ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
THAIWARE.COM | ทิปส์ไอที
 

5 เหตุผล ที่ทำไมคุณควรใช้งาน ชุดโปรแกรมกราฟิกจาก Affinity

5 เหตุผล ที่ทำไมคุณควรใช้งาน ชุดโปรแกรมกราฟิกจาก Affinity

เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 7,965
เขียนโดย :
0 5+%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%9C%E0%B8%A5+%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99+%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9F%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81+Affinity
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

5 เหตุผลที่มืออาชีพด้านงานกราฟิก ควรทำความรู้จัก Affinity

5 เหตุผล ที่ทำไมคุณควรใช้งาน ชุดโปรแกรมกราฟิกจาก Affinity

Affinity คือ ชุดโปรแกรมด้านงานกราฟิก (Graphic Design Software Suite) ที่กำลังมาแรง ได้รับการยอมรับจากมืออาชีพด้านงานกราฟิกอย่างกว้างขวาง ทั้งการใช้งานแบบเป็นส่วนตัว การใช้งานของมือกราฟิกที่รับงานแบบ ฟรีแลนซ์ (Freelance) ไปจนถึงการใช้งานในแผนกกราฟิกขององค์กรธุรกิจ

ด้วยความที่เป็นชุดโปรแกรมด้านงานกราฟิกที่ราคาถูก จ่ายเงินครั้งเดียวใช้งานได้ตลอดไป ใช้งานง่าย และยังได้ผลลัพธ์อย่างมืออาชีพ ทำให้ Affinity เป็นชุดโปรแกรมด้านงานกราฟิกที่มีจำนวนผู้ใช้งานขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ และในบทความนี้จะพาคุณมารู้จักกับ 5 เหตุผลที่มืออาชีพด้านงานกราฟิก ควรทำความรู้จัก Affinity ถ้าพร้อมแล้ว เรามาเริ่มกันเลย

xxxx

Affinity คืออะไร ?
(What is Affinity ?)

Affinity คืออะไร ? (What is Affinity ?)

Affinity เป็นชุดโปรแกรมด้านงานกราฟิก ที่เป็นผลงานการพัฒนาจากบริษัทสัญชาติอังกฤษที่มีชื่อว่า Serif Ltd, ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) เริ่มต้นด้วยจุดมุ่งหมายในการพัฒนาโปรแกรมด้านงานออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ ที่มีจุดเด่นคือเป็นโปรแกรมราคาถูก สำหรับการใช้งานบ น  ระบบปฏิบัติการ   Windows ในชื่อโปรแกรมว่า PagePlus (ออกมาในปี ค.ศ. 1990 หรือ พ.ศ. 2533 )   และได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจากสื่อไอทีมากมาย

และต่อมาในปี ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)  จึงได้เริ่ม มี การเปิดตัวโปรแกรมด้านงานกราฟิกในชุด Affinity ที่รองรับทั้งการใช้งานบน ระบบปฏิบัติการ Windows และ macOS โดยมีโปรแกรมให้เลือกใช้ 3 ตัว ดังนี้

  1. Affinity Designer : โปรแกรมวาดรูปแบบเวกเตอร์ ออกแบบโลโก้ เช่นเดียวกับ โปรแกรม CorelDRAW และ โปรแกรม Adobe Illustrator และรองรับการวาดรูปแบบแรสเตอร์ได้
    (ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity Designer)
  2. Affinity Photo : โปรแกรมแต่งรูป ที่มีฟีเจอร์คล้าย ๆ กับ โปรแกรม Adobe Photoshop และมีฟีเจอร์ในการจัดการไฟล์ RAW แบบ โปรแกรม Adobe Lightroom ด้วย
    (ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity Photo)
  3. Affinity Publisher : โปรแกรมออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ โปสเตอร์ โบรชัวร์ e-Book และเลย์เอาต์ต่าง ๆ ในลักษณะเดียวกับ โปรแกรม Adobe InDesign
    (ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity Publisher)

1. มีราคาขายที่ถูกกว่า Adobe
(Price is Cheaper than Adobe)

ด้วยความตั้งใจของทาง Serif ผู้พัฒนาโปรแกรมในตระกูล Affinity ที่ต้องการให้มันเป็นโปรแกรมทางเลือกด้านงานกราฟิก ในราคาที่ย่อมเยากว่า โดยถ้าเปรียบเทียบราคากับโปรแกรมกราฟิกเจ้าตลาด ก็จะเป็นตามตารางดังต่อไปนี้

โปรแกรม ราคา (โดยประมาณ)
Affinity Designer 1,990 บาท
Adobe Illustrator CC 18,600 บาท
(จ่ายรายปี)
   
Affinity Photo 1,990 บาท
Adobe Photoshop CC 18,600 บาท
(จ่ายรายปี)
Adobe Lightroom Classic 18,600 บาท
(จ่ายรายปี)
   
Affinity Publisher 1,990 บาท
Adobe InDesign CC 18,600 บาท
(จ่ายรายปี)

จะเห็นได้ว่าโปรแกรมในตระกูล Affinity นั้นมีราคาขายที่ถูกกว่าเกือบ 10 เท่าตัวเลยทีเดียว ทำให้มือใหม่ หรือคนทำงานกราฟิกสายฟรีแลนซ์สามารถเข้าถึงโปรแกรมด้านงานกราฟิกระดับมืออาชีพได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญคือ รูปแบบลิขสิทธิ์ของ Affinity นั้นเป็น แบบซื้อขาด (Perpetual License) คือจ่ายเงินซื้อครั้งเดียว ใช้งานได้ตลอดไป

โดยในกรณีที่ชุดโปรแกรม Affinity มีการอัปเวอร์ชันหลัก อย่างเช่นการอัปจาก V1 เป็น V2 ผู้ที่ซื้อลิขสิทธิ์โปรแกรมใน V1 จะสามารถใช้โปรแกรม V1 ได้ตลอดไป แต่หากต้องการอัปเวอร์ชันหลักเป็น V2 ผู้ใช้ต้องจ่ายเงินครั้งเดียวในการอัปเกรด ซึ่งโดยปกติแล้ว การอัปเวอร์ชันหลักของ Affinity นั้นจะไม่ได้มีทุกปี แต่จะมีการอัปเวอร์ชันย่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ใช้ได้รับการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา

ในส่วนของโปรแกรมกราฟิกในตระกูล Adobe นั้นมีรูปแบบลิขสิทธิ์เป็น แบบจ่ายรายปี (Subscription License) คือต้องจ่ายเงินปีละประมาณ 18,600 บาท และจะได้รับการอัปเดตเวอร์ชันตลอดระยะเวลาของลิขสิทธิ์การใช้งาน

เรื่องน่ารู้ : ความแตกต่างระหว่างลิขสิทธิ์แบบ Perpetual License และ Subscription License รวมถึงลิขสิทธิ์รูปแบบอื่น

2. มีลิขสิทธิ์หลายรูปแบบให้เลือกใช้
(Multiple License Types to Choose)

Affinity มีลิขสิทธิ์หลายรูปแบบให้เลือกใช้ (Affinity has multiple license types to choose)

ด้วยความที่โปรแกรมกราฟิกในตระกูล Affinity ได้ถูกนำไปใช้งานในองค์กรธุรกิจอย่างกว้างขวาง ทำให้มีลิขสิทธิ์หลายรูปแบบให้เลือกใช้ โดยแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลัก ๆ ดังนี้

  1. Individuals : ลิขสิทธิ์สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป หรือมือกราฟิกสายฟรีแลนซ์ ที่ต้องการโปรแกรมกราฟิกราคาถูก แต่ใช้งานได้จริงอย่างมืออาชีพ โดยสามารถเลือกซื้อเป็นโปรแกรมแยกเดี่ยว หรือจะซื้อแบบรวมชุดทั้ง 3 โปรแกรมในราคาย่อมเยาเลยก็ได้
    (ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity Universal License)
  2. Business : ลิขสิทธิ์สำหรับการใช้งานของทีมกราฟิกในองค์กรธุรกิจ มีส่วนลดพิเศษสำหรับการซื้อให้กับผู้ใช้งานจำนวนหลายคน โดยยังคงเป็นลิขสิทธิ์แบบจ่ายเงินครั้งเดียวใช้งานได้ตลอดไป และสามารถเลือกซื้อเป็นโปรแกรมแยกเดี่ยว หรือจะซื้อแบบรวมชุดทั้ง 3 โปรแกรมในราคาย่อมเยา
    (ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity Universal License (Multi-user) for Business)
  3. Education : ลิขสิทธิ์ราคาถูกเป็นพิเศษสำหรับการใช้งานในสถานศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานโดยนักเรียน อาจาร์ย บุคลากรในสถานศึกษา สามารถแจกจ่ายลิขสิทธิ์โปรแกรมให้กับ นักเรียน/อาจารย์ หรือติดตั้งโปรแกรมลงในอุปกรณ์ที่มีการแบ่งปันกันใช้งานในสถานศึกษา ได้ตามต้องการ
    (ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity for Education)

3. มืออาชีพให้การยอมรับ
(Accepted by a Power or Professional User)

สไลด์รูปภาพ

 5 เหตุผล ที่ทำไมคุณควรใช้งาน ชุดโปรแกรมกราฟิกจาก Affinity5 เหตุผล ที่ทำไมคุณควรใช้งาน ชุดโปรแกรมกราฟิกจาก Affinity5 เหตุผล ที่ทำไมคุณควรใช้งาน ชุดโปรแกรมกราฟิกจาก Affinity

ตัวอย่างผลงานที่สร้างสรรค์โดย Affinity Designer
ภาพจาก : https://affinity.serif.com/en-gb/designer/

มืออาชีพด้านงานกราฟิกจำนวนมากให้การต้อนรับโปรแกรมกราฟิกในตระกูล Affinity เป็นอย่างดี และมีมืออาชีพหลายคนยอมรับว่า ได้เปลี่ยนจากการใช้งานโปรแกรมในตระกูล Adobe มาใช้งาน Affinity แทน ทั้งในแบบการใช้งานอิสระ และการใช้งานในธุรกิจ และด้วยข้อดีของ Affinity ทำให้ผู้ใช้งาน ได้เชิญชวนคนอื่น ๆ ให้มาลองใช้งานกันมากขึ้นเรื่อย ๆ

และโปรแกรมราคาถูก ไม่จำเป็นต้องใช้งานยากกว่าโปรแกรมราคาแพงเสมอไป โดยมีผู้ใช้งานโปรแกรม Affinity Designer รายหนึ่ง ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ส่วนตัวให้ฟังว่า สำหรับคนที่เคยใช้ Adobe Illustrator มาก่อน ก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเลยกับการเปลี่ยนมาใช้ Affinity Designer เพราะว่ามันใช้งานง่ายกว่า หน้าเมนูที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน ง่ายสำหรับผู้ใช้งานมือใหม่ และมันยังเปิดไฟล์ .ai และ .eps ที่มาจากโปรแกรม Adobe Illustrator ได้ด้วย ทำให้สามารถทำงานร่วมกับทีมงานที่ใช้โปรแกรมที่แตกต่างกันได้

สไลด์รูปภาพ

 5 เหตุผล ที่ทำไมคุณควรใช้งาน ชุดโปรแกรมกราฟิกจาก Affinity5 เหตุผล ที่ทำไมคุณควรใช้งาน ชุดโปรแกรมกราฟิกจาก Affinity

ตัวอย่างผลงานที่สร้างสรรค์โดย Affinity Photo
ภาพจาก : https://affinity.serif.com/en-gb/photo/

เช่นเดียวกับโปรแกรม Affinity Photo (โปรแกรมแต่งรูป แต่งไฟล์ RAW) ที่สามารถ เปิด, แก้ไข และบันทึกไฟล์ในฟอร์แมต .psd ของโปรแกรม Adobe Photoshop ได้เป็นอย่างดี ในส่วนทางฝั่งของโปรแกรม Affinity Publisher (โปรแกรมออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ e-Book และเลย์เอาต์ต่าง ๆ) ก็สามารถนำเข้าไฟล์ในฟอร์แมต IDML จาก โปรแกรม Adobe InDesign ได้อย่างรวดเร็ว

สไลด์รูปภาพ

 5 เหตุผล ที่ทำไมคุณควรใช้งาน ชุดโปรแกรมกราฟิกจาก Affinity5 เหตุผล ที่ทำไมคุณควรใช้งาน ชุดโปรแกรมกราฟิกจาก Affinity5 เหตุผล ที่ทำไมคุณควรใช้งาน ชุดโปรแกรมกราฟิกจาก Affinity

ตัวอย่างผลงานที่สร้างสรรค์โดย Affinity Publisher
ภาพจาก : https://affinity.serif.com/en-gb/publisher/

และหากใครยังไม่มั่นใจว่าโปรแกรมในซีรีส์ Affinity ตอบความต้องการของคุณได้จริงหรือไม่ ก็สามารถ ดาวน์โหลดเวอร์ชัน Demo ไปทดลองใช้งานได้เป็นระยะเวลา 30 วัน

4. รองรับหลากหลายแพลตฟอร์ม
(Multiple-Platform Support)

Affinity รองรับหลากหลายแพลตฟอร์ม (Affinity support Multiple-Platform)
ภาพจาก : https://affinity.serif.com/en-gb/designer/ipad/

อีกหนึ่งจุดแข็งของ Affinity คือมีโปรแกรมให้เลือกใช้สำหรับระบบปฏิบัติการหลัก ๆ ทั้ง 3 รูปแบบ คือรองรับทั้ง Windows, macOS และล่าสุด มีการออกแอปพลิเคชันบนเครื่อง iPad ให้ใช้งานครบทั้ง 3 ตัวคือ

  1. Affinity Designer for iPad : แอปพลิเคชันวาดรูปแบบเวกเตอร์ แรสเตอร์ และออกแบบโลโก้ ในราคาขายเพียงประมาณ 890 บาท
    (ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity Designer for iPad)
  2. Affinity Photo for iPad : แอปพลิเคชันแต่งรูป และมีฟีเจอร์ในการจัดการไฟล์ RAW ในราคาขายเพียงประมาณ 890 บาท
    (ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity Photo for iPad)
  3. Affinity Publisher for iPad : แอปพลิเคชันออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ โปสเตอร์ โบรชัวร์ e-Book และเลย์เอาต์ต่าง ๆ ในราคาขายเพียงประมาณ 890 บาท
    (ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity Publisher for iPad)

Affinity รองรับหลากหลายแพลตฟอร์ม (Affinity support Multiple-Platform)
ภาพจาก : https://affinity.serif.com/en-gb/photo/ipad/

ด้วยการมาถึงของแอปพลิเคชันในซีรีส์ Affinity บนเครื่อง iPad ทำให้มืออาชีพด้านงานกราฟิกสามารถทำงานได้ทุกเวลาแม้จะอยู่นอกสถานที่ โดยที่แอปพลิเคชันบน iPad จะมีฟีเจอร์การใช้งานที่ใกล้เคียงโปรแกรมบน ระบบปฏิบัติการ Windows และ macOS โดยมีการออกแบบหน้าเมนูให้เหมาะสำหรับการสั่งงานผ่านการแตะหน้าจอ เข้าถึงคำสั่งที่ใช้งานบ่อย ๆ ได้อย่างรวดเร็วผ่านระบบ Quick Menu

นอกจากนี้แล้ว ก็ยังมาพร้อมการแสดงตัวอย่างย่อของแถบเลเยอร์ในแบบ Compact Mode เพื่อประหยัดเนื้อที่บนหน้าจอ และยังมีฟีเจอร์ Virtual Memory Swap ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการหน่วยความจำ เมื่อทำงานกับไฟล์ขนาดใหญ่อีกด้วย

Affinity รองรับหลากหลายแพลตฟอร์ม (Affinity support Multiple-Platform)
ภาพจาก : https://affinity.serif.com/en-gb/publisher/ipad/

และสำหรับฟรีแลนซ์ หรือผู้ใช้งานทั่วไป ที่ต้องการ Affinity สำหรับการใช้งานทั้งบน ระบบปฏิบัติการ Windows, macOS และ iPad ในราคาคุ้มค่า ก็เลือกซื้อเป็นชุด โปรแกรม Affinity Universal License และสำหรับแผนกงานกราฟิกในองค์กรธุรกิจ ที่ต้องการซื้อโปรแกรมจำนวนหลายชุดสำหรับพนักงานทุกคน ก็เลือกซื้อเป็นชุด โปรแกรม Affinity Universal License (Multi-user) for Business ได้ตามต้องการ

5. มีสื่อสอนการใช้งานมากมาย
(Many Teaching Materials Available)

ด้วยความที่ ชุดโปรแกรม Affinity เป็นโปรแกรมสำหรับมืออาชีพด้านงานกราฟิกที่กำลังมาแรง ทำให้มีคนผลิตคอนเทนต์ หรือสื่อการสอน ในการใช้งานออกมามากมายหลายรูปแบบ และสื่อในรูปแบบที่ทำความเข้าใจได้ง่าย

และเห็นภาพชัดเจนที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นคลิปวิดีโอสอนการใช้งานบน YouTube ที่มีทั้งครีเอเตอร์ชาวไทย และชาวต่างชาติผลิตคลิปสอนการใช้งาน และคลิปแนะนำเทคนิคการสร้างสรรค์ผลงานด้วย Affinity ออกมามากมายหลายคลิป เราเลยขอคัดเลือกคลิปที่น่าสนใจมาให้ชมกันครับ


คลิปสอนวิธีแก้ปัญหาตัวอักษรไทยสระจม


คลิปแนะนำฟีเจอร์ใหม่ของ Affinity Designer


คลิปแนะนำฟีเจอร์ใหม่ของ Affinity Photo


คลิปแนะนำฟีเจอร์ใหม่ของ Affinity Publisher


ที่มา : en.wikipedia.org , 99designs.com , www.echorivera.com

0 5+%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%9C%E0%B8%A5+%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99+%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9F%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81+Affinity
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
ระดับผู้ใช้ : Admin    Thaiware
ไม่เสพติดไอที แต่ชอบเสพข่าวเทคโนโลยี หาความรู้ใหม่ๆ มาใส่สมอง
 
 
 

ทิปส์ไอทีที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น