ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
THAIWARE.COM | ทิปส์ไอที
 

Frame Rate กับ Refresh Rate คืออะไร ? และ แตกต่างกันอย่างไร ?

Frame Rate กับ Refresh Rate คืออะไร ? และ แตกต่างกันอย่างไร ?

เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 41,075
เขียนโดย :
0 Frame+Rate+%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A+Refresh+Rate+%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0+%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

Frame Rate กับ Refresh Rate คืออะไร ? และ แตกต่างกันอย่างไร ?

คำว่า "Frame Rate" และคำว่า "Refresh Rate" สองคำนี้ มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน และมักถูกสับสนว่ามันเป็นสิ่งที่เหมือนกัน สามารถใช้คำนี้แทนกันได้ แต่นั่นเป็นความเข้าใจที่ผิดนะ หากคุณต้องการเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์ในการเล่นเกมให้ดียิ่งขึ้น หรืออยากอัปเกรดฮาร์ดแวร์ คุณควรจะทำความเข้าใจกับสองคำนี้ให้มากขึ้น และเรียนรู้ว่ามันมีความสัมพันธ์กันอย่างไร

บทความเกี่ยวกับ Frame Rate อื่นๆ

ในบทความนี้เราก็จะมาอธิบายว่า Frame Rate คืออะไร ? และ Refresh Rate คืออะไร ? เพื่อเปรียบเทียบให้คุณผู้อ่านเข้าใจมากขึ้น

เนื้อหาภายในบทความ

Frame Rate คืออะไร ?

Frame Rate คือ จำนวนภาพ หรือเรียกว่า "Frame" ที่แสดงผลบนหน้าจอ ขออนุญาตอธิบายเพิ่มเติม เผื่อคุณผู้อ่านบางท่านไม่รู้หลักการทำงานของวิดีโอ ภาพเคลื่อนไหวที่เราเห็นเวลารับชมวิดีโอ มันเกิดจากการที่ภาพนิ่ง (Frame) สลับเปลี่ยนไปมาด้วยความเร็วสูง เวลาที่มองไปที่ภาพที่ถูกสลับไปมาดังกล่าว สายตาของมนุษย์จะไม่สามารถติดตามความเร็วนั้นได้ทัน ทำให้มองเห็นเป็นภาพเคลื่อนไหว

หน่วยของ Frame Rate จะเรียกว่า Frames Per Second (FPS) โดยค่า FPS จะหมายถึงจำนวนภาพที่ปรากฏต่อวินาที จำนวนภาพยิ่งเยอะ ภาพเคลื่อนไหวที่เรามองเห็นก็ยิ่งมีความลื่นไหลมากยิ่งขึ้น

ลองรับชมวิดีโอด้านล่างนี้ เพื่อเปรียบเทียบวิดีโอที่เล่นบน 60 FPS, 30 FPS, 15 FPS และ 8 FPS ตอนรับชมอย่าลืมปรับ ค่าความละเอียดหน้าจอเป็น 1080p ล่ะ


วิดีโอจากช่อง https://www.youtube.com/channel/UCNINjNfUDxe8vFWTbJm7YLA

โดย Frame Rate เป็นคำที่ใช้กันทั่วไปเมื่อกล่าวถึงวิดีโอเกม 30 FPS เป็น ตัวเลขขั้นต่ำที่ยอมรับได้สำหรับการเล่นเกม (โดยเฉพาะสำหรับเครื่องเกมคอนโซล) ในขณะที่ 60 FPS เป็นตัวเลขแนะนำ (หากเป็นไปได้) อย่างเครื่อง PlayStation 4 นี่ก็รองรับเพียง 30 FPS เพิ่งจะเพิ่มเป็น 60 FPS ใน Playstation 4 Pro ส่วนเครื่องเกมรุ่นล่าสุดอย่าง Playstation 5 ได้ขยับเป็น 120 FPS เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม Frame Rate ไม่ได้เกี่ยวข้องแค่วงการเกมเท่านั้น  มันยังมีส่วนพัวพันกับรูปแบบวิดีโออีกด้วย อย่างภาพยนตร์ และรายการโทรทัศน์ส่วนใหญ่ จะถ่ายทำที่ 24 FPS เนื่องจากข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีในอดีตที่ฟิล์มมีราคาแพง ซึ่ง 24 FPS เป็นค่าที่น้อยที่สุดที่รับได้ มี Frame Rate มากพอที่จะไม่ทำให้วิดีโอดูกระตุก

ปัจจุบันนี้ การถ่ายทำส่วนใหญ่ก็ยังคงยึดติดกับ 24 FPS อยู่ แม้ว่าความจริงจะสามารถถ่ายทำที่ FPS สูงกว่านั้นได้แล้ว เนื่องจากผู้ชมคุ้นเคยไปกับ FPS ระดับเท่านั้นไปแล้ว แม้จะมีผู้กำกับบางคนทดลองถ่ายภาพยนตร์ออกมาที่ Fram Rate สูงกว่านั้น เช่น เรื่อง The Hobbit นี่ถ่ายที่ 48 FPS ซึ่งก็มีกระแสตอบรับที่ไม่ค่อยดีนัก ลองดูวิดีโอฉากภาพยนตร์ที่ถูกใช้ซอฟต์แวร์เพิ่ม Frame เข้าไปจาก 24 FPS เป็น 60 FPS ได้จากวิดีโอด้านล่างนี้


วิดีโอจากช่อง https://www.youtube.com/channel/UCBvChqIRpwc__y3oS39m3xQ

อนึ่ง งานถ่ายทอดสดประเภทกีฬา มักจะถ่ายทอดสัญญาณที่ 30 FPS เพื่อช่วยให้ติดตามสถานการณ์ได้เห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้น

Refresh Rate คืออะไร ?

Refresh Rate คือ จำนวนครั้งที่หน้าจออัปเดตข้อมูลภาพที่แสดงบนหน้าจอแสดงผล

ในสมัยอดีตที่ใช้ จอตู้แบบ CRT (Cathode Ray Tube) คำว่า Refresh Rate จะหมายถึงจำนวนครั้งที่ Electron Gun ที่อยู่ภายในจอจะยิงลำแสงเพื่อสร้างภาพให้ปรากฏบนหน้าจอ ซึ่งยุคแรก ๆ ที่ค่า Refresh Rate ต่ำ จะส่งผลให้ผู้ใช้งานเห็นหน้าจอกะพริบเป็นแสงสว่างเกิดขึ้นระหว่างช่วงเวลาที่หน้าจอกำลังเปลี่ยน Frame

อย่างไรก็ดี หน้าจอแสดงผลในปัจจุบันได้เปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยี จอแบน LCD (Liquid Crystal Display) แล้ว ซึ่งการแสดงผลจะใช้การเปล่งแสงจากเม็ดพิกเซลที่อยู่ในหน้าจอ โดย Refresh Rate ในปัจจุบันนี้ ก็จะบ่งบอกว่าหน้าจอดังกล่าวสามารถเปลี่ยนภาพที่แสดงผลบนหน้าจอได้เร็วขนาดไหน

อัตราการ Refresh Rate จะใช้หน่วยเป็น Hertz (Hz) โดยหน้าจอแสดงผลในปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่จะแสดงผลที่อัตรา Refresh Rate ได้เป็นอย่างน้อย 60 Hz แต่ก็มีหน้าจอที่มี Refresh Rate สูงกว่านั้นให้เลือกซื้อเช่นกัน โดยจะนิยมใช้งานในการเล่นเกมกันเป็นส่วนใหญ่

สามารถรับชมการแสดงผลบนหน้าจอที่ Hz ได้จากวิดีโอด้านล่างนี้ ใช้หน้าจอ ASUS ROG Swift 360 Hz PG259QNR บันทึกด้วยกล้อง Sony RX100 Va @1000 FPS & 500 FPS, 1/1000 Shutter Speed & ISO 1250


วิดีโอจาก : https://www.youtube.com/channel/UCGBreL63hQZIG3EpOv8ZTCg

Frame Rate กับ Refresh Rate แตกต่างกันอย่างไร ?

ถึงบรรทัดนี้ หากคุณอ่านมาตั้งแต่ต้น ก็น่าจะเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Frame Rate กับ Refresh Rate แล้วแหละ แต่เรามาขยายความกันอีกทีละกัน จะได้อธิบายหลักการทำงานร่วมกันของมันด้วย

Frame Rate คือ จำนวนภาพที่คอมพิวเตอร์, เกมคอนโซล, เครือเล่นวิดีโอ หรืออุปกรณ์อะไรก็ตาม ส่งภาพไปยังจอแสดงผลทุกหนึ่งวินาที ส่วน Refresh Rate คือ ความเร็วที่จอแสดงผลสามารถแสดงภาพได้ภาพได้

สำหรับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คือ ตัวเลขของทั้งสองค่าควรจะเท่ากัน หรืออย่างน้อยก็มีความใกล้เคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น สมมติว่าคอมพิวเตอร์ของคุณส่งภาพ Frame Rate ระดับ 200 FPS ไปให้จอแสดงผล แต่ว่าจอของคุณสามารถแสดงภาพได้เพียง 60 Hz เท่านั้น มันจะทำให้เกิดปัญหาที่เรียกว่า "Screen Tearing" หรือที่คนไทยนิยมเรียกว่าอาการ "จอฉีก" โดยอาการ คือ หน้าจอแสดง Frame ภาพที่แตกต่างกันในเวลาเดียวกัน ทำให้ภาพเหมือนถูกฉีกขาด


อาการ Screen tearing
วิดีโอจาก : https://www.youtube.com/channel/UCqif17xcnejoBb43IQTvBZw

อย่างไรก็ดี มันก็มีทางแก้ปัญหาอยู่ ด้วยการใช้เทคโนโลยี VSync ซึ่งเป็นการตั้งค่าพื้นฐานที่มีในบนคอมพิวเตอร์เกือบทุกเกมอยู่แล้ว มันจะ Sync ค่า FPS ในเกม หรือในการ์ดจอ NVIDIA ก็จะมี G-Sync ส่วน AMD ก็จะเป็น FreeSync โดย VSync, G-Sync หรือว่า FreeSync จะช่วยปรับค่าสัญญาณ FPS ให้เท่ากับ Hz ของจอแสดงผลอัตโนมัติเพื่อป้องกันปัญหาภาพฉีกขาด

แต่ถึงจะแก้ปัญหาภาพฉีกให้ได้ แต่มันก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา คอมพิวเตอร์ปล่อยภาพมา 144 FPS แต่ เล่นบนจอ 60Hz เหมือนซื้อของมาใช้งานได้ไม่คุ้มค่า

Frame Rate และ Refresh Rate ควรตั้งค่าเอาเท่าไหร่ดี ?

ในความเป็นจริง หากคุณไม่ใช่เกมเมอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องค่า Frame Rate และ Refresh Rate เลยก็ได้

เพราะหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่วางจำหน่ายในยุคนี้ ขั้นต่ำก็มี Refresh Rate อยู่ที่ 60 Hz ซึ่งเป็นค่าที่แม้แต่การ์ดจอแบบออนบอร์ดในคอมพิวเตอร์ก็สามารถปล่อยสัญญาณภาพ 60 FPS ได้สบาย ๆอยู่แล้ว และอย่างที่เรากล่าวไปข้างต้น ว่าวิดีโอ, ภาพยนตร์ และสัญญาณโทรทัศน์ก็ถ่ายทำที่ Frame Rate ต่ำมาก เพียง 24-30 FPS เท่านั้น Netflix และ YouTube แพลตฟอร์มวิดีโอยอดนิยมก็สตรีม Frame Rate ได้สูงสุด 60 FPS ดังนั้น หน้าจอทุกรุ่นสามารถรองรับการใช้งานทั่วไปได้อย่างสบาย ๆ

แต่หากคุณเป็นเกมเมอร์ ที่นิยม เล่นเกมที่ Frame Rate ระดับสูง ก็จำเป็นต้องพิจารณาเพิ่มสักหน่อย หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั่วไปทำได้เพียง 60 Hz ต่อให้ทำ Overclock อย่างมากก็เพิ่มเป็น 75 Hz ดังนั้น หากมีหน้าจอธรรมดา 60 Hz แล้วต้องการเล่นเกมที่ 120 Hz, 144 Hz, 240 Hz หรือมากกว่านั้น ก็จำเป็นต้องซื้อหน้าจอใหม่ที่รองรับ Refresh Ratate สูงมาใช้งาน เท่าที่เห็นในปัจจุบันนี้ หน้าจอ Refresh Ratate สูงสุดที่มีให้เลือกซื้อจะอยู่ที่ 360 Hz

อย่างไรก็ตาม เกมที่กราฟิกอลังการ การจะเล่นที่คุณภาพสูงสุด แล้วจะทำได้ 144 Hz หรือมากกว่านั้น การ์ดจอของคุณก็จำเป็นต้องมีประสิทธิภาพสูงพอที่จะเรนเดอร์ด้วย สำหรับผู้ที่เล่นเกมแล้วพบว่าค่า FPS ต่ำกว่าที่ควรจะทำได้สามารถอ่านวิธีแก้ไขได้ใน ลิงก์นี้

ข้อมูลเพิ่มเติม : วิธีการเลือกซื้อการ์ดจอ ควรพิจารณาอะไรบ้าง ? (How to choose the right Graphic Card for you ?)

 


ที่มา : www.makeuseof.com , www.netflix.com

0 Frame+Rate+%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A+Refresh+Rate+%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0+%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
ระดับผู้ใช้ : Admin    Thaiware
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ
 
 
 

ทิปส์ไอทีที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น