ในยุคที่แทบทุกอย่างบนโลกใบนี้อยู่บนโลกดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการทำงานจากระยะไกลแบบ, การเรียนออนไลน์จากที่บ้าน รวมไปถึงการทำธุรกรรมต่าง ๆ ทุกวันนี้เราสามารถทำได้เลยผ่านอินเทอร์เน็ต โดยไม่ต้องเดินทางไปเซ็นเอกสารด้วยตัวเองอีกต่อไป
โดยในการเซ็นเอกสารผ่านอินเทอร์เน็ตนั้น เราจะต้องใช้ ลายเซ็นดิจิทัล (Digital Signature) หรือลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signature) ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ บางคนอาจจะคิดว่ามันเป็นคำที่ใช้เรียก "สิ่งเดียวกัน" แต่ในความเป็นจริง มันแตกต่างละเป็นคนละรูปแบบกัน
ในบทความนี้เราจะมาอธิบายความแตกต่างระหว่างลายเซ็นดิจิทัล (Digital Signature) กับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signature) ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร ?
ภาพจาก : https://www.freepik.com/free-photo/closeup-person-signing-document_3077816.htm
ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signature หรือ E-Signature) นั้นก็เหมือนกับ ลายเซ็นที่เป็นลายมือ หรือตราประทับครั่งที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยมันมีคุณสมบัติในการยืนยันเพื่อรับรองตัวตนได้ไม่ต่างจากการเซ็นด้วยมือจริง ๆ แต่ก็ขึ้นอยู่กับกฏหมายของแต่ละประเทศด้วยว่า รับรองการใช้งานลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signature) หรือไม่ ? อย่างประเทศไทย, ออสเตรเลีย, จีน, อังกฤษ และประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศ ก็ยอมรับการใช้งานลายเซ็นประเภทนี้
การทำงานของลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์นั้นค่อนข้างเรียบง่าย ถ้าให้เรียนตามตรง มันก็แค่การเอา "ภาพลายเซ็น" ที่เราเตรียมไว้มา "แปะ" ลงบนเอกสารอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้นเอง มันจึงง่ายต่อการถูกคัดลอก หรือปลอมแปลง
การใส่ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signature)
ลายเซ็นดิจิทัล (Digital Signature) เป็นเทคโนโลยีลงนามแบบดิจิทัลชนิดหนึ่งที่มีการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อใช้ตรวจสอบความถูกต้อง ของเอกสารที่ถูกแก้ไข หรือสร้างขึ้นมาได้ ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจถึงที่มา และความถูกต้องของเอกสารมากขึ้น
ตามปกติแล้ว ลายเซ็นดิจิทัล และลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จะถูกใช้งานร่วมกัน โดยเมื่อเซ็นเอกสารด้วยลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบออนไลน์แล้ว ก็จะตรวจสอบความถูกต้องของตัวลายเซ็นด้วยการใช้ลายเซ็นดิจิทัลมายืนยันตัวตนอีกครั้งหนึ่ง
ตามปกติแล้ว ลายเซ็นดิจิทัลนั้นจะไม่ใช่ลายมือ หรือรูปภาพที่ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นแล้วอ่านข้อมูลได้ อย่างมาก็เห็นเป็นชุดตัวเลขไอดี เพราะลายเซ็นดิจิทัลจะเป็นข้อมูลที่ถูก แฮช (Hash) เพื่อเข้ารหัสเอาไว้ ซึ่งการถอดรหัสจะต้องใช้ Public key ของผู้ลงลายเซ็นเท่านั้น เพื่อรับประกันความปลอดภัยว่าเฉพาะผู้รับที่ต้องการเท่านั้น ที่สามารถเห็นข้อมูลได้
ภาพจาก : https://origin.docusign.com/how-it-works/electronic-signature/digital-signature/digital-signature-faq
สำหรับการสนทนาในแวดวงธุรกิจแล้วลายเซ็นดิจิทัล และลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์นั้นมักจะถูกหมายความถึงสิ่งเดียวกัน คนส่วนใหญ่มองว่ามันเป็นสิ่งเดียวกัน เป็นคำที่สามารถใช้แทนกันได้ ซึ่งก็ไม่ผิดอะไรนัก เพราะโดยทั่วไปแล้ว งานเอกสารส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ใช้ระบบตรวจสอบของลายเซ็นดิจิทัลกันด้วยซ้ำไป
อย่างไรก็ตาม มันก็จะมีบางสถานการณ์ โดยเฉพาะเมื่อต้องเซ็นกำกับเอกสารสำคัญที่ต้องมีการยืนยันตัวอย่างเข้มงวด ดังนั้น การทำความเข้าใจข้อแตกต่างระหว่างลายเซ็นดิจิทัล กับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ก็น่าจะมีประโยชน์อย่างแน่นอน
ลายเซ็นดิจิทัล | ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ | |
ความเร็ว | ขึ้นอยู่กับระบบที่ใช้ | ตามความเร็วของสกิล Copy-Paste รูป |
ความปลอดภัย | แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะปลอมแปลง | ใครมีรูปลายเซ็นอยู่ก็ปลอมได้เลย |
การมองเห็น | ยากต่อการมองเห็น และทำความเข้าใจ | เข้าใจตั้งแต่แรกเห็น |
วัตถุประสงค์ | ใช้ระบบตรวจสอบแบบอัตโนมัติ | ใช้มนุษย์ในการตรวจสอบ |
ลายเซ็นดิจิทัลต้องใช้ซอฟต์แวร์ในการลงนาม และเปิดอ่าน มันจึงตรวจสอบความถูกต้องได้อย่างแม่นยำ อย่างเช่น หากมีการสำรวจความเห็นที่มีต่อหัวหน้า เอกสารก็จะไม่สามารถปลอมแปลงความเห็นที่ประเมินหัวหน้าได้ โดยที่ไม่มีใครรู้
ควรใช้งานลายเซ็นดิจิทัลถ้า
| ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์นั้นง่าย, รวดเร็ว และตรวจสอบได้ด้วยตามนุษย์ แต่ก็แลกมาด้วยความง่ายที่จะถูกปลอมแปลง
ควรใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ถ้า
|
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |