วิธีบล็อกเว็บไซต์บนอุปกรณ์ iOS, Android, Windows, Mac และ บล็อกเว็บไซต์จากเราเตอร์

วิธีบล็อกเว็บไซต์บนอุปกรณ์ iOS, Android, Windows, Mac
และ บล็อกเว็บไซต์จากเราเตอร์

ในยุคนี้สิ่งเร้าบนโลกอินเทอร์เน็ตมีเยอะแยะมากมาย หากคุณเป็นกังวลว่าเด็ก ๆ หรือ คนในความปกครองของคุณจะเข้าถึงสื่อเหล่านั้นโดยไม่มีการคัดกรอง บทความนี้เราเขียนมาเพื่อทุกคนที่กำลังเตรียมรับมือ และ อยาก จำกัดการเข้าถึงเว็บไซต์อันไม่พึงประสงค์บนอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น มือถือ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต เพื่อลูกหลายของคุณ และ เพื่อเป็นด่านแรกในการป้องกัน โดยเฉพาะจากพวกสื่อลามกอนาจารทั้งหลาย

วิธีบล็อกเว็บไซต์ บนมือถือ และแท็บเล็ต สำหรับ iOS และ iPad

บนอุปกรณ์จากค่ายแอปเปิล (Apple) อย่าง iPhone และ iPad จะมีฟีเจอร์หนึ่งตัวที่มีชื่อว่า Parental Control โดยเป็นฟังก์ชันที่สามารถตั้งค่าบล็อกการเข้าถึงแอปพลิเคชัน หรือ เว็บไซต์ต่าง ๆ ได้และยังควบคุมระบบต่าง ๆ บนเครื่องอีกคนได้ผ่านเครื่องของคุณเอง ซึ่งก่อนหน้านี้เรามีเขียนวิธีการเชื่อมอุปกรณ์ 2 เครื่องไปแล้ว

ข้อมูลเพิ่มเติม : วิธีใช้งาน Parental Control (การควบคุมโดยผู้ปกครอง) บน iPad และควบคุมด้วย iPhone

แต่หากคุณต้องการเพียงแค่จะบล็อกเว็บไซต์อันตรายเพื่อไม่ให้ลูกหลานของคุณมีสิทธิ์เข้าใช้ ให้คุณเข้าไปที่การตั้งค่า (Settings) บนอุปกรณ์นั้น ๆ และ

1. กดไปที่ "เมนูเวลาหน้าจอ (Screen Time)"
2. เปิดใช้รหัสเวลาหน้าจอก่อน และ ใส่รหัส จากนั้นเลือก "เมนู จำกัดเนื้อหาและความเป็นส่วนตัว (Restrictions and Privacy)"

3. เข้ามาก็เปิดการใช้งาน 'จำกัดเนื้อหาและความเป็นส่วนตัว' และ เข้า "เมนูการจำกัดเนื้อหา (Restrictions)"
4. เลื่อนลงไปที่ "เมนูเนื้อหาเว็บไซต์ (Website)"

5. แตะเลือก "ตัวเลือกจำกัดเว็บไซต์ผู้ใหญ่ (Limit Adult Content)"
6. และเลือกเพิ่มเว็บไซต์ใน "ช่องไม่อนุญาต" ก็เป็นอันเสร็จไปลองเข้าเว็บไซต์ได้เลย

7.  เข้าไม่ได้แล้วครับ และ ถ้ามีการกดปุ่มอนุญาตเว็บไซต์ ก็จำเป็นต้องใส่รหัสที่ตั้งค่าไว้ตั้งแต่ข้อ 2 ก่อน

เท่านี้เว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมก็จะถูกปิดกั้นบน iPhone ของลูก ๆ คุณแล้วล่ะครับ แต่ระวังเพราะเขาอาจจะรู้ว่าคุณปิด และ หาวิธีเปิดได้เช่นกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ให้ตั้งรหัสเอาไว้นั่นเอง เพราะหากจะเข้าไปตั้งค่าใหม่ ก็ต้องใส่รหัสเหมือนกันครับ

วิธีบล็อกเว็บไซต์ บนมือถือ และแท็บเล็ต สำหรับอุปกรณ์ Android

สำหรับแนวทางของ มือถือ Android อาจต้องมีตัวช่วยสักนิด นั่นคือ แอปพลิเคชันเสริมที่ช่วยบล็อกเว็บไซต์ ซึ่งบทความนี้เราแนะนำ "แอป Blocksite" ที่มีให้ดาวน์โหลดบน Playstore อยู่แล้ว หรือ สามารถดาวน์โหลดได้ผ่านลิงก์ข้างล่าง

ลิงก์ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Blocksite : 

• https://play.google.com/store/apps/details?id=co.blocksite&hl=en&gl=US

1. หลังจากดาวน์โหลดทำการติดตั้งแล้ว ให้เข้าไปตั้งค่าเปิดตัวช่วย
2. โดยเข้าไปที่ "เมนู ความช่วยเหลือแบบอัจฉริยะ (Smart Assistant)" → "เมนู การเข้าถึง (Accessibility)"

3. เปิดอนุญาตให้แอป BlockSite แอปจะถามเพื่อเข้าถึงการใช้งานของคุณกด "ปุ่ม ตกลง"

4. หลังเปิดการเข้าถึง ให้กดไปที่แอป BlockSite ล็อกอินบัญชีเรียบร้อย
5. กด "ปุ่มบวก (+)" พร้อมใส่ชื่อที่อยู่เว็บไซต์ (Website URL) ที่คุณต้องการบล็อกได้เลย
6. หลังจากเพิ่มชื่อแล้วตรวจสอบให้แน่ใจว่าติ๊กเป็นสีเขียวแล้ว กด "ปุ่มเสร็จสิ้น"

7. พอเข้าเว็บไซต์ที่อยู่ในรายชื่อ มันก็จะทำการปิดกั้นให้เราแล้วครับ

วิธีบล็อกเว็บไซต์บน Windows

ในทางที่ง่ายกว่าคือการติดตั้งส่วนเสริมบน โปรแกรมเปิดเว็บ หรือ เว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) อย่าง 'Blocksite' ซึ่งมีให้ติดตั้งเป็นส่วนเสริมบนเบราว์เซอร์ยอดนิยมหลายตัวเหมือนกัน อาทิ Google Chrome, Microsoft Edge หรือ Mozilla Firefox แต่วิธีที่จะสอนนี้คือการแก้ไขไฟล์ระบบบน Windows 10 ที่มีชื่อว่าไฟล์ Host เพื่อบล็อกเว็บไซต์ต่าง ๆ บนทุกเบราว์เซอร์เลยครับ

1. โดยขั้นแรกให้ให้ค้นหา โปรแกรมแก้ไขข้อความ (Text Editor Software) อย่าง โปรแกรม Notepad จากนั้นคลิกขวา และ เลือก "คำสั่ง Run as Administrator"

2. คลิก "เมนู File" → "เลือก Open"

3. ไปที่ C:\Windows\System32\Drivers\etc\hosts
4. หาไฟล์ Hosts และเปิดขึ้นมา

5. จากนั้นเลื่อนมาที่บรรทัดสุดท้ายและเคาะบรรทัดลงด้านล่าง โดยเว้นจากบรรทัดสุดท้าย 1 ช่องเพื่อความปลอดภัย
6. เสร็จแล้วกรอกรหัส localhost IP และ ตามด้วยชื่อ URL/Address ของเว็บไซต์ เช่น
   • 127.0.0.1   www.instagram.com

7. เมื่อกรอกแล้วก็กด "เมนู File" และเลือก "คำสั่ง Save"
8. จากนั้นคุณก็สามารถลองเข้าเว็บไซต์ที่บล็อกจะพบว่าเข้าไม่ได้แล้ว

หมายเหตุ :

• จำเป็นต้อง restart เครื่องก่อนถึงจะเห็นผล

วิธีบล็อกเว็บไซต์บน macOS

สำหรับบนเครื่องแมค (Mac) ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ macOS ก็มีวิธีจัดการบล็อกเว็บไซต์ เช่นกัน 

1. เข้าไปที่ "ไอคอนแอปเปิ้ล" แล้วเลือก "เมนู System Preferences..."

2. เลือก "ไอคอน Screen Time"

3. ไปที่ "แท็บ Content & Privacy" กด "ปุ่ม Turn On..."

4. ในหัวข้อ Web Content เลือก "ตัวเลือก Limit Adult Websites" แล้วกด "ปุ่ม Customize..."

5. กด "ไอคอน บวก (+)" ใส่ url ทางฝั่ง "แท็บ Restricted" ตามใจอยาก จากนั้นกดปุ่ม OK

6. ลองเปิดดู เข้าไม่ได้แล้ว

วิธีบล็อกเว็บไซต์ผ่านอุปกรณ์เราเตอร์ (Router)

เครือข่ายอินเทอร์เน็ตบ้าน คุณสามารถบล็อกเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้ เพียงแค่คุณตั้งค่าผ่านอุปกรณ์เราเตอร์ (Router) ซึ่งมีผลกับทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ Wi-Fi ผ่านเราเตอร์ในบ้าน

โดยเมนู และ วิธีการทำอาจมีความแตกต่างกันไปแล้วแต่รุ่นของเราเตอร์ กับ เครือข่ายที่ใช้ แต่โดยรวมชื่อเมนูจะคล้าย ๆ กัน ซึ่งหากคุณพอทำความเข้าใจได้ ก็ไม่น่าจะยากในการตั้งค่ากับอุปกรณ์ของคุณเอง แต่เราเตอร์ที่ใช้ในบทความนี้เป็นของ 'SKYWORTH' และเครือข่ายคือ True Internet Fiber 

1. เปิดเบราว์เซอร์ และ กรอก หมายเลขไอพี (IP Address) ของเราเตอร์เช่น https://192.168.1.1 ลงไปเพื่อเชื่อมต่อการตั้งค่าเราเตอร์ 

2. ใส่ชื่อผู้ใช้งาน (Username) และรหัสผ่าน (Password) ซึ่งน่าจะมีรหัสเริ่มต้นที่ใช้งานได้อยู่บนเครื่องเราเตอร์ หากคุณไม่เคย ไปตั้งค่าเปลี่ยนแปลงอะไร

3. จากนั้นเมื่อเข้าสู่การตั้งค่าเราเตอร์ ไปที่ "เมนูความปลอดภัย (Security)"
   (แต่บางเครือข่ายอาจอยู่ใน "เมนู Parental Controls" เช่น เราเตอร์ของ AIS Fibre)
4. จากนั้นไปที่ "เมนู URL Filter" → ติ๊ก "ตัวเลือก Enable" เพื่อเปิดการใช้งาน → เลือก "เมนู Black List"
5. และกรอกชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการบล็อกลงไปในช่อง URL
6. กด "ปุ่ม Add" และ "ปุ่ม Confirm" เท่านี้เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี