หากอยู่ดีๆ ฮาร์ดดิสก์พกพา External HDD ที่คุณใช้งานอยู่เกิดอาการผิดปกติ อ่าน-เขียนข้อมูลได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น มันมีสาเหตุเกิดจากอะไร แล้วเราจะแก้ไขปัญหาได้อย่างไร หากปัญหาไม่ได้มาจากการที่ตัวอุปกรณ์เสื่อมสภาพแล้วล่ะก็ เราก็สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้อยู่นะครับ
มันมีอยู่หลายวิธีที่อาจจะช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ดังนี้ครับ
เมื่อไหร่ก็ตามที่ฮาร์ดไดร์ฟมีปัญหา หนึ่งในสิ่งที่เราควรทำเป็นลำดับแรก คือ การทำ "Defragment and Optimize Drives" ซึ่งในระบบปฏิบัติการ Windows จะมีเครื่องมือนี้มาให้อยู่แล้ว เราสามารถเรียกใช้งานด้วยวิธีการดังนี้
เรื่องควรรู้ : Windows 10 ได้ปรับปรุงให้เครื่องมือ Defragment and Optimize Drives สามารถทำงานได้ทั้ง HDD และ SSD แล้วนะครับ หากคุณใช้งาน Windows เวอร์ชันเก่า ไม่ควรใช้วิธีการนี้กับไดร์ฟแบบ SSD นะครับ
หากทำ Defragment ตัว External HDD แล้วอาการของไดร์ฟยังไม่ดีขึ้น เราควรลองใช้เครื่องมือ Check Disk ในการแก้ไขดู เครื่องมือนี้มีความสามารถในการตรวจสอบ และใช้แก้ไขปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้นกับฮาร์ดดิสก์ได้ เช่น ปัญหา Bad Sector ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ข้อมูลเกิดความเสียหาย
การใช้คำสั่ง Check Disk สามารถทำได้ 2 วิธี ดังนี้ครับ
คลิกขวาที่ไดร์ฟผ่าน Windows Explorer แล้วเลือกเมนู Properties
ไปที่แท็บเมนู Tools ตรงเมนู Error checking คลิกที่ปุ่ม Check แล้วคลิก Scan Drive
เรียกใช้งานเครื่องมือ Check Disk ผ่าน Windows PowerShell (Admin) ด้วยการคลิกขวาที่ปุ่ม Start แล้วเลือก Windows PowerShell (Admin)
พิมพ์คำสั่ง chkdsk.exe /f [ชื่อไดร์ฟ] ตัวอย่างเช่น หากเราต้องการเช็คไดร์ฟ G ก็จะต้องพิมพ์ลงไปว่า chkdsk.exe /f g: แล้วกดปุ่ม Enter
หากทำสองขั้นตอนด้านต้นแล้วยังไม่ดีขึ้น ก็มีความเป็นไปได้ว่า อาจจะเป็นปัญหาที่ตัวฮาร์ดดิสก์ของเราแล้ว หากถึงขั้นนี้เราต้องสังเกตหาความเสียหายแทนละ โดยสามารถสังเกตได้จากหลายจุด ดังนี้
การที่ไดร์ฟทำงานช้าผิดปกติ หรือมีอาการแปลกๆ เกิดขึ้น มันเป็นสัญญาณเตือนว่าฮาร์ดดิสก์ของเราเริ่มมีปัญหาแล้ว เราควรรีบเปลี่ยนตัวใหม่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่ารอจนมันใช้งานไม่ได้แล้วค่อยคิดเปลี่ยน เพราะการกู้ข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์ที่พังแล้ว ไม่ใช่เรื่องง่าย
อีกสาเหตุที่ทำให้การทำงานของ External HDD ของเราช้าลงก็อาจมาจากสายเชื่อมต่อต่างๆ หากสายที่เป็นฉนวนมีรอยถลอกชำรุด ก็มีความเป็นไปได้ว่า สายนำสัญญาณที่อยู่ด้านในเกิดความเสียหายได้
โดยเราควรตรวจสอบทั้งสาย USB และสายที่จ่ายพลังงานไฟฟ้า (หากว่ามี) เลย ซึ่งราคาสายพวกนี้ก็แค่ไม่กี่บาทเท่านั้น ควรเปลี่ยนก่อนที่จะมีปัญหาดีกว่า
ทั้งนี้ การเลือกซื้อสาย USB ปัจจุบันนี้ External HDD ส่วนใหญ่จะเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB 3.0 แล้วนะครับ อย่าเผลอซื้อผิด ซื้อสาย USB 2.0 มาล่ะ ไม่งั้นอ่าน-เขียนข้อมูลช้าอย่างแน่นอน
เวลาที่เราคัดลอกไฟล์จำนวนมากจากคอมพิวเตอร์ไปยัง External HDD ก็จะทำให้เวลาที่เราทำกิจกรรมต่างๆ บนฮาร์ดดิสก์ช้าลงไปด้วย (พวกการเปิดดู ค้นหาไฟล์ ฯลฯ)
ตัวอย่างเช่น หากคุณดาวน์โหลดไฟล์จาก Torrent ไปเก็บไว้บน External HDD นั่นหมายความว่ามีข้อมูลจำนวนมหาศาลกำลังถูก Download และ Upload เกิดขึ้นตลอดเวลา นั่นก็ส่งผลให้ External HDD ทำงานช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
ในการตรวจสอบกิจกรรมที่เกิดขึ้นบนฮาร์ดดิสก์ เราสามารถเช็คได้โดยใช้ Task Manager
เราสามารถเปิด Task Manager ได้โดยการกดปุ่ม Ctrl + Shift + Esc บนคีย์บอร์ด หรือจะคลิกขวาที่ Taskbar แล้วเลือก Task Manager ก็ได้
จากนั้นให้เราสังเกตที่แถบเมนู Disk ครับ เราจะเห็นข้อมูลว่ามีอะไรที่กำลังใช้งานไดร์ฟอยู่บ้าง
หากพบว่า Windows Explorer ใช้งาน Disk สูงมาก ก็น่าจะเกิดขึ้นเพราะมันกำลังคัดลอกไฟล์อยู่ แต่ก็อาจจะเกิดจากโปรแกรม Torrent หรือซอฟต์แวร์ตัดต่อรูป ตัดวิดีโอได้เช่นกัน บางคนอาจจะเล่นเกมที่ติดตั้งไว้บน External HDD เลยด้วยซ้ำ ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ จะส่งผลให้ External HDD ทำงานได้ช้าลง หากเราต้องการ เราก็สามารถสั่งปิดการทำงานของกิจกรรมที่ต้องการได้ด้วยการเลือก End task มันไปได้เลย
อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้ว Disk จะไม่ทำงาน 100% นะครับ หากพบว่ามันทำงานเต็มที่ตลอดเวลา อาจจะเกิดจากบั๊กของ Windows 10 ซึ่งเราสามารถแก้ไขได้ด้วย วิธี นี้
มัลแวร์หลายตัวสามารถส่งผลให้ฮาร์ดดิสก์ทำงานได้ช้าลงอย่างชัดเจน ซึ่งวิธีการแก้ไขก็ไม่ยากอะไร ให้เราสแกนไวรัสในไดร์ฟเท่านั้นเอง โดยจะใช้ Windows Defender โปรแกรมป้องกันไวรัสที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows เลยก็ได้
หรือหากมีโปรแกรมป้องกันไวรัสตัวโปรดอยู่แล้วก็ลองสั่งให้มันสแกนไดร์ฟดูสักหน่อย แต่ถ้ายังไม่มีเลยสักตัว เราก็ขออนุญาตแนะนำว่าคุณสามารถสั่งซื้อแบบออนไลน์ได้จาก Thaiware Shop
สำหรับวิธีสั่งสแกน ไม่ว่าคุณจะใช้ Windows Defender หรือโปรแกรมป้องกันไวรัสยี่ห้ออะไรก็ตาม ก็ทำเหมือนกันหมดนะครับ คือ ให้เราคลิกขวาที่ไดร์ฟ แล้วเลือกเมนูสแกนได้เลย (ในภาพด้านล่าง คือ เราสั่งสแกนด้วย Windows Defender)
ถ้ารู้สึกว่าเวลาเชื่อมต่อ External HDD แล้ว ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ใช้เวลานานเสียเหลือเกิน กว่าจะแสดงผลไฟล์ใน Explorer ได้ สาเหตุของมันมาจากการที่ Windows 10 พยายามทำรายการ Index ไฟล์ในไดร์ฟอยู่ครับ
Index ไฟล์ จะช่วยให้ Windows search สามารถค้นหาไฟล์ด้วยข้อมูล Metadata ได้ หากเราปิดคุณสมบัตินี้ลง เราจะค้นหาได้จากชื่อไฟล์เท่านั้น ซึ่งสำหรับบางคนแล้วมันไม่ใช่ฟังก์ชันที่จำเป็นเท่าไหร่นัก
เราสามารถปิดการทำ Index ได้ด้วยขั้นตอนดังนี้
หวังว่า ผู้อ่านที่ประสบปัญหา External HDD ทำงานช้า หลังจากที่ทำตามคำแนะนำของเราแล้ว จะสามารถแก้ปัญหาที่เผชิญอยู่ได้นะครับ
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |