วันเกิดคนดังวงการฮอลลีวูดในเดือน เมษายน

วันเกิดคนดังวงการฮอลลีวูดในเดือนเมษายน

2 เมษายน 

ALEC GUINNESS

Alec Guinness เกิดวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 1914 (พ.ศ. 2457) ที่ Marylebone, London ประเทศอังกฤษ

Guinness เป็นที่รู้จักมาจากผลงานอย่าง Great Expectations ค.ศ. 1946 (พ.ศ. 2489), Oliver Twist ค.ศ. 1948 (พ.ศ. 2491), The Lavender Hill Mob ค.ศ. 1951 (พ.ศ. 2494) ที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งแรกในชีวิต, The Bridge on the River Kwai ค.ศ. 1957 (พ.ศ. 2500) คว้ารางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำ, Lawrence of Arabia ค.ศ. 1962 (พ.ศ. 2505), Doctor Zhivago ค.ศ. 1965 (พ.ศ. 2508), A Passage to India ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) และ Little Dorrit ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) ที่ได้เข้าชิงทั้งออสการ์และลูกโลกทองคำ

และที่คุ้นหน้าคุ้นตากันที่สุดน่าจะมาจากบทบาท Obi-Wan Kenobi ในจักรวาล Star Wars ไตรภาคต้นฉบับ A New Hope ค.ศ. 1977 (พ.ศ. 2520) ที่ได้เข้าชิงทั้งรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำ, The Empire Strikes Back ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523), Return of the Jedi ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526)

ในปี ค.ศ. 1959 (พ.ศ. 2502) เขาได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ระดับชั้นอัศวินจาก Queen Elizabeth ที่ 2 สำหรับการรับใช้ชาติในฐานะนักแสดง

Guinness คือ 1 ใน 3 นักแสดงอังกฤษ (Laurence Olivier และ John Gielgud) ผู้ที่ผันตัวจากโรงละคร Shakespearean ในอังกฤษ ก้าวมาสู่แสงไฟแห่ง Hollywood หลังสงครามโลกครั้งสอง

Guinness เสียชีวิตในวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) จากโรคมะเร็ง ด้วยวัย 86 ปี

3 เมษายน

MARLON BRANDO

Marlon Brando Jr. เกิดวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 1924 (พ.ศ. 2467) ที่ Omaha, Nebraska ประเทศอเมริกา

Brando คือหนึ่งในนักแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ฉายแสงความเป็นดาวตั้งแต่อายุยังน้อย เจ้าตัวได้รับความสนใจจากสื่อเมื่ออายุเพียง 24 ปี เมื่อนิตยสาร Life ได้ถ่ายรูปเขากับน้องสาลงนิตยสารเนื่องจากการแสดงใน Broadway จนทำให้หลายต่อหลายคนสงสัยและจับตามองว่า เขาเป็นใครกันแน่

เขาใช้เวลาเกือบ 60 ปี ที่โลดแล่นอยู่ในแวดวงการแสดง นับตั้งแต่แสดงซีรีส์ครั้งแรกในเรื่อง Actor's Studio ค.ศ. 1949 (พ.ศ. 2492) และแสดงหนังเรื่องสุดท้ายด้วยการให้เสียงพากย์ในเรื่อง Big Bug Man ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549)

แต่ในระหว่างนั้น Brando ได้ฝากผลงานอันยอดเยี่ยมเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น A Streetcar Named Desire ค.ศ. 1951 (พ.ศ. 2494), Viva Zapata! ค.ศ. 1952 (พ.ศ. 2495), Julius Caesar ค.ศ. 1953 (พ.ศ. 2496), On the Waterfront ค.ศ. 1954 (พ.ศ. 2497), Sayonara ค.ศ. 1957 (พ.ศ. 2500), The Ugly American ค.ศ. 1963 (พ.ศ. 2506), The Godfather ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515), Ultimo tango a Parigi ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515), A Dry White Season ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532)

ซึ่งทุกเรื่องที่กล่าวมาสร้างชื่อบนเวทีรางวัลทั้งออสการ์และลูกโลกทองคำอีกด้วย

[OSCAR - WINNER]
- On the Waterfront ค.ศ. 1954 (พ.ศ. 2497)
- The Godfather ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515)

[OSCAR - NOMINEE]
- A Streetcar Named Desire ค.ศ. 1951 (พ.ศ. 2494)
- Viva Zapata! ค.ศ. 1952 (พ.ศ. 2495)
- Julius Caesar ค.ศ. 1953 (พ.ศ. 2496)
- Sayonara ค.ศ. 1957 (พ.ศ. 2500)
- Ultimo tango a Parigi ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515)
- A Dry White Season ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532)

[GOLDEN GLOBE - WINNER]
- On the Waterfront ค.ศ. 1954 (พ.ศ. 2497)
- The Godfather ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515)

[GOLDEN GLOBE - NOMINEE]
- The Teahouse of the August Moon ค.ศ. 1956 (พ.ศ. 2549)
- Sayonara ค.ศ. 1957 (พ.ศ. 2500)
- The Ugly American ค.ศ. 1963 (พ.ศ. 2506)
- A Dry White Season ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532)

และบนเวทีลูกโลกทองคำเขาเคยคว้ารางวัลพิเศษอย่าง World Film Favorite 3 ครั้ง จากการเข้าชิงรางวัลนี้ 4 ครั้ง

Brando เสียชีวิตด้วยโรคพังผืดที่ปอดในวันที่ 1 กรกฏาคม ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) ที่ Westwood, Los Angeles, California ประเทศอเมริกา ด้วยวัย 80 ปี

ALEC BALDWIN

Alexander Rae Baldwin III เกิดวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 1958 (พ.ศ. 2501) ที่ Massapequa, Long Island, New York ประเทศอเมริกา

Baldwin เข้าสู่วงการบันเทิงในช่วงปี ค.ศ. 1980s (พ.ศ. 2523-2532) ปรากฏตัวในซีรีส์อย่าง The Doctors ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525), Cutter to Houston ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) และ Knots Landing ค.ศ. 1984-1985 (พ.ศ. 2527-2528) และได้แสดงหนังครั้งแรกทางทีวีกับเรื่อง The Sheriff and the Astronaut ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527)

แต่หนังโรงเรื่องแรกที่ Baldwin ได้แสดงคือ Forever, Lulu ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) ตามมาด้วยผลงานอย่าง Beetle Juice ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531), Working Girl ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531), Married to the Mob ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) และ Talk Radio ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) หลังจากนั้นเขาก็ได้รับบทที่ใหญ่ขึ้น เมื่อได้ไปแสดงกับดาราชั้นนำอย่าง Sean Connery ในเรื่อง The Hunt for Red October ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533)

ผลงานของ Baldwin ก็ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง คุ้นหน้าคุ้นตามากมาย ทั้ง Miami Blues ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533), The Marrying Man ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534), Prelude to a Kiss ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), Malice ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536), The Getaway ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537), Ghosts of Mississippi ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539), Pearl Harbor ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), The Aviator ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Fun with Dick and Jane ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), The Departed ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), To Rome with Love ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Rock of Ages ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Mission: Impossible - Rogue Nation ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Mission: Impossible - Fallout ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), A Star Is Born ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561)

เขายังมีทักษะในการให้เสียงพากย์ไม่ได้ด้อยไปกว่าการแสดงเลย เคยมีผลงานอย่าง Thomas the Tank Engine & Friends ค.ศ. 1992-2003 (พ.ศ. 2535-2546), Clerks ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543), Cats & Dogs ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Final Fantasy: The Spirits Within ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), The SpongeBob SquarePants Movie ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Madagascar: Escape 2 Africa ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Rise of the Guardians ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), The Boss Baby ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560)

Baldwin เคยคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ 3 ครั้ง โดยทั้ง 3 ครั้งนั้นมาจากซีรีส์เรื่อง 30 Rock ค.ศ. 2006-2013 (พ.ศ. 2549-2556) ซึ่งเคยเข้าชิงทั้งหมด 11 ครั้ง

[WINNER]
- 30 Rock ค.ศ. 2006-2013 (พ.ศ. 2549-2556) x3

[NOMINEE]
- 30 Rock ค.ศ. 2006-2013 (พ.ศ. 2549-2556) x4
- The Cooler ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546)
- Path to War ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)
- Nuremberg ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543)
- A Streetcar Named Desire ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538)

และเข้าชิงรางวัลออสการ์ 1 ครั้งจากเรื่อง The Cooler ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546)

EDDIE MURPHY

Edward Regan Murphy เกิดวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 1961 (พ.ศ. 2504) ที่ Brooklyn, New York ประเทศอเมริกา

Murphy ใช้เวลาในแต่ละวันช่วงวัยเด็กไปกับการแสดงตลกมากกว่าการเรียนเสียอีก และด้วยอารมณ์ขันและความเฉลียวฉลาดทำให้เขาโดดเด่นอย่างมากในชั้นเรียน

ในช่วงปี ค.ศ. 1980s (พ.ศ. 2523-2532) ตอนเขาอายุได้ 19 ปี เขาได้รับข้อเสนอสัญญาให้เข้าไปร่วมแสดงใน Saturday Night Live ค.ศ. 1980-2019 (พ.ศ. 2523-2562) และถึงแม้เขาจะไม่ได้แสดงในช่วง Prime Time ของรายการ แต่หลายคนก็จดจำเขาได้เป็นอย่างดี

48 Hrs. ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) คือหนังเรื่องแรกที่เขาได้แสดง ด้วยความสามารถของเจ้าตัว แค่เพียงเรื่องแรกก็สามารถส่งให้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขาดารายหน้าใหม่แห่งปี

แต่บทบาทแจ้งเกิดให้เขาจริงๆ ที่ทำให้คนทั้งโลกต่างต้องจำชื่อของเขาคือบทบาท Axel Foley จากเรื่อง Beverly Hills Cop ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) จนได้มีภาคต่อออกมาถึง 2 ภาค และมีการประกาศจะสร้างภาค 4 เรียบร้อยแล้วด้วย

เรียกได้ว่าเป็นดาวรุ่งตลกอย่างแท้จริง เล่นเรื่องไหนก็สามารถทำให้คนสนใจและเรียกเสียงฮาได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น The Golden Child ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529), Coming to America ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531), Harlem Night ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) และเจ้าตัวยังมีบทที่คุ้นหน้าคุ้นตาคนทั่วโลกมากมาย ทั้ง The Nutty Professor ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) หรือ Doctor Dolittle ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541)

นอกเหนือจากนั้นก็มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การให้เสียงพากย์ Mushu ใน Mulan ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541), ให้เสียงพากย์ Donkey ใน Shrek ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Dr. Dolittle 2 ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), I Spy ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), Daddy Day Care ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), The Haunted Mansion ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Shrek 2 ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Dreamgirls ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Norbit ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Shrek the Third ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Meet Dave ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Tower Heist ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), A Thousand Words ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Dolemite Is My Name ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

เจ้าตัวเคยคว้ารางวัลลูกโลกทองคำมา 1 ครั้ง จากเรื่อง Dreamgirls ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) และจากเรื่องเดียวกันเขาก็สามารถเข้าชิงรางวัลออสการ์ได้ด้วย

ยังมีผลงานของเขาให้เราได้เห็นกันอย่าง Coming 2 America ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) และการกลับมารับบท Axel Foley ใน Beverly Hills Cop 4 ด้วย

เมื่อพูดถึงชื่อ Eddie Murphy หลายคนคงจะนึกถึงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะพร้อมเอกลักษณ์อันน่าจดจำของเขามาก่อนเป็นแน่แท้

4 เมษายน

ROBERT DOWNEY JR.

เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของชายคนนี้ ผู้รับบท Tony Stark หรือ Iron Man แห่งจักรวาล MCU และปิดบทบาทตัวเองไปอย่างสุดซึ้งและงดงามใน Avengers Endgame แต่กว่าที่เขาจะเดินทางมาถึงจุดนี้ เขาต้องผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายมาก่อน และเขามีชีวิตจริงที่ยิ่งกว่า Iron Man

Robert John Downey Jr. เกิดวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1965 (พ.ศ. 2508) ที่ Manhattan, New York ประเทศอเมริกา

พ่อของเขา Robert Downey Sr. เป็นนักเขียน ผู้กำกับและช่างภาพ ส่วนแม่ Elsie Downey เป็นนักแสดง ดังนั้นเขาจึงได้ซึมซับและอยากเป็นนักแสดง ทำให้ได้เข้าเรียนโรงเรียนการแสดงมาตั้งแต่เด็ก ๆ

RDJ ได้เริ่มแสดงตั้งแต่อายุเพียง 5 ปี ในหนังเรื่อง Pound ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513) ที่คนเขียนบทและผู้กำกับคือพ่อเขานั่นแหละ

แต่ชีวิตของเขาไม่ค่อยงดงามเท่าไหร่นัก เพราะในปี ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521) พ่อแม่ของเขาก็หย่ากัน ทำให้เขาต้องย้ายมาอยู่กับพ่อที่ California นั่นคือช่วงแรกที่เขาได้ทดลองใช้ กัญชา และคนที่หยิบยื่นสิ่งนี้ให้เขาคือพ่อของเขาเอง

เมื่อตอนที่ผมกับพ่อเล่นยาด้วยกัน มันเหมือนกับว่าเป็นวิธีเดียวที่พ่อพยายามแสดงออกถึงความรักที่มีต่อผม

และหลังจากนั้นเขาก็เริ่มเสพมันทุกคืน แถมยังเริ่มติดแอลกอฮอล์อีกด้วย

ในปี ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) เขาลาออกจากโรงเรียนมัธยมปลายเพื่อไปเป็นนักแสดงอย่างเต็มตัว จนได้รับบทเล็ก ๆ มากมาย

รวมถึงได้ปรากฏตัวในรายการ Saturday Night Live ในปี ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) ด้วย แต่เขาได้รับคำวิจารณ์ที่ไม่ดีเอาซะเลย

และถูกนิตยสาร Rolling Stone จวกว่า RDJ คือหนึ่งในนักแสดงที่แย่ที่สุดใน Saturday Night Live ค.ศ. 1985-1986 (พ.ศ. 2528-2529) แต่เขาก็ไม่ย่อท้อ ไม่ยอมแพ้ และไปปรากฏตัวในหนังเรื่องอื่น ๆ บ้าง Tuff Turf ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528), Weird Science ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528)

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) เขารับบทเป็น Julian Wells ลูกเศรษฐีติดยาที่ชีวิตเละเทะในหนังเรื่อง Less Than Zero ซึ่งมันได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก และตัวเขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า

บทนี้มันเหมือนกับผีอนาคตในวันคริสมาสต์เลย

จากนั้นเขาก็มีโอกาสได้รับบทที่ใหญ่ขึ้น จนกระทั่งปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) นำเขาไปสู่บทบาทที่นับว่าเป็นหนึ่งบทบาทที่สุดยอดที่สุดในการแสดงของเขาเลยก็ว่าได้ กับบทบาท Charlie Chaplin ในหนังเรื่อง Chaplin และการแสดงอันยอดเยี่ยมนี้ส่งผลให้เขาได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมครั้งแรกจากทั้งเวทีลูกโลกทองคำและออสการ์

หลังจากนั้นหลายคนก็คิดว่าชีวิตเขาต้องรุ่งโลดแน่นอนมีงานแสดงเข้ามาอย่างมากมาย แต่...ปัญหายาเสพติดยังไม่หมดไป และครั้งนี้หนักหน่วงจริง ๆ จนหลายต่อหลายคนคิดว่าอาชีพนักแสดงของ RDJ มันจบแล้ว

ปี ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) เขาได้ถูกจับในข้อหาพกอาวุธปืน .357 Magnum และมีเฮโรอีนกับโคเคน ไว้ในครอบครอง ในขณะขับรถอยู่แถบ Sunset Boulevard ในขณะนั้นศาลสั่งให้รอลงอาญา

แต่หลังจากนั้นประมาณเดือนนึง เขาได้บุกรุกเข้าไปในบ้านของเพื่อนบ้าน และไปนอนหลับซะอย่างนั้น ในครั้งนี้เขาโดนคุมประพฤติเป็นเวลา 3 ปี และได้รับคำสั่งให้มาตรวจสารเสพติดอย่างต่อเนื่องด้วย แต่เขาไม่ทำตาม เขาไม่ยอมมาตรวจสารเสพติดตามที่นัด ทำให้ศาลสั่งจำคุกเป็นเวลา 6 เดือนทันที ที่คุก Los Angeles

หลังจากพ้นคุกมา เขาก็ไม่ได้ทำตัวดีขึ้นแต่อย่างใด ยังคงใช้สารเสพติดอย่างต่อเนื่อง เพราะในปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) เขาถูกตัดสินให้จำคุกอีกครั้งด้วยข้อหาเดิมคือละเมิดไม่ยอมมาตรวจสารเสพติด ครั้งนี้เขาโดนตัดสินจำคุก 3 ปี ที่ California

แต่หลังจากใช้ชีวิตในคุกไม่ถึงปี เขาก็ได้รับอิสระ จากทนายความคนเก่งของเขาด้วยการวางเงินประกันจำนวน 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ในปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) เขาได้รับเล่นซีรีส์เรื่อง Ally McBeal และการแสดงของเขาทำให้เขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Emmy Award สาขา Outstanding Supporting Actor in a Comedy Series เลยทีเดียว แถมยังคว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากเวทีลูกโลกทองคำอีกต่างหาก แต่...

เขายังคงใช้สารเสพติดอยู่ดี

ก่อนจบซีซั่นแรกของซีรีส์ Ally McBeal ตัวของ RDJ ได้โดนจับอีกครั้งในโรงแรมของตนเอง หลังตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนใช้สารเสพติดในโรงแรม ณ ตอนนั้นตำรวจค้นเจอทั้งโคเคนและแวเลียม ทำให้เขาถูกตัดสินจำคุก 4 ปี 8 เดือน และเขาได้แสดงซีรีส์ Ally McBeal อีกเพียง 8 ตอนเท่านั้น

หลังจากนั้นเขาก็เข้าออกศาล เข้าออกคุกเป็นว่าเล่น กับปัญหายาเสพติด ถึงแม้บทของเขาจะสร้างเรทติ้งให้ซีรีส์ก็ตามจนกระทั่งทางซีรีส์ Ally McBeal ตัดสินใจเขียนบทใหม่โดยตัดบท RDJ ออกซะ

ครั้งนี้เขาไม่ติดคุก แต่ถูกคุมประพฤติ 3 ปี โดยการส่งไปยังสถานบำบัดยาเสพติด California ซึ่งระหว่างนั้นเขาก็ไม่มีงาน ไม่มีเงิน เรียกได้ว่าชีวิตตกต่ำสุด ๆ และการบำบัดก็เหมือนจะไม่ช่วยเพราะเขายังคงใช้สารเสพติดอยู่

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) ในขณะที่เขาขับรถและในร่างกายก็เต็มไปด้วยสารเสพติด เขาจอดที่ร้าน Burger King และลงไปสั่ง Burger 1 ชิ้น และโซดา 1 แก้ว ในระหว่างที่นั่งกินอยู่เขาก็ตระหนักได้ว่ายาเสพติดทำให้ชีวิตเขาพังขนาดนี้ หลังจากกินเสร็จ เขาก็เดินไปที่รถหยิบยาเสพติดขว้างทิ้งลงทะเล พร้อมกับบอกกับตัวเองว่าจะไม่ใช้ยาเสพติดอีกต่อไป และกลายเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม

เหมือนกับฉากใน Iron Man ภาคแรกหลังจากที่เขาโดนจับ และตอนที่เขากลับมาสิ่งแรกที่เขาขอคือ American Cheeseburger และเขาก็ได้แถลงข่าวปิดบริษัทค้าอาวุธของเขาและกลายเป็น Iron Man ซึ่งเปรียบเสมือนว่าสิ่งแย่ๆ ที่เขาเคยทำ การใช้สารเสพติด ก็ได้ Burger King นี่แหละชุบชีวิตเขาอีกครั้ง

แต่ก็ใช่ว่าเขากลับมาโลดแล่นได้ทันที เพราะไม่มีใครกล้าจ้างนักแสดงขี้ยา ที่เคยมีประวัติเข้าออกศาลเป็นว่าเล่นขณะนี้

โชคดีที่เขามีเพื่อนสนิทอย่าง Mel Gibson ที่เคยร่วมงานด้วยกันจากเรื่อง Air American ช่วยเหลือให้เขาได้รับบทบาทเล็ก ๆ ต่าง ๆ และเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาไม่ได้ใช้สารเสพติดแล้วจริง ๆ

ในปี ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) เขาได้รับบทบาทในหนังของ David Fincher เรื่อง Zodiac ที่ส่งให้เขาได้มารับบทบาทที่หลายคนคุ้นเคยกันจนถึงปัจจุบัน กับบทบาท Tony Stark หรือ Iron Man ซึ่งบทบาทนี้ก็เปลี่ยนชีวิตของ RDJ จากหลังเท้าเป็นหน้ามือเลยทีเดียว

Jon Favreau ผู้กำกับ Iron Man ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) ได้บอกเอาไว้ว่า

Downey ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่เขาเข้าใจตัวละครนี้เป็นอย่างดี เขาพบประสบการณ์ต่าง ๆ มากมายใน Tony Stark ที่เหมือนชีวิตจริงของเขา

คงไม่ต้องพูดอะไรมากกับความสำเร็จในบทบาทนี้ เพราะ RDJ ติดอันดับต่าง ๆ มากมายกับดาราที่ได้รับค่าตัวแพงที่สุดในโลกหลายปีเลยทีเดียว แถมยังเล่นหนังอีกหลายเรื่องและคว้ารางวัลมาครอบครองด้วย

หลายคนรู้จัก Tony Stark หรือ Ironman มากกว่าตัวตนจริง ๆ ของเขาเสียอีก จากการดำดิ่งสู่จุดต่ำสุดของชีวิต กลายเป็นนักแสดงที่เป็นขวัญใจของหลากหลายชีวิต แน่นอนชีวิตของ RDJ อาจจะมีโชคอยู่บ้าง แต่ส่วนสำคัญคือการยอมรับและปรับตัว บางอย่างอาจยังไม่สายไป เริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ลองลุกไปหา Cheese Burger สักชิ้นกินดู และเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ ก็อาจจะเป็นความคิดที่ไม่เลว

HEATH LEDGER

Heathcliff Andrew Ledger เกิดที่เมือง Perth ประเทศ Australia เมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ เขาจะมีอายุ 42 ปี แต่น่าเสียดายที่เขาต้องจากไปด้วยวัยเพียง 28 ปี เท่านั้น

Ledger ชื่นชอบการแสดงมาตั้งแต่เด็ก เขาได้แสดงครั้งแรกในชีวิตในขณะที่อายุเพียง 13 ปี เกี่ยวกับ "ตัวตลก" เรื่อง Clowning Around ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ในบทบาทของ Orphan Clown และเช่นกัน เขาได้แสดงบทบาทสุดท้ายในชีวิตด้วยบทบาท "ตัวตลก" Joker ในเรื่อง The Dark Knight ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551)

หลังจากการแสดงครั้งแรกก็เห็นแววในการแสดงของนักแสดงรายนี้เลย ทำให้เขามารับบทในซีรีส์ เรื่อง Ship to Shore ตามมาด้วย Sweat ในบทเกย์นักปั่นจักรยาน

แต่บทที่สร้างชื่อ และแจ้งเกิดให้กับเขาจริง ๆ คือบทบาท Patrick Verona จากเรื่อ 10 Things I Hate About You ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542)

หลังจากนั้นก็ทำให้ Ledger ได้มีชื่อเสียงในวงการ Hollywood และทำให้หลายคนบนโลกรู้จักชื่อของ Heath Ledger

ยิ่งนับวันเขายิ่งดังและขาขึ้นแบบสุดๆ เรียกได้ว่าในวงการแสดง เขารับบทบาทโดดเด่นหลายเรื่อง เช่น The Patriot ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543), A Knight's Tale ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Monster's Ball ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Cassanova ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Lords of Dogtown และ Brokeback Mountain ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) โดยเฉพาะในเรื่อง Brokeback Mountain บทบาทของ Ennis Del Mar ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมประเภทดราม่า และได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในปีเดียวกัน

และในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ เขาได้คว้ารางวัลออสการ์ครั้งที่ 81 ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) มาครอง กับสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมในบทบาท Joker จากเรื่อง The Dark Knight แต่มันช่างน่าเสียดาย...ที่เขาไม่มีโอกาสได้รับรางวัลด้วยตนเอง แถมเขายังไม่มีโอกาสได้ชมหนังเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ...

เมื่อวันที่ 22 มกราคม เป็นวันที่สะเทือนใจคนในวงการ Hollywood และทั้งโลก เพราะเมื่อ11 ปีที่แล้ว มีคนพบร่างของนักแสดงหนุ่มอายุ 28 ปี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่บนเตียงในห้องพักของเขาที่นิวยอร์ค ซึ่งผลชันสูตรชี้ชัดออกมาว่า

เขาเสียชีวิตด้วยการใช้ยาเกินขนาด

ไม่รู้ว่าเหตุผลการตายมาจากอาถรรพ์ของบทบาท Joker ที่นักแสดงคนนี้ได้รับเป็นเรื่องสุดท้ายก่อนตายหรือเปล่า แต่จากปากคำของกลุ่มตำรวจที่พบศพได้บอกไว้ว่า

ห้องนั้นเต็มไปด้วยหนังสือการ์ตูนแบทแมน วรรณกรรมเกี่ยวกับตัวตลก รูปปั้น ตุ๊กตาตัวตลก รวมถึงเทปที่ Heath ได้อัดเสียงซ้อมพูดบทตัวตลก Joker ในหลาย ๆ แบบ

จะใช่หรือไม่ก็ตาม พ่อของ Heath ได้ค้นพบไดอารี่ส่วนตัวของเขา และในหน้าสุดท้ายเขียนคำว่า "Bye Bye" ตัวหนา ๆ

และหลังจากสาเหตุการตาย Jack Nicholson ที่เคยรับบท Joker มาก่อนหน้านี้ ได้พูดเพียงแต่ว่า

ผมเตือนเขาแล้ว

ในปี ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) มีหนังสารคดีเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับ Heath Ledger ในเรื่อง I Am Heath Ledger โดยได้พี่สาวของ Heath อย่าง Kate Ledger เป็นผู้อำนวยการสร้าง หนังเต็มไปด้วย Footage ของนักแสดงมากความสามารถรายนี้ รวมถึงการบทสัมภาษณ์ครอบครัว เพื่อน ๆ ของ Heath อีกด้วย

เป็นที่น่าเสียดายที่หนังเรื่องนี้ไม่ได้เข้าฉายในไทย แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เธอได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าแท้จริงแล้ว Heath อยากจะกลับมารับบทตัวร้ายในภาคต่อของ Batman ด้วย
Kate Ledger ได้พูดไว้ใน I Am Heath Ledger ว่า

ฉันได้พูดกับพี่ในคืนก่อนที่พี่จะเสียชีวิตและเราทั้งสองได้นั่งหัวเราะและเล่นมุกตลกใส่กันอยู่เลย พี่เขาภูมิใจมากกับสิ่งที่พี่เขาได้ทำไปในภาพยนตร์ Batman และฉันรู้ว่าพี่วางแผนที่จะเล่นในเรื่องต่อ ๆ ไปของ Batman อีกด้วย

เขารักการทำงานร่วมกับ Christopher Nolan, Christian Bale และ Gary Oldman มาก เขายังบอกอีกว่าเขาเพิ่งมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการถ่ายทำภาพยนตร์เลย

ตอนที่พี่กลับมาช่วงคริสต์มาส เขาแทบรอไม่ได้ที่จะบอกเล่าเรื่องราวทุกอย่างเกี่ยวกับบทที่เขาไปเล่นมาเลย เขาได้ทำเสียงและหัวเราะที่เหมือนกับบทบาทที่เขาเล่นในภาพยนตร์ ในตอนนั้นพวกเรามีช่วงเวลาที่ดีมาก ๆ เลย

ในงานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 81 ถึงแม้ Heath Ledger ไม่ได้มารับรางวัลด้วยตัวเอง แต่ก็มีครอบครัวของเขาขึ้นมารับรางวัล พร้อมด้วยเสียงปรบมือ และทั้งพ่อแม่ พี่สาว ก็กล่าวขอบคุณไว้อย่างซาบซึ้ง

ขอยกตัวอย่างบทพูดของพี่สาวอย่าง Kate Ledger ที่ได้กล่าวถึง Heath ไว้อย่างซาบซึ้ง

"eath พวกเราต่างรู้ว่าที่นายแสดงไว้ในบทบาทของ Joker มันวิเศษมาก และทั้งหมดที่ฉันอย่างจะพูดที่ได้มายืนอยู่ในวันที่แสนวิเศษนี้ พวกเราหวังว่านายจะอยู่ที่นี่ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราจะรับรางวัลอันแสนภาคภูมิใจนี้แทนลูกที่แสนงดงามของนาย Matilda ขอบคุณค่ะ

และคลิปงานประกาศรางวัลในครั้งนั้น ถึงแม้จะผ่านมา 9 ปี แล้ว มันก็เป็นคลิปของ Oscars ที่มียอดวิวติด Top 10 มาอย่างยาวนาน

ชื่อของเขา การแสดงของเขา จะอยู่ในความทรงจำของเราไปอีกนานเท่านาน ขอบคุณที่เคยมอบผลงานดี ๆ ไว้ให้เราได้ชื่นชม

5 เมษายน

HAYLEY ATWELL

Hayley Elizabeth Atwell เกิดวันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) ที่ London ประเทศอังกฤษ ซึ่งจริง ๆ เธอถือ 2 สัญชาติเลยทั้งอังกฤษและอเมริกา เธอถูกตั้งชื่อตามนักแสดงอย่าง Hayley Mills

พ่อแม่ของ Hayley หย่ากันตั้งแต่เธออายุเพียง 2 ขวบ พ่อกลับไปอเมริกาส่วนเธออยู่กับแม่ที่อังกฤษ แต่ก็ได้ใช้ช่วงเวลาหน้าร้อนไปอยู่กับพ่อบ้าง ซึ่งในระหว่างที่เธออยู่กับแม่นั้น แม่ของเธอได้มองว่าการที่จะให้เธอไปเข้าร่วมกิจกรรมจากทางโรงละครน่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีจึงพาเธอไปตั้งแต่ยังเล็ก เมื่ออายุ 11 ปี เธอก็ได้เห็น Ralph Fiennes แสดงละครเวทีในเรื่อง Hamlet และก็ประทับใจการแสดงมานับตั้งแต่นั้น

Hayley ได้เข้าเรีนที่โรงเรียนโรมันคาธอลิก ในระหว่างเรียนเธอเก่งเรื่องวิชาการมาก มีหลายวิชาที่เธอได้ A

ต่อมาเธอได้เดินทางกับพ่อเธอเป็นเวลา 2 ปี และได้รับหน้าที่เป็นฝ่ายคัดตัวนักแสดงด้วย

ในปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) Hayley เรียนจบจาก Guildhall School of Music and Drama ด้วยปริญญาด้านการแสดง

Hayley เริ่มต้นอาชีพการแสดงด้วยการร่วมแสดงทาง BBC บ้าง จนกระทั่งเธอได้รับบทบาททางการแสดงหนังครั้งแรกในเรื่อง How About You... ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) ตามมาด้วยผลงานอย่าง Cassandra's Dream ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550)

แต่บทบาทที่ทำให้ Hayley กลายมาเป็นที่รู้จัก คือบทบาท Peggy Carter ที่ปรากฏตัวใน Captain America: The First Avenger ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) ซึ่งบทบาทนี้ยังส่งให้เธอได้มีบทบาทมากขึ้นในจักรวาล MCU ปรากฏตัวใน Captain America: The Winter Soldier ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), ซีรีส์ Agents of S.H.I.E.L.D. ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Avengers: Age of Ultron ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Ant-Man ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Avengers: Endgame ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และมีซีรีส์เดี่ยวเป็นของตัวเองกับ Agent Carter ค.ศ. 2015-2016 (พ.ศ. 2558-2559)

นอกเหนือจากนั้นยังมีบทบาทอีกมากมายของ Hayley ให้เราได้เห็นกัน ไม่ว่าจะเป็น I, Anna ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Cinderella ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Christopher Robin ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Peter Rabbit 2: The Runaway ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), What If...? ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Mission: Impossible 7 ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566) และ Mission: Impossible 8 ค.ศ. 2024 (พ.ศ. 2567)

Hayley เคยเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 1 ครั้งจากเรื่อง The Pillars of the Earth ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553)

STERLING K. BROWN

Sterling Kelby Brown เกิดวันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519) ที่ St. Louis, Missouri ที่ประเทศอเมริกา

พ่อของ Brown เสียชีวิตตอนเขาอายุได้เพียง 10 ปี จากโรคหัวใจ ทำให้เขาถูกเลี้ยงดูมาโดยแม่

Brown เรียนจบศิลปศาสตร์การแสดงจาก Stanford University ตามมาด้วยปริญญาโทคณะวิจิตรศิลป์จากมหาวิทยาลัย NYU's Tisch School of the Arts

จุดเริ่มต้นการแสดงของ Brown คือการได้รับบทในสารคดีทางทีวีเรื่อง Smallpox 2002: Silent Weapon ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) และแสดงหนังครั้งแรกในเรื่อง Brown Sugar ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)

หลังจากนั้น Brown ก็ได้รับโอกาสทางการแสดงมากมายทั้งหนังและซีรีส์ จนฝากการแสดงอันยอดเยี่ยมเอาไว้ใน American Crime Story ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) ที่ส่งให้เจ้าตัวเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ และคว้ารางวัล Primetime Emmy Awards ด้วย

และ Brown ก็ยังโชว์ทักษะทางการแสดงอันยอดเยี่ยมเอาไว้ในซีรีส์ This Is Us ค.ศ. 2016-2021 (พ.ศ. 2559-2564)
ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) - คว้ารางวัล Primetime Emmy Awards
ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) - คว้ารางวัลลูกโลกทองคำ + เข้าชิงรางวัล Primetime Emmy Awards
ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) - เข้าชิงรางวัล Primetime Emmy Awards
ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) - เข้าชิงรางวัล Primetime Emmy Awards

ถึงแม้จะได้แสดงตอนเดียวเท่านั้นในซีรีส์ Brooklyn Nine-Nine ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) มันก็ส่งให้ Brown ได้เข้าชิงรางวัล Primetime Emmy Awards ด้วย

นอกเหนือจากนั้น Brown ยังมีบทบาทการแสดงอีกมากมาย ทั้ง Marshall ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Black Panther ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Hotel Artemis ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), The Predator ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), ให้เสียงพากย์ The Angry Birds Movie 2 ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), ให้เสียงพากย์ Frozen II ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), The Rhythm Section ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563), ซีรีส์ Big Mouth ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และยังคงแสดงซีรีส์ This Is Us อยู่ ณ ตอนนี้

6 เมษายน

Billy Dee Williams

William December Williams เกิดวันที่ 6 เมษายน ค.ศ. 1937 (พ.ศ. 2480) ที่ New York ประเทศอเมริกา

Williams มีผลงานอันน่าจดจำเมื่อตอนอายุเริ่มมากแล้ว หลายต่อหลายคนรู้จักเขาจากบทบาท Lando Calrissian ใน 2 ภาคหลังของต้นฉบับ Star Wars อย่าง Star Wars: Episode V - The Epire Strikes Back ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) และ Star Wars: Episode VI - Return of the Jedi ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) แถมเจ้าตัวยังมีส่วนในภาคล่าสุด Star Wars: Episode IX - The Rise of Skywalker ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ซึ่งเขาก็มีส่วนกับบทบาทนี้อีกมากมายทั้งการให้เสียงพากย์ในการ์ตูน อนิเมชัน เกม

นอกเหนือจากนั้นเขายังมีผลงานอย่าง Lady Sings the Blues ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515), Nighthawks ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524), Batman ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532), Moving Target ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) และ Undercover Brother ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)

MICHAEL ROOKER

Michael Allen Rooker เกิดวันที่ 6 เมษายน ค.ศ. 1955 (พ.ศ. 2498) ที่ Jasper, Alabama ประเทศอเมริกา

เมื่อ Rooker อายุได้ 13 ปี พ่อแม่ของเขาหย่ากัน เขาจึงอาศัยอยู่กับแม่ที่ Chicago

จุดเริ่มต้นทางการแสดงของ Rooker เริ่มต้นขึ้นเมื่อเขาได้เข้าเรียนการแสดงตอนอยู่ระดับมหาวิทยาลัย และได้เริ่มแสดงละครเวทีบ้างนับตั้งแต่นั้น

Rooker ได้แสดงหนังครั้งแรกกับเรื่อง Henry: Portrait of a Serial Killer ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) และได้รับเสียงชื่นชมมากมาย

หลังจากนั้นเขาก็ได้รับบทบาทมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Mississippi Burning ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531), Sea of Love ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532), JFK ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534), Tombstone ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536), Slither ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Jumper ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), The Belko Experiment ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Brightburn ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Fantasy Island ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และอีกมากมาย

ในปี 2014 Rooker ได้รับโอกาสใหญ่ในการก้าวเข้ามาสู่จักรวาล MCU กับบทบาท Yondu ในเรื่อง Guardians of the Galaxy (2014) และได้แสดงในภาคต่ออย่าง Guardians of the Galaxy Vol. 2 (2017)

แต่หลายต่อหลายคนรู้จักเขาในบทบาท Merle Dixon จากซีรีส์สุดฮิตของ AMC เรื่อง The Walking Dead ค.ศ. 2010-2013 (พ.ศ. 2553-2556) ตัวละครนี้เป็นทั้งตัวละครที่คนรักและเกลียดไปพร้อม ๆ กัน แต่เป็นเรื่องน่าเสียดายเช่นกัน เมื่อบทบาทนี้ของเขาได้ถูกเขียนให้ตายไปแล้วในซีซัน 3

ส่วนผลงานซีรีส์อื่น ๆ ของ Rooker ก็ยังมีอีกบ้างประปราย ไม่ว่าจะเป็น Thief ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Law & Order ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Chuck ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Criminal Minds ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), Robot Chicken ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), True Detective ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

PAUL RUDD

Paul Stephen Rudd เกิดวันที่ 6 เมษายน ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) ที่ Passaic, New Jersey ประเทศอเมริกา

เขาเคยทำอาชีพเป็น DJ อยู่ที่บาร์แห่งหนึ่งในขณะที่เรียนอยู่ด้วย และเมื่อเรียนจบเขาก็ยังทำอาชีพอีกมากมาย

เขาเริ่มต้นอาชีพการแสดงในช่วงปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) กับซีรีส์เรื่อง Sisters และในช่วงปี ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) เขาก็ไปปรากฏตัวในซีรีส์ Wild Oats ก่อนสุดท้ายจะออกจากซีรีส์ Sisters ในปี ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) เพื่อไปแสดงในหนังคอเมดี้เรื่อง Clueless

หลังจากนั้นเขาได้มาแสดงในหนังแฟรนไชส์ฆาตกรไล่เชือด Michael Myers ในเรื่อง Halloween: The Curse of Michael Myers ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) กับบทบาท Tommy Doyle

และจากบทบาทนั้นก็ทำให้เขาได้แสดงหนังอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Romeo + Juliet ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539), The Locusts ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540), The Object of My Affection ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541), 200 Cigarettes ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542)

เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Outstanding Performance by a Cast in a Motion Picture จากเรื่อง The Cider House Rules ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542)

หลังจากนั้นเขาก็ได้รับบทบาทอีกมากมายมาตลอดทุกปีทั้งหนัง ทั้งซีรีส์ จนกระทั่งในวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) เจ้าตัวได้ยืนยันว่าจะมารับบท Scott Lang/Ant-Man ในหนัง Ant-Man ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) และนั่นคือจุดที่สร้างชื่อให้กับเขาแบบสุดๆ อีกครั้งโลกทั้งโลกต่างรู้จักชายคนนี้ และเขากลายเป็นตัวละครหลักและปรากฏในหนัง MCU อีกหลายเรื่อง

ในปี ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) เขารับบทในซีรีส์คอเมดี้ทาง Netflix เรื่อง Living with Yourself ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากซีรีส์เพลงหรือตลก แต่น่าเสียดายที่ได้แค่เข้าชิงเท่านั้น

เขายังคงฝากผลงานต่อเนื่องทั้งใน Ghostbusters: Afterlife ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), ซีรีส์ What If...? ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) และแน่นอน Ant-Man and the Wasp: Quantumania ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของ Paul Rudd นักแสดงผู้ที่มีความสามารถ ตลก เก่ง และเป็นส่วนสำคัญแห่งจักรวาล MCU

7 เมษายน

FRANCIS FORD COPPOLA

Francis Ford Coppola เกิดวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 1939 (พ.ศ. 2482) ที่ Detroit, Michigan ประเทศอเมริกา แต่เขาเติบโตขึ้นใน New York ย่านชานเมืองของครอบครัวเชื้อสายอเมริกัน-อิตาลี

Coppola จบด้านการละครจากมหาวิทยาลัย Hofstra University และจบด้านการสร้างภาพยนตร์ที่ UCLA

หลังจากเรียนจบเขาได้เริ่มฝึกงานเป็นผู้ช่วยผู้กำกับของ Roger Corman และได้มีโอกาสลองทำหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นคนคุมเสียง, ผู้กำกับบท, ผู้ช่วยผู้อำนวยการสร้าง และแน่นอน ผู้กำกับ กับหนังเรื่อง Dementia 13 ค.ศ. 1963 (พ.ศ. 2506)

ต่อมาเขาก็โอกาสมากขึ้นในวงการภาพยนตร์ มีส่วนร่วมในการเขียนบท ทั้ง Paris brûle-t-il? ค.ศ. 1966 (พ.ศ. 2509) และ Patton ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513) ที่ในเรื่องหลังส่งให้เขาได้คว้ารางวัลออสการ์สาขา Best Original Screenplay

ในปี ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) Coppola และ George Lucas ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท American Zoetrope และบริษัทโปรดักชันที่ก่อตั้งอยู่ที่ San Francisco โดยโปรเจคแรกของบริษัทคือหนังเรื่อง THX 1138 ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) อำนวยการสร้างโดย Coppola และกำกับโดย Lucas รวมถึง Coppola ก็ยังคงอำนวยการสร้างให้กับหนังเรื่องที่ 2 ที่ Lucas กำกับอย่าง American Graffiti ค.ศ. 1973 (พ.ศ. 2516) ส่งให้หนังเรื่องนี้เข้าชิงรางวัลออสการ์ 5 สาขา คว้ารางวัลลูกโลกทองคำ 2 สาขาจากการเข้าชิงทั้งหมด 4 สาขา

ในปี ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) Coppola ได้สร้างยอดผลงานที่กลายมาเป็นตำนานจนถึงทุกวันนี้ The Godfather ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515) ตัวหนังประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งรายได้และคำวิจารณ์ ส่งให้คว้ารางวัลออสการ์ 3 สาขา จากการเข้าชิงทั้งหมด 11 สาขา และคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ 5 สาขา จากการเข้าชิงทั้งหมด 7 สาขา ซึ่งจากความสำเร็จก็ส่งให้มีภาคต่อกับ The Godfather: Part II ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517) และ The Godfather: Part III ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533)

หลังจากนั้นก็มีผลงานของเขาออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น The Great Gatsby ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517), The Conversation ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517), Apocalypse Now ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522), Dracula ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), The Rainmaker ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) นอกเหนือจากการกำกับเขาก็มีผลงานทั้งเขียนบทและอำนวยการสร้างอีกมากมาย

บนเวทีออสการ์ Coppola สร้างชื่อมากมาย

[OSCARS - WINNER]

• Best Writing, Story and Screenplay Based on Factual Material or Material Not Previously Published or Produced | Patton ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513)
• Best Writing, Screenplay Based on Material from Another Medium | The Godfather ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515)
• Best Picture | The Godfather: Part II ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517)
• Best Director | The Godfather: Part II ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517)
• Best Writing, Screenplay Adapted From Other Material | The Godfather: Part II ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517)

[OSCARS - NOMINEE]

• Best Director | The Godfather ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515)
• Best Picture | American Graffiti ค.ศ. 1973 (พ.ศ. 2516)
• Best Picture | The Conversation ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517)
• Best Writing, Original Screenplay | The Conversation ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517)
• Best Picture | Apocalypse Now ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522)
• Best Director | Apocalypse Now ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522)
• Best Writing, Screenplay Based on Material from Another Medium | Apocalypse Now ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522)
• Best Picture | The Godfather: Part III ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533)
• Best Director | The Godfather: Part III ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533)

แถมเจ้าตัวยังคว้ารางวัลพิเศษ Irving G. Thalberg Memorial Award เพื่อมอบให้แก่บุคคลที่สร้างสรรค์ผลงานระดับสูงเอาไว้ให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์

และบนเวทีลูกโลกทองคำก็ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน

[GOLDEN GLOBES - WINNER]

• Best Screenplay - Motion Picture | The Godfather ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515)
• Best Director - Motion Picture | The Godfather ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515)
• Best Director - Motion Picture | Apocalypse Now ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522)
• Best Original Score - Motion Picture | Apocalypse Now ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522)

[GOLDEN GLOBES - WINNER]

• Best Director - Motion Picture | The Conversation ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517)
• Best Screenplay - Motion Picture | The Conversation ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517)
• Best Director - Motion Picture | The Godfather: Part II ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517)
• Best Screenplay - Motion Picture | The Godfather: Part II ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517)
• Best Director - Motion Picture | The Cotton Club ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527)
• Best Director - Motion Picture | The Godfather: Part III ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533)
• Best Screenplay - Motion Picture | The Godfather: Part III ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533)

หนึ่งในผู้กำกับระดับตำนานที่ยังมีลมหายใจ ฝากผลงานยอดเยี่ยมเอาไว้ให้คนรุ่นหลัง - Francis Ford Coppola

JACKIE CHAN

Kong-sang Chan เกิดวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 1954 (พ.ศ. 2497) ที่ Victoria Peak, Hong Kong

ครอบครัวของเขาย้ายมาอยู่ในออสเตรเลียในช่วงปี ค.ศ. 1960 (พ.ศ. 2503) แต่เหมือนมันจะไม่เวิร์คกับตัวของเฉินหลงสักเท่าไหร่ เขาจึงโดนส่งตัวกลับไปที่ Hong Kong และเข้าเรียนในโรงเรียนสอนการแสดง

เขาได้ค้นพบตัวเองว่าเขาชอบร้องเพลง ชอบการแสดงผาดโผน และที่สำคัญเขาชอบศิลปะการต่อสู้ จนทำให้เขาได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของคณะละครเวที Seven Little Fortunes ซึ่งทำให้เขาได้เดินทาง และได้ไปเยี่ยมพ่อแม่ที่ออสเตรเลีย แต่สุดท้ายเขาก็กลับไปอาศัยอยู่ที่ Hong Kong

ในช่วงปี ค.ศ. 1970s (พ.ศ. 2513-2522) เฉินหลงได้เริ่มต้นอาชีพการแสดงของเขาและปรากฏตัวในบทบาทรอง 2 เรื่อง ในหนังที่แสดงนำโดย Bruce Lee เรื่อง First Fury ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515) และ Enter the Dragon ค.ศ. 1973 (พ.ศ. 2516)

ตัวเขาเองก็ได้แสดงนำในหนังทุนต่ำหลายเรื่อง โดยจะเป็นหนังเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ล้วน ๆ ไม่ว่าจะเป็น Shaolin Wooden Men ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519), To Kill with Intrigue ค.ศ. 1977 (พ.ศ. 2520), Half a Loaf of Kung Fu ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521), Magnificent Bodyguards ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521)

แต่เรื่องที่สร้างชื่อให้กับเขาและกลายเป็นหนังศิลปะการต่อสู้ขวัญใจใครอีกหลายคนคือเรื่อง Drunken Master ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521) หรือหลายคนรู้จักในชื่อ ไอ้หนุ่มหมัดเมา และแน่นอนว่าหลังจากนั้นเขาก็รับบทอีกมากมาย ทั้ง The Young Master ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523), Battle Creek Brawl ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523)

ต่อมาเขาได้เป็นที่รู้จักในอเมริกา เขาได้แสดงร่วมกับ Burt Reynolds, Roger Moore และ Dean Martin ในหนังเรื่อง The Cannonball Run ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524)

แต่ไม่นานเขาก็กลับไปบ้านเกิดทำงานที่เขาถนัด กับหนังแอ็คชั่นร่วมกับทีมสตั๊นท์แมนของเขา Winners & Sinners ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526), Project A ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526), Wheels on Meals ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527), My Lucky Stars ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528), Twinkle Twinkle Lucky Stars ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528)

หลังจากจากนั้นเฉินหลงก็ได้เดินทางกลับไปอเมริกาและได้แสดงหนังร่วมกับ Danny Aiello ในเรื่อง The Protector ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) หลังจากนั้นเขาก็เริ่มทำงานเบื้องหลังกับทางฝั่ง Hollywood มากขึ้น

ต่อมาเขาก็กลับมาปรากฏหน้ากล้องอีกหลายเรื่อง ทั้ง Project A 2 ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530), Police Story 2 ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531), Miracles ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532), Operation Condor ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534), Supercop ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), Rumble in the Bronx ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) ที่ส่งให้เขาเป็นที่รู้จักมากขึ้นทั่วโลก จนแสดงหนังอีกมากมายในวงการ Hollywood

ต่อมาเขาได้ร่วมแสดงกับ Chris Tucker ในเรื่อง Rush Hour ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) ตามมาด้วย Shanghai Noon ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543), Rush Hour 2 ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), The Tuxedo ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), Shanghai Knights ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), The Medallion ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Around the World in 80 Days ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), New Police Story ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), The Myth ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) แน่นอนว่าหลังจากนั้นตัวเขาประสบความสำเร็จอย่างมากมายในอาชีพการแสดง

มีผลงานมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Rush Hour 3 ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), ให้เสียงพากย์ลิงใน Kung Fu Panda ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), The Spy Next Door ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), The Karate Kid ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Kung Fu Panda 2 ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Kung Fu Panda 3 ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), The Lego Ninjago Movie ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), The Foreigner ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) และผลงานล่าสุดอย่าง Vanguard ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

ซึ่งในอนาคตยังมีผลงานของเขาให้เราติดตามกันต่อ All U Need is Love ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Snafu ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Once Upon a Zodiac, Five Against a Bullet, Shanghai Dawn และข่าวลือว่าเขาจะมาแสดงใน Rush Hour 4

ผมไม่อยากเป็น Bruce Lee คนต่อไป ผมแค่อยากเป็น Jackie Chan คนแรก

- Jackie Chan (เฉินหลง)

นักแสดงหนังบู๊ชาวฮ่องกง เล่นจริง เจ็บจริง ที่ครองใจคนทั่วโลก ด้วยคิวบู๊ที่น่าหลงไหลและไหลลื่น ความฮาในฉากแบบเป็นเอกลักษณ์ เปรียบดั่ง Pop-Culture แห่งยุค เขาคือนักแสดงผู้สร้างปรากฏการณ์

RUSSELL CROWE

Russell Ira Crowe เกิดวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 1964 (พ.ศ. 2507) ที่ Wellington ประเทศ New Zealand

ครอบครัวของเขาย้ายไป Australia ตั้งแต่เขายังเด็ก และตัวเขาก็ได้เริ่มต้นการแสดงเร็วกว่าที่คิด เริ่มต้นจากการเป็นนักแสดงเด็กในทีวีท้องถิ่นของ Australia

จนกระทั่งได้มาแสดงในหนัง 2 เรื่องแรกในชีวิต เริ่มจาก Romper Stomper ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ที่สร้างชื่อให้กับเขาในประเทศ ส่วนเรื่องถัดมาคือ The Sum of Us ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) ที่ทำให้เขาได้ก้าวเข้าสู่อเมริกา

Sharon Stone เห็นการแสดงของเขาจาก Romper Stomper ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) เลยทำให้เธออยากให้เขามาแสดงในเรื่อง The Quick and the Dead ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) ทำให้นั่นกลายเป็นหนังอเมริกันเรื่องแรกที่ Russell Crowe แสดง

หลังจากนั้นเขาก็ได้ถูกนำเสนอให้มารับบทในเรื่อง Virtuosity ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) นั่นก็ยิ่งเปิดให้เขาได้แสดงหนังอีกมากมาย ทั้ง L.A. Confidential ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540), Mystery, Alaska ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542)

การแสดงอันยอดเยี่ยมจากเรื่อง The Insider ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ส่งผลให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำด้วย

และก็มาประสบความสำเร็จมาก ๆ กับการแสดงอันยอดเยี่ยมใน Gladiator ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ที่ได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ แต่ส่งให้เขาคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์

ในปีต่อมากับเรื่อง A Beautiful Mind ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) ก็ทำให้เขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ แต่ไปคว้ารางวัลลูกโลกทองคำแทน

แน่นอนว่าหลังจากนั้นเขาต่างได้รับบทบาทมากมายอีกหลายเรื่อง และแต่ละเรื่องนับว่าเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ เพราะทั้ง Master and Commander: The Far Side of the World ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) และ Cinderella Man ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) ก็ส่งให้เขาเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ

ตามมาด้วยซีรีส์ The Loudest Voice ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ส่งให้เขาคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากซีรีส์หรือหนังทางทีวีในเวทีลูกโลกทองคำอีกด้วย

นอกเหนือจากนี้ยังมีผลงานของเขาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น American Gangster ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Body of Lies ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Robin Hood ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Les Misérables ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Man of Steel ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Noah ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), The Nice Guys ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), The Mummy ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Unhinged ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

9 เมษายน

DAVID GORDON GREEN

David Gordon Green เกิดวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) ที่ Little Rock, Arkansas ประเทศอเมริกา

Green มีความสนใจในด้านหนังมาตั้งแต่เด็ก ๆ เขาได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับการกำกับหนังมาโดยตรง และในขณะอยู่ที่นั่น เขาได้ทำหนังสั้น 2 เรื่องในชื่อ Pleasant Grove ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) และ Physical Pinball ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541)

และ Green ก็ได้มาเดบิวต์กำกับหนังเรื่องแรกที่เจ้าตัวลงมือเขียนบทเองด้วย George Washington ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543)

หลังจาก Green ก็มีผลงานออกมาอยู่เรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น All the Real Girls ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Undertow ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Snow Angels ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Pineapple Express ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), ซีรีส์ Eastbound & Down ค.ศ. 2009-2013 (พ.ศ. 2552-2556), The Sitter ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Prince Avalanche ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556)

Green มาสร้างชื่อกับการได้มากำกับหนังภาคต่อรีบูท Halloween ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) และถือว่าประสบความสำเร็จไม่ใช่เล่น เรียกได้ว่าเป็นภาคต่อที่แท้จริงจากต้นฉบับก็ไม่ผิดเพี้ยน จากความสำเร็จนี้ก็ส่งให้มีภาคต่อออกมากับ Halloween Kills ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) และ Halloween Ends ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

นอกเหนือจากนั้นในอนาคตยังมีผลงานที่น่าสนใจ กับ The Exorcist ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566) ที่เป็นภาคต่อจากต้นฉบับในปี ค.ศ. 1973 (พ.ศ. 2516) และมากำกับซีรีส์ Hellraiser อีกด้วย

KRISTEN STEWART

Kristen Jaymes Stewart เกิดวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) ที่ Los Angeles, California ประเทศอเมริกา

โด่งดังมาจากบทบาท Isabella "Bella" Swan ในหนังเรื่อง Twilight ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) แต่จริงๆ แล้วเธอก้าวเข้าสู่แวดวงการแสดงมาตั้งแต่เด็กๆ เลยทีเดียว เพราะพ่อแม่ของเธอทั้งคู่ก็ทำงานในอุตสาหกรรมหนังและทีวี

มีแมวมองได้ไปเจอเธอตอนที่แสดงในงานคริสมาสต์ที่โรงเรียนเมื่อตอนอายุ 8 ปี และนั่นคือจุดเริ่มต้นการแสดงของเธอ เธอได้ไปปรากฏตัวในหนัง/ซีรีส์ทางทีวีกับบทเล็ก ๆ มากมาย

แต่บทบาทสำคัญของเธอเริ่มต้นขึ้นกับบทบาท Sam Jennings ในเรื่อง The Safety of Objects ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) หลังจากนั้นเธอก็ได้แสดงเคียงข้างกับ Jodie Foster ในหนังเรื่อง Panic Room ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) แถมจากเรื่องนั้นยังส่งให้เธอได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงเด็กยอดเยี่ยมด้วย
.
จากการแสดงอันยอดเยี่ยมจนได้รับเสียงชื่นชมในหนังเรื่อง Panic Room ของเธอ ทำให้เธอได้ไปรับบทบาทในหนังเรื่อง Cold Creek Manor ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) กับบทบาทลูกสาวของ Dennis Quaid และ Sharon Stone แต่ถึงแม้หนังจะทำรายได้ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ แต่เธอก็ยังได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงเด็กยอดเยี่ยมอีกครั้ง

หลังจากนั้นเธอก็ไปแสดงในหนังอีกหลายเรื่อง เช่น Speak ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Zathura: A Space Adventure ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Into the Wild ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Jumper ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551)

เมื่อเธออายุได้ 17 ปีเท่านั้น เธอก็คว้าบทบาทที่สาวๆ หลายคนต่างวาดฝัน และกลายเป็นสร้างชื่อให้เธอแบบเต็มตัวอีกครั้ง กับบทบาท Isabella "Bella" Swan ในหนังเรื่อง Twilight ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) และส่งให้เะอคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเวที MTV Movie Award หลังจากนั้นเธอก็รับบทบาทนี้มาอย่างต่อเนื่องกับ The Twilight Saga: New Moon ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) และ The Twilight Saga: Eclipse ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553)

แต่หลังจากนั้นเธอก็ไปเล่นหนังอินดี้และหนังเล็กๆ อีกหลายเรื่อง เช่น Adventureland ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), Welcome to the Rileys ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), The Runaways ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553)

ซึ่งเธอก็สลับมาเล่นหนังใหญ่บ้าง เล็กบ้าง ไม่ว่าจะเป็น Snow White and the Huntsman ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) และหนังเมืองคานส์ On the Road ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)

น่าเสียดายที่หนังช่วงหลังๆ ของเธอไม่สามารถสร้างชื่อให้กับเธอสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็น American Ultra ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Equals ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), JT LeRoy ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Charlie's Angels ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Underwater ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) หรือล่าสุดอย่าง Happiest Season ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ก็ตาม

ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะเป็นเพราะเรื่องความรักของตัวเธอด้วย ทั้งกับ Robert Pattinson หรือผูู้กำกับ หรือสาวคนต่าง ๆ ก็เป็นได้

แต่บทบาท Diana ใน Spencer ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) ก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าเธอมีดี เธอแสดงได้อย่างยอดเยี่ยมไร้ที่ติ จนส่งให้เธอเข้าชิงรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำจากเรื่องนี้ด้วย 

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เธอคือหนึ่งในนักแสดงหญิงของวงการ Hollywood ที่มีเสน่ห์ และเท่มาก ๆ ไม่เพียงแต่มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามเท่านั้น เพศเดียวกันเธอก็ยังน่าดึงดูดสุด ๆ ความเป็นตัวเอง รักไม่จำกัดนิยาม ความกล้าแสดงออก หนึ่งในนักแสดงที่กล้ารับบทมากมาย นี่แหละ Kristen Stewart

ELLE FANNING

Mary Elle Fanning จุติมายังโลกมนุษย์เพื่อทำให้โลกสดใสสว่างไสวเมื่อวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) ที่ Conyers, Georgia ประเทศอเมริกา

จุดเริ่มต้นออร่านักแสดงของเธอเริ่มตั้งแต่อายุ 3 ปีเท่านั้น เธอรับบทเป็นตัวละครที่ชื่อว่า Lucy ในวัยเด็ก ซึ่งวัยที่โตกว่าแสดงโดยพี่ของเธอ Dakota Fanning ในหนังเรื่อง I Am Sam ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544)

หลังจากนั้นเธอก็ไปรับบทเดียวกับพี่อีกเช่นเคยในเวอร์ชั่นเด็กจากซีรีส์เรื่อง Taken ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2555) และนั่นก็ไม่ได้บดบังออร่านางฟ้าตัวน้อยของเธอเลยแม้แต่น้อย 

เพราะหลังจากนั้นเธอก็ได้รับบทด้วยตัวเองเต็มๆ โดยไม่ได้มีพี่เธอร่วมแสดงในหนังเรื่อง Daddy Day Care ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2556) และยิ่งทวีคูณความน่ารักน่าเอ็นดูไปแก่คนทั่วโลกกกกกกกกก

ความน่ารักของเธอก็ทำให้ได้ไปปรากฏตัวรับเชิญใน Judging Amy ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542), CSI: Miami ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2556) และ CSI: NY ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2557) ด้วย

แต่บทบาทที่สร้างชื่อให้โลกประจักษ์ถึงความสามารถในการแสดงของเธอที่นอกเหนือจากความน่ารักน่าเอ็นดู คือบทบาท Ruth Cole จากเรื่อง The Door in the Floor ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2557) ซึ่งจากความสามารถของเธอในเรื่องนั้นก็ส่งให้เธอได้รับบทในหนังอีก 2 เรื่องอย่าง Because of Winn-Dixie ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2558) และ I Want Someone to Eat Cheese With ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2559)

ตั้งแต่นั้นเธอก็มีชื่อเสียงและแสดงหนังมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง The Curious Case of Benjamin Button ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2561), Super 8 ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), We Bought a Zoo ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Maleficent ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), The Neon Demon ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), 20th Century Women ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Live by Night ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), How to Talk to Girls at Parties ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Mary Shelley ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Galveston ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Teen Spirit ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Maleficent: Mistress of Evil ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), All the Bright Places ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และผลงานล่าสุด The Great ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

แต่ถึงแม้เธอจะสวย น่ารัก และมีเสน่ห์เพียงใด บทบาทที่เธอได้รับมักจะมีซีนอารมณ์หนัก ๆ และมีความยากอยู่หลายเรื่องเหมือนกัน

นอกเหนือจากอาชีพการแสดงแล้ว เธอยังเป็นนางแบบอีกด้วย!

(ย่อหน้านี้อวยสุด ๆ) แน่นอนสิ่งที่ทำให้หลายคนตกหลุมรักเธอ และจากที่เราชื่นชมเธอมาเกือบทุกย่อหน้า นั่นคือรอยยิ้ม เพราะ Elle Fanning คือผู้หญิงที่มีเสน่ห์ในด้านรอยยิ้มมากๆ เธอสามารถยิ้มและทำให้คนอื่นยิ้มตามได้อย่างน่าเหลือเชื่อ โลกทั้งใบช่างสดใสเหลือเกินยามเธอยิ้ม ยิ้มปุ๊บละลายปั๊บ 

10 เมษายน

STEVEN SEAGAL

Steven Frederic Seagal เกิดวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1952 (พ.ศ. 2495) ที่ Lansing, Michigan ประเทศอเมริกา

หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตามาจากหนังแอ็คชั่นสมัยก่อน ต้องมีนายคนนี้โผล่มาเสมอ และจริง ๆ เขาสนใจศิลปะการป้องกันตัวมาตั้งแต่เด็กๆ เขาเริ่มเรียนศิลปะการป้องกันตัวตั้งแต่เขาอายุ 7 ปี ทั้งคาราเต้, ไอคิโด้ แถมยังย้ายไปญี่ปุ่นเพื่อเรียนศาสตร์นี้เพิ่มเติมอีกด้วย จนเขาได้รับขั้น 7 ของ ไอคิโด้ และเขาก็กลับมายัง Hollywood ได้รับความสนใจจาก Michael Ovitz ซึ่งกำลังมองหานักแสดงอย่าง Seagal อยู่พอดี

และในที่สุด Seagal ก็ได้รับบทบาทแรกในหนังเรื่อง Above the Law ซึ่งได้รับเสียงตอบรับในทางที่ดีจากแฟนๆ เป็นอย่างมาก หลังจากนั้นเขาก็รับงานหนังแอ็คชั่นมาอย่างต่อเนื่องด้วย Hard to Kill ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533), Marked for Death ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533), Out for Justice ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534), Under Siege ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) นับได้เลยว่าช่วงนั้นเขาคือแอ็คชั่นสตาร์ตัวท็อปของวงการอย่างแท้จริง

แน่นอนว่าบทบาทที่เขารับล้วนแต่เป็นหนังแอ็คชั่น ไม่ว่าจะเป็น The Glimmer Man ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539), Executive Decision ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) จนแฟน ๆ ตั้งฉายาของเขาว่าไอ้จอมหักกระดูก (Bone-Crunching) จากการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์ ที่ไม่เหมือนกับพวก Bruce Lee, Chucj Norris หรือ Jean-Claude Van Damme

และเจ้าตัวก็เรียกได้ว่ารับบทบาทแอ็คชันมาทั้งชีวิตเลยจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Exit Wounds ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), The Foreigner ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Into the Sun ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), The Keeper ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), Machete ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), ซีรีส์ True Justice ค.ศ. 2010-2012 (พ.ศ. 2553-2555), Force of Execution ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Absolution ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), The Perfect Weapon ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Contract to Kill ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) และผลงานล่าสุด General Commander ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) กับ Beyond the Law ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ก็ยังคงเป็นหนังแอ็คชันเช่นกัน

รวมถึงในอนาคตยังมีผลงาน Above the Law 2 ภาคต่อของหนังแจ้งเกิดเจ้าตัวมาให้เราได้ติดตามกันอีก

หนึ่งในแอ็คชั่นสตาร์สุดโด่งดังในอดีต เอกลักษณ์ศิลปะการต่อสู้แบบไอคิโด้ น้ำเสียงทุ่มลึก นิ่ง ตัวสูงใหญ่ และยังคงแสดงบทบาทแอ็คชั่นมาอย่างต่อเนื่อง

CHARLIE HUNNAM

Charles Matthew Hunnam เกิดวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) ที่ Newcastle ประเทศอังกฤษ

Hunnam ในวัย 18 ปี ได้ไปปรากฏตัวในซีรีส์ฮิตทางทีวีเรื่อง Byker Grove ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) และได้มาแสดงหนังครั้งแรกกับบทบาทเล็ก ๆ ในเรื่อง Whatever Happened to Harold Smith? ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542)

Hunnam เริ่มมีชื่อเสียงและเป็นที่สนใจจากการได้รับบท Nathan Maloney ในซีรีส์เรื่อง Queer as Folk ค.ศ. 1999-2000 (พ.ศ. 2542-2543)

หลังจากนั้น Hunnam ก็ได้ออกเดินสายออดิชันตามที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์หรือหนังก็ตาม เขาเคยไปออดิชั่นบทใน Star Wars: Episode II - Attack of the Clones ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) แต่ก็ไม่ได้บทไป จนกระทั่งไปสร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติในหนังเรื่อง Abandon ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)

จากบทบาทนั้น ส่งให้เขาได้รับบทนำครั้งแรกในเรื่อง Nicholas Nickleby ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) และนั่นส่งให้เขามีผลงานอีกมากมายตามมา ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ Undeclared ค.ศ. 2001-2003 (พ.ศ. 2544-2546), Cold Mountain ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Hooligans ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Children of Men ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), The Ledge ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554)

และได้รับความสนใจอีกครั้งจากบทบาท Raleigh Becket ใน Pacific Rim ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556)

หนึ่งบทบาทที่สร้างชื่อเสียงและทำให้เขาเป็นที่รู้จักระดับโลก คือบทบาทสุดเท่ Jackson 'Jax' Teller ในซีรีส์ Sons of Anarchy ค.ศ. 2008-2014 (พ.ศ. 2551-2557) ที่บอกเลยว่าในเรื่องนี้เขาเท่จริง ๆ

ผลงานของ Hunnam มีมาอย่างไม่หยุดหย่อน และใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ทั้ง Crimson Peak ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), The Lost City of Z ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), King Arthur: Legend of the Sword ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Papillon ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Triple Frontier ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), The Gentlemen ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) 

HALEY JOEL OSMENT

Haley Joel Osment เป็นนักแสดงชาวอเมริกัน ที่พิสูจน์ตัวเองตั้งแต่เด็กแล้วว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ดีที่สุดของรุ่นเลยทีเดียว เขาคือเด็กชายคนแรกที่ได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงด้วย

Haley Joel Osment เกิดวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ที่ Los Angeles, California ประเทศอเมริกา โดยมีทั้งพ่อและแม่เป็นนักแสดงทั้งคู่

Osment เริ่มต้นอาชีพการแสดงตั้งแต่อายุ 4 ปี เขาได้ไปแสดงในโฆษณาของ Pizza Hut และนั่นเหมือนเป็นตัวจุดประกายอาชีพการแสดงของเขา เพราะต่อมาเขาได้รับบททางทีวีในปีเดียวกัน

จากการแสดงอันน่าประทับใจ ต่อมา เขาก็ได้แสดงหนังเรื่องแรกในชีวิต นั่นคือหนังเรื่อง Forrest Gump ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) ตามมาด้วย Mixed Nut ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) และได้รับบททางซีรีส์ ไม่ว่าจะเป็น Thunder Alley ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537), The Jeff Foxworthy Show ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538), Murphy Brown ค.ศ. 1997-1998 (พ.ศ. 2540-2541) และอีกมากมายหลายเรื่อง

แต่หนังที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักโด่งดังไปทั่วโลก คือบทบาทจากหนังสยองขวัญหักมุมสุดคลาสสิคเรื่อง The Sixth Sense ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) แสดงร่วมกับ Bruce Willis ซึ่งในบทนั้นส่งให้เขาได้รางวัล Saturn Award สาขานักแสดงเด็กยอดเยี่ยม แถมยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์และลูกโลกทองคำด้วย แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้รางวัล เพราะรางวัลตกไปเป็นของ Michael Caine แต่ถึงกระนั้นก็ตามบทบาทนี้ของเขากลายเป็นที่จดจำ โดยเฉพาะประโยคจากหนังก็กลายเป็นประโยคอมตะกับ

I see dead people.

อาชีพการแสดงของเขาเริ่มรุ่งโรจน์ เขายังได้รับบทในหนังอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Pay It Forward ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543), ร่วมงานกับ Steven Spielberg ใน A.I. Artificial Intelligence ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) ซึ่งจากเรื่องนี้ก็เป็นการการันตีความสามารถในการแสดงของเขาแบบสุดๆ แถมยังส่งให้เขาได้คว้ารางวัล Saturn Award เป็นครั้งที่ 2 ด้วย

นอกเหนือจากงานแสดง เจ้าตัวยังสามารถพากย์เสียงได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น Beary Barrington จากเรื่อง The Country Bears ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), Mowgli จากเรื่อง The Jungle Book 2 ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) และหลายคนอาจไม่รู้ว่าตัวเขานี่แหละเป็นคนพากย์เสียง Sora ในแฟรนไชส์เกม Kingdom Heart ฉบับภาษาอังกฤษ

แลดูเหมือนอาชีพในการแสดงของเขาจะประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ในวันที่ 20 กรกฏาคม ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) เขาได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และมีผลตรวจแอลกอฮอล์ในเลือดด้วย ซึ่งมีความผิดเป็นสองเท่าในกฏหมายของ California

ในวันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) เขาถูกจับกุมใน 4 ข้อหา รวมถึง ขับรถในขณะที่มีแอลกอฮอล์และครอบครองกัญชาขณะขับรถ จนกระทั่งในวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) เขาถูกตัดสินให้คุมประพฤติเป็นเวลา 60 ชม. และเข้ารับการบำบัดแอลกอฮอล์ รวมถึงต้องเข้ารับการศึกษาเพิ่มเติมด้วย หนำซ้ำเขายังโดนค่าปรับ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 47,000 บาท)

หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการทางกฏหมาย เจ้าตัวก็เริ่มกลับมารับงานแสดง พากย์เสียงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มีเรื่องไหนโดดเด่น หรือสามารถสร้างชื่อให้เขาอย่างสมัยเด็ก ๆ

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม Haley Joel Osment ก็เลิกแอลกอฮอล์และตัดสินใจที่จะกลับมามุ่งมั่นในอาชีพการแสดงอีกครั้ง เรายังคงเห็นผลงานของเขาบ้างในปัจจุบัน รวมถึงงานในอนาคตก็ยังมีให้ได้ติดตามกันอยู่ ซึ่งน่าชื่นชมในการพยายามลุกขึ้นสู้ของเขาอีกครั้งจริง ๆ มันก็ทำให้เขามีผลงานออกมาบ้างแต่ก็ไม่ได้เด่นดังอะไรสักเท่าไหร่

DAISY RIDLEY

Daisy Jazz Isobel Ridley เกิดวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ที่ London ประเทศอังกฤษ

เธอเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากบทบาท Rey ในจักรวาล Star Wars ที่เริ่มปรากฏตัวครั้งแรกในภาค Star Wars: Episode VII - The Force Awakens ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558)

เธอได้เข้าเรียนที่โรงเรียนสอนการแสดงมาตั้งแต่เด็ก ๆ และ เธอเต็มไปด้วยความสามารถในการเต้นต่าง ๆ แถมยังมีย่านเสียงระดับ mezzo-soprano

หลังจากเธอเรียนจบ เธอได้ถูกจ้างให้ไปรับบทในหนัง, ทีวี ร้องเพลงบ้างเล็กน้อย เธอได้ถูกคัดตัวให้ไปรับบท Jessie ในซีรีส์ คอเมดี้-ดราม่า ของอังกฤษ เรื่อง Youngers ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) และในปีเดียวกันนั้นเธอก็ได้รับบทในซีรีส์ Casualty ด้วย เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังมารับบทในซีรีส์อีกเรื่อง Toast of London ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) และซีรีส์อีกหลายเรื่อง เรียกได้ว่าเธอเริ่มต้นอาชีพการแสดงมาจากซีรีส์นี่แหละ ไปปรากฏตัวในหนังสั้นหรือ MV บ้าง

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) ได้มีการประกาศว่า Daisy Ridley จะมารับบทหลักในไตรภาคใหม่ของ Star Wars โดยเธอมีบทบาทที่ชื่อว่า Rey ทำให้หลายคนต่างเริ่มหันมาสนอกสนใจในตัวเธอมากขึ้น และเมื่อ The Force Awakens ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) ถูกปล่อยออกไป มันกลายเป็นหนังที่ทำรายได้ทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ และเธอก็รับบทบาทนี้มาตลอดจนจบบทบาทกับภาคปิดมหากาพย์ใน Star Wars: The Rise of Skywalker ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และเธอบอกว่าจะไม่กลับมารับบทนี้อีกแล้ว แต่เธอก็ยังคงมีส่วนในการพากย์เสียงในฉบับซีรีส์หรือในเกมต่าง ๆ ของแฟรนไชส์นี้ด้วย

ซึ่งหลังจากเธอได้รับบทบาทในจักรวาล Star Wars มันเหมือนเป็นช่องทางให้เธอได้รับโอกาสอีกมากมายในวงการ Hollywood เธอได้ไปแสดงในหนังเรื่อง Murder on the Orient Express ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), ให้เสียงพากย์ใน Peter Rabbit ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), แสดงร่วมกับ Tom Holland ใน Chaos Walking ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) 

12 เมษายน

SAOIRSE RONAN

Saoirse Una Ronan เกิดวันที่ 12 เมษายน ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) ที่ The Bronx, New York City ประเทศอเมริกา

Saoirse ได้แสดงครั้งแรกกับบทบาทเล็ก ๆ ทางซีรีส์ทางทีวีบางตอนในเรื่อง The Clinic ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546)

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) เธอก็ได้ปรากฏตัวในหนังครั้งแรกกับเรื่อง I Could Never Be Your Woman ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550)

แต่เธอเริ่มมีชื่อเสียงมาจากหนังเรื่อง Atonement ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) ที่กำกับโดย Joe Wright และร่วมแสดงกับ Keira Knightley กับ James McAvoy ซึ่งหนังเรื่องนี้ส่งผลให้เธอถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ด้วย และเธอได้กลายเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำด้วย

เส้นทางการแสดงของเธอยังคงสว่างไสว และประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ในช่วงปี ค.ศ. 2008-2011 (พ.ศ. 2551-2554) เธอได้แสดงนำในหนังที่ประสบความสำเร็จอีกหลายเรื่อง ทั้ง City of Ember ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) ซึ่งทำให้เธอถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล BAFTA Award ตามมาด้วย The Way Back ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) ที่ส่งให้เธอชนะรางวัล Irish Film & Television Award สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม

ในปี ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) เธอได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์อีกครั้ง กับเรื่อง Brooklyn ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) เธอก็ได้กลายเป็นนักแสดงหญิงที่เด็กที่สุดที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ตั้งแต่อายุเพียง 21 ปี และได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำด้วย

ในปี ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) เธอได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์อีกครั้งกับเรื่อง Lady Bird ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) นั่นทำให้เธอเป็นนักแสดงหญิงที่เด็กที่สุดคนที่สองที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 3 รางวัลออสการ์ก่อนอายุ 24 ปี เสียอีก แต่ถึงแม้เธอจะไม่ได้รางวัลออสการ์ เธอก็สามารถคว้ารางวัลลูกโลกทองคำจากเรื่องนี้ได้ด้วย

ในปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) เธอก็ได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์อีกครั้งจากเรื่อง Little Women ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำด้วย

Saoirse Ronan คือนักแสดงหญิงที่มีความสามารถสุด ๆ การแสดงของเธอทั้งยอดเยี่ยมและมีพลัง

13 เมษายน

RON PERLMAN

Ronald Francis Perlman เกิดวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 1950 (พ.ศ. 2493) ที่ New York ประเทศอเมริกา

ตลอดอาชีพของ Perlman ได้ร่วมงานกับนักแสดงดัง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Marlon Brando, Sean Connery, Dominique Pinon, Brad Dourif, Ed Harris, John Hurt, Jude Law, Christina Ricci, Federico Luppi, Sigurney Weaver, Michael Wincott, Elijah Wood และอีกมากมาย

Perlman ได้มาแสดงใน La guerre du feu ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524), Der Name der Rose ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) ตามมาด้วยผลงานแจ้งเกิดที่สร้างชื่อเสียงให้เขา แสดงเคียงข้างกับ Linda Hamilton กับบทบาทเจ้าชายอสูรในซีรีส์ Beauty and the Beast ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) ที่ส่งให้เขาคว้ารางวัลลูกโลกทองคำครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต รวมถึงได้เข้าชิงรางวัล Primetime Emmy Awards อีก 2 ครั้ง

หลังจากนั้นเขาก็ได้แสดงใน Cronos ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) นี่คือครั้งแรกที่เขาได้ร่วมงานกับ Guillermo del Toro ก่อนที่ภายหลังจะกลายเป็นเพื่อนและได้ร่วมงานกันอีกในเวลาต่อมา ตามมาด้วยผลงานแสดงนำครั้งแรกในหนังของ Jean-Pierre Jeunet เรื่อง La cité des enfants perdus ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) และบทบาทใหญ่ครั้งแรกที่เป็นกระแสของเขาคือการที่ Jeunet ต้องการให้เขาไปรับบทในหนัง Hollywood เรื่อง Alien: Resurrection ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540)

ถึงแม้ Perlman จะไม่ใช่ดาราที่ out standing สักเท่าไหร่ แต่เขามีทักษะในการใช้เสียงที่ไม่ธรรมดา พากย์อนิเมชัน/หนัง ไม่ว่าจะเป็น Superman ค.ศ. 1997-1999 (พ.ศ. 2540-2542), Justice League ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Teen Titans ค.ศ. 2003-2006 (พ.ศ. 2546-2549), Danny Phantom ค.ศ. 2004-2007 (พ.ศ. 2547-2550), Kim Possible ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), The Batman ค.ศ. 2005-2008 (พ.ศ. 2548-2551), Star Wars: The Clone Wars ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Tangled ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Percy Jackson: Sea of Monsters ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Adventure Time ค.ศ. 2011-2017 (พ.ศ. 2554-2560), Trollhunters ค.ศ. 2016-2017 (พ.ศ. 2559-2560), Transformers: Power of the Primes ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) รวมถึง โฆษณา, เกม เช่น Fallout, Halo และอีกมากมาย

แต่ถึงกระนั้นชื่อเสียงของ Perlman ก็ยังไม่ได้มีชื่อเสียงมากมายอะไรเท่าไหร่ จนกระทั่งทั้งโลกรู้จักเขา จากเพื่อนที่แสนดีอย่าง Guillermo del Toro ที่ช่วยให้เขาได้รับบทในหนังที่ดัดแปลงมาจากคอมิกส์ทุนสูงในเรื่อง Hellboy ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) ซึ่ง Del Toro ใช้เวลากว่า 4 ปี คุยกับทางค่ายว่าอยากได้ Perlman มาแสดง จนในที่สุดก็สำเร็จ และยังมีภาคต่อออกมาใน Hellboy II: The Golden Army ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551)

ทำให้ Perlman กลายเป็นนักแสดงประจำครัวเรือนแห่งวงการ Hollywood มีผลงานมากมายหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น Missing in America ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Outlander ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), ซีรีส์ Sons of Anarchy ค.ศ. 2008-2013 (พ.ศ. 2551-2556), The Devil's Tomb ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), Season of the Witch ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Drive ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Conan the Barbarian ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Pacific Rim ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), 13 Sins ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Fantastic Beasts and Where to Find Them ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) และผลงานล่าสุดอย่าง Monster Hunter ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ในอนาคตยังมีผลงานของเขาอีกมากมายจริง ๆ 

14 เมษายน

ROBERT CARLYLE

Robert Carlyle เกิดวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1961 (พ.ศ. 2504) ที่ Galsgow, Scotland ประเทศอังกฤษ

เขาถูกเลี้ยงดูโดยพ่อมาตั้งแต่ยังเด็ก เพราะแม่ของเขาทิ้งครอบครัวไปตอนเขาอายุได้เพียง 4 ปี เท่านั้น

เมื่ออายุ 21 ปี หลังจากเขาได้อ่านนิยายของ Arthur Miller เรื่อง The Crucible เขาก็อยากเป็นนักแสดง และไปลงทะเบียนเรียนในคลาสสอนการแสดงที่ Glasgow Arts Centre

ในปี ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) เขาและเพื่อนนักแสดงอีก 4 คนได้เจอบริษัททำหนังแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Raindog และบริษัทนั้นก็ได้มาทำหนังร่วมกับ Danny Boyle เรื่อง Trainspotting ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) นั่นทำให้ตัวเขาได้ร่วมแสดงและสร้างชื่อให้กับตัวเองเป็นที่รู้จักในเวลาต่อมา

หลังจากนั้นเขาก็ได้ไปเล่นหนังเล่นซีรีส์อีกหลายเรื่อง และหลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาเขากับบทบาทพ่อใน 28 Weeks Later ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) ที่ต้องบอกเลยว่าเขาแสดงดีจริง ๆ

ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้รับบทโดดเด่นอะไรมากตลอดอาชีพการแสดง แต่ก็ยังคงแสดงมาอย่างต่อเนื่องและล่าสุดที่กำลังแสดงอยู่ในตอนนี้คือซีรีส์เรื่อง Cobra ค.ศ. 2020-2022 (พ.ศ. 2563-2565)

เจ้าตัวเคยได้เข้าชิงรางวัล Primetime Emmy Awards สาขานักแสดงสมทบที่โดดเด่นจากมินิซีรีส์หรือหนัง (Outstanding Supporting Actor in a Miniseries or a Movie) จากเรื่อง Human Trafficking ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548)

จริง ๆ เฮียแกแสดงดีนะ แต่ไม่มีบทดี ๆ มาสร้างความปังให้สักเท่าไหร่

ADRIEN BRODY

Adrien Nicholas Brody เกิดวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1973 (พ.ศ. 2516)ที่ Woodhaven, Queens, New York ประเทศอเมริกา

เจ้าตัวเริ่มเป็นที่น่าจับตามองตั้งแต่การแสดงใน The Thin Red Line ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) แต่ถึงกระนั้นอาชีพการแสดงของเขาก็ดูจะไม่คืบหน้า จนกระทั่ง Roman Polanski ได้เรียกตัวเขาให้ไปแสดงในหนังเรื่องนึง นั่นก็คือ The Pianist ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)

ซึ่งในเรื่องนั้นตัวของ Brody ได้ระเบิดพลังการแสดงมาได้อย่างสุดยอด ดีแบบดีมากจริง ๆ และส่งผลให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ ที่สำคัญ มันส่งให้เขาคว้าราังวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมเลยทีเดียว คู่ควรแบบไร้ข้อกังขา

หลังจากนั้นเขาก็โลดแล่นอยู่ในวงการ Hollywood เรื่อยมา ได้แสดงหนังอีกหลายเรื่องทั้ง The Village ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), King Kong ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Predators ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), The Experiment ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Midnight in Paris ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), The Grand Budapest Hotel ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), American Heist ค.ศ. 2014 (พ.ศ.2557) และ ซีรีส์ Peaky Blinders ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) ในอนาคตยังคงมีผลงานอีกเพียบที่เขาได้ร่วมแสดงทั้งหนังและซีรีส์ 

15 เมษายน

SETH ROGEN

นักแสดง ตลก และนักเขียน ชายคนนี้คือคนที่เป็นดาวตลก จับไมค์บนเวที stand-up comedy มาตั้งแต่ยังเด็ก

Seth Aaron Rogen เกิดวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) ที่ Vancouver, British Columbia ประเทศแคนาดา

เจ้าตัวได้ออกจากโรงเรียนมัธยมปลายเพราะชื่นชอบในการแสดงตลก และเขาก็มีชื่อเสียงมาจาก stand-up comedy ที่เขาแสดงอยู่ที่ Camp Miriam

จนอายุได้ 16 ปี ในปี ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) เขาก็ได้ไปแข่งประกวด stand-up comedy ที่ Vancouver Amateur Comedy Contest และคว้ารางวัลที่ 2 ไป

ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็มีชื่อเสียง และได้รับบทการแสดงครั้งแรกในซีรีส์เรื่อง Freaks and Geeks ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) และหลังจากนั้นเขาก็ได้แสดงซีรีส์ทางทีวีอีกหลายเรื่อง แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จสักเท่าไหร่

ต่อมาเขาก็ได้ไปเขียนบทให้กับซีรีส์ของอเมริกาอย่าง Da Ali G Show ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ร่วมกับเพื่อนของเขา Evan Goldberg ซึ่งจากเรื่องนั้นทีมเขียนบทก็ได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Emmy ด้วย

ต่อมาเขาได้กลับมารับงานแสดงอีกครั้งในเรื่อง The 40-Year-Old Virgin ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) และเป็นผู้ร่วมอำนวยการสร้างด้วย นั่นก็ทำให้เขามีชื่อเสียงขึ้นมามากขึ้นกว่าเดิมและไปแสดงหนังเรื่องอื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น Knocked Up ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Superbad ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Pineapple Express ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Funny People ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) และ The Green Hornet ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554)

นอกจากการแสดงแล้ว เขายังมีความสามารถในการพากย์เสียงด้วย เขาเคยพากส์เสียงใน Horton Hears a Who! ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Kung Fu Panda ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Monsters vs, Aliens ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), Sausage Party ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), The Lion King ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), The Lion King ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), ซีรีส์ Invincible ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

Rogen เคยได้รับรางวัล Canadian Comedy Person of the Year จากเวที Canadian Comedy Awards ในปี ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) และ ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) ด้วย

แน่นอนว่าเจ้าตัวโลดแล่นในวงการแสดง ได้แสดงหนังตลกอีกมากมายหลายเรื่อง มันอาจจะไม่ปังและยอดเยี่ยมมากมาย แต่มันสร้างเสียงหัวเราะ และทำให้หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาแน่นอน เช่น 50/50 ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), This is the End ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Neighbors ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Steve Jobs ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), The Night Before ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Long Shot ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

EMMA WATSON

Emma Charlotte Duerre Watson เกิดวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2551) ที่ Paris ประเทศฝรั่งเศส แต่ได้ย้ายมาอยู่ที่ Oxfordshire ที่ประเทศอังกฤษเมื่ออายุ 5 ปี

Emma รู้ตัวตั้งแต่อายุ 6 ปีว่าเธออยากเป็นนักแสดง ในปีนั้นเธอจึงได้เข้าเรียนโรงเรียนสอนการแสดง และเข้าเรียนเสริมเพิ่มเติมเกี่ยวกับการร้องเพลง, เต้น และการแสดง

พออายุได้ 10 ปี เธอก็ได้แสดงในฐานะนักแสดงนำของโรงเรียนสอนการแสดงแห่งนั้น

ในปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ได้มีการประกาศคัดตัวนักแสดงเพื่อไปรับบทในหนังที่สร้างมาจากนิยายขายดีของ J.K. Rowling อย่าง Harry Potter and the Sorcerers ได้มีแมวมองคนหนึ่งไปเจอ Emma แสดงอยู่

หลังจากการคัดเลือกถึง 8 ครั้ง ผู้อำนวยการสร้างอย่าง David Heyman ก็ได้บอกว่า Emma ได้รับบท ร่วมกับ Daniel Radcliffe และ Rupert Grint ให้มารับบทแสดงนำในบทบาท Hermione Granger, Harry Potter และ Ron Weasley จนทำให้เป็นการแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวของเธอในวงการแสดงกับ Harry Potter and the Sorcerer's Stone ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544)

หนังเรื่องนั้นทำรายได้วันเปิดตัวทุบสถิติมากมาย กลายเป็นหนังที่ทำรายได้มากที่สุดในปี ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) อีกด้วย แถมยังได้รับคำวิจารณ์ในแง่ดีแบบสุด ๆ โดยเฉพาะกับ 3 นักแสดงนำ และมีหนังสือพิมพ์หัวหนึ่งในอังกฤษบอกว่าการแสดงของ Emma ในเรื่องนี้ คือ "ผลงานชิ้นโบแดง" โดยตัวเธอก็ได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลถึง 5 รางวัล แถมยังคว้ารางวัลนักแสดงนำเด็กผู้หญิงยอดเยี่ยมมาครอบครองจากเวที Feature Film อีกด้วย

แน่นอนว่าหลังจากที่ปล่อยภาคแรกออกฉายไปนั้น มันได้กลายเป็นหนังที่คนทั้งโลกต่างเฝ้ารอคอย และหลงรัก ทำให้ Emma กลายเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่โด่งดังมาก ๆ เธอก็ยังคงรับบท Hermione Granger ต่อไปอีกถึง 10 ปี เลยทีเดียว กับ Harry Potter ในภาคต่อๆ มา ก่อนที่จะจบบทบาทนี้ไว้ใน Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 2 ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2544) และจากการแสดงในแฟรนไชส์นี้ ทำให้เธอคว้ารางวัลและถูกเสนอชื่อเข้าชิงอีกมากมาย

หลังจากนั้นเส้นทางในวงการแสดงของเธอช่างสว่างไสวมากๆ เธอรับเล่นหนังอีกหลายเรื่องหลายบทบาท ทั้ง The Perks of Being a Wallflower ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Noah ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Beauty and the Beast ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) ในเรื่องนี้เธอโคตรสวย สวยมากจริง ๆ ลุคเหมาะกับเจ้าหญิงสุด ๆ และ Little Women ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และเชื่อจริง ๆ ว่าในอนาคตเธอจะมีโอกาสได้แสดงในหนังอีกมากมาย

MAISIE WILLIAMS

Margaret Constance "Maisie" Williams เกิดวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) ที่ Bristol ประเทศอังกฤษ

เธอคือนักแสดงชาวอังกฤษผู้มีชื่อเสียงโด่งดังมาจากบทบาท Arya Stark กับซีรีส์มหาศึกชิงบัลลังก์ หรือ Game of Thrones ค.ศ. 2011-2019 (พ.ศ. 2554-2562) ที่ส่งให้เธอได้เข้าชิงรางวัล Emmy Awards สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมถึง 2 ครั้ง ถึงแม้จะได้แค่เข้าชิง แต่เธอก็สามารถคว้ารางวัลมาได้อีกหลายเวทีเลยทีเดียว

เธอยังได้ไปปรากฏตัวในหลายตอนของซีรีส์ Doctor Who ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) อีกด้วย

นอกเหนือจากบทบาทในซีรีส์แล้ว เธอยังทำได้ดีในหนังอีกต่างหาก และเธอได้รับบทในหนังเรื่อง The Falling ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) ที่ส่งให้เธอคว้ารางวัล London Film Critics' Circle Award สาขานักแสดงเด็กยอดเยี่ยมแห่งปีด้วย

และก็ได้แสดงหนังต่อมาอีกหลายเรื่อง แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นหรือดังเท่ากับบท Arya เช่น Then Came You ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) ที่เธอสลัดลุค Arya ทิ้งแบบจำไม่ได้ เพราะเธอเล่นได้สดใส น่ารักมาก เต็มไปด้วยเสน่ห์ หนังน่ารักมาก ยิ้มได้ และอบอุ่นหัวใจ เล่าประเด็นดราม่าของคนเป็นมะเร็งใกล้ตายได้อบอุ่นและงดงามแบบสุด ๆ

หลังจากนั้นก็มีผลงานของเธอออกมาอยู่บ้าง ทั้ง The New Mutants ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563), ซีรีส์ Two Weeks to Live ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และ The Owners ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

เชื่อว่าหลายต่อหลายคนรวมถึงตัวเราก็ยังคงรอติดตามผลงานของเธออยู่อย่างแน่นอน

16 เมษายน

CHARLES CHAPLIN

Charles Spencer Chaplin เกิดวันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 1889 (พ.ศ. 2432) ที่ Walworth, London ประเทศอังกฤษ

เขาคือดาวดวงเด่นแห่งวงการ Hollywood มาอย่างยาวนาน และถึงแม้จะจากไปแล้วดวงดาวของเขาก็ยังคงส่องแสงให้คนรุ่นหลังอยู่เสมอ

Chaplin มีชีวิตที่น่าสนใจทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง เขาไม่ได้โดดเด่นแค่การแสดง แต่เขาเป็นทั้งคนเขียนบท อำนวยการสร้าง นักประพันธ์เพลง นักร้อง และผู้กำกับด้วย แต่โลกจดจำเขาจากในยุคหนังตลกใบ้ขาวดำ และตัวละครที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีคือ Little Tramp ชายผู้มีหนวด, สวมหมวกใบเล็ก มีไม้เท้า และท่าเดินตลก ๆ

พ่อแม่ของเขาแยกทางกันตั้งแต่เด็กๆ เขาต้องอาศัยอยู่กับแม่ โดยแม่ของเขาเป็นนักร้องมาตั้งแต่สมัยอยู่กับพ่อ แต่ไม่นานแม่ของเขาก็ไม่สามารถร้องเพลงได้ดีเหมือนเดิม เพราะเป็นโรคหลอดลมอักเสบทำให้ต้องหยุดการแสดงทันที คนดูต่างโห่ร้อง และเมื่อเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นแบบนี้ ผู้จัดการเวทีก็ได้เจอ Chaplin จึงพาออกไปหน้าเวทีแล้วให้ร้องเพลงแทนแม่ของเขา ผลคือการแสดงครั้งนั้นยอดเยี่ยมมาก ผู้คนต่างชื่นชมชื่นชอบ นั่นคือการแสดงครั้งแรกเต็มตัวของเขาแต่น่าเศร้าที่นั่นคือครั้งสุดท้ายของผู้เป็นแม่

เมื่อผู้เป็นแม่ไม่สามารถหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวได้ ทำให้ Chaplin ต้องออกเดินสายทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว และน่าเศร้าหนักขึ้นไปอีก เมื่อแม่ของเขาเริ่มเสียสติ และเข้าโรงพยาบาลในที่สุด ทำให้ตัวเขาต้องเข้าออกสถานสงเคราะห์อยู่บ่อย ๆ

เขาเริ่มต้นการแสดงตั้งแต่อายุเพียง 8 กับคณะทัวร์ the Eight Lancashire Lads และเมื่ออายุ 18 ปี เขาก็ได้เข้าร่วมทัวร์กับคณะของ Fred Karno และตะลอนไปทั่วอเมริกา

จนกระทั่งเขาได้มาเซ็นสัญญากับผู้กำกับ Mack Sennett กับบริษัท Keystone Studios ชายคนนี้คือผู้ที่เห็นการแสดงอันยอดเยี่ยมของ Chaplin บนเวทีที่ New York ทำให้เจ้าตัวขอให้พี่ชายของเขามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้หน่อย และในขณะนั้นเขาก็ปรากฏตัวและกำกับหนังไปถึง 35 เรื่องเลยทีเดียว โดยเฉพาะบทบาทที่หลายคนคุ้นเคยใน Little Tramp

หลังจากเขาออกจาก Keystone เขาก็ได้เซ็นสัญญากับค่ายอื่น และทำหนังอีกมากมาย จนกระทั่งเขาตั้งบริษัทตัวเอง Chaplin Studios

แต่ถึงกระนั้นชีวิตของเขาก็เต็มไปด้วยปัญหา เรื่องแรกเกี่ยวกับสิทธิพลเมืองในอเมริกา ตามมาด้วยหนังที่มีเสียงเรื่องแรกของเจ้าตัวในปี ค.ศ. 1940 (พ.ศ. 2483) เรื่อง The Great Dictator ที่เขารับบทเป็น Adolf Hitler ซึ่งโดนวิจารณ์หนักไม่ใช่เล่น บางคนบอกว่าหนังเรื่องนี้ไม่ดีและมีรสนิยมที่แย่มาก ๆ แต่อย่างไรก็ตามหนังเรื่องนี้ก็ทำรายได้ไปไม่น้อยและถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์อีก 5 สาขาต่างหาก

ชีวิตเรื่องความรักของเขาก็มีปัญหาไม่ใช่เล่น เมื่อแฟนสาวที่เขาเคยคบแล้วเลิกไปแล้ว กลับมาและบอกว่าเธอท้อง โดยอ้างว่าเด็กในท้องคือลูกของ Chaplin ทำให้ช่วงเวลานั้นเกิดปัญหาปวดหัวมากมายและต้องตรวจเลือดกัน แต่ก็พิสูจน์ได้ว่า Chaplin ไม่ใช่พ่อของเด็ก แต่ในช่วงเวลานั้นการตรวจเลือดยังไม่ได้ผลดีเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม Chaplin ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูเด็กคนนี้ทุกอาทิตย์จนเด็กคนนี้อายุครบ 21 ปี

Chaplin ยังให้การสนับสนุนรัสเซียเต็มที่ในการต่อสู้กับพวกนาซี ทำให้เจ้าตัวเดือดร้อน เพราะเขาแสดงออกอย่างชัดเจนมากจนทำให้ทางรัฐบาลอเมริกาได้สอบสวนมุมมองทางศีลธรรมและการเมืองของเขาว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกับคอมมิวนิสต์ จนโดนเรียกตัว และมันหนักถึงขั้นไม่ให้เข้าประเทศอเมริกา จริง ๆ มันไม่มีหลักฐานเอาผิดเขาเลยแม้แต่น้อย ทำให้เขาต้องย้ายบ้านไปอยู่ที่ประเทศ Switzerland

ตัวเขาเองค่อนข้างต่างจากตัวละครที่เขาแสดงอย่างมาก เพราะตัวจริงเขาเป็นคนเงียบ ๆ และมีวิธีชีวิตที่ติดดินสุด ๆ ถึงแม้เขาจะร่ำรวยมีเงินเป็นล้าน แต่เขาก็อาศัยอยู่ในที่พักโทรม ๆ

ในปี ค.ศ. 1921 (พ.ศ. 2464) Chaplin ได้ถูกชื่นชมโดนรัฐบาลฝรั่งเศสสำหรับผลงานที่โดดเด่นของเขาในฐานะผู้อำนวยการสร้างและได้รับการยกย่องให้เป็น Legion of Honor ในปี ค.ศ. 1952 (พ.ศ. 2495)

ในปี ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515) เขาได้รับรางวัลเกียรติยศจาก Academy Award หรือออสการ์สำหรับการที่เขาทำให้หนังกลายเป็นศิลปะแห่งศตวรรษ

ในปี ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) เขาได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จากอังกฤษ แต่ไม่ได้มีการบอกอย่างเป็นทางการว่าเขาได้รับเพราะอะไร มันถูกระบุไว้เพียงแต่ว่า "Charles Spencer Chaplin นักแสดงและผู้อำนวยการสร้าง" เท่านั้น

Chaplin เสียชีวิตด้วยวัย 88 ปีด้วยสาเหตุทางธรรมชาติในวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 1977 (พ.ศ. 2520) ในบ้านของเขาที่ Vevey ประเทศ Switzerland งานศพของเขาถูกจัดอย่างเล็กๆ และเฉพาะคนรู้จักเท่านั้น

ในปี ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521) ศพของเขาถูกขโมยไปและหายไปถึง 3 เดือนเลยทีเดียวกว่าจะกลับมาอีกครั้ง คราวนี้ทำให้ทางครอบครัวได้สร้างซีเมนต์ล้อมรอบไว้อย่างแน่นหนา

หนัง 6 เรื่องของเขาได้รับเลือกจากหอสมุดรัฐสภาอเมริกาให้เก็บรักษาไว้เป็นสมบัติแห่งชาติ ได้แก่

- The Immigrant ค.ศ. 1917 (พ.ศ. 2460)

- The Kid ค.ศ. 1921 (พ.ศ. 2464)

- The Gold Rush ค.ศ. 1925 (พ.ศ. 2468)

- City Light ค.ศ. 1931 (พ.ศ. 2474)

- Modern Times ค.ศ. 1936 (พ.ศ. 2479)

- The Great Dictator ค.ศ. 1940 (พ.ศ. 2483)

Charles Chaplin คือหนึ่งในนักทำหนังที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน หนังส่วนมากของเขาและชื่อของเขายังคงเป็นที่รู้จักกับคนทั้งโลก และยังถูกหยิบมาพูดถึงอย่างต่อเนื่อง

ในเรื่อง Little Tramp การแสดงหนังของเขาในเชิงบวกสะท้อนให้เห็นว่าถึงแม้โลกจะเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายเพียงใด จิตวิญญาณความเป็นมนุษย์ยังคงมีอยู่ และมันจะไม่เปลี่ยนแปลง

CHARLES CHAPLIN ดาวที่โลกไม่เคยลืม

MARTIN LAWRENCE

Martin Fitzgerald Lawrence เกิดวันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 1965 (พ.ศ. 2508) ที่ Frankfurt am Main, Hesse ประเทศเยอรมัน ปัจจุบันอายุ 55 ปี

เมื่ออายุได้ 7 ปี ครอบครัวของเขาได้ย้ายมาอยู่ที่อเมริกา และในปี ค.ศ. 1973 (พ.ศ. 2516) พ่อแม่ของเขาก็หย่ากัน

ในช่วงชีวิตวัยรุ่น Lawrence มีความสนใจในเรื่องการชกมวย และเขาก็ทำมันอย่างจริงจัง จนทำให้เขาเคยคว้ารางวัลถุงมือทองคำด้วย

เขาเริ่มต้นด้วยการเป็นเดี่ยวไมโครโฟน บนเวทีชื่อดังอย่าง The Improv และหลังจากนั้นไม่น่าเขาก็ได้ไปเข้าร่วมแข่งหาดาราหน้าใหม่ในรายการ Star Search แต่ก็ไม่สามารถคว้ารางวัลมาได้ เขาทำได้เพียงแต่เข้าถึงรอบชิงเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามผู้บริหารของ Columbia Pictures Television ได้มองเห็นความสามารถในตัวของ Lawrence และเสนอบทให้เขามาแสดง และนั่นคือจุดเริ่มต้นอาชีพการแสดงของเขาในซีรีส์เรื่อง What's Happening Now!! ค.ศ. 1987-1988 (พ.ศ. 2530-2531)

หลังจากนั้นเขาก็ได้รับบท Cee ในหนังเรื่อง Do the Right Thing ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) และทำให้เจ้าตัวเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาบ้าง ส่งให้เขาได้รับบทตามมาอย่าง House Party ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533), Talkin' Dirty After Dark ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534), Boomerang ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535)

และในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเขาได้คัดเลือกให้เป็นพิธีกรในรายการซีรีส์ Def Comedy Jam บนช่อง HBO ซึ่งเป็นรายการที่สร้างชื่อให้กับดาวตลกมาแล้วมากมาย

หลังจากประสบความสำเร็จไปไม่น้อยจากซีรีส์ Def Comedy Jam เขาก็ไปมีซีรีส์เป็นของตัวเองกับเรื่อง Martin ทางช่อง Fox ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงปี 1992-1997

ในระหว่างนั้นเขาได้แจ้งเกิดและทำให้เป็นที่รู้จักทั่วโลกกับบทบาทตำรวจ Marcus Burnett ในหนังตำรวจคู่หูร่วมแสดงกับ Will Smith เรื่อง Bad Boys ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) ที่ประสบความสำเร็จแบบสุด ๆ ทำให้มีภาคต่อออกมาใน Bad Boys II ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546)

หลังจาก Bad Boys เจ้าตัวก็ได้รับบทในหนังอีกหลายเรื่อง โดยจะเป็นหนังตลกเสียส่วนมาก แต่แน่นอนว่าใครหลายคนก็ยังคงชื่นชอบและติดภาพเขาในบทบาท Marcus Burnett อยู่ดี จนเกิดเป็น Bad Boys for Life ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) เท่านั้นยังไม่พอ เพราะได้มีการประกาศสร้างภาค 4 ออกมาเรียบร้อยแล้วและเจ้าตัวก็ยังคงรับบทเดิมอีกด้วย

ในปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) เขาคว้ารางวัล BET Icon Comedy Award มาครอบครองด้วย

ANYA TAYLOR-JOY

Anya Josephine Marie Taylor-Joy เกิดวันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) ที่ Miami, Florida, ประเทศอเมริกา แต่เธอเติบโตในประเทศอาเจนติน่า จนกระทั่งเธออายุได้ 6 ปี จึงย้ายมาอยู่ที่ London ประเทศอังกฤษ

เธอมีความใฝ่ฝันอันแน่วแน่และแรงกล้ามาตั้งแต่เด็ก ๆ ว่าอย่างเป็นนักแสดง และด้วยใบหน้าที่สวยสดงดงามและน่ารักของเธอ ความใฝ่ฝันนั้นมาเร็วกว่าที่คิด เพราะมีคนเสนองานมาให้เธอ และนั่นคือการเป็นนางแบบ

และเมื่อเธออายุได้ 14 ปี เธอใช้เงินเก็บทั้งหมดของเธอย้ายไปที่ New York และพออายุได้ 16 ปี เธอก็ออกจากโรงเรียน เพื่อไปไล่ตามความฝันการเป็นนักแสดงของเธอ

จนเธอได้รับงานแสดงครั้งแรก เธอไปปรากฏตัวในเรื่อง Vampire Academy ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) และได้รับเครดิตในการแสดงครั้งแรกจากซีรีส์เรื่อง Endeavour ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) ปรากฏมาเพียงตอนเดียวเท่านั้น

แต่แล้วการแสดงอันยอดเยี่ยมของเธอก็ประจักษ์ ในบทบาท Thomasin จากเรื่อง The VVitch ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) เธอได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่ดีอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะตอนที่ไปเข้าฉายที่เทศกาลหนัง Sundance นั่นคือครั้งแรกที่โลกต่างตะลึงในความสามารถทางการแสดงและความงดงามของเธอ ทำให้เธอได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงและคว้ารางวัลมากมายจากหลายเวที

หลังจากนั้น ประตูสู่การแสดงของเธอก็เปิดกว้างขึ้น เธอได้รับบทในหนังอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Morgan ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Split ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) ภาคต่อหนังฮีโร่สุดเข้มข้นของ M. Night Shyamalan และกลับมารับบทเดิมอีกครั้งกับภาคต่อในปี ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) กับ Glass

เธอได้ร่วมแสดงในซีรีส์สุดเท่ชื่อดังอย่าง Peaky Blinder ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ในบท Gina Gray ตามมาด้วยผลงานอย่าง Emma. ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563), Here Are the Young Men ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563), The New Mutants ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

และบทบาทล่าสุดที่มากไปด้วยเสน่ห์กับบทบาท Beth Harmon นักหมากรุกหญิงฝีมือฉกาจกับซีรีส์ทาง Netflix เรื่อง The Queen's Gambit ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ซึ่งบทบาทนี้ส่งให้เธอคว้ารางวัลลูกโลกทองคำมา 1 สาขาจากการเข้าชิงทั้งหมด 2 สาขา

ไม่ว่าจะกี่บทบาทก็สามารถสร้างการจดจำและมอบเสน่ห์อันล้นเหลือให้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลงานหลังอย่าง Last Night in Soho ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

Anya Taylor-Joy นักแสดงหญิงที่มากไปด้วยเสน่ห์ และการแสดงที่ไม่ธรรมดา หลายต่อหลายคนต่างจับตามองและรอชื่นชมผลงานของเธอ

18 เมษายน

VANESSA KIRBY

Vanessa Kirby เกิดวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ที่ London ประเทศอังกฤษ

จุดเริ่มต้นในการแสดงของเธอมาจากการแสดงละครเวทีในช่วงปี ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) จนสามารถคว้ารางวัล BIZA นักแสดงดาวรุ่งได้อีกด้วย แถมยังเคยถูกขนานนามว่า "Significant new talent" และได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์อย่าง Paul Taylor ของ The Independent ว่าเธอคือ "a star if ever I saw one"

Kirby ได้แสดงหนังครั้งแรกในปี ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) กับเรื่อง Love/Loss และนั่นเปรียบเสมือนใบเบิกทางที่ทำให้เธอได้รับงานแสดงต่อเนื่องในซีรีส์ The Hour ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) และซีรีส์ Great Expectations ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554)

ต่อมา Kirby ก็ได้แสดงนำครั้งแรกในบท Alice Tanner ในซีรีส์ Labyrinth ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)

หลังจากนั้นก็มีผลงานของเธอมาอย่างต่อเนื่องทั้งหนังและซีรีส์ ไม่ว่าจะเป็น The Necessary Death of Charlie Countryman ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), ซีรีส์ Poirot ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), About Time ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Queen & Country ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Jupiter Ascending ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Bone in the Throat ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Everest ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), ซีรีส์ The Frankenstein Chronicles ค.ศ. 2015-2017 (พ.ศ. 2558-2560), Genius ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Kill Command ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Me Before You ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Julie ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Mr. Jones ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และผลงานล่าสุด The World to Come ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

เธอมีโอกาสได้แสดงในแฟรนไชส์สายลับชื่อดัง กับ Mission: Impossible - Fallout ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) และในอนาคตเธอยังคงได้แสดงใน M:I 7 ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) และ M:I 8 ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566) อีกด้วย

เธอเคยได้เข้าชิงรางวัล Primetime Emmy Awards ในปี ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) จากบทบาท Princess Margaret ในซีรีส์ The Crown ค.ศ. 2016-2017 (พ.ศ. 2559-2560)

และเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำจากบทบาทใน Pieces of a Woman ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) แถมยังเข้าชิงรางวัลออสการ์จากบทบาทนี้ด้วย คงต้องมารอดูกันว่าเธอจะสามารถคว้ารางวัลออสการ์ในครั้งแรกที่เธอเข้าชิงได้หรือไม่

ในอนาคตยังมีผลงานของเธอให้เราได้เห็นกันอีกแน่นอนนอกจาก M:I 7 และ 8 

19 เมษายน

KATE HUDSON

Kate Garry Hudson เกิดวันที่ 19 เมษายน ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) ที่ Los Angeles, California ประเทศอเมริกา

Hudson เป็นลูกของ Goldie Hawn และ Bill Hudson ตลก, นักแสดงและนักร้องระดับตำนาน แต่เธอเติบโตขึ้นและถูกเลี้ยงดูโดยผู้เป็นแม่กับแฟนของแม่อย่าง Kurt Russell ทำให้เธอเป็นน้องสาวของนักแสดงอย่าง Oliver Hudson และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ Wyatt Russell รวมถึงเป็นหลานของ Rut Hawn ด้วย

Hudson คือผู้มีพรสวรรค์ทางการแสดงมาตั้งแต่เกิด ตั้งแต่เด็กเธอทั้งเต้นทั้งร้องในทุกครั้งที่มีโอกาส ซึ่งครอบครัวของเธอหวังว่าเธอจะได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย New York University หลังจากเรียนจบมัธยมปลาย แต่เธอเลือกที่จะก้าวเข้าสู่แวดวงการแสดงด้วยการตามหาความฝันการเป็นนักแสดงอาชีพ

Hudson ได้มีโอกาสแสดงครั้งแรกในซีรีส์ Party of Five ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) และ Ez Streets ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539)

จนกระทั่งเธอได้มาเป็นนักแสดงอาชีพ แสดงหนังเรื่องแรกในชีวิต กับบทบาท Skye Davidson ในเรื่อง Desert Blue ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) และจากเรื่องนี้ก็ส่งให้เธอมีโอกาสทางการแสดงมากขึ้นมันจึงตามมาด้วยผลงานอย่าง 200 Cigarettes ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) และ Gossip ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543)

แต่บทบาทที่ถือว่าแจ้งเกิดให้กับเธอคือบทบาทในเรื่อง Almost Famous ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ที่ส่งให้เธอคว้ารางวัลลูกโลกทองคำจากการเข้าชิงครั้งแรก และได้เข้าชิงรางวัลออสการ์อีกด้วย

หลังจากนั้นเราก็ได้เห็นผลงานของเธอมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Ricochet River ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), The Four Feathers ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), How to Lose a Guy in 10 Days ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Raising Helen ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), The Skeleton Key ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), You, Me and Dupree ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Fool's Gold ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), My Best Friends's Girl ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Bride Wars ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), The Killer Inside Me ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), A Little Bit of Heaven ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), ซีรีส์ Glee ค.ศ. 2012-2013 (พ.ศ. 2555-2556), Wish I Was Here ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Deepwater Horizon ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), ซีรีส์ Truth Be Told ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) และล่าสุดกับผลงานอย่าง Music ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) ที่ส่งให้เธอเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำเป็นครั้งที่ 2

HAYDEN CHRISTENSEN

Hayden Christensen เกิดวันที่ 19 เมษายน ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524) ที่ Vancouver, British Columbia ประเทศแคนาดา

Christensen ได้โอกาสการก้าวมาเป็นนักแสดงเมื่อเขาอายุเพียง 8 ปี เพราะในตอนนั้นเขาได้มีโอกาสเล่นโฆษณาให้กับ Pringles

ไม่นานก็มีโอกาสทางการแสดงทั้งหนังและซีรีส์เข้ามามากมาย Christensen ได้แสดงหนังครั้งแรกกับบทเล็ก ๆ ในเรื่อง in the Mouth of Madness ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) และอีกมากมายหลายเรื่อง

บทบาทแจ้งเกิดของ Christensen คือการได้แสดงซีรีส์ทาง Fox Family Network เรื่อง Higher Ground ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ตามมาด้วยผลงานอย่าง The Virgin Suicides ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) และ Trapped in a Purple Haze ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) 

Christensen เคยได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 1 ครั้งจากบทบาทสมทบในเรื่อง Life as a House ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544)

ในวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ได้มีการประกาศว่า Christensen จะมารับบท Anakin Skywalker ในภาคที่ 2-3 ของไตรภาคย้อนต้นแฟรนไชส์ Star Wars กับ Star Wars: Episode II - Attack of the Clones ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) และ Star Wars: Episode III - Revenge of the Sith ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2546) ซึ่งการได้มารับบทในครั้งนี้ได้รับเลือกจาก George Lucas เองเลย เพราะเขาเห็นว่า Christensen มีความสามารถและมีเคมีที่เข้ากันกับ Natalie Portman และการเลือกนักแสดงในครั้งนี้นับว่าช็อคคนทั้งโลกเหมือนกัน ที่ Lucas เลือกที่จะเอานักแสดงโนเนมและปฏิเสธดาราดังอย่าง Leonardo DiCaprio หรือ Jonathan Jackson รวมถึงผู้ร่วมเข้าแคสอีกกว่า 400 ชีวิต และบทบาทนี้ก็ทำให้ Christensen กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งโลก

แต่น่าเสียดายเหลือเกินที่เหมือนกับว่าชื่อของเขาจะเปรี้ยงปร้างแค่จากบทบาท Anakin เท่านั้น เพราะหลังจากนั้นชื่อเขาก็แทบจะเลือนหายไปตามกาลเวลาไม่มีบทไหนเปรี้ยงปร้างเท่าใน Star Wars อีกแล้ว ถึงแม้จะยังมีผลงานของเขาให้เราเห็นอยู่อย่างต่อเนื่องก็ตาม ทั้งใน Awake ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Jumper ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), New York, I Love You ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Takers ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Vanishing on 7th Street ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), American Heist ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), 90 Minutes in Heaven ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), มาให้เสียงตัวละครของตนเองใน Star Wars: Episode IX - The Rise of Skywalker ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และผลงานล่าสุดพากย์เสียง Anakin Skywalker ในอนิเมชันซีรีส์ Star Wars: The Clone Wars ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

ในอนาคตเราจะได้เห็น Christensen กลับมารับบท Darth Vader ในซีรีส์ Obi-Wan Kenobi ที่จะเข้าฉายทาง Disney+ และเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เห็นผลงานอื่น ๆ ของเขาอีกในอนาคต

21 เมษายน

JAMES MCAVOY

James McAvoy เกิดวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) ที่ Glasgow ประเทศ Scotland

McAvoy ได้ถูกเลี้ยงดูโดยปู่และย่า เพราะพ่อแม่ของเขาหย่ากันเมื่อเขาอายุได้ 11 ปี

เขาได้เข้าเรียนที่โรงเรียนคาทอลิก ซึ่งที่นั่นเขาก็เรียนได้ดี และได้เริ่มเล่นดนตรีกับเพื่อน ๆ จนกระทั่งอายุได้ 16 ปี เขาได้ไปเยี่ยมชมโรงเรียนแห่งหนึ่งจนได้เจอกับนักแสดงอย่าง David Hayman ทำให้นั่นเป็นการจุดประกายความสนใจในการแสดงของเขา

Hayman ได้เสนอบทบาทแรกในชีวิตให้กับเขา ในหนังเรื่อง The Near Room ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) แต่ McAvoy ก็ยังไม่มีความคิดที่อยากทำอาชีพเป็นนักแสดงอย่างจริงจัง ถึงจะอย่างนั้นเจ้าตัวก็ได้เป็นสมาชิกร่วมแสดงกับโรงละครแห่งหนึ่ง

เมื่อโตขึ้นเขาได้สมัครไปที่โรงเรียนราชนาวี แต่เจ้าตัวก็ได้รับข้อเสนอจากโรงเรียนสอนศิลปะการแสดง Royal Scottish Academy และเขาเลือกอย่างหลัง จนเรียนจบในปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543)

เขาได้ย้ายไปอยู่ London และเริ่มอาชีพการแสดงบ้าง เขาได้ไปปรากฏตัวในทีวี, ละคร, ซีรีส์ และหนังบางเรื่อง จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) เขาเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาในประเทศอังกฤษกับการรับบทนักขโมยรถ Steve McBride ในซีรีส์ Shameless ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547)

และเพียง 1 ปีให้หลัง ทั้งโลกก็รู้จักเขาในบทบาท Mr Tumnus ในหนังของ Disney เรื่อง The Chronicles of Narnia: The Lion, the Witch and the Wardrobe ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548)

หลังจากนั้นเขาก็ได้รับบทบาทมากขึ้นเช่นใน The Last King of Scotland ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Atonement ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) ซึ่งในเรื่องหลัง เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากหนังประเภทดราม่าด้วย

หลังจากนั้นเขาก็ได้ไปแสดงละครเวทีในอีกหลายบทบาท ณ ตอนนั้นเขาได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Olivier award สาขานักแสดงนำยอดเยี่ยมด้วย รวมถึงได้รับรางวัล London Evening Standard Theatre Awards สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

ในเส้นทางวงการหนัง เขาได้ไปปรากฏตัวในหนังเรื่อง Filth ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) ซึ่งจากเรื่องนั้นเขาก็ได้รับรางวัล Scottish BAFTA สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม รวมถึง British Independent Film Award, London Critics Circle Film Award และ Empire Award ในสาขาเดียวกัน

และแสดงมาอีกหลายบทบาท ไม่ว่าจะเป็น Wanted ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Arthur Christmas ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Victor Frankenstein ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Atomic Blonde ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Sherlock Gnomes ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561)

อีกหนึ่งบทบาทที่หลายคนรู้จักจากชายคนนี้คือบทบาทศาสตราจารย์ Charles Xavier ในแฟรนไชส์ X-Men กับ X-Men: First Class ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), X-Men: Days of Future Past ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), X-Men: Apocalypse ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), X-Men: Dark Phoenix ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

บทบาท Kevin Wendell Crumb คือหนึ่งบทบาทอันน่าประทับใจกับชายผู้มีหลายบุคลิก ในหนังภาคต่อของ M. Night Shayamalan เรื่อง Split ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) และภาคต่อ Glass ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

ผลงานการแสดงล่าสุดของเขาคือเรื่อง It Chapter Two ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) กับบทบาท Bill Denbrough และในซีรีส์ His Dark Materials ค.ศ. 2019-2020 (พ.ศ. 2562-2563)

และเมือไม่นานมานี้เขาก็ทำหน้าที่ผู้บรรยายในรายการ The Bridge ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

ช่วงนี้เราไม่ค่อยเห็นหน้าของนักแสดงรายนี้สักเท่าไหร่ แต่ในอนาคตยังมีผลงานของเขาให้เราดูกันอีกกับเรื่อง My Son ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

เชื่อว่านักแสดงผู้มีความสามารถขนาดนี้ และเจ้าตัวก็ได้พิสูจน์มาแล้วหลายเรื่อง ย่อมต้องมีผลงานมาให้เราชมมากกว่านี้อีกแน่นอน

22 เมษายน

JACK NICHOLSON

John Joseph Nicholson เกิดวันที่ 22 เมษายน ค.ศ. 1937 (พ.ศ. 2480) ที่ Neptune, New Jersey ประเทศอเมริกา

เขาเติบโตขึ้นมาโดยเชื่อว่าคนที่เลี้ยงดูเขามาตลอดอย่างคนที่เป็นย่าคือแม่และคิดว่าแม่จริง ๆ คือพี่สาว จนเจ้าตัวเพิ่งมารู้ความจริงในปี ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) เมื่อนิตยสาร Time ได้ขุดคุ้ยประวัติเขาเพื่อทำเป็นชีวประวัติลงในนิตยสาร

Jack ได้แสดงครั้งแรกในหนังเกรดบีเรื่อง The Cry Baby Killer ค.ศ. 1958 (พ.ศ. 2501) ตามมาด้วยการปรากฏตัวใน spot ทางทีวีซีรีส์ และในหนังของ Roger Corman เช่น The Little Shop of Horrors ค.ศ. 1960 (พ.ศ. 2503)

เขาไม่ได้มีความสามารถในการแสดงเพียงเท่านั้น เพราะ Jack ยังมีความสามารถในการกำกับหนังด้วย เขานั่งแท่นกำกับหนังเรื่องแรกกับเรื่อง Drive, He Said ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) หลังจากนั้นเขาก็เขียนบทให้กับเรื่อง The Trip ค.ศ. 1967 (พ.ศ. 2510), ร่วมเขียนบทใน Head ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2511)

แต่ Jack แจ้งเกิดจริง ๆ กับการแสดงในเรื่อง Easy Rider ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) ที่การแสดงของเขาทำให้เขาได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งแรก

การแสดงของเขาเริ่มประจักษ์มากขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1970s (พ.ศ. 2513-2522) กับการแสดงอันยอดเยี่ยมใน Five Easy Pieces ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513), Chinatown ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517), One Flew Over the Cuckoo's Nest ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) และเรื่องนี้ทำให้เจ้าตัวคว้ารางวัลออสการ์แรกในฐานะนักแสดงได้สำเร็จ

บทบาทอันน่าจดจำและทำให้หลายคนรู้จักเขาคือการแสดงอันยอดเยี่ยมในบทบาท Jack Torrance ในหนังดัดแปลงจากนิยายของ Stephen King ฝีมือการกำกับของ Stanley Kubrick เรื่อง The Shining ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523)

ทำให้เขาได้แสดงในอีกมากมายหลายเรื่อง เช่น Terms of Endearment ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) ที่ส่งให้เขาคว้าออสการ์เป็นครั้งที่สอง

ในปี ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) เขามารับบทตัวละครสำคัญวายร้ายหลักของ Batman อย่าง Joker ในหนัง Batman ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) ของ Tim Burton

อาชีพการแสดงของเขารุ่งโรจน์แบบสุดๆ แถมแต่ละเรื่องก็แสดงได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นใน A Few Good Men ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ที่ส่งให้เขาได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์อีกครั้ง ตามมาด้วยบทใน Mars Attacks! ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539)

Jack แสดงหนังมากมายหลายบทบาท หลายเรื่อง เช่น Anger Management ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), The Departed ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), I'm Still Here ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), How Do You Know ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) และนั่นคือเรื่องสุดท้ายที่เราได้เห็นเขาแสดง เพราะหลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้แสดงเรื่องใดอีก

Jack คือหนึ่งในนักแสดงที่ยอดเยี่ยม การแสดงของเขาทุ่มเททุกครั้ง มันส่งให้เขาเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 12 ครั้ง และคว้าไปได้ 3 ครั้ง ส่วนบนเวทีลูกโลกทองคำเข้าชิงถึง 17 ครั้ง และคว้าไปได้ 6 ครั้ง

Jack Nicholson คือหนึ่งใน 2 นักแสดง (อีกคนคือ Michael Caine) ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในทุกๆ ทศวรรษ นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1960s (พ.ศ. 2503-2512) - ค.ศ. 2000s (พ.ศ. 2543-2552)

AMBER HEARD

Amber Laura Heard เกิดวันที่ 22 เมษายน ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) ที่ Austin, Texas ประเทศอเมริกา

เธอเริ่มต้นเข้าสู่วงการแสดงกับบทเล็ก ๆ ในซีรีส์เรื่อง Jack & Bobby ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547)

หลังจากนั้นก็มีผลงานเธอปรากฏอยู่เป็นระยะๆ เช่น Friday Night Lights ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), North Country ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Alpha Dog ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Never Back Down ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), The Joneses ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552)

ในปี ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) เธอได้แสดงใน Zombieland ถึงจะไม่ใช่นักแสดงนำ แต่ก็สร้างชื่อให้กับเธอมากขึ้น ทำให้เธอได้รับบทในวงการแสดงต่อมา The Stepfather 

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) เธอได้แสดงในเรื่อง The Rum Dairy ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) เป็นการแสดงร่วมกับ Johnny Depp ถึงแม้ตัวหนังไม่ประสบความสำเร็จและกระแสวิจารณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่เธอก็ได้คบกับ Johnny Depp และได้ตกลงปลงใจเป็นแฟนกัน

ชีวิตการแสดงของเธอก็ดูเหมือนจะราบรื่น มีผลงานมาประปราย ถึงแม้จะไม่ดังมากขนาดนั้น เช่น Paranoia ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Machete Kills ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), 3 Days to Kill ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)

ส่วนทางด้านชีวิตรักของเธอก็ดูเหมือนจะไปได้ด้วยดี เพราะในปี ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) เธอก็ได้แต่งงานกับ Johnny Depp บนเกาะส่วนตัวสุดหรูของฝ่ายชาย แต่เพียงปีเดียวให้หลังจากการแต่งงาน เธอก็ขอศาลออกหมายไม่ให้ Johnny Depp ใกล้เธอและขอฟ้องหย่าในเวลาต่อมา โดยเธออ้างว่าโดนฝ่ายชายทำร้ายและขู่ฆ่า มีการเอาหลักฐานงัดออกมา เช่นรอยฟกช้ำจากการโดนทำร้ายเป็นต้น

จนกระทั่งปี ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) การฟ้องร้องการหย่าก็เสร็จสมบูรณ์ และดูเหมือนจะจบลงด้วยดี เพราะในปีเดียวกันนั้น เธอได้รับบทเจ้าหญิง Mera แห่งจักรวาล DC ในเรื่อง Justice League แต่โผล่มานิดๆ หน่อยๆ จนมาในปี ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) ก็มาแสดงกับบท Mera อย่างเต็มตัวในเรื่อง Aquaman ทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยม Saturn Award

คนอื่น ๆ ก็เริ่มเกลียดป๋า Depp ไม่รู้ว่าเกี่ยวหรือเปล่า เพราะ Pirate of the Caribbean ที่ตัวป๋าเองเป็นตัวละครสำคัญมาโดยตลอดตัดสินใจรีบูทโดยที่ไม่มีตัวละครสำคัญอย่างป๋าด้วย แถมป๋ายังแพ้คดีฟ้องร้องสื่อ The Sun และส่งผลให้โดนถอดจากบท Grindelwald ใน Fantastic Beasts อีกต่างหาก

ทางฝั่ง Johnny Depp ฟ้องร้องกลับเริ่มออกมางัดหลักฐานกลับมากมาย โดยเฉพาะภาพป๋านิ้วขาด คลิปจากกล้องในลิฟท์ที่อพาร์ทเม้นท์ส่วนตัวของป๋าที่เห็นว่าเธอไปขึ้นลิฟท์กับ James Franco และ Elon Musk จนทำให้กระแสเริ่มตีกลับตัวเธอคนเริ่มเกลียดเธอ และมีการร่วมลงชื่อเพื่อถอดถอนเธอจากบทบาท Mera และล่าสุดได้มีการเปิดเผยกล้องจาก Bodycam ของตำรวจที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุคืนที่ Amber Heard อ้างว่าทะเลาะรุนแรงกับป๋า Depp กระจกแตกกระจายเต็มพื้น แต่ในกล้องกลับไม่มีหลักฐานใดแสดงเลยว่าเกิดเหตุ จึงกลายเป็นเหมือนว่า Heard ให้การเท็จ

จน ณ ตอนนี้คดีความก็ยังคงดำเนินกันต่อไป...

เรื่องของคดีความเราคงตัดสินใจอะไรไม่ได้ ก็ต้องว่ากันไปตามชั้นศาล และถึงแม้มันจะจริงไม่จริงอย่างไร ก็ต้องยอมรับว่าบทบาท Mera ที่เธอแสดงใน Aquaman ก็เหมาะสม และเธอแสดงได้ดีจริง ๆ ซึ่งก็มีการยืนยันแล้วด้วยว่าเธอจะกลับมารับบทนี้ใน Aquaman and the Lost Kingdom ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566)

23 เมษายน

JOHN CENA

John Felix Anthony Cena เกิดวันที่ 23 เมษายน ค.ศ. 1977 (พ.ศ. 2520) ที่ West Newbury, Massachusetts ประเทศอเมริกา

Cena เรียนจบจากมหาวิทยาลัย Springfeld College, Massachusetts สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์และวิภาคศาสตร์มนุษย์ เขาเป็นเด็กที่เรียนเก่งมาก เขายื่นใบสมัครมหาวิทยาลัยไป 60 แห่ง มี 58 แห่งที่ตอบรับเขา และท้ายที่สุดเขาเลือกที่จะเรียนที่ Springfeld College

เมื่อตอนอยู่มหาวิทยาลัย Cena ได้เล่นอเมริกันฟุตบอล หลังจากนั้นเขาก็หันมารักษาร่างกายเพิ่มกล้ามเนื้อเล่นเวทต่าง ๆ ตามมาด้วยการทำงานเป็นคนขับรถลีมูซีน

Cena ได้ก้าวเข้าสู่วงการมวยปล้ำในชื่อ Dr. of Thuganomics ฝึกอยู่ที่ Ultimate Pro Wrestling จนได้สร้างคาแรคเตอร์ตัวเองขึ้นมาในนาม The Prototype

Cena ได้ปรากฏตัวใน WWE ครั้งแรกในวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) ในแมชนั้นเขาได้เผชิญหน้ากับ Kurt Angle และจบแมชด้วยการที่ Cena เป็นฝ่ายแพ้ไป แต่การปล้ำแมชแรกของ Cena ได้สร้างความประทับใจกับคนดูแบบสุด ๆ และหลังจากนั้นเขาก็ได้กลายมาเป็น Superstar ชั้นแนวหน้าของวงการมวยปล้ำ WWE กลายเป็นขวัญใจใครหลายต่อหลายคน

นอกเหนือจากวงการมวยปล้ำ John Cena ก็มีบทบาทในฐานะนักแสดงเช่นกัน โดยจุดเริ่มต้นการแสดงครั้งแรกของเขามาจากแฟรนไชส์หนังของ WWE ในหนังแอ็คชันเรื่อง The Marine ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) ถึงแม้ตัวหนังจะไม่ได้ประสบความสำเร็จมากเท่าที่ควร แต่แฟนคลับของเขาก็เฝ้ารอการมาปรากฏตัวในหนังใหญ่ของเขาอยู่เช่นกัน จนได้มาแสดงใน 12 Rounds ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) ที่อำนวยการสร้างโดย WWE อีกครั้ง

หลังจากนั้น Cena ก็ได้รับโอกาสทางการแสดงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Legendary ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), The Reunion ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Trainwreck ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Daddy's Home ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Sisters ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), The Wall ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Daddy's Home 2 ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Ferdinand ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Blockers ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Bumblebee ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Fighting with my Family ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Playing with Fire ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Rise of the Teenage Mutant Ninja Turtles ค.ศ. 2018-2019 (พ.ศ. 2561-2562), Dolittle ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

ผลงานของเขาเริ่มได้รับบทใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ทั้ง Jakob Toretto น้องของ Dom Toretto ในจักรวาล Fast & Furious เรื่อง F9 ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) และบทบาท Peacemaker ใน The Suicide Squad ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) แถมบทบาทนี้ยังจะมีเป็นซีรีส์เดี่ยวของเจ้าตัวในชื่อ Peacemaker ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) ที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี

Cena เคยได้ทำอัลบั้มด้วย อัลบั้มนั้นมีชื่อว่า You Can't See Me ที่ได้ทำร่วมกับ WWE และเพลง The Time Is Now ในอัลบั้มนั้นก็คือเพลงเปิดตัวของเขาด้วย ซึ่งอัลบั้มนี้เคยติดอันดับ #15 ของ US Billboard 200 chart

Cena ก็มีส่วนร่วมกับวงการแฟชั่นด้วย กับกางเกงยีนทรงหลวม เสื้อ Jerseys ต่าง ๆ ที่เรามักเห็นเขาใส่ก่อนขึ้นปล้ำมวยปล้ำ เขามักจะใส่สินค้ามากมายของแบรนด์ Chain Gang ด้วย

John Cena คือหนึ่งในคนที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นนักมวยปล้ำรุ่นใหม่, วงการแฟชั่น, ดนตรี หรือวงการหนังก็ตาม และจากความสำเร็จมากมาย กับอัธยาศัยที่ดีของเจ้าตัว แฟน ๆ ก็เฝ้ารอติดตามผลงานในอนาคตไม่ว่าจะด้านไหนก็ตาม

25 เมษายน

AL PACINO

Alfredo James "Al" Pacino เกิดวันที่ 25 เมษายน ค.ศ. 1940 (พ.ศ. 2483) ที่ Manhattan, New York City ประเทศอเมริกา

เขาคือนักแสดงผู้สร้างชื่อในช่วงยุค ค.ศ. 1970s (พ.ศ. 2513-2522) และกลายเป็นนักแสดงที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดคนหนึ่งของโลกในวงการภาพยนตร์

พ่อแม่ของเขาหย่ากันตั้งแต่เด็ก ๆ ทำให้ตัวเขาอาศัยอยู่กับแม่และย้ายไปอยู่กับยายที่ South Bronx ในขณะที่อยู่บ้านเขามักจะชอบดูหนังและเลียนแบบเสียงตัวละครต่าง ๆ ที่เขาเห็น

ท่ามกลางความเบื่อหน่ายและไร้แรงขับเคลื่อนต่าง ๆ ตอนที่เขาเรียนหนังสือ เขาได้พบสถานที่แห่งหนึ่งที่เปรียบเหมือนสวรรค์นั่นคือละครเวทีของโรงเรียน เป็นสถานที่ที่ทำให้เขาได้สนุก ปลดปล่อย และทำในสิ่งที่เขาอยากจะทำ ซึ่งความสนใจผสมกับความสามารถในการแสดงของเขาก็เติบโตขึ้นเต็มที่ ทำให้เขาได้รับบทบาทอย่างเต็มตัวในฐานะอาชีพนักแสดง

เขาเริ่มจากการแสดงบทเวที บทบาทตัวประกอบ นักแสดงสมทบ จนในที่สุดเขาก็ได้แสดงเต็มตัวบนเวทีกับผลงานของ Israel Horovitz เรื่อง The Indian Wants the Bronx ทำให้เขาคว้ารางวัล Obie Award ในช่วงปี ค.ศ. 1966-1967 (พ.ศ. 2509-2510) ต่อมาเขาก็ไดรับรางวัล Tony Award จากเรื่อง Does the Tiger Wear a Necktie?

จุดเริ่มต้นการแสดงของเขาได้รับบท John James ในซีรีส์ N.Y.P.D. ที่ไม่ได้ใหญ่อะไรมาก และออกมาแค่ตอนเดียวเท่านั้น ต่อมาเขาก็ได้ไปแสดงบทเล็ก ๆ ในหนังกับ Me, Natalie ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512)

แต่จากการแสดงในครั้งนั้น ทำให้เขาได้รับบทที่แจ้งเกิดให้กับตัวเอง บทบาทชายผู้ติดยาในเรื่อง The Panic in Needle Park ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) ซึ่งเขาก็ทำมันได้อย่างดีเยี่ยมจนสร้างชื่อให้ตัวเองแบบโด่งดังสุดๆ อีกครั้ง กับหนังมาเฟียในบท Michael Corleone เรื่อง The Godfather ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515)

ใน The Godfather มีนักแสดงมากมายต่างอยากได้บทนี้ทั้ง Robert Redford, Warren Beatty, Jack Nicholson, Ryan O'Neal, Robert De Niro แต่ทางด้านผู้กำกับอย่าง Francis Ford Coppola บอกว่าเขาต้องการ Al Pacino มารับบทนี้เท่านั้น และจากการแสดงในเรื่องนั้นทำให้เขาได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากทั้งเวทีลูกโลกทองคำและออสการ์ ทำให้เขารับบทนี้มาในภาคต่อทั้ง 2 ภาคกับ The Godfather: Part II ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517) ได้เข้าชิงลูกโลกทองคำและออสการ์ ส่วน The Godfather: Part III ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) ได้เข้าชิงลูกโลกทองคำ

ต่อมา Al Pacino ก็เล่นหนังอีกหลายเรื่อง และเขาจะเล่นเฉพาะบทนำเท่านั้น ไล่ไปตั้งแต่ Serpico ค.ศ. 1973 (พ.ศ. 2516) ที่ทำให้เขาคว้ารางวัลลูกโลกทองคำและเข้าชิงออสการ์, Dog Day Afternoon ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) ก็ได้เข้าชิงลูกโลกทองคำและออสการ์, Bobby Deerfield ค.ศ. 1977 (พ.ศ. 2520) ก็ยังได้เข้าชิงลูกโลกทองคำและออสการ์, And Justice for All ค.ศ. 1979 (พ.ศ.2522) ก็ยังคงไดเข้าชิงลูกโลกทองคำและออสการ์เช่นเดิม

ในระหว่างนั้นเขาเคยเกือบได้รับบท Han Solo แต่เขาก็ปฏิเสธไป ทำให้บทตกไปเป็นของ Harrison Ford

การแสดงของเขายังคงรุ่งโรจน์และน่าจดใจ ทั้ง Scarface ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) ที่ยังคงส่งให้เขาเข้าชิงลูกโลกทองคำอีกเช่นเคย

แต่ต่อมาเขาได้ไปแสดงในเรื่อง Revolution ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) ที่เหมือนมันจะกลายเป็นคำสาปไปเลย เพราะเขาทั้งป่วย และหายหน้าหายตาจากวงการไปถึง 4 ปีเต็ม หนังได้รับคำวิจารณ์ในด้านลบแบบสุด ๆ อีกด้วย

เขากลับมาด้วยการแสดงในเรื่อง Sea of Love ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) และแน่นอนว่าการแสดงของเขาก็ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีกครั้ง

หลังจากนั้นเจ้าตัวก็กลับมาดังอีกเหมือนเดิม ยังคงวาดฝีไม้ลายมือในการแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะใน Dick Tracy ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533), Glengarry Glen Ross ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), Secret Woman ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), Angels in America ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), You Don't Know Jack ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Phil Spector ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Danny Collins ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) ซึ่งแต่ละเรื่องที่กล่าวไปนั้นทั้งคว้ารางวัลและเข้าชิงลูกโลกทองคำกับออสการ์ทุกเรื่อง!

จนในปี ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) แล้วเขาก็ยังคงแสดงความสามารถทางด้านการแสดงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคยกับอายุเกือบ 80 ปีแล้วแท้ ๆ ในเรื่อง The Irishman และแน่นอนว่า เข้าชิงทั้งลูกโลกทองคำและออสการ์อีกเช่นเคย

ตลอดอาชีพการแสดงของเขาเข้าชิง/คว้ารางวัลลูกโลกทองคำมาอย่างมากมาย

- ลูกโลกทองคำเข้าชิง 17 ครั้ง คว้ามาได้ 4 ครั้ง

- ออสการ์เข้าชิง 8 ครั้ง คว้ามาได้ 1 ครั้ง

หนึ่งในสุดยอดนักแสดงของวงการ Hollywood ผู้มากไปด้วยความสามารถและเสน่ห์ในการแสดงอันเหลือล้น

RENÉE ZELLWEGER

Renée Kathleen Zellweger เกิดวันที่ 25 เมษายน ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) ที่ Katy, Texas ประเทศอเมริกา

Renée มีความสนใจในการแสดงมาตั้งแต่ตอนอยู่มัธยมปลายในขณะที่ทำงานอยู่ที่ชมรมการแสดง

เธอได้เข้าเรียนคลาสสอนการแสดงที่มหาวิทยาลัย Texas ด้วย ซึ่งที่นั่นทำให้เธอได้ตระหนักว่าเธออยากจะมีอาชีพเป็นนักแสดง

หลังจากเรียนจบ เธอไม่รอช้าที่จะเดินตามความฝันของเธอ แต่ Hollywood เป็นสถานที่ที่ยากลำบากเหลือเกินกับการเดินตามฝัน เธอจึงตัดสินใจที่จะอยู่ใน Texas ต่อไป และเดินหน้าไปออดิชั่นตามที่ต่าง ๆ จนทำให้เธอได้รับบทในเรื่อง Reality Bites ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) และ Empire Records ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538)

ในระหว่างอยู่ในกองถ่ายของเรื่อง Texas Chainsaw Massacre: The Next Generation ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) เธอได้รู้จักกับ Matthew McConaughey อีกหนึ่งนักแสดงหน้าใหม่ ณ ตอนนั้น ซึ่งเขากำลังทำโปรเจคอย่างนึงที่ตัว Renée สนใจจะออดิชั่นรับบทด้วย และเธอก็ได้รับมันจริง ๆ ในเรื่อง Love and a .45 ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) ซึ่งจากเรื่องนั้นเธอได้รับคำวิจารณ์ที่ดี ซึ่งนั่นก็เพียงพอที่ทำให้เธอก้าวเข้าสู่นครแ่หงดารา Los Angeles เพื่อตามความฝันของเธอต่อไป

ซึ่งบทบาทหลังจากเปิดตัวอย่างยอดเยี่ยมของเธอในเรื่องนั้นส่งให้เธอได้รับบทใน The Whole Wide World ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) และเธอก็ทำมันได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน หลังจากนั้นในหนังเรื่อง Jerry Maguire ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) ที่แสดงนำโดย Tom Cruies ทางด้านผู้กำกับ Cameron Crowe ก็กำลังหาตัวนักแสดงหญิงเพื่อมารับบทนำด้วย ตอนนั้นมีนักแสดงหญิงชื่อดังมากมายไม่ว่าจะเป็น Cameron Diaz, Bridget Fonda, Winona Ryderm Marisa Tomei แต่พอได้ยินชื่อ Renée ว่าแสดงได้อย่างยอดเยี่ยมใน The Whole Wide World ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) จึงติดต่อให้เธอมาลองออดิชั่นบทดู และแน่นอนเธอก็ได้รับบท Dorothy Boyd ไปครอบครอง

Renée ยังคงเดินหน้าคว้าความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในหนังที่ไม่ได้ดังมาก และก็ได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่ดีแทบจะทั้งนั้น ซึ่งนั่นก็ได้สร้างความมั่นใจให้กับเธอว่าให้ก้าวไปรับหนังทุนสูงดัง ๆ ได้แล้ว

หลังจากนั้นเธอก็ได้รับบทเคียงข้างตัวแม่อย่าง Meryl Streep ในหนังเรื่อง One True Thing ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) ตามมาด้วย Me, Myself & Irene ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) แสดงร่วมกับ Jim Carrey และจากเรื่องนั้นทำให้ทั้งคู่ได้คบหาดูใจกัน (แต่ตอนนี้ทั้งคู่ไม่ได้คบกันแล้ว)

ในปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) เธอยังได้รับบทในเรื่อง Nurse Betty ที่ส่งให้เธอได้คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเวทีลูกโลกทองคำด้วย

ในปี ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) เธอได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกมาก ๆ กับหนังที่สุดยอดประสบความสำเร็จใน Bridget Jones's Diary ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) ทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งแรกด้วย

ต่อมาทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่สองจากเรื่อง Chicago ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)

เธอยังคงสร้างความตื่นตะลึงทุกครั้งทุกการแสดงให้กับผู้ชมทั่วโลก ในบทบาท Ruby Thewes จากเรื่อง Cold Mountain ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) ซึ่งนั่นทำให้เธอได้รับรางวัลออสการ์ครั้งแรกในชีวิตสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม

หลังจากนั้นเธอก็ได้แสดงในหนังอีกมากมายหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Bridget Jones: The Edge of Reason ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Miss Potter ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) ที่ยังคงส่งให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ

และล่าสุดกับสุดยอดการแสดงในบทบาท Judy Garland จากเรื่อง Judy ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ที่หลายต่อหลายคนบอกว่านี่คือการแสดงที่ดีที่สุดในชีวิตของเธอ และผลคือเธอคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากทั้งเวทีออสการ์และลูกโลกทองคำเลยทีเดียว

26 เมษายน

JET LI

Li Lian Jie (Jet Li) เกิดวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1963 (พ.ศ. 2506) ที่กรุงปักกิ่งประเทศจีน

ตั้งแต่อายุเพียง 8 ปี เขาเริ่มเข้าเรียนที่สถาบัน Beijing wushu (เป็นสถาบันกีฬาสอนศิลปะการป้องกันตัว) เขาก็ได้เป็นตัวแทนนักกีฬาวูซูของจีนไปแข่งจนได้รับเหรียญทองถึง 5 ปีซ้อน ในการแข่งขัน Chinese championships โดยเหรียญแรกได้มาเมื่อตอนเขาอายุ 11 ปี ต่อมาเขาเคยเป็นโค้ชด้วย

ในปี 1982 เขาก็ได้ก้าวเข้าสู่อาชีพการแสดง กับการแสดงหนังครั้งแรกเรื่อง Shaolin Temple ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) ณ ตอนนั้นเป็นยุคที่ Kung-Fu รุ่งเรืองมาก ๆ ในจีน

เจ้าตัวได้มีผลงานการกำกับครั้งแรกในหนังเรื่อง Born to Defense ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) และยังแสดงนำด้วยตัวเองอีกต่างหาก

จนกระทั่งต่อมาเขาได้เดินทางไปฮ่องกง และเริ่มแสดงหนังอีกมากมายหลายเรื่อง ทำให้ในช่วงปี ค.ศ. 1990s (พ.ศ. 2533-2542) หนัง แต่บทที่สร้างให้เขาโด่งดังเป็นพลุแตกคือบท Wong Fei Hung จากเรื่อง Once Upon a Time in China ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) นั่นจึงส่งให้เขาได้รับงานแสดงอีกมากมายจนมีชื่อเสียงไปทั่วโลก

เจ้าตัวได้แสดงในหนังกับทาง Hollywood เรื่องแรกในเรื่อง Lethal Weapon 4 ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) จนกระทั่งมาในปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) เขาก็ได้รับบทนำครั้งแรกในเรื่อง Romeo Must Die ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543)

แต่ปัญหาคือหนังเหล่านั้นใช้เวลาถ่ายทำนานมาก ทำให้เขาหันไปแสดงหนังกับทางฝั่งยุโรปบ้าง และก็ประสบความสำเร็จไม่น้อยเลย กับ Kiss of the Dragon ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) และ The One ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544)

ในปี ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) เจ้าตัวก็กลับมาบ้านเกิดแล้วได้แสดงหนังเรื่อง Hero

และหลายปีต่อจากนั้นเจ้าตัวก็ได้ไป ๆ มา ๆ บ้านเกิดกับฝั่ง Hollywood แสดงหนังอีกหลายเรื่องเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็น Cradle 2 the Grave ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Danny the Dog ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Fearless ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Rogue Assassin ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), The Forbidden Kingdom ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) ในเรื่องนี้เจ้าตัวได้แสดงร่วมกับเฉินหลงครั้งแรก, The Mummy: Tomb of the Deagon Emperor ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), The Founding of a Republic ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552)

ในปี ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) เจ้าตัวได้ออกมาประกาศว่าจะรับงานแสดงน้อยลง เพื่อเอาเวลาที่เหลือไปทุ่มเทให้กับการทำมูลนิธิ The One Foundation หลังจากที่ตัวเองรอดตายจากเหตุสึนามิที่ประเทศไทยช่วงปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) เขาตระหนักได้ว่าศิลปะการต่อสู้เป็นสิบๆ ปีของเขาไม่สามารถต่อสู้กับธรรมชาติได้เลย

แต่เขาก็ยังรับการแสดงอยู่เพียงแต่จะทำเป็นงานอดิเรกเท่านั้น ไม่ได้รับแบบจริงจังเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เช่น แฟรนไชส์ The Expendables

มีช่วงนี้เขาได้ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบไทรอยด์ จึงทำให้ห่างหายจากวงการแสดงและสื่อไปสักพักใหญ่ๆ เลย แต่ก็รักษาหายแล้วจนทำให้ล่าสุดเจ้าตัวก็มีบทบาทในหนังใหญ่ของ Disney กับ Mulan ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ฉบับ Live-Action

อีกหนึ่งนักแสดงที่มีทักษะในด้านศิลปะการป้องกันตัวที่ไม่ธรรมดา และคุ้นหน้าคุ้นตาใครอีกหลายคน เขาคือ Jet Li

CHANNING TATUM

Chainning Matthew Tatum เกิดวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523X ที่ Cullman, Albabama ประเทศอเมริกา

Tatum เป็นเด็กที่เต็มไปด้วยพลังงานและค่อนข้างจะเป็นเด็กที่มีปัญหา พ่อแม่เขาจึงตัดสินใจส่งให้เขาไปเรียนกีฬาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเบสบอล ฟุตบอล อเมริกันฟุตบอล เพื่อให้เขาห่างไกลจากปัญหามากที่สุด

เมื่ออยู่เกรด 9 Tatum ถูกส่งไปเรียนโรงเรียนคาทอลิก ที่นั่นเขาได้ค้นพบว่าเขามีความหลงไหลในการเล่นอเมริกันฟุตบอลและหวังว่าจะใช้ทักษะนี้เข้าเรียนต่อทุนในระดับมหาวิทยาลัย และเขาก็ทำสำเร็จได้ทุนไปเรียนต่อที่ West Virginia

แต่ในภายหลังเขาก็ออกจากมหาวิทยาลัยไปทำงานเป็นคนงานก่อสร้าง, นักเต้นระบำเปลื้องผ้า, นายหน้า และเซลล์แมน จนกระทั่งเขาได้ก้าวเข้าสู่แวดวงบันเทิงด้วยการเป็นนายแบบ จนทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียง ส่งให้ได้ไปแสดงโฆษณาทางทีวีหลายตัว ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์อย่าง American Eagle, Pepsi, Mountain Dew

จุดเริ่มต้นในการแสดงของ Tatum คือการรับทในซีรีส์ CSI: Miami ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) และหนังเรื่องแรกที่เขาแสดงคือหนังเกี่ยวกับโค้ชบาสเก็ตบอลเรื่อง Coach Carter ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548)

ทำให้หลังจากนั้นก็เริ่มมีผลงานของ Tatum ออกมา จนมาสร้างชื่อเสียงโด่งดังกับการรับบทในหนังเต้น Step Up ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) ที่ทำให้ใครหลายคนรู้จักชื่อของ Channing Tatum จนปรากฏตัวในภาคต่อ Step Up 2: The Streets ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) เป็นใบเบิกทางในวงการแสดง ได้รับโอกาสอีกมากมาย

เราได้เห็นผลงานของ Tatum ออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Battle in Seattle ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Fighting ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), Publie Enemies ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), G.I. Joe: The Rise of Cobra ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), The Vow ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), 21 Jump Street ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Magic Mike ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Don Jon ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), G.I. Joe: Retaliation ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), White House Down ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), The Lego Movie ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Foxcatcher ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), 22 Jump Street ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Magic Mike XXL ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), The Hateful Eight ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), The Lego Batman Movie ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Logan Lucky ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Kingsman: The Golden Circle ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560)

ยังคงมีผลงานของ Tatum ให้เราได้เห็นกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็น Dog ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Lost City of D ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Pussy Island, Wingmen และ Magic Mike's Last Dance

28 เมษายน

PENÉLOPE CRUZ

Penélope Cruz Sánchez เกิดวันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517) ที่ Alcobendas, Madrid ประเทศสเปน

ประเทศบ้านเกิดของเธอให้ฉายาเธอว่า "Spanish Enchantress" หรือ "หญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสเปน"

เธอได้แสดงตั้งแต่ยังเด็ก เป็นการแสดงโฆษณาทางทีวี แต่เธอตัดสินใจที่จะไปโฟกัสทางด้านการเต้นมากกว่าการแสดง จึงทำให้หลังจากนั้นเธอตัดสินใจที่จะเข้าเรียนบัลเล่ต์เป็นเวลา 9 ปีที่ Spain's National Conservatory และก็ฝึกฝนต่อในฐานะนักเต้นที่มีความสามารถ

เมื่ออายุได้ 15 ปี เธอก็ฉายแววทางการแสดงที่โดดเด่น เพราะเธอได้ไปออดิชั่นชนะผู้เข้าร่วมหญิงกว่า 300 คน ผลทำให้เธอได้เซ็นสัญญารับบทกับทาง Spanish TV และได้เล่น MV ด้วย และนั่นมันก็นำมาซึ่งโอกาสในการเล่นหนังของเธอ

Cruz เดบิวต์แสดงหนังครั้งแรกกับเรื่อง El laberinto griego ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) ตามมาด้วยการแสดงหนังร่วมกับ Timothy Dalton ในเรื่อง Framed ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), Belle Epoque ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) หลังจากนั้นทุกปีก็มีบทบาทการแสดงอย่างน้อย 3-4 เรื่องของเธอให้เราได้เห็นกัน

จุดเปลี่ยนของเธอเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) เมื่อเธอได้มาแสดงในหนังเรื่อง La niña de tus ojos (1998) ที่ส่งให้เธอคว้ารางวัล Best Actress Goya และนั่นนำมาซึ่งชื่อเสียงในระดับสากล

เมื่อเธอได้แสดงหนังในระดับสากลครั้งแรกกับเรื่อง Todo sobre mi madre ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) มันจึงส่งให้เธอได้แสดงโปรเจคที่ใหญ่ขึ้นไปอีก กับเรื่อง Woman on Top ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543)

หลังจากที่เธอได้เดินทางมายังอเมริกาเธอมีโอกาสร่วมงานกับนักแสดงชื่อดังมากมาย ทั้งได้แสดงร่วมกับ Johnny Depp ในเรื่อง Blow ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), แสดงกับ Matt Damon ในเรื่อง All the Pretty Horses ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543)

และยังมีผลงานของเธออีกหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น Gothika ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Sahara ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), G-Force ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), Sex and the City 2 ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), To Rome with Love ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Zoolander 2 ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Grimsby ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Murder on the Orient Express ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560)

บนเวทีรางวัล เธอก็สร้างชื่อเสียงไปไม่น้อยเลยกับการเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 4 ครั้งจากในเรื่อง Volver ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Vicky Cristina Barcelona ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Nine ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) และ American Crime Story ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559)

ส่วนบนเวทีออสการ์ก็ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน เพราะเคยคว้ารางวัลออสการ์มา 1 ครั้งจากเรื่อง Vicky Cristina Barcelona ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) และเข้าชิงอีก 2 ครั้ง จากเรื่อง Volver ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) และ Nine ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552)

ถึงแม้เธอจะอายุใกล้เลข 5 แล้ว แต่ในอนาคตยังมีผลงานของเธอให้เราได้ติดตามกันอีกมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Competencia Oficial ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), The 355 ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Madres paralelas ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), L'immensita, En los márgenes และ Love Child

JESSICA ALBA

Jessica Marie Alba เกิดวันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524) ที่ Pomona, California ประเทศอเมริกา แต่ไม่นานครอบครัวของเธอย้ายไปยัง Biloxi, MS ตั้งแต่เธอยังเป็นทางรก

Alba ย้ายบ้านบ่อยมาก เพราะหลังจากนั้น 3 ปี ก็ย้ายกลับมายังบ้านเกิด, ย้ายไป Del Rio, TX และสุดท้ายก็มาอยู่ที่ Southern California เมื่อตอนเธออายุได้ 9 ปี

Alba มีความสนใจในการแสดงมาตั้งแต่อายุเพียง 5 ปี และเมื่อเธออายุได้ 12 ปี เธอก็เข้าเรียนทางด้านการแสดงโดยตรง และ 9 เดือนต่อจากนั้นเธอก็ได้เซ็นสัญญากับนายหน้า ต่อมาเธอจึงเข้าเรียนที่ Atlantic Theatre Company

Alba คือนักแสดงผู้มีพรสวรรค์ เธอได้รับบที่หลากหลายมาก ตั้งแต่หนังตลกไปจนถึงดราม่าตั้งแต่เริ่มต้นช่วงแรกในอาชีพการแสดงของเธอเลยทีเดียว

จุดเริ่มต้นเดบิวต์การแสดงเรื่องแรกของ Alba เริ่มต้นในปี ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) กับเรื่อง Camp Nowhere ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) จริง ๆ เธอถูกว่าจ้างเป็นเวลา 2 สัปดาห์เท่านั้น มาแสดงแทนบทบาทนักแสดงหญิงคนนึง แต่ภายหลังเธอก็ได้บทบาทนั้นมาครอบครอง ซึ่งตัวเธอเองบอกว่ามันไม่ใช่พรสวรรค์หรือเสน่ห์อะไรของเธอหรอก แต่เพราะเป็นผมเธอที่เข้ากับนักแสดงเดิมต่างหาก

หลังจากนั้นก็มีผลงานของเธอให้ได้เห็นต่อมาทั้งซีรีส์ The Secret World of Alex Mack ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537), Flipper ค.ศ. 1995-1999 (พ.ศ. 2538-2542) และได้แสดงซีรีส์อีกหลายเรื่องตลอดช่วงปี ค.ศ. 1995-1998 (พ.ศ. 2538-2541)

เธอได้ลงนิตยสาร Teen Magazine ในปี ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) และอีกหลายนิตยสารแถบยุโรปเป็นเวลาหลายปี

นอกจากซีรีส์ บทบาทในหนังก็ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน เพราะมีอีกหลายเรื่อง ทั้ง P.U.N.K.S. ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542), Never Been Kissed ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542), Idle Hands ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542)

และในปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) เธอก็ได้แสดงซีรีส์เรื่อง Dark Angel ค.ศ. 2000-2002 (พ.ศ. 2543-2545) ที่ส่งให้เธอได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งแรกในชีวิต

บทบาทนำครั้งแรกของ Alba คือในเรื่อง Honey ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) และนั่นเหมือนเป็นใบเบิกทาง ทำให้เธอได้แสดงหนังอีกมากมายหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Sin City ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Fantastic Four ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) ซึ่งหลายต่อหลายคนน่าจะรู้จักเธอมาจากสองเรื่องนี้ ตามมาด้วย Into the Blue ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Good Luck Chuck ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), The Eye ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Valentine's Day ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Machete ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Spy Kids 4: All the Time in the World ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Sin City: A Dame to Kill For ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Entourage ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) และผลงานล่าสุดกับซีรีส์ L.A.'s Finest ค.ศ. 2019-2020 (พ.ศ. 2562-2563)

29 เมษายน

DANIEL DAY-LEWIS

Daniel Michael Black Day-Lewis เกิดวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1957 (พ.ศ. 2500) ที่ Greenwich, London ประเทศอังกฤษ

เขาเริ่มต้นอาชีพการแสดงในหนังครั้งแรกกับเรื่อง Sunday Bloody Sunday ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) แต่หลังจากนั้นเขาก็ไปแสดงในละครเวทีแทน และก็ไม่ได้ปรากฏบนจอภาพยนตร์เลยจนกระทั่งในปี ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525)

เขากลับมาแสดงหนังครั้งแรกรับบทผู้ใหญ่เรื่อง Gandhi ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) แถมยังได้ไปปรากฏตัวในซีรีส์ของอังกฤษเรื่อง Frost in May ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) และ BBC2 Playhouse: How Many Miles to Babylon? ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) และยังมีการแสดงอันโดดเด่นอีกมากมายทั้ง Another Country ค.ศ. 1982-1983 (พ.ศ. 2525-2526), Dracula ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) และ The Futurists ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529)

เขาแสดงบทบาทนักแสดงสมทบหลักครั้งแรกในเรื่อง The Bounty ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) ซึ่งการแสดงสมทบอันยอดเยี่ยมก็ส่งให้เขาได้บทใน My Beautiful Laundrette ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) และ A Room with a View ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) ทั้งสองเรื่องนั้นเข้าฉายวันเดียวกันที่ New York และผู้ชมต่างชื่นชมการแสดงอันน่าจดจำและความสามารถอันเปี่ยมล้นของ Daniel แบบสุด ๆ

สมาคมวิจารณ์หนังของอังกฤษได้บอกว่าการแสดงของเขาคือนักแสดงสมทบยอดเยี่ยม

ในปี ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) เขาก็ยังคงไปแสดงละครเวทีอยู่ กับเรื่อง The Futurists และแสดงซีรีส์เรื่อง Screen Two: The Insurance Man ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) ตามมาด้วยบทที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่เมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ อย่าง Stars and Bars ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531)

แต่หลังจากนั้นเขาก็กลับเล่นหนังเรื่องนึงและยังคงแสดงได้อย่างยอดเยี่ยมกับบทบาท Christy Brown ในเรื่อง My Left Foot: The Story of Christy Brown ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) ที่ส่งให้เขาได้คว้ารางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมครั้งแรกจากเวทีออสการ์ และเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ

หลังจากนั้นเขาก็ไปแสดงละครเวทีอีกครั้ง และก็ทำได้ดีเช่นกัน แต่ก็ต้องเลิกราไป เพราะความเหนื่อยล้าที่ต้องแสดงบ่อยๆ หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้แสดงละครเวทีอีกเลย

เขาจึงหันมาแสดงหนังอย่างเดียว และรับบทอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น The Last of the Mohicans ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ที่ได้รับเสียงวิจารณ์ผสมกันไปดีบ้างไม่ดีบ้าง ตามมาด้วย The Age of Innocence ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536)

และทำให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งที่สอง จากเรื่อง In the Name of the Father ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้รางวัลไป เช่นเดียวกันกับ เข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่สามกับเรื่อง Gangs of New York ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) แต่ก็ไม่สามารถคว้าไปได้เช่นกัน และการแสดงของเขาจากทั้งสองเรื่องก็ยังได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำด้วย

ในปี ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) เขาได้แสดงหนังเรื่อง There Will Be Blood ที่ส่งให้เขากลับมายืนบนเวทีออสการ์อีกครั้ง และครั้งที่เขาก็สามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมมาได้ เท่านั้นยังไม่พอ เขาคว้ารางวัลควบเวทีลูกโลกทองคำอีกต่างหาก และยังได้รางวัลอื่นๆ อีกหลายเวที จากทั้ง BAFTA Award, SAG Award, Variety of film critics' circle awards

การแสดงของเขายังคงทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะกับ Nine ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ, Lincoln ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) ที่ส่งให้เขาคว้ารางวัลควบนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากทั้งเวทีออสการ์และลูกโลกทองคำ

และล่าสุดกับผลงานอันยอดเยี่ยมใน Phantom Thread ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) ที่ส่งให้เข้าได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเวทีลูกโลกทองคำและออสการ์

น่าเสียดายที่หลังจากเรื่องนั้น เราก็ไม่ได้เห็นการแสดงของเขาอีกเลย แต่รับประกันเลยว่าการแสดงของเขาช่างตราตรึงใจในหลาย ๆ บทบาทเลยทีเดียว

MICHELLE PFEIFFER

Michelle Marie Pfeiffer เกิดวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 (พ.ศ. 2501) ที่ Santa Ana, California ประเทศอเมริกา

Pfeiffer จบจาก Fountain Valley High School ในปี ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519) และเข้าเรียนที่ Golden West College เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยเธอเรียนเพื่อไปเป็นนักข่าวในศาล แต่ในระหว่างที่เธอทำงานที่ซูเปอร์มาเก็ตแห่งหนึ่ง เธอก็ได้ตระหนักถึงเสียงเรียกร้องในหัวใจที่แท้จริงของตนเอง ว่าจริง ๆ แล้ว เธออยากเป็นนักแสดง

จุดเริ่มต้นในการแสดงครั้งแรกของเธอคือการแสดงในซีรีส์เรื่อง Delta House ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) ตามมาด้วยผลงานหนังทางทีวีเรื่อง The Solitary Man ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) และซีรีส์ CHiPs ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522)

หลังจากผลงานของเธอก็มากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งเวลาผ่านไปทักษะในการแสดงของเธอก็ยิ่งเจนจัดว่าเธอคู่ควรกับการเป็นนักแสดงจริง ๆ จนเข้าชิงรางวัลไปไม่น้อย

บนเวทีลูกโลกทองคำเธอเคยคว้ารางวัลมา 1 ครั้งกับบทบาทในเรื่อง The Fabulous Baker Boys ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) เลยเคยเข้าชิงอีก 7 ครั้ง จากใน Married to the Mob ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531), The Russia House ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533), Frankie and Johnny ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534), Love Field ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), The Age of Innocence ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536), The Wizard of Lies ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) และผลงานล่าสุดอย่าง French Exit ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

ส่วนบนเวทีออสการ์ถึงแม้จะไม่เคยคว้ารางวัลใด ๆ แต่เธอเคยเข้าชิงทั้งหมด 3 ครั้งจากเรื่อง Dangerous Liaisons ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531), The Fabulous Baker Boys ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) และ Love Field ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535)

นอกเหนือจากนั้นเธอยังมีผลงานอีกมากมาย เช่นในซีรีส์ B.A.D. Cats ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523), Scarface ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526), Into the Night ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528), Batman Returns ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), I Am Sam ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Stardust ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Dark Shadows ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Mother! ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Murder on the Orient Express ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Ant-Man and the Wasp ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Avengers: Endgame ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Maleficent: Mistress of Evil ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

แถมในอนาคตยังมีบทบาทของเธอให้เราได้ดูชมกันอีก ทั้ง Ant-Man and the Wasp: Quantumania ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2565)

ทางด้านชีวิตส่วนตัว เธอเคยแต่งงานกับนักแสดง/ผู้กำกับ Peter horton ในปี ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524) แต่ทั้งคู่ก้เลิกกันในปี ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) หลังจากนั้นเธอก็ได้มีความสัมพันธ์กับนักแสดงอย่าง Fisher Stevens เป็นระยะเวลา 3 ปี และก็พบว่าไปกันไม่รอด จนเธอเริ่มตระหนักได้ว่าเธอไม่อยากรอที่จะสร้างครอบครัวอีกต่อไปแล้ว จึงทำให้ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) เธอได้รับเลี้ยงเด็กสาวคนนึงที่ชื่อว่า Caludia Rose แต่ในปีเดียวกันนั้นเธอก็ได้พบรักกับทนายที่กลายมาเป็นนักเขียนและผู้อำนวยการสร้างอย่าง David E. Kelley จนแต่งงานกันในวันที่ 13 พฤศจิกายน และให้กำเนิดลูกชาย John Henry ในวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) ซึ่งทั้งคู่ก็ครองรักกันมาจนถึงปัจจุบัน

UMA THURMAN

Uma Karuna Thurman เกิดวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513) ที่ Boston, Massachusetts ประเทศอเมริกา

ครอบครัวของเธอเคยเป็นแขกของดาไลลามะด้วย เธอและพี่น้องของเธอทุกคนมีต้นตระกูลมาจากตำนานทางพระพุทธศาสนา ทำให้เธอมักจะไม่เข้าใจพฤติกรรมของชาวอเมริกันสักเท่าไหร่ เธอถูกเรียกด้วยชื่อแปลก ๆ และการใช้ชีวิตในบ้านที่ผิดปกติ

ตอนเธอเด็ก ๆ เธอสูงถึง 6 ฟุต และเท้าเธอก็ใหญ่กว่าทุกคน ถึงไซส์ 11 เลยทีเดียว แต่เธอเป็นเด็กร่าเริงและชอบแสดงเป็นคนอื่นมากกว่าตัวเธอเอง นั่นจึงทำให้เธอได้รับบทในการแสดงละครเวทีกับทางโรงเรียน

ด้วยรูปร่างที่โดดเด่นกว่าเด็กทั่วไป และความสนใจของเธอนี้ ทำให้เธอเหมาะที่จะเป็นนางแบบมากๆ พอเธออายุได้ 15 ปี เธอก็ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนมัธยมใน New York เป็นโรงเรียนสำหรับนางแบบโดยเฉพาะ และที่โรงเรียนนั่นแหละทำให้เธอได้รับบทบาทในด้านการแสดง

บทบาทแรกที่เธอได้รับคือ Kiss Daddy Goodnight ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) ตามมาด้วยหนังของ Terry Gilliam เรื่อง The Adventures of Baron Munchausen ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) และหนังของ Stephen Frears เรื่อง Dangerous Liaisons ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ซึ่งทั้งสองเรื่องนั้นได้ทำให้หลายคนสนใจเธอ การแสดงของเธอผสมผสานความไร้เดียงสาและกร้านโลกเข้าด้วยกันอย่างน่าทึ่ง

หลังจากนั้นเธอก็ได้ถูกทาง Hollywood เสนอบทให้เธอมากมายในช่วงปี ค.ศ. 1990s (พ.ศ. 2533-2542) ไม่ว่าจะเป็น Henry & June ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533), Mad Dog and Glory ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) และได้แสดงนำครั้งแรกในเรื่อง Even Cowgirls Get the Blues ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536)

ต่อมาในปี ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) ชื่อและการแสดงของเธอก็ได้ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก เมื่อเธอได้ไปแสดงหนังของ Quentin Tarantino เรื่อง Pulp Fiction ซึ่งก็ถือว่าในตอนนั้น Quentin ก็ยังไม่ได้เก๋ามาก มีผลงานออกมาไม่กี่เรื่อง แต่แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้กลายเป็นหนังที่น่าจดจำของใครหลายคน และมันคือหนังที่ใครต่อหลายคนบอกว่ามันดีที่สุดตั้งแต่ Quentin เคยทำมา

หลังจากนั้นเธอก็โดนจีบจากหลายผู้กำกับให้มาแสดงหนังด้วย เธอจึงได้แสดงหนังอีกหลายเรื่อง ดีบ้าง แป้กบ้าง เช่น A Month by the Lake ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538), Beautiful Girls ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539), The Truth About Cats & Dogs ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539), Batman & Robin ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540), The Avengers ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541), Sweet and Lowdown ค.ศ. 1999 (พงศ. 2542), Tape ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Hysterical Blindness ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)

แต่เธอก็กลับมาเฉิดฉายอีกครั้งเมื่อกลับมาร่วมงานกับ Quentin ในเรื่อง Kill Bill: Vol. 1 ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) เธอก็กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง และหลายคนน่าจะจำเธอได้จากบทบาทนี้มากที่สุด

หลังจากนั้นเธอก็ได้ไปร่วมงานกับ John Woo ในหนังเรื่อง Pay Check ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) ตามมาด้วย Kill Bill: Vol. 2 ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547)

เธอก็ได้แสดงหนังต่อมาอีกหลายเรื่องลากยาวมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งผลงานล่าสุดของเธอคือหนังโรแมนติกคอเมดี้เรื่อง The War with Grandpa ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2560) และยังมีผลงานในอนาคตของเธออีก 2 เรื่อง Suspicion, Tau Ceti Four และ Hollywood Stargirl

ความสำเร็จบนเวทีรางวัลของเธอส่วนมากเกิดขึ้นจากการร่วมงานกับ Quentin Tarantino โดยใน Pulp Fiction ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถคว้ารางวัลไปได้ และทั้ง Kill Bill Vol.1 -2 ค.ศ. 2003-2004 (พ.ศ. 2546-2547) เธอก็ได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำทั้งสองเรื่องเลย แต่ก็เช่นเดิม ไม่สามารถคว้าไปได้

แต่ก็ใช่ว่าในช่วงเวลาที่แสดงหนังกับ Quentin จะดีไปเสียทั้งหมด เพราะในระหว่างที่ถ่ายทำ Pulp Fiction ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) นั้นเธอเคยถูกหนึ่งในผู้อำนวยการสร้างอย่าง Harvey Weinstein คุกคามทางเพศด้วย ซึ่งเธอก็แฉเขาหมดเปลือก รวมถึงภายหลังมีการเปิดเผยว่ามีนักแสดงหลายคนโดนเช่นเดียวกับเธอ

และเธอเคยมีปากเสียงกับทาง Quentin ด้วย กับฉากขับรถใน Kill Bill Vol. 2 ที่ทางผู้กำกับยืนยันว่าต้องให้เธอขับเองจริงๆ ฝ่าพายุ ลมแรง ถนนทราย โดยไม่ต้องใช้สตั๊นท์แมน และนั่นทำให้เธอประสบอุบัติเหตุหัวกระแทกอย่างแรงจนได้รับบาดเจ็บ

https://www.instagram.com/p/Be0x6OCFRwQ/?utm_source=ig_web_copy_link

แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงแสดงความยินดีกับหนัง Once Upon a Time in...Hollywood ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ของ Quentin เมื่อครั้งได้รับรางวัลออสการ์ด้วย

หนึ่งในนักแสดงที่นับว่าแสดงหนังที่เป็น Pop-Culture แห่งยุค แสดงมาหลากหลายบทบาท และยังคงแสดงอย่างต่อเนื่อง - Uma Thurman

30 เมษายน

KIRSTEN DUNST

Kirsten Caroline Dunst เกิดวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) ที่ Point Pleasant, New Jersey ประเทศอเมริกา

จุดเริ่มต้นอาชีพการแสดงของเธอ เริ่มตั้งแต่ 3 ปี เมื่อเธอเป็นนางแบบเด็กและเล่นโฆษณา

เธอได้แสดงหนังครั้งแรก (แต่ไม่ได้เครดิต) เมื่ออายุเพียง 6 ปีเท่านั้น ในเรื่อง New York Stories ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) จนกระทั่งมาได้เครดิตครั้งแรกในหนังเรื่อง The Bonfire of the Vanities ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) ไม่นานครอบครัวเธอก็ย้ายมาอยู่ที่ Los Angeles ในปี ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) และนั่นคือจุดเริ่มต้นอาชีพการแสดงของเธออย่างแท้จริง

ในปี ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) เธอได้แจ้งเกิดกับการแสดงของเธอในบทบาทเรื่อง Interview with the Vampire: The Vampire Chronicles ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) ได้ร่วมแสดงกับ Brad Pitt และ Tom Cruise ซึ่งการแสดงของเธอในเรื่องนี้ส่งให้เธอได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งแรกในชีวิต

ในปี ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) เธอได้ติดอันดับ 50 Most Beautiful People ของนิตยสาร People Magazine ควบคู่ไปกับผลงานการแสดงอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Little Women ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537), Jumanji ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538), Small Soldiers ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541), The Virgin Suicides ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) และ Bring It On ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ซึ่งในเดือนมิถุนายนปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) เธอก็ได้เรียนจบจากชั้นมัธยมปลายที่ Notre Dame High School ใน Los Angeles อีกด้วย

ในปี ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) เธอได้มารับบทที่ทำให้ใครหลายคนรู้จักเธอมากขึ้น กับบทบาท Mary Jane Watson คนรักของ Peter Parker ในหนังเรื่อง Spider-Man ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) ตามมาด้วยภาคต่อใน Spider-Man 2 ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) และ Spider-Man 3 ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550)

หลังจากนั้นเราก็ได้เห็นผลงานของเธออีกมากมาย ทั้ง Eternal Sunshine of the Spotless Mind ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Wimbledon ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Elizabethtown ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2547), Marie Antoinette ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2548), All Good Things ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), On the Road ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Bachelorette ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Upside Down ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Anchorman 2: The Legend Continues ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), The Two Faces of January ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Hidden Figures ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), ซีรีส์ Black Mirror ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) และผลงานล่าสุด Hank the Cowdog ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

เธอคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม Best Actress Award ในปี ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) ที่งานเทศกาลหนังเมืองคานส์ สำหรับการแสดงบท Justine ในเรื่อง Melancholia ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554)

เธอเคยเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีก 2 ครั้ง ซึ่งทั้ง 2 ครั้งมาจากซีรีส์ทั้งคู่ Fargo ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) กับ On Becoming a God in Central Florida ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

GAL GADOT

Gal Gadot คือนักแสดงชาวอิสราเอล แต่เธอยังมีความสามารถในด้านการร้องเพลง, ศิลปะการป้องกันตัว และเธอเป็นนางแบบด้วย

Gal Gadot เกิดวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) ที่ Rosh Ha'ayin ประเทศอิสราเอล

สำหรับใครที่สงสัยว่าชื่อเธอออกเสียงยังไง เธอเคยบอกเอาไว้ในรายการของ Jimmy Kimmel อ่านตามนี้เลยจ้าาา

เธอเคยรับใช้ชาติอยู่ร่วมกับกองทัพอิสราเอล หรือ IDF เป็นเวลา 2 ปีเลยทีเดียว และเธอก็ลาออกจากกองทัพมาประกวดนางงาม จนสามารถคว้ารางวัล Miss Israel ได้ ในปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547)

จริง ๆ การแสดงของเธอครั้งแรกเธอมีบทเล็ก ๆ ในซีรีส์เรื่อง Shemesh ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542)

และในช่วงปี ค.ศ. 2000s (พ.ศ. 2543-2552) เธอก็เริ่มอาชีพนางแบบอย่างจริงจัง จนกระทั่งเธอได้เปิดตัวในภาคที่ 4 ของแฟรนไชส์ชื่อดัง Fast and Furious ในบท Gisele ที่ทำให้ทั้งโลกต่างอยากรู้จักเธอมากขึ้น

และเธอก็กลับมาปรากฏตัวในภาคต่อทั้ง Fast Five ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) และ Fast & Furious 6 ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) เป็นตัวละครที่มีความสัมพันธ์กับตัวละครของ Han (Sung Kang) ที่ทำให้หลายต่อหลายคนต่างหลงไหลในรูปร่างและหน้าตาอันเปี่ยมล้นไปด้วยเสน่ห์ของเธอ

หลังจากนั้นเธอก็เริ่มได้รับบทบาทในการแสดงมากขึ้น ทั้ง Date Night ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Knight and Day ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553)

จนกระทั่งในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) ได้มีการประกาศออกมาว่าเธอจะมารับบท Wonder Woman ในหนังรวมทีมฮีโร่อย่าง Batman v Superman: Dawn of Justice ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559)

ในระหว่างการถ่ายทำตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) ตัวของเธอได้ฝึกทักษะการต่อสู้มากมายทั้งการฟันดาบ, กังฟู, คาโปเอร่า, ยิวยิตสู เพื่อเตรียมพร้อมมารับบทนี้ และผลก็อย่างที่เราเห็น การแสดงของเธอนั้นยอดเยี่ยมและเปี่ยมไปด้วยพลัง ซึ่งเป็นส่วนเดียวของหนังที่ดีที่สุดในหนังเรื่องนี้ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ที่ย่ำแย่

และนั่นก็ส่งให้เธอได้มีหนังเดี่ยวเรื่องราวของตัวละครที่เธอได้รับอย่างรวดเร็วใน Wonder Woman ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) ที่เชื่อเลยว่าหลายคนยิ่งดูยิ่งตกหลุมรักเธอมากขึ้น และคำวิจารณ์ก็ออกมาได้ดีมากเลยทีเดียว จนเธอได้มาร่วมแสดงในหนังรวมทีมฮีโร่อีกครั้ง Justice League ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) ซึ่งตัวหนังก็ได้รับเสียงวิจารณ์ที่ย่ำแย่อีกเช่นเคย

ในระหว่างนั้นเธอก็ได้ไปปรากฏตัวใน MV ของวง Maroon 5 เพลง Girls Like You ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), ไปปรากฏตัวในซีรีส์ The Simpsons ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), ให้เสียงพากย์ตัวละคร Shank ใน Ralph Breaks the Internet ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561)

ถึงแม้หนังรวมทีมฮีโร่จะค่อนข้างแป้ก ๆ แต่ตัวละคร Wonder Woman ยังคงน่าสนใจ และมีคนอยากเห็นเธอโลดแล่นอยู่ นั่นจึงทำให้เกิดภาคต่อ Wonder Woman 1984 ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

นอกเหนือจากนั้น ยังมีผลงานของเธออีกมาก ไม่ว่าจะเป็นหนังสืบสวนสอบสวน Death on the Nile ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), หนังแอ็คชั่นแสดงร่วมกับ Dwayne Johnson เรื่อง Red Notice ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564),หนังชีวประวัติ Irena Sendler ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566), โปรเจคร่วมกับ Hedy Lamarr, Cleopatra และ Wonder Woman 3

หนุ่มๆ ไม่ต้องอกหักกันไป เพราะเธอมีสามีชื่อ Yaron Versano และมีลูกด้วยกัน 2 คน

สาวมหัศจรรย์ จากทหาร กลายเป็นนางแบบ และมาเป็นฮีโร่สาวขวัญใจผู้คนทั่วโลก

ANA DE ARMAS

Ana Celia de Armas Caso เกิดวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ที่ Havana ประเทศคิวบา

เธอเป็น Heterochromia ด้วย ถึงแม้ตาทั้งสองข้างของเธอจะสีเขียว และเธอมีสีน้ำตาลอยู่ตรงกลางตาด้วย รวมถึงม่านตาของเธอยังมีจุดสีน้ำตาลเข้มเล็ก ๆ ปนอยู่เช่นกัน

เธอสนใจการแสดงมาตั้งแต่เด็ก ๆ และเมื่ออายุได้ 14 ปี เธอได้เข้าเรียนที่โรงเรียนสอนการแสดงแห่งชาติ

การแสดงครั้งแรกของเธอเริ่มต้นขึ้นเมื่อเธออายุเพียง 16 ปีเท่านั้น กับเรื่อง Virgin Rose ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) หลังจากนั้นเธอก็ย้ายไปอยู่ที่ประเทศสเปนและได้ไปเล่นหนังกับซีรีส์อีกหลายเรื่อง

ในปี ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) เธอได้ย้ายเข้ามาทำตามความฝันการเป็นนักแสดงที่นครแห่งดารา Los Angeles และตอนที่ย้ายมาแรก ๆ เธอพูดได้แต่ภาษาสเปนเท่านั้น แต่เธออยากไปออดิชั่นรับบทหนังมาก ทำให้เธอต้องทุ่มเทร่ำเรียนภาษาอังกฤษเพื่อให้สื่อสารได้ และภายในไม่ถึง 2 ปี เธอก็สามารถคว้าบทในหนังเรื่อง Knock Knock ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) มาได้ และเส้นทางในการแสดง Hollywood ของเธอก็เฉิดฉายมาตั้งแต่ตอนนั้น

ทำให้เธอได้รับบทบาทในหนังเรื่อง War Dogs ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Hands of Stone ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) และบทบาทสำคัญที่ทำให้ใครหลายคนรู้จักเธอมากขึ้นใน Blade Runner 2049 ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560)

หลังจากนั้นงานแสดงของเธอก็เปิดกว้างขึ้นมีบทบาทให้เธอได้รับมากกว่าเดิม และไปสร้างชื่ออีกครั้งกับบทบาท Marta Cabrera ในเรื่อง Knives Out ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ที่ส่งให้เธอได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม แต่น่าเสียดายที่เธอไม่สามารถคว้ามาได้

และล่าสุดเธอก็ได้ฝากผลงานเอาไว้ใน Sergio ค.ศ .2020 (พ.ศ. 2563) และ The Night Clerk ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และบทในแฟรนไชส์สายลับชื่อดัง 007 กับภาคที่ 25 อย่าง No Time to Die ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) ทำให้เธอกลายเป้นนักแสดงหญิงชาวละตินคนแรกที่รับบทเป็น Bond Girl ที่ถึงแม้จะโผล่มาแค่ไม่กี่นาที ก็ได้ใจผู้ชมไปเต็ม ๆ 

ในช่วงปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) เธอได้มีข่าวความสัมพันธ์กับ Ben Affeck ด้วย

หนึ่งในนักแสดงหญิงที่น่าจับตา ทุกบทบาท ทุกความทุ่มเท ส่งผลให้เธอเป็นเธออย่างทุกวันนี้ Ana de Armas