ในยุคปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโทรศัพท์มือถือ หรือ สมาร์ทโฟน (Smartphone) แทบจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญสำหรับดำรงชีวิตเราในทุก ๆ วัน พวกเราใช้มันทั้งสำหรับโทร ส่งข้อความสื่อสาร ใช้สำหรับดูสื่อความบันเทิง และที่สำคัญเรายังใช้มันสำหรับการทำธุรกรรมการเงิน อุปกรณ์เล็ก ๆ พกพาสะดวกถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างมาก และที่สำคัญพวกเรายังใช้สมาร์ทโฟนสำหรับการทำงานร่วมกันอีกด้วย
ซึ่งทั้งหมดนี่ละที่เป็นเหตุผลที่ทำให้ข้อมูลที่ถูกจัดเก็บไว้ในสมาร์ทโฟนนั้น เป็นที่หมายตาของเหล่าแฮกเกอร์ และผู้ที่ประสงค์ร้าย เป็นดั่งคำที่บริษัทรักษาความปลอดภัยอย่าง "แคสเปอร์สกี้ (Kaspersky)" ได้กล่าวไว้ว่า
จากการใช้งานเครือข่าย 5G ที่เพิ่มมากขึ้น และจำนวนอุปกรณ์ที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมีสูงขึ้น เหล่าผู้โจมตี (Attackers) จะมีแรงจูงใจมากขึ้นในการหาช่องโหว่ที่พวกเข้าใช้ประโยชน์ได้
ด้วยความสามารถของสมาร์ทโฟนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมันสามารถทำได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการติดตามสินค้าคงคลัง, จัดการการขนส่ง, สแกน และตรวจเช็คพัสดุ จนแม้กระทั่งตรวจเช็คสภาพร่างกาย เจ้าสมาร์ทโฟนจึงกลายเป็นส่วนที่สำคัญสำหรับทุก ๆ หน่วยงานไปเสียแล้ว นั่นจึงเป็นเหตุที่เราจะต้อง ปกป้องข้อมูล (Safeguarding Data) ที่อยู่บนสมาร์ทโฟน และในบทความนี้จะพาทุกคนไปพบกับทิปส์ง่าย ๆ ที่จะช่วยให้ข้อมูลส่วนตัว และสมาร์ทโฟนปลอดภัยมากขึ้นกัน !
เมื่อคุณได้ซื้อใช้งานโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ หรือไม่ก็โทรศัพท์ที่ใช้อยู่ ณ ตอนนี้เลย ในฐานะของผู้ใช้งาน เราควรทำอะไรบ้างเพื่อให้มันใจว่าโทรศัพท์เราจะปลอดภัย ?
ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนแรกที่มีความสำคัญมาก ๆ เราควรที่จะทำการ สำรองข้อมูล (Backup) ที่อยู่บนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของเราอย่างเป็นประจำสม่ำเสมอ หรืออาจจะตั้งค่าเป็นรอบเวลาเลยก็ได้ เนื่องจากอาจเกิดเหตุสุดวิสัยที่ไม่ว่าจะเกิดจากตัวอุปกรณ์เอง หรืออาจโดนโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งเป็นเหตุให้ข้อมูลสูญหาย ดังนั้นเมื่อเราได้รับโทรศัพท์มาแล้วก็ควรที่จะทำการสำรองข้อมูลไว้ โดยอาจจะใช้ บริการเก็บข้อมูลไว้บนคลาวด์ (Cloud Storage) ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น iCloud, Dropbox, หรือ Google Drive ก็จะช่วยให้เราปกป้องข้อมูลที่สำคัญเอาไว้ได้
ภาพจาก : https://drfone.wondershare.com/android-backup-and-restore.html
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือระบบติดตามโทรศัพท์ เช่น แอป Find My iPhone หรืออื่น ๆ ตามระบบปฏิบัติการ (OS) ที่ใช้ เราควรที่จะปรับตั้งค่าให้ระบบใช้งานคุณสมบัตินี้ทันที เพราะว่าเมื่อเราเปิดใช้งานระบบนี้แล้วก็จะทำให้รู้สึกสบายใจมากขึ้น เมื่อใดที่โทรศัพท์สมาร์ทโฟนหาย หรือถูกขโมยไป เราก็ยังสามารถที่จะติดตามได้ว่ามันไปอยู่ที่ไหน และยังสามารถที่จะลบข้อมูลที่สำคัญในเครื่องได้ผ่านการควบคุมระยะไกล และอีกขั้นเลยคือการใส่รหัสไปยังข้อมูล ช่วยให้ผู้ที่ขโมยสามารถเปิดข้อมูลของคุณออกมาดูได้ยากขึ้นกว่าเดิมมาก
ภาพจาก : https://www.techradar.com/how-to/how-to-use-find-my-iphone
ทุกคนเป็นหรือไม่ เวลาเห็นอัปเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ ๆ มา เรามักจะปล่อยไว้ก่อนค่อยอัปเดต หรือไม่ก็อาจจะลืมไปเลย แต่อันที่จริงแล้วการอัปเดตระบบปฏิบัติการให้เป็นปัจจุบันเสมอ จะช่วยให้เราได้รับฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาข้อผิดพลาด และยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ทั้งอุปกรณ์ และข้อมูลของเรานั่นเอง
ภาพจาก : https://www.identityiq.com/digital-security/how-important-are-phone-software-updates/
เราควรที่จะตั้งค่า หรือใช้ แอปพลิเคชัน ป้องกันมัลแวร์ (Antimalware Application) ให้มันทำงานตรวจหาช่องโหว่เป็นประจำทุก ๆ วัน ซึ่งจะเป็นการช่วยป้องกัน และกำจัด มัลแวร์ (Malware) ที่จะคอยเข้ามารุกรานโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของเรา
ภาพจาก : https://www.androidcentral.com/best-antivirus-apps-android
ทุกครั้งที่เราจะทำการติดตั้งแอปพลิเคชันใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเกม หรือแอปทั่ว ๆ ไป สิ่งที่สำคัญมากคือเราควรที่จะอ่านรีวิวของแอบนั้น ๆ เป็นอันดับแรก และเลือกดาวน์โหลดจากแหล่งที่น่าเชื่อถือเท่านั้น เพื่อให้เราได้มั่นใจว่าดาวน์โหลดจากผู้พัฒนาจริง ๆ และได้แอปในเวอร์ชันที่ปลอดภัย แหล่งดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่น่าเชื่อถือก็ได้แก่ Apple App Store และ Google Play Store เป็นต้น
ภาพจาก : https://www.apple.com/lae/app-store/
จริง ๆ แล้วเวลาที่เราเปิดใช้งานแอปพลิเคชันที่เราเพิ่งติดตั้งใหม่ครั้งแรก ก็จะมีหน้าต่างให้เราอนุญาตให้แอปเข้าถึงข้อมูลขึ้นมาอยู่แล้ว เพียงแต่เราต้องสังเกตให้ดีว่าแอปนั้นขอสิทธิ์เข้าถึงอะไรบ้าง และหมั่นตรวจสอบให้สม่ำเสมอ และอีกสิ่งสำคัญคือเราควรที่จะถอนการติดตั้งแอปที่ไม่ได้ใช้งานแล้วก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลอีกด้วย
การเจลเบรค และรูทเครื่องในกรณีของระบบปฏิบัติการแอนดรอย (Android) ทั้งสองคือการกระทำที่ไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่ามันจะทำให้เราสามารถที่จะติดตั้งแอปพลิเคชันที่ละเมิดกฏข้อบังคับของ Google ได้ แต่ต้องระลึกไว้เสมอว่ามันเป็นการทำให้สมาร์ทโฟนของเราเพิ่มความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีขึ้นไปอีก และที่สำคัญแอปธนาคารต่าง ๆ ก็จะไม่ยอมให้ติดตั้งในเครื่องที่ทำการเจลเบรค หรือรูทไปแล้วด้วย
ภาพจาก : https://cellphonetracker.net/is-rooting-and-jailbreaking-safe/
อีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมสำหรับคนทำงานก็คือร้านกาแฟนั่นเอง เรามักจะนำเอาแล็ปท็อป หรือสมาร์ทโฟนไปนั่งทำงาน ชิว ๆ ที่ร้านกาแฟน่ารัก ๆ ซึ่งมี Wi-Fi ให้ใช้งานได้ฟรี แต่ทุกคนต้องตระหนักไว้เสมอว่าเครือข่ายไร้สายที่เป็นสาธารณะนั่นคือช่องทางเชื่อมต่อเรา กับแฮ็กเกอร์ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ดังนั้นเราควรใช้งานอินเทอร์เน็ต 4G หรือ 5G ของเครื่องเราดีกว่า หากจำเป็นต้องใช้ Wi-Fi สาธารณะจริง ๆ ก็ควรจะใช้ซอฟต์แวร์ VPN เพื่อเพิ่มความปลอดภัยนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดจากทั้งหมดคือการที่เราจะต้องไม่ดาวน์โหลดติดตั้งแอปพลิเคชัน จากแหล่งที่ไม่มีความน่าเชื่อถือไม่ว่าจากลิงก์ หรือจากผู้พัฒนาที่เราไม่รู้จัก แหล่งดาวน์โหลดที่เชื่อถือไม่ได้เหล่านี้มักจะมีมัลแวร์แฝงมากับไฟล์ติดตั้งด้วย ซึ่งมันจะสามารถแอบเข้ามาตรวจดูกิจกกรรมบนเครื่องของเรา และอาจแอบเข้าถึงข้อมูลที่มีความสำคัญได้
ดังนั้นแล้ว การที่เราเลือกที่จะติดตั้งแอปพลิเคชันที่มาจากแหล่งดาวน์โหลดที่เชื่อถือได้ และได้รับความนิยมจากคนทั่วโลกก็จะช่วยให้อุปกรณ์ของเรามีความปลอดภัยอยู่เสมอนั่นเอง
อีกหนึ่งส่วนสำคัญสำหรับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของเราก็คือ "รหัสผ่าน หรือ พาสเวิร์ด (Password)" นั่นเอง โดยเราควรที่จะต้องคิดรหัสผ่านของเราให้มีความแข็งแกร่งแบบแข็งแกร่งสุด ๆ จนยากที่จะเดาสุ่มได้เลย การที่เราทำให้รหัสผ่านของเรามีความเป็นเอกลักษณ์ (Unique) ก็จะยิ่งช่วยให้การเข้าถึงข้อมูลในมือถือของเราโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นไปได้ยากขึ้น
ภาพจาก :https://prowritersins.com/cyber-security-blog/why-are-strong-passwords-important/
เรายังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการใช้การเข้าถึงแบบชีวภาพ (Biometric Access) ซึ่งก็คือการใช้ลักษณะทางชีวภาพ เช่นลายนิ้วมือ หรือหน้าตา มาช่วยในการยืนยันตัวบุคคล ด้วยการนำเอาทั้งรหัสผ่านที่มีความเป็นเอกลักษณ์ และลักษณะการเข้าถึงแบบชีวภาพ มารวมกันก็จะยิ่งช่วยให้เราสามารถสร้างด่านป้องกันที่มีแน่นหนา ปกป้องข้อมูลที่สำคัญของเราเอาไว้ได้
อีกหนึ่งวิธีคือการนำเอา การยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน (Two-Factor Authenitcation - 2FA) มาประยุกต์ใช้ โดย 2FA คือการที่ผู้ใช้จะต้องใส่รหัสผ่าน 2 ชั้น ก่อนที่จะเข้าถึงข้อมูลได้ โดยจะมีรหัสผ่านชุดหนึ่งที่สุ่มเปลี่ยนทุกครั้ง ช่วยให้การเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นไปได้ยากมากขึ้นนั่นเอง
ภาพจาก : https://icts.strathmore.edu/google-2fa/
ปิดการเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย บลูทูธ (Bluetooth) ในช่วงที่เราไม่ได้ใช้งาน การทำแบบนี้จะช่วยให้หลีกเลี่ยงโทรศัพท์ของเราจาก แฮกเกอร์ (Hacker) ที่อาจจะนั่งอยู่ใกล้ ๆ คอยจ้องที่จะเชื่อมต่อบลูทูธกับสมาร์ทโฟนของเหยื่อนั่นเอง
ภาพจาก :https://blog.eduguru.in/tutorial/bluetooth-attacks
แม้ว่าการเชื่อมต่อบลูทูธกับหูฟังไร้สาย แอร์พอด (Airpods) ของเราจะสามารถทำให้เราฟังเพลง หรือ พอดแคสต์ (Podcast)ได้อย่างสะดวกสบาย แต่การใช้บลูทูธก็ยังมีความเสี่ยงบางประการเช่น การดักฟัง , การโจมตีจากคนกลาง (Man-in-the-Middle Attacks) และการเข้าถึงอุปกรณ์ของเราโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการโจมตีด้วยบลูทูธหลัก ๆ มี 3 แบบดังนี้
การทำบลูแจ็คกิ้งเป็นที่รู้จักกันดีเลย และมักที่จะเกิดขึ้นบ่อย ๆ แฮกเกอร์ส่วนใหญ่จะนำเอาวิธีนี้มาใช้ในการก่อกวนเช่นการสแปมข้อความ ดูเป็นการโจมตีที่ไม่ได้ร้ายแรงนัก ยังไม่ถึงขั้นที่เข้าถึงข้อมูลบนเครื่องของเราได้
การโจมตีแบบนี้นั้นสมารถทำให้แฮกเกอร์เข้าถึงสมาร์ทโฟนของเราโดยที่เราไม่สามารถรู้ตัวได้เลย แม้ว่าเราจะเปิดโหมดที่ไม่สามารถค้นพบได้ และเมื่อใดที่สมาร์ทโฟนเราตกเป็นเหยื่อของการบลูสนาร์ฟฟิงแล้ว แฮกเกอร์ก็จะสามารถเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญ ทั้งรูปภาพ อีเมล นั่นเอง
ด้วยเทคนิคนี้จะสามารถทำให้แฮกเกอร์ แทรกซึมเข้ามายังเครื่องของเรา และยังสามารถควบคุมเครื่องได้อีก เมื่อสมาร์ทโฟนของเรากลายเป็นเหยื่อแล้วแฮกเกอร์สามารถที่จะเข้าถึง อีเมล ใช้งานการโทร ข้อความ รูปภาพ หรือแม้กระทั่งท่องอินเทอร์เน็ตโดยไม่สามารถถูกจับได้ ซึ่งการโจมตีแบบนี้มักเกิดกับเครื่องรุ่นเก่า ๆ ที่ล้าหลังนั่นเอง
ด้วยการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และสมาร์ทโฟนที่สูงมากในปัจจุบัน ซึ่งในบางคนอาจใช้พร้อม ๆ กันสองถึงสามเครื่องเลย โดยเรานำเอาสมาร์ทโฟนมาใช้ในการเก็บข้อมูลจากที่ทำงาน แชทพูดคุยเรื่องสำคัญ เก็บรหัสผ่านไว้ในเครื่อง ซึ่งล้วนเป็นข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน หรือว่าสำคัญ หากถูกโจรกรรมโดยใครไม่รู้อาจทำให้ข้อมูลที่มีมูลค่าสูญหายได้ เคล็ดลับที่ยกมาเป็นตัวอย่างในบทความนี้จะเป็นอีกส่วนช่วยสำคัญที่จะทำให้เราตั้งค่า และใช้งานสมาร์ทโฟนของเราให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัยมากที่สุด ใครที่ยังไม่ได้เริ่มก็ควรลองกันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเลย
|