จอ Ultrawide คืออะไร ? และถ้าเทียบจอ Ultrawide กับ Widescreen 2 จอ จะเลือกแบบไหนดี ?

หน้าจอ Ultrawide กับ Dual Monitors หรือ 2 จอ เลือกใช้งานแบบไหนดี ?

หน้าจอคอมพิวเตอร์ (Monitor) ที่นิยมใช้งานในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขนาดกี่นิ้วก็ตาม ส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะเป็นหน้าจอแบบอัตราส่วน 16 ต่อ 9 (หรือเรียกสั้นๆ ว่า "16:9") (คงไม่มีใครใช้หน้าจอแบบ 4:3 แล้วแหละ เพราะ ไม่ค่อยมีขายแล้วด้วย)

อย่างไรก็ตามหน้าจอแบบ 16:9 นั้น จะมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด เต็มที่ก็เปิดแสดงผลพร้อมกันได้ 2-3 โปรแกรม หรือ แอปพลิเคชัน หากงานที่เราทำต้องมีการทำหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่างไปพร้อมๆ กัน หรือที่เรียกว่า "มัลติทาสกิ้ง (Multitasking)" ก็จะค่อนข้างลำบาก

การจะทำให้พื้นที่แสดงผลเพิ่มขึ้นก็จะมีอยู่ 2 ทางเลือก ก็คือ การซื้อหน้าจอเพิ่มอีกตัวมาต่อเพื่อทำสองหน้าจอ (Dual Monitors) รวมกันเป็น 32:9 หรือซื้อจอแบบที่มีขนาดกว้างเป็นพิเศษ (Ultrawide Monitor) ที่เป็นหน้าจอแบบ 21:9 หรือสูงกว่านั้นมาใช้งานแทน

ทั้งสองทางเลือกนี้ ก็ต่างมีข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป เป็นปัญหาที่หลายคนไม่รู้ว่าควรจะเลือกใช้งานแบบไหนดี ในบทความนี้เราก็เลยอยากจะมาอธิบายถึงข้อดี-ข้อเสียให้ได้ทราบกัน มาเลือกอ่านเนื้อหาจากเมนูด้านล่างนี้ได้เลย ...

ภาพจาก : https://www.displayninja.com/ultrawide-vs-dual-monitors/

สำหรับผู้ที่ขี้เกียจอ่าน เกี่ยวกับการเลือกหน้าจอ

ถ้าถามว่าตัวเลือกไหนดีกว่ากัน โดยรวมแล้ว เราคงต้องตอบว่าจอแบบ Ultrawide ให้ประสบการณ์ด้านการใช้งานที่น่าประทับใจกว่า Dual Monitors 

ในด้านการเล่นเกม มันจะช่วยให้สัมผัสมุมมองได้กว้างขึ้น โอบล้อมสายตาผู้เล่น ทำให้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศในเกมได้มากขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม มันอาจไม่เหมาะกับเกมที่ต้องอาศัยการตอบสนองด้วยความเร็วสูง เพราะมุมมองที่กว้างมาก ทำให้การกวาดสายตามองหาศัตรูบนหน้าจอใช้ระยะเวลานานขึ้นตามไปด้วย

ทำให้บางคนเลือกที่จะใช้งานแบบ Dual Monitors แทน วิธีนี้นอกจากจะได้พื้นที่การใช้งานเพิ่มขึ้นเยอะกว่าแล้ว ยังแบ่งพื้นที่ใช้งานได้ง่ายด้วย แต่ข้อเสีย คือ เราต้องทนความน่ารำคาญของขอบหน้าจอที่อยู่ตรงกลางให้ได้

อันที่จริง จอ Ultrawide สมัยนี้ ก็มีเทคโนโลยี Picture By Picture (PBP) เพื่อจำลองการทำงานเหมือนเรามีสองหน้าจอให้ใช้นะ แต่พื้นที่ที่ได้ก็ยังได้น้อยกว่าอยู่ดี

อย่างไรก็ตาม หน้าจอ Ultrawide ค่อนข้างน่าสนใจ สำหรับคนที่ทำงานด้าน การตัดต่อวิดีโอ (Video Editing) หรือตัดต่อเสียง ด้วยความที่มันค่อนข้างกว้าง ทำให้การดูพรีวิวไทม์ไลน์ของชาแนลเสียง/ชาแนลวิดีโอ สะดวกกว่ามาก แม้พื้นที่ใช้งานโดยรวมจะน้อยกว่า Dual Monitors แต่มันก็มากพอต่อการใช้งานแล้ว

ภาพจาก : https://www.adobe.com/sea/products/premiere.html

Dual Monitors หรือ หน้าจอคู่ คืออะไร ?

Dual Monitors นั้นตรงตัวตามความหมายของมันเลย คือ "หน้าจอคู่" เป็นการเซตอัปแบบที่เราเอาหน้าจอมาวางเรียงต่อกันเพื่อขยายพื้นที่การทำงานให้เพิ่มขึ้น โดยปกติแล้วจะใช้หน้าจอแบบ 16:9 มาวางต่อกัน คุณสมบัติของจอที่ใช้ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน เราอาจจะใช้จอ 4K มาต่อคู่กับจอแบบ Full HD ก็ได้ หรือจะเอาจอ Ultrawide สองจอมาทำ Dual Monitors ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด

Ultrawide Monitor หรือ หน้าจอกว้างพิเศษ คืออะไร ?

Ultrawide Monitors สามารถนิยามได้ง่าย ๆ คือ จอที่มีสัดส่วนกว้างกว่า 16:9 (สัดส่วนปกติของจอในยุคปัจจุบัน) ปัจจุบันจะมีจอ Ultrawide Monitors ที่นิยมอยู่ 2 สัดส่วน คือ 21:9 ซึ่งเป็นสัดส่วนเดียวกันกับขนาดจอของภาพยนตร์ และสัดส่วน 32:9 ที่กว้างมากเป็นพิเศษ โดยมันเท่ากับหน้าจอ 16:9 ต่อกันสองจอนั่นเอง อย่างไรก็ตาม หน้าจอแบบ 32:9 ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่ อาจจะด้วยตัวเลือกน้อย ราคายังค่อนข้างสูง และหลายคนให้ความเห็นว่ามันกว้างเกินไป

จอแบน หรือจอโค้ง

หัวข้อนี้อาจจะเหมือนไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกระหว่าง UltraWide และ Widescreen แต่มันก็เป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อประสบการณ์ในการใช้งาน และเลือกซื้ออยู่เหมือนกันนะ

หากคุณใช้หน้าจอแค่ตัวเดียว และเป็นจอขนาดเล็กกว่า 25 นิ้ว จะใช้จอแบน หรือจอโค้งก็ไม่เห็นความแตกต่างมากนัก อย่างไรก็ตาม เมื่อเราต้องการทำ Dual monitors หรือซื้อหน้าจอ Ultrawide มาใช้งาน เราควรจะเลือกจอโค้งมาใช้งานนะครับ เพราะจอโค้งจะช่วยให้เรามองภาพเห็นทั่วทั้งจอได้ง่ายกว่าจอแบนมาก

ภาพจาก : https://www.displayninja.com/ultrawide-vs-dual-monitors/

อีกอย่างเวลานำจอมาวางต่อกัน จอโค้งจะช่วยให้ภาพดูต่อเนื่องมากขึ้นด้วย หากใช้จอแบนทำ Dual Monitors ตรงกลางมันก็จะหักเป็นมุมดังภาพด้านล่างนี้ครับ

ภาพจาก : https://www.ehstoday.com/health/article/21917545/single-and-dualmonitor-computer-setup-ergonomic-tips

เปรียบเทียบความละเอียด 21:9 UltraWide vs 16:9 Widescreen

ในการเปรียบเทียบนี้เราจะอ้างอิงจากความละเอียดที่ได้รับความนิยมในการใช้งานเป็นหลัก

Ultrawide Monitor

หน้าจอที่แสดงผลในอัตราส่วน 21:9 (Aspect Ratio) ส่วนใหญ่จะมีความละเอียดอยู่ที่

• 5K : 5,120 x 2,160 พิกเซล
• 2K QHD : 3,440 x 1,440 พิกเซล
• Full HD : 2,560 x 1,080 พิกเซล

Dual Monitors

หน้าจอที่แสดงผลในอัตราส่วน 16:9 (Aspect Ratio) นั้นมีหลายขนาดให้เลือก ความละเอียดที่นิยมก็จะมี

• 4K : 3,840 x 2,160 พิกเซล
• 2K QHD : 2,560 x 1,440 พิกเซล
• Full HD : 1,980 x 1,080 พิกเซล

เราจะเห็นว่าถ้าใช้งานหน้าจอเดียว จอแบบ 21:9 จะมีพื้นที่ด้านกว้างมากกว่าจอแบบ 16:9 ประมาณ 33% ในทางกลับกัน หากเราใช้จอ Widescreen สองตัวเราจะได้พื้นที่ทำงานมากกว่า Ultrawide เพียงจอเดียว

ภาพจาก : https://www.displayninja.com/ultrawide-vs-dual-monitors/

ถ้าทำงานควรเลือก Ultrawide Monitor หรือ Dual Monitors ดี ?

ถ้าเราต้องการเพิ่มพื้นที่ทำงานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ การทำ Dual Monitors หรือมากกว่านั้นเป็นคำตอบที่คุณต้องการ และมืออาชีพหลายคนก็นิยมแนวทางนี้ อย่างไรก็ตาม ในการเซตอัประบบ Dual Monitors มีสิ่งที่อยากแนะนำ ดังต่อไปนี้

ความหนาแน่นของพิกเซล (Pixel Density)

ความหนาแน่นของพิกเซล (Pixel Density) หากพูดแบบภาษาชาวบ้านหน่อย เราน่าจะเคยได้ยินจากคนขายจอว่า "จอนี้ความละเอียดสูงคมชัด" หรือ "จอรุ่นนี้หยาบ" อะไรทำนองนี้กันมาบ้าง

ความหนาแน่นของพิกเซลจะเรียกว่าค่า PPI (Pixels per Inch) มันเป็นจำนวนพิกเซลต่อพื้นที่หนึ่งตารางนิ้ว ยิ่งค่า PPI สูงมากเท่าไหร่ รายละเอียดก็จะยิ่งคมชัดมากขึ้นเท่านั้น

ตัวอย่างเช่น หน้าจอขนาด 27 นิ้ว Full HD 1,920 x 1,080 พิกเซล แบบ 16:9 จะมีค่า PPI อยู่ที่ 81 PPI ถือว่าค่อนข้างน้อยนะ ใช้งานได้ แต่พื้นที่จำกัด และรายละเอียดไม่คมชัด ถ้างบประมาณมีจำกัด ซื้อแบบ 2K QHD 2,560 x 1,440 พิกเซล (จะได้ 108 PPI) ไม่ไหว ขอแนะนำว่าไปซื้อจอ Full HD ขนาด 24 นิ้ว แทนดีกว่า เพราะจะได้ค่า 91 PPI ซึ่งคมชัดกว่า

การจัดการค่าสี

แม้จะเป็นหน้าจอยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน ถ้าไม่ใช่จอระดับสูงที่มีการคาริเบตมาให้ตั้งแต่แกะกล่อง พวกค่าสี, ความสว่าง ฯลฯ จะไม่ตรงกันสักเท่าไหร่ เราอาจจำเป็นจะต้องซื้ออุปกรณ์คาริเบตหน้าจอมาใช้งานด้วย เพื่อตั้งค่าสีของหน้าจอให้มีความตรงกัน

ภาพจาก : https://spyderx.datacolor.com/shop/

Ultrawide ก็ทำ Dual Monitors ได้เช่นกัน

Ultrawide ช่วยให้การทำงานที่มีระบบไทม์ไลน์อย่างการตัดต่อเสียง ตัดต่อวิดีโอ ทำงานได้สะดวกขึ้นมาก คนที่ทำงานสายนี้ส่วนใหญ่มักจะใช้จอ Ultrawide Monitor ในการทำงาน และต่อเพิ่มอีกจอเพื่อใช้สำหรับพรีวิวผลงาน ซึ่งอีกหน้าจอไม่จำเป็นต้องใหญ่มากก็ได้ ก็สามารถเซตอัปเป็น Ultrawide+Widescreen 

แต่ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา อยากจัดเต็ม จะทำ Dual Monitors ด้วย Ultrawide Monitor แบบ 2 จอไปเลย ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร

ภาพจาก : https://www.reddit.com/r/battlestations/comments/c86995/finally_went_for_a_dual_monitor_setup/

ควรใช้พาเนลจอแบบ IPS

สำหรับการทำงานแล้ว หน้าจอ IPS นอกจากจะเป็นหน้าจอที่สามารถสีได้อย่างเที่ยงตรงแม่นยำที่สุดแล้ว ยังมีมุมมองที่ค่อนข้างกว้าง เมื่อเทียบกับพาเนลชนิดอื่น ๆ อย่าง พาเนล VA และ TN อีกด้วย

ภาพจาก : https://mightygadget.co.uk/4k-tv-tech-ips-vs-va-vs-pls-lcd-panels/

ถ้าเล่นเกมควรเลือก Ultrawide Monitor หรือ Dual Monitors ดี ?

ถ้าต้องการเล่นเกมบนจอขนาดใหญ่ การใช้ Dual Monitors ไม่ใช่เซตอัปที่ดี เพราะตรงกลางเราจะเจอกับขอบหน้าจอ ไม่ว่าขอบจอจะบางขนาดไหน มันก็เห็นได้อย่างชัดเจนอยู่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเล่นเกมแนว FPS ที่มีเป้าเล็งอยู่กลางหน้าจอตลอดเวลา

แต่ก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้นะครับ บางคนต่อสองหน้าจอไม่ได้ต้องการเพิ่มมุมมองภายในเกม แต่ต้องการอีกหน้าจอเอาไว้ทำอย่างอื่นไปด้วยขณะเล่นเกม เช่น ควบคุมโปรแกรมสตรีมมิ่ง, เปิดเว็บไซต์ หรือเปิดโปรแกรมอื่น ๆ

ในทางกลับกันหน้าจอ Ultrawide Monitor นั้นไม่ได้ให้แค่พื้นที่หน้าจอเพิ่มขึ้น เกมส่วนใหญ่ในปัจจุบันก็รองรับการแสดงผลในอัตราส่วน 21:9 มันช่วยให้คุณเห็นฉากภายในเกมได้กว้างขึ้นด้วยนะ

วิดีโอจากช่อง https://www.youtube.com/channel/UCncuMsyOBwyiTv-6rc8mq0Q

Ultrawide Monitor และ Dual Monitors ส่งผลต่อ FPS

FPS (Frames per Second) คือ ค่าจำนวนเฟรมภาพที่เกิดขึ้นภายใน 1 วินาที สิ่งหนึ่งที่ควรตระหนักก่อนที่คิดจะใช้งานจอแบบ Ultrawide Monitor หรือทำ Dual Monitors คือ ทั้งสองตัวเลือกใช้ทรัพยากรของเครื่อง (Computer Resource) ในการทำงานเพิ่มขึ้นด้วยนะครับ นั่นหมายความว่ามันจะ ส่งผลให้การเล่นเกม FPS น้อยลงกว่าเดิมอีกด้วยเช่นกัน

Ultrawide Monitor

จำนวนพิกเซลของหน้าจอกว้างพิเศษ (Ultrawide Monitor) นั้นสูงกว่าหน้าจอกว้าง (Widescreen Monitors) กันอยู่พอสมควร ลองดูได้จากตารางด้านล่างนี้

ดังนั้นเราสามารถที่จะสรุปได้ง่ายๆ สั้นๆ ว่า

จำนวนพิกเซลยิ่งเยอะ = การคำนวณที่ต้องเยอะขึ้น = ต้องการพลังประมวลผลมากขึ้น

ลองดูการเปรียบเทียบได้จากวิดีโอด้านล่างนี้เลยครับ

วิดีโอจากช่อง https://www.youtube.com/channel/UCVdCleX59U-S94ZOdNGllwA

Dual Monitors

จากการทดสอบเล่นเกม แบบไม่ต่อจอเพิ่มเลย เทียบกับขณะที่ต่อจอ ค่า FPS ก็ดรอปลงเหมือนกันนะครับ แต่ก็ดรอปน้อยลงกว่าหน้าจอ Ultrawide Monitor เพราะจอที่สองไม่ได้ใช้พลังประมวลผลเยอะ

ทดสอบด้วย

• เกม Middle-earth: Shadow of Mordor ความละเอียด 3,440 x 1,440 พิกเซล
• หน้าจอตัวที่สอง ความละเอียด 2,560 x 1,440 พิกเซล

เงื่อนไขในการทดสอบ คือ

• เล่นเกมโดยไม่ต่อจอที่สอง
• จอสองเปิดเว็บบน โปรแกรม Google Chrome
• จอสองเล่น YouTube แบบเต็มหน้าจอ
• จอสองเล่น Twitch แบบเต็มหน้าจอ

ผลออกมาดังกราฟด้านล่างนี้ครับ

ภาพจาก : https://gamingsimplified.com/second-monitor-affect-gaming-performance/

สรุปเกี่ยวกับ Ultrawide Monitor และ Dual Monitors

ถ้าต้องการพื้นที่ทำงานเพิ่ม ทั้งสองตัวเลือกมีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกัน และอันที่จริง ถ้ามีงบจะเลือกทำทั้งสองวิธีเลยก็ย่อมได้

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากว่ามีงบประมาณที่จำกัด การซื้อหน้าจอมาต่อเพิ่มอีกจอเพื่อมาทำจอคู่ (Dual Monitors) ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ประหยัด และใช้ทรัพยากรเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่สูงไปจากเดิมมากนัก ใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องอัปเกรดคอมพิวเตอร์ให้แรงขึ้น

ในขณะที่หน้าจอแบบ Ultrawide Monitor ให้ประสบการณ์ที่ดีให้กับคุณ แต่คอมพิวเตอร์ของคุณก็ต้องแรงพอที่จะตอบสนองความต้องการของมันได้เช่นกัน