หากต้องการจะซื้อ เครื่องคอมพิวเตอร์ PC สักเครื่องมาใช้ มันก็จะมีอยู่ 2 ทางเลือก (ถ้าไม่นับการซื้อคอมพิวเตอร์มือสอง) ก็คือ จัดสเปกแล้วซื้อชิ้นส่วนมาประกอบเอง หรือจะให้ร้านประกอบให้ก็ได้ ส่วนอีกแบบก็คือ ซื้อคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปที่ทางแบรนด์ได้จัดสเปกมาให้เรียบร้อยแล้ว
ไม่ว่าจะเลือกทางไหน มันก็มีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกัน ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกทางไหนดี ? บทความนี้น่าจะช่วยให้คุณพิจารณาทางเลือกได้ง่ายขึ้นนะ ว่าทางไหนที่เหมาะกับคุณมากที่สุด
ก่อนอื่นเลย หากคุณมีความต้องการที่จะซื้อคอมพิวเตอร์แบบประกอบเอง สิ่งแรกที่คุณต้องมีคือ ความรู้ความเข้าใจในการเลือกชิ้นส่วน เพราะเราจะต้องพิจารณาเลือกทุกอย่างตั้งแต่ หน่วยประมวลผลกลาง (CPU), การ์ดจอ (Graphic Card) ที่มี หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU), เมนบอร์ด (Mainboard), พาวเวอร์ซัพพลาย (PSU), หน่วยความจำหลัก หรือ แรม (RAM), ฮาร์ดไดร์ฟ (Hard Drive), เคสคอมพิวเตอร์ (Computer Case), ระบบระบายความร้อน (Cooling System) ฯลฯ นี่ยังไม่นับเรื่องทักษะที่ต้องใช้ในการประกอบ และจัดสายให้เป็นระเบียบเพื่อความสวยงาม และไม่ขวางทางลม รวมไปถึงการตั้งค่า ไบออส (BIOS) และติดตั้ง ระบบปฏิบัติการ (Operating System) ด้วยตนเองอีกด้วย
ภาพจาก : https://pcbros.tech/products/build-consultation-advice
หากคุณต้องการประกอบคอมพิวเตอร์เอง แต่ไม่มีทักษะที่ว่ามา การเดินดุ่ย ๆ ไปที่ร้านแล้วหวังให้ร้านช่วยจัดให้ คุณก็มีสิทธิ์โดนร้านหลอกฟันกำไรสูงมาก
ดังนั้น หากคุณไม่มีความรู้ด้านสเปกคอมพิวเตอร์ และไม่เคยประกอบคอมพิวเตอร์ด้วยตนเองมาก่อน การเลือกคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปที่ทางค่ายได้จัดไว้ให้แล้ว มันก็ง่ายกว่ามาก ในปัจจุบันนี้ คอมพิวเตอร์ของทางค่ายก็ไม่ค่อยกั๊ก เอาสเปกเก่ามาจัดขายเหมือนในอดีตแล้วด้วย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสเปกที่เหมาะสมกับปีที่วางจำหน่าย ซื้อมาก็ใช้งานได้ตามที่ต้องการได้ทันที
อย่างไรก็ตาม ถึงจะเป็นการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป แต่ถ้าต้องการซื้อมันมาเพื่อเล่นเกมคอมพิวเตอร์ อย่างน้อยก็ควรทำการบ้านไปสักเล็กน้อย ว่าเกมที่ต้องการเล่นต้องการเล่นควรจะใช้ CPU และการ์ดจอระดับไหน ? ถึงจะได้ประสิทธิภาพตามที่คุณต้องการ เช่น ถ้าต้องการเล่นที่ ความละเอียด Full HD แค่ RTX 3060 ก็เหลือเฟือ แต่ถ้าต้องการเล่นที่ ความละเอียดระดับ 4K ก็ควรมองไปที่ RTX 4070 ขึ้นไป เป็นต้น
สำหรับคอมพิวเตอร์แบบประกอบเอง ถ้าคุณเป็นสุลต่าน คุณก็สามารถเลือกประกอบให้มันแรงขนาดไหนก็ได้ ตราบใดที่เงินถึง แต่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้มีงบประมาณให้ถลุงมากขนาดนั้น ราคาจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่แทบทุกคนนำมาพิจารณาด้วย ไม่ว่าจะซื้ออะไรก็ตาม
ถ้ามองในแง่ของความคุ้มค่าต่อราคา การประกอบคอมพิวเตอร์เองก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า โดยถ้าคอมพิวเตอร์สเปกเท่ากัน ราคาของคอมพิวเตอร์ที่ประกอบเอง ก็มักจะมีราคาที่ถูกกว่าคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปของแบรนด์อยู่พอสมควร
ยิ่งไปกว่านั้น การที่เราเลือกชิ้นส่วนเอง เราจึงมั่นใจในคุณภาพได้ในระดับหนึ่ง เพราะเราสามารถควบคุมได้ทุกชิ้นส่วน แต่สำหรับคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป ทางแบรนด์มักพยายามลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด ทำให้ฮาร์ดแวร์หลายชิ้นเลือกสเปกมาแบบเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และประสิทธิภาพก็แค่พอใช้ได้ แถมมักจะได้เป็นของไม่มียี่ห้อ เป็นการ OEM มาเพื่อลดต้นทุน
แม้ว่าเทรนด์การขายในปัจจุบัน ทางแบรนด์จะปรับตัว เลือกใช้ชิ้นส่วนที่มีคุณภาพสูงขึ้น โดยเฉพาะในตระกูล PC Gaming แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเราเลือกเองเราก็สามารถเลือกตัวเลือกอื่นที่คุณภาพสูงกว่าได้ไม่ยาก
ความยืดหยุ่นเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มักกลายเป็นตัวตัดสินว่าจะซื้อคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป หรือจะประกอบเอง เพราะชิ้นส่วนทุกชิ้นสามารถส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของคอมพิวเตอร์ได้
การซื้อคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปมาใช้มันง่ายดาย แต่เราจะไม่มีทางเลือกในการปรับแต่งฮาร์ดแวร์มากนัก ส่วนใหญ่แล้วถ้าเป็นคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป ทางผู้ผลิตอาจจะให้โอกาสในการเลือกขนาดความจุของฮาร์ดไดร์ฟ, ความจุของ RAM, CPU และการ์ดจอได้
แต่จะไม่มีให้เลือกรุ่นของเมนบอร์ด, ความเร็ว RAM หรือความเร็วของ อุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบ SSD, กำลังไฟของ PSU, ระบบระบายความร้อน, ไฟ RGB แม้แต่หน้าตาของตัวเคสก็เปลี่ยนไม่ได้เช่นกัน เนื่องจากชิ้นส่วนเหล่านั้น ทางผู้ผลิตมักจะจ้างผลิต OEM มาเป็นจำนวนมากเพื่อลดต้นทุน นั่นทำให้แม้ว่าคุณจะสามารถปรับแต่งสเปกของมันได้ แต่มันก็ไม่มีอิสระเท่ากับการประกบคอมพิวเตอร์เองอยู่ดี
อีกข้อจำกัดหนึ่งคือ คอมพิวเตอร์สำเร็จรูปจะมีตัวเลือกการจับคู่ระหว่าง CPU กับการ์ดจอที่ค่อนข้างจำกัด ตัวอย่างง่าย ๆ เช่น ถ้าใช้ CPU แบบ Intel i5 12600KF การ์ดจอที่ให้คู่กันมาก็มักจะเป็น RTX 3060 แต่คุณอาจจะต้องการการ์ดจอที่แรงกว่านี้ เช่น RTX 3070 หรือ RTX 4070 แต่มันก็ไม่มีขาย จะซื้อมาเปลี่ยนเอง ก็ต้องระวังเรื่องประกัน เพราะส่วนใหญ่แล้ว ประกันจะหลุดทันที เมื่อเราทำการเปิดมาเปลี่ยนชิ้นส่วนภายในด้วยตัวเอง
สำหรับบางคนแล้ว เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ได้แค่ต้องใช้งานได้ แต่หน้าตา และความสวยงามของมันทั้งภายใน และภายนอกก็มีความสำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ชอบวางเคสคอมพิวเตอร์เอาไว้บนโต๊ะ ซึ่งเราจะต้องมองเห็นมันแทบทุกวัน ดังนั้น ความสุนทรียศาสตร์จึงเป็นปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้หัวข้ออื่น ๆ เลย
ภาพจาก : https://www.nickfalzonedesign.com/ikigai
สิ่งที่ส่งผลต่อความสุนทรียศาสตร์ของคอมพิวเตอร์ก็มีอยู่หลายส่วน ประกอบไปด้วย
ซึ่งชิ้นส่วนทั้งหมดที่ว่ามานี้ ถ้าซื้อคอมพิวเตอร์แบบสำเร็จรูป เราจะไม่มีสิทธิ์เลือกได้เลย อย่าว่าแต่ชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในเคส เอาแค่หน้าตาภายนอกของตัวเคสก็มีอยู่เพียงไม่กี่ตัวเลือกเท่านั้น
คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่มีการเสื่อมสภาพ หรือเกิดปัญหาได้ ซึ่งมันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะซอฟต์แวร์เสมอไป บ่อยครั้งที่ปัญหามาจากตัวฮาร์ดแวร์ ซึ่งจุดนี้ก็เป็นสิ่งที่ประกัน และการช่วยเหลือลูกค้าจะเข้ามามีบทบาทสำคัญ
ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีทักษะในวินิจฉัยปัญหา และซ่อมแซมฮาร์ดแวร์ด้วยตนเองได้ ในประเด็นนี้ คอมพิวเตอร์สำเร็จรูปจะมีข้อได้เปรียบเป็นอย่างมาก คุณสามารถยกคอมพิวเตอร์ไปให้ร้านของแบรนด์ทำการแก้ไขปัญหาให้ได้ทันที บางแบรนด์ถึงกับมีบริการส่งช่างมาดูแลให้ถึงที่บ้าน หรือที่ทำงานเลยด้วยซ้ำไป
ซึ่งหากเป็นคอมพิวเตอร์ประกอบเอง คุณจะต้องวิเคราะห์หาสาเหตุเอง หรือยกไปหาร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ และหากปัญหาเป็นที่ฮาร์ดแวร์ คุณก็ต้องถอดชิ้นส่วนดังกล่าวไปเคลมประกันด้วยตนเอง ซึ่งมีความยุ่งยากกว่ามาก
หัวข้อนี้อาจเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้ใช้งานบางราย หากคุณไม่ต้องการติดตั้งระบบปฏิบัติการ, ตั้งค่า BIOS, กำหนดค่า XMP/EXPO ของ RAM, ฟอร์แมตฮาร์ดไดร์ฟ, หรือติดตั้งไดร์เวอร์ด้วยตนเอง คอมพิวเตอร์สำเร็จรูปน่าจะตอบโจทย์คุณได้ดีมากกว่า เพราะทางผู้ผลิตจะเตรียมทุกอย่างไว้ให้เรียบร้อยแล้ว อาจจะมีแม้กระทั่งโปรแกรมที่จำเป็นติดตั้งเอาไว้ให้ด้วย เช่น Microsoft Office หรือโปรแกรมสแกนมัลแวร์
ซึ่งถ้าคุณเลือกประกอบคอมพิวเตอร์ด้วยตนเอง คุณจะต้องจัดการกับซอฟต์แวร์ทั้งหมดด้วยตนเอง
ภาพจาก : https://www.gskill.com/img/blog/xmp-guide/msi-advanced-xmp-enabled.png
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้เองก็ควรจะเรียนรู้วิธีอัปเดต และตั้งค่า BIOS ไว้ด้วยก็ดี เพราะการอัปเดต และการปรับแต่งสามารถส่งผลให้การทำงานของคอมพิวเตอร์ดีขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการรองรับฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ ๆ, เพิ่มความเร็วในการทำงานของ CPU และ RAM, ปรับการทำงานของพัดลมให้เสียงเงียบขึ้น ฯลฯ
สุดท้ายแล้ว จะเลือกแบบไหน ? ก็ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการ และการนำไปใช้งาน อย่างเช่น การใช้งานส่วนตัวที่บ้าน คอมพิวเตอร์ประกอบเองก็น่าจะให้สิ่งที่ตรงกับความต้องการของคุณได้มากกว่า แต่หากเป็นการใช้ภายในบริษัท หรือสำนักงาน ประกันแบบ On-site ที่มีช่างมาซ่อมแซม หรือเปลี่ยนอะไหล่ให้ถึงที่ก็น่าจะตอบโจทย์มากกว่า
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |