แบตสำรอง หรือแบตเตอรี่พกพา (Power Bank) เป็นหนึ่งใน แกดเจ็ต (Gadget) ขายดี ที่ถ้าใครมีสมาร์ทโฟน ส่วนใหญ่ก็จะซื้อ Power Bank มาพกติดตัวด้วย เผื่อไว้ชาร์จแบตเตอรี่ในยามเดินทางที่ไม่สามารถหาปลั๊กเสียบอะแดปเตอร์ได้
ในปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีของ Power Bank ได้พัฒนามาไกลจากสมัยก่อนมาก มีความจุของแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่าเดิม, รองรับเทคโนโลยีการชาร์จไร้สาย, ชาร์จไว (Fast Charge หรือ Quick Charge) หรือแม้แต่มี Mag Safe ในตัว ฯลฯ
ข้อมูลเพิ่มเติม : Power Bank คืออะไร ? และ Power Bank แบบไหน สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ ?
การเลือกซื้อ Power Bank ให้ตอบโจทย์การใช้งานของเราได้ตรงใจมากที่สุด จึงอาจมีความซับซ้อนอยู่บ้าง ในบทความนี้ เราเลยจะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อ Power Bank ให้กระจ่างแจ้งกันมากขึ้น
Orsen by Eloop EW55
ภาพจาก : https://www.eloopthailand.com/collections/magsafe-products-iphone/products/ew55-pd-20w-magsafe-20000-mah-grey
ในการเลือกแบตสำรอง หรือ พาวเวอร์แบงค์ (Power Bank) หรือ Portable Mobile Battery Charger นั้น จะมีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงอยู่หลายด้าน ประกอบไปด้วย
ความจุของแบตเตอรี่นั้นเป็นอะไรที่แอบมีความซับซ้อน ถ้าเราดูที่สเปกของ Power Bank ที่ขายกันทั่วไป ก็จะมีบอกความจุเอาไว้หลายขนาด เช่น 10,000 mAh, 20,000 mAh, 30,000 mAh ฯลฯ
สมมติคุณใช้งาน iPhone 14 Pro Max ซึ่งมีความจุของแบตเตอรี่อยู่ที่ 4,323 mAh คุณก็น่าจะคิดว่า Power Bank ขนาด 10,000 mAh จะสามารถชาร์จ iPhone 14 Pro Max จากแบตเตอรี่ 0% ไป 100% ได้ 2 รอบ แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ
ภายในตัว Power Bank ส่วนใหญ่แล้ว จะใช้ถ่านชาร์จขนาด 18650 ที่มีแรงดันไฟฟ้า 3.7V เป็นตัวเก็บพลังงาน หากเราแกะกรอบของ Power Bank ออก หน้าตาภายในก็จะประมาณภาพด้านล่างนี้
ภายในของ Mi Power Bank 20,000 mAh
ภาพจาก : https://www.myfixguide.com/manual/xiaomi-mi-power-bank-teardown-20000mah/
จุดสำคัญอยู่ตรงเซลล์ (Cell) ที่เป็นตัวเก็บพลังงานมีแรงดันไฟฟ้า 3.7V ในขณะที่ Power Bank แบบธรรมดาทั่วไปที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน ขั้นต่ำก็จะจ่ายไฟเพื่อชาร์จพลังงานให้สมาร์ทโฟนได้ที่ 5V/2.1A ถ้าเราแปลงค่าพลังงานตามสูตร ก็จะผลลัพธ์ออกมาเป็น
(10,000 mAh x 3.7V) / 5 V = 7,400 mAh
แต่เราจะบอกว่า 7,400 mAh นั้นก็ยังไม่ใช่ค่าตัวเลขที่ถูกต้อง เพราะในการแปลงพลังงานจาก 3.7V เป็น 5V ในทางปฏิบัติจริง มันจะมีการสูญเสียพลังงานบางส่วนไปตามกฏการทำงานของประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (Energy efficiency) ค่าตรงนี้ไม่มีความแน่นอนแล้วแต่คุณภาพของตัวต้านทาน, ตัวเก็บประจุ, วงจร ฯลฯ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว เราก็จะคำนวณกันแบบคร่าว ๆ ที่ 85%
7,400 mAh x 0.85 = 6,290 mAh
สรุป Power Bank ที่มีขนาดแบตเตอรี่ 10,000 mAh จะจ่ายพลังงานได้จริง ๆ ประมาณ 6,290 mAh ดังนั้น ถ้าคุณเอามันมาชาร์จแบตเตอรี่ให้กับ iPhone 14 Pro Max ที่มีความจุของแบตเตอรี่อยู่ที่ 4,323 mAh ก็จะชาร์จได้เพียง 1.45 รอบ เท่านั้น (ชาร์จเต็มได้ 100% หนึ่งรอบ และชาร์จได้อีก 45% อีก 1 รอบ)
ถ้าเข้าใจแล้ว ทีนี้การเลือกขนาดความจุของ Power Bank ก็จะเป็นเรื่องง่ายละ สมมติว่าคุณต้องการ Power Bank ที่สามารถชาร์จ iPhone 14 Pro Max ให้คุณได้สัก 3 รอบ แปลว่าขั้นต่ำแล้วคุณจะต้องเลือกซื้อ Power Bank ที่มีความจุอย่างน้อย 20,000 mAh
ขนาด และน้ำหนักของ Power Bank นั้นจะแปรผันโดยตรงกับความจุของแบตเตอรี่ที่มันทำได้ ยิ่งแบตเตอรี่เยอะเท่าไหร่ ก็ต้องใช้ตัว Cell เก็บประจุเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ส่งผลให้ขนาด และน้ำหนักเพิ่มขึ้นไปด้วยโดยปริยายตามหลักฟิสิกส์
สำหรับคนที่ปกติสะพายเป้ หรือกระเป๋าตลอดเวลา ขนาดของ Power Bank อาจจะไม่ใช่เรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจมากนัก แต่หากคุณเป็นสายคนที่ชอบเดินตัวเปล่า (อย่างตัวผู้เขียนเองก็ไม่ชอบสะพาย หรือถือกระเป๋า) ตัวเลือกของคุณก็มีไม่มากนัก Power Bank ที่ขนาดเล็กจนพกใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงได้โดยที่ไม่เกะกะมากนัก ส่วนใหญ่ได้แล้วก็จะมีความจุเพียง 3,000 mAh ถึง 10,000 mAh เท่านั้นเอง
EW52 MagSafe 10000 mAh
ภาพจาก : https://www.eloopthailand.com/collections/recommended/products/ew52-10000-mah
การชาร์จพลังงานให้ตัว Power Bank ใช้เวลาในการชาร์จที่ยาวนานมาก เนื่องจากมีความจุของแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป
หากคุณเลือกซื้อ Power Bank ที่มีความจุสูงมาใช้งาน ในตอนเลือกซื้อควรจะดูค่า Input ที่ทางผู้ผลิตระบุเอาไว้ด้วย โดยเราแนะนำว่าควรจะเลือกรุ่นที่รองรับ การชาร์จไฟเข้า (Input) ขั้นต่ำ 5V/2.4A รุ่นที่มีคุณภาพสูงหน่อย อาจจะรองรับสูงได้สูงกว่านั้น เช่น 12V/2A
ความเร็วในการจ่ายไฟออก (Output) คือความแรงของตัว Power Bank ที่สามารถจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ที่เรานำมาเชื่อมต่อเพื่อชาร์จพลังงานได้
ใน Power Bank ราคาประหยัด ส่วนใหญ่ก็จะชาร์จได้ที่ความเร็วปกติ ทั่วไปก็ 5V/2A แต่หากคุณต้องการใช้งานคุณสมบัติชาร์จเร็วด้วย ก็จะต้องยอมจ่ายเงินแพงหน่อย
เทคโนโลยีชาร์จเร็วในตัว Power Bank ก็เหมือนกับที่มีในอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ มันจะรองรับเทคโนโลยีอย่างเช่น Power Delivery 3.0 หรือ Quick Charge เทคโนโลยีเหล่านี้ นอกจากจะช่วยให้เราชาร์จได้ไวขึ้นแล้ว โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ ๆ ในปัจจุบันนี้ หลายรุ่นก็ออกแบบมาให้ชาร์จผ่าน Power Bank ได้ด้วย แต่แน่นอนว่าตัว Power Bank จะต้องรองรับเทคโนโลยี Power Delivery ด้วย
AUKEY PB-N93A ที่รองรับทั้ง PD 3.0 และ QC 3.0
ภาพจาก : https://www.aukey.com/collections/power-banks/products/aukey-pb-n93a-usb-c-power-bank-20000mah-pd-ultra-slim-power-bank-with-18w-pd
โดยพื้นฐานแล้ว Power Bank ส่วนใหญ่จะให้ พอร์ต USB-A มา 2 ช่อง สำหรับใช้เสียบชาร์จอุปกรณ์อื่น ๆ แต่ Power Bank บางรุ่นก็จะให้พอร์ต USB-C มาด้วย แต่หากคุณต้องการที่จะชาร์จอุปกรณ์หลายอย่างพร้อม ๆ กัน ก็อาจจะต้องมองหา Power Bank รุ่นที่ให้พอร์ตมาเยอะหน่อย แต่ส่วนใหญ่แล้ว ถ้าเป็น Power Bank แบบพกพา เต็มที่ก็จะให้ USB-A มา 4 ช่อง และ USB-C 1 ช่อง
Baseus Amblight Digital Display Quick Charge Power Bank 30000mAh 65W
ภาพจาก : https://us.baseus.com/p/baseus-amblight-digital-display-quick-charge-power-bank-30000mah-65w-26
ตลาด Power Bank มีการแข่งขันที่สูงมาก ผู้ผลิตจึงพยายามใส่ลูกเล่นต่าง ๆ เข้ามา เพื่อดึงดูดเงินจากกระเป๋าสตางค์ของผู้บริโภคให้ออกมาง่ายขึ้น ซึ่งก็มีหลายฟังก์ชันที่น่าสนใจ แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณต้องการที่จะใช้งานลูกเล่นเหล่านั้นด้วยหรือเปล่า ? เพราะลูกเล่นที่เพิ่มมา ก็เป็นต้นทุนที่ผู้ผลิตต้องจ่าย ส่งผลให้ราคาของ Power Bank เพิ่มขึ้นไปด้วย ลูกเล่นที่น่าสนใจก็ อย่างเช่น
ภาพจาก : https://gccelectronic.com/product/mini-15w-3-in-1-strong-magnetic-charging-powerbank-n66/
Power Bank มีหลายราคาตั้งแต่ไม่กี่ร้อยบาท ไปจนถึงหลายพันบาท เราควรหลีกเลี่ยงการซื้อ Power Bank ยี่ห้อโนเนม ที่ราคาถูกมาก ๆ เพราะภายใน Power Bank นั้นมีแบตเตอรี่อยู่ Power Bank ที่ดีจะเลือกใช้ Cell เก็บไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง มีระบบรักษาความปลอดภัยติดตั้งเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นระบบตัดไฟฟ้าอัตโนมัติเมื่อเกิดการลัดวงจร, วัสดุป้องกันไฟไหม้, ระบบตัดการทำงานเมื่อมีความร้อนสูงผิดปกติ ฯลฯ ซึ่งใน Power Bank ที่ราคาถูกมาก ๆ มักจะตัดพวกระบบรักษาความปลอดภัยออก เพื่อลดต้นทุน
การรับประกันตัวสินค้าก็มีความสำคัญ เช่นกัน ตัวแบตเตอรี่ใน Power Bank เป็นสิ่งที่เสื่อมสภาพเมื่อเราใช้ไปนาน ๆ แต่ถ้ามันเสื่อมเร็วจนผิดปกติ แล้วมันยังอยู่ในช่วงเวลารับประกัน อย่างน้อยเราก็สามารถเคลมสินค้าได้ หรือระหว่างนั้น หาก Power Bank ของเราผิดปกติ เช่นชาร์จไฟไม่เข้า ไฟสถานะไม่ติด ฯลฯ การเลือกซื้อยี่ห้อที่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ก็จะทำให้การเคลมสินค้าง่ายมากขึ้น
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |