โปรแกรม Microsoft Word กับ WordPad แตกต่างกันอย่างไร ?

โปรแกรม Microsoft Word กับโปรแกรม WordPad
แตกต่างกันอย่างไร ?

โปรแกรม Microsoft Word และ โปรแกรม WordPad น่าจะเป็น โปรแกรมประมวลผลคำ (Word Processing Software) ที่ใช้ในพิมพ์งาน ที่อยู่คู่ผู้ใช้ทุกคนมานาน แม้จะอยู่ในยุคที่ เว็บแอปพลิเคชัน (Web Application) อย่าง Google Docs ครองเมือง แต่บางคนก็ยังเคยชินที่จะมี 2 โปรแกรมนี้ติดเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อความอุ่นใจ แล้วโปรแกรม Microsoft Word และโปรแกรม WordPad แตกต่างกันอย่างไร ? ใช้งานแทนกันได้หรือไม่ ?

โปรแกรม Microsoft Word

ไม่ต้องอธิบายกันมาก เพราะทุกคนย่อมรู้จัก โปรแกรม Microsoft Word กันดี ไม่ว่าจะเอกสารรูปแบบไหน โปรแกรม Microsoft Word ก็สามารถจัดการได้หมด รองรับทั้งข้อความ รูปภาพ กราฟิก ไฮเปอร์ลิงก์ ไฟล์หนังสือ ธีสิสที่ใช้หน้ากระดาษจำนวนมาก รวมถึงการตั้งค่าหน้ากระดาษอย่างละเอียด หรือไฟล์ .DOC จาก โปรแกรม Microsoft Word เวอร์ชั่นเก่าหรือโปรแกรมเอกสารอื่น ๆ ก็สามารถเปิดอ่านบน โปรแกรม Microsoft Word ได้

หน้าตาของโปรแกรม Microsoft Word ที่ทุกคนคุ้นเคยกัน

อีกหนึ่งจุดเด่นของโปรแกรม Microsoft Word ก็คือ มีระบบตรวจคำศัพท์และไวยากรณ์ หากพบคำผิด ไวยากรณ์ รูปประโยค ก็สามารถแก้ไขได้ทันที อีกทั้งยังมีแม่แบบ หรือ เทมเพลต (Template) เอกสารรูปแบบต่าง ๆ ไว้ให้ใช้งานแบบไม่ต้องเริ่มพิมพ์ข้อความ หรือว่าจัดหน้ากระดาษให้เหนื่อย ส่วนใครที่ใช้ โปรแกรม Microsoft Word ในการสร้างเอกสารสำคัญ เช่น ข้อสอบ หนังสือเรียน หรือเอกสารใด ๆ ที่ถูกทำสำเนา (Copy) ได้ง่าย สามารถเพิ่มลายน้ำในเอกสารได้ผ่าน Microsoft Word

ตัวอย่างเทมเพลตที่มีให้เลือกมากมาย เช่น จดหมาย เรซูเม่สมัครงาน
ภาพจาก : https://support.microsoft.com/en-us/office/download-free-pre-built-templates-29f2a18d-29a6-4a07-998b-cfe5ff7ffbbb

และแน่นอนว่า ไฟล์สกุล .DOC จาก Microsoft Word เป็นอีกหนึ่งไฟล์ที่คอมพิวเตอร์เครื่องใดก็เปิดได้ และยังเซฟเป็นไฟล์สกุลอื่น ๆ ได้อีกมากมาย เช่น .PDF, .TXT, .XPS, ไฟล์หน้าเว็บเพจ HTML ฯลฯ ได้ จึงทำให้สะดวกต่อการใช้งานร่วมกับโปรแกรมอื่น ๆ ยิ่งขึ้นไปอีก

ส่วนใครที่ต้องทำงานด้านเนื้อหาที่เป็นความลับ ต้องการให้ไฟล์เอกสารมีความปลอดภัยระดับสูง Microsoft Word ก็สามารถตั้งค่ารหัสผ่านเพื่อล็อกไฟล์ได้ (Encrypt with Password) ผู้ที่อ่านไฟล์นั้น ๆ ได้คือผู้ที่มีรหัสผ่านเท่านั้น นับว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง หากต้องการให้ไฟล์และเนื้อหานั้น ๆ เป็นความลับแก่บุคคลไม่กี่คน

โปรแกรม WordPad

ถึงแม้ว่า โปรแกรม WordPad จะใช้งานเปิดเอกสารทั่วไปได้ แต่ตามนิยามจริง ๆ แล้ว โปรแกรม WordPad ถือว่าเป็น "โปรแกรมประมวลผลคำพื้นฐาน (Basic Word Processor)" ใช้งานทั้งประมวลผลคำ แก้ไขข้อความพื้นฐานในเอกสารต่าง ๆ เช่น บันทึกช่วยจำ, โน้ต, จดหมาย ฯลฯ

โดยโปรแกรม WordPad สามารถเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการ Windows ทุกเวอร์ชัน เพราะมากับระบบปฏิบัติการอยู่แล้วนั่นเอง

หน้าตาของโปรแกรม WordPad ดูไม่ซับซ้อนเท่ากับ โปรแกรม Microsoft Word จึงทำให้ใช้งานสะดวกกว่า แม้ต้องการเพิ่มตัวหนา ขีดเส้นใต้ข้อความ, แทรกรูปภาพ, แทรกลิงก์เชื่อมต่อ (Hyperlink), จัดหน้ากระดาษ ก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น โปรแกรม WordPad ยังใช้อ่านไฟล์เอกสารบนคอมพิวเตอร์ที่ไม่มี โปรแกรม Microsoft Word แทนได้ด้วย เพราะรองรับทั้งไฟล์ตระกูล .RTF, .DOC, .ODT และ .TXT ของโปรแกรม Notepad

จะเห็นได้ว่า แถบเมนูของ โปรแกรม WordPad มีน้อยกว่า โปรแกรม Microsoft Word อย่างชัดเจน แต่อย่างน้อยก็เปลี่ยนฟอนต์ จัดชิดซ้ายชิดขวาได้ มีไม้บรรทัดสำหรับกะระยะ จัดย่อหน้า แทรกรูปภาพและอื่น ๆ ได้ หรือจะวาดรูปบน WordPad ไปเลยก็ทำได้อีกต่างหาก

ส่วนข้อจำกัดของ โปรแกรม WordPad ก็คือ การจัดรูปแบบข้อความที่ทำได้น้อยกว่า โปรแกรม Microsoft Word และไม่เหมาะกับการใช้งานเขียนสคริปต์ หรือโค้ดต่าง ๆ เช่น HTML ซึ่งโปรแกรม Notepad รองรับ ฉะนั้น จะใช้งานใด ๆ ก็ควรเลือกโปรแกรมให้ถูกต้อง เหมาะสม

แล้ว Microsoft Word กับ WordPad แตกต่างกันอย่างไร ?

เมื่อนำ โปรแกรม Microsoft Word และโปรแกรม WordPad ดมาเปรียบเทียบกัน จะเห็นได้ว่า Microsoft Word สามารถทำงานได้หลากหลายกว่าอย่างเห็นได้ชัด และลองมาดูว่า โปรแกรม WordPad พอจะทดแทน  โปรแกรม Microsoft Word ในแง่ไหนได้บ้าง

จะเห็นได้ว่า ทั้งโปรแกรม Microsoft Word และโปรแกรม WordPad เป็นโปรแกรมจัดการเอกสารทั้งคู่ แต่มีฟีเจอร์ที่แตกต่างกันพอสมควร รวมถึงลูกเล่นยิบย่อย เช่น เทมเพลตเอกสารสำเร็จรูป, รหัสผ่านล็อกไฟล์ ฯลฯ แม้ว่าโปรแกรม Microsoft Word จะเป็นโปรแกรมที่ใช้งานได้สมบูรณ์ แต่บางคนอาจเลือกใช้โปรแกรมอื่นมากกว่า เช่น ชุดโปรแกรม LibreOffice, ชุดโปรแกรม Apache OpenOffice หรือแม้แต่ โปรแกรม WordPad ก็ยังใช้อ่านเอกสาร .DOC ได้