“บ้าน” เปรียบเสมือน Safe Zone หรือ พื้นที่ปลอดภัย สถานที่แห่งความอุ่นใจ สบายใจ จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมควรจัดบ้าน ดูแลรักษาบ้านให้สะอาด ปลอดภัย เพื่อให้บ้านกลายเป็น “บ้านสุขภาพดี” และทำให้สมาชิกในครอบครัวรู้สึกดีกับการใช้ชีวิตอยู่ที่บ้าน มีทั้งสุขภาพที่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ในบทความนี้ จะทำให้เห็นว่า สุขภาพดีนั้นสร้างได้อย่างไร รับรองว่าเป็นวิธีที่สามารถนำไปทำตามได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน โดยหลักการของบ้านสุขภาพดี นั้นคือ “ปลอดฝุ่น โปร่งสบาย ระบายอากาศได้ดี หนีห่างจากเชื้อโรค”
ปัญหาฝุ่นภายในบ้าน เป็นปัญหาที่อยู่มาทุกยุคทุกสมัย จริงอยู่ที่เราไม่สามารถกำจัดฝุ่นได้หมดจด 100% ตลอดเวลา แต่ก็มีวิธีที่นิยมใช้เพื่อป้องกัน ลดปริมาณฝุ่น และไรฝุ่นภายในบ้าน ดังนี้
การจะกำจัดฝุ่นให้ได้ผลดี ควรทำความสะอาดบ้านเป็นประจำทุกวัน โดยในยุคนี้มีเครื่องมือทุ่นแรงพ่อบ้านแม่บ้าน อย่าง เครื่องทำความสะอาดพื้น (Floor Cleaner Machine) ซึ่งมีความสามารถในการดูดฝุ่น ถูพื้น และเช็ดแห้งได้ในขั้นตอนเดียว ช่วยประหยัดเวลา และสามารถทำได้ง่ายๆ ไม่เปลืองแรง ซึ่งในบางรุ่นนั้น สามารถฆ่าเชื้อโรคด้วยไอน้ำความร้อนสูง ขจัดคราบเลอะต่างๆ ได้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่ควรมีไว้ติดบ้าน
แต่หากใครที่ไม่มีเครื่องทำความสะอาด ก็สามารถใช้วิธี กวาด-ถูพื้น โดยใช้น้ำยาถูพื้น หรือน้ำยาทำความสะอาดฆ่าเชื้อ และใช้ เครื่องดูดฝุ่น (Vacuum Cleaner) นอกจากนี้ ควรเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่เก็บฝุ่น และทำความสะอาดได้ง่าย
แนะนำเครื่องทำความสะอาดรุ่นยอดนิยมในท้องตลาด
เราใช้เวลาไปกับการนอนหลับ อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง แน่นอนว่าหากสภาพแวดล้อมภายในบ้านเอื้ออำนวย ก็จะทำให้เราพักผ่อนได้อย่างเพียงพอ รู้ไหมว่า บนที่นอนมีไรฝุ่นที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ เราจึงควรเลือกใช้ผ้าปูที่นอนแบบกันไรฝุ่น ซักผ้าปูที่นอนด้วยน้ำร้อน และเปลี่ยนผ้าปูที่นอนบ่อยๆ นอกจากนี้ยังควรใช้ เครื่องดูดไรฝุ่น (Dust Mite Vacuum Cleaner) ทำความสะอาดที่นอนเป็นประจำด้วย
แนะนำเครื่องดูดไรฝุ่นรุ่นยอดนิยมในท้องตลาด
บ้านสุขภาพดี ควรจัดให้ได้รับแสงสว่างจากธรรมชาติอย่างเพียงพอ เพราะนอกจากจะช่วยลดกลิ่นอับภายในบ้าน ยังช่วยกำจัดความชื้นด้วย โดยอย่าลืมว่า ควรจัดบ้านให้แดดส่องถึงบริเวณห้องน้ำ หรือตู้เสื้อผ้า เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราภายในบ้านด้วย
นอกจากนี้ คุณควรเช็กสภาพอากาศนอกบ้านด้วย เครื่องวัดคุณภาพอากาศ (Air Quality Monitor) หากวันไหนมีคุณภาพอากาศที่ดี ก็เปิดหน้าต่างให้มีอากาศธรรมชาติถ่ายเทเข้ามาในตัวบ้าน ไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์ตลอดทั้งวัน
แนะนำเครื่องวัดคุณภาพอากาศยอดนิยมในท้องตลาด
รู้หรือไม่ว่า สิ่งของใกล้ตัวของเรานั้นเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคจำนวนมาก จึงมีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญว่าควรล้างมือให้สะอาด เพื่อฆ่าเชื้อโรค โดยมีวิธีป้องกันเชื้อโรคภายในบ้านที่ทำได้ง่ายๆ มาฝากกัน ดังนี้
แอร์ หรือ เครื่องปรับอากาศ (Air Conditioner) ก็เป็นแหล่งสะสมฝุ่นละออง เชื้อโรค และเชื้อราที่มองไม่เห็น คุณควรล้างแอร์เป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อเป็นการทำความสะอาด และยังช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แถมประหยัดไฟอีกด้วย
ห้องน้ำ นั้นเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค และมีความชื้นสูง จึงควรรักษาความสะอาด ล้างห้องน้ำเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยควรใช้น้ำยาทำความสะอาดให้เหมาะสมกับพื้นที่แต่ละส่วน เช่น พื้นกระเบื้อง, ผนัง, กระจก หรือโถชักโครก และไม่ควรสัมผัสโดนน้ำยาโดยตรง แต่ควรมีอุปกรณ์ป้องกันเพื่อความปลอดภัย อาทิ ถุงมือยาง รองเท้าบูทยาง ผ้าปิดจมูก เป็นต้น
ในปัจจุบัน มีเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก และขนาดใหญ่มากมาย ที่ช่วยป้องกันและฆ่าเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ
เครื่องฟอกอากาศ เป็นอุปกรณ์ที่คุ้มค่าแก่การลงทุนอีกชิ้นหนึ่ง เพราะช่วยให้เกิดคุณภาพอากาศที่ดีภายในบริเวณห้อง แต่หากต้องการกำจัดเชื้อโรคในอากาศ ก็ควรใช้ เครื่องฟอกอากาศเกรดการแพทย์ (Medical Grade Air Purifier) ที่มีแผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพสูง กรองได้ทั้งละอองฝุ่น ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 รวมไปถึง ตัวไรฝุ่น (Dust Mite), เชื้อแบคทีเรีย (Bacteria), เชื้อรา (Mold), ละอองเกสรดอกไม้ (Pollen), สารก่อภูมิแพ้ต่างๆ รวมไปจนถึงเชื้อโรค เชื้อไวรัสขนาดเล็ก ซึ่งเครื่องฟอกอากาศเกรดการแพทย์นี้ จะนิยมใช้ในโรงพยาบาล หรือคลินิกทางการแพทย์
แนะนำเครื่องฟอกอากาศเกรดการแพทย์รุ่นยอดนิยมในท้องตลาด
เพราะคุณอาจนำเชื้อโรคเข้าบ้านโดยไม่รู้ตัว เพื่อการปกป้องตัวเอง และคนที่คุณรัก อุปกรณ์อย่าง ตู้อบฆ่าเชื้อโรค จึงเป็นตัวช่วยที่ดี เพราะมันเหมาะสำหรับใช้อบฆ่าเชื้อของใช้ส่วนตัวในชีวิตประจำวัน โดยใช้หลักการทำงานในการฆ่าเชื้อโรคด้วยแสง UVC นั่นเอง
แนะนำตู้อบฆ่าเชื้อโรครุ่นยอดนิยมในท้องตลาด
เคล็ดลับในการทำให้บ้านของคุณกลายเป็น บ้านสุขภาพดี นั้นสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการจัดบ้าน หมั่นรักษาความสะอาด และใช้อุปกรณ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีมาตรฐาน และหากทำได้ตามนี้ สมาชิกในครอบครัวของคุณ ก็จะมีสุขภาพที่ดี ไม่ป่วยง่าย พร้อมมีคุณภาพชีวิตที่ดี ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอย่างแน่นอน
|