การ์ดจอ ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่ ? มาดู 5 สัญญาณบ่งชี้ ว่าถึงเวลาเปลี่ยนการ์ดจอได้แล้วนะ

5 สัญญาณบ่งชี้ ว่าถึงเวลาเปลี่ยนการ์ดจอได้แล้วนะ
(5 Signs to upgrade your Graphic Card)

รู้หรือไม่ว่า จริง ๆ แล้ว การ์ดจอ (Graphic Card) ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ก็มีสัญญาณแจ้งเตือนให้เรารับรู้ได้ด้วยเหมือนกันนะว่า มันอยากเกษียณตัวเองออกจากการทำงานให้เราแล้วล่ะ (ฮ่า ๆ) เพราะหนึ่งในส่วนการทำงานหลัก ๆ ที่ต้องใช้งานตลอดเวลาที่เปิดเครื่อง และหนักเป็นพิเศษเมื่อเราทำงานที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ เช่น การตัดต่อวิดีโอ ด้วย โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ (Video Editing Software) หรือ การออกแบบภาพแบนเนอร์ การเล่นเกมที่ใช้กราฟิกหนัก ๆ เป็นต้น และเมื่อวันเวลาที่มันจะหมดอายุขัยใกล้มาถึง จะมีอาการอะไรฟ้องขึ้นมาบ้าง ลองไปสังเกตกันดู

อ่านเพิ่มเติม : วิธีการเลือกซื้อการ์ดจอ ควรพิจารณาอะไรบ้าง ?

1. เล่นเกมที่เพิ่งออกใหม่ไม่ได้แล้ว
(Latest release games are become unplayable)

อาการแรกที่เห็นได้ชัดเจนมาก ๆ สำหรับชาวเกมเมอร์ทั้งหลาย คือการที่การ์ดจอที่มีอยู่ ไม่สามารถผ่านพ้นสเปกขั้นต่ำที่เกมใหม่ต้องการสำหรับการรันเกมได้อีกต่อไป และเมื่อมันเป็นเช่นนี้ ก็แปลว่าการ์ดจอของคุณนี่ก็อายุอานามไม่น้อยแล้วนะ (อย่างน้อย ๆ ก็ 3 - 5 ปีขึ้นไปแล้วล่ะ)

เครดิตภาพ : https://www.polygon.com/22850317/video-games-2022-releases-best-upcoming-most-anticipated-release-dates

แต่โดยทั่วไปแล้ว เราควรดูที่กราฟิกขั้นแนะนำเป็นอย่างแรกก่อน เพราะถ้าสเปกการ์ดจอของคุณยังอยู่ในขั้นเดียวกัน หรือเหนือกว่าที่สเปกแนะนำของเกมระดับ AAA ระบุมา ก็แปลว่าการ์ดจอคุณยังทันสมัยอยู่ ทว่า หากสถานการณ์มันตรงกันข้าม ก็แปลว่าการ์ดจอของคุณเริ่มตกรุ่นแล้ว

2. เริ่มมีอาการขัดข้องแจ้งเตือนบ่อย ๆ
(Show some signs of failure)

คุณอาจจะไม่ทันสังเกตว่าการ์ดจอของคุณกำลังใกล้จะหมดอายุขัยแล้ว เพราะมีหลากหลายรูปแบบของสัญญาณการแจ้งเตือนว่าการ์ดจอของคุณนั้นใกล้จะจากไป แต่หนึ่งในอาการที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ ก็คือ ชอบมีอาการค้างเวลาที่โหลดเกมหรือกำลังเล่นเกมอยู่

เครดิตภาพ : https://www.youtube.com/watch?v=EU_wPGT57Pc

อีกสัญญาณหนึ่งที่มักเกิดขึ้น คือเวลาที่การ์ดจอของคุณเริ่มแสดงผลแปลก ๆ เวลาเล่นเกมหรือรับชมวิดีโอจาก Youtube แต่ก็เกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นจากตัวการ์ดจอเอง, จากชิปประมวลผลที่มีความร้อนสูงเกินไป, หรือไม่ ก็อาจจะเกิดจากการจอแบบ Overclock ที่เกิดการขัดข้องได้ด้วยเหมือนกัน

3. การ์ดจอทำงานแบบคอขวด
(Bottlenecking GPU Usage)

การที่ การ์ดจอทำงานแบบคอขวด หมายถึง การที่การ์ดจอของคุณ ไปจำกัดประสิทธิภาพการทำงานของ หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) และส่งผลการทำงานอย่างมหาศาล เมื่อการทำงานของ หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ของการ์ดจอ, แรม (RAM) รวมไปถึง ซีพียู (CPU) ที่ไม่สัมพันธ์กัน ย่อมมีโอกาสเกิดอาการคอขวดขึ้นได้ง่าย (และเครื่อง PC ก็มักมีปัญหาคอขวด จะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง)

เครดิตภาพ : https://www.pcguide.com/tips/cpu-gpu-bottleneck/

เช่น ถ้าหากคุณนำการ์ดจอที่มีรุ่นด้อยประสิทธิภาพกว่า อาทิ GTX980 มาใช้งานกับ CPU Intel Core i7 ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า ย่อมเกิดปัญหาคอขวดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะต่อให้คุณจะมี CPU ที่แรงแค่ไหน แต่การ์ดจอไปต่อไม่ไหวก็ทำอะไรไม่ได้มากอยู่ดี และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดต่าง ๆ ตามมาได้ด้วย ฉะนั้น หากเกิดปัญหาดังกล่าวก็ควรตัดสินใจเปลี่ยนการ์ดจอใหม่ได้แล้วล่ะ

4. มีอาการจอฟ้าบ่อยขึ้น
(Frequently shown the blue screen of death)

ถ้าจอฟ้าเริ่มปรากฎให้เห็นบ่อยขึ้น หนึ่งในสาเหตุที่มาของจอฟ้า อาจมาจากการ์ดจอของคุณ

เครดิตภาพ : https://www.drivereasy.com/knowledge/video-tdr-failure-atikmpag-sys-windows-10-solved/

เพราะอาการจอฟ้านั้นมีที่มาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นทั้งจาก RAM, จากฮาร์ดไดรฟ์, จากส่วนอื่น ๆ ของคอมพิวเตอร์, หรือจากการ์ดจอ ซึ่งเราต้องทำการพิสูจน์หาสาเหตุดังกล่าวด้วยตนเองว่ามีที่มาจากการ์ดจอจริงหรือไม่ โดยการทดลองเล่นเกมที่ต้องใช้การ์ดจอประสิทธิภาพสูงดู ถ้าหากเริ่มเล่นได้ไม่นานแล้วเกิดอาการจอฟ้า ให้จด Error Code ที่ปรากฎขึ้นแล้วนำมาค้นหาสาเหตุบนอินเตอร์เน็ตดู หากโค้ดแสดงข้อผิดพลาด (Error Code) ดังกล่าวบ่งบอกว่ามีสาเหตุมาจากการ์ดจอล้มเหลว ก็ได้เวลาค้นหาการ์ดจอตัวใหม่สำหรับเครื่อง PC ของคุณแล้ว

5. ไม่สามารถปรับตั้งค่า การแสดงผลแบบสูงได้อีกต่อไป
(Can't adjust graphic settings to high performance mode)

สำหรับข้อนี้ ไม่ได้จัดว่าเป็นข้อบ่งชี้ว่าคุณจะต้องรีบเปลี่ยนการ์ดจอใหม่แต่อย่างใด แต่ถ้าหากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมในระดับ AAA แล้วไม่สามารถปรับสุดได้ ก็อาจจะต้องขยับไปรุ่นที่ใหม่กว่าตัวเดิมที่มีอยู่แล้วล่ะ เพราะการปรับตั้งค่าระดับสูง ก็ทำให้คุณสามารถมองเห็นทุกอย่างที่ผู้พัฒนาอยากให้คุณเห็นแบบที่เกมควรจะเป็นได้ ซึ่งในบางเกม กราฟิกก็มีความดีงามสูงมากในระดับที่เรียกว่าชมคัทซีนเป็นหนังภาพยนตร์ดี ๆ เรื่องหนึ่งได้เลย

เครดิตภาพ : https://www.build-gaming-computers.com/best-graphics-settings-for-pc-gaming.html

หากคุณไม่ได้ซีเรียสอะไรกับการปรับสุดทุกตัวเลือกการแสดงผลมากนัก ก็ยังสามารถใช้การ์ดจอตัวเดิมต่อไปได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะเริ่มเจอปัญหาที่เข้าข่ายแบบข้อ 1 ที่เราเอ่ยถึงมาก่อนหน้า

เราสามารถเปลี่ยนการ์ดจอในแล็ปท็อปได้ไหม ?
(Can we upgrade laptop graphics card ?)

แม้ว่า แล็ปท็อป (Laptop) ส่วนใหญ่จะไม่สามารถอัปเกรดการ์ดจอ หรือทำการเปลี่ยนการ์ดจอในแล็ปท็อปได้ แต่ก็มีแล็ปท็อปบางรุ่นที่สามารถเปลี่ยนการ์ดจอได้ เช่น Dell Precision M6700 และนอกจากการเปลี่ยนการ์ดจอสำหรับแล็ปท็อปโดยตรงแล้ว ยังมีอีกหนึ่งรูปแบบของการ์ดจอที่เรียกว่า eGPU ที่ย่อมาจาก External Graphics Processing Unit ด้วย

เครดิตภาพ : https://www.techspot.com/review/2231-razer-core-x/

eGPU เป็นฮาร์ดแวร์ส่วนที่แยกออกมาต่างหาก ที่เราสามารถนำมาช่วยเสริมประสิทธิภาพในการเล่นเกมได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าแล็ปท็อปทุกรุ่นจะรองรับ eGPU เสมอไป และบางรุ่น อาจใช้ได้เฉพาะ eGPU ที่มาจากบริษัทผู้ผลิตเดียวกันด้วย

อ่านเพิ่มเติม :  eGPU คืออะไร ? และ 7 สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อ eGPU มาใช้งาน