Affinity คือ ชุดโปรแกรมด้านงานกราฟิก (Graphic Design Software Suite) ที่กำลังมาแรง ได้รับการยอมรับจากมืออาชีพด้านงานกราฟิกอย่างกว้างขวาง ทั้งการใช้งานแบบเป็นส่วนตัว การใช้งานของมือกราฟิกที่รับงานแบบ ฟรีแลนซ์ (Freelance) ไปจนถึงการใช้งานในแผนกกราฟิกขององค์กรธุรกิจ
ด้วยความที่เป็นชุดโปรแกรมด้านงานกราฟิกที่ราคาถูก จ่ายเงินครั้งเดียวใช้งานได้ตลอดไป ใช้งานง่าย และยังได้ผลลัพธ์อย่างมืออาชีพ ทำให้ Affinity เป็นชุดโปรแกรมด้านงานกราฟิกที่มีจำนวนผู้ใช้งานขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ และในบทความนี้จะพาคุณมารู้จักกับ 5 เหตุผลที่มืออาชีพด้านงานกราฟิก ควรทำความรู้จัก Affinity ถ้าพร้อมแล้ว เรามาเริ่มกันเลย
xxxx
Affinity เป็นชุดโปรแกรมด้านงานกราฟิก ที่เป็นผลงานการพัฒนาจากบริษัทสัญชาติอังกฤษที่มีชื่อว่า Serif Ltd, ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) เริ่มต้นด้วยจุดมุ่งหมายในการพัฒนาโปรแกรมด้านงานออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ ที่มีจุดเด่นคือเป็นโปรแกรมราคาถูก สำหรับการใช้งานบ
น ระบบปฏิบัติการ Windows ในชื่อโปรแกรมว่า PagePlus (ออกมาในปี ค.ศ. 1990 หรือ พ.ศ. 2533 ) และได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจากสื่อไอทีมากมายและต่อมาในปี ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)
จึงได้เริ่ม มี การเปิดตัวโปรแกรมด้านงานกราฟิกในชุด Affinity ที่รองรับทั้งการใช้งานบน ระบบปฏิบัติการ Windows และ macOS โดยมีโปรแกรมให้เลือกใช้ 3 ตัว ดังนี้ด้วยความตั้งใจของทาง Serif ผู้พัฒนาโปรแกรมในตระกูล Affinity ที่ต้องการให้มันเป็นโปรแกรมทางเลือกด้านงานกราฟิก ในราคาที่ย่อมเยากว่า โดยถ้าเปรียบเทียบราคากับโปรแกรมกราฟิกเจ้าตลาด ก็จะเป็นตามตารางดังต่อไปนี้
โปรแกรม | ราคา (โดยประมาณ) |
Affinity Designer | 1,990 บาท |
Adobe Illustrator CC | 18,600 บาท (จ่ายรายปี) |
Affinity Photo | 1,990 บาท |
Adobe Photoshop CC | 18,600 บาท (จ่ายรายปี) |
Adobe Lightroom Classic | 18,600 บาท (จ่ายรายปี) |
Affinity Publisher | 1,990 บาท |
Adobe InDesign CC | 18,600 บาท (จ่ายรายปี) |
จะเห็นได้ว่าโปรแกรมในตระกูล Affinity นั้นมีราคาขายที่ถูกกว่าเกือบ 10 เท่าตัวเลยทีเดียว ทำให้มือใหม่ หรือคนทำงานกราฟิกสายฟรีแลนซ์สามารถเข้าถึงโปรแกรมด้านงานกราฟิกระดับมืออาชีพได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญคือ รูปแบบลิขสิทธิ์ของ Affinity นั้นเป็น แบบซื้อขาด (Perpetual License) คือจ่ายเงินซื้อครั้งเดียว ใช้งานได้ตลอดไป
โดยในกรณีที่ชุดโปรแกรม Affinity มีการอัปเวอร์ชันหลัก อย่างเช่นการอัปจาก V1 เป็น V2 ผู้ที่ซื้อลิขสิทธิ์โปรแกรมใน V1 จะสามารถใช้โปรแกรม V1 ได้ตลอดไป แต่หากต้องการอัปเวอร์ชันหลักเป็น V2 ผู้ใช้ต้องจ่ายเงินครั้งเดียวในการอัปเกรด ซึ่งโดยปกติแล้ว การอัปเวอร์ชันหลักของ Affinity นั้นจะไม่ได้มีทุกปี แต่จะมีการอัปเวอร์ชันย่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ใช้ได้รับการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา
ในส่วนของโปรแกรมกราฟิกในตระกูล Adobe นั้นมีรูปแบบลิขสิทธิ์เป็น แบบจ่ายรายปี (Subscription License) คือต้องจ่ายเงินปีละประมาณ 18,600 บาท และจะได้รับการอัปเดตเวอร์ชันตลอดระยะเวลาของลิขสิทธิ์การใช้งาน
เรื่องน่ารู้ : ความแตกต่างระหว่างลิขสิทธิ์แบบ Perpetual License และ Subscription License รวมถึงลิขสิทธิ์รูปแบบอื่น
ด้วยความที่โปรแกรมกราฟิกในตระกูล Affinity ได้ถูกนำไปใช้งานในองค์กรธุรกิจอย่างกว้างขวาง ทำให้มีลิขสิทธิ์หลายรูปแบบให้เลือกใช้ โดยแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลัก ๆ ดังนี้
ตัวอย่างผลงานที่สร้างสรรค์โดย Affinity Designer
ภาพจาก : https://affinity.serif.com/en-gb/designer/
มืออาชีพด้านงานกราฟิกจำนวนมากให้การต้อนรับโปรแกรมกราฟิกในตระกูล Affinity เป็นอย่างดี และมีมืออาชีพหลายคนยอมรับว่า ได้เปลี่ยนจากการใช้งานโปรแกรมในตระกูล Adobe มาใช้งาน Affinity แทน ทั้งในแบบการใช้งานอิสระ และการใช้งานในธุรกิจ และด้วยข้อดีของ Affinity ทำให้ผู้ใช้งาน ได้เชิญชวนคนอื่น ๆ ให้มาลองใช้งานกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
และโปรแกรมราคาถูก ไม่จำเป็นต้องใช้งานยากกว่าโปรแกรมราคาแพงเสมอไป โดยมีผู้ใช้งานโปรแกรม Affinity Designer รายหนึ่ง ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ส่วนตัวให้ฟังว่า สำหรับคนที่เคยใช้ Adobe Illustrator มาก่อน ก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเลยกับการเปลี่ยนมาใช้ Affinity Designer เพราะว่ามันใช้งานง่ายกว่า หน้าเมนูที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน ง่ายสำหรับผู้ใช้งานมือใหม่ และมันยังเปิดไฟล์ .ai และ .eps ที่มาจากโปรแกรม Adobe Illustrator ได้ด้วย ทำให้สามารถทำงานร่วมกับทีมงานที่ใช้โปรแกรมที่แตกต่างกันได้
ตัวอย่างผลงานที่สร้างสรรค์โดย Affinity Photo
ภาพจาก : https://affinity.serif.com/en-gb/photo/
เช่นเดียวกับโปรแกรม Affinity Photo (โปรแกรมแต่งรูป แต่งไฟล์ RAW) ที่สามารถ เปิด, แก้ไข และบันทึกไฟล์ในฟอร์แมต .psd ของโปรแกรม Adobe Photoshop ได้เป็นอย่างดี ในส่วนทางฝั่งของโปรแกรม Affinity Publisher (โปรแกรมออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ e-Book และเลย์เอาต์ต่าง ๆ) ก็สามารถนำเข้าไฟล์ในฟอร์แมต IDML จาก โปรแกรม Adobe InDesign ได้อย่างรวดเร็ว
ตัวอย่างผลงานที่สร้างสรรค์โดย Affinity Publisher
ภาพจาก : https://affinity.serif.com/en-gb/publisher/
และหากใครยังไม่มั่นใจว่าโปรแกรมในซีรีส์ Affinity ตอบความต้องการของคุณได้จริงหรือไม่ ก็สามารถ ดาวน์โหลดเวอร์ชัน Demo ไปทดลองใช้งานได้เป็นระยะเวลา 30 วัน
ภาพจาก : https://affinity.serif.com/en-gb/designer/ipad/
อีกหนึ่งจุดแข็งของ Affinity คือมีโปรแกรมให้เลือกใช้สำหรับระบบปฏิบัติการหลัก ๆ ทั้ง 3 รูปแบบ คือรองรับทั้ง Windows, macOS และล่าสุด มีการออกแอปพลิเคชันบนเครื่อง iPad ให้ใช้งานครบทั้ง 3 ตัวคือ
ภาพจาก : https://affinity.serif.com/en-gb/photo/ipad/
ด้วยการมาถึงของแอปพลิเคชันในซีรีส์ Affinity บนเครื่อง iPad ทำให้มืออาชีพด้านงานกราฟิกสามารถทำงานได้ทุกเวลาแม้จะอยู่นอกสถานที่ โดยที่แอปพลิเคชันบน iPad จะมีฟีเจอร์การใช้งานที่ใกล้เคียงโปรแกรมบน ระบบปฏิบัติการ Windows และ macOS โดยมีการออกแบบหน้าเมนูให้เหมาะสำหรับการสั่งงานผ่านการแตะหน้าจอ เข้าถึงคำสั่งที่ใช้งานบ่อย ๆ ได้อย่างรวดเร็วผ่านระบบ Quick Menu
นอกจากนี้แล้ว ก็ยังมาพร้อมการแสดงตัวอย่างย่อของแถบเลเยอร์ในแบบ Compact Mode เพื่อประหยัดเนื้อที่บนหน้าจอ และยังมีฟีเจอร์ Virtual Memory Swap ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการหน่วยความจำ เมื่อทำงานกับไฟล์ขนาดใหญ่อีกด้วย
ภาพจาก : https://affinity.serif.com/en-gb/publisher/ipad/
และสำหรับฟรีแลนซ์ หรือผู้ใช้งานทั่วไป ที่ต้องการ Affinity สำหรับการใช้งานทั้งบน ระบบปฏิบัติการ Windows, macOS และ iPad ในราคาคุ้มค่า ก็เลือกซื้อเป็นชุด โปรแกรม Affinity Universal License และสำหรับแผนกงานกราฟิกในองค์กรธุรกิจ ที่ต้องการซื้อโปรแกรมจำนวนหลายชุดสำหรับพนักงานทุกคน ก็เลือกซื้อเป็นชุด โปรแกรม Affinity Universal License (Multi-user) for Business ได้ตามต้องการ
ด้วยความที่ ชุดโปรแกรม Affinity เป็นโปรแกรมสำหรับมืออาชีพด้านงานกราฟิกที่กำลังมาแรง ทำให้มีคนผลิตคอนเทนต์ หรือสื่อการสอน ในการใช้งานออกมามากมายหลายรูปแบบ และสื่อในรูปแบบที่ทำความเข้าใจได้ง่าย
และเห็นภาพชัดเจนที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นคลิปวิดีโอสอนการใช้งานบน YouTube ที่มีทั้งครีเอเตอร์ชาวไทย และชาวต่างชาติผลิตคลิปสอนการใช้งาน และคลิปแนะนำเทคนิคการสร้างสรรค์ผลงานด้วย Affinity ออกมามากมายหลายคลิป เราเลยขอคัดเลือกคลิปที่น่าสนใจมาให้ชมกันครับ
คลิปสอนวิธีแก้ปัญหาตัวอักษรไทยสระจม
คลิปแนะนำฟีเจอร์ใหม่ของ Affinity Designer
คลิปแนะนำฟีเจอร์ใหม่ของ Affinity Photo
คลิปแนะนำฟีเจอร์ใหม่ของ Affinity Publisher
|
ไม่เสพติดไอที แต่ชอบเสพข่าวเทคโนโลยี หาความรู้ใหม่ๆ มาใส่สมอง |