ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
THAIWARE.COM | ทิปส์ไอที
 

ธุรกิจชั้นนำเลือกใช้ Minitab ขับเคลื่อนโปรเจกต์ Six Sigma

ธุรกิจชั้นนำเลือกใช้ Minitab ขับเคลื่อนโปรเจกต์ Six Sigma

เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 1,092
เขียนโดย :
0 %E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89+Minitab+%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%8C+Six+Sigma
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

ธุรกิจชั้นนำเลือกใช้ Minitab ขับเคลื่อนโปรเจกต์ Six Sigma

Six Sigma เป็นแนวคิดการจัดการคุณภาพที่พัฒนาโดย บริษัท Motorola ใน ประเทศสหรัฐอเมริกา (USA : United States of America) เกิดขึ้นในช่วงยุคปี ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในองค์กรธุรกิจทั่วโลก โดยหลักการสำคัญของ Six Sigma คือการลดข้อผิดพลาดในกระบวนการทำงานของธุรกิจ หรือลดข้อผิดพลาดในกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมให้เหลือในระดับต่ำสุด โดยใช้วิธีการทางสถิติและเครื่องมือเฉพาะทางในการปรับปรุงคุณภาพ

บทความเกี่ยวกับ Minitab อื่นๆ

โดย โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงลึก Minitab มีรากฐาน และมีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 50 ปี เป็นเครื่องมือสำคัญที่อุตสาหกรรมการผลิต และองค์กรธุรกิจมากกว่า 85% ในกลุ่ม Fortune 500 ได้เลือกใช้ โดย Minitab มีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงคุณภาพในกรอบ Six Sigma ด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลายและใช้งานง่าย ตั้งแต่การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นไปจนถึงการออกแบบการทดลอง และการสร้างรายงาน

โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงลึก Minitab จะช่วยให้องค์กรสามารถลดของเสีย เพิ่มคุณภาพ และบรรลุเป้าหมายของ Six Sigma ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติม : ตัวแทนจำหน่าย Minitab โซลูชันเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงลึก โดย Thaiware Shop

เนื้อหาภายในบทความ

1. Six Sigma คืออะไร ? (What is Six Sigma ?)

ระดับประสิทธิภาพ Sigma ตั้งแต่ระดับ 1 ถึงระดับ 6 (Six Sigma)
ระดับ Sigma ข้อผิดพลาดต่อล้านครั้ง (DPMO)
1 697,672
2 308,770
3 66,810
4 6,209
3 232
6 3.4

จากตารางด้านบน แสดงให้เห็นถึง ระดับประสิทธิภาพ Sigma ตั้งแต่ระดับ 1 ถึงระดับ 6 ซึ่งก็คือระดับ Six Sigma จะเห็นว่ามีความแม่นยำในกระบวนการทำงาน หรือกระบวนการผลิตเป็นอย่างสูง คือยอมรับให้มี ข้อผิดพลาดได้เพียง 3.4 ครั้ง ต่อโอกาส 1 ล้านครั้ง หรือ ที่เรียกว่าค่า DPMO (Defects Per Million Opportunities)

ซึ่งการที่จะลดข้อผิดพลาดในกระบวนการให้ต่ำลงจนถึงระดับ Six Sigma ต้องมุ่งเน้นไปที่การเก็บข้อมูลของตัวแปรต่าง ๆ ที่กระทบกับการเกิดข้อผิดพลาด หรือกระทบกับคุณภาพของการผลิต และนำข้อมูลมาทำการวิเคราะห์ในเชิงลึก เพื่อระบุปัญหาและปรับปรุงกระบวนการ

โดยโปรเจกต์ Six Sigma ดำเนินการตามวิธีการ DMAIC ได้แก่ :

  1. Define (D) : กำหนดปัญหาและเป้าหมายที่ต้องการแก้ไข อาจทำโดยการรับฟังความคิดเห็น และความต้องการของลูกค้า 
  2. Measure (M) : วัดผลและเก็บข้อมูลเพื่อประเมินสถานการณ์ปัจจุบัน คำนวณความสามารถของกระบวนการ
  3. Analyze (A) : วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อระบุสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา พยายามให้แน่ใจว่าปัจจัยทั้งหมดของปัญหาได้รับการพิจารณาอย่างรอบด้าน ค้นหาสาเหตุที่แท้จริงภายใต้การสอบสวน
  4. Improve (I) : ปรับปรุงกระบวนการ ซึ่งเป็นผลการจากใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคนิค ออกแบบการทดลดอง หรือ DOE (Design of Experiments) หรือด้วยวิธีการ Poka yoke หรือด้วยวิธีการพิสูจน์ข้อผิดพลาด (Mistake proofing) เพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงกระบวนการให้ดีขึ้น
  5. Control (C) : ควบคุมและติดตามผลเพื่อให้การปรับปรุงมีความยั่งยืน รวมถึงติดตามเพื่อให้แน่ใจว่าการเบี่ยงเบนจากเป้าหมาย ต้องได้รับการแก้ไขก่อนที่จะส่งผลให้เกิดข้อบกพร่อง โดยเครื่องมือที่ใช้ในการติดตาม อาทิ
  • การควบคุมทางสถิติ (Statistical Process Control หรือ SPC)
  • การตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง (Continuous monitoring)
  • Production boards
  • Visual workplaces

โดยขั้นตอนการ Control จะกระทำซ้ำอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะได้ระดับคุณภาพที่ต้องการ

Six Sigma ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือในการปรับปรุงคุณภาพเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งเน้น การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (Continuous improvement) และการมีส่วนร่วมของพนักงานในทุกระดับ การใช้แนวคิดนี้ช่วยให้องค์กรสามารถลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

2. Six Sigma เหมาะสำหรับธุรกิจ และอุตสาหกรรมใดบ้าง ? (Six Sigma is suitable for which business ?)

แนวคิด Six Sigma ถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ :

  • อุตสาหกรรมการผลิต : ใช้เพื่อลดของเสียในกระบวนการผลิต เช่น การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์หรืออิเล็กทรอนิกส์
  • อุตสาหกรรมการบริการ : เช่น ธนาคาร โรงแรม และสายการบิน ใช้ปรับปรุงกระบวนการให้บริการลูกค้า
  • อุตสาหกรรมสุขภาพ : เช่น โรงพยาบาล ใช้เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัย และลดเวลาในการรอ
  • อุตสาหกรรมไอทีและซอฟต์แวร์ : ใช้เพื่อลดข้อผิดพลาดในการพัฒนาโปรแกรมและเพิ่มประสิทธิภาพโครงการ
  • อุตสาหกรรมพลังงาน : ใช้เพื่อลดการสูญเสียพลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตพลังงาน

3. Minitab ขับเคลื่อนโปรเจกต์ Six Sigma ได้อย่างไร ? (How does Minitab drive Six Sigma projects ?)

โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงลึก Minitab ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับกระบวนการที่องค์กรกำลังดำเนินการอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบข้อบกพร่องในกระบวนการที่เกิดขึ้น การวัดค่าประสิทธิภาพ หรือการสร้างแบบจำลองเพื่อตรวจสอบปัจจัยที่มีผลต่อผลลัพธ์ โดย Minitab ช่วยให้องค์กรมองเห็นภาพรวมของข้อมูลและสามารถทำการ ตัดสินใจโดยมีข้อมูลสนับสนุน (Data-Driven Decision Making) อย่างมั่นใจ

นอกจากนี้ ความสามารถของ Minitab ในการจัดทำกราฟและแผนภูมิที่ชัดเจน ทำให้ทีมงานสามารถสื่อสารผลลัพธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในองค์กรได้ง่ายขึ้น ช่วยลดความซับซ้อนในการอธิบายผลการวิเคราะห์ข้อมูล

Minitab เป็น โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงลึก ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนกระบวนการ Six Sigma อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟีเจอร์ที่ช่วยในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเก็บข้อมูล วิเคราะห์กระบวนการ ไปจนถึงการสร้างรายงานและนำเสนอผลลัพธ์อย่างมืออาชีพ และในบทความนี้ เราจะสำรวจฟีเจอร์หลักของ Minitab ที่สนับสนุนการทำงานในกรอบ Six Sigma

4. การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น (Descriptive statistics)

ธุรกิจชั้นนำเลือกใช้ Minitab ขับเคลื่อนโปรเจกต์ Six Sigma

หนึ่งในขั้นตอนสำคัญของ Six Sigma คือการทำความเข้าใจกับข้อมูลที่มีอยู่และ โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงลึก Minitab มีฟีเจอร์สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น อาทิ :

  • Mean, Median และ Mode : ช่วยวิเคราะห์แนวโน้มของข้อมูล
  • Standard deviation : ช่วยวัดการกระจายของข้อมูล
  • Histograms และ Boxplots : ช่วยแสดงการกระจายและการเปรียบเทียบข้อมูล

ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยให้ทีม Six Sigma เข้าใจข้อมูลเบื้องต้นก่อนดำเนินการวิเคราะห์ขั้นสูง

5. การวิเคราะห์กระบวนการ (Process analysis)

ธุรกิจชั้นนำเลือกใช้ Minitab ขับเคลื่อนโปรเจกต์ Six Sigma

ฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับการ วิเคราะห์กระบวนการ ที่มีอยู่ใน โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงลึก Minitab อาทิ :

  • Control charts : เช่น X-bar, R-chart และ P-chart ช่วยติดตามความเสถียรของกระบวนการ
  • Capability analysis : เช่น Cp และ Cpk ช่วยวัดความสามารถของกระบวนการในการผลิตสินค้าให้อยู่ในมาตรฐานที่กำหนด
  • Pareto charts : ใช้ระบุปัญหาหลักที่มีผลกระทบมากที่สุดตามหลัก 80/20 (หลักการพาเรโต)

6. การวิเคราะห์ความสัมพันธ์และความแปรปรวน (Correlation and regression)

ธุรกิจชั้นนำเลือกใช้ Minitab ขับเคลื่อนโปรเจกต์ Six Sigma

โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงลึก Minitab ช่วยให้การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร และการพยากรณ์ผลลัพธ์ง่ายขึ้น ด้วยเครื่องมือเหล่านี้ :

  • Correlation analysis : วัดความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรสองตัว
  • Regression analysis : ใช้สร้างโมเดลความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต้นและตัวแปรตาม เช่น Linear regression และ Polynomial regression
  • Multivariate analysis : วิเคราะห์ตัวแปรหลายตัวพร้อมกัน

เครื่องมือเหล่านี้ช่วยระบุปัจจัยที่ส่งผลต่อกระบวนการ และหาวิธีปรับปรุง

7. การออกแบบการทดลอง (Design of Experiments : DOE)

ธุรกิจชั้นนำเลือกใช้ Minitab ขับเคลื่อนโปรเจกต์ Six Sigma

การออกแบบการทดลอง หรือ DOE เป็นส่วนสำคัญของ Six Sigma โดยช่วยระบุและปรับกระบวนการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดย โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงลึก Minitab มีฟีเจอร์ที่ช่วยในด้านนี้ อาทิ :

  • Full factorial design : วิเคราะห์ผลกระทบของปัจจัยทั้งหมด
  • Fractional factorial design : ใช้เมื่อมีข้อจำกัดด้านทรัพยากร
  • Response Surface Methodology (RSM) : ใช้ปรับค่าที่เหมาะสมที่สุดของปัจจัย

8. การวิเคราะห์ความเสี่ยงและความน่าเชื่อถือ (Risk and reliability analysis)

ธุรกิจชั้นนำเลือกใช้ Minitab ขับเคลื่อนโปรเจกต์ Six Sigma

โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงลึก Minitab มีฟีเจอร์ที่ช่วยประเมินความเสี่ยงและความน่าเชื่อถือของกระบวนการ อาทิ :

  • Failure Mode and Effects Analysis (FMEA) : ช่วยระบุและจัดอันดับความเสี่ยงในกระบวนการ​​​​​​
  • Reliability/Survival analysis : วิเคราะห์ข้อมูลการเสื่อมสภาพหรือการล้มเหลว

9. การวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือเฉพาะ Six Sigma (Analysis using specific Six Sigma tools)

ธุรกิจชั้นนำเลือกใช้ Minitab ขับเคลื่อนโปรเจกต์ Six Sigma

โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงลึก Minitab มีฟีเจอร์เฉพาะที่ออกแบบมาสำหรับ Six Sigma อาทิ :

  • Fishbone diagram (Ishikawa Diagram) : ช่วยวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา
  • Value Stream Mapping (VSM) : ใช้สร้างแผนภาพกระบวนการเพื่อลดของเสีย
  • Monte carlo simulation: ใช้พยากรณ์ผลลัพธ์ของกระบวนการในสถานการณ์ต่าง ๆ

10. การสร้างรายงาน และการนำเสนอข้อมูล (Creating a report and data presentation)

ธุรกิจชั้นนำเลือกใช้ Minitab ขับเคลื่อนโปรเจกต์ Six Sigma

โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงลึก Minitab สนับสนุนการสร้างรายงานที่เข้าใจง่าย อาทิ :

  • Graphs and charts : เช่น Scatterplots, Bar charts, และ Time series plots
  • Session window : สรุปผลการวิเคราะห์ในรูปแบบข้อความ
  • Minitab Engage : ผลิตภัฑ์ของ Minitab ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการบริหารโครงการ Six Sigma

11. การเชื่อมต่อกับ Lean Six Sigma (Connecting to Lean Six Sigma)

Lean Six Sigma เป็นแนวคิดที่รวมเอาข้อดีของสองแนวทางหลัก คือ Lean และ Six Sigma มาใช้ร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดข้อบกพร่องในกระบวนการ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ :

  • Lean : เน้นการลดความสูญเปล่า (Waste) ในกระบวนการ เช่น การลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น การเพิ่มความเร็วในการผลิต และการปรับปรุง Flow ของกระบวนการ
  • Six Sigma : เน้นการลดข้อผิดพลาด (Defects) และเพิ่มคุณภาพ โดยใช้เครื่องมือและวิธีการทางสถิติเพื่อปรับปรุงกระบวนการ

โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงลึก Minitab สนับสนุนแนวคิด Lean Six Sigma โดยช่วยลดความสูญเสียและเพิ่มประสิทธิภาพ อาทิ :

  • การลด Cycle time ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูล
  • การปรับปรุง Flow ของกระบวนการด้วย Control charts

12. บทสรุป การขับเคลื่อนโปรเจกต์ Six Sigma ด้วย Minitab (Summary : Driving Six Sigma projects with Minitab)

ด้วยฟีเจอร์ทั้งหมดของ โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงลึก Minitab ที่ได้กล่าวถึงในบทความนี้ ทำให้ Minitab ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลเท่านั้น แต่ยังเป็นพันธมิตรสำคัญในการขับเคลื่อนการปรับปรุงคุณภาพ และการเพิ่มประสิทธิภาพในระยะยาว ด้วยการสนับสนุนกระบวนการ Lean Six Sigma และความสามารถที่ครอบคลุมตั้งแต่การวิเคราะห์เบื้องต้นไปจนถึง การออกแบบการทดลอง (DOE) โดย Minitab ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างวัฒนธรรมของ การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (Continuous improvement) และมุ่งเน้น ความเป็นเลิศในทุกกระบวนการของธุรกิจ (Operational Excellence)

ไม่ว่าคุณจะอยู่ในอุตสาหกรรมใด การใช้  Minitab เพื่อสนับสนุนกระบวนการ Six Sigma ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ช่วยให้องค์กรสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และสร้างความสำเร็จในระยะยาว


ที่มา : th.wikipedia.org , en.wikipedia.org

0 %E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89+Minitab+%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%8C+Six+Sigma
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
ระดับผู้ใช้ : Admin    Thaiware
ไม่เสพติดไอที แต่ชอบเสพข่าวเทคโนโลยี หาความรู้ใหม่ๆ มาใส่สมอง
 
 
 

ทิปส์ไอทีที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น