หลายคนน่าจะทราบเกี่ยวกับการใช้งาน Roaming หรือโรมมิ่ง ว่าเป็นบริการที่เปิดใช้งานได้เฉพาะเมื่ออยู่ต่างประเทศเท่านั้น แต่หารู้ไม่ว่า บริการโรมมิ่งก็สามารถเปิดใช้งานได้แม้ขณะที่อยู่ในประเทศไทย ได้อีกด้วยเช่นกัน และเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานมือถือควรเปิดไว้ด้วย เพราะช่วยแก้ปัญหาที่คนส่วนใหญ่กำลังประสบพบเจออย่างอินเทอร์เน็ตช้า หรือแอปพลิเคชันไม่แจ้งเตือนได้อีกด้วย แล้วการเปิดโรมมิ่งในไทยจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือไม่ หรือจะเกิดปัญหาอะไรตามมาหรือเปล่า มาไขข้อข้องใจเหล่านี้กันดีกว่า
https://www.freepik.com/free-photo/telecommunications-antenna-radio-television-telephone-with-cloud-blue-sky_1189812.htm#page=1&query=signal&position=5
Roaming หรือภาษาไทยอ่านว่า "โรมมิ่ง" คือบริการที่เปิดให้โทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นๆ สามารถใช้งานรับคลื่นสัญญาณนอกเหนือจากเครือข่ายเดิมที่ใส่ซิมการ์ดอยู่ เพราะในบางสถานการณ์หรือบางพื้นที่ คลื่นความถี่ของผู้ให้บริการอาจเข้าไม่ถึง เพื่อไม่ให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตต้องสะดุดหรือขาดตอน จึงต้องมีการสลับไปใช้คลื่นความถี่อื่นนอกเหนือจากเดิม
ซึ่งการใช้งานก็จะต้องเปิดเมนู Roaming ในสมาร์ทโฟนไว้ด้วย ซึ่งประเภทของการโรมมิ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ โรมมิ่งต่างประเทศ (International Roaming) และโรมมิ่งในประเทศ (Local Roaming)
https://www.freepik.com/free-photo/cheerful-asian-backpacker-blogger-woman-using-smartphone-direction-looking-location-map_4014683.htm#page=1&query=roaming&position=2
แม้ว่าคนไทยจะนิยมการซื้อซิมการ์ดจากไทย ซิมการ์ดต่างประเทศ หรือเช่า Pocket Wi-Fi เพื่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตในต่างประเทศเป็นหลัก แต่บางคนยังต้องติดต่อสื่อสารตามปกติเสมือนอยู่ในประเทศ หรือมีเหตุอื่นๆ ที่ทำให้ไม่สามารถถอดหรือเปลี่ยนซิมการ์ดได้ การ Roaming ต่างประเทศจึงเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตและโทรออก รับสายได้สะดวก
ในขณะที่ข้อเสียของการ Roaming คือ เครือข่ายมือถือในไทยอาจไม่รองรับการ Roaming ทุกประเทศทั่วโลก และมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการซื้อซิมการ์ด หรือเช่า Pocket Wi-Fi สำหรับใช้งานต่างประเทศโดยเฉพาะ
หลายคนเข้าใจว่าการเปิด Roaming สามารถทำได้เมื่ออยู่ต่างประเทศเท่านั้น หากเปิดใช้งานในไทยอาจเสียเงินเพิ่ม เน็ตรั่วไหล หรือเกิดปัญหาต่างๆ ตามมา แท้จริงแล้วการใช้งาน Roaming ก็สามารถทำได้ในไทยโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม ซึ่งการเปิดโรมมิ่งใช้งานในไทยช่วยให้ความเร็วอินเทอร์เน็ต ณ ขณะนั้นลื่นไหลขึ้น
https://www.freepik.com/free-photo/businessman-scrolling-his-phone_5269723.htm#page=1&query=cellular&position=30
เนื่องจากเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในไทย มีคลื่นความถี่ให้บริการมากกว่า 1 ความถี่ การ Roaming คือการสลับคลื่นความถี่ เพื่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ยกตัวอย่างสำหรับใครที่มีปัญหาแอปพลิเคชันไม่แจ้งเตือน หรือแจ้งเตือนบ้าง ไม่แจ้งบ้าง การเปิด Data Roaming ก็มีส่วนช่วยแก้ปัญหานี้ได้ เนื่องจากตัวเครื่องมือถือจะทำการจับสัญญาณคลื่นที่สามารถใช้งานได้ในขณะนั้น เพื่อความต่อเนื่องในการใช้งานนั่นเอง
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ามือถือของคุณเปิดโรมมิ่งอยู่หรือเปล่า ให้สังเกตสัญลักษณ์อักษร R บริเวณเสาสัญญาณบนหน้าจอ แต่ถ้ามือถือใครไม่ได้เปิดใช้งานโรมมิ่งอัตโนมัติ ให้เข้าไปที่เมนูการตั้งค่า (Setting) เลือกเมนู Mobile Networks และกดเปิดการใช้งาน Data Roaming เพื่อความเร็วของอินเทอร์เน็ตที่เสถียรกว่า แต่ถ้าต้องการปิดใช้งานโรมมิ่ง ก็ให้ทำตามวิธีเดียวกัน แต่ทางที่ดี ขอแนะนำว่าให้เปิดการใช้งาน Roaming ไว้ดีกว่า
จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นว่า การเปิดสัญญาณโรมมิ่งในไทยนั้นเป็นสิ่งที่ควรเปิดใช้งาน แต่ถ้าใครยังกังวลหรือเห็นว่าไม่จำเป็น ก็ยังไม่ต้องเปิดโรมมิ่งก็ได้ สำหรับใครที่ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้งานโรมมิ่ง สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทุกเครือข่าย หรือสามารถให้ทางศูนย์บริการตั้งค่าเปิด-ปิดได้
|
Web Content Editor ท่านหนึ่ง นิยมการเล่นมือถือเป็นชีวิตจิตใจ |
ความคิดเห็นที่ 2
13 พฤษภาคม 2564 17:35:30
|
||||||||||||||||||||
GUEST |
วิโรจน์
ต้องมีเงินอยู่ในชิมเท่ารัยครับ
|
|||||||||||||||||||
ความคิดเห็นที่ 1
31 มีนาคม 2564 11:50:49
|
||||||||||||||||||||
จะมั่นใจได้อย่างไรว่าการเปิดโรมมิ่งในประเทศจะไม่เสียค่าบริการเพิ่มหรอครับ เพราะโทรศัพท์ก็แจ้งเตือนว่า ถ้าเปิดผู้ให้บริการจะเก็บเงินเรา หรือว่าจเก็บเฉพาะเป็นต่างประเทศครับ ไม่อยากเสี่ยงเลย
|
||||||||||||||||||||