยาวนานตั้งแต่ในปี ค.ศ. 2005-2020 (พ.ศ. 2548-2563) เลยทีเดียว
Jensen มักจะได้รับบทในซีรีส์เสียมากกว่าตลอดอาชีพการแสดง แต่ก็มีผลงานในหนังบ้างประปราย เช่น The Inch Hero ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), My Bloody Valentine ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), Buddy Games ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่ได้โดดเด่นหรือน่าจดจำสักเท่าไหร่
Jensen ยังมีบทบาทที่น่าสนใจอีกหนึ่งเรื่องหลังจาก Supernatural ได้จบตัวลง เขาจะมารับบทเป็น Soldier Boy ในซีรีส์ The Boys ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)
Lupita Amondi Nyong'o เกิดวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) ที่ Mexico City ประเทศเม็กซิโก
Lupita ถูกเลี้ยงดูมาที่เคนย่า แต่เมื่ออายุ 16 ปี พ่อแม่ของเธอก็ส่งเธอกลับไปยังเม็กซิโก 7 เดือน เพื่อให้เธอเรียนรู้ภาษาสเปน
ต่อมา Lupita ได้เข้าเรียนเกี่ยวกับด้านภาพยนตร์ที่ Hampshire College, Massachusetts ประเทศอเมริกา ภายหลังเธอก็ได้มาทำงานด้าน production assistant ในหนังบางเรื่อง และเธอเรียนจบจากมหาวิทยาลัย Yale สาขาการแสดง
จุดเริ่มต้นในการแสดงของ Lupita คือการแสดงหนังสั้นเรื่อง Roho ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) ตามมาด้วย East River ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Star Tours: The Adventures Continue ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) และมาแสดงซีรีส์เรื่อง Shuga ค.ศ. 2009-2012 (พ.ศ. 2552-2555)
ในปี ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) เธอได้เดบิวต์แจ้งเกิดกับหนังของผู้กำกับ Steve McQueen เรื่อง 12 Years a Slave
หลังจากนั้นเราก็ได้เห็น Lupita ในอีกมากมายหลายบทบาท ทั้งเรื่อง Non-Stop ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) และมาทำ Mo-cap ให้เสียงพากย์ Maz Kanata ในเรื่อง Star Wars: Episode VII - The Force Awakens ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) และให้เสียงพากย์ Raksha ใน The Jungle Book ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Queen of Katwe ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Star Wars: Episode VIII - The Last Jedi ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), ก้าวเข้ามามีบทบาทในจักรวาล MCU เรื่อง Black Panther ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Little Monsters ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Us ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Star Wars: Episode IX - The Rise of Skywalker ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Black Is King ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)
Lupita ยังมีผลงานให้เราได้เห็นกันอีก The 355 ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), ซีรีส์ Human Resources ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) และ Black Panther: Wakanda Forever ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)
Daniel Wroughton Craig เกิดวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2511) ที่ Chester, Cheshire ประเทศอังกฤษ
หนึ่งในนักแสดงชาวอังกฤษที่โด่งดังและหลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับบทบาท James Bond ที่เล่นไปถึง 5 ภาค ตั้งแต่ Casino Royale ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Quantum of Solace ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Skyfall ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Spectre ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), No Time to Die ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)
หลังจาก Craig เกิดมาไม่กี่ปีพ่อแม่ของเขาก็แยกทางกัน ตัวเขาเองจึงถูกเลี้ยงดูโดยพี่สาว
ความสนใจในการแสดงของเขาเริ่มต้นขึ้นเมื่อตัวเขาเองได้มายังโรงละคร Liverpool Everyman Theatre
ตอน Craig อายุได้ 6 ปี เขาเริ่มการแสดงในโรงเรียน ก่อนที่จะไปแสดงในระดับชั้นประถมกับเรื่อง Oliver!
ตัวเขาเองเคยดู James Bond ในโรงหนังครั้งแรกฉบับ Roger Moore กับเรื่อง Live and Let Die ค.ศ. 1973 (พ.ศ. 2516) และตัวเขาเองประทับใจมากๆ เป็นความทรงจำที่ดีและอบอุ่นหัวใจระหว่างเขากับพ่อของเขา
เมื่ออายุได้ 14 ปี ตัวเขาเองก็เริ่มรับบทหลากหลายขึ้นทั้งใน Oliver, Romeo and Juliet และ Cinderella
พออายุ 16 ปี ตัวเขาเองก็ได้ลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาออดิชั่นให้กับโรงละคร National Youth Theatre แน่นอนว่าตัวเขาทำสำเร็จ เขาจึงได้ย้ายไปยัง London
และสถานที่แห่งนั้นเขาก็ได้แสดงละครเวทีมากมายหลายเรื่อง แถมยังได้ทัวร์กับคณะละครทั่วทั้งยุโรป
หลังจากนั้นไม่นานตัวเขาเองก็ได้เริ่มไปออดิชั่นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เหมือนโชคจะไม่เข้าข้าง เพราะเขาไม่ได้ถูกรับเลือก
แต่ในปี ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) เขาได้เข้าเรียนที่ Guldhall School of Music and Drama และเรียนจบในปี 1991
จนกระทั่ง Craig ได้แจ้งเกิดกับบทในหนังเต็มตัวจากเรื่อง The Power of One ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) นั่นเปรียบเสมือนใบเบิกทางในวงการให้กับตัวเขา เพราะเขาได้รับงานแสดงต่อในซีรีส์ทางทีวีเรื่อง Our Friends in the North ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) และโด่งดังอย่างต่อเนื่องทำให้หลายคนรู้จักกับบทสมทบใน Lara Croft: Tomb Raider ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) และ Road to Perdition ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)
หลังจากนั้นก็มีผลงานแสดงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Layer Cake ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Munich ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Casino Royale ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), The Golden Compass ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Quantum of Solace ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Cowboys & Aliens ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Dream House ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), The Girl with the Dragon Tattoo ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Skyfall ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Spectre ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Logan Lucky ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Knives Out ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และผลงานล่าสุดที่กำลังจะเข้าโรงในอีกไม่ช้ากับ No Time to Die ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) ที่เจ้าตัวบอกจะเป็นบทบาท James Bond ของเขาครั้งสุดท้ายแล้ว แต่บทบาทนักสืบ Benoit Blanc ของเขาใน Knives Out จะยังคงมีต่อในภาค 2 เป็นที่แน่นอน
นอกเหนือจากนั้นในอนาคต ยังมีผลงานอย่าง The Creed of Violence และซีรีส์ Purity ให้แฟน ๆ ได้ติดตามชมอีกด้วย
Craig เคยได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 1 ครั้ง เมื่อไม่นานมานี้เอง กับบทบาท Benoit Blanc จากเรื่อง Knives Out ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในหนังประเภทเพลงหรือตลก (Best Performance by an Actor in a Motion Picture - Musical or Comedy)
Paul William Scott Anderson เกิดวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 1965 (พ.ศ. 2508) ที่ Newcastle-upon-Tyne ประเทศอังกฤษ
เริ่มต้นจากการกำกับและเขียนบทหนัง Shopping ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) ที่แสดงนำโดย Jude Law และ Sean Pertwee ตัวหนังถูกแบนในบางโรงที่อังกฤษ เลยทำให้มันถูกส่งเป็นหนังเช่าอย่างรวดเร็ว และภายหลังก็ถูกตัดต่อเพื่อให้เข้าฉายในประเทศอเมริกาได้
และจากการกำกับ Shopping ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) ทำให้ Anderson ได้มีโอกาสไปกำกับหนังใหญ่ขึ้นมาอีกกับ Mortal Kombat ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) มันเลยก่อกำเนิดภาพจำ และเอกลักษณ์ประจำตัวผู้กำกับคนนี้ กับฉากแอ็คชันตัดต่อแบบ quick-cut ถึงแม้มันจะไม่ได้สำเร็จมากเท่าที่ควร แต่มันก็มากพอที่จะส่งให้เขาได้ทำโปรเจคต่อไป
ต่อมาเขาได้กำกับหนัง Soldier ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) โดยมี Kurt Russell แสดงนำ ซึ่งจริง ๆ มันต้องเข้าฉายในปี ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) แต่ทาง Russell อยากหยุดพักบ้าง เลยตัดสินใจให้หนังเข้าฉายในช่วงปี ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) แทน จึงทำให้ในช่วงเวลานั้น Anderson ก็ได้ไปทำหนังเรื่อง Event Horizon ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) เป็นหนังสยองขวัญในอวกาศที่ถึงได้รับคำวิจารณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่มันก็สามารถเป็นที่พูดถึงมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนนึงที่มันไม่ดี Anderson ได้บอกไว้ว่าทางค่ายตัดต่อเรื่องราวเยอะเกินไป และเจ้าตัวเคยบอกจะปล่อยฉบับ Director's Cut ออกมา แต่จนตอนนี้ก็ยังไม่เห็นกัน
และหลังจากที่ Soldier ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) ปล่อยออกมา คำวิจารณ์และรายได้ก็ไม่ดีเท่าที่ควร จึงทำให้เจ้าตัวได้วางแผนจะรีเมกหนัง Death Race 2000 ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) แต่มันก็ไม่เกิดขึ้น แต่ภายหลังมันก็ออกมาเป็น Death Race ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) หลังจากไม่ได้ทำ ณ ตอนนั้น จึงทำให้เขาวางแผนที่จะทำหนังที่เล็กลงมาหน่อย จึงกลายมาเป็นเรื่อง The Sight ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) และมันก็ออกมาไม่เลวเลย
2 ปีหลังจากนั้นก็ได้มีหนังของ Anderson โผล่ออกมา กับหนังที่ดัดแปลงเรื่องราวมาจากเกมชื่อดังอย่าง Resident Evil ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) ซึ่งแต่แรกเดิมทีหนังเรื่องนี้ต้องเป็นผลงานของ George A. Romero แต่ภายหลังมันก็ตกมาเป็นผลงานการกำกับและเขียนบทของ Anderson เอง ที่แสดงนำโดย Milla Jovovich สร้างชื่อให้กับทั้งคู่ มีภาคต่อออกมาทั้ง Resident Evil: Afterlife ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Resident Evil: Retribution ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) และ Resident Evil: The Final Chapter ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) ที่สำคัญทุกภาคกำกับโดย Anderson และแสดงนำโดย Jovovich เหตุผลง่าย ๆ เพราะทั้งคู่ตกหลุมรักกัน และแต่งงานกันในวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) ครองรักกันมาจนถึงปัจจุบัน มีลูกด้วยกัน 3 คน
หลังจากนั้นก็ยังมีผลงานอื่น ๆ ออกมาอีกทั้ง AVP: Alien vs. Predator ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), The Three Musketeers ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Pompeii ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), ซีรีส์ Origin ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) และล่าสุดอีกหนึ่งผลงานคนอวยเมีย Monster Huner ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)
ในอนาคตยังมีอีกหนึ่งผลงานที่ประกาศจะสร้างออกมา กับ In the Lost Lands ที่ Anderson กำกับและเขียนบท ที่สำคัญแสดงนำโดยภรรเมียสุดที่รักอย่าง Milla Jovovich แสดงร่วมกับ Dave Bautista
Bryan Lee Cranston เกิดวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 1956 (พ.ศ. 2499) ที่ Hollywood, California ประเทศอเมริกา
Cranston ถูกเลี้ยงดูและเติบโตขึ้นมาที่ Canoga Park ใน Los Angeles และส่วนมากอาศัยอยู่กับปู่-ย่าในฟาร์มที่ Yucaipa เพราะพ่อของเขาทิ้งครอบครัวไปตั้งแต่เขาอายุเพียง 11 ปี และเขาก็ไม่เคยเจอหน้าพ่อเลยจน 11 ปีให้หลัง เมื่อตัวเขาเองและพี่ชายตัดสินใจที่จะตามหาพ่อตนเอง
บทบาทที่คนรู้จักกันดีที่สุดของ Cranston คือ Walter White ครูสอนวิชาเคมีโรงเรียนมัธยมปลายที่ชีวิตพลิกผันได้มาพัวพันกับยาเสพติด ในยอดซีรีส์ที่ทำให้หลายต่อหลายคนอดหลับอดนอนอย่าง Breaking Bad ค.ศ. 2008-2013 (พ.ศ. 2551-2556) เจ้าตัวชื่นชอบบทนี้มากจนถึงกับสักคำว่า Breaking Bad บนนิ้วนางข้างซ้ายของเขาเลยทีเดียว
จากความยอดเยี่ยมในบทนี้ส่งให้ Cranston เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 4 ครั้ง และคว้ารางวัลไปได้ 1 ครั้งและเข้าชิงรางวัล Primetime Emmy Awards อีก 6 ครั้งและคว้าไปได้ 4 ครั้ง
แต่ก่อนที่จะมารับบทใน Breaking Bad ค.ศ. 2008-2013 (พ.ศ. 2551-2556) Cranston ก็มีประสบการณ์ทางการแสดงมาไม่น้อย และเคยแสดงเอาไว้อย่างยอดเยี่ยมในซีรีส์ Malcolm in the Middle ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ด้วย
นอกเหนือจากนั้น Cranston ก็ยังมีบทบาทอีกมากมายในการแสดง ทั้งในเรื่อง Contagion ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Drive ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Total recall ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Argo ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), ซีรีส์ How I Met Your Mother ค.ศ. 2006-2013 (พ.ศ. 2549-2556), Godzilla ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Kung Fu Panda 3 ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Power Rangers ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Isle of Dogs ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), ซีรีส์ Robot Chicken ค.ศ. 2011-2018 (พ.ศ. 2554-2561), ซีรีส์ Family Guy ค.ศ. 2006-2020 (พ.ศ. 2549-2563)
Cranston เคยเข้าชิงรางวัลออสการ์ 1 ครั้ง จากบทบาทแสดงนำในเรื่อง Trumbo ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) และเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำจากบทบาทในเรื่องนี้เช่นกัน
แถมยังได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีก 2 ครั้งจากเรื่อง All the Way ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) และ Your Honor ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)
Matthew De Vere Drummond เกิดวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) ที่ London ประเทศอังกฤษ
Vaughn ได้เข้าเรียนที่ Stowe School ใน Buckingham ใช้เวลาในช่วงเปลี่ยนผ่านก่อนเข้ามหาวิทยาลัยเดินทางไปทั่วโลกกับ Hard Rock Cafe tour และได้เดินทางมายัง Los Angeles ประเทศอเมริกา และพอมาอยู่ที่นี่เขาได้เริ่มต้นทำงานเป็นผู้ช่วยผู้กำกับ
หลังจากนั้น Vaughn ก็ได้เดินทางกลับไปยัง London เพื่อเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่ University College London ที่นั่นเขาได้เรียนมานุษยวิทยาและประวัติศาสตร์โบราณ แต่หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์เขาก็ดร็อปเรียนและกลับไปยัง Los Angeles เพื่อเริ่มต้นในเส้นทางอาชีพวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ แต่เขาค้นพบว่างานมันหายากเหลือเกินเพราะทุกคนในเมืองและนอกเมืองต่างเดินทางมาที่นี่เพื่อหางานด้านนี้เหมือนกัน เขาจึงตัดสินใจกลับไปสร้างชื่อให้ตัวเองใน London ดีกว่า
เมื่ออายุได้ 25 ปี เขาก็ได้มาเป็นผู้อำนวยการสร้างให้กับหนังระทึกขวัญเล็ก ๆ เรื่องนึง The Innocent Sleep ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538)
Vaughn ยังคงรับหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างมาอย่างต่อเนื่อง และได้มาร่วมงานกับเพื่อนสนิทอย่าง Guy Ritchie ในหนังเรื่อง Lock, Stock and Two Smoking Barrels ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) ตัวหนังประสบความสำเร็จอย่างมากสร้างชื่อให้กับทั้ง Ritchie และ Vaughn เลยทีเดียว และพวกเขาทั้งคู่ก็ยังคงมาร่วมงานกันอยู่ในเรื่อง Snatch ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) และยังประสบความสำเร็จเช่นเดิม
ในที่สุด Vaughn ก็ได้มาเดบิวต์กำกับหนังเป็นของตัวเองกับเรื่อง Layer Cake ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) และตัวหนังก็ประสบความสำเร็จมากพอที่ทำให้เขาได้รับงานที่ใหญ่ขึ้น ทำให้เขาได้มากำกับ X-Men: The Last Stand ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) แต่เขาก็ต้องถอนตัวไปก่อนที่จะเริ่มถ่ายทำเพียง 2 สัปดาห์
แต่ถึงกระนั้น Vaughn ก็ได้ไปสร้างชื่อกับหนังเรื่องอื่นแทน เริ่มจากการมากำกับ Stardust ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) และตามมาด้วยหนังฮีโร่สุดเกรียน Kick-Ass ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553)
ชื่อเสียงที่สั่งสมของ Vaughn มากพอที่จะทำให้ทาง Marvel สนใจ เข้าไปเจรจาติดต่อให้เขามากำกับ Thor แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้กำกับโปรเจคนี้
ถึงแม้จะไม่ได้กำกับ X-Men: The Last Stand ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) แต่ Vaughn ได้รับโอกาสอีกครั้งกับแฟรนไชส์นี้ในการกำกับ X: First Class ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554)
แถมผลงานการกำกับหลังจากนั้นก็ยังติดตลาดไม่ใช่เล่น กับแฟรนไชส์หนังสายลับ Kingsman ทั้ง Kingsman: The Secret Sevice ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Kingsman: The Golden Circle ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) และ The King's Man ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) ที่เจ้าตัวอำนวยการสร้างด้วยตนเองทั้ง 3 ภาคเลยทีเดียว
ผลงานในฐานะผู้อำนวยการสร้างก็ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน เพราะเขามาดูแลทั้ง Kick-Ass 2 ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Fantastic Four ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Rocketman ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และ Bloodshot ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)
เขายังมีผลงานอำนวยการสร้างที่น่าสนใจอีกหลายเรื่อง ทั้ง Silent Night ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Tetris ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), I Am Pilgrim และ Flash Gordon
Carlos Ray Norris เกิดวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 1940 (พ.ศ. 2483) ที่ Ryan, Oklahoma ประเทศอเมริกา
หลังจาก Norris เรียนจบระดับชั้นมัธยมปลาย เขาก็ได้เข้าร่วมกองทัพอากาศ จึงทำให้เขาได้มีโอกาสไปอาศัยอยู่ที่เกาหลี ที่นั่นเขาได้เริ่มต้นเรียนศิลปะการต่อสู้ที่เรียกว่า Tang Soo Do พอหลังจากกลับมายังอเมริกาเขาก็ได้ทำงานเป็นผู้สอนคาราเต้ เขาใช้เวลา 2 ปีเป็นครูฝึกสอนและมันได้กลายเป็นงานประจำของเขา จนเขามีโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้เป็นของตัวเอง
Norris ได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันการต่อสู้ตลอดในช่วงปี ค.ศ. 1964-1974 (พ.ศ. 2507-2517) มีชนะบ้าง แพ้บ้าง แต่ช่วงแรกเรียกได้ว่าเขาแพ้รัว ๆ เลย แต่ในช่วงปี ค.ศ. 1966 (พ.ศ. 2509) เขาเกือบจะเรียกได้ว่าไร้พ่ายเลยทีเดียว สถิติในการต่อสู้ของเขาคือ 65-5 จนกระทั่งเลิกเข้าร่วมแข่งขันในปี ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517)
Norris ได้เข้ามาสู่แวดวงการแสดงจากคำแนะนำของ Steve McQueen โดยตัวของ Norris ก็ได้ใช้ความสามารถทางศิลปะการต่อสู้เป็นจุดเด่นในการแสดง จนทำให้เขาได้มีโอกาสแสดงหนังที่เข้ากับตัวเขา และกลายมาเป็น Action Star ระดับโลกที่หลายต่อหลายคนรู้จัก แสดงในหนังมากมาย เช่น Missing in Action ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527), Firewalker ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529), The Delta Force ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529), Braddock: Missing in Action ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531), Delta Force 2: The Colombian Connection ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533), The Hitman ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534), Sidekick ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), Walker, Texas Ranger ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536)
รวมถึงเคยไปปรากฏตัวในบทบาทรับเชิญใน The Expendables 2 ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), ซีรีส์ The Golbergs ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) และ Hawaii Five-O ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)
Sharon Vonne Stone เกิดวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 1958 (พ.ศ. 2501) ที่ Meadville, Pennsylvania ประเทศอเมริกา
Stone เป็นเด็กที่ฉลาด (IQ 154) เธอเป็นหนอนหนังสือ และครั้งนึงเคยมีคนบอกเธอว่างานที่เหมาะกับเธอ (และสมองของเธอ) คือการเป็นทนายความ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่เธอตกหลุมรักคือหนังขาวดำ โดยเฉพาะที่แสดงโดย Fred Astaire และ Ginger Rogers ดังนั้นเมื่อเธออายุได้ 17 ปี เธอจึงได้ส่งตัวเองเข้าประกวด Miss Crawford County และสามารถชนะรางวัลการประกวดความงามได้อีก
โตขึ้นมา Stone ได้ทำงานเป็นแคชเชียร์อยู่ที่ McDonald และผลักดันตัวเองจนได้เป็นนางแบบโฆษณาให้กับทาง Ford
ในปี ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) Stone ได้เดบิวต์แสดงในหนังของ Woody Allen เรื่อง Stardust Memories ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) กับบทบาท "สาวสวยบนรถไฟ"
จนเธอได้รับบทบาทที่มีบทพูดครั้งแรกในหนังสยองขวัญของ Wes Craven เรื่อง Deadly Blessing ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524) และได้มีโอกาสแสดงอีกเช่นใน King Solomon's Mines ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528), Action Jackson ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531)
ในที่สุด Stone ก็ได้บทบาทใหญ่ในหนัง Total Recall ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) ที่ได้แสดงร่วมกับ Arnold Schwarzenegger รวมถึงได้ถ่ายนิตยสาร Playboy ด้วย
แต่บทบาทแจ้งเกิดของ Stone จริง ๆ คือการมารับบท Catherine Tramell ในหนัง Basic Instinct ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) กับฉากสอบสวนที่ถูกพูดถึงจนถึงทุกวันนี้ และจากการแสดงของเธอในเรื่องนี้ส่งให้เธอได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งแรกในชีวิต
หลังจาก Stone มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา งานต่าง ๆ ก็ไหลเทมา เธอได้รับบทบาทอีกมากมาย ทั้งใน Silver ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536), Intersection ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537), The Specialist ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537), The Quick and the Dead ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) และฝากฝีมือการแสดงอย่างยอดเยี่ยมเอาไว้ในเรื่อง Casino ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) ที่ได้แสดงร่วมกับ Robert De Niro ซึ่งการแสดงอันยอดเยี่ยมของเธอในเรื่องนี้ส่งให้เธอเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งแรกและครั้งเดียวแต่ถึงแม้จะชวดออสการ์ แต่เธอก็สามารถมาคว้ารางวัลลูกโลกทองคำอีกด้วย
หลังจากนั้น Stone ก็มีผลงานออกมาให้ได้ชื่นชมอีกมากมายทั้ง Diabolique ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539), Last Dance ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539), The Mighty ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) ส่งให้เธอเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ, Gloria ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542), The Muse ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ส่งให้เธอเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ
ข้ามมาจนยุค ค.ศ. 2000s (พ.ศ. 2543-2552) ยังมีการแสดงของ Stone ให้เราได้เห็นอย่างต่อเนื่องแต่ก็ไม่ได้โดดเด่นหรือโด่งดังเหมือนอย่างในอดีตสักเท่าไหร่ ซึ่งผลงานล่าสุดของเธอคือการมาแสดงในซีรีส์ Ratched ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และในอนาคตยังคงมีผลงานของเธอให้เราได้เห็นกันอยู่ทั้ง Here Today ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Beauty ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), What About Love ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) และ The Tale of the Allergist's Wife
Jonathan Daniel Hamm เกิดวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) ที่ St. Louis, Missouri ประเทศอเมริกา
Hamm สนใจในด้านการแสดงมาตั้งแต่เด็ก ๆ ตอนป. 1 เขาได้รับเลือกให้เล่นละครเวที Winnie-the-Pooh และนั่นส่งให้เขาได้ทุนไปเรียนต่อทางด้านการแสดงที่มหาวิทยาลัย Missouri
การแสดงครั้งแรกของ Hamm เริ่มต้นจากบทบาทเล็ก ๆ ที่ไม่ได้เครดิตในซีรีส์ Ally McBeal ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) และมาได้เครดิตครั้งแรกกับการปรากฏตัวในซีรีส์ The Hughleys ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ตามมาด้วยการแสดงหนังครั้งแรกในเรื่อง Space Cowboys ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) และได้มารับบทรองใน Kissing Jessica Stein ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544)
แต่บทบาทที่ทำให้คนได้ประจักษ์และรู้จัก Hamm ว่าเขาคือนักแสดงที่ไม่ธรรมดา คือการได้รับบท Don Draper ในซีรีส์ Mad Men ค.ศ. 2007-2015 (พ.ศ. 2550-2558) ซึ่งจากซีรีส์นี้เรื่องเดียวส่งให้เจ้าตัวคว้ารางวัลลูกโลกทองคำไป 2 ครั้ง จากการเข้าชิงทั้งหมด 6 ครั้ง
Hamm ยังมีบทบาททางการแสดงอีกมากมาย ทั้ง We Were Soldiers ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), The Day the Earth Stood Still ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Shrek Forever After ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), The Town ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Sucker Punch ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), ซีรีส์ 30 Rock ค.ศ. 2009-2012 (พ.ศ. 2552-2555), Million Dollar Arm ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Minions ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Baby Driver ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Beirut ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), ซีรีส์ Legion ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Richard Jewell ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และผลงานในซีรีส์ Bless the Harts ค.ศ. 2020-2021 (พ.ศ. 2563-2564)
ยังมีบทบาทของ Hamm ให้เราได้เห็นกันอีกมากมาย ทั้ง Top Gun: Maverick ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Corner Office ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Off Season, Maggie Moore(s), Confess, Fletch และ Grimsburg ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2565)
Jodie Comer เกิดวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) ที่ Liverpool, Merseyside ประเทศอังกฤษ
ก่อนที่ Comer จะมีชื่อเสียงได้รับบทบาทดัง ๆ มากมายอย่างในทุกวันนี้ เธอเคยทำงานเป็น checkout girl อยู่ใน Tesco supermarket และทำงานในบาร์บ้างบางครั้ง
จุดเริ่มต้นการแสดงของ Comer คือการได้แสดงในซีรีส์ The Royal Today ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) หลังจากนั้นทำให้เธอมีผลงานในซีรีส์อีกมากมาย ทั้งใน Holby City ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Waterloo Road ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Justice ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Doctors ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Silent Witness ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Good Cop ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Casualty ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Coming Up ค.ศ. 2012-2013 (พ.ศ. 2555-2556), Remember Me ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), My Mad Fat Diary ค.ศ. 2013-2015 (พ.ศ. 2556-2558), Thirteen ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Thw White Priness ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Doctor Foster ค.ศ. 2015-2017 (พ.ศ. 2558-2560)
แต่จุดเปลี่ยนในชีวิตของ Comer และได้สร้างชื่อเสียงให้กับเธอสุด ๆ คือการได้มารับบท Villanelle ในซีรีส์ Killing Eve ค.ศ. 2018-2021 (พ.ศ. 2561-2564) ที่ส่งให้เธอได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 2 ครั้ง และคว้ารางวัล Primetime Emmy Awards 1 ครั้ง จากการเข้าชิงทั้งหมด 2 ครั้ง
นอกเหนือจากซีรีส์ Comer ยังได้แสดงหนังด้วยกับ England Is Mine ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Star Wars: Episode IX - The Rise of Skywalker ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) กับบทบาทแม่ของ Rey, Free Guy ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) ที่ได้แสดงร่วมกับ Ryan Reynolds และฝากการแสดงอันยอดเยี่ยมเอาไว้ใน เรื่อง The Last Duel ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)
Aaron Edward Eckhart เกิดวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2511) ที่ Cupertino, California ประเทศอเมริกา
Echart ย้ายมาที่อังกฤษตอนอายุ 13 ปี และไม่กี่ปีหลังจากนั้นเขาก็ได้เริ่มต้นการเป็นนักแสดง กับการได้แสดงในละครเวทีที่โรงเรียน และในภายหลังก็ย้ายมาเรียนมัธยมปลายที่ออสเตรเลีย แต่เขาก็เรียนไม่จบเพราะออกมาก่อน แต่ก็ได้รับประกาศนียบัตรจากหลักสูตรการศึกษาผู้ใหญ่และจบการศึกษาจาก Brigham Young University (BYU) ในปี ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537)
ในระหว่างที่เรียนอยู่นั้น Eckhart ก็ได้แสดงหนังครั้งแรกในชีวิตกับหนังทางทีวีเรื่อง Double Jeopardy ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) และแสดงหนังโรงครั้งแรกเรื่อง Slaughter of the Innocents ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536)
หลังจากเรียนจบ Eckhart ก็ได้พบเจอกับผู้กำกับและมือเขียนบทอย่าง Neil LaBute ผู้ที่เข้ามาติดต่อให้ Eckhart ให้มาแสดงในละครเวทีของเขา และหลังจากนั้น Eckhart ก็ได้ร่วมงานอีกมากมายกับ LaBute ทั้ง In the Company of Men ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540), You Friends & Neighbors ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541), Nurse Betty ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543), Possession ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) และ The Core ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546)
แต่บทบาทที่ทำให้หลายคนรู้จัก Eckhart คือการได้รับบทในหนังของ Steven Soderbergh เรื่อง Erin Brockovich ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543)
ในปี ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) Eckhart ได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำจากบทบาทในเรื่อง Thank You for Smoking ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548)
หลังจากนั้น Eckhart ก็มีบทบาทอีกมากมายที่หลายคนต้องผ่านตาและจดจำกันได้บ้าง ทั้ง The Pledge ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Paycheck ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), The Dark Knight ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Rabbit Hole ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Battle: Los Angeles ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Olympus Has Fallen ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), I, Frankenstein ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), London Has Fallen ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Sully ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Midway ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)
Emile Davenport Hirsch เกิดวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) ที่ Palms, California ประเทศอเมริกา
Hirsch เติบโตขึ้นที่ Los Angeles และ Santa Fe, New Mexico และได้รับการแนะนำให้เข้าสู่วงการแสดงตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ และเขาได้เข้าสู่วงการแสดงครั้งแรกตอนอายุเพียง 11 ปีเท่านั้น กับการแสดงในซีรีส์ Kindred: The Embraced ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) ตามมาด้วยผลงานซีรีส์อีกมากมาย
Hirsch เดบิวต์แจ้งเกิดในวงการ Hollywood กับหนังเรื่อง The Dangerous Lives of Altar Boys ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)
หลังจากนั้นก็ยังมีผลงานของเขาอีกมากมาย The Emperor's Club ค.ศ. 2002 (2545), The Girl Next Door ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Lords of Dogtown ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Alpha Dog ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Into the Wild ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Speed Racer ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), The Darkest Hour ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Lone Survivor ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), The Outsider ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), ซีรีส์ Trollhunters ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Freaks ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Once Upon a Time...in Hollywood ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), ซีรีส์ Wizards ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และล่าสุดกับผลงานใน Son ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)
ในอนาคตยังมีผลงานของ Eirsch ให้ติดตามอีกมากมาย ทั้ง American Night ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), State of Consciousness, Midnight in the Switchgrass, Trollhunters: Rise of the Titans ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), The Immaculate Room และ The Legitimate Wiseguy
Maurice Joseph Micklewhite เกิดวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 1933 (พ.ศ. 2476) ที่ Rotherhithe, London ประเทศอังกฤษ
เขาลาออกจากโรงเรียนตอนอายุ 15 ปี และได้ทำงานรับจ้างอยู่พักนึง ก่อนที่จะไปเข้าไปรับใช้ชาติที่กองทัพอังกฤษ และเข้าร่วมรบที่สงครามเกาหลีด้วย
หลังจากสงครามจบลงเขาก็กลับมาหางานทำที่โรงละครแห่งหนึ่ง และก็ได้รับหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้จัดการเวที
เขาได้ใช้ชื่อ Caine จากคำแนะนำจากตัวแทนของเขา ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่อง The Caine Mutiny ค.ศ. 1954 (พ.ศ. 2497) และในปีเดียวกันนั้นเองเขาก็ได้ทำงานเบื้องหลังกับละครทางทีวีกว่า 100 เรื่อง รวมถึงละครเวทีชื่อดัง The Long and the Short and the Tall
จากการแสดงของเขาในเรื่อง Zulu ค.ศ. 1964 (พ.ศ. 2507) ทำให้เขาได้รับความสนใจจากทั่วโลกมากขึ้น และจากความสำเร็จจากเรื่องนั้นทำให้เขาได้รับบทใน The Ipcress File ค.ศ. 1965 (พ.ศ. 2508) ตามมาด้วยบท Alfie ค.ศ. 1966 (พ.ศ. 2509) และจากเรื่องนั้นทำให้เขาเป็นดาวเด่นเลยทีเดียว
หลังจากนั้นเขาก็ได้แสดงอีกมากมายหลายเรื่องในช่วงปี ค.ศ. 1960s (พ.ศ. 2503-2512) ทั้ง Gambit ค.ศ. 1966 (พ.ศ. 2509), Funeral in Berlin ค.ศ. 1966 (พ.ศ. 2509), Play Dirty ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512), Battle of Britian ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512), Too Late the Hero ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513), The Last Valley ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) และ Get Carter ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514)
การแสดงของเขานับว่ายอดเยี่ยมมาก เขาได้แสดงผลงานเอาไว้อย่างน่าอัศจรรย์ในยุคต่อมา The Man Who Would Be King ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518), The Eagle Has Landed ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519), Educating Rita ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526), Hannah and Her Sisters ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529), Little Voice ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541), The Cider House Rules ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542), Last Orders ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Austin Powers in Goldmember ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)
หลายคนจดจำเขาได้จากบทบาท Alfred Pennyworth ในไตรภาค Dark Knight ของ Christopher Nolan และเขาก็เหมือนกลายเป็นนักแสดงคู่บุญของ Nolan ไปเลย เพราะเขาไปปรากฏตัวในอีกหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น The Prestige ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Inception ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Interstellar ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Dunkirk ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) และล่าสุดกับ Tenet ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2562)
แถมยังปรากฏตัวในหนังของ Alfonso Cuarón ในเรื่อง Children of Men ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) และพากย์เสียงใน Cars 2 ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554)
ช่วงหลังด้วยความที่เขาแก่ชราลง เขาก็มักได้รับเป็นบทสมทบ แต่ก็ยังคงแสดงความสามารถไว้อย่างไม่ทิ้งลาย ไม่ว่าจะเป็น Now You See Me 2 ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Going in Style ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), King of Thieves ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), ให้เสียงพากย์ใน Sherlock Gnomes ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Come Away ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563), Twist ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)
เจ้าตัวเคยเข้าชิงรางวัลออสการ์มาถึง 6 ครั้ง และสามารถคว้าไปได้สองครั้งกับบทบาทสมทบยอดเยี่ยมในเรื่อง Hannah and Her Sisters ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) และ The Cider House Rules ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542)
และเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีกมากมายอีก 12 ครั้ง และคว้าไปได้ 3 ครั้ง จากเรื่อง Education Rita ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529), Jack the Ripper ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) และ Little Voice ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541)
เจ้าตัวจะกลับมารับบทใน Now You See Me 3 อีกด้วย
Ansel Elgort เกิดวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) ที่ New York City, New York ประเทศอเมริกา
จุดเริ่มต้นในการเป็นนักแสดงของ Elgort มาจากการเล่นละครเวที ในละครเวทีของ Matt Charman เรื่อง Regrets
Elgort เดบิวต์แสดงหนังครั้งแรกกับหนังสยองขวัญฉบับรีเมกเรื่อง Carrie ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) และได้ร่วมแสดงกับ Shailene Woodley ในหนัง Divergent ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) และได้มาร่วมงานกันอีกครั้งในหนังรักดราม่า The Fault in Our Stars ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) ตามมาด้วยผลงานอย่าง Men, Women & Children ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) กลับมารับภาคต่อของ Divergent ใน Insurgent ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) และ Allegiant ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) แถมยังได้มา cameo ปรากฏตัวในหนัง Paper Towns ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558)
หลังจากนั้น Elgort ก็มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Baby Driver ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Billionaire Boys Club ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), ซีรีส์ Tokyo Vice ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) ตามมาด้วย West Side Story ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)
Alexandra Anna Daddario เกิดวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) ที่ New York City ประเทศอเมริกา
เธอมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักแสดงตั้งแต่เด็ก ๆ และงานแรกของเธอก็เข้ามาตอนเธออายุได้ 16 ปี เธอได้รับบท Laurie Lewis ในเรื่อง All My Children ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513)
แต่คนน่าจะเริ่มรู้จักเธอมาจากบทบาท Annabeth ที่ได้แสดงร่วมกับ Logan Lerman, Brandon T. Jackson ในเรื่อง Percy Jackson & the Olympians: The Lighning Thief ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) และ Percy Jackson: Sea of Monsters ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556)
แถมเธอยังเคยได้แสดง MV ของวงดนตรีชื่อดังอย่าง Imagine Dragon ในเพลง Radioactive
เธอเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยมา พร้อมผลงานที่หลากหลายมากขึ้น เช่นใน Hall Pass ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Texas Chainsaw 3D ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), San Andreas ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) ที่ได้แสดงกับ Dwayne Johnson ตามมาด้วย Baywatch ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) ที่แสดงร่วมกับ Johnson เช่นเดิม
นอกจากในจอเงินแล้ว เธอยังได้แสดงซีรีส์อีกมากมายหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น White Collar ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), It's Alwats Sunny in Philadelphia ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) และ American Horror Story: Hotel ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) และบทบาทที่หลายคนน่าจะจดจำได้ดีของเธอก็มาจากซีรีส์ทาง HBO เรื่อง True Detective ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)
แน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแต่การแสดงของเธอท่านั้นที่น่าสนใจ เธอยังมีหน้าตาที่สวย มีเสน่ห์ และหุ่นที่ทำเอาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่น้ำลายหกกันไปตามกัน ซึ่งเธอเคยติดอันดับที่ 80 ในนิตยสาร Maxim กับลิสต์ Hot 100 ในปี ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)
ซึ่งเธอเคยออดิชั่นจะมารับบท Helena Bertinelli/Huntress ในหนัง Birds of Prey: And the Fantabulous Emancipation of One Harley Quinn ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) แต่บทก็ตกไปเป็นของ Mary Elizabeth Winstead ในที่สุด
เธอยังคงมีงานแสดงอย่างต่อเนื่องให้เราได้เห็นกันไม่ว่าจะเป็น When We First Met ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Can You Keep a Secret? ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ที่ในเรื่องหลังถือว่าหลุดแนวมาเหมือนกัน เพราะไม่ได้ขายเรือนร่างเธอเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นการขายความโก๊ะ ความน่ารักของเธอแบบเต็ม ๆ ตามมาด้วยผลงานอย่าง Songbirds ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นาน
Kurt Vogel Russell เกิดเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 1951 (พ.ศ. 2494) ที่ Springfield, Massachusetts ประเทศอเมริกา
บทบาทแรกในชีวิตของเขาเริ่มขึ้นเมื่อตอนเด็กจากซีรีส์เรื่องนึง รวมถึงบทนำใน The Travels of Jaime McPheeters ค.ศ. 1963 (พ.ศ. 2506) แถมยังได้รับบทในหนัง Elvis Presley เรื่อง It Happened at the World's Fair ค.ศ. 1963 (พ.ศ. 2506)
เมื่อเขาอายุได้ 11 ปี Walt Disney ก็ได้เซ็นสัญญากับเขาเป็นเวลา 10 ปี และเขาก็กลายเป็นดาวเด่นในช่วงปี ค.ศ. 1970s (พ.ศ. 2513-2522) เลยทีเดียว นอกจากการแสดงแล้ว Kurt ยังสนใจในกีฬาเบสบอลอย่างมาก เขาได้ไปเล่นในลีคเบสบอลด้วย
ในช่วงปี ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) เขาได้มารับบทเป็น Elvis Presley ในหนังทางทีวีเรื่อง Elvis และได้แต่งงานกับนักแสดงหญิงในเรื่องอย่าง Season Hubley ที่รับบทเป็น Priscilla Presley และการแสดงครั้งนั้นทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Emmy Award
หลังจากนั้นเขาก็ได้แสดงหนังเรื่อยมาไม่ว่าจะเป็น Used Cars ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523), Silkwood ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) ในเรื่องหลังนั้นก็ทำให้เขาได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมอีกต่างหาก
ในช่วงปี ค.ศ. 1980s (พ.ศ. 2523-2532) เขาเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นกับบทบาท Snake Plissken ในเรื่อง Escape from New York ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524) ตามมาด้วยบทบาทคนขับเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ R.J. MacReady ในเรื่อง The Things ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) และบท Jack Burton ในเรื่อง Big Trouble in Little China ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) หนังทั้งหมดนั้นก็กลายเป็นหนังคัลท์สุดคลาสสิคไปแล้ว ณ ตอนนี้
ชีวิตของเขายังคงโลดรุ่งและโลดแล่นอยู่ในวงการแสดงมาอย่างต่อเนื่อง รับบทอีกมากมาย เช่น Winter People ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532), Backdraft ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534), Tombstone ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536), Stargate ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537), Miracle ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Poseidon ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Death Proof ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), The Hateful Eight ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Deepwater Horizon ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) แถมยังไปโลดแล่นในจักรวาล The Fast ด้วยอย่าง Furious Seven ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) และ The Fate of the Furious ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560),The Christmas Chronicles ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Once Upon a Time...in Hollywood ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และล่าสุด The Christmas Chronicles: Part Two ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ที่เจ้าตัวได้ออกมาบอกว่าจะเป็นผลงานสุดท้ายในอาชีพการแสดงของเขาแล้ว
เรียกได้ว่าถึงแม้ไม่รู้จักเขา คนดูหนังบ่อย ๆ ก็ต้องเคยเห็นหน้าตาชายคนนี้กันบ้างไม่มากก็น้อย เพราะตลอดชีวิตการแสดงของเขา เขาเล่นไปประมาณ 100 เรื่องเลยทีเดียว
John Adedayo Adegboyega เกิดวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ที่ Peckham, London ประเทศอังกฤษ
หลายคนรู้จักเขาจากบทบาท Finn ในไตรภาค Star Wars ภาคใหม่ เริ่มตั้งแต่ Star Wars: Episode VII - The Force Awakens ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) และแสดงมายันจบไตรภาค Star Wars: Episode VIII - The Last Jedi ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) และ Star Wars: Episode IX - The Rise of Skywalker ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)
เจ้าตัวเริ่มต้นการแสดงมาจากโรงละครใน Peckham เป็นโรงละครที่สอนการแสดงเด็กตั้งแต่อายุ 9-14 ปี และตัวของ Boyega เองก็ใช้เวลาหลังเลิกเรียนแทบจะสิงอยู่ในโรงละครทุกวันเลยก็ว่าได้ รวมถึงในช่วงวันหยุดแทนที่จะไปวิ่งเล่นเหมือนคนอื่น ๆ เจ้าตัวก็รีบไปโรงละครทุกอาทิตย์
เมื่ออายุได้ 16 ปี เขาย้ายไปเรียนที่ South Thames College เพื่อเรียนทางด้านการแสดงโดยตรง และร่วมเข้าเรียนสอนการแสดงที่ Identity School of Acting ใน Hackney
ชีวิตการแสดงจริงจังของเขาเริ่มต้นมาจากซีรีส์เรื่อง Becoming Human ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) กับบทบาท Danny Curtis
และแสดงหนังใหญ่ครั้งแรกในเรื่อง Attack the Block ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) กับบทบาท Moses และทำออกมาได้ดีมาก ๆ ด้วย
และเขาก็ได้แสดงหนัง/ซีรีส์ มาบ้าง ก่อนจะมารับบท Finn เช่นใน Law & Order: UK ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Junkhearths ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Half of a Yellow Sun ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), 24: Live Another Day ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)
เหตุผลที่ J.J. Abrams เลือกเขามารับบทบาท Finn ก็เพราะว่าเขาชอบการแสดงของ Boyega ในหนังเรื่อง Attack the Block ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) และ J.J. เป็นแฟนหนังเรื่องนั้นด้วย
ต้องย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) มีการประชุมบางอย่างขึ้นที่สตูดิโอ Bad Robot ในขณะที่ Boyega กำลังนั่งอยู่ที่ล็อบบี้ เขาก็ได้ J.J. Abrams และ Tom Cruise เดินออกมาจากห้องตัดต่อ และตัวของ J.J. ก็ได้หันมาเห็นเขาพอดีจึงถามไปว่า "นายคือ Boyega ใช่ไหม?" แล้วก็บอกว่าเขาเป็นแฟนตัวยงของหนัง Attack the Block ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) แถมยังกล่าวทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า "เราจะให้นายมาเล่นหนังบางเรื่อง" นั่นแหละทำให้เขาได้มารับบท Finn ใน Star Wars: Episode VII - The Force Awakens ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558)
ในปี ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) เขาได้คว้ารางวัล BAFTA Awards สาขา Rising Star Award หรือนักแสดงดาวรุ่งยอดเยี่ยมด้วย
อาชีพการแสดงของเขาไม่ได้จบแค่ในจักรวาล Star Wars เพราะบทบาทล่าสุดที่เขาได้รับคือการได้แสดงในซีรีส์ Tomorrow's Monsters ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)
Glenn Close เกิดวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 1947 (พ.ศ. 2490) ที่ Greenwich, Connecticut ประเทศอเมริกา
Glenn เริ่มต้นการแสดงจากบทบาทในการเป็นนักแสดงละครเวทีบรอดเวย์ และก้าวมาแสดงซีรีส์เรื่อง Great Performances ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) ตามมาด้วยการแสดงหนังทางทีวีเรื่อง Too Far to Go ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522), Orphan Train ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) และ The Elephant Man ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525)
เธอได้ถูกทาบทามให้ไปรับบท Jenny Fields ในหนังเรื่อง The World According to Garp ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) ได้ร่วมแสดงกับ Robin Williams และจากการแสดงหนังเรื่องแรกในชีวิตของเธอก็ส่งให้เธอเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยมเลยทีเดียว ตามมาด้วยผลงานอย่าง The Big Chill ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) และเพียงเรื่องที่ 2 ก็ยังส่งให้เธอได้เข้าชิงรางวัลออสการ์อีกเช่นกัน และหลังจากนั้นเธอก็ได้เข้าชิงออสการ์อีกมากมาย แต่น่าเสียดายที่เธอไม่เคยคว้ารางวัลได้แม้แต่ครั้งเดียว มารอดูกันว่าในปีนี้กับ Hillbilly Elegy ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) จะสามารถส่งให้เธอคว้ารางวัลออสการ์แรกมาครองได้มั้ย จากการเข้าชิงมาทั้งหมด 8 ครั้ง
[NOMINEE]
- The World According to Garp ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525)
- The Big Chill ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526)
- The Natural ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527)
- Fatal Attraction ค..ศ. 1987 (พ.ศ. 2530)
- Dangerous Liaisons ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531)
- Albert Nobbs ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554)
- The Wife ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560)
- Hillbilly Elegy ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)
ส่วนบนเวทีลูกโลกทองคำก็ไม่น้อยหน้า เพราะเธอคว้าไป 3 ครั้ง จากการเข้าชิงทั้งหมด 15 ครั้ง
[WINNER]
- The Lion in Winter ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546)
- Damages ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550)
- The Wife ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560)
[NOMINEE]
- Something About Amelia ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527)
- Maxie ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528)
- Fatal Attraction ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530)
- Sarah, Plain and Tall ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534)
- Serving in Silence: The Margarethe Cammermeyer Story ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538)
- 101 Dalmatians ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539)
- The Shield ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)
- Damages ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) x2
- Albert Nobbs ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) x2
- Hillbilly Elegy ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)
หนึ่งในนักแสดงหญิงของวงการ Hollywood ที่เข้าชิงรางวัลมากมาย แต่น่าเสียดายที่เธอไม่ได้คว้ามามากมายอย่างที่เข้าชิง แต่ถึงจะอย่างนั้นการแสดงของเธอก็ยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย
Walter Bruce Willis เกิดวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 1955 (พ.ศ. 2498) ที่ Idar-Oberstein แถบ West Germany
Willis มีความสนใจในด้านการแสดงตั้งแต่เด็กๆ เขาจึงเลือกที่จะเข้าเรียนโรงเรียนสอนศิลปะการแสดงในระดับมัธยมปลาย และเขาก็ถูกค้นพบเมื่อตอนทำงานอยู่คาเฟ่แห่งหนึ่งใน New York จนได้มาแสดงละครเวทีบรอดเวย์ 2-3 เรื่อง มันเกิดขึ้นเมื่อตอนเขาเป็นบาเทนเดอร์อยู่คืนหนึ่ง และได้มีผู้กำกับคนหนึ่งชอบบุคคลิกท่าทางของเขาและต้องการคนมาเล่นบทบาทบาเทนเดอร์ด้วย
หลังจากไปออดิชั่นบทหนังอยู่สักพัก ในที่สุดเข้าก็ได้รับบทในหนังเรื่องนี้ แต่ก็ยังไม่ได้เครดิตสำหรับเรื่องนั้น ก่อนจะได้รับบท David Addison ในซีรีส์รอมคอม Moonlighting ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) และการแสดงจากเรื่องนั้นส่งให้เขาได้รับบทที่กลายมาเป็นที่จดจำของคนทั้งโลกกับบท "บุรุษตายยาก" หรือ John McClane ในเรื่อง Die Hard ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531)
หลังจากนั้นก็มีภาคต่อออกมามากมาย Die Hard 2 ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533), Die Hard with a Vengeance ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538), Live Free or Die Hard ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), A Good Day to Die Hard ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) และในอนาคตมีข่าวลือว่าเราอาจได้เห็นการกลับมาของ John McClane ในหนัง McClane เนี่ยแหละ
แน่นอนว่ายังมีอีกหลายบทบาทที่น่าจดจำ เช่นการให้เสียงพากย์ Mikey เด็กทารกในหนังครอบครัว Look Who's Talking ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) และในภาคต่อ Look Who's Talking Too ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533), The Bonfire of the Vanities ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) และ Hudson Hawk ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534), The Last Boy Scout ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534), Death Becomes Her ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), Striking Distance ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536)
เจ้าตัวเคยร่วมงานกับผู้กำกับมือดีมากมาย ไม่ว่าจะในหนังของ Quentin Tarantino กับเรื่อง Pulp Fiction ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537), ในหนังของ Terry Gilliam เรื่อง Twelve Monkeys ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) หนังของ Luc Besson เรื่อง The Fifth Element ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) และหนังของ M. Night Shyamalan เรื่อง The Sixth Sense ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ที่นับว่าเป็นหนังหักมุมสุดคลาสสิคตลอดกาลเลยทีเดียว แถมในปีต่อมาก็เล่นหนังของผู้กำกับคนเดียวกันในหนังฮีโร่ Unbreakable ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) และเรื่องนี้ก็ได้กลายเป็นไตรภาคกับ Split ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) และ Glass ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)
เขายังคงแสดงหนังมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงตอนนี้เขาได้แสดงมาแล้วกว่า 130 เรื่อง และในอนาคตยังมีผลงานของเขาให้เราได้เห็นอีกมากมาย ทั้ง Out of Death ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Apex ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), American Siege ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Midnight in the Switchgrass, Gasoline Alley, Reactor, Killing Field และข่าวลือว่าเขาจะกลับมารับบท John McClane ในหนัง McClane
เขาเคยได้คว้ารางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากซีรีส์ประเภทตลกหรือเพลงจากเรื่อง Moonlighting ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) เคยเข้าชิงอีก 2 ครั้งจากเรื่องเดียวกัน และอีกครั้งจากบทบาทสมทบในเรื่อง In Country ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532)
ล่าสุดในปี ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) เจ้าตัวก็ได้ประกาศอำลาวงการ เนื่องจากปัญหาสุขภาพจากโรค Aphasia เกี่ยวกับทางด้านสมอง ส่งผลให้เขามีปัญหาด้านการสื่อสาร
Gary Leonard Oldman เกิดวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ. 1958 (พ.ศ. 2501) ที่ New Cross, London ประเทศอังกฤษ
เขาได้รับทุนการศึกษาให้เข้าเรียนที่โรงเรียนสอนการแสดงที่ Rose Bruford Drama College และในระหว่างที่อยู่ที่นั่นทำให้เขาได้ปรากฏในงานแสดงมากมายหลายครั้งพร้อมคว้ารางวัลมาอีกมากมาย แต่ในระหว่างนั้นเขาก็ยังทำงานเป็นคนขายรองเท้าและตัดหัวหมู เพื่อประคองอาชีพการแสดงด้วย
เขาเปิดตัวครั้งแรกกับหนังเรื่อง Remembrance ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) แต่บทที่ทำให้หลายคนรู้จักและจดจำเขาคือบทบาท Sid Vicious ในหนังชีวประวัติเรื่อง Sid and Nancy ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) ทำให้เขาได้รับรางวัล Evening Standard Film Award as Best Newcomer
หลังจากนั้นเขาก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก BAFTA สำหรับบท Joe Orton ในเรื่อง Prick Up Your Ears ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530)
ในปี ค.ศ. 1990s (พ.ศ. 2533-2542) เขาโลดแล่นอยู่ในวงการและได้แสดงผลงานอีกมากมายหลายเรื่อง ทั้ง JFK ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534), Dracula ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), True Romace ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536), Léon ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537), Immortal Beloved ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537), The Fifth Element ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540), Air Force One ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540),
ความดังของเขาเรียกได้ว่ามาอย่างต่อเนื่อง เขาได้รับบทที่หลายคนก็ต้องรู้จักแน่นอน กับ Sirius Black ปรากฏตัวครั้งแรกใน Harry Potter and the Prisoner of Azkaban ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) และโลดแล่นในแฟรนไชส์อีก 2 ภาค Harry Potter and the Goblet of Fire ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) และ Harry Potter and the Order of the Phoenix ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550)
เขาเคยร่วมงานกับผู้กำกับฝีมือดีอย่าง Christopher Nolan ในไตรภาค Batman กับบทบาท James Gordon นับตั้งแต่ Batman Begins ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), The Dark Knight ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) และ The Dark Rises ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) และการแสดงบทบาท James Gordon ของเขานั้น ได้มีนักวิจารณ์คนหนึ่ง Mark Kermode เขียนเอาไว้ว่า
การแสดงที่ดีที่สุดในหนังเรื่องนี้คือ Gary Oldman มันเป็นอะไรที่ดีมากที่ได้เห็นเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล เพราะจริงๆ แล้วเขาคือคนที่อยู่เหนือทุกอย่างในหนังเรื่องนี้เลย
เขายังรับงานแสดงมาอย่างมากมายหลายบทบาทต่อเนื่อง A Christmas Carol ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), Book of Eli ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Red Riding Hood ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Kung Fu Panda 2 ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Tinker Tailor Soldier Spy ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) ส่งให้เขาเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งแรกในชีวิต, Dawn of the Planet of the Apes ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), RoboCop ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)
แต่บทบาทที่ถือว่าเป็นการแสดงอันยอดเยี่ยมที่สุดของเขาคือบทบาท Winston Churchill ในเรื่อง Darkest Hour ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) ที่ส่งให้เขาคว้ารางวัลออสการ์ควบรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
และล่าสุดกับผลงาน Mank ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ที่ส่งให้เข้าได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำแต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถคว้ารางวัลไปได้ และได้เข้าชิงบนเวทีออสการ์ด้วย
Laura Jeanne Reese Witherspoon เกิดวันที่ 22 มีนาคม ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519) ที่ New Orleans, Louisiana ประเทศอเมริกา
Reese ได้เข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่อเธออายุได้ 7 ปี เธอเริ่มเป็นนางแบบ มันนำให้เธอได้ไปแสดงในโฆษณาต่าง ๆ ทางทีวี และเมื่ออายุได้ 11 ปี เธอก็ได้รางวัลที่ 1 ในการประกวดความสามารถด้วย
ในปี ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) เธอได้มารับบทหลักครั้งแรกในหนังของ Robert Mulligan เรื่อง The Man in the Moon ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) ตามมาด้วยบทบาทที่ใหญ่ขึ้นใน Jack the Bear ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) และ A Far Off Place ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536)
หลังจากเรียนจบในปี ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) Reese ก็ได้ตัดสินใจก้าวเข้าสู่วงการแสดงอย่างเต็มตัวและเข้าเรียนระดับมหาลัยที่ Stanford University แต่ชีวิตในมหาลัยเธอก็ช่างสั้นเสียเหลือเกิน เมื่อเธอตกลงรับบทในหนัง 2 เรื่อง Fear ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) และ Freeway ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) ซึ่งทั้งสองเรื่องประสบความสำเร็จไม่น้อยบน Box-office จนทำให้ชื่อเสียงของเธอเริ่มมากขึ้นกลายเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่น่าจับตามองแห่งวงการ Hollywood และมันก็เปิดโอกาสให้เธอได้รับบทบาทที่มากขึ้นและใหญ่ขึ้น เช่น Pleasantville ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541), Election ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ซึ่งในเรื่องนี้ส่งให้เธอเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งแรกอีกด้วย และ Cruel Intentions ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542)
บทบาทแจ้งเกิดของ Reese จริง ๆ คือการมารับบทในหนังเรื่อง Legally Blonde ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) ตัวหนังทั้งประสบความสำเร็จในด้านรายได้และคำวิจารณ์ จนมันส่งให้ตัวเธอกลายเป็นดาราชั้นนำแห่งวงการ Hollywood ไปเลย แถมยังส่งให้เธอเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำเป็นครั้งที่ 2
หลังจากนั้นเราก็ได้เห็น Reese ในเรื่อง Sweet Home Alabama ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) และฝากผลงานอันยยอดเยี่ยมสุด ๆ เอาไว้ใน Walk the Line ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) ที่การแสดงของเธอส่งให้เธอคว้ารางวัลลูกโลกทองคำควบรางวัลออสการ์เลยทีเดียว
ตามมาด้วยผลอีกมากมายของ Reese ไม่ว่าจะเป็น Four Christmases ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Monsters vs. Aliens ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), This Means War ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Wild ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) ส่งให้เธอเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำและลูกโลกทองคำ, Sing ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), ซีรีส์ Big Little Lies ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) ส่งให้เธอเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ และ The Morning Show ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ส่งให้เธอเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีกครั้ง
เธอจะกลับมารับบท Elle Woods ใน Legally Blonde 3 ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566) อีกด้วย
Constance Tianming Wu เกิดวันที่ 22 มีนาคม ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) ที่ Richmond, Virginia ประเทศอเมริกา
Wu ชื่นชอบการแสดงมาตั้งแต่ยังเด็ก ได้เข้าเรียนสอนการแสดงที่โรงละครในระแวกบ้าน และเมื่ออายุได้ 16 ปี เธอก็ย้ายมายัง New York เพื่อเข้าเรียนการแสดงที่ Lee Strasberg Theatre Institute และเธอก็ดูไม่ว่างเลยนับตั้งแต่นั้น เธอได้เล่นละครเวทีหลายเรื่องและได้ก้าวมาเล่นหนังอย่างรวดเร็ว
การปรากฏตัวครั้งแรกในหนังของ Wu คือเรื่อง Stephanie Daley ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) และ Year of the Fish ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) ที่เข้าฉายในงานเทศกาลหนัง Sundance Feature Films
ในปี ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) Wu ได้ย้ายมายังนครแห่งดารา Los Angeles เพื่อแสวงหาโอกาสในงานแสดงมากขึ้น และจากประสบการณ์ทั้งละครเวทีบวกกับเคยเล่นหนังมา ก็ทำให้เธอได้รับบทในเรื่อง Sound of My Voice ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) เรื่องนี้ก็ยังคงเข้าฉายในงานเทศกาลหนัง Sundance เช่นกัน
หลังจากนั้นผลงานของ Wu ก็ยังมีมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีผลงานเด่น ๆ เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) เธอได้ถูกทาบทามให้ไปแสดงในซีรีส์ของช่อง ABC เรื่อง Fresh Off the Boat ค.ศ. 2015-2020 (พ.ศ. 2558-2563) ตามมาด้วยผลงานอีกมากมาย
แต่บทบาทที่ทำให้ใครหลายคนรู้จัก Wu คือการมารับบทเป็นหญิงสาวผู้โชคดี Rachel Chu ที่ได้เดทกับมหาเศรษฐีหนุ่มสิงคโปร์ Nick Young ที่แสดงโดย Henry Golding ในเรื่อง Crazy Rich Asians ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) ที่การแสดงเรื่องนี้ของเธอส่งให้เธอได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งแรกในชีวิต
Keira Christina Knightley เกิดวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) ที่ Teddington, Middlesex ประเทศอังกฤษ
เธอมีพ่อเป็นนักแสดง และแม่เป็นนักแสดงที่ผันตัวมาเป็นนักเขียนบท เธอจึงได้รับทักษะทั้งด้านการแสดงและเขียนบทมาเต็ม ๆ เธอขอให้พ่อแม่เธอหาผู้จัดการส่วนตัวให้ตั้งแต่อายุเพียง 3 ปี เท่านั้น
จนกระทั่งเธอได้รับงานแสดงครั้งแรกตั้งแต่เธออายุ 6 ปี กับบทบาททาง TV เรื่อง Screen One: Royal Celebration ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536)
เธอได้รับงานแสดงมาอย่างต่อเนื่องทั้ง A Village Affair ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538), Coming Home ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538), The Treasure Seekers ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539)
แต่ชื่อของเธอเป็นที่รู้จักทั่วโลกเมื่อเธอได้รับบทในแฟรนไชส์สงครามแห่งดวงดาวของ George Lucas เรื่อง Star Wars: Episode I - The Phantom Menace ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) เธอเล่นเป็นตัวหลอกของ Padme
เธอไม่เคยได้เข้ารับการฝึกการแสดงแบบจริง ๆ จัง ๆ เลยแม้แต่ครั้งเดียว ทุกบทที่เธอแสดงมันออกมาจากอินเนอร์ล้วนๆ แต่ความสามารถของเธอก็ล้นเหลือจริงๆ เพราะเธอยังคงได้รับงานแสดงอีกมากมาย ทั้ง Charles Dickens' Oliver Twist ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542), The Wonderful World of Disney: Princess of Thieves ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), The Hole ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Thunderpants ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545),
ซึ่งในเรื่อง The Hole จริง ๆ มันพร้อมปล่อยฉายตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) แต่ตอนที่เธอแสดงมีอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น แถมยังมีฉากเปลือยของเธอในเรื่องนั้นด้วย แต่หนังยังไม่เข้าฉายเพราะต้องรอจนกระทั่งเธออายุ 16 ปีเสียก่อน
เธอได้แสดงหนังเรื่อง Bend It Like Beckham ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) ที่ตัวหนังก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จในด้านคำวิจารณ์สักเท่าไหร่ แต่มันทำรายได้ไปไม่น้อยเลยเพราะทุนสร้าง 3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (114 ล้านบาท) แต่ทำรายได้ในอังกฤษไป 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (358 ล้านบาท) และทำรายได้ทั่วโลกไป 76 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว (2,476 ล้านบาท)
ชีวิตการแสดงของเธอยังคงรุ่งเรืองมาก ๆ เธอได้รับบทอีกมากมาย เช่น Bridget Jones's Diary ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Pure ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), The Seasons Alter ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), New Year's Eve ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), , Doctor Zhivago ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), Love Actually ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546)
จนกระทั่งมาอีกหนึ่งบทบาทที่ส่งให้เธอโด่งดังอีกครั้ง กับบท Elizabeth Swann ใน Pirates of the Caribbean: The Cures of the Black Pearl ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) เธอสวยจริงๆ ในบทนั้น และรับบทบาทนั้นมาตลอด จนจบแฟรนไชส์ไป
หลังจากนั้นเธอก็กลายเป็นหนึ่งในนักแสดงชั้นแนวหน้าของวงการ Hollywood เรียกได้เลยว่านับตั้งแต่นั้นทุกปีเราต้องได้เห็นหนังของเธอ 1 เรื่องต่อปีเลยทีเดียว และมันก็เป็นเช่นนั้นลากยาวมาจนปัจจุบัน
อีกหนึ่งบทบาทที่เราประทับใจในตัวเธอคือบทบาท Gretta ใน Begin Again ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) ที่เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเธอร้องเพลงโคตรเพราะ แถมเธอไม่เคยเล่นกีตาร์ด้วย ซึ่งก่อนถ่ายทำเรื่องนี้เธอต้องไปซ้อมกีตาร์มาจริง ๆ เพื่อใช้แสดงในเรื่อง
และบทบาทที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นานกับบทบาท Katharine Gun เรื่อง Official Secrets ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) หนังการเมืองโคตรลุ้นระทึก และเธอแสดงได้โคตรดีเกินคาดมากจริง ๆ
น่าเสียดายถึงแม้เธอจะแสดงมากมายและมีความสามารถมากแค่ไหน มันก็ไม่สามารถส่งให้เธอคว้ารางวัลบนเวทีใหญ่อย่างลูกโลกทองคำและออสการ์ได้ ทำได้แต่เพียงเข้าชิงเท่านั้น
[OSCAR NOMINEE]
- Pride & Prejudice ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548)
- The Imitation Game ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)
[GOLDEN GLOBES NOMINEE]
- Pride & Prejudice ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548)
- Atonement ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550)
- The Imitation Game ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)
Quentin Jerome Tarantino เกิดวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 1963 (พ.ศ. 2506) ที่ Knoxville, Tennesse ประเทศอเมริกา
เขาคือผู้กำกับที่ได้ลั่นวาจาไว้ว่าชีวิตนี้จะกำกับหนังของตัวเองแค่ 10 เรื่องเท่านั้น และตอนนี้ก็ผ่านไป 9 เรื่องแล้ว...แฟน ๆ หลายคนคงจะคิดถึงหนังสไตล์จัดจ้านของเฮียแกและเฝ้ารอเรื่องสุดท้ายของเขาแน่นอน
แต่ก่อนที่เขาจะเป็นผู้กำกับ เขาเคยเป็นพนักงานร้านเช่าวิดีโอด้วย ชื่อร้านว่า Video Archives ที่ Manhattan Beatch, California ในช่วงปี ค.ศ. 1985-1990 (พ.ศ. 2528-2533) เขากลายเป็นผู้รอบรู้เรื่องหนังในระแวกนั้นไปเลย เพราะเขาใช้เวลาหลังร้านปิดนั่งดูหนังทั้งหมดที่อยู่ในร้านนั้นทุกวันๆ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมเขากลายมาเป็นผู้กำกับชื่อดังที่มากไปด้วยทักษะและความสามารถขนาดนี้
ในปี ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) เขาได้มากำกับหนังเรื่องแรกในชีวิตกับ My Best Friend’s Birthday ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) ตามมาด้วยผลงานการเขียนบทและกำกับเรื่องแรกอย่าง Reservoir Dogs ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ที่ได้เข้าฉายในงานเทศกาลหนัง Sundance Film Festival จนได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากมาย กลายเป็นหนังแจ้งเกิดให้กับ Tarantino ไปเลย
หลังจากนั้น 2 ปีต่อมา ก็ได้คลอดผลงานอันยอดเยี่ยมอย่าง Pulp Fiction ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) ที่ได้เข้าฉายที่งานเทศกาลหนัง Cannes Film Festival และได้คว้ารางวัลปาล์มทองคำ แถมยังคว้ารางวัลออสการ์ 1 สาขา (Best Writing) จากการเข้าชิงทั้งหมด 2 สาขา (Best Director) บนเวทีลูกโลกทองคำก็ได้คว้า 1 สาขา (Best Screenplay) จากการเข้าชิงทั้งหมด 2 สาขาเช่นกัน (Best Director)
หลังจากนั้นเขาก็กลายมาเป็นผู้กำกับชั้นแนวหน้าของวงการ Hollywood ที่มีแต่คนเฝ้ารอคอยผลงานของเขา และคลอดหนังสร้างชื่ออีกมากมายทั้ง Jackie Brown ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540), Kill Bill: Vol. 1-2 ค.ศ. 2003-2004 (พ.ศ. 2546-2547), Death Prrof ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Inhlourious Basterds ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) ตัวเขาเข้าชิงรางวัลออสการ์ 2 สาขา และเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 2 สาขา, Kill Bill: The Whole Bloody Affair ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Django Unchained ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) ตัวเขาคว้ารางวัลออสการ์ 1 สาขาและคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ 1 สาขาจากการเข้าชิง 2 สาขา, The Hateful Eight ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 1 สาขา และผลงานล่าสุด Once Upon a Time...In Hollywood ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) เข้าชิงรางวัลออสการ์ 3 สาขา และคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ 1 สาขา จากการเข้าชิงทั้งหมด 2 สาขา
หนึ่งในผู้กำกับที่มีเอกลักษณ์จัดจ้านและชัดเจน - Quentin Tarantino
Vincent Anthony Vaughn เกิดวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513) ที่ Minneapolis, Minnesota ประเทศอเมริกา
Vince มีความสนใจในหนังเมื่อตอนเขาได้ไปปรากฏตัวในโฆษณาของ Chevy ทำให้ในปี ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) เขาได้ย้ายมายัง Hollywood เพื่อสานต่อความฝันนั้น และเขาก็ยังคงปรากฏใน Spot โฆษณาอีกหลายตัว แต่เป้าหมายของเขาจริง ๆ คืออยากเล่นหนัง
และเขาก็ทำสำเร็จ เมื่อเขาได้รับเครดิตครั้งแรกกับหนังเรื่อง Rudy ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) นั่นคือหนังที่ทำให้เขาได้เป็นเพื่อนกับ Jon Favreau
ต่อมาเขาได้ไปแสดงหนังในเรื่อง Swingers ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) ที่เพื่อนของเขา Jon Favreau ได้เขียนบทมาเพื่อให้เขาเล่นโดยเฉพาะ ตอนแรกเขานึกว่าเป็นแค่เพื่อนมีน้ำใจเท่านั้น แต่มันไม่ใช่ เพราะหนังเรื่องนี้เปลี่ยนชีวิตการแสดงเขาไปเลยทีเดียว
หลังจากความสำเร็จในเรื่องนั้นทำให้ Steven Spielberg ได้เห็นแววการแสดงของเขา และชวนให้เขามารับบทใน The Lost World: Jurassic Park ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540)
แน่นอนว่าหลังจากเรื่องนั้นมันยกระดับเขาไปอีกครั้ง เขากลายเป็นดาราหนังเต็มตัวแล้ว เขาสามารถเลือกบทที่เขาจะเล่นได้ด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกในชีวิต ไม่ว่าจะเป็น A Cool, Dry Place ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541), Return to Paradise ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541), Clay Pigeons ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541), Old School ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Dodgeball: A True Underdog Story ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Wedding Crashers ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Couples Retreat ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), The Watch ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), The Internship ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Delivery Man ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), ซีรีส์ True Detective ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Hacksaw Ridge ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Fighting with My Family ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และล่าสุดกับผลงานพล็อตล้ำสนุก ๆ Freaky ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)
หนังที่เขาเล่นส่วนมากมักจะเป็นหนังคอเมดี้ อาจจะไม่ได้ตลกเล่นใหญ่แบบ Jim Carrey หรือแบบ Adam Sandler แต่ในหลาย ๆ เรื่องก็สร้างภาพจำให้กับหลายคนได้เหมือนกัน
Julia O'Hara Stiles นักแสดงสุดมีเสน่ห์ ผมบลอนด์และรอยยิ้มพิมพ์ใจ เกิดวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524) ที่ New York ประเทศอเมริกา
Stiles สนใจการแสดงมาตั้งแต่เด็ก ๆ เธอได้แสดงละครเวทีเรื่อง Shakespeare และเมื่อเธออายุได้ 11 ปี เธอได้ร่วมแสดงละครเวที off-Broadway ที่โรงละคร La Mama Theatre และความหลงไหลทางการแสดงของเธอก็ส่งให้เธอได้มีโอกาสเป็นนักแสดงมืออาชีพและทำงานทางด้านวงการโฆษณาอย่างรวดเร็ว
Stiles เคยเกือบได้รับบท Claudia ในเรื่อง Interview with the Vampire: The Vampire Chronicles ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) แต่เสียบทให้กับ Kristen Dunst แต่เธอก็ยังคงไล่ล่าความฝันการเป็นนักแสดง เธอได้เข้าฝึกที่ New York's Professional Children's School และเมื่ออายุได้ 15 ปี เธอก็ได้เล่นหนังเรื่องแรกในชีวิต I Love You, I Love You Not ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539)
หลังจากนั้นเราก็ได้เห็นผลงานของเธอมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง The Devil's Own ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540), Before Women Had Wings ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540), 10 Things I Hate About You ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2541), Hamlet ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543), O ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), The Bourne Identity ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), The Bourne Supremacy ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), The Bourne Ultimatum ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Between Us ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), It's a Disaster ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Blackway ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Jason Bourne ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Hustlers ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และผลงานล่าสุดซีรีส์ Riviera ค.ศ. 2017-2020 (พ.ศ. 2560-2563)
ผลงานการแสดงที่นับว่ายอดเยี่ยมที่สุดของเธอเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) กับซีรีส์เรื่อง Dexter ในบทบาท Lumen Ann Pierce ที่ส่งให้เธอเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำและ Primetime Emmy Awards อีกด้วย
Lady Gaga มีชื่อแต่กำเนิดว่า Stefani Joanne Angelina Germanotta เกิดวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) ที่ Manhattan, New York ประเทศอเมริกา
Gaga มีความสนใจในการร้องเพลงและได้เริ่มเล่นเปียโนตั้งแต่ยังเด็ก จนเธออายุได้ 14 ปี เธอได้ไปแสดงในคลับและบาร์แห่งหนึ่ง
และพออายุได้ 17 ปี เธอก็ได้มีโอกาสเข้าไปเรียนมหาวิทยาลัยเร็วกว่าคนอื่น เธอเข้าเรียนที่ New York University's Tisch School of the Arts ซึ่งที่นั่นทำให้เธอมีทักษะทางด้านการเขียนมากมาย ทั้ง เพลง, เรียงความและเอกสารเชิงวิเคราะห์เกี่ยวกับศิลปะศาสนา, ประเด็นทางสังคมและการเมือง
Gaga วัย 19 ปี ได้ออกจากการเรียนกลางคันเพื่อไปไล่ล่าความฝันการเป็นนักดนตรี ซึ่งช่วงเวลานั้นเธอก็ได้ตั้งวงดนตรีขึ้นมาและได้รับความสนใจจากคนในท้องถิ่นไม่น้อยเลย
จนในที่สุดความสามารถของเธอก็ไปเตะตาแมวมอง Rob Fusari และได้ตั้งชื่อใหม่ให้เธอว่า Gaga ในเวลาต่อมาก็ได้จับเธอเซ็นสัญญาในปี ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) กับค่าย Def Jam Records แต่หลังจากนั้นเพียง 3 เดือนเธอก็โดนค่ายไล่ออก
Gaga ผู้น่าสงสารก็กลับมาบ้านและได้เริ่มทดลองทำอะไรต่าง ๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเต้นอะโกโก้ในบาร์ และอีกมากมาย
ต่อมาเธอได้มีโอกาสไปแสดงที่ Lollapalooza Festival ในปี ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) หลังจากการแสดงนั้นเธอก็ได้ถูกจับเซ็นสัญญาโดย Vince Herbert กับค่าย Streamline Records ในฐานะนักเขียนเพลงฝึกงาน ไม่นาน Gaga ก็ได้มีโอกาสเขียนเพลงให้ Britney Spears, Fergie และ Pussycat Dolls
แต่นอกเหนือจากความสามารถในการเขียนเพลงของเธอ Akon ก็ได้เล็งเห็นว่าเธอมีเสียงร้องที่น่าทึ่งมาก ๆ จึงชักชวนให้เธอมาไกด์เสียงให้อัลบั้มนึงของเขา จนภายหลังเขาโน้มน้าวทางค่ายให้เซ็นสัญญาเธอมาเป็นศิลปินในค่าย
และในปี ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) Gaga ก็ได้ปล่อยอัลบั้มแรกออกมาในชื่อ The Fame ได้เริ่มออกทัวร์และเล่นคอนเสิร์ตบ้าง แต่จุดเปลี่ยนของเธอที่ทำให้กลายเป็นที่รู้จักระดับโลกคือเพลง Just Dance ในปี ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) นับตั้งแต่นั้นชื่อของเธอก็ก้าวขึ้นมาเรื่อย ๆ จนกลายเป็นแนวหน้าแห่งวงการเพลงไปเลย เต็มไปด้วยผลงานคุ้นหูคุ้นตามากมายทั้ง Paparazzi, Loveame, Poker Face, Bad Romance, Telephone, Alejandro, Born This Way และอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้ชื่อเธอดังระดับโลก
แต่นอกเหนือจากโลกดนตรีแล้ว Gaga ยังมีผลงานทางด้านการแสดงที่ไม่ธรรมดา เธอได้เริ่มแสดงหนังครั้งแรกในหนังของ Robert Rodriguez เรื่อง Machete Kills ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) ตามมาด้วย Sin City: A Dame to Kill For ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), ซีรีส์ American Horror Story ค.ศ. 2015-2016 (พ.ศ. 2558-2559) ที่ส่งให้เธอคว้ารางวัลลูกโลกทองคำด้วย
และผลงานทางการแสดงล่าสุดของ Gaga คือบทบาทใน A Star Is Born ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) ที่ได้ร่วมงานกับ Bradley Cooper เธอได้แสดงเอาไว้อย่างยอดเยี่ยมจนส่งให้เธอคว้ารางวัลออสการ์ 1 สาขา (Original Song) และเข้าชิงอีก 1 สาขา (Best Performance by an Actress in a Leading Role) เช่นเดียวกันกับบนเวทีลูกโลกทองคำ ที่คว้าไป 1 สาขา (Original Song) และเข้าชิงอีก 1 สาขา (Best Performance by an Actress in a Motion Picture - Drama)
Gaga ยังคงมีผลงานให้ตามกันอย่างต่อเนื่อง ในบท Patrizia Reggiani จากเรื่อง House of Gucci ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)
Ewan Gordon McGregor เกิดวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) ที่ Perth, Perthshire, Scotland
เมื่ออายุ 16 เขาออกจากโรงเรียนเพื่อไปเข้าร่วมฝึกฝนการแสดงกับโรงละคร และหลังจากนั้นเขาก็เข้าเรียนที่โรงเรียน และมหาวิทยาลัยสอนการแสดงมาตลอด
จนกระทั่งเขาได้รับบทบาทแรกกับซีรีส์เรื่อง Lipstick on Your Collar ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) แต่บทบาทแรกที่เขาโดดเด่นจริงๆ คือบทบาท Alex Law ในเรื่อง Shallow Grave ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) ที่กำกับโดย Danny Boyle และจากบทบาทนี้ก็ทำให้เขาได้เล่นหนังเรื่อง The Pillow Book ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) และตัวของ Danny Boyle ก็ชักชวนเขาไปแสดงในเรื่อง Trainspotting ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) ซึ่งทั้งสองเรื่องนั้นก็ทำให้ชื่อและการแสดงของเขาเริ่มติดหูติดตาหลายคนแล้ว
อีกหนึ่งบทบาทที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวเลยก็ว่าได้ คือบทบาท Obi-Wan Kenobi ในไตรภาค Star Wars (Ep. 1-3) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542)
หลังจากนั้นก็นับว่าเป็นใบเปิดทางในอาชีพการแสดงของเจ้าตัวเลยก็ว่าได้ เพราะเขาได้รับบทอีกมากมาย ทั้ง Black Hawk Down ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), The Island ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Deception ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Angels & Demons ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), The Impossible ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), A Million Ways to Die in the West ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Jane Got a Gun ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), T2 Trainspotting ึค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Beauty and the Beast ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Christopher Robin ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Doctor Sleep ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Birds of Prey ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และผลงานล่าสุด Staged ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)
เขาเคยเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 3 ครั้ง จากเรื่อง Moulin Rouge! ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Salmon Fishing in the Yemen ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) และ Fargo ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) แต่เคยคว้าไปได้ครั้งเดียวจากซีรีส์เรื่อง Fargo ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)
และเข้าชิงรางวัล Primetime Emmy Awards อีก 3 ครั้ง จาก ER ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537), Highlands: Scotland's Wild Heart ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) และ Fargo ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)
ถึงแม้บทบาท Obi-Wan Kenobi จะจบชะตาไปแล้วในแฟรนไชส์ Star Wars แต่เขายังกลับมารับบทบาทเดิมในซีรีส์เดี่ยวของ Obi-Wan Kenobi ทางช่อง Disney+ ด้วย
|
สบายสบายให้มันสมายเวลาสบายแล้วจะได้สบายสมาย... :) |