วันเกิดคนดังวงการฮอลลีวูดในเดือนสิงหาคม

วันเกิดคนดังวงการฮอลลีวูดในเดือนสิงหาคม

1 สิงหาคม

SAM MENDES

Samuel Alexander Mendes เกิดวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 1965 (พ.ศ. 2508) ที่ Reading, Berkshire ประเทศอังกฤษ

พ่อแม่ของ Sam หย่ากันตั้งแต่ในปี ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513) เมื่อเขาอายุได้เพียง 5 ปีเท่านั้น

Sam เข้าเรียนที่ Cambridge University และเข้าร่วมกับ Chichester Festival Theatre หลังจากเรียนจบในปี ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530)

หลังจากนั้นเขาได้ไปกำกับ The Cherry Orchard แสดงนำโดย Judi Dench ซึ่งส่งให้เขาคว้ารางวัล Critics Circle Award สำหรับหน้าใหม่แห่งวงการ หลังจากนั้นเขาก็กำกับละครเวทีอีกหลายเรื่อง

จนกระทั่งเขาได้เดบิวต์ตัวเองกับผลงานหนังใหญ่ครั้งแรกกับเรื่อง American Beauty ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) และนับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะตัวหนังคว้า 5 รางวัลออสการ์ จากการเข้าชิงทั้งหมด 8 สาขา

[WINNER]

• Best Picture
• Best Actor in a Leading Role (Kevin Spacey)
• Best Writing, Screenplay Written Directly for the Screen
• Best Cinematography
• Best Director

[NOMINEE]

• Best Actress in a Leading Role
• Best Film Editing
• Best Music, Original Score

แถมยังคว้ารางวัลลูกโลกทองคำอีก 3 สาขา จากการเข้าชิงทั้งหมด 6 สาขา

[WINNER]

• Best Motion Picture-Drama
• Best Screen Play-Motion Picture
• Best Director-Motion Picture

[NOMINEE]

• Best Performance by an Actress in a Motion Picture - Drama (Annette Bening)
• Best Performance by an Actor in a Motion Picture - Drama (Kevin Spacey)
• Best Original Score - Motion Picture

นับว่า American Beauty เป็นผลงานแจ้งเกิดแก่ Sam Mendes อย่างถ่องแท้

หลังจากนั้นเจ้าตัวก็มากำกับหนังอีกมากมาย แถมมีแต่หนังดี ๆ ทั้งนั้นทุกเรื่องที่เขากำกับ การันตีด้วยคะแนนวิจารณ์และการคว้ารางวัลต่าง ๆ

• Road to Perdition ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) | คว้า 1 ออสการ์ จากการเข้าชิง 6 สาขา + เข้าชิง 1 ลูกโลกทองคำ
• Jarhead ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548)
• Revolutionary Road ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) | เข้าชิง 3 ออสการ์ + คว้า 1 ลูกโลกทองคำ จากการเข้าชิง 4 สาขา
• Away We Go ค.ศ .2009 (พ.ศ. 2552)
• Skyfall ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) | คว้า 2 ออสการ์ จากการเข้าชิง 5 สาขา + คว้า 1 ลูกโลกทองคำ
• King Lear ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)
• Spectre ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) | คว้า 1 ออสการ์ + คว้า 1 ลูกโลกทองคำ
• The Lehman Trilogy ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

และล่าสุด 1917 ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) กับการถ่ายทำแบบ Long-Take เกือบจะทั้งเรื่อง | คว้า 3 รางวัลออสการ์ จากการเข้าชิงมากถึง 10 สาขา + คว้า 2 รางวัลลูกโลกทองคำ จากการเข้าชิง 3 สาขา

ในอนาคตยังมีผลงานการกำกับของเขาให้เราได้ติดตามกัน อย่าง Empire of Light

JASON MOMOA

Joseph Jason Namakaeha Momoa เกิดวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) ที่ Honolulu, Hawaii ประเทศอเมริกา

เขาถูกเลี้ยงดูและเติบโตขึ้นที่ Norwalk, Iowa โดยแม่ของเขา แต่หลังจากเขาเรียนจบมัธยมปลาย เขาก็ได้ย้ายไปอยู่ Hawaii ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นการเป็นนักแสดงของเขา

เขาได้รับบทนำจากการออดิชั่นชนะคนกว่าพันคนในซีรีส์ Baywatch ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) และเมื่อซีรีส์นี้จบลง เขาก็ใช้เวลา 2-3 ปีท่องเที่ยวรอบโลก

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) เขาก็ได้เดินทางมายัง Los Angeles เพื่อไล่ล่าทำตามความฝันการเป็นนักแสดงอาชีพของเขา

ปี 2004 เขาได้แสดงในซีรีส์เรื่อง North Shore และหลังจากซีรีสืนี้เขาก็ได้ไปรับบท Ronon Dex ในซีรีส์ Stargate: Atlantis จนทำให้เจ้าตัวเริ่มมีชื่อเสียงและหลายคนรู้จักในวงกว้างมากขึ้น

แต่จุดเปลี่ยนในอาชีพการแสดงของเขาเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) เมื่อเขาได้รับบทเป็น Dothraki "Khal Drogo" ในสุดยอดซีรีส์แห่งยุคมหาศึกชิงบัลลังก์ Game of Thrones ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) และนั่นทำให้ชื่อของเขาโด่งดังไปทั่วโลก

หลังจากนั้นงานก็เริ่มมาหาเขาเอง ทั้ง Bullet to the Head ค.ศ .2012 (พ.ศ. 2555), Road to Paloma ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), ซีรีส์ The Red Road ค.ศ. 2014-2015 (พ.ศ. 2557-2558)

จนกระทั่งมาถึงจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยนในอาชีพการแสดงอีกครั้ง กับบทบาท Aquaman ในจักรวาล DCEU ที่ปรากฏตัวครั้งแรกในเรื่อง Batman v Superman: Dawn of Justice ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) ที่ในภาคนี้เขาอาจจะยังไม่โดดเด่นเท่าไหร่

และตามมาด้วยการปรากฏตัวอีกครั้งใน Justice League ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) ด้วยความที่หนังโดนจวกยับ บทบาทของเขาก็ยังไม่โดดเด่นเท่าที่ควรจริง ๆ แต่นั่นมันนำพาซึ่งผลงานอันยอดเยี่ยมของเขา Aquaman ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561)

Aquaman ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) คือหนังเดี่ยวของเจ้าตัวที่ได้รับเสียงชื่นชมในหลายๆ ด้านจนได้คะแนนเป็นอันดับต้น ๆ ของจักรวาล DCEU เลยทีเดียว และทำรายได้ไปถึง 1,148 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 35,800 ล้านบาท) ทั่วทั้งโลก ซึ่งแน่นอนว่าบทบาทของเขายังไม่จบแค่นี้ เพราะมันได้มีภาคต่อ Aquaman 2 หรือในชื่อ Aquaman and the Lost Kingdom ที่มีกำหนดการฉายในปี ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

ในตอนนี้ก็ยังมีผลงานของเขาให้เราเห็นกับซีรีส์ทาง Apple TV+ เรื่อง See ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และผลงานอีกมากมายในอนาคตที่น่าสนใจทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Dune ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Sweet Girl ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), The Last Manhunt, Slumberland ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) และ Cliffhanger

2 สิงหาคม

WES CRAVEN

ชื่อของ Wes Craven กลายเป็นชื่อที่พ่วงมาด้วยความหมายของหนังแนวสยองขวัญล้ำสมัย ที่ท้าทายคนดูด้วยวิสัยทัศน์อันหาญกล้า แต่น่าเสียดายที่เขาได้จากโลกนี้ไปแล้ว

Wesley Earl Craven เกิดวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1939 (พ.ศ. 2482) ที่ Cleveland, Ohio ประเทศอเมริกา

ผลงานการกำกับหนังเรื่องแรกของเขาคือ The Last House on the Left ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515) หนังแนวสยองขวัญระทึกขวัญ ที่ไม่เพียงแต่กำกับเท่านั้น เจ้าตัวยังเป็นคนเขียนบทและตัดต่อเองด้วย

หลังจากนั้นเขาก็มาลับฝีมือกำกับหนังสยองขวัญ ระทึกขวัญอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น The Hills Have Eyes ค.ศ. 1977 (พ.ศ. 2520), Deadly Blessing ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524), Swamp Thing ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525)

จนกระทั่งเขามาให้กำเนิดไอค่อนแห่งวงการหนังเชือด (slasher) กับตัวละครอย่าง Freddy Kruger ในหนังเรื่อง A Nightmare on Elm Street ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) ที่เจ้าตัวทั้งกำกับและเขียนบทด้วยตัวเอง หนังประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ดังเป็นพลุแตก เด็กหลายต่อหลายคนไม่กล้านอนหลับเพราะกลัว Freddy จะตามไปฆ่าในฝัน ส่งผลให้มีภาคต่อออกมามากมาย (แต่เจ้าตัวไม่ได้กำกับ)

ซึ่ง Craven มักจะชอบหานักแสดงหน้าใหม่ มาในหนังที่ตัวเองแสดง และเขานี่แหละคือคนที่ค้นพบ Johnny Depp นำมาแสดงใน A Nightmare on Elm Street ตามมาด้วย Sharon Stone กับบทบาทการแสดงครั้งแรกใน Deadly Blessing ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524) และ Bruce Willis กับบทบาทครั้งแรกในซีรีส์ Twilight Zone ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528)

หลังจากนั้นเขาก็ยังคงกำกับหนังแนวนี้ที่ตัวเองถนัดมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปี ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) เขาได้ปลุกกระแสหนังแนวเชือดกลับมาอีกครั้ง และคราวนี้ยกระดับหนังที่มากกว่าความระทึกขวัญ ความสยอง มันคือหนังแผนซ้อนแผน หักมุมแล้วหักมุมอีกของหนังแนวเชือด กับผลงาน Scream ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) ที่ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง กลายเป็นอีกหนึ่งไอค่อนตัวละครของหนังแนวเชือดกับ Ghost Face ที่ทุกวันฮาโลวีนต้องมีคนเอาชุดเจ้าตัวนี้มาใส่ และตามมาด้วยภาคต่ออีก Scream 2 ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) และ Scream 3 ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543)

ถึงแม้เขาจะกำกับหนังแนวสยองขวัญระทึกขวัญมาโดยตลอด แต่เขาก็เคยได้กำกับหนังมิวสิคัลดราม่าด้วย กับเรื่อง Music of the Heart ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ซึ่งเขาถูกทาบทามจะ Miramax ให้มากำกับ และในเรื่องนี้มันส่งให้นักแสดงอย่าง Meryl Streep เข้าชิงรางวัลออสการ์ด้วย

และในปีเดียวกันนั้นเขาก็ได้ออกนิยายมาเล่มนึงชื่อว่า The Fountain Society

เขากลับมาในปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) กำกับงานที่ถนัดอีกครั้ง กับเรื่อง Red Eye และ Cursed 

ซึ่งหลังจากนั้นด้วยความที่เจ้าตัวเริ่มมีอายุ เขาเลยหันไปรับหน้าที่อำนวยการสร้างให้กับหนังรีเมคหนังของเขากับเรื่อง The Hills Have Eyes ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) และ The Last House on the Left ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552)

Craven ก็กลับมากำกับหนังแนวเดิมอีกครั้งกับเรื่อง My Soul to Take ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553)

และผลงานการกำกับครั้งสุดท้ายของ Craven คือภาคต่อของแฟรนไชส์เชือดที่ประสบความสำเร็จ กับ Scream 4 ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) ที่ขนทีมนักแสดงหน้าเก่ามากันหมด และแน่นอนว่ายังคงคัดเลือกนักแสดงหน้าใหม่มารับบทในเรื่องนี้ด้วย ที่สำคัญตำนานเรื่องนี้ยังถูกบอกเล่าต่อใน Scream ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) ผลงานการกำกับของ Matt Bettinelli-Olpin และ Tyler Gillett จาก Ready or Not ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ที่ได้นักแสดงหน้าเก่าตัวสำคัญกลับมารับบทอีกด้วย

ช่างน่าเศร้าเสียเหลือเกิน เมื่อ Wes Craven เสียชีวิตจากโรคมะเร็งในสมอง วันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) ปิดตำนานเจ้าพ่อหนังเชือด

แต่เขาก็ได้สร้างตำนาน ตัวละครไอค่อนแห่งวงการหนังเชือด และเป็นแม่แบบให้กับคนทำหนังแนวนี้รุ่นหลังอีกมากมาย

EDWARD FURLONG

Edward Walter Furlong เกิดวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1977 (พ.ศ. 2520) ที่ Glendale, California ประเทศอเมริกา

แต่แรกเดิมที่ Furlong ไม่เคยมีความทะเยอทะยานอยากจะเป็นดาราเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งเขาได้รับการติดต่อจากตัวแทนแคสนักแสดงที่ชื่อว่า Mali Finn เขากำลังหานักแสดงเด็กที่จะมารับบท John Connor ในหนังภาคต่อของ The Terminator ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) กับ Terminator 2: Judgment Day ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) เพราะเขาเชื่ออย่างทันทีว่าเด็กคนนี้มีความสามารถและสามารถเล่นกับ Arnold Schwarzenegger และ Linda Hamilton ได้อย่างแน่นอน

ผลปรากฏว่าตัวหนังฮิตอย่างมาก กลายเป็นปรากฏการณ์ ตัวหนังทำรายได้ไป 520 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 16,255 ล้านบาท) จากทุนสร้าง 102 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,188 ล้านบา่ท)

จากการแสดงในบท John Connor มันส่งให้เขาได้รับรางวัลจาก MTV, Saturn Sci-Fi award สำหรับสาขานักแสดงเด็กยอดเยี่ยม

ซึ่งหลังจากเรื่องนี้ เส้นทางใน Hollywood ของเขานับว่าสดใสมาก ๆ มันนำเขาไปแสดงหนังอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น American Heart ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ที่ส่งให้เขาได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล IFP Spirit award สำหรับสาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยม ตามมาด้วย A Home of Our Own ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536), Little Odessa ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537), The Grass Harp ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) และ Before and After ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2538)

เขายังคงมีงานแสดงมาอย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้เขาได้ร่วมงานกับ Edward Norton ในเรื่อง American History X ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541), Pecker ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541), แสดงร่วมกับ Willem Dafoe ในเรื่อง Animal Factory ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543), The Knight of the Quest ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544)

แต่หลังจากที่เขาจะได้แจ้งเกิดและอนาคตสดใสในวงการ เขาต้องมาเจอกับมรสุมชีวิต ซึ่งสิ่งหลัก ๆ คือ ยาเสพติด

Furlong ติดยาเสพติดหลายชิด รวมถึงแอลกอฮอล์ด้วย ทำให้ชีวิตเขาค่อนข้างล้มเหลวเลยทีเดียวในช่วงนั้น แต่ก็ยังคงมีผลงานออกมาให้เห็นกันบ้าง

นอกเหนือจากการติดยาเสพติด เขายังเคยโดนจับข้อหาทำร้ายร่างกายอีกด้วยถึง 2 ครั้ง แถมลูกชายของเขาวัย 6 ปี ยังเคยตรวจเจอสารเสพติดในร่างกายอย่างน่าตกใจ

เรียกได้ว่าด้วยแสงสีและความหลงระเริงช่วงวัยรุ่นทำให้ชีวิต Furlong เรียกได้ว่าดิ่งลงเหวสุดๆ จากดาวรุ่งที่ใคร ๆ ก็คิดว่าต้องดังแน่ ๆ กลายเป็นดับอย่างไม่มีชิ้นดี ยิ่งโตขึ้นหน้าตารูปร่างยิ่งห่างไกลกับเด็กหนุ่มที่สาวๆ หลายคนกรี๊ดกร๊าดอย่างมาก

มันยิ่งชัดเจนในเรื่องนี้เมื่อ Terminator 3: Rise of the Machines ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) ได้สร้างออกมา เขาตกลงจะให้ Furlong เล่น แต่ด้วยพฤติกรรมที่ได้กล่าวไป ทำให้เขาโดนยกเลิกสัญญาเรียบร้อย

แต่ถึงกระนั้นก็ตามเขาก็ยังมีบทบาทออกมาให้เห็นอยู่เนือง ๆ แต่แน่นอนว่าก็ไม่ได้โดดเด่นหรือดังอะไรเหมือนอย่างหนังแจ้งเกิด T2 เลยแม้แต่น้อย

ล่าสุดกับผลงานที่เพิ่งผ่านพ้นไปกับ Terminator: Dark Fate ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ที่หลายต่อหลายคนถึงกับเฮ เมื่อมีข่าวว่า Furlong จะกลับมารับบท John Connor ทำให้แฟน ๆ ต่างไปตามหากันใหญ่ว่าตอนนี้ Furlong เป็นยังไงบ้างนะ ซึ่งเจ้าตัวก็ดูดีขึ้น เลิกเหล้า เลิกยา รูปร่างอ้วนท้วมสมบูรณ์ และทำให้แฟน ๆ คิดว่าอาจจะฟิตหุ่นกลับมารับบทนี้แน่ ๆ

แต่เหมือนโดนหักหลังกันระนาว เมื่อบทบาทจริง ๆ ที่เขาได้รับคือการ CGI เป็นวัยเด็กแล้วโดนฆ่าทิ้งตั้งแต่ต้นเรื่องซะงั้น จนทำให้แฟนๆ หลายคนถึงกับด่า ว่าจะเอามาให้เสียเวลาทำไม ก็เข้าใจแหละนะว่าจะปูไปสู่เรื่องราวใหม่ ๆ เพียงแต่แฟนเกือบทั้งโลกเห็นตรงกันว่าแค่เปลี่ยนตัวละคร เรื่องราวแทบจะเหมือนเดิมเป๊ะ ๆ และบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "พอเหอะ" กับแฟรนไชส์ คนเหล็กนี้

ในอนาคต Furlong จะมารับบทในหนังสยองขวัญระทึกขวัญเรื่อง The Endless Whisper และในเรื่อง Karma

นับว่าน่าเสียดายจริง ๆ ไม่งั้นตอนนี้เราอาจจะได้เห็น Furlong รับบทสำคัญ ๆ ในวงการ Hollywood ก็เป็นได้

SAM WORTHINGTON

Sam Worthington มีชื่อแต่กำเนิดว่า Samuel Henry J. Worthington เกิดวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519) ที่ Surrey ประเทศอังกฤษ

เมื่อ Worthington อายุได้ 6 เดือน ครอบครัวก็ย้ายมาอยู่ที่ออสเตรเลีย ซึ่งเจ้าตัวก็ถูกเลี้ยงดูและเติบโตที่ Warnbro, Western ออสเตรเลีย

Worthington จบจาก NIDA (National Institute of Dramatic Art) ในปี ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) เมื่ออายุได้ 22 ปี หลังจากนั้นเขาก็ได้มาเอาดีทางด้านการเล่นละครเวที ตามมาด้วยการแสดงทางซีรีส์ในช่องทีวีของออสเตรเลีย ทั้งใน Water Rats ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) และ JAG ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543)

ไม่นาน Worthington ก็ได้เดบิวต์แสดงหนังเรื่องแรก กับหนังออสเตรเลียเรื่อง Bootmen ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ตามมาด้วยบทบาทอย่าง A Matter of Life ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Hart's War ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), Dirty Deeds ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), Gettin' Square ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546)

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547)เขาก็ได้รับบทบาทใหญ่ ได้รับบทนำใน Somersault ตัวหนังคว้ารางวัล 13 สาขาในงาน Australian Film Institute แถมเจ้าตัวยังคว้ารางวัล AFI สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมอีกด้วย

ชื่อของ Worthington เริ่มกลายเป็นที่รู้จักในระดับสากล มาแสดงหนังทางฝั่ง Hollywood ประเดิมกับบท Jake Sully ในหนังชื่อดังของ James Cameron เรื่อง Avatar ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) ตามมาด้วย Terminator Salvation ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552)

และหลังจากนั้นก็มีผลงานใน Hollywood ตามมาอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Clash of the Titans ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), The Debt ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Texas Killing Fields ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Man on a Ledge ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Wrath of the Titans ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Everest ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Hacksaw Ridge ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), The Hunter's Prayer ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), ซีรีส์ Manhunt ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), The Titan ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) และล่าสุดกับผลงาน Lansky

นอกเหนือจากนั้นเจ้าตัวยังเคยให้เสียงพากย์ในเกมแฟรนไชส์ Call of Duty กับบท Alex Mason ทั้งใน Black Ops ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Black Ops II ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) และ Black Ops 4 ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561)

ในอนาคตยังมีผลงานของเขาอีกมากมาย ทั้ง The Georgetown Project ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2563), Seacole ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2563), Transfusion, The Last Son, Gypsy Moon, มินิซีรีส์ Fires (2021), CounterPlay, Alphas และภาคต่อ Avatar 2 ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Avatar 3 ค.ศ. 2024 (พ.ศ. 2567), Avatar 4 ค.ศ. 2026 (พ.ศ. 2569), Avatar 5 ค.ศ. 2028 (พ.ศ. 2571)

ในปี ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) Worthington ได้ก่อตั้งบริษัทโปรดักชันในชื่อ Full Clip Productions ร่วมกับเพื่อนสนิทสองคนอย่าง John Schwarz และ Michael Schwarz โดยตัวบริษัทได้ร่วมกับ Radical studios ได้ทำนิยายภาพมาสองเรื่องในชื่อ Damged และ Patriots

3 สิงหาคม

EVANGELINE LILLY

Nicole Evangeline Lilly เกิดวันที่ 3 สิงหาคม ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) ที่ Fort Saskatchewan, Alberta ประเทศแคนาดา

เธอถูกค้นพบความสามารถในการแสดงบนถนนที่ Kelowna, British Columbia โดยโมเดลลิ่งชื่อดัง แต่ถึงกระนั้นเธอกลับปฏิเสธ เพราะเธอไม่ได้อยากเป็นนางแบบ แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังอยากเซ็นสัญญากับทาง Ford อยุ่ดี เพื่อช่วยจ่ายค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายในตอนเรียนมหาวิทยาลัย

บทบาทในการแสดงครั้งแรกของเธอคือในซีรีส์ Judgement Day ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) กับบทบาทเล็ก ๆ และได้เล่นหนังอีกบางเรื่องแต่ก็เป็นบทบาทเล็ก ๆ เช่นกัน จริง ๆ เธอได้ปรากฏในหนังหลายเรื่อง Tru Calling ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Dead Like Me ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Smallville ค.ศ. 2002-2004 (พ.ศ. 2545-2547), White Chicks ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Stealing Sinatra ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Freddy vs. Jason ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) แต่ก็ได้รับเงินเล็กน้อยเพื่อไปจ่ายค่าเล่าเรียนมหาวิทยาลัยเท่านั้น

จนกระทั่งเธอได้มารับบทเด่นขึ้นมาในซีรีส์ Lost ค.ศ. 2004-2010 (พ.ศ. 2547-2553) กับบทบาท Kate Austen และชื่อของเธอก็เริ่มมีคนรู้จักตั้งแต่ตอนนั้น และเธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำในปี ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) กับบทบาทในเรื่อง Lost ด้วย แถมเข้าชิงอีกหลายครั้งกับรางวัล Saturn Award

เธอเริ่มได้รับบทใหญ่ขึ้น เช่นใน Real Steel ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), The Hobbit: The Desolation of Smaug ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), The Hobbit: The Battle of the Five Armies ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)

จนกระทั่งชื่อเสียงของเธอมาโด่งดัง และทำให้คนทั่วโลกรู้จักกับบทบาท Hope van Dyne ในจักรวาล MCU เรื่อง Ant-Man ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) และกลายมาเป็นตัวละครสำคัญ The Wasp ใน Ant-Man and the Wasp ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) แถมยังได้มาปรากฏตัวใน Avengers: Endgame ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) อีกด้วย และบทบาทของเธอนี้ยังคงได้แสดงต่อใน Ant-Man and the Wasp: Quantumania ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2565)

ในอนาคตเธอยังมีผลงานของเธอให้เราได้ติดตามกันอีกใน South of Heaven ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

4 สิงหาคม

COLE SPROUSE

Cole Mitchell Sprouse เกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ที่ Arezzo, Tuscany ประเทศอิตาลี แต่เขาถูกเลี้ยงดูและเติบโตในย่าน Long Beach ประเทศอเมริกา 

Cole มีพี่ชายฝาแฝดที่ชื่อว่า Dylan Sprouse (Cole เกิดช้ากว่าเพียง 15 นาทีเท่านั้น)

Cole ได้เริ่มต้นอาชีพการแสดงด้วยวัยเพียง 6 เดือนเท่านั้น เขาได้แสดงร่วมกับพี่ชายของเขาในบทบาทเดียวกัน กับซีรีส์ Grace Under Fire ในช่วงปี ค.ศ. 1993-1998 (พ.ศ. 2536-2541)

Cole แสดงด้วยตัวคนเดียวครั้งแรกโดยปราศจากพี่ชายมาแชร์บทในซีรีส์ของช่อง NBC กับเรื่อง Friends ค.ศ. 2000-2002 (พ.ศ. 2543-2545)

ตามมาด้วยบทบาท Julian ในหนังเรื่อง Big Daddy ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ที่แสดงร่วมกับ Adam Sadler และในเรื่องนี้เขาก็ได้แชร์บทบาทกับพี่ชายฝาแฝดเขาอีกเช่นเคย และในช่วงปีเดียวกัน เขาก็ได้แสดงในหนังเรื่อง The Astronaut's Wife ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ที่ได้เข้าฉากกับ Johnny Depp และ Charlize Theron

และในช่วงปี ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) ทั้งคู่ก็ได้มาแชร์บทบาทด้วยกันอีกครั้งในบท Jeremiah ในเรื่อง The Heart Is Deceitful Above All Things ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547)

ด้วยความที่สองพี่น้องฝาแฝดทั้ง Cole และ Dylan ก็มีชื่อพอสมควร เลยทำให้เขาได้ไปแสดงในซิตคอมทางช่อง Disney กับเรื่อง The Suit Life of Zack & Cody ค.ศ. 2005-2008 (พ.ศ. 2548-2551)

ไม่กี่ปีต่อมา Cole ก็ตัดสินใจที่จะเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก และขอพักกับวงการบันเทิงเพื่อไปโฟกัสที่การเรียนเพียงอย่างเดียวก่อน

Cole เรียนจบในปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) และได้เกียรตินิยมอีกด้วย ทันทีที่เขาเรียนจบ เขาได้ถูกจองตัวให้เล่นซีรีส์เรื่องนึง ในบทบาทของ Jughead เรื่อง Riverdale ค.ศ. 2017-2021 (พ.ศ. 2560-2564)

หลังจากซีรีส์ได้ฉายออกมา นั่นทำให้เขาดังเป็นพลุแตก ด้วยการแสดง ใบหน้าอันหล่อเหลา ต่างได้อกได้ใจแฟน ๆ แทบทุกคนที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้

ด้วยความโด่งดังแบบฉุดไม่อยู่ เขาจึงได้กลับมาเล่นหนังใหญ่อีกครั้งในเรื่อง Five Feet Apart ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) หนังสุดดราม่าโรแมนติคที่เรียกได้ว่าหล่อทะลุบทบทของคนป่วยไปเลย

และที่เพิ่งจบไปไม่นานกับผลงานในซีรีส์ Borrasca ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) แถมในอนาคตยังมีผลงานการแสดงในหนังให้เห็นกันอีก 2 เรื่อง กับ Moonshot และ Undercover

Cole นอกเหนือจากการแสดงแล้ว เขายังมีความสามารถด้านอื่น ๆ อีกด้วย เช่นในด้านกีฬา เขาเล่นสโนบอร์ดเป็นตั้งแต่อายุเพียง 4 ขวบเท่านั้น แถมยังเคยได้เข้าชิงรางวัล MVP จากการแข่งขันฟุตบอลในช่วงที่เขาอยู่ช่อง Disney อีกด้วย

เขาชื่นชอบการถ่ายรูป และเรียนรู้มันอย่างจริงจัง เขาเคยเป็นช่างถ่ายภาพท่องเที่ยวและแฟชั่น จนได้ไปถ่ายรูป Kendal Jenner ให้กับนิตยสาร The Sunday Times Style

ด้วยความหล่อเหลาที่ทำให้สาว ๆ กรี๊ด บวกกับความสามารถที่หลากหลาย และการแสดงที่ยอดเยี่ยม จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมชื่อของ Cole Sprouse ถึงได้ถูกพูดถึงและได้รับเสียงชื่นชมมากมายในทุกวันนี้

5 สิงหาคม

JAMES GUNN

James Francis Gunn Jr. เกิดวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 1966 (พ.ศ. 2509) ที่ St. Louis, Missouri ประเทศอเมริกา 

James Gunn ชื่อชอบการเขียนและการแสดงมาตั้งแต่เขาจำความได้ ซึ่งเขาเคยใช้กล้องฟิล์ม 8mm ถ่ายทำหนังตั้งแต่อายุเพียง 12 ปี ส่วนมากจะเป็นหนังตลกที่ทำกับน้องชายเขามีซอมบี้เข้ามาเกี่ยวข้อง

James Gunn ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา Saint Louis University High (SLUH) แต่ไม่นานเขาก็ลาออกเพื่อมาเดินทางสายดนตรีแทน

the Icons คือชื่อวงดนตรีของ James Gunn ที่ได้ปล่อยออกมา 1 อัลบั้มถ้วน Mom, We Like It Here on Earth ซึ่งเขาได้เงินเล็กน้อยจากการทำวงนี้ด้วย และในขณะเดียวกันเขาก็ยังทำงานที่ Tucson, Arisona และยังได้มีโอกาสเขียนและวาดคอมิกส์ใต้ดิน รวมถึงวาดให้กับหนังสือพิมพ์ด้วย

หลังจากนั้น James Gunn ก็กลับมาเรียนอีกครั้งและเรียนจบ จนเจ้าตัวได้ย้ายไปยัง New York เพื่อไปเรียนด้านการเขียนที่ Columbia University ซึ่งทุกวันนี้เขาบอกว่ามันเป็นการเรียนที่โคตรแพงและเสียเวลามาก 

หลังจากเขาเรียนจบ เขาก็ได้เริ่มเขียนนิยายเรื่อง The Toy Collector ที่อิงเรื่องราวมาจากชีวิตจริงของเขาในตอนเขาทำงานที่ Arisona และตอนนี้มันคือช่วงเวลาเดียวกับที่เขาได้ร่วมงานกับ Troma Studios เป็นบริษัททำหนังเกรดบี 

ในขณะที่ James Gunn ได้ทำงานที่ Troma Studios เขาได้มีโอกาสเขียนบทและอำนวยการสร้างหนังเรื่อง Tromeo and Juliet ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) หนังคัลท์คลาสสิคเรื่องนึง และได้ร่วมกับ Lloyd Kaufman เขียนบทเรื่อง All I Need to Know about Filmmaking I Learned from the Toxic Avenger

ไม่นาน James Gunn ก็ได้ลาออกจาก Troma Studios และย้ายจาก New York มายัง Los Angeles ซึ่งเขาได้เริ่มเขียนบทและแสดงในหนังเรื่อง The Specials ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ร่วมกับ Rob Lowe, Jamie Kennedy, Thomas J. Churchill และน้องชายของเขา Sean Gunn 

เขามีโอกาสได้เขียนบทอีก 2 เรื่องให้กับทาง Warner Brothers นั่นก็คือเรื่อง Spy vs. Spy ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) และ Scooby-Doo ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)

ในปี 1999 เป็นช่วงเวลาเกือบ 5 ปี เขาก็ได้เขียนนิยาย The Toy Collector ของเขาเสร็จสมบูรณ์ หลังจากนั้นเขาก็ได้มาเขียนบทหนังเรื่อง Scooby-Doo 2: Monsters Unleashed ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) 

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้มีผลงานเดบิวต์การกำกับหนังครั้งแรกกับเรื่อง Slither ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) และนับว่าเป็นการเปิดตัวการกำกับที่ดีเลยทีเดียว หลายคนเริ่มรู้จักชื่อของเขาขึ้นมา ตามมาด้วยผลงานการกำกับหนังฮีโร่ Super ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553)

จนกระทั่งชื่อของเขาดังกระฉ่อนไปทั่วโลก กับผลงานการกำกับหนังในจักรวาล MCU เรื่อง Guardians of the Galaxy ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) และจากความสำเร็จก็ส่งให้เขาได้มากำกับภาคต่อ Guardians of the Galaxy Vol. 2 ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) อีกด้วย

แต่ก็มีกระแสดราม่าช่วงหนึ่งจากข้อความที่เขาเคยทวีตไว้ในอดีตเกี่ยวกับเรื่องเพศ จนทำให้โดนทาง Disney ไล่ออก หมดสิทธิการกำกับหนัง Guardians of the Galaxy Vol. 3 ไปโดยปริยาย ซึ่งในระหว่างนั้นเขาก็ได้ไปกำกับหนังให้กับค่ายคู่แข่งเสียด้วย กับ The Suicide Squad ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) 

แต่ถึงกระนั้น ล่าสุดก็ได้เคลียร์กับเรียบร้อย และเป็นเขาคนเดิมที่มากำกับ GOTG Vol.3 ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566) ถืออว่าลงเอยไปด้วยดี และเป็นบทเรียนอันลืมไม่ลงของ James Gunn 

และเท่านั้นยังไม่พอ เจ้าตัวยังต่อยอดทำซีรีส์แยกจากหนัง The Suicide Squad ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) กับซีรีส์เรื่อง Peacemaker ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) ที่เจ้าตัวรับหน้าที่กำกับเองด้วย

6 สิงหาคม

MICHELLE YEOH

Michelle Yeoh มีชื่อจริงแต่กำเนิดว่า Yeoh Chu-Kheng เกิดวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1962 (พ.ศ. 2505) ที่ Ipoh, Perak ประเทศมาเลเซีย

ในตอนเด็กเธอได้ย้ายมายัง London ประเทศอังกฤษ และเข้าเรียนที่นั่น

เธอมีความสนใจในด้านการเต้นบัลเลต์มาตั้งแต่อายุ 4 ปี และนอกเหนือจากนั้นเธอยังมีความงามที่เตะตาต้องใจ เธอเคยคว้ารางวัลการประกวดนางงามในมาเลเซียและคว้ารางวัล MIss Moomba ในประเทศ Austrailia ช่วงต้นปี ค.ศ. 1980s (พ.ศ. 2523-2532) อีกด้วย

เธอออกหน้ากล้องครั้งแรกในปี ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) กับหนังเรื่อง The Owl vs Bombo ตามมาด้วยการร่วมงานกับเฉินหลงใน Twinkle, Twinkle, Lucky Stars ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) และแสดงนำครั้งแรกในเรื่อง Yes, Madam! ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) ถึงแม้จะเป็นหนังแอ็คชัน แต่ตัวเธอไม่เคยฝึกศิลปะการต่อสู้เลย เธอใช้ทักษะทางด้านการเต้นของเธอปรับเพื่อนำมาใช้แสดงฉากแอ็คชันในหนังเรื่องนั้น ๆ เพราะส่วนมากฉากสตั๊นท์เธอจะรับหน้าที่แสดงเองหมด และเธอก็ได้รับบาดเจ็บหลายครั้งจากการทำเช่นนี้

ในตอนแรก ๆ เธอไม่สามารถอ่านบทภาษาจีนได้ จนทำให้เธอต้องวานคนจีนมาอ่านบทให้เธอฟัง

ในช่วงปี ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) เธอได้แต่งงานกับ Dickson Poon และพักจากงานแสดงไปชั่วคราว แต่ภายหลังในปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ทั้งคู่ก็หย่ากัน แต่ภายหลังเธอก็กลับมารับงานแสดงต่อและกลายเป็นมีชื่อเสียงกว่าเดิม มีฐานแฟนคลับคนจีนมากมายติดตามและเธอยังกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นในฝั่งตะวันตก เมื่อเธอมารับบทในหนัง James Bond เรื่อง Tomorrow Never Dies ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) และใน Crouching Tiger, Hidden Dragon ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ซึ่งเธอเกือบจะได้เล่นภาคต่อ The Matrix ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) แต่ตัวเธอปฏิเสธไป

หลังจากนั้นยังมีผลงานเธอให้เราได้ติดตามอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น The Mummy: Tomb of the Dragon Emperor ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Kung Fu Panda 2 ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), The Lady ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Final Recipe ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Mechanic: Resurrection ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Morgan ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Guardians of the Galaxy Vol. 2 ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Crazy Rich Asians ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Master Z ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Last Christmas ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), ซีรีส์ Star Trek: Discovery ค.ศ. 2017-2020 (พ.ศ. 2560-2563), Gunpowder Milkshake ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Boss Level ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

และในอนาคตยังมีผลงานของเธอให้เราได้ติดตามกันอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Minions: The Rise of Gru ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Avatar 2 ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), The School for Good and Evil ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Avatar 3 ค.ศ. 2024 (พ.ศ. 2567), Nezha, Everything Everywhere All at Once, Blazing Samurai ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), ซีรีส์ ARK: The Animated Series ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), The Tiger's Apprentice ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566), Avatar 4 ค.ศ. 2026 (พ.ศ. 2569), Avatar 5 ค.ศ. 2028 (พ.ศ. 2571) และซีรีส์ The Witcher: Blood Origin

เธอได้ก่อตั้งบริษัทโปรดักชั่นของตัวเองในชื่อ Mythical Films โดยเธอหวังว่าจะใช้บริษัทนี้เพื่อค้นหาและสร้างหนังใหม่ ๆ นอกจากนี้เธอยังต้องการแสดงหนังที่ผสมผสานความเป็นหนังแอ็คชันและมีจิตวิญญาณที่ลึกซึ้ง

M. NIGHT SHAYAMALAN

Manoj Nelliyattu Shyamalan เกิดวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513) ที่ประเทศอินเดีย

แท้จริงแล้วตัวเขามีพ่อแม่เป็นแพทย์ แต่ตัวเขาเองมีความสนใจในการทำหนังมาตั้งแต่ยังเด็ก และตอนอายุเพียง 8 ขวบ เขาก็เริ่มถ่ายทำหนังแล้ว ซึ่งไอดอลของเขาก็คือ Steven Spielberg

เขากำกับหนังเรื่องแรกในชีวิตกับเรื่อง Praying with Anger ค.ศ .1992 (พ.ศ. 2535) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการที่เขาได้เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่อินเดีย โดยในโปรเจ็คนั้น เขาต้องเรี่ยรายเงินเพื่อหาทุนมาทำหนัง และตัวเขาเองก็กำกับ อำนวยการสร้าง แถมยังร่วมแสดงในเรื่องนั้นเองด้วย ตามมาด้วยในปีต่อมาเขาก็กำกับและเขียนบทในเรื่อง Wide Awake ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541)

ก่อนที่จะสร้างชื่อให้ตัวเองในเรื่อง The Sixth Sense ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) แสดงนำโดย Bruce Willis และ Haley Joel Osment กับเรื่องราวของเด็กชายที่เห็นผีตลอดเวลา จึงได้รับความช่วยเหลือจากจิตแพทย์เด็ก ที่นำเรื่องราวไปสู่ความลี้ลับสุดสยองขวัญ เล่นจนคนดูอ้าปากค้าง ที่ภายหลังแนวลึกลับ เขย่าขวัญ ระทึกขวัญ ก็ได้กลายมาเป็นแนวทางหลักในการทำหนังเรื่องต่อ ๆ ไปของเขาไปโดยปริยาย

โดยใน The Sixth Sense ได้รับการขนานนามว่าเป็น “หนังที่มีตอนจบที่ดีที่สุดตลอดกาล” แจ้งเกิดให้กับเขาแบบสุด ๆ

ด้วยความสุดยอดของเรื่องนี้ส่งผลให้มันเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 6 สาขา

• Best Picture
• Best Actor in a Supporting Role
• Best Actress in a Supporting Role
• Best Director
• Best Writing, Screenplay Written Directly for the Screen
• Best Film Editing

และเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีก 2 สาขา

• Best Performance by an Actor in a Supporting Role in a Motion Picture
• Best Screenplay - Motion Picture

ต่อมา Shyamalan ก็ได้กลับมาร่วมงานกับ Bruce Willis อีก ในเรื่อง Unbreakable ค.ศ 2000 (พ.ศ. 2543) หนังที่เราไม่คิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นไตรภาค Split ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Glass ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และมันคือภาคเปิดที่ยอดเยี่ยมมาก มันคือหนังฮีโร่ที่สมจริงสุด ๆ

ตามมาด้วยหนัง Sci-fi เรื่อง Signs ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) กับหนังว่าด้วยเรื่องเอเลี่ยนบุกโลกแต่ทั้งเรื่องเราแทบไม่เห็นตัวเอเลี่ยนจะ ๆ เลย แต่มันกลับทำให้เรารู้สึกหวาดกลัวระแวงระวังเหมือนสิ่งที่ตัวละครในหนังเจอ

Shyamalan ก็ยังคงกำกับหนังโดยยึดแนวทางนี้มาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง The Village ค.ศ .2004 (พ.ศ. 2547), Lady in the Water ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), The Happening ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) ที่ทั้ง 3 เรื่องนี้ได้รับคำวิจารณ์ไม่ดีเหมือนเรื่องที่ผ่านๆ มา

แต่ไม่มีอะไรเป็นหนังที่ย่ำแย่ที่สุดในชีวิตการกำกับของ Shyamalan ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนั้นเขาคิดอะไรอยู่ มาฉีกแนวทำหนังแนวนี้เฉยเลย กับ The Last Airbender ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) พูดเลยว่ายับ...

แต่ในปีเดียวกันนั้นก็มีอีกหนึ่งผลงานการอำนวยการสร้างและเขียนบทของ Shyamalan ที่นับว่าไม่ธรรมดาเช่นกัน กับเรื่อง Devil ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553)

และเหมือนเฮียแกก็ยังไม่เข็ด อยากลองพิสูจน์ว่าทำหนังแนวอื่นได้อีกครั้งง และก็ไปลงเอยกับ After Earth ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) ที่กระแสวิจารณ์อาจไม่ยับเท่าเรื่องก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่ใกล้เคียงกับคำว่าดีเลยแม้แต่น้อย

จนแล้วจนรอด Shyamalan ก็กลับมาทำหนังแนวถนัดอีกครั้งจนคลอดออกมาเป็น The Visit ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) ที่กู้ชื่อเสียงมาอีกครั้ง และเหมือนจะคิดได้ว่ากลับมาทำแนวนี้เถอะ

ล่าสุดเจ้าตัวหันไปกำกับซีรีส์ Servant ค.ศ. 2019-2020 (พ.ศ. 2562-2563) 2 ตอน ซึ่งลงให้กับทาง Apple TV+ และอำนวยการสร้างอีกหลายตอน ตามมาด้วยผลงานหนังเรื่อง Old ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

ในอนาคตยังมีอีกผลงานของเขาให้เราได้ติดตามกับ Labor of Love หนังแนวดราม่า ลึกลับ โรแมนติก

VERA FARMIGA

Vera Ann Farmiga เป็นลูกคนที่ 2 จากทั้งหมด 7 คน เกิดวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1973 (พ.ศ. 2516) ที่ Clifton, New Jersey ประเทศอเมริกา

Vera เป็นเด็กผู้หญิงขี้อาย สายตาสั้น เธอชื่นชอบการเล่นเปียโนและการเต้นรำเป็นอย่างมาก

ในปี ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) เธอจบจากชั้นมัธยมปลายโดยมีความใฝ่ฝันอยากเป็นจักษุแพทย์ แต่ภายหลังเธอก็เปลี่ยนใจผันตัวมาเรียนการแสดงที่มหาวิทยาลัย Syracuse จนเรียนจบในปี ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538)

หลังเรียนจบไม่นานเธอก็เริ่มต้นอาชีพการเป็นนักแสดงทันทีด้วยการแสดงละครบรอดเวย์ และไม่นานเธอก็ได้บทนำครั้งแรกในซีรีส์ทางทีวีเรื่อง Roar ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540)

ในปี ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) เธอก็ได้เดบิวต์กับการแสดงหนังจอใหญ่ครั้งแรกกับเรื่อง Return to Paradise ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) ตามมาด้วยผลงานอีกมากมาย The Opportunists ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542), Autumn in New York ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543), Down to the Bone ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) ในเรื่องนี้เธอคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนัง Sundance และ Los Angeles Film Critics Association ด้วย, The Manchurian Candidate ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Running Scared ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Breaking and Entering ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), The Departed ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549)

การแสดงของเธอพัฒนามาอย่างต่อเนื่องและเป็นที่ประจักษ์ใน Up in the Air ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) ที่ส่งให้เธอเข้าชิงรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำ นั่นก็ทำให้ผลงานของเธอมีมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะใน Orphan ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), Higher Ground ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Source Code ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), เข้าชิงรางวัล Primetime Emmy Awards จากซีรีส์ Bates Motel ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), The Commuter ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Godzilla: King of the Monsters ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และเข้าชิงรางวัล Primetime Emmy Awards อีกครั้งจากเรื่อง When They See Us ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

เชื่อว่าหลายต่อหลายคนคงคุ้นเคยเธอจากบทบาท Lorraine Warren เป็นแน่แท้ จากในจักรวาลคนเรียกผี ตั้งแต่ The Conjuring ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), The Conjuring 2 ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), The Nun ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Annabelle Comes Home ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), The Conjuring: The Devil Made Me Do It ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

ในอนาคตยังมีผลงานของเธอให้เราได้ติดตามกันอีกมากมาย The Many Saints of Newark ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), The Salamander Lives Twice, Five Days at Memorial และซีรีส์ Hawkeye ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

LESLIE ODOM JR.

Leslie Odom Jr. เกิดวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524) ที่ Queens, New York ประเทศอเมริกา

ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาถูกเลี้ยงดูและเติบโตที่ Philadelphia กับพ่อแม่และน้องสาวของเขา เขาเรียนจบจากมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon ใน Pittsburgn, Pennsylvania หลังจากเรียนจบเขาก็ย้ายมายัง Los Angeles ในหน้าร้อนปี ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546)

Odom Jr. ได้เริ่มต้นกับการแสดงละครเวทีบรอดเวย์ และได้ไปปรากฏตัวบทเล็ก ๆ ในซีรีส์หลายเรื่อง ทั้ง The Big House ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Threshold ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Gilmore Girls ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549)

แต่จุดเปลี่ยนของเขาคือการได้รับบทในซีรีส์ CSI: Miami ค.ศ. 2003-2006 (พ.ศ. 2546-2549) ซึ่งมันก็ได้สร้างชื่อเสียงทำให้เขามีโอกาสทางการแสดงอีกมากมาย ทั้งในซีรีส์ Vanished ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), ซีรีส์ Big Day ค.ศ. 2006-2007 (พ.ศ. 2549-2550) และได้มาแสดงหนังครั้งแรกในเรื่อง Red Tails ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)

Odom Jr. ยังคงมีบทบาทมาอย่างต่อเนื่องทั้งในซีรีส์ Smash ค.ศ. 2012-2013 (พ.ศ. 2555-2556), ซีรีส์ Law & Order: Special Victims Unit ค.ศ. 2013-2015 (พ.ศ. 2556-2558), Murder on the Orient Express ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Only ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Music ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

เคยเข้าชิงรางวัลออสการ์ 2 สาขา Original Song กับ Best Performance by an Actor in a Supporting Role จากเรื่อง One Night in Miami...ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 2 สาขา Best Original Song - Motion Picture กับ Best Performance by an Actor in a Supporting Role in a Motion Picture จากในเรื่องเดียวกัน

แถมยังเคยเข้าชิงรางวัล Primetime Emmy Awards อีก 2 ครั้ง จากเรื่อง Central Park ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และ Hamilton ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

ในอนาคตเจ้าตัวยังมีบทบาทอีกทั้งใน The Many Saints of Newark ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Needle in a Timestack, โปรเจคที่ร่วมงานกับ Kerry Washington และ Knives Out 2 ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

7 สิงหาคม

MICHAEL SHANNON

Michael Corbett Shannon เกิดวันที่ 7 สิงหาคม ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517) ที่ Lexington, Kentucky ประเทศอเมริกา

Shannon เริ่มต้นอาชีพการแสดงกับการเล่นละครเวทีอาชีพที่ Chicago โดยบทบาทแรกที่เขาได้รับคือในเรื่อง Winterset ในโรงละคร Illinois Theatre Center

ไม่กี่ปีถัดมาเขาก็ยังคงเดินสายในการแสดงละครเวทีและได้เข้าร่วมกับบริษัทต่าง ๆ มากมาย จนได้ย้ายมาอยู่ที่ London เป็นเวลา 1 ปี และแสดงละครเวทีอีกหลายเรื่อง เช่น Woyzeck, Killer Joe และ Bug

และเมื่อเขากลับมาที่ Chicago ชีวิตของ Shannon เริ่มไม่ว่าง เพราะเขาได้ไปออกกล้องแสดงหนังและเล่นซีรีส์อีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะ Groundhog Day ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536), Chicago Cab ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540), Early Edition ค.ศ. 1998-1999 (พ.ศ. 2541-2542)

จนทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียง และส่งให้เขาได้เข้าวงการ Hollywood ร่วมงานกับผู้กำกับและนักแสดงชื่อดังมากมาย ทั้งในเรื่อง Pearl Harbor ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) ที่ได้ร่วมงานกับ Michael Bay แสดงร่วมกับ Ben Affleck, Vanilla Sky ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) แสดงร่วมกับ Tom Cruise ร่วมด้วย Penélope Cruz และ Cameron Diaz, 8 Miles ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) ร่วมงานกับผู้กำกับ Curtis Hanson และแสดงร่วมกับนักร้องชื่อดัง Eminem, กลับมาร่วมงานกับ Michael Bay อีกครั้งใน Bad Boys II ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) แสดงร่วมกับ Will Smith และ Martin Lawrence

เขาเริ่มก่อร่างสร้างชื่อเสียงขึ้นมาเรื่อย ๆ พร้อมด้วยผลงานอีกมากมาย จนกระทั่งบทบาทใน Revolutionary Road ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) ที่การันตีความยอดเยี่ยมในการแสดงของเขา ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งแรกในชีวิต กับสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Best Performance by an Actor in a Supporting Role) แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้ไป และในปีนั้นรางวัลนี้ตกไปเป็นของ Heath Ledger กับบทบาท Joker ใน The Dark Knight ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551)

แต่บทบาทและชื่อเสียงของเขาก็ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง และยังคงสร้างการแสดงคุณภาพเอาไว้มากมาย เช่น บทบาท General Zod ใน Man of Steel ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), 99 Homes ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Best Performance by an Actor in a Supporting Role in a Motion Picture), Nocturnal Animals ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งที่ 2 กับสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Best Performance by an Actor in a Supporting Role), Elvis & Nixon ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), The Shape of Water ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Knives Out ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), The Quarry ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563), Echo Boomers ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

ในอนาคตยังมีผลงานของเขาอีกมากมาย ทั้งหนังและซีรีส์ ไม่ว่าจะเป็น Swing, ซีรีส์ Nine Perfect Strangers ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Bullet Train ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), หนังของ David O. Russell, Shriver และซีรีส์ The Playboy Interview

CHARLIZE THERON

Charlie หรือ Charlize Theron เกิดวันที่ 7 สิงหาคม ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) ที่ Benoni, Transvaal, South Africa

เธอได้รับการศึกษาในฐานะนักเต้นบัลเล่ต์และทำให้เธอได้เต้นทั้งใน Swan Lake และ The Nutcracker แต่ถึงกระนั้นนักแสดงหญิงและนักเต้นไม่ค่อยมีงานมากนักในแถบ South Africa เธอจึงตัดสินใจเก็บกระเป๋าออกเดินทางไปตามความฝันที่ยุโรปและอเมริกา

และเธอก็ได้งานที่ Joffrey Ballet ที่ New York แถมเธอยังได้รับโอกาสทำอาชีพที่เธอไม่เคยทำด้วย กับการเป็นนางแบบ และช่างโชคร้ายเหลือเกินอุบัติเหตุที่เข่าของเธอ มันทำให้ความฝันในการเป็นนักเต้นของเธอต้องจบลง

ในปี ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) แม่ของเธอได้ซื้อตั๋วเที่ยวเดียวให้เธอเดินทางไปยังนครแห่งดารา Los Angeles โดยหวังว่าจะเธอจะได้เป็นดาราจริงๆ ทำให้ Charlize ตัดสินใจทุ่มสุดตัว เทหมดหน้าตักเดินทางไป LA หลังจากไปถึงเธอได้ไปติดต่อตัวแทนมากมายทั่ว Hollywood Boulevard แต่โชคร้ายที่ไม่มีใครสนใจเธอเลยสักนิดเดียว เธอจึงเดินไปธนาคารและกดเงิน 500 ดอลลาร์ที่แม่เธอให้ไว้ออกมา แต่เธอก็ต้องหงุดหงิดว่ามันไม่สามารถกดเงินได้ เพราะมีปัญหาเรื่องเขตให้บริการ เธอทะเลาะกับพนักงานธนาคารสักพัก จนมีแมวมองคนหนึ่งเห็นเธอและโชคก็เข้าข้างเธอ เพราะหลังจากนั้นเพียง 8 เดือนเธอก็ได้รับงานแสดงเรื่องแรก

เธอได้รับบทเล็ก ๆ ในหนังเรื่อง Children of the Corn III: Urban Harvest ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) เล็กจริง ๆ เพราะเธอไม่มีบทพูดสักประโยค แถมยังปรากฏแค่ 3 วินาทีเท่านั้น

แต่นั่นก็เป็นประตูที่เริ่มแง้มให้โอกาสในการแสดงเธอเรื่องต่อไปกับบทบาท Helga Svelgen ในเรื่อง 2 Days in the Valley ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) และเธอได้รับเสียงวิจารณ์ในการแสดงที่ดีเลย มันจึงส่งให้เธอได้รับบทที่ใหญ่ขึ้น กับบทบาท Tina ในหนังของ Tom Hanks และได้แสดงร่วมกับเขาด้วยในหนังเรื่อง That Thing You Do! ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539)

จากบทบาทเหล่านั้น มันส่งผลให้เธอได้รับบทบาทสำคัญในหนังเรื่อง The Devil's Advocate ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) เธอได้แสดงร่วมกับทั้ง Keanu Reeves และ Al Pacino เลยทีเดียว ซึ่งส่งให้ชื่อเสียงของเธอดังกระฉ่อนไปทั่ว จึงเกิดผลงานร่วมกับผู้กำกับและดาราชื่อดังอีกมากมาย ทั้ง Mighty Joe Young ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541), The Cider House Rules ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542), The Legend of Bagger Vance ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543), The Italian Job ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546)

และเธอก็พิสูจน์ฝีมือการแสดงอันยอดเยี่ยมในบทนำเรื่อง Monsters ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) ที่ส่งให้เธอได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำและออสการ์ และเธอสามารถคว้ามันได้ทั้ง 2 รางวัลเลยทีเดียว

ในปีต่อมาเธอก็พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้ง กับผลงานในเรื่อง The Life and Death of Peter Sellers ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) ที่ส่งให้เธอได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ

ตามมาด้วย North Country ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) ที่ส่งให้เธอได้เข้าชิงรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำอีกครั้ง แต่เธอไม่สามารถคว้ามันไปได้

เธอยังคงแสดงผลงานอันโดดเด่น และพิสูจน์ตนเองในอีกหลากหลายบทบาทอยู่ตลอด ทั้งใน Young Adult ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) ที่ส่งให้เธอได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ, Prometheus ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Snow White and the Huntsman ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Mad Max: Fury Road ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), ให้เสียงพากย์แม่ใน Kubo and the Two Strings ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Atomic Blonde ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), The Fate of the Furious ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Tully ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) ส่งให้เธอได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ, Long Shot ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), ให้เสียงพากย์ The Addams Family ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Bombshell ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ที่แสดงได้ตัวแม่จริง ๆ ส่งให้ได้เข้าชิงทั้งออสการ์และลูกโลกทองคำ แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถคว้าไปได้

และผลงานล่าสุดที่เพิ่งผ่านตาไปกับบทบาท Andy หญิงผู้มีพลังวิเศษใน The Old Guard ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ทาง Netflix และบทบาท Cipher ใน F9 ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

ในอนาคตยังมีผลงานของเธอให้เราได้ติดตามกัน ทั้ง The Addams Family 2 ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), The School for Good and Evil ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) และ Atomic Blonds 2

8 สิงหาคม

DUSTIN HOFFMAN

Dustin Lee Hoffman เกิดวันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ. 1937 (พ.ศ. 2480) ที่ Los Angeles, California ประเทศอเมริกา

Hoffman เรียนจบชั้นมัธยมปลายจาก Los Angeles High School ในปี ค.ศ. 1955 (พ.ศ. 2498) และเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย Santa Monica City ไม่นานเขาก็ลาออกเพราะเกรดไม่ดี แต่ก่อนที่เขาจะลาออก เขาได้เข้าเรียนคอสสอนการแสดงเพราะเขาบอกว่าไม่มีใครเรียนทั้งนั้น และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาชื่นชอบการแสดง แต่ป้าของเขาบอกว่า "แกไม่สามารถเป็นนักแสดงได้หรอก แกมันไม่หล่อพอ" นั่นจึงทำให้่เหมือนมันเป็นแรงผลักดันให้เขายิ่งมุ่งมั่นเข้าไปใหญ่

แต่ก่อนที่เขาจะเป็นนักแสดง เขามีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักเปียโน เขาเรียนเปียโนมาตั้งแต่เด็ก ๆ รวมถึงในตอนอยู่มหาวิทยาลัยก็ยังเล่นอยู่บ่อย ๆ จนกระทั่งได้เข้าเรียนการแสดงและเขามอง่วาการแสดงมันง่ายกว่าเยอะเลย และบอกว่าตัวเองไม่มีพรสวรรค์ทางด้านดนตรี ราวกับตัวเองไม่มีหูยังไงยังงั้น

ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากนั้นเขาก็พยายามหาทางเป็นนักแสดงให้ได้ แต่ก็ต้องผ่านงานแปลก ๆ มากมาย เพื่อให้เขาดิ้นรนมีเงินใช้เพื่อไปทดสอบบทต่าง ๆ จนในที่สุดเขาก็มีโอกาสได้แสดงกับการแสดงที่โรงละคร Pasadena Playhouse ตามมาด้วยละครเวทีทั้งในและนอกบรอดเวย์

และแล้วเขาก็ได้มีโอกาสแสดงโฆษณาบ้าง จนมารับบทเล็ก ๆ ในซีรีส์ Naked City ค.ศ .1961-1963 (พ.ศ. 2504-2506), The Defenders ค.ศ. 1962-1965 (พ.ศ. 2505-2508) และได้มาแสดงหนังใหญ่เรื่องแรกในชีวิตกับ The Tiger Makes Out ค.ศ. 1967 (พ.ศ. 2510) และ The Graduate ค.ศ. 1967 (พ.ศ. 2510)

ยิ่งผ่านการแสดงมามากเท่าไหร่ หลายต่อหลายคนก็บอกว่าเขาคือนักแสดงมากความสามารถ จนถูกขนานนามว่าเป็นนักแสดงแบบ Method Acting คือทุกบทที่เขาได้รับ เขามักกลายเป็นตัวละครนั้นไปเลยจริง ๆ และเขาแสดงได้ดีทุกบทบาทที่ได้รับ ผ่านการแสดงอันมากมาย

การแสดงอันยอดเยี่ยมของเขาส่งให้เขาคว้ารางวัลออสการ์มา 2 ครั้ง จากการเข้าชิงทั้งหมด 7 ครั้ง

[WINNER]

• Kramer vs. Kramer ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522)
• Rain Man ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531)

[NOMINEE]

• The Graduate ค.ศ. 1967 (พ.ศ. 2510)
• Midnight Cowboy ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512)
• Lenny ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517)
• Tootsie ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525)
• Wag the Dog ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540)

และบนเวทีลูกโลกทองคำก็เคยคว้ารางวัลไป 5 ครั้ง จากการเข้าชิงทั้งหมด 12 ครั้ง รวมถึงคว้ารางวัล Cecil B. DeMille Award อีก 1 ครั้ง

[WINNER]

• The Graduate ค.ศ. 1967 (พ.ศ. 2510) รางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม
• Kramer vs. Kramer ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522)
• Tootsie ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525)
• Death of a Salesman ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528)
• Rain Man ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531)

[NOMINEE]

• The Graduate ค.ศ. 1967 (พ.ศ. 2510) นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมประเภทตลกหรือดนตรี
• John and Mary ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512)
• Midnight Cowboy ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512)
• Lenny ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517)
• Marathon Man ค.ศ .1976 (พ.ศ. 2519)
• Hook ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534)
• Wag the Dog ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540)
• Last Chance Harvey ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551)

ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ฝากผลงานเอาไว้ใน L'uomo del labirinto ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และในอนาคตยังมีผลงานของเขาให้เราติดตามกันอีกกับ As Sick as They Made Us และ Sam & Kate

9 สิงหาคม

ERIC BANA

Eric Banadinovic เกิดวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2511) ที่ Melbourne, Victoria ประเทศออสเตรเลีย

ในช่วงวัยเด็ก Bana เขาเป็นเด็กหนุ่มที่ฮอตมาก เขาได้รับความนิยมในหมู่เพื่อน ๆ ในเรื่องความสามารถในการสร้างความประทับใจของเขาให้กับครูในการวาดการ์ตุน และในช่วงเวลาเดียวกันนั้นที่เขาตัดสินใจเป็นนักแสดง เพราะเขาได้ดูการแสดงของ Mel Gibson ในเรื่อง Mad Max ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) และจึงตัดสินใจอยากเป็นนักแสดงตั้งแต่นั้น

เขาย้ายมายัง Sydney และได้เริ่มทำงานเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) เขาได้เริ่มต้นการเป็นนักแสดงตลก stand-up comedian ในขณะที่ทำงานเป็น barman ให้โรงแรม Melbourne's Castle Hotel

ในปี ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) เขาได้เดบิวต์อาชีพการแสดงกับบทบาทางทีวีรายการทอล์คโชว์ Tonight Live with Steve Vizard ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) และหลังจากนั้นเขาก็เริ่มมีคนสนใจ จนได้ไปแสดงในซีรีส์ Full Fromtal ค.ศ. 1993-1997 (พ.ศ. 2536-2540) ซึ่งจากการปรากฏตัวในซีรีส์นี้ ชื่อเสียงของเขาก็โด่งดังขึ้นมาทันที เขาได้สร้างความประทับใจให้นักแสดงรุ่นใหญ่ทั้ง Arnold Schwarzenegger, Sylvester Stallone และ Tom Cruse

ในปี 1996 เขาได้สร้างโชว์ของตัวเองขึ้นมาในชื่อ Eric ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) และปล่อยซีรีส์คอเมดี้เรื่อง The Eric Bana Show Live ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) แต่ไม่นานโชว์ก็ถูกยกเลิก เพราะคนดูน้อยเกินไป แต่อย่างไรก็ตามในปีนั้นเขาได้รางวัล Logie Award สำหรับสาขา Most Popular Comedian สำหรับในซีรีส์ที่เขาทำนั้นแหละ

ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็ได้เดบิวต์แสดงหนังใหญ่ครั้งแรกในเรื่อง The Castle ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) กับบทบาทสมทบ

ในปีเดียวกันนั้นเขาได้ถูกทาบทามให้ไปแสดงหนังเรื่องนึง ที่ Bana ต้องเพิ่มน้ำหนักขึ้นอีก 30 ปอนด์ด้วยการกินอาหารขยะ ต้องโกนหัว เขาไปถึงกองถ่ายตั้งแต่ตี 4 เพื่อใช้เวลาหลายชั่วโมงในการแต่งหน้าและทำรอยสัก และนั่นคือในเรื่อง Chopper ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ที่มันส่งให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังแบบสุด ๆ ตัวหนังคว้า 3 รางวัล ของ Australian Film Institute Awards และตัวของ Bana เองก็คว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมของงาน 2000 Stockholm Film Festival และ AFI 2000 Best Actor Award อีกด้วย

หลังจากนั้นเขาก็ไปร่วมแสดงกับนักแสดงและผู้กำกับชื่อดังมากมายในหนังสงครามสุดมัน Black Hawk Down ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), ตามมาด้วยหนังฮีโร่สุดคลั่ง Hulk ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), หนังสงครามอิงประวัติศาสตร์ Troy ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) และร่วมงานกับผู้กำกับ Steven Spielberg และแสดงร่วมกับ Daniel Craig และ Geoffrey Rush ในหนังเรื่อง Munich ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548)

Bana ก็ยังคงแสดงหนังเรื่อยมาหลังจากนั้น แต่น่าเสียดายที่ชื่อเสียงของเขาเริ่มถดถอยและเลือนหายไป ไม่ค่อยมีบทบาทใหญ่ ๆ ตกมาถึงเขาสักที ที่หลายคนคุ้นเคยและผ่านตาก็น่าจะเป็นใน Star Trek ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), Funny People ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), Lone Survivor ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2554), Deliver Us from Evil ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2555), The Finest Hours ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), King Arthur: Legend of the Sword ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), The Forgiven ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), ซีรีส์ Dirty John ค.ศ. 2018-2019 (พ.ศ. 2561-2562)

และในอนาคตยังมีผลงานของเขาให้เราได้ติดตามกันทั้ง การให้เสียงพากย์ใน Back to the Outback ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) และ Blueback ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

ในขณะนี้เจ้าตัวก็ได้แต่งงานมีลูกกับ Rebecca Gleeson ที่คบหาดูใจกันมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) มีลูกที่น่ารักด้วยกัน 2 คน และทั้งคู่ก็อยู่กินกันที่ Melbourne บ้านเกิดของ Bana

ในปี ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) Bana ได้รับเกียรติให้ไปร่วมงานวันเกิดราชินีออสเตรเลีย และได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ออสเตรเลีย สำหรับการแสดงและความมีน้ำใจในองค์กรการกุศล

ANNA KENDRICK

Anna Cooke Kendrick เกิดวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) ที่ Portland, Maine ประเทศอเมริกา

เธอเริ่มต้นการแสดงกับการเล่นละครบรอดเวย์ เธอเคยแสดงบท Dinah ในเรื่อง High Society จนเธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Tony Award นับว่าเป็นนักแสดงที่อายุน้อยที่สุดคนที่สองที่ได้เข้าชิงรางวัลนี้ นอกเหนือจากนั้นยังได้เข้าชิงอีกหลายเวทีเลยทีเดียว

ไม่นานหลังจากเธอสร้างชื่อเสียงในบรอดเวย์เธอก็ได้แสดงนำในละครเวทีอีกหลายเรื่อง จนกระทั่งเธอได้แสดงหนังครั้งแรกกับบทบาท Fritzi ในเรื่อง Camp ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546)

แต่หลายต่อหลายคนรู้จักเธอจากบทบาท Natalie Keener ในเรื่อง Up in the Air ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) โดยผู้กำกับ Jason Reitman เรียกเธอมาแคสบทเพราะชอบการแสดงของเธอใน Rocket Science ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) ซึ่งเป็นบทบาทที่เธอแสดงได้อย่างยอดเยี่ยมและมันส่งให้เธอเข้าชิงรางวัลออสการ์และรางวัลลูกโลกทองคำอีกด้วย แต่น่าเสียดายที่เธอไม่สามารถคว้าไปได้ แต่ถึงจะอย่างนั้นเวทีอื่นก็ยังเข้าชิงอีกมากและมีที่ชนะรางวัลด้วย

ก่อนหน้านั้นเธอได้แสดงบทบาท Jessica ในหนัง Twilight ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) และได้แสดงมาจนครบแฟรนไชส์ทุกภาคเลยทีเดียว ทั้งใน The Twilight Saga: New Moon ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), Twilight Saga: Eclipse ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), The Twilight Saga: Breaking Dawn - Part 1 ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) และ The Twilight Saga: Breaking Dawn - Part 2 ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)

ชื่อของ Kendrick เริ่มกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง เธอเริ่มได้รับบทอีกมากมายไม่ว่าจะ Scott Pilgrim vs. the World ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), ParaNorman ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), เปรี้ยงปร้างสุด ๆ กับบทบาท Beca ใน Pitch Perfect ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Into the Woods ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Pitch Perfect 2 ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), The Accountant ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Trolls ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Pitch Perfect 3 ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), A Simple Favor ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) และล่าสุดกับ Trolls World Tour ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

ล่าสุดมีผลงานของเธอให้ได้รับชมกันกับซีรีส์ Love Life ค.ศ. 2020-2021 (พ.ศ. 2563-2564) และหนัง Stowaway ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

ในอนาคตยังมีหนังของเธอให้เราได้ดูกันอีก 3 เรื่อง กับ Unsould, Rodney & Sheryl และ Alice, Darling

Anna Kendrick เธอคือนักแสดงหญิงที่น่ารักมาก ๆ และร้องเพลงเพราะสุด ๆ คนหนึ่งแห่งวงการ Hollywood

10 สิงหาคม

ANTONIO BANDERAS

Antonio Banderas มีชื่อจริงว่า José Antonio Domínguez Banderas เกิดวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ. 1960 (พ.ศ. 2503) ที่ Málaga, Andalucía ประเทศสเปน

Banderas มีความใฝ่ฝันมาตั้งแต่วัยเด็กว่าอยากเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ เขาเลยทุ่มเทเวลาส่วนมากไปกับการเตะฟุตบอล จนได้เข้าร่วมทีมโรงเรียนในวัย 14 ปี แต่มันช่างน่าเศร้า ความฝันของเขาสลายลงไปเร็วเหลือเกิน เพราะไม่นานเขาก็เกิดอุบัติเหตุทำให้เท้าของเขาหัก และไม่สามารถเล่นฟุตบอลได้อีกเลย

เมื่อความฝันดับลง ไฟฝันครั้งใหม่ก็ติดขึ้น เมื่อเขาเริ่มลุ่มหลงกับการแสดง หลังจากได้เห็นการแสดงละครเวทีเรื่อง Hair ทำให้เขาเริ่มเข้าเรียนการแสดงที่โรงเรียนสอนการแสดงใน Málaga และได้เดบิวต์แสดงเต็มตัวครั้งแรกกับบทเล็ก ๆ ที่โรงละครแห่งหนึ่ง

แต่การแสดงละครเวทีของเขาก็กลายเป็นสิ่งที่ผิด เมื่อเขาโดนตำรวจจับจากการแสดงเรื่องนึง ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนทางการเมืองภายใต้การปกครองของนายพล Francisco Franco ทำให้ Banderas ใช้ชีวิตอยู่ในคุกหนึ่งคืน และการถูกจับกุมครั้งนี้ไม่ใช่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เขาถูกจับกุมจากข้อหาเดียวกัน 3-4 ครั้งเลยทีเดียว กับการแสดงทั่วโรงละครในสเปน

ปี ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) เมื่อเขาอายุได้ 19 ปี เขาย้ายไปยังเมืองหลวงอย่าง Madrid เพื่อไล่ล่าตามความฝันการเป็นนักแสดง แต่มันก็ไม่ได้ง่ายแบบนั้น เขายังคงต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเองเป็นพนักงานเสิร์ฟ และรับงานถ่ายแบบเล็ก ๆ

จนกระทั่งเขาได้เข้าร่วมกับโรงละครแห่งชาติของสเปน และกลายมาเป็นสมาชิกที่เด็กที่สุดของที่นั่น จนเขามีโอกาสได้แสดงบนเวที และความโชคดีก็เกิดขึ้น เมื่อการแสดงของเขาไปเตะตาผู้กำกับ Pedro Almodóvar ผู้ที่คัดตัวเขาให้มาเดบิวต์เล่นหนังครั้งแรกในเรื่อง Labyrinth of Passion ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525)

Banderas และ Almodóvar ได้ร่วมมือกันสร้างสรรค์หนังมากมายตลอดช่วงปี ค.ศ. 1980s (พ.ศ. 2523-2532) เช่นช่วงปี ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) Banderas รับบทเป็นเกย์ ที่เขาได้เล่นฉากชายรักชายจูบกันครั้งแรกในเรื่อง Law of Desire ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530), Women on the Verge of a Nervous Breakdown ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531), Madonna: Truth or Dare ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) มันจึงทำให้ความสัมพันธ์ของ Banderas และ Almodóvar กลายเป็นผู้กำกับและนักแสดงคู่บุญกันไปเลย

ในปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) Banderas ก็ได้พัฒนาการแสดง ก้าวเข้าสู่วงการ Hollywood จนได้เล่นหนังเรื่องแรกของวงการกับเรื่อง The Mambo Kings ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) และถึงแม้เขาจะยังพูดอังกฤษไม่คล่อง แต่การแสดงในเรื่องนี้ บทพูดต่าง ๆ มันได้สอนให้เขาเรียนรู้และฝึกออกเสียงภาษาไปในตัว

Banderas เริ่มเป็นที่จับตามองมากขึ้นกับการแสดงร่วมกับ Tom Hanks ในเรื่อง Philadelphia ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) หลังจากนั้นก็ได้ร่วมงานกับ Tom Cruise และ Brad Pitt ในเรื่อง Interview with the Vampire: The Vampire Chronicles ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) และ Desperado ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538)

ชื่อของ Banderas กระโดดมาอยู่แถวหน้าของวงการ Hollywood จากการแสดงในเรื่อง Evita ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) เคียงข้างกับ Madonna และจากการแสดงของเขาในเรื่องนี้ มันส่งให้เขาได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเวทีใหญ่อย่างลูกโลกทองคำ

ในปี ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) ตัวของ Banderas ได้มารับบทบาทที่หลายต่อหลายคนน่าจะคุ้นเคยที่สุด กับบทบาท Zorro ที่ได้แสดงกับ Anthony Hopkins และ Catherine Zeta-Jones ในเรื่อง The Mask of Zorro ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) และก็เป็นครั้งที่ 2 ที่เขาได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ ซึ่งการเตรียมตัวมารับบทนี้ Banderas ถึงกับต้องฝึกกับนักฟันดาบโอลิมปิกทีมชาติสเปนจริง ๆ รวมถึงเข้าคอร์สฝึกขี่ม้าเป็นเดือน ๆ เพื่อเตรียมตัวมารับบทนี้เลยทีเดียว ซึ่งเจ้าตัวก็กลับมารับบทนี้อีกครั้งใน The Legend of Zorro ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548)

Banderas ได้มีผลงานการกำกับครั้งแรกกับเรื่อง Crazy in Alabama ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542)

แน่นอนว่าอาชีพทางการแสดงของเขายังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง แสดงหนังชื่อดัง ร่วมกับดาราดังและผู้กำกับที่มีชื่อเสียงอีกมากมาย ไม่ว่าจะ Spy Kids ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Frida ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), Once Upon a Time in Mexico ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), ให้เสียงพากย์ Puss in Boots ในแฟรนไชส์ Shrek, And Starring Pancho Villa as Himself ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 3, Puss in Boots ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Machete Kills ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), The Expendables 3 ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Automata ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), ซีรีส์ Genius ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 4 และผลงานการแสดงอันยอดเยี่ยมล่าสุดที่ผ่านไปเมื่อปีที่แล้ว อย่าง Pain and Glory ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 5 และเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งแรก

Banderas ยังคงแสดงหนังมาอย่างต่อเนื่อง มีผลงานให้ได้ติดตามอีกมากมายทั้ง The Laundromat ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Dolittle ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563), The Hitman's Wife's Bodyguard ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

แถมในอนาคตยังมีผลงานของเขาอีกเพียบ ทั้ง Competencia oficial ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Uncharted ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Puss in Boots: The Last Wish ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Indiana Jones 5 ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), The Enforcer ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) และ The Monster of Florence

Banderas คือนักแสดงผู้มีเสน่ห์ หล่อเหลาแบบชาวละติน เคยได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 50 คน ที่งดงามที่สุดในโลกที่จัดโดยนิตยสาร People magazine ในปี ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) และได้รับรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย

11 สิงหาคม

CHRIS HEMSWORTH

Chris Hemsworth เกิดวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) ที่ Melbourne, Victoria ประเทศออสเตรเลีย

Chris มีพี่น้องเป็นนักแสดงทั้งคู่ ทั้ง Liam Hemsworth และ Luke Hemsworth

Chris เริ่มต้นอาชีพการแสดงกับบทบาท King Arthur ในซีรีส์เรื่อง Guinevere Jones ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) และตามมาด้วยซีรีส์อีกหลายเรื่อง ทั้ง Neighbours ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), Marshall Law ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), The Saddle Club ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Fergus McPhail ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547)

ในปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) ตัวของ Chris ได้ไปออดิชั่นเพื่อรับบท Robbie Hunter ในละครเวทีเรื่อง Home and Away แต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถชนะคนอื่นเพื่อคว้าบทนี้ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ได้ถูกเรียกตัวไปรับบท Kim Hyde ในซีรีส์เรื่อง Home and Away ค.ศ. 2004-2007 (พ.ศ. 2547-2550)

บทบาทการแสดงครั้งแรกในวงการ Hollywood ของ Chris คือการได้ปรากฏตัวใน Star Trek ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) กับบทบาท George Kirk ซึ่งนั่นคือเริ่มต้นในอาชีพการแสดงของเขา

หลังจากนั้นเขาก็ได้แสดงหนังอีกบ้างไม่ว่าจะเป็น A Perfect Getaway ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), Ca$h ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) และบทบาทที่เรียกได้ว่าพลิกชีวิตเขาเลยก็ว่าได้ กับบทบาทเทพเจ้าสายฟ้า Thor แห่งจักรวาล MCU ในเรื่อง Thor ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) เพราะมันทำให้คนทั้งโลกรู้จักชื่อของ Chris Hemsworth และยังคงรับบทบาทนี้มาอย่างต่อเนื่องในจักรวาล MCU มาจนถึงปัจจุบัน แถมในอนาคตยังมีหนังเดี่ยวของเขาอีกทั้ง Thor: Love and Thunder ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

ความดังของเขาส่งผลให้เขาได้ไปแสดงหนังอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น The Cabin in the Woods ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Snow White and the Huntsman ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Red Dawn ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Star Trek Into Darkness ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Rush ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Blackhat ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), In the Heart of the Sea ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Ghostbusters ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), 12 Strong ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Bad Times at the El Royale ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Men in Black: International ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และล่าสุดกับผลงานแอ็คชันสุดมันใน Netflix เรื่อง Extraction ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ที่มีแผนสร้างภาคต่อเรียบร้อยกับ Extraction 2

ในอนาคต Chris ยังมีผลงานที่น่าสนใจนอกเหนือจาก Thor อีกด้วย ทั้ง Escape From Spiderhead ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), ตามมาด้วยหนังภาคย้อนต้นของ Mad Max: Fury Road อย่าง Furiosa ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566) และหนังชีวประวัติ Hulk Hogan ที่เจ้าตัวจะมารับบทเป็น Terry Bollea (Hulk Hogan) นั่นแหละ

12 สิงหาคม

CASEY AFFLECK

Casey Affleck น้องชายของ Ben Affleck มีชื่อจริงแต่กำเนิดว่า Caleb Casey McGuire Affleck-Boldt เกิดวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) ที่ Falmouth, Massachusetts ประเทศอเมริกา

จุดเริ่มต้นการแสดงของเจ้าตัวเริ่มจากบทบาทเล็ก ๆ ในหนังเรื่อง Lemon Sky ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ตามมาด้วยการรับบทในซีรีส์ The Kennedys of Massachusetts โดยเจ้าตัวรับบทเป็น Robert Kennedy ตอนอายุ 12-15 ปี

การแสดงของเขาถือว่าไม่ธรรมดา หลังจากนั้นก็มีงานแสดงของเขาให้เราได้เห็นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น To Die For ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538), Race the Sun ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539), Good Will Hunting ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540), Hamlet ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543), Ocean's Eleven ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Ocean's Twelve ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Ocean's Thirteen ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Gone, Baby Gone ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550)

Affleck ได้พิสูจน์ฝีมือการแสดงกับการเคยได้รับการเข้าชิงรางวัลออสการ์, ลูกโลกทองคำและ Screen Actors Guild Award จากการแสดงอันยอดเยี่ยมในหนังเรื่อง The Assassination of Jesse James by the Coward Robert Ford ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550)

หลังจากนั้นก็ยังคงมีงานแสดงมาไม่ขาดสาย ทั้ง I'm Still Here ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Tower Heist ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), ParaNorman ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Interstellar ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), The Finest Hours ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Triple 9 ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), A Ghost Story ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), The Old Man & the Gun ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Our Friend ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), The World to Come ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และล่าสุด You Belong to Me ค.ศ .2021 (พ.ศ. 2564)

เจ้าตัวได้การันตีการแสดงอันยอดเยี่ยมกับการคว้ารางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำ จากในเรื่อง Manchester by the Sea ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559)

ในปี ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) เขาและ John Powers Middleton ได้ร่วมกันก่อตั้ง Affleck/Middleton Project เป็นบริษัทโปรดักชันที่พัฒนาและอำนวยการสร้างหนังและเนื้อหาทางทีวีต่าง ๆ หลากหลายแนว

CARA DELEVINGNE

Cara Jocelyn Delevingne เกิดวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) เธอเกิดและโตที่ London ประเทศอังกฤษ เธอเริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นนางแบบ ตามแบบพี่สาวของเธอ Poppy Delevingne ที่ได้ชื่อว่าเป็น It Girl (Fashion Icon ในด้านการแต่งตัวและมีอิทธิพลในสังคมแฟชั่น)

เธอเริ่มต้นถ่ายแบบครั้งแรกตอนอายุเพียง 10 ปีเท่านั้น ให้กับ Vogue Italia และได้เซ็นสัญญากับ Storm Model Management ในปี 2009 นั่นทำให้เธอเป็นที่คร่ำวอดในวงการแฟชั่นมาอย่างยาวนาน ถ่ายนิตยสารขึ้นปก Vogue UK, Vogue Korea, i-D, Love, Russh, Jalouse และ Style.com ถ่ายโฆษณากับแบรนด์หลายเจ้า ทั้ง H&M, Zara หรือแม้กระทั่ง Chanel, เดินแบบมาหลายเวที เช่น Moschino, Jason Wu, Oscar de la Renta, Burberry, Dolce & Gabbana, Fendi, Stella McCartney รวมถึงเวที Victoria Secret อีกด้วย เธอขึ้นปกนิตยสารมามากมาย และก็คว้ารางวัลอีกมากมายหลายเวที หลายรางวัลในวงการแฟชั่นด้วย ถึงแม้เธอจะสูงแค่ 170 ซ.ม. ก็ตาม

ช่วงหลังเธอก็ประกาศว่าขอออกจากการทำงานในฐานะนางแบบ และเธอก็เลือกมารับหน้าที่การแสดงอย่างมากขึ้น เป็นสิ่งที่เธอชอบและอยากทำมานานแล้ว โดยผลงานการแสดงเรื่องแรกของเธอคือเรื่อง Anna Karenina ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) ในบทบาทเจ้าหญิง Sorokina แล้วหลังจากนั้นก็ได้มีส่วนในวงการเกมส์ด้วย ด้วยการไปพากย์เสียงเป็น DJ คลื่น Non-Stop-Pop FM ในเกมส์ Grand Theft Auto V ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) รวมถึงเล่น MV อีกนิดหน่อย

แต่ผลงานที่ทำให้เธอได้รับบทนำอย่างเต็มตัวมาจากเรื่อง Paper Towns ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) ในบทบาทนางเอกอย่าง Margo ทำให้หลายๆ คนได้เห็นผลงานการแสดงที่ยอดเยี่ยมของเธอ นั่นจึงถือว่าเป็นใบเบิกทางให้เธอได้รับเล่นหนังอีกมากมายเลยทีเดียว ทั้ง Pan ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Kids in Love ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Suicide Squad ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Tulip Fever ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Valerian and the City of a Thousand Planets ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), London Fields ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), ซีรีส์ Carnival Row ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Life in a Year ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) รวมถึงในอนาคตกับอีกสองเรื่องทั้ง Tell It Like A Woman ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) และ Punk

ด้วยความที่ Cara Delevingne เธอทั้งสวย น่ารัก ขี้เล่น และเป็นนางแบบที่ไม่ห่วงสวยเลยแม้แต่น้อย เธอมักไม่ชอบถ่ายภาพทำหน้าสวย ๆ แต่เธอชอบแสดงความเป็นตัวเอง จะชอบทำตาเหล่ ทำหน้าตาประหลาด ๆ ทะเล้น ๆ อยู่เสมอ ๆ นั่นจึงทำให้เธอมีสเน่ห์อย่างสุดๆ ทั้งหนุ่มๆ และสาวๆ หลายคนต่างหลงใหลในความน่ารักของเธอเป็นอย่างยิ่ง ถึงขนาดมีแฮชแท็คในไทยเลยว่า #ยอมแล้วทูนหัวอย่างมีผัวเป็นคาร่า

และแน่นอนว่าหลาย ๆ คนคงรู้แล้วว่าเธอเป็น Bisexual เธอเคยคบกับดารามาหลายคน ไม่ว่าจะเป็น Michelle Rodriguez ดาราสาวแฟนของ Toretto ใน The Fast หรือแม้กระทั่งอดีตนักร้องวง One Direction อย่าง Harry Style และเคยจูบกับลูกสาว Michael Jackson อย่าง Paris Jackson อีกด้วย หรือแม้กระทั่งเคยคบกับดาราดังอย่าง Kristen Stewart

นางแบบ นักแสดง Bisexual ที่มากไปด้วยเสน่ห์และความสามารถแบบเหลือล้น

- Cara Delevingne

13 สิงหาคม

ALFRED HITCHCOCK

Alfred Joseph Hitchcock เกิดวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 1899 (พ.ศ. 2442) ที่ Leytonstone, London ประเทศอังกฤษ เขาคือผู้กำกับที่โด่งดังมากๆ มีฉายาว่า The Master of Suspense เพราะเขามักกำกับหนังแนวสืบสวนสอบสวน ระทึกขวัญ

ในปี ค.ศ. 1920 (พ.ศ. 2463) เขาก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ เขาเริ่มต้นอาชีพจากการวาดฉาก ซึ่งตอนนั้นทำให้เขาได้พบกับ Alma Reville ตอนแรกทั้งคู่ไม่เคยพูดกันเลย จนกระทั่งผู้กำกับหนัง Always Tell Your Wife รู้สึกป่วย ทำให้ตัวของ Hitchcock มีโอกาสก้าวขึ้นมารับหน้าที่กำกับแทน และเขาก็ได้ร่วมกันทำหนังกับ Alma Reville

และผลงานก็ถือว่าน่าชื่นชม จนทำให้เขาได้ถูกจ้างให้มากำกับหนังเรื่อง Number 13 ค.ศ. 1922 (พ.ศ. 2465) แต่มันก็ถ่ายทำไม่เสร็จ เพราะบริษัทปิดกิจการไปเสียก่อน แต่คนอย่าง Hitchcock ไม่เคยยอมแพ้

เขาได้กำกับหนังเต็มตัวครั้งแรกจริงๆ กับเรื่อง The Pleasure Garden ค.ศ. 1925 (พ.ศ. 2468) และมันประสบความสำเร็จมากๆ หนังมันฮิตสุดๆ และหลายคนก็เริมรู้สึกชื่อของ Hitchcock ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็ได้กำกับหนังต่อมา ทั้ง The Lodger: A Story of the London Fog ค.ศ. 1927 (พ.ศ. 2470), The Lady Vanishes ค.ศ. 1938 (พ.ศ. 2481), Jamaica Inn ค.ศ. 1939 (พ.ศ. 2482) ที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขาอย่างมากมาย

ในระหว่างปี ค.ศ. 1927 (พ.ศ. 2470) เขาได้แต่งงานกับ Alma Reville และก็มีลูกด้วยกัน 1 คน ชื่อว่า Patricia Hitchcock

ในปี ค.ศ. 1940 (พ.ศ. 2483) ครอบครัว Hitchcock ย้ายมายัง Hollywood เพื่อเดินทางตามความฝันต่อ ทำให้เขาได้พบกับผู้อำนวยการสร้างอย่าง David O.Selznick ที่ได้จ้างเขาให้มากำกับหนังดัดแปลงจาก Daphne du Maurier ในเรื่อง Rebecca ค.ศ. 1940 (พ.ศ. 2483)

แต่เรื่องนึงที่สร้างจุดเปลี่ยนให้กับชีวิตของเขาคือ Saboteur ค.ศ. 1942 (พ.ศ. 2485) ที่ทำให้ชื่อเสียงในด้านผู้กำกับของเขาพุ่งขึ้นสุดๆ บริษัททำหนังหลายค่ายต่างที่ทำงานร่วมกับ Hitchcock ต่างก็ใช้ชื่อของเขามาโปรโมทเวลาหนังเข้า เช่น Alfred Hitchcock's Psycho คศ. 1960 (พ.ศ. 2503)

และ Psycho นี่แหละ ที่ทำให้ Hitchcock โด่งดังเป็นพลุแตก กับเรื่องราวของฆาตกรโรคจิตนามว่า Norman Bates กับฉากฆาตกรรมในห้องน้ำอันลือลั่น และเรื่องนี้ได้กลายเป็นแม่แบบให้กับหนังในยุคหลังอีกมาก

Psycho ประสบความสำเร็จอย่างมาก มันเป็นหนังที่ทำรายได้สูงที่สุดตลอดอาชีพการกำกับหนังของเขาเลยทีเดียว

ในระหว่างการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ไม่มีนักแสดงหรือทีมงานคนไหนได้รับบทตอนจบของหนังเลย จนกว่าจะถึงวันถ่ายทำจริงๆ เท่านั้นยังไม่พอ หลังจากเขาซื้อลิขสิทธิหนังสือนิยายเพื่อมาดัดแปลงเป็นหนังเรื่องนี้แล้ว เขายังใช้เงินที่เหลือซื้อหนังสือทั้งหมดที่วางจำหน่าย เพื่อไม่ให้คนรู้ตอนจบของเรื่องนี้ก่อน

ฉากฆาตกรรมในห้องน้ำอันลือลั่นจริงๆ ตอนแรกจะเป็นฉากเงียบๆ แต่ Bernard Herrman อยากจะทำเพลงประกอบให้ฉากนั้น ตอนแรก Hitchcock ไม่ยอม จนกระทั่งได้ยินเพลงประกอบ เขาจึงยอมเพราะเห็นว่ามันดีมาก https://youtu.be/0WtDmbr9xyY ซึ่งในฉากเดียวกันนี้มันถูกถ่ายทำออกมาด้วยมุมกล้องถึง 77 มุม กับอีก 50 คัทเลยทีเดียว และเสียงแทงที่เราได้ยินกัน คือเสียง "มีดแทงแตงโม"

Psycho ถูกโหวตให้เป็นหนังอันดับ 1 ของหนังสยองขวัญตลอดกาลโดยเว็บ watchmojo.com และในปี ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) สถาบันภาพยนตร์อเมริกาได้จัดอันดับหนังเรื่องนี้ให้อยู่ในอันดับ 14 ของหนังที่ดีที่สุดตลอดกาล (Greatest Movie of All Time)

ความยอดเยี่ยมของหนังเรื่องนี้ส่งผลให้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 4 สาขา

• Best Actress in a Supporting Role
• Best Director
• Best Cinematography, Black-and-White
• Best Art Direction-Ser Deciration, Black-and-White

แถมยังชนะรางวัลลูกโลกทองคำอีกด้วย

• Best Supporting Actress

แน่นอนว่าหลังจากนั้นเขาก็ยังกำกับหนังแนวนี้มาอีกมากมาย ทั้ง The Birds ค.ศ. 1963 (พ.ศ. 2506), Marnie ค.ศ. 1964 (พ.ศ. 2507), Torn Curtain ค.ศ. 1966 (พ.ศ. 2509), Frenzy ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515) และเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการทำหนังที่แทบจะไม่เคยล้มเหลวเลย

เขาเคยเข้าชิงรางวัลออสการ์ 5 ครั้ง แต่น่าเสียดายที่ไม่เคยได้คว้ามา และเคยได้รับรางวัลเกียรติยศครั้งนึงในปี ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2511) ส่วนบนเวทีลูกโลกทองคำ เขาเคยเข้าชิง 2 ครั้ง และคว้ามาได้ 1 ครั้ง รวมถึงได้รางวัลเกียรติยศอีกครั้งนึงด้วย

ในปี ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) เขาได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นอัศวิน ถูกแต่งตั้งให้เป็น Sir Alfred Hitchcock และเจ้าหน้าที่กงสุลเดินทางนำรางวัลนี้มามอบให้เขาเอง เนื่องจากสภาพร่างกายของทรุดโทรมไม่สามารถเดินทางไปรับได้

และในวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) เวลา 9.17 น. เขาจากไปอย่างสงบในขณะหลับ ด้วยอาการไตวาย... ด้วยวัย 80 ปี

ผู้กำกับผู้ที่มีผลงานยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งของวงการภาพยนตร์ตั้งแต่เคยมีมา ชื่อของเขาคือ

ALFRED HITCHCOCK

SEBASTIAN STAN

Sebastian Stan เกิดวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) ที่ Constanta, Romania

เขาย้ายบ้านเกิดมากับแม่ไปที่ Vienna ประเทศออสเตรียเมื่ออายุได้ 8 ปี ก่อนที่ภายหลังจะย้ายไปยัง New York ประเทศอเมริกาตอนอายุ 12 ปี

Stan ได้เข้าศึกษาที่ Rutgers Mason Gross Schoot of the Arts และได้ร่วมแสดงเป็นส่วนหนึ่งของโรงละคร Shakespeare's Globe Theatre ใน London ด้วย

จุดเริ่มต้นทางการแสดงของเขาคือเขาได้แสดงเป็นบทเด็กคนหนึ่งในเรื่อง 71 Fragmente einer Chronologie des Zufalls ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) ก่อนที่ภายหลังจาก London เขาย้ายกลับมายัง New York และได้แสดงซีรีส์หนึ่งตอนกับบทบาท Justin Capshaw ในซีรีส์ Law & Order ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Tony 'n' Tina's Wedding ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Red Doors ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548)

จนกระทั่งเขาเรียนจบมหาวิทยาลัย เขาก็ได้เดินสายทางด้านการแสดงทั้งที เริ่มต้นกับบทบาท Martin Waters ใน The Architect ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Chase Collins ใน The Covenant ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) และได้ร่วมแสดงละครเวทีในเรื่อง The Talk ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550)

Stan ก็ได้แสดงมาอย่างต่อเนื่องในวงการ และก็เริ่มมีชื่อเสียงบ้าง แต่ยังไม่ดังมากนัก จนกระทั่งจุดเปลี่ยนในเส้นทางการแสดงของเขาเริ่มขึ้น เมื่อเขาได้รับบท James Buchanan 'Bucky' Barnes ในจักรวาล MCU เรื่อง Captain America: The First Avenger ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554)

ทำให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังขึ้นทันที ใครต่อใครต่างรู้จักเขา ทั่วโลกต่างเริ่มรู้จักชื่อของเขา งานแสดงของเขาก็เพิ่มมากขึ้น บทใหญ่ขึ้น เช่นในซีรีส์ Political Animals ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), ซีรีส์ Once Upon a Time ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), ซีรีส์ Labyrinth ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), The Martian ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Logan Lucky ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), I, Tonya ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), The Last Full Measure ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), The Devil All the Time ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

และมาย้ำความโด่งดังอีกครั้งกับการกลับมาปรากฏตัวใน Captain America: The Winter Soldier ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) กับบทบาทเดิม Bucky Barnes ในฐานะใหม่ Winter Soldier และได้กลายมาเป็นตัวละครสำคัญของจักรวาล MCU ไปโดยปริยายปรากฏมาในอีกหลายเรื่องทั้ง Captain America: Civil War ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Black Panther ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Avengers: Infiniry War ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Avengers: Endgame ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และล่าสุดกับซีรีส์ทาง Disney+ เรื่อง The Falcon and the Winter Soldier ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) ตามมาด้วยให้เสียงพากย์ในอนิเมชันซีรีส์ What If...? ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

เรียกได้ว่าบทบาท Bucky Barnes หรือ Winter Soldier กลายเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของ Sebastian Stan จริง ๆ

ซึ่งในอนาคตยังมีบทบาทของเขาให้เราได้ติดตามกันอีก ทั้ง The 355 ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Fresh, ซีรีส์ Pam & Tommy, The Brutalist และ Sharper

14 สิงหาคม

STEVE MARTIN

Steve Martin มีชื่อแต่กำเนิดว่า Stephen Glenn Martin เกิดวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 1945 (พ.ศ. 2488) ที่ Waco, Texas ประเทศอเมริกา แจ่เขาถูกเลี้ยงดูและเติบโตที่ Garden Grove ใน California

ในปี ค.ศ. 1960 (พ.ศ. 2503) เขาได้งานที่ร้าน Magic Shop ที่ Disney's Fantasyland จนกระทั่งได้เข้าเรียนที่ Santa Ana College โดยเลือกเรียนทางด้านการแสดงและกวีอังกฤษ รวมถึงยังได้เข้าร่วมเป็นนักแสดงตลกของโรงละคร Bird Cage Theatre และเข้าร่วมคณะตลก Knott's Berry Farm

หลังจากจบมัธยมปลาย Martin ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย California State เอกปรัชญา แต่ไม่นานก็ย้ายไปเรียนที่ UCLA เอกการละคร

จุดเริ่มต้นในแวดวงการแสดงของ Martin คือการเป็นนักเขียนบท เขาได้มีโอกาสเขียนบทซีรีส์ The Smothers Brothers Comedy Hour ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2511) ถึงแม้เขาจะเขียนแค่ 2 ตอน แต่มันก็ส่งให้เขาคว้ารางวัล Emmy Award ด้วย และในช่วงปี ค.ศ. 1967-1973 (พ.ศ. 2510-2516) เขาก็เขียนบทอีกมากมายหลายรายการหลายซีรีส์ รวมถึงปรากฏตัวในรายการ Talk Show และ Comedy Show อีกไม่น้อย

ในปี ค.ศ. 1977 (พ.ศ. 2520) Martin ได้ปล่อยอัลบั้มแสดงตลกครั้งแรกกับ Let's Get Small ตามมาด้วย A Wild and Crazy Guy ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521) ที่ทำยอดขายไปได้กว่าล้านชุด ทั้งสองอัลบั้มนั้นคว้ารางวัล Grammys สาขา Best Comedy Recording

จนชื่อเสียงของ Martin ได้นำพาให้เขาเริ่มต้นอาชีพนักแสดงหนังที่เป็นเป้าหมายในชีวิตเขามาตลอด กับการแสดงบทนำครั้งแรกในหนังสั้นเรื่อง The Absent-Minded Waiter ค.ศ. 1977 (พ.ศ. 2520) ที่เจ้าตัวได้ร่วมเขียนบทด้วย

ทำให้หลังจากนั้นมีผลงานของเขาตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น The Jerk ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522), Dead Men Don't Wear Plaid ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525), Three Amigos! ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529), L.A. Story ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534), Father of the Bride ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534), Grand Canyon ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534), Leap of Faith ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), Mixed Nuts ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537), Bowfinger ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542), Bringing Down the House ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Cheaper by the Dozen ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), The Pink Panther ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) และ The Pink Panther 2 ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), The Big Year ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Home ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Love the Coopers ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558)

Martin เคยเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 5 ครั้ง

• Pennies from Heaven ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524)
• All of Me ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527)
• Roxanne ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530)
• Parenthood ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532)
• Father of the Bride Part II ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538)

ล่าสุดก็มีผลงานในหนังสั้นกับ Cruel Shoes ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และ Father of the Bride Part 3 (ish) ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ซึ่งในอนาคตก็ยังมีผลงานของเขาอีกกับซีรีส์ Only Murders in the Building ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

HALLE BERRY

Marie Halle Berry เกิดวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 1966 (พ.ศ. 2509) ที่ Cleveland, Ohio ประเทศอเมริกา

Halle ก้าวมาสู่แสงสีเมื่อครั้นอายุ 17 ปี เมื่อเธอได้ชนะรางวัล Miss Teen All-American Pageant ตัวแทนของรัฐ Ohio ในปี ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) และในปีต่อมา ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) เธอก็ได้เข้ารอบ Miss U.S.A. Pageant ด้วย

หลังจากนั้นเธอก็มาเป็นนางแบบ ซึ่งมันนำไปซึ่งการได้รับบทบาททางซีรีส์ปี ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) เรื่อง Living Dolls โดยตัวเธอก็ได้รับการชื่นชมจากการที่เธอเลือกที่จะใช้ชีวิตอินกับตัวละครกับบทบาทที่ได้รับแม้กระทั่งหยุดถ่ายทำหรือออกนอกกองถ่ายแล้วก็ตาม

ยืนยันได้จาก Jungle Fever ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) ของ Spike Lee ที่ Halle ได้รับบทเป็นขี้ยา ทำให้เธอไม่อาบน้ำเป็นเวลาหลายวันก่อนจะมาถ่ายทำ เพื่อที่จะได้สมบทบาทที่เธอได้รับ

ไม่กี่ปีต่อมา เธอได้ถูกคัดเลือกให้ไปรับบทคู่กับ Eddie Murphy ในเรื่อง Boomerang ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535)

ในปี ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) เธอได้มาแสดงในบทบาทเลขาสุดเซ็กซี่ Sharon Stone ในเรื่อง The FLintones 

เรื่องต่อมาของเธอเป็นที่จับตามองมาก ๆ เธอได้มาแสดงร่วมกับ Jessica Lange ในละครเรื่อง Isaiah ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) และถึงแม้มันจะได้รับเสียงวิจารณ์ที่ผสมปนเปกันไป แต่ Halle ก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองช้ำนาน เธอยังคงเดินหน้าต่อไปในเส้นทางซุปเปอร์สตาร์

ในปี ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) เธอได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากกับบทบาทในเรื่อง Bulworth ของผู้กำกับ Warren Beatty และหลังจากนั้นการแสดงของเธอใน Introducing Dorothy Dandridge ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ก็ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากไม่แพ้กัน และในครั้งนี้มันส่งให้เธอเข้าชิงและสามารถคว้ารางวัลลูกโลกทองคำเป็นครั้งแรกในชีวิตได้มาครอบครอง

เธอเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นและเล่นหนังใหญ่ขึ้น เธอมีบทบาทสำคัญในจักรวาล X-Men กับบทบาท Storm

ในปี ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) เธอได้กลายมาเป็นนักแสดงชาวแอฟริกัน-อเมริกันคนแรกที่สามารถคว้ารางวัลออสการ์มาครอบครอง สำหรับบทบาทในเรื่อง Monster's Ball แถมยังได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีกด้วย

ชื่อของเธอโด่งดังไปทั่วโลก เธอได้แสดงหนังดังๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Die Another Day ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), Gothika ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Catwoman ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), ให้เสียงพากย์ Roboys ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำจากเรื่อง Their Eyes Were Watching God ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำจากเรื่อง Frankie & Alice ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Cloud Atlas ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), The Call ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Kidnap ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Kingsman: The Golden Circle ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), บทบาทล่าสุดที่เพิ่งผ่านพ้นไปกับ John Wick: Chapter 3 - Parabellum ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และ Bruised ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

ในอนาคตยังมีผลงานของเธอให้เห็นด้วยกันอีก 2 เรื่อง Moonfall ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) และ The Mothership

15 สิงหาคม

BEN AFFLECK

Benjamin Géza Affleck-Boldt เกิดวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515) ที่ Berkeley, Califonia ประเทศสหรัฐอเมริกา

Affleck เป็นทั้ง นักแสดง, นักเขียนบท, ผู้กำกับ แต่ที่สร้างชื่อให้กับเขาสุด ๆ คงเป็นในฐานะนักแสดง เขามีผลงานแสดงต่าง ๆ มากมายตั้งแต่หนังฟอร์มใหญ่ไปจนถึงฟอร์มกลาง ผลงานแสดงของเขามีมากมายกว่า 70 เรื่อง!

เพื่อนคนแรกที่เขารู้จักนั่นก็คือ Matt Damon และทั้งคู่ได้แสดงหนังร่วมกันเรื่องแรกในเรื่อง School Ties ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ด้วยการแสดงเรื่องนั้น เปรียบเสมือนเป็นใบเบิกทางสู่วงการฮอลลีวูดอย่างแท้จริง เพราะมีหลายค่าย หลายผู้กำกับอยากดึงตัว Ben Affleck มาแสดงหนังด้วย

ด้วยความที่ทั้งสองสนิทสนมกันเป็นอย่างดีในปีเดียวกันนั้น ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ทั้งคู่ได้เขียนบทภาพยนตร์ Good Will Hunting จนทำให้ค่ายหนังหยิบไปทำเป็นภาพยนตร์ในปี ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) ขึ้นมา และนำตัวทั้งคู่ไปแสดงในเรื่องนี้อีกด้วย แถมยังได้ดาราชั้นนำอย่าง Robin Williams มาแสดงร่วมด้วย และหนังเรื่องนี้ยังทำให้ Matt และ Ben ได้รางวัลบทภาพยนตร์ต้นฉบับยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์และลูกโลกทองคำอีกด้วย

นั่นยิ่งทำให้เขาได้เล่นหนังฟอร์มยักษ์มาอย่างต่อเนื่อง ไล่ไปตั้งแต่ Armageddon ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541), Pearl Harbor ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Changing Lanes ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), The Sum of All Fears ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), Daredevil ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), The Town ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Argo ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), และผลงานรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเวทีออสกาณ์อย่าง Gone Girl ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) และในเรื่องเดียวกันก็ทำให้เขาคว้ารางวัลลูกโลกทองคำในรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน เส้นทางการแสดงของเขาก็ยังคงรุ่นโรจน์และมีผลงานมารองรับอีกมากมาย

และบทบาทที่ถือว่าท้าทายสุด ๆ สำหรับเขาอีกนั่นก็คือบทบาทมหาเศรษฐีหนุ่มเพลบอยอย่าง Bruce Wayne หรืออัศวินรัตติกาล Batman โดยตัวเขาถือว่าเป็นคนที่ 8 ที่มารับบทบาทนี้ ต่อจาก Christian Bale ด้วยเพราะ Bale ทำไว้ดีมากๆ จึงทำให้ Ben ต้องแบกรับความกดดันไว้พอสมควร

เขาต้องมารับบทนี้ครั้งแรกในหนังฟอร์มยักษ์ การปะทะกันของฮีโร่ชั้นนำของค่าย DC ในเรื่อง Batman v Superman: Dawn of Justice ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) โดยได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบอย่างมากมายเลยทีเดียว แต่ถึงกระนั้นเขาก็ได้มารับบท Batman อย่างเต็มตัวอีกครั้งในเรื่อง Justice League ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) แต่ก็ไม่สามารถสร้างชื่อให้ในบทนี้ให้ตัวเองได้สักที โดยหนังเดี่ยวของ Batman ที่กำลังสร้างอยู่ในตอนนี้ของ Matt Reeves ตัวของ Ben ไม่ได้อยู่ในตัวเลือกของผู้กำกับให้มารับบท Bruce Wayne / Batman อีกต่อไป แต่ตอนแรกก็มีส่วนร่วมในฐานะผู้อำนวยการสร้างอยู่ จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่เกี่ยวข้องอีกต่อไปและบท Batman ก็ตกไปเป็นของ Robert Pattinson

แต่เหมือนไม่แน่เหมือนกัน เพราะกองถ่าย The Flash ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) มีภาพ Batman ในชุดที่เหมือนของ Affleck ใส่ นั่นอาจหมายความว่าเขาอาจมา cameo ในบทบาทนี้ก็เป็นได้

แต่ถึงจะอย่างนั้นก็ตาม ล่าสุดเขาก็เพิ่งฝากผลงานเอาไว้ใน The Last Thing He Wanted ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และ The Way Back ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) เขาก็ยังมีบทบาทในอนาคตอีกมากมายทั้งผลงานการแสดงใน The Last Duel ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Deep Water ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), The Tender Bar, Hypnotic, Ghost Army, Witness for the Prosecution และภาคต่อของ Accountant อีกทั้งในงานพวกนั้นเขายังอำนวยการสร้างด้วย และยังมีงานเขียนบทอีกด้วย

ชีวิตรักของเขาเรียกได้ว่าไม่ธรรมดา เพราะเขาเคยคบกับ Gwyneth Paltrow และนักร้องดังอย่าง Jennifer Lopez จนทำให้เกิดเป็นกระแส "Bennifer" ขึ้นมาเลยทีเดียว แต่สุดท้ายเขาก็มาร่วมหัวจมท้ายกับ Jennifer Garner และมีลูกด้วยกันถึง 3 คนเลยทีเดียว (ลูกสาว 2 ลูกชาย 1)

Ben Affleck ก็ถือเป็นนักแสดงชั้นแนวหน้าในวงการฮอลลีวูดที่ถ้าพูดถึง ใคร ๆ ก็ต้องรู้จักเป็นแน่แท้

JENNIFER LAWRENCE

Jennifer Shrader Lawrence เกิดวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) ที่ Louisville, Kentucky ประเทศอเมริกา

ชีวิตการแสดงของเธอเริ่มต้นขึ้นเมื่อเธอเดินทางไป Manhattan ตอนอายุ 14 ปี เธอได้ลองอ่านบทครั้งแรกกับเอเย่นต์คนนึง จนเขาได้บอกว่า

ผมไม่เคยได้ยินเด็กอายุ 14 ที่ไหนอ่านบทได้ดีขนาดนี้มาก่อน

เอเย่นต์คนนั้นจึงพยายามโน้มน้าวแม่ของเธอให้ใช้เวลาตลอดช่วงหน้าร้อนใน Manhattan

หลังจากเธอได้หมดสัญญากับทางเอเย่นต์คนแรก เธอก็ได้รับการติดต่อจากเอเย่นต์อีกคนในระหว่างถ่ายแบบโฆษณากับทาง H&M และขอถ่ายรูปเธอ วันต่อมาเอเย่นต์คนนั้นได้ติดต่อเธอให้เข้าไปออดิชั่นซ้อมบทนึง และแน่นอนว่าเธอทำให้เอเย่นต์คนนั้นประทับใจมาก และเหมือนเอเย่นต์คนแรกเลย เขาขอแม่ของเธอให้ใช้ช่วงเวลาตลอดช่วงหน้าร้อนใน New York และในที่สุดเธอก็ได้เข้าสู่วงการจากการปรากฏตัวในโฆษณา MTV "My Super Sweet 16"

หลังจากนั้นไม่นาน ด้วยอาชีพนักแสดงของเธอก็ทำให้ตัวเธอและครอบครัวต้องย้ายไปอยู่ที่ Los Angeles จนเธอได้ไปคัดตัวนักแสดงในซิตคอมทางช่อง TBS เรื่อง The Bill Engvall Show ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), และได้รับบทเล็ก ๆ ในหนัง The Poker House ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) และ The Burning Plain ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551)

แต่เธอประสบความสำเร็จมาก ๆ เมื่อเธอได้แสดงบท Ree ในหนังเรื่อง Winter's Bone ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) ส่งให้เธอได้เข้าชิงรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และนั่นก็สร้างชื่อให้เธออย่างมาก จนเธอได้มาแสดงบท Mystique ในแฟรนไชส์รีบูท X-Men: First Class ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) และนั่นก็ยิ่งส่งให้เธอดังเข้าไปอีก จนเธอได้รับบท Katniss Everdeen ในเรื่อง The Hunger Games ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) และแจ้งเกิดให้เธอแบบสุด ๆ จนขึ้นเป็นนักแสดง A-List แห่งวงการ Hollywood ไปโดยปริยาย ที่ตามมาด้วยภาคต่อ The Hunger Games: Cathching Fire ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), The Hunger Games: Mockingjay - Part 1-2 ค.ศ. 2014, 2015 (พ.ศ. 2557, 2558)

แต่สุดยอดการแสดงของเธอต้องยกให้ในเรื่อง Silver Linings Playbook ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) ส่งผลให้เธอได้รับรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม

หลังจากนั้นเธอก็ได้บทที่สร้างชื่อให้เข้าชิงและได้รางวัลจากอีกหลายเวที ไม่ว่าจะเป็น American Hustle ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) ที่ส่งให้เธอได้เข้าชิงรางวัลออสการ์และคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ ตามมาด้วย Joy ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) ที่ได้เข้าชิงออสการ์และคว้าลูกโลกทองคำเช่นกัน

เธอยังคงแสดงหนังอีกหลายเรื่อง เช่น Passengers ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Mother! ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Red Sparrow ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) และล่าสุดกับ Dark Phoenix ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

แถมยังมีผลงานในอนาคตอีกไม่ว่าจะเป็นโปรเจคของ Don't Look Up ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Red, White and Water ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Mob Girl และ Bad Blood

Jennifer Lawrence ก็กลายเป็นชื่อนักแสดงหญิงแห่งวงการ Hollywood ที่ทั้งสวย เก่ง และไม่ว่าใครได้ยินชื่อเธอก็ต้องรู้จักเธออย่างแน่นอน

16 สิงหาคม

JAMES CAMERON

James Francis Cameron เกิดวันที่ 16 สิงหาคม ค.ศ. 1954 (พ.ศ. 2497) ที่ Kapuskasing, Ontario ประเทศแคนาดา แต่เจ้าตัวย้ายมาอยู่อเมริกาในช่วงปี ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514)

เจ้าตัวเริ่มเข้าสู่วงการภาพยนตร์ในฐานะ Art Director, ช่างทำอุปกรณ์ประกอบฉาก, Process-Projection Supervisor ในหนังของ Roger Corman เรื่อง Battle Beyond the Stars ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523)

และเขามีประสบการณ์ในฐานะผู้กำกับครั้งแรกในเรื่อง Piraha Part Two: The Spawning ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524) แต่หนังไม่ประสบความสำเร็จและล้มเหลวไม่เป็นท่า ทำให้ภายหลังเขาก็โดนไล่ออก

จนกระทั่งมาในปี ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) เขาได้มาเขียนบทและกำกับสุดยอดหนังที่สร้างประวัติศาสตร์ แถมยังเป็นปรากฏการณ์สุด ๆ เรื่อง The Terminator ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) และนั่นถือว่าเป็นเรื่องที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำให้ต่อมาเขาได้รับความไว้วางใจให้กำกับหนังอีกหลายเรื่อง แถมยังถือว่าประสบความสำเร็จทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Aliens ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529), The Abyss ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) และ Terminator 2: Judement Day ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534)

ในปี ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) Cameron ได้ก่อตั้งบริษัทของตัวเองขึ้นมาในชื่อ Lightstorm Entertainment

ในปี ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) เขาได้เขียนบทและกำกับสุดยอดหนังอมตะตลอดกาลอย่าง Titanic ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) ที่ทำลายทุกสถิติใน Box Office และทำให้เขาเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 1 สาขา (Best Screenplay) และคว้าลูกโลกทองคำได้อีก 1 สาขา (Best Director) และคว้ารางวัลออสการ์ปีเดียวมถึง 3 สาขาเลยทีเดียว (Best Film Editing, Best Director, Best Picture)

หลังจากเรื่อง Titanic เขาก็ได้ใช้เวลาเกือบ 10 ปีในการสร้างหนังที่ภายหลังกลายมาเป็นหน้าประวัติศาสตร์แห่งวงการหนังเลย นั่นก็คือ Avatar ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) (แต่ในระหว่างนั้นเขาก็ได้ไปกำกับซีรีส์ และสารคดีอยู่บ้าง)

Cameron ตั้งใจทำ Avatar ให้แตกต่างจากหนังเรื่องอื่นที่เขาเคยทำมา เป็นหนังที่ทุนสร้างสูงที่สุดของตัวผู้กำกับแล้ว (237 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7,328 ล้านบาท)

"มันจะให้ความรู้สึกเหมือนคุณเข้าไปอยู่ในที่ที่คุณไม่รู้จัก เหมือนกับการกระโดดลงมาจากหน้าผา และกางร่มชูชีพอย่างบ้าคลั่ง มันเป็นสิ่งที่สนุก และเป็นสิ่งที่ไม่มีใครทำแน่นอน"

ตั้งแต่หนังออกฉาย ได้สร้างปรากฏการณ์ไปทั่วทั้งโลก ทำลายหลายสถิติ ขึ้นเป็นหนังเรื่องแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำรายได้ทะลุถึง 2000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 61,820 ล้านบาท) และขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของหนังทำรายได้มากที่สุดในโลกตลอดกาล

แถมในอนาคตยังมีภาคต่อกับ Avatar 2 ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Avatar 3 ค.ศ. 2024 (พ.ศ. 2567), Avatar 4 ค.ศ. 2026 (พ.ศ. 2569), Avatar 5 ค.ศ. 2028 (พ.ศ. 2571) และ The informationist

Cameron เป็นหนึ่งในคนที่หลงไหลในโลกใต้น้ำมาก เขาได้ทำสารคดีมากมายเกี่ยวกับเรื่องนั้นด้วย

ด้วยความสำเร็จที่มากมายขนาดนั้นทำให้ชื่อของ James Cameron ได้โด่งดังและกลายมาเป็นผู้กำกับฝีมือยอดเยี่ยมแห่งวงการ Hollywood เป็นคนที่มักจะกำกับหนังและเขียนบทด้วยตัวเอง ถึงแม้หนังแต่ละเรื่องของเขาจะใช้เวลาในการสร้างนาน แต่พอหนังของเขาได้ปรากฏสู่สายตาชาวโลกเมื่อไหร่ เป็นอันต้องทึ่งกันทุกราย

ผู้กำกับนักสร้างปรากฏการณ์

- James Cameron

STEVE CARELL

Steven John Carell เกิดวันที่ 16 สิงหาคม ค.ศ. 1962 (พ.ศ. 2505) ที่ Concord, Massachusetts ประเทศอเมริกา

Carell แจ้งเกิดกับบทบาท Tesio ใน Curly Sue ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) และในปี ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) เขาก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของนักแสดงใน The Dana Carvey Show ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) ตามมาด้วยการปรากฏตัวเป็นนักแสดงรับเชิญอีกมากมาย ทั้ง Come to Papa ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Just Shoot Me! ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540), Watching Ellie ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) และใน The Daily Show ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539)

แต่บทบาทที่ทำให้หลายคนเริ่มรู้จักเขาเป็นวงกว้างมากขึ้น คือบทบาทนักข่าว Evan Baxter ที่ได้แสดงกับ Jim Carrey ถึงแม้ว่าตัวเขาจะไม่ได้มีแอร์ไทม์เยอะ แต่การปรากฏตัวช่วงสั้นๆ กับฉากประกาศข่าวก็ฮาเกินจะบรรยาย ในเรื่อง Bruce Almighty ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546)

ตามมาด้วยการรับบท Uncle Arthur ที่ได้แสดงกับ Nicole Kidman และ Will Ferrell ในเรื่อง Bewitched ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) แต่ในปีเดียวกันนั้น เขาได้แสดงนำในหนังรอมคอมเรื่อง The 40-Year-Old Virgin ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) สร้างเสียงหัวเราะและชื่อเสียงให้ตัวเองมากมาย และที่สำคัญเรื่องนี้ Carell ได้ร่วมเขียนบทด้วย แถมมันยังได้รับเลือกติดหนึ่งในสิบหนังของปี ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) จากสถาบันภาพยนตร์อเมริกาด้วย (American Film Institute)

และในปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) การแสดงของเขาจากซีรีส์ The Office ก็ส่งให้เขาเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งแรกในชีวิตและเพียงครั้งแรกก็สามารถคว้ารางวัลไปครองได้เลย และจากซีรีส์นี้ ยังส่งให้เขาได้เข้าชิงอีกถึง 5 ครั้ง และมันเป็นการเข้าชิงลูกโลกทองคำ 6 ปีติดเลยทีเดียว

Carell ยังคงแสดงหนังมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Little Miss Sunshine ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Evan Almighty ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Horton Hears a Who! ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Get Smart ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Date Night ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), ให้เสียงพากย์พระเอก Gru ใน Despicable Me ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Crazy, Stupid, Love ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Seeking a Friend for the End of the World ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Despicable Me 2 ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Anchorman 2: The Legend Continues ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Alexander and the Terrible, Horrible, No Good, Very Bad Day ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)

และสร้างการแสดงอันยอดเยี่ยมสุด ๆ ที่เป็นการการันตีว่า Carell ไม่ได้มีดีแค่บทบาทตลก ใน Foxcatcher ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) ที่การแสดงของเขาส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ และเข้าชิงรางวัลออสการ์ด้วย

ในปีต่อมา เขาก็ยังคงเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำต่อเนื่อง กับบทบาท The Big Short ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558)

และเข้าชิงลูกโลกทองคำอีกครั้งกับบทบาทในเรื่อง Battle of the Sexes ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560)

ทุกวันนี้ Carell ยังคงแสดงหนังและซีรีส์มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งซีรีส์ The Morning Show ค.ศ. 2019-2021 (พ.ศ. 2562-2564), ซีรีส์ Space Force ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563), Irresistible ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และในอนาคตยังมีผลงานต่อเนื่องกับการให้เสียงพากย์ Gru ใน Minions: The Rise of Gru ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

Carell มีชีวิตรักที่มีความสุข เขามีภรรยาชื่อ Nancy Carell ที่เขาได้พบเมื่อตอนเขาไปเป็นครูที่ The Second City comedy troupe ใน Chicago ทั้งคู่ได้แต่งงานกันในวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) และยังครองรักกันมาจนถึงปัจจุบัน แถมยังมีลูกที่น่ารักด้วยกันสองคน

TAIKA WAITITI

Taika David Waititi หรือรู้จักกันในนาม Taika Cohan เกิดวันที่ 16 สิงหาคม ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) ที่ Wellington, New Zealand

John & Pogo ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) คือหนังสั้นเรื่องแรกที่ Taika กำกับ แต่ตอนนั้นใช้ชื่อว่า Taika Cohen แต่การกำกับอาชีพครั้งแรกของเขาคือเรื่อง Two Cars, One Night ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งแรกในชีวิตกับสาขา Best Short Film, Live Action

ด้วยวิสัยทัศน์ การกำกับและการเขียนบท บ่งบอกเลยว่าเขามีความตลกแต่กำเนิด ซึ่งเขาเคยเล่นตลกด้วยในช่วงปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) เขาได้ทำรายการขึ้นมาเองในชื่อ Taika's Incredible Show

ผลงานการกำกับหนังใหญ่ครั้งแรกของเขาคือเรื่อง Eagle vs Shark ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) ตัวเขาเขียนบทเองด้วย ที่ยังคงความเฮฮา และบ้าบออันเป็นเอกลักษณ์ของ Taika เอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม

เขายังคงกำกับและเขียนบทหนัง, ซีรีส์มาอยู่ตลอด ทั้ง Boy ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), 42 One Dream Rush ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), ซีรีส์ Super City ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), ซีรีส์ The Inbetweeners ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), What We Do in the Shadows ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Hunt for the Wilderpeople ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559)

แต่จุดเปลี่ยนในชีวิตของเขาจริงๆ มันเริ่มมาจากในปี ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) เขาได้ไปกำกับคลิปสั้น ๆ Team Thor เป็นคลิปเฮฮา ๆ ของตัวละคร Thor ในจักรวาล MCU เนี่ยแหละ และภาค 2 กับ Team Thor: Part 2 ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) ซึ่งมันนำมาให้เขาได้รับงานกำกับครั้งใหญ่จริง ๆ กับภาค 3 ของ Thor ในเรื่อง Thor: Ragnarok ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560)

Thor: Ragnarok นับว่าเป็นเรื่องแรกของ Taika ที่เจ้าตัวไม่ได้กำกับเอง และมันเปลี่ยนแนวของ Thor จาก 2 ภาคก่อนไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยมุกตลก ด้วยความฮา บ้าๆ บวมๆ สไตล์ Taika ซึ่งมันก็ทำให้มีคนชอบและคนไม่ชอบอยู่เยอะมาก แต่ถึงจะอย่างนั้นมันสร้างชื่อให้กับ Taika มากจริงๆ (และหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ Quentin Tarantino โปรดปรานที่สุดในจักรวาล MCU)

จากการกำกับใน Thor: Ragnarok มันได้ทำให้ Taika มีผลงานกำกับตามมา กลายเป็นผู้กำกับเนื้อหอมที่ใครก็ต้องการตัว ทั้งซีรีส์ What We Do in the Shadows ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และยอดผลงานอย่าง Jojo Rabbit ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

Jojo Rabbit หนังเสียดสีตลกร้ายเกี่ยวกับเรื่องสงครามผ่านสายตามุมมองของตัวละครเด็ก ที่ Taika ทั้งลงมือกำกับ, เขียนบทและแสดงเองด้วย ถูกถ่ายทอดและนำเสนออกมาตามสไตล์ที่เราคุ้นเคย และความยอดเยี่ยมของมันส่งให้หนังเรื่องนี้ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ 2 สาขา และสามารถคว้ามาได้ 1 สาขา (Best Adapted Screenplay)

และผลงานล่าสุดของเจ้าตัว คือการกำกับตอนสุดท้ายของซีรีส์ The Mandalorian ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ทาง Disney+

จริง ๆ นอกเหนือจากการกำกับและเขียนบท Taika ยังมีฝีมือทางด้านการแสดงอย่างไม่ธรรมดา เอาเป็นว่าเขาแสดงมากกว่ากำกับหรือเขียนบทเสียอีก เคยแสดงมาแล้วทั้งใน Green Lantern ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Thor: Ragnarok ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), ให้เสียงพากย์ใน Ric and Morty ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), The Mandalorian ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), The Suicide Squad ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) และ Free Guy ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

Taika ยังคงมีผลงานการกำกับในอนาคตอีกมากและน่าจับตามองทั้งนั้น เริ่มตั้งแต่ Next Goal Wins ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Thor: Love and Thunder ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Our Flag Means Death, ซีรีส์ Time Bandits, หนัง Star Wars ภาคใหม่ ค.ศ. 2025 (พ.ศ. 2568) และ Akira ฉบับคนแสดง

Taika Waititi นับว่าเป็นผู้กำกับที่สร้างสีสรรค์ให้วงการได้อย่างแท้จริง

CAMERON MANAGHAN

Cameron Riley Monaghan เกิดวันที่ 16 สิงหาคม ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) ที่ Santa Monica, California ประเทศอเมริกา

แสดงครั้งแรกในหนังเรื่อง The Wishing Stone ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) และหนังทางทีวีเรื่อง The Music Man ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546)

แต่จุดเริ่มต้นการแสดงของเขาเริ่มตั้งแต่ 5 ปี กับการเล่นโฆษณา และเมื่ออายุได้ 7 ปี เขาก็ได้เล่นละครเวทีในบท Stuart Little เรื่อง Stuart Little และ Piglet ในเรื่อง Winnie the Pooh

บทบาทที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขาสุด ๆ คือการได้มาแสดงในซีรีส์ Gotham ค.ศ. 2015-2019 (พ.ศ. 2558-2562) กับบทบาท Jerome Valeska/Jeremiah Valeska ที่เป็นการแสดงได้โคตรดี ดีมาก ๆ ทรงพลังแบบสุด ๆ หลายต่อหลายคนอยากให้เขามาแสดงบท Joker ในฉบับหนังโรง

เขาเล่นดีมากจน Mark Hamill ผู้ให้เสียงพากย์ Joker ในฉบับการ์ตูนออกมาชื่นชมผ่านทาง Twitter ส่วนตัวเลยทีเดียว

น่าเสียดายที่ซีรีส์ Gotham ก็ได้จบลงไปแล้ว แต่การแสดงของเขายังคงติดตราตรึงใจผู้ชมอยู่จนถึงทุกวันนี้

นอกเหนือจากนั้นยังมีบทบาทของเขาอีกมากมายในวงการ ไม่ว่าจะเป็น Click ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Dog Gone ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), ซีรีส์ Corey and Lucas for the Win ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Prom ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Vampire Academy ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), The Giver ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), ซีรีส์ Mercy Street ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Amityville: The Awakening ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), ซีรีส์ Shameless ค.ศ. 2011-2021 (พ.ศ. 2554-2564) รวมถึงการมาเป็นโมแคปและให้เสียงพากย์ Cal Kestis ในเกม Star Wars Jedi: Fallen Order ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ที่ได้สร้างความประทับใจให้กับแฟน ๆ มากมาย

ในอนาคตยังมีผลงานของเขาให้เราได้ติดตามกันอีกใน Shattered และ My Love Affair with Marriage

ส่วนตัวก็หวังจะได้เห็นผลงานใหญ่ ๆ ของเขาให้เราได้ดูกัน เพราะนักแสดงคนนี้มีฝีไม้ลายมือการแสดงที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ

17 สิงหาคม

ROBERT DE NIRO

Robert Anthony De Niro Jr. เกิดวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 1943 (พ.ศ. 2486) ที่ New York City ประเทศอเมริกา

เขาได้รับการฝึกฝนทางด้านการแสดงที่ Stella Adler Conservatory และ the American Workshop

De Niro มีชื่อเสียงมาจากบทบาทในเรื่อง Bang the Drum Slowly ค.ศ. 1973 (พ.ศ. 2516) แต่เขาสร้างชื่อให้กับหลายคนรู้จักในเรื่อง Mean Streets ค.ศ. 1973 (พ.ศ. 2516) ซึ่งเป็นการร่วมงานกันครั้งแรกกับผู้กำกับ Martin Scorsese ก่อนที่ภายหลังทั้งคู่จะกลายมาเป็นเพื่อนรักกัน และร่วมงานกันอีกมากมาย

De Niro ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งแรกในชีวิตจากเรื่อง The Godfather: Part II ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517) จากการแสดงอันยอดเยี่ยมในบทบาท Vito Corleone

และเข้าชิงมาอย่างต่อเนื่องจากเรื่อง Taxi Driver ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519) ของผู้กำกับ Martin Scorsese ที่ได้เข้าชิงออสการ์ควบลูกโลกทองคำ

ตามมาด้วยการเข้าชิงลูกโลกทองคำกับเรื่อง New York, New York ค.ศ. 1977 (พ.ศ. 2520), เข้าชิงควบออสการ์และลูกโลกทองคำกับเรื่อง The Deer Hunter ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521)

กลับมาร่วมงานกับ Martin Scorsese ในเรื่อง Raging Bull ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) และคว้ารางวัลออสการ์ควบลูกโลกทองคำ

เข้าชิงลูกโลกทองคำจากเรื่อง Midnight Run ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531), เข้าชิงออสการ์จากเรื่อง Awakenings ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533), เข้าชิงควบออสการ์และลูกโลกทองคำจากเรื่อง Cape Fear ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534), เข้าชิงลูกโลกทองคำจากเรื่อง Analyze This ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542), เข้าชิงลูกโลกทองคำจากเรื่อง Meet the Parents ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543), เข้าชิงออสการ์จากเรื่อง Silver Linings Playbook ค.ศ. 2012 (พ.ศ.. 2555), เข้าชิงลูกโลกทองคำจากเรื่อง The Wizard of Lies ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) และเข้าชิงออสการ์จาก The Irishman ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

เรียกได้ว่าเป็นดาราที่เข้าชิงออสการ์และลูกโลกทองคำเยอะมากคนนึง เพราะเขาเข้าชิงออสการ์ไปทั้งหมด 8 ครั้ง (ชนะ 2 ครั้ง) และเข้าชิงลูกโลกทองคำทั้งหมด 9 ครั้ง (ชนะ 1 ครั้ง)

นอกจากผลงานเข้าชิงรางวัลจากเรื่องต่าง ๆ แล้ว เจ้าตัวยังมีบทบาทอันน่าจดจำอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Brazil ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528), The Untouchables ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530), Backdraft ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534), Frankenstein ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537), Heat ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538), Casino ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538), Jackie Brown ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) รวมถึงเคยกำกับและแสดงเองด้วยในเรื่อง A Bronx Tale ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) และ The Good Shepherd ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549)

ล่าสุดมีบทบาทฝากไว้ใน The War with Grandpa ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และ The Comeback Trail ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

และในอนาคตยังมีผลงานของเขาอีกมากให้เราได้ติดตามกัน ไม่ว่าจะเป็น Wash Me in the River ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), โปรเจคของ David O. Russell, กลับมาร่วมงานกับ Martin Scorsese ใน Killer of the Flower Moon, Armageddon Time, After Exile, About My Father และโปรคเจคที่เจ้าตัวร่วมทำกับเพื่อน

หนึ่งในนักแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งวงการ Hollywood

- Robert De Niro

SEAN PENN

Sean Justin Penn เกิดวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 1960 (พ.ศ. 2503) ที่ Santa Monica, California ประเทศอเมริกา

Penn ปรากฏตัวในหนังใหญ่ครั้งแรกจากเรื่อง Taps ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2504) ตามมาด้วยการแสดงในเรื่อง Fast Times at Ridgemont High ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2505) แต่จุดเริ่มต้นการแสดงของเขาจริง ๆ มาจากบทบาทเล็ก ๆ ในซีรีส์เรื่อง Little House on the Prairie ค.ศ. 1974-1975 (พ.ศ. 2517-2518) ตามมาด้วยบทในซีรีส์อีกบ้าง Barnaby Jones ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522), Hellinger's Law ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524) และ The Killing of Randy Webster ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524)

แฟน ๆ และนักวิจารณ์ต่างหลงไหลในความสามารถทางการแสดงของ Penn จากการแสดงร่วมกับ Timothy Hutton ในหนังสายลับช่วงสงครามเย็นเรื่อง The Falcon and the Snowman ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528), ตามมาด้วยการร่วมทีมกับ Christopher Walken ในเรื่อง At Close Range ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529), และมาแสดงร่วมกับ Diva ตัว Top ของวงการอย่าง Madonna ในเรื่อง Shanghai Surprise ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) แต่ก็โดนกระแสวิจารณ์จวกยับ

แต่นั่นไม่ได้ทำให้ Penn ท้อแต่อย่างใด เขายังคงมุ่งหน้าแสดงอย่างต่อเนื่อง และกลับมาทำได้ดีอีกครั้งในเรื่อง Colors ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531), การันตีความสามารถทางการแสดงอย่างต่อเนื่องจากเรื่อง Casualties of War ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532), ตามมาด้วยการร่วมงานกับ Robert De Niro ในเรื่อง We're No Angels ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532)

ในช่วงปี ค.ศ. 1990s (พ.ศ. 2533-2542) นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ Penn โดนจับตามองจากสื่ออย่างมากในฐานะนักแสดงที่มีความสามารถหลากหลาย และประสบความสำเร็จในการแสดงมาอย่างต่อเนื่องแบบไม่หยุดหย่อน

หนึ่งบทบาทที่เกือบจะจำไม่ได้ของ Penn กับบทบาทชายผมยุ่งสวมแว่นตา David Kleinfeld ที่ได้แสดงร่วมกับ Al Pacino ในหนังเรื่อง Carito's Way ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) และจากการแสดงในเรื่องนี้ มันส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งแรกในชีวิต

ตามมาด้วยการแสดงอันยอดเยี่ยมในเรื่อง Dead Man Walking ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) ที่ส่งให้ Penn ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งแรกในชีวิตควบลูกโลกทองคำเลยทีเดียว

Penn ได้มาร่วมงานกับ MIchael Douglas ในเรื่อง The Game ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) ตามมาด้วยบทนำในเรื่อง The Thin Red Line ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) ก่อนที่จะปิดยุค ค.ศ. 1990s (พ.ศ. 2533-2542) ไปในเรื่อง Sweet and Lowdown ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงออสการ์ควบลูกโลกทองคำ

พรสวรรค์ไม่ได้สร้างความสามารถในการแสดงเท่านั้น มันยังคงฉายแววในการกำกับหนังอีกด้วย กับเรื่อง The Indian Runner ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) ตามมาด้วยการกำกับใน The Crossing Guard ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) ที่แสดงโดย Jack Nicholson และทั้งสองเรื่องนั้นได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์ในแง่บวกมากๆ

ข้ามศตวรรษมา Penn ยังมีแสดงความสามารถในงานแสดงอย่างต่อเนื่อง และมีผลงานอีกมากมาย โดยเฉพาะผลงานการแสดงอันโคตรยอดเยี่ยมกับบทบาทสุภาพบุรุษปัญญานิ่ม พ่อผู้ไม่สมประกอบมีปัญหาด้านการพัฒนาการทางสมอง แต่ดันไปทำผู้หญิงท้องโดยไม่ตั้งใจ ทำให้เขาต้องเลี้ยงดูลูกอย่างยากลำบาก ตัวหนังแสดงให้เห็นเลยว่าถึงสมองเขาจะมีปัญหา แต่หัวใจของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก และการแสดงอันยอดเยี่ยมนี้ ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์อีกด้วย

แต่สุดยอดการแสดงของ Penn คือบทบาทในหนังผลงานการกำกับของ Clint Eastwood เรื่อง Mystic River ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) กับเรื่องราวของพ่อออกทวงแค้นลูกที่โดนฆาตกรรม และการแสดงอันยอดเยี่ยมนี้ส่งผลให้เขาได้เข้าชิงควบรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำ และเป็นครั้งแรกที่เขาสามารถคว้ารางวัลได้จากทั้งสองเวทีเลยทีเดียว

ตามมาด้วยบทบาทการแสดงอันยอดเยี่ยมในเรื่อง Milk ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) ที่ส่งให้เขาคว้ารางวัลออสการ์และเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำด้วย

เส้นทางการแสดงของ Penn ยังคงไม่หยุดนิ่ง เขายังคงมีผลงานออกมาอีกมากมายจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น Fair Game ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Gangster Squad ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), The Secret Life of Walter Mitty ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), ซีรีส์ The First ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), The Professor and the Madman ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), ซีรีส์ Curb Your Enthusiasm ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และล่าสุดกับ Flag Day ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

ในอนาคตยังคงมีผลงานของเขาอยู่ด้วยทั้ง ซีรีส์ Gaslit ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Daddio, Black Flies และมินิซีรีส์ American Lion

Sean Penn หนึ่งในนักแสดงผู้เกิดมาพร้อมพรสวรรค์มากที่สุดคนหนึ่งในวงการ Hollywood

18 สิงหาคม

ROMAN POLANSKI

Roman Polanski มีชื่อจริงว่า Rajmund Roman Liebling เกิดวันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ. 1933 (พ.ศ. 2476) ที่ Paris ประเทศฝรั่งเศส

Polanski มีพ่อแม่เป็นคนโปแลนด์ พ่อแม่ของเขาย้ายจากฝรั่งเศสกลับไปยังโปแลนด์ในช่วงปี ค.ศ. 1936 (พ.ศ. 2479) ก่อนที่สงครามโลกครั้งที่ 2 จะเริ่มต้นขึ้น

พอในปี ค.ศ. 1939 (พ.ศ. 2482) เยอรมันก็เข้ามารุกรานประเทศ พ่อแม่ชาวยิวของเขาก็ได้โดนจับตัวไปยังแคมป์ โดยพ่ออยู่ที่ Mauthausen-Gusen ในออสเตรเลียเขาก็อยู่กับพ่อที่นั่น ส่วนแม่ถูกส่งไป Auschwitz และถูกฆ่า

เมื่อ Roman อายุได้ 7 ปี เขาก็สามารถหนีออกจากแคมป์และเอาชีวิตรอดหลังสงครามได้ เอาชีวิตรอดตามแถบชนบทของโปแลนด์แสร้งทำเป็นเด็กโรมันคาธอลิกที่ไปเยี่ยมญาติ ถึงแม้มันจะช่วยชีวิตเขาได้ แต่เขาก็ถูกทำร้ายอย่างทารุณ ทรมานเกือบตาย โดนทุบจนกะโหลกร้าว

คนในระแวกบ้านของ Polanski มักจะเพิกเฉยต่อโรงหนังที่ฉายหนังเยอรมัน แต่เขามักจะเลือกที่จะไปดูหนังเหล่านั้น เมื่อสงครามเริ่มขึ้น เขาก็ใช้ชีวิตเหมือนคนจรจัด ซ่อนตัวอยู่ในยุ้งฉางและตามป่าไม้ กินทุกอย่างที่หาหรือขโมยมาได้ เขาเคยพบทหารนาซีบางคนที่มักให้เขาถือเป้าเพื่อให้พวกนั้นซ้อมยิง

เมื่อสงครามจบในปี ค.ศ. 1945 (พ.ศ. 2488) เขาก็ได้พบกับพ่อเขาอีกครั้ง พ่อเขาได้ส่งให้ไปเรียนที่โรงเรียนเทคนิค แต่ดูเหมือนว่า Polanski จะเลือกอาชีพอื่นไปแล้ว

เพราะในช่วงปี ค.ศ. 1955 (พ.ศ. 2498) เขาได้เป็นนักแสดง ไปปรากฏตัวในหนังของ Andrzej Wajda เรื่อง Pokolenie และเขาก็ได้มาเข้าเรียนที่ Lodz Film School จนมันทำให้เขาได้ถ่ายหนังสั้นทั้ง Dwaj ludzie z szafa ค.ศ. 1958 (พ.ศ. 2501), Le gros et le maigre ค.ศ. 1961 (พ.ศ. 2504) และ Ssaki ค.ศ. 1962 (พ.ศ. 2505) ที่ทำให้ได้เห็นเอกลักษ์ของเขากับมุกตลกร้ายและความสนใจในความสัมพันธ์ของมนุษย์ที่แปลกประหลาด

จนเจ้าตัวได้เดบิวต์มากำกับหนังใหญ่ครั้งแรกในเรื่อง Knife in the Water ค.ศ. 1962 (พ.ศ. 2505) เป็นหนังโปแลนด์เรื่องแรกหลังสงครามโลกที่ไม่ได้มีเนื้อหาเกี่ยวกับสงคราม และส่งให้เป็นหนังเรื่องแรกของประเทศโปแลนด์ที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาหนังต่างประเทศ

หลังจากนั้น Polanski ก็ตัดสินใจออกจากโปแลนด์และมุ่งหน้าไปยังฝรั่งเศส ทำให้เขาได้พบกับนักเขียนบทอย่าง Gérard Brach ที่ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนร่วมงานกันมาอย่างยาวนาน ทำหนังออกมาอย่าง Repulsion ค.ศ. 1965 (พ.ศ. 2508) และ Cul-de-sac ค.ศ. 1966 (พ.ศ. 2509) คว้ารางวัล Silver และ Golden Bear Awards ในงานเทศกาลหนัง Berlin International Film Festival

ในปี ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2511) Polanski ก็ได้ก้าวเข้าสู่วงการ Hollywood ที่ได้ทำหนังจิตวิทยาระทึกขวัญเรื่องยอดขึ้นมากับ Rosemary's Baby ที่ส่งให้ตัวหนังคว้ารางวัลออสการ์ 1 สาขา จากการเข้าชิงทั้งหมด 2 สาขา และคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ 1 สาขา จากการเข้าชิงทั้งหมด 4 สาขา

ถึงแม้เขาจะประสบความสำเร็จกับ Hollywood แต่ก็มาเกิดเรื่องน่าเศร้า เมื่อภรรยาสุดที่รัก Sharon Tate ถูกฆาตกรรมโดยฝีมือของกลุ่ม Manson Family ในปี ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจเดินทางกลับยุโรป

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517) เขาได้กลับมาอเมริกาอีกครั้งและทำหนังที่ชื่อว่า Chinatown ที่ส่งให้คว้ารางวัลออสการ์ 1 สาขา จากการเข้าชิงทั้งหมด 11 สาขา และคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ 4 สาขา จากการเข้าชิงทั้งหมด 7 สาขา

ดูเหมือนอาชีพใน Hollywood ของเขาดูเป็นไปได้ด้วยดี แต่ไม่นานเขาก็ได้ถูกตัดสินว่ากระทำความผิดข้อหาวางยาและข่มขืนเด็กหญิงวัย 13 ปีเจ้าตัวรับสารภาพและติดคุกประมาณ 42 วัน แต่ต่อมาพอจะมีการเพิ่มโทษ เจ้าตัวจึงตัดสินใจหนีไปอยู่ในยุโรปที่ไม่มีกฏหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน จนมีหลายเวทีต่อต้านหนังของเขาด้วย

หลังจากนั้น Polanski ก็ยังคงทำหนังมาอย่างต่อเนื่อง เขาได้สร้างชื่อกับ Tess ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) คว้ารางวัลออสการ์ 3 สาขา จากการเข้าชิงทั้งหมด 6 สาขา และคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ 2 สาขา จากการเข้าชิงทั้งหมด 4 สาขา

ผลงานหลังจากนั้นเขาก็นับว่ายอดเยี่ยมทั้งนั้น โดยเฉพาะ The Pianist ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) คว้ารางวัลออสการ์ 3 สาขา จากการเข้าชิงทั้งหมด 7 สาขา และคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ 1 สาขา แถมยังคว้ารางวัลอีกหลากหลายเวที ไม่ว่าจะเป็น Cannes, BAFTA และ Cesar Award

ทุกวันนี้ Polanski ยังคงกำกับหนังมาอย่างต่อเนื่อง กับผลงานล่าสุด J'accuse ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และในอนาคตยังมีอีกผลงานให้ติดตามกับ The Palace ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

ROBERT REDFORD

Charles Robert Redford Jr. เกิดวันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ. 1936 (พ.ศ. 2479) ปัจจุบันอายุ 82 ปี เกิดที่ Santa Monica รัฐ California ประเทศอเมริกา

ในชีวิตวัยเด็กก่อนที่จะมาโลดแล่นในวงการแสดงนั้น ตัว Redford มีความสามารถทางด้านกีฬาเป็นอย่างมาก เขาได้ทุนกีฬาเบสบอลจากมหาวิทยาลัย แต่ด้วยความที่เจ้าตัวเป็นคนเกเร ชอบเที่ยว ดื่มเหล้า เมาสุรา เลยทำให้โดนไล่ออกจากทีมไปในที่สุด แล้วชีวิตเขาก็ได้ทำนู่นทำนี่มากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็น ขุดเจาะน้ำมันเอย วาดรูปเอย ท่องเที่ยวเอย และในที่สุดก็ได้มาเรียนการแสดง

Redford เริ่มต้นการแสดงครั้งแรกจากซีรีย์เรื่อง Maverick ค.ศ. 1960 (พ.ศ. 2503) ในบทบาทของ Jimmy Coleman และในปีเดียวกันนั้น เขาก็รับเล่นซีรีย์ทุกเรื่องที่ขอให้ไปเล่น รวมแล้ว 10 กว่าเรื่องเลยทีเดียว

ในหลาย ๆ ปีต่อมา เขาก็ยังคงทำเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ รับเล่นแต่ซีรีย์มาโดยตลอด และในที่สุดการแสดงของเขาก็ไปเตะตาผู้กำกับ Denis Sanders ทำให้ผู้กำกับรายนี้ชวนเขามาเล่นหนังเรื่อง War Hunt ค.ศ. 1962 (พ.ศ. 2505) นั่นจึงเป็นการแสดงเรื่องแรกของเขาในบทบาทของหนังเต็มรูปแบบนั่นเอง แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นและสร้างชื่อให้กับตัวเขาเสียเท่าไหร่ รวมถึงหลายเรื่องต่อๆ มาที่เขารับเล่น

แต่ผลงานที่สร้างชื่อให้กับเขาเลยก็คือเรื่อง Barefoot in the Park ค.ศ. 1967 (พ.ศ. 2510) ซึ่งเป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากละครบรอดเวย์ที่เขาเคยแสดง และเรื่องนี้แหละที่ส่งให้เขาได้รับคำชม บวกกระแสตอบรับที่ดีสุด ๆ

เขาเคยโดนฟ้องในข้อหาที่เขาไม่ยอมทำตามสัญญากับค่ายหนัง เขาไม่รับเล่นหนังถึงสองเรื่อง (The Graudate และ Rosemary's Baby)

ต่อมาหลังจากเขามีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว หนังเรื่องต่าง ๆ ก็อยากให้เขาไปร่วมแสดง ทำให้เขาได้แสดงไปหลายเรื่องสุด ๆ และเขายังได้แสดงในบทนำเรื่อง The Sting ค.ศ. 1973 (พ.ศ. 2516) เป็นหนังที่กวาดรางวัลออสการ์ไปถึง 7 สาขาเลยทีเดียว (แต่ตัวเขาได้เพียงเข้าชิงรางวัลสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมเท่านั้น)

แต่ถึงกระนั้น เขาก็ได้รางวัลออสการ์มาเช่นกันแต่ในฐานะผู้กำกับ โดยได้รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเรื่อง Ordinary People ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523)

เจ้าตัวได้ประกาศอำลาวงการแสดงอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ก็ยังมีผลงานของเขาให้เราได้เห็นทิ้งท้ายกับ The Old Man & the Gun ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), ให้เสียงบรรยายใน Buttons ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Avengers: Endgame ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และล่าสุดให้เสียงพากย์ใน Omniboat: A Fast Boat Fantasia ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) (แต่เขายังรับหน้าที่อำนวยการสร้างอยู่)

อย่างไรก็ตาม Robert Redford คือหนึ่งในนักแสดงที่เป็นตำนาน ที่สร้างชื่อให้กับตัวเองไม่น้อยเลยทีเดียว

EDWARD NORTON

Edward Harrison Norton เกิดวันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) ที่ Boston, Massachusetts และเติบโตขึ้นมาที่ Columbia, Maryland

ตั้งแต่อายุ 5 ปี Norton ให้ความสนใจทางด้านการแสดงเป็นอย่างมาก และเมื่อเขาอายุได้ 8 ปี เขาได้มีโอกาสแสดงละครที่โรงเรียน เขาจึงถามครูว่าแรงจูงใจของตัวละครเขาในฉากนี้คืออะไร เพื่อที่เขาจะได้แสดงมันออกมาอย่างเข้าใจและดีที่สุด

ในช่วงวัยเด็ก Norton จึงเลือกที่จะเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนการแสดงมาโดยตลอด และเขาก็เริ่มหางานทำที่โรงละครที่ New York จนได้มาเป็นสมาชิกของ Signature players ของผู้อำนวยการสร้างและผู้กำกับ Edward Albee

มีอยู่ครั้งนึง Norton ได้ไปปรกาฏตัวที่ Albee's Fragments ใน Hollywood ที่นั่นกำลังมองหานักแสดงเด็กให้มารับบทเคียงข้าง Richard Gere ในหนังเรื่อง Primal Fear ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) ซึ่งตอนแรกบทถูกเสนอให้กับ Leonardo DiCaprio แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธไป ทำให้ Gere เกือบจะถอนตัวจากโปรเจคนี้เพราะเบื่อหน่ายกับการหาตัวนักแสดงเด็กเสียเหลือเกิน แต่ Norton ก็ไปออดิชั่นบทชนะคนกว่า 2000 คนและได้รับบทในเรื่องนี้ไปครอบครอง เขาสร้างความประทับใจตั้งแต่เทสหน้ากล้อง และหลังจากหนังเรื่องนี้เข้าฉาย ทั้ง Hollywood ต่างจับตามองที่ดารารุ่นใหม่คนนี้ เพราะเพียงการแสดงหนังเรื่องแรกในชีวิตเรื่องนี้ มันได้ส่งให้เขาคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ และเข้าชิงรางวัลออสการ์อย่างน่าเหลือเชื่อ

ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ถูกเสนอบทให้มาแสดงในหนังของ Woody Allen เรื่อง Everyone Says I Love You ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) และ The People vs. Larry Flynt ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539)

ในปี ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) Norton ต้องเพิ่มน้ำหนักตัวเองขึ้นมาอีก 30 ปอนด์ และโกนหัวเพื่อมารับบทชายหัวรุนแรงใน American History X ซึ่งเขาก็แสดงมันออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมจนส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งที่ 2

Norton ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งที่ 3 และเข้าชิงลูกโลกทองคำครั้งที่ 2 กับบทบาทสมทบในเรื่อง Birdman or (The Unexpected Virtue of Ignorance) ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)

Norton ยังมีบทบาทอันน่าจดจำและได้รับเสียงชื่นชมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Fight Club ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542), Red Dragon ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), 25th Hour ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), Kingdom of Heaven ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), The Illusionist ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), The Incredible Hulk ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Moonrise Kingdom ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), The Grand Budapest Hotel ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), ให้เสียงพากย์ใน Sausage Party ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), ให้เสียงพากย์ใน Isle of Dogs ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Motherless Brooklyn ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และล่าสุดกับผลงาน The French Dispatch ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) ซึ่งในอนาคตยังมีผลงานของเขาให้เราติดตามกันอีกใน Knives Out 2 ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

นอกจากนั้น Norton ยังมีผลงานการกำกับและร่วมเขียนบทด้วย ซึ่งผลงานการกำกับครั้งแรกของเขาคือเรื่อง Keeping the Faith ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) และเขาก็ได้ร่วมเขียนบทแต่ไม่ได้รับเครดิตในเรื่อง The Score ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Frida ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) และ The Incredible Hulk ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551)

นอกเหนือจากงานในวงการหนังแล้ว Norton ยังเป็นนักเคลื่อนไหวทางสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกของกรรมการผู้ดูแลทรัพย์สิน Enterprise Community Partners ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสงผลกำไรสำหรับการพัฒนาถิ่นที่อยู่อาศัยราคาประหยัด ที่ก่อตั้งโดย James Rouse ปู่ของ Norton

20 สิงหาคม

AMY ADAMS

Amy Lou Adams เกิดวันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517) ที่ Vicenza, Veneto ประเทศอิตาลี

Adams ได้เป็นนักร้องประสานเสียงตอนเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายที่ Douglas County High School และได้เป็นนักเต้นฝึกหัดที่บริษัทท้องถิ่นแห่งหนึ่ง โดยเธอมีความทะเยอทะยานอยากเป็นนักเต้นบัลเลต์

อย่างไรก็ตาม เธอก็ได้ทำงานเป็นพนักงานต้อนรับที่ The Gap และ Hooters เพื่อหาเลี้ยงดูตัวเอง ก่อนจะได้งานเป็นนักเต้นที่โรงละคร Boulder's Dinner Theatre และ Country Dinner Playhouse จนได้มีโอกาสแสดงใน Brigadoon และ A Chorus Line

ในขณะอยู่ที่นั่น มีผู้กำกับโรงละครของ Minneapolis ได้เจอเธอ เลยชวนเธอย้ายไป Chanhassen, Minnesota เพื่อให้เธอมีงานมากขึ้น แต่ด้วยการรักษากล้ามเนื้อของเธอทำให้เธอไม่สามารถเต้นได้

จนมันทำให้เธอมีโอกาสได้ไปออดิชันเพื่อรับบทใน Drop Dead Gorgeous ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ที่มีการถ่ายทำอยู่ใกล้โรงละครที่เธออยุ่พอดี ในขณะถ่ายทำ Kirstie Alley ได้สนใจในการแสดงของเธอ และชวนเธอย้ายไป Los Angeles และนั่นทำให้ Adams ได้ชนะคว้าบทในเวอร์ชันทีวีของ Cruel Intentions ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ในบท Kathryn Merteuil แต่หลังจากถ่ายไปเพียง 3 ตอนก็เกิดปัญหาและก็ไม่ได้ออกอากาศ แต่มันก้็ได้รวมกันและออกมาเป็น Cruel Intentions 2 ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ในวิดิโอ

และหลังจากการแสดงที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ ในทีวี ซีรีส์ เธอก็ได้รับบทหลักในเรื่อง Catch Me If You Can ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) ได้แสดงร่วมกับ Leonardo DiCaprio แต่มันก็ไม่ใช่การเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ที่เธอคาดหวังไว้ เพราะหลังจากนั้นก็ไม่มีบทเสนอมาให้เธออีกเป็นปี จนเธอได้กลับมาแสดงทางทีวีกับซีรีส์ Dr. Vegas ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547)

บทบาทของเธอในหนังทุนต่ำเรื่อง Junebug ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) กลับทำให้เธอกลายเป็นที่สนใจ เพราะมันส่งให้เธอเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งแรกในชีวิต

หลังจากนั้นก็เหมือนจะมีค่ายหนังสนใจเธอมากขึ้น และหนึ่งในนั้นคือ Disney ที่พาเธอมาออดิชั่น และเธอก็ชนะผู้เข้าร่วมออดิชั่นกว่า 300 คนมาคว้าบลท Giselle ในหนังเรื่อง Enchanted ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) กลายเป็นหนังที่สร้างชื่อให้เธอแบบสุด ๆ และมันยังสามารถทำให้เธอได้ร้องเล่นเต้นรำอย่างที่เธอชอบด้วย ส่งให้เธอได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ

บนเวทีรางวัลนับว่าเธอก็เข้าชิงอีกมากมายหลายครั้ง จากเวทีออสการ์ เธอก็เข้าชิงอีก 5 ครั้งจากในเรื่อง Doubt ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), The Fighter ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), The Master ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), American Hustle ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) และ Vice ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561)

ส่วนบนเวทีลูกโลกทองคำเคยคว้ารางวัลมา 2 ครั้งจากในเรื่อง American Hustle ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) และ Big Eyes ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) ได้เข้าชิงอีก 6 ครั้ง Doubt ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), The Fighter ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), The Master ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Arrival ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Sharp Objects ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Vice ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561)

นอกเหนือจากนั้นยังมีงานแสดงอีกมากมายหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Charlie Wilson's War ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Sunshine Cleaning ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Night at the Museum: Battle of the Smithsonian ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), Julie & Julia ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), Man of Steel ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Her ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Nocturnal Animals ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Justice League ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) และล่าสุดกับผลงานอย่าง The Woman in the Window ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

ในอนาคตยังมีผลงานของเธอให้เราได้เห็นกันอีกทั้ง Dear Evan Hansen ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Nightbitch, Kings of America และภาคต่อ Encharted ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) ในชื่อ Disenchanted ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) ที่ได้ถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ANDREW GARFIELD

Andrew Russell Garfield เกิดวันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) ที่ Los Angeles, California ประเทศอเมริกา มีพ่อเป็นคนอเมริกา และแม่เป็นคนอังกฤษ

เมื่อ​เขาอายุได้ 3 ปี เขาได้ย้ายไปที่อังกฤษกับครอบครัว และได้เรียนที่ City of London Freeman จนได้เริ่มการแสดงครั้งแรกในชีวิตที่นั่น จนกระทั่งอายุ 19 เขาได้ย้ายมาเรียนที่ Central School of Speech and Drama

แต่จุดเริ่มต้นการแสดงอย่างจริงจังของเขาเริ่มต้นขึ้นกับบทบาทการแสดงบนเวทีในปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) และได้เริ่มเดบิวต์ตัวเองกับการแสดงในซีรีส์วัยรุ่นทาง TV ช่อง Channel 4 เรื่อง Sigar Rush ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) และแสดงซีรีส์ต่อมาอีกหลายเรื่อง

Andrew เริ่มต้นการแสดงในภาพยนตร์ใหญ่ครั้งแรกเรื่อง Boy A ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) ตามมาด้วยการแสดงใน The Social Network ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) และ Never Let Me Go ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) โดยสองเรื่องนี้ได้สร้างชื่อให้กับเขาเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังในระดับสากล ซึ่งเข้าได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล​นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจาก The Social Network อีกด้วย

และต่อมาเขาได้รับคัดเลือก​ให้รับบทบาท Peter Parker ในหนังรีบูท Spider-Man เรื่อง The Amazing Spider-Man ค.ศ. 2012, 2014 (พ.ศ. 2555, 2557) ก่อนที่ภายหลังมันจะถูกรีบูทอีกครั้งและบทนี้ตกไปเป็นของ Tom Holland

แต่สุดยอดการแสดงของเขาต้องยกให้บทบาท Desmond Doss ในหนังเรื่อง Hawksaw Ridge ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมจาก 2 เวทีใหญ่ ออสการ์และลูกโลกทองคำ

Andrew Garfield คือหนึ่งนักแสดงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวภายนอกอันโดดเด่น และการแสดงที่ไม่ธรรมดา จึงทำให้เขาเป็นที่จดจำกับแฟน ๆ ได้ไม่ยาก

ผลงานเมื่อปี ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) กับ Under the Silver Lake หนังติสจัดที่ดูและง๊งงง และล่าสุดกับผลงานอย่าง Mainstream ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

และในอนาคตยังมีผลงานของเขาอีกถึง 4 เรื่องกับ The Eyes of Tammy Faye ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Tick, Tick...Boom! ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), มินิซีรีส์ Under the Banner of Heaver, Brideshead Revisited ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

21 สิงหาคม

CARRIE-ANNE MOSS

Carrie-Anne Moss เกิดวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 1967 (พ.ศ. 2510) ที่ Vancouver, British Columbia ประเทศแคนาดา

เมื่ออายุได้ 20 ปี เธอได้เข้าเรียนที่โรงเรียนสอนการแสดง American Academy of Dramatic Arts และหลังจากนั้นเธอก็ย้ายมายังยุโรปเพื่อมาไล่ล่าความฝันกับอาชีพการเป็นนางแบบ

จุดเริ่มต้นทางการแสดงของเธอมาจากบทบาทเล็ก ๆ ในซีรีส์เรื่อง The Hitchhiker ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532)

ในขณะอยู่ที่สเปนเธอได้ถูกแคสไปรับบทใน TV เรื่อง Dark Justice ค.ศ. 1991-1993 (พ.ศ. 2534-2536) ที่ถ่ายทำกันใน Barcelona สำหรับซีซั่นแรก และเธอก็ได้ตามไปถ่ายทำด้วยที่ Los Angeles ในปีต่อมา

ครั้งในเมื่อเธออยู่ที่ LA เธอได้รับโอกาสมากขึ้นกับซีรีส์ Matrix ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) (คนละเรื่องกับหนังที่เธอเล่นในหนังนะ) และเธอก็ได้แสดงซีรีส์มาอย่างต่อเนื่องกับอีกหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น Silk Stalkings ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536), L.A. Law ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536), Doorways ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) และ Models Inc. ค.ศ. 1994-1995 (พ.ศ. 2537-2538)

และในปี ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) นั้น เธอก็ได้แสดงหนังครั้งแรกในชีวิตกับเรื่อง Flashfire ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537), The Soft Kill ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) และ Toughguy ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538)

เธอได้แสดงหนังและซีรีส์ต่อมาเรื่อย ๆ และชื่อเสียงของเธอเริ่มเป็นที่สนใจ จนผู้กำกับ Mali Finn ได้เชิญเธอให้ไปลองออดิชั่นบทหนังของ Lana Wachowski สิ เป็นโปรเจคหนังแอ็คชัน Sci-fi ซึ่งแน่นอนมันแจ้งเกิดแบบเปรี้ยงปร้างให้เธอเลยทีเดียว เพราะเรื่องนั้นคือ The Matrix ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542)

Carrie-Anne ในบท Trinity ได้รับเสียงชื่นชมมากมาย ทำให้เธอก้าวเข้าสู่เวทีระดับโลก แสดงเคียงข้างกับ Keanu Reeves, Laurence Fishburne และ Hugo Weaving ทำให้เธอได้ผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ที่เล่นหนังแอ็คชัน Sci-fi ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล

หลังจากกระแสความสำเร็จของ The Matrix เธอก็ได้รับบทเรื่องนึง เป็นหนังที่ชื่อเรื่องว่า Memento ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) หนังของผู้กำกับชื่อดัง Christopher Nolan ที่ตอนนั้นยังไม่ค่อยมีชื่อเสียงเท่าไหร่ และหลังจากการนัดเจอกันของทั้งคู่ ตัวของ Carrie-Anne รับบท Natalie โดยไม่ลังเลเลย แสดงเคียงข้างกับ Guy Pearce และแน่นอนหนังเรื่องนี้กลายเป็นปรากฏการณ์และคนพูดถึงจนทุกวันนี้ และการแสดงของเธอยังส่งให้เธอคว้ารางวัล Spirit Award สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี จนสานต่อเรื่องราวในอีก 2 ภาค The Matrix Reloaded ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), The Matrix Revolutions ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546)

Carrie-Anne ยังคงแสดงมาอย่างต่อเนื่องในอีกหลายบทบาท ไม่ว่าจะเป็น Red Planet ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543), Chocolat ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543), Suspect Zero ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Disturbia ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), ซีรีส์ Chuck ค.ศ. 2011-2012 (พ.ศ. 2554-2555), Silent Hill: Revelation ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), ซีรีส์ Vegas ค.ศ. 2012-2013 (พ.ศ. 2555-2556), Pompeii ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Frankenstein ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Brain on Fire ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), ซีรีส์ Iron Fist ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), ซีรีส์ Jessica Jones ค.ศ. 2015-2019 (พ.ศ. 2558-2562), ซีรีส์ Tell Me a Story ค.ศ. 2019-2020 (พ.ศ. 2562-2563) และล่าสุดกับ The Clockwork Girl ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

ในอนาคตเธอจะกลับมารับบทบาท Trinity แสดงร่วมกับ Keanu Reeves, Jada Pinkett Smith, Yahya Abdul-Mateen II ในเรื่อง The Matrix 4 ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

22 สิงหาคม

KRISTEN WIIG

Kristen Carroll Wiig เกิดวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 1973 (พ.ศ. 2516) ที่ Canandaigua, New York ประเทศอเมริกา

ครอบครัวของเธอย้ายมายัง Lancaster, Pennsylvania ก่อนที่ภายหลังจะมาอาศัยอยู่ที่ Rochester, New York แต่เมื่อ Wiig อายุได้ 9 ปี พ่อแม่ของเธอก็หย่ากัน และเธอก็มาอาศัยอยู่กับแม่และพี่ชายของเธอ Erik

หลังจากเรียนจบจาก Brighton High School ใน Rochester เธอก็ได้เข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย Arizona ทางด้านศิลปะ จนเธอได้เริ่มเรียนคลาสการแสดงเป็นวิชาเลือก ไม่นานหลังจากนั้นครูของเธอก็เห็นในความสามารถให้สนับสนุนให้เธอเอาดีทางด้านการแสดง

1 ปีให้หลังจากนั้น เธอก็ย้ายไปยัง Los Angeles และได้เริ่มทำงานให้กับคณะละคร The Groundlings

Wiig ได้เดบิวต์ในหนังใหญ่เรื่องแรกในเรื่อง Knocked Up (2007) และตามมาด้วยผลงานการแสดงอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ซีรีส์ 30 Rock ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Ghost Town ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Whip It ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), Adventureland ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), ซีรีส์ Bored to Death ค.ศ. 2009-2010 (พ.ศ. 2552-2553), The Secret Life of Walter Mitty ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Her ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Anchorman 2: The Legend Continues ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), The Martian ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Zoolander 2 ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Ghostbusters ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Downsizing ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Mother! ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) และที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นานกับบทบาท Barbara Minerva/Cheetah ใน Wonder Woman 1984 ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และผลงานอย่าง The Husbands ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

แต่ยอดผลงานการแสดงของเธอ คือการรับบทใน Bridesmaids ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) ที่ส่งให้เธอเข้าชิงรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำ

นอกเหนือจากการแสดงแล้ว เธอยังมีความสามารถในด้านการพากย์เสียงอีกด้วย เธอได้ฝากผลงานไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Ice Age: Dawn of the Dinosaurs ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), How to Train Your Dragon ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Despicable Me ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Despicable Me 2 ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), How to Train Your Dragon 2 ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Masterminds ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Sausage Party ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Despicable Me 3 ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) และ How to Train Your Dragon: The Hidden World ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

ในอนาคตยังมีผลงานของเธอให้เราได้ติดตามกัน ทั้ง A Boy Called Christmas ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Toni Erdmann และซีรีส์ MacGruber

JAMES CORDEN

พิธีกรและนักแสดงเจ้าของรางวัล Primetime Emmys 10 สมัย และเข้าชิงอีกหลายต่อหลายครั้ง แถมยังเคยเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีก 1 ครั้งจาก The Prom ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) เขาคือ James Corden

James Kimberly Corden เกิดวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521) ที่ Hillingdon, London ประเทศอังกฤษ ถูกเลี้ยงดูและเติบโตมาใน Buckinghamshire

Corden เรียนการละครที่ Jackie Palmer Stage School ก่อนที่ภายหลังจะไปเรียนที่ Holmer Green Senior School อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวยอมรับว่าเขามีความทะเยอทะยานทางวิชาการน้อยมาก เขาจึงหันไปเอาดีทางด้านการแสดง จนได้เดบิวต์หนังครั้งแรกในเรื่อง TwentyFourSeven ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540)

หลังจากนั้นเขาก็ได้ไปแสดงบทเล็ก ๆ ในซีรีส์อีกหลากหลายเรื่อง จนเขาได้สร้างชื่อเสียงและสร้างการจดจำในซีรีส์วัยรุ่นคอเมดี้ดราม่าเรื่อง Fat Friends ค.ศ. 2000-2005 (พ.ศ. 2543-2548) จนมันเปิดโอกาสเส้นทางในวงการแสดงให้เจ้าตัวอีกมากมาย

เราจะได้เห็นผลงานของเขาตามมาอีกมากมาย Starter for 10 ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Planet ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), The Three Musketeers ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Begin Again ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Into the Woods ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Trolls ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), The Emoji Movie ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), Peter Rabbit ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Ocean's Eight ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Yesterday ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Cats ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Trolls World Tour ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และล่าสุด Peter Rabbie 2: The Runaway ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

รวมถึงมีรายการสุดโด่งดังของเจ้าตัวกับ The Late Late Show with James Corden ที่ออกอากาศตั้งแต่ปี ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) มาจนถึงปัจจุบัน

ในอนาคตยังมีผลงานของเขาให้ติดตามกันอีก ทั้ง Cinderella ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) และซีรีส์ Mammals

23 สิงหาคม

RIVER PHOENIX

River Phoenix มีชื่อจริงว่า River Jude Bottom เกิดวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513) ที่ Madras, Oregon ประเทศอเมริกา

เมื่ออายุ 2 ปี ครอบครัวของเขาก็ได้มาอาศัยที่อเมริกาใต้ และในปี ค.ศ. 1977 (พ.ศ. 2520) พวกเขาก็ย้ายกลับไปยังอเมริกา ซึ่งตอนนั้นครอบครัวของเขาก็ได้เปลี่ยนนามสกุลเป็น Phoenix เพื่อสื่อถึงการเริ่มต้นใหม่ ภายหลังก็ได้ย้ายมายัง Los Angeles

River ถูกพ่อแม่สนับสนุนและผลักดันตั้งแต่ยังเด็กให้เข้าสู่แวดวงการแสดง และเมื่ออายุได้ 10 ปี เขาก็ได้มีอาชีพทางการแสดงครั้งแรกในวงการ TV

River เดบิวต์แสดงหนังเรื่องแรกในเรื่อง Explorers ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) และการแสดงของเขาก็น่าจับตามอง จนได้มาแสดงในเรื่อง Stand by Me ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) ก็ประสบความสำเร็จเข้าไปอีก ทำให้เจ้าตัวมีผลงานมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง The Mosquito Coast ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) และรับบท Indiana Jones วัยเด็ก ใน Indiana Jones and the Last Crusade ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532)

หลังจากโลดแล่นในวงการแสดงเพียงไม่กี่ปี ความสามารถทางด้านการแสดงของเขาก็เฉิดฉายเป็นอย่างมาก เขาได้แสดงในเรื่อง Running on Empty ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ซึ่งการแสดงอันยอดเยี่ยมของเขาก็ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำ ครั้งแรกและน่าเสียดายจริง ๆ ที่มันเป็นเพียงครั้งเดียวในชีวิต

แต่การแสดงที่เจ้าตัวโปรดปรานที่สุดคือบทบาท Mike ในเรื่อง My Own Private Idaho ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) ที่ได้แสดงร่วมกับเพื่อนรัก Keanu Reeves

River และ Reeves เป็นเพื่อนสนิทกันอย่างมาก ทั้งคู่เจอกันครั้งแรกในเรื่อง I Love You to Death ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) และสนิทกันอย่างรวดเร็ว พวกเขาทั้งคู่รักกันมากขนาดที่ Reeves ถึงกับขับมอเตอร์ไซต์กว่า 1,000 ไมล์ เพื่อพาเขาไปคัดตัวแสดงในเรื่อง My Own Private Idaho ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) ผลคือทั้งคู่ก็ได้บทในเรื่องนั้นไป

หลังจากนั้นผลงานของเขาก็มีมาอย่างต่อเนื่องทั้ง Dogfight ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534), Sneakers ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), Silent Tongue ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536), The Thing Called Love ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) และผลงานเรื่องสุดท้ายในชีวิตของเขาคือ Dark Blood ที่ได้ออกฉายในปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) ซึ่งเจ้าตัวยังถ่ายทำไม่เสร็จด้วยซ้ำ 

เพราะเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2535) ก็เกิดเรื่องน่าสลดขึ้น เมื่อมีการรายงานว่า River เสียชีวิตด้วยการเสพยาเกินขนาดหลายชนิด ทั้งโคเคนและมอร์ฟีน ที่ห้อง Viper Room คลับ Los Angeles club ของ Johnny Depp ทำให้เจ้าตัวจากโลกนี้ไปด้วยวัยเพียง 23 ปี

นอกเหนือจากการแสดงแล้ว River ยังเป็นนักเคลื่อนไหวด้านการอนุรักษ์สัตว์และสิ่งแวดล้อมด้วย เขาเป็นมังสวิรัติที่เคร่งครัด และเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิก PeTA (People for the Ethical Treatment of Animals) และเจ้าตัวยังมีความสามารถทางดนตรีที่ไม่ธรรมดา เขาทั้งเล่นกีตาร์, ร้องเพลง และเขียนเพลงให้กับวงดนตรีของเขาที่ชื่อว่า Aleka's Attic ซึ่งในวงนั้นมีน้องสาวของเขาด้วย Rain Phoenix แต่น่าเสียดายที่วงของเขาไม่มีโอกาสได้ปล่อยอัลบั้มออกมา แต่เพลงอย่าง Across the Way ได้ถูกใช้ในอัลบั้ม Tame Yourself ของทาง PeTA ด้วย เพลงนี้ถูกใช้เพื่อต่อต้านคนที่ทำรุนแรงกับสัตว์

เขาได้รับการจัดอันดับอยู่ที่ 86 ใน 100 ของลิสต์ The Top 100 Movies Stars of All Time (1997) ของนิตยสาร Empire ในประเทศอังกฤษ เขาโด่งดังมากจนขนาดที่เป็นตัวเลือกแรกของ James Cameron ที่จะให้มารับบท Jack Dawson ใน Titanic ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540), อยู่อันดับที่ 69 ของลิสต์ The 100 Greatest Movie Stars ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) ที่จัดโดย Channel 4

แต่มันช่างน่าเสียดายเหลือเกินที่ River Phoenix ได้จากโลกนี้เร็วเกินไป ไม่งั้นทุกวันนี้เขาคงเป็นหนึ่งในดาราที่มีชื่อเสียงมาก ๆ คนหนึ่งของโลกอย่างแน่นอน

24 สิงหาคม

RUPERT GRINT

Rupert Alexander Lloyd Grint เกิดวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ที่ Harlow, Essex ประเทศอังกฤษ

แน่นอนหลายคนถึงแม้จะรู้ชื่อจริงของเขา แต่หลายคนก็เรียกเขาในชื่อ Ron Weasley

ซึ่งไม่แปลก เพราะบทบาท Ron Weasley คือบทบาทแรกที่เขาได้เล่นจาก Harry Potter and the Sorcerer's Stone ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) ในฐานะนักแสดงตั้งแต่อายุเพียงแค่ 11 ปี และเขาคลุกคลีกับบทบาทนี้มานานนับ 10 ปี จนมาแสดงบทบาทนี้ครั้งสุดท้ายใน Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 2 ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554)

แต่เขาก็ไม่ได้รับบท Ron ใน Harry Potter เพียงอย่างเดียว เขาก็ยังเล่นเรื่องอื่นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Thunderpants ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), Driving Lessons ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Cherrybomb ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) และอื่น ๆ อีกหลาย 10 เรื่อง รวมถึงซีรีส์ต่าง ๆ ด้วย (แต่เอาเข้าจริง ๆ จำเขาได้จากบทบาท Ron ใน Harry อย่างเดียวเลย)

นอกเหนือแสดงหนังแล้ว เขายังเคยเล่น MV ของศิลปินชื่อดังอย่าง Ed Sheeran ในเพลง Lego House (ซึ่งหน้าคล้าย ๆ เลยทีเดียว 555)

เขาได้รับรางวัล Outstanding Contribution Award จากนิตยสารชั้นนำของอังกฤษ Empire ร่วมกับเพื่อนนักแสดงใน Harry Potter (Daniel Radcliffe และ Emma Watson) และเข้าชิงหลายรางวัลจากหลายเวทีอีกด้วย

ล่าสุดเขาก็มีผลงานในซีรีส์ทาง Apple TV+ เรื่อง Servant ค.ศ. 2019-2021 (พ.ศ. 2562-2564) อีกด้วย

25 สิงหาคม

SEAN CONNERY

Thomas Sean Connery เกิดวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 1930 (พ.ศ. 2473) ที่ Edinburgh, Scotland

นักแสดงผู้หลายคนรู้จักคุ้นหน้าคุ้นตากันมากที่สุดกับบทบาทพยัคฆ์ร้าย 007 หรือ James Bond ซึ่งเขาคือคนแรกที่มารับบทบาทนี้ ตัวหนังที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และรับบทนี้มาถึง 7 ครั้งตั้งแต่ปี ค.ศ. 1962-1983 (พ.ศ. 2505-2526)

เขาเคยเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำในปี ค.ศ. 1966 (พ.ศ. 2509) และ ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) กับสาขา World Film Favorite - Male จนในปี ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515) ก็มาคว้ารางวัลสาขานี้

หลายต่อหลายคนบอกว่าเขาดังแค่บทบาท James Bond นั่นแหละ แต่เขาก็พิสูจน์แล้วว่าทุกคนคิดผิด เพราะเขาได้กลายมาเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งยุคพร้อมด้วยหนังที่ยอดเยี่ยมมากมาย และเป็นการการันตีความยอดเยี่ยมอีกครั้งเมื่อในปี ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) เขาคว้ารางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำจากบทบาทใน The Untouchables ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530)

ในปี ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) เจ้าตัวก็มาเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีกครั้ง จากการแสดงในเรื่อง Indiana Jones and the Last Crusade ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) ตามมาด้วยการคว้ารางวัลพิเศษ Cecil B. DeMille Award ในปี ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539)

Connery ได้ฉายาว่า The Greatest Living Scot และ Scotland's Greatest Living National Treasure

ในปี ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) เขาได้รับการขนานนามว่า Sexiest Man Alive โดยนิตยสาร People magazine

ในปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) กับอายุ 69 ปี เขาได้รับการโหวตให้เป็น Sexiest Man of the Century

ในปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นอัศวินจาก Queen Elizabeth II จนมีคำนำหน้าเป็น Sir Sean Connery

ตลอดชีวิต Connery เขาแสดงหนังและซีรีส์มาทั้งชีวิตเกือบ 100 เรื่องเลยทีเดียว

แต่ตำนานก็จากไปเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ที่ Nassau ประเทศบาฮามาส ที่เขาพักอาศัย ด้วยวัย 90 ปี จากโรคปอดบวม ฝากชื่อ ฝากการแสดงของเขาให้โลกจำไม่ลืม

TIM BURTON

ถ้าพูดถึง Tim Burton หลาย ๆ คนคงจะเคยได้ยินชื่อของเขาจากหนังดังหลายๆ เรื่อง มักจะทำหนังแนวดาร์ค ๆ กอธิค แฟนตาซี และมากไปด้วยจินตนาการ แบบแปลก ๆ แต่สร้างสรรค์ จนกลายมาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไปซะแล้ว

Timothy Walter Burton เกิดวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 1958 (พ.ศ. 2501) ที่ Burbank, California เขาใช้ช่วงเวลาในวัยเด็กอย่างสันโดษ วาดภาพการ์ตูน และดูหนังเก่า ๆ

เมื่ออายุ 9 ปี ความสามารถทางด้านการวาดภาพของเขาไปเตะตาบริษัทขยะท้องถิ่นแห่งหนึ่ง และต่อมาเขาก็ได้รางวัลสำหรับการออกแบบโปสเตอร์ต่อต้านขยะ โดยบริษัทได้เอาโปสเตอร์ของเขาไปแปะรถขยะทุกคันเป็นเวลา 1 ปี

หลังจากจบมัธยมปลาย เขาได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยศิลปะ California Institute of the Arts

หลังจากเรียนจบเขาได้เริ่มต้นงานแรกด้วยการเป็นนักทำอนิเมชั่นให้กับ Disney จนได้มีส่วนร่วมใน The Fox and the Hound ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524)

จนทาง Disney ได้เล็งเห็นถึงความสามารถและให้เขาได้ทำอนิเมชั่นขึ้นมาเอง นั่นก็คือเรื่อง Vincent ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) และมันก็ประสบความสำเร็จ จนทำให้เขาได้ทำอนิเมชั่น Live-Action เรื่องแรกในเรื่อง Frankenweenie ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527)

ด้วยความสามารถจากเรื่องนั้นทำให้เขาได้กำกับหนังยาวเรื่องแรก Pee-wee’s Big Adventure ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) ในเรื่องนี้ก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก และส่งผลให้ชื่อของ Tim Burton โด่งดังขึ้นมาในทันที

ต่างก็มีบทที่หลากหลายยื่นมาเพื่อขอให้เขากำกับให้ แต่เขาปฏิเสธมันทั้งหมดและอยากทำอะไรที่ใหม่กว่านั้น

เป็นเวลากว่า 3 ปี ที่ Tim Burton ไม่ได้ทำหนังเลยสักเรื่อง จนกระทั่ง Beetlejuice ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) และมันกลายเป็นหนังแจ้งเกิดให้กับเขาในวงการ Hollywood เลยทีเดียว

หลังจากนั้นเขาก็โลดแล่นในวงการ Hollywood และทำหนังอีกมากมายหลายเรื่อง Batman ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532), Batman Returns ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535), The Nightmare Before Christmas ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536), Mars Attacks! ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539), Planet of the Apes ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), Big Fish ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546), Frankenweenie ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) ซึ่งเรื่องนี้ได้เข้าชิงรางวัลออสกา์สาขาอนิเมชั่นยอดเยี่ยม (Best Animated Feature), Big Eyes ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Miss Peregrine's Home for Peculiar Children ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) และล่าสุด Dumbo ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

แต่นอกเหนือจากนั้น Tim Burton มักจะร่วมงานกับ Johnny Depp เรียกได้ว่าเป็นนักแสดงคู่บุญเลยก็ว่าได้ โดยทั้งคู่ได้ร่วมงานกันครั้งแรกในเรื่อง Edward Scissorhands ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533)

ก่อนที่จะมีภาคต่อใน Sweeney Todd: The Demon Barber of Fleet Street ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) แถมในภาคต่อนี้ยังได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมอีกด้วย (Best Director - Motion Picture)

หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ร่วมงานกันมาอีกหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น ค.ศ. Ed Wood ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537), Sleepy Hollow ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542), Charlie and the Chocolate Factory ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Corpse Bride ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) ซึ่งเรื่องนี้ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาอนิเมชั่นยอดเยี่ยม (Best Animated Feature), Alice in Wonderland ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), Dark Shadows ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) เป็นการร่วมงานกันครั้งสุดท้ายระหว่างทั้งสองคน

ในอนาคตยังมีผลงานของเขาให้เราได้ติดตามกันอีก ทั้งซีรีส์ Wednesday เรื่องราวลูกสาวของตระกูล Addams และ Beetlejuice 2

ทุกวันนี้ถ้าพูดถึงชื่อนักทำหนังคนนี้ขึ้นมา หลาย ๆ คนคงมีภาพหนังของเขาอยู่ในหัวอย่างแน่นอน ผู้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการทำหนังอย่างชัดเจน มากไปด้วยความสามารถ จินตนาการ และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ชื่อของเขาคือ Tim Burton

26 สิงหาคม

CHRIS PINE

Christopher Whitelaw Pine เกิดวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) ที่ Los Angeles, California ประเทศอเมริกา

Pine เคยได้เข้าเรียนการแสดงที่ American Conservatory Theater ใน San Francisco และเริ่มต้นอาชีพนักแสดงด้วยการชนะคว้าบทรับเชิญในซีรีส์หลายเรื่อง และจุดเริ่มต้นคือซีรีส์เรื่อง ER ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) ในบทบาท Levine

จนกระทั่งได้แสดงหนังครั้งแรกเคียงข้าง Anne Hathaway ในเรื่อง The Princess Diaries 2: Royal Engagement ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) และนั่นส่งให้เขาได้รับบทตามมาอีกทั้งซีรีส์และหนัง

แต่ผลงานแจ้งเกิดของเขาในฐานะนักแสดง ก็คงมาจากเรื่อง Just My Luck ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) ในบทบาท Jake Hardin ที่มาเล่นคู่กับนักแสดงสาวตัวท็อป ณ ตอนนั้นอย่าง Lindsay Lohan หลังจากนั้นเค้าก็ได้รับการแสดงอีกมากมาย ทั้ง Star Trek ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), This Means War ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), Star Trek Into Darkness ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Jack Ryan: Shadow Recruit ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Horrible Bosses 2 ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), In to the Woods ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), The Finest Hours ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Star Trek Beyond ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Wonder Woman ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), A Wrinkle in Time ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), ให้เสียงพากย์ Spider-Man: Into the Spider-Verse ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) และซีรีส์อีกมากมาย

ล่าสุดเรากำลังจะได้เห็นการแสดงของเขาในบทบาทเดิม Steve Trevor ที่จะมาปรากฏใน Wonder Woman 1984 ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และในซีรีส์ American Dad! ค.ศ. 2019-2021 (พ.ศ. 2562-2564)

ในอนาคตยังมีผลงานของเขาให้เราติดตามอีกมากมาย ทั้ง Violence of Action ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Don't Worry Darling ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Dungeons & Dragons ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566), All the Old Knives, Newflash และภาคต่อ Star Trek ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566)

ในปี ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) นิตยสารหัวดังอย่าง Variety เคยจัดอันดับให้เขาติด 1 ใน 10 นักแสดงชายที่น่าจับตามองที่สุด เช่นเดียวกันกับนิตยสาร US Weekly ยกให้เขาคือ Harrison Ford คนใหม่แห่งวงการ!

MACAULAY CULKIN

Macaulay Carson Culkin เกิดวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) ที่ New York City ประเทศอเมริกา

Culkin เป็นลูกคนที่ 3 ของ 7 คนในครอบครัว และส่วนใหญ่ของพี่น้องก็มีอาชีพเป็นนักแสดงทั้งสิ้น

พี่น้อง เพื่อนสนิท และครอบครัวของเขาเรียกเขาว่า Mack โดยเจ้าตัวเริ่มแสดงตั้งแต่อายุเพียง 4 ปีเท่านั้น เขาปรากฏบนละครนอกบรอดเวย์ ที่ New York City Ballet's The Nutcracker และตอนอายุ 8 ปี เขาได้แสดงในเรื่อง Rocket Gibraltar ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) และ See You in the Morning ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532)

แต่บทบาทแรกที่เจ้าตัวแสดงจริง ๆ คือบทบาทในเรื่อง The Midnight Hour ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) แต่ Culkin ไม่ได้รับเครดิตในเรื่องนั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นเจ้าตัวได้รับเครดิตครั้งแรกในซีรีส์เรื่อง The Equalizer ต.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) กับบทบาท Paul Gephardt

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) ชื่อของ Macaulay Culkin ก็ได้มาเป็นที่รู้จักแก่คนทั่วโลก กับบทบาท Kevin หนุ่มน้อยผู้น่ารักในเรื่อง Home Alone ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) หรือชื่อไทยว่า โดดเดี่ยวผู้น่ารัก เรื่องราวของเด็กผู้ที่ต้องอยู่บ้านคนเดียวและโดนขโมยขึ้นบ้าน เขาจึงต้องหาทางกำจัดขโมยนั้นด้วยตัวของเขาเพียงลำพัง

และจากการแสดงในเรื่องนี้ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

จากการแสดงของเขาในเรื่องนี้ เขาบูมสุด ๆ ถึงขั้นติดอันดับ 2 จาก 100 อันดับเด็กยอดนิยมที่จัดขึ้นโดยช่อง VH1 และ ช่อง E! เลยทีเดียว

ใครเห็นก็ว่าดัง ไปไหนคนก็จับตามอง มีแต่คนรุมล้อม อยู่ท่ามกลางสปอร์ตไลท์แทบจะตลอดเวลา แต่ในฐานะเด็กคนนึงมันไม่ได้แฮปปี้อย่างที่คิด ชีวิตวัยเด็กของเขาถูกรบกวนตลอดเวลา ลองคิดสภาพเด็กที่ขาดความเป็นอิสระ เด็กที่ไปไหนก็มีแต่คนคอยรุมล้อมสิ นั่นแหละ Culkin เจอปัญหาแบบนั้น ซึ่งมันส่งผลกับเขามากจนเขาไม่อยากออกไปไหนเลยทีเดียว เขาซึมเศร้า และหดหู่ไปสักระยะ

ชีวิตของเขาถึงจุดผกผันและตกต่ำอย่างมากเมื่อเขาได้เลิกกับนักแสดงสาว Mila Kunis ที่คบกันมานาน ทำให้ตัวเขาหันไปเล่นยา! เท่านั้นยังไม่พอ เขายังโดนจับติดคุกข้อหาใช้ยาเสพติดและมีสารต้องห้ามไว้ในครอบครอง ทั้งกัญชาและยากดประสาทต่าง ๆ

นั่นทำให้ร่างกายเขาผอมลงไปเยอะมาก ๆ เขาถึงขั้นเกือบเสียชีวิตเลยทีเดียว แต่เขาก็ต่อสู้และผ่านมันมาได้ จนได้กลับมารับงานแสดงซีรีส์บ้าง และหนังบ้างปะปนกันไป แต่เส้นทางการแสดงของเขาก็ไม่ได้โด่งดังเหมือนเคย

เมื่อไม่นานมานี้ก็มีผลงานของเขาให้เราได้เห็นกันบ้าง ไม่ว่าจะซีรีส์ ซีรีส์ Dollface ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Changeland ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) และล่าสุดกับซีรีส์ American Horror Story ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า Ryan Reynolds สนใจที่จะนำหนัง Home Alone มาทำใหม่ในชื่อ Stoned Alone เพิ่มเติมด้วยความเกรียนของเจ้าตัวลงไป โดยพล็อตหนังนั้นเป็นเรื่องราวของหนุ่มติดยาที่พี้ยาหนักมาก จนหลอนไปว่ามีขโมยกำลังขึ้นบ้านเขา และคนที่ Ryan สนใจอยากให้มารับบทก็คือ Culkin นี่แหละครับ!

นับว่าเป็นดาราเด็กที่น่าเสียดายที่สุดคนหนึ่งแห่งวงการ Hollywood

DYLAN O'BRIEN

Dylan Rhodes O'Brien เกิดวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) ที่ New York ประเทศอเมริกา แต่เขาเติบโตใน Springfield Township, Union County, New Jersey ก่อนที่ภายหลังครอบครัวจะย้ายมายัง Beach, California เมื่อเขาอายุได้ 12 ปี

Dylan มีความสนใจทางด้านการแสดงมาตั้งแต่เด็ก เพราะเขามีแม่เป็นอดีตนักแสดงที่สอนอยู่โรงเรียนสอนการแสดง และพ่อเป็นตากล้อง

พอโตขึ้น Dylan จึงวางแผนเขจ้าเรียนที่โรงเรียนสอนทำหนังและอยากเป็นตากล้องเหมือนพ่อ แต่เขาดันไปได้บท Stiles Stilinski ในซีรีส์ Teen Wolf ค.ศ. 2011-2017 (พ.ศ. 2554-2560) ทำให้เขาตัดสินใจไม่เรียน

Dylan ได้แสดงหนังครั้งแรกใน High Road ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) และได้รับบทนำครั้งแรกใน The First Time ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) ตามมาด้วยบทบาทสมทบใน The Intership ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) ที่ได้แสดงร่วมกับ Vince Vaughn และ Owen Wilson

จนเจ้าตัวได้มาสร้างชื่อเสียงในหนัง The Maze Runner ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) ตามมาด้วยภาคต่อ Maze Runner: The Scorch Trails ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) และ Maze Runner: The Death Cure ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561)

และยังมีผลงานอื่น ๆ ตามมาทั้ง Deepwater Horizon ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), American Assassin ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), ให้เสียงพากย์ Bumblebee ใน Bumblebee ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), The Education of Fredrick Fitzell ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563), Love and Monsters ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และล่าสุดใน Infinite ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

ในอนาคตยังมีผลงานของเขาให้เราได้เห็นอีก กับ The Outfit ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Maximum Truth ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) และ Not Okay

27 สิงหาคม

AARON PAUL

Aaron Paul Sturtevant เกิดวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) ที่ Emmett, Idaho ประเทศอเมริกา

ในขณะที่โตขึ้น Paul ได้เข้าร่วมโปรแกรมของคริสตจักรและได้ร่วมแสดงละครเวทีที่โบสถ์ด้วย

Paul ได้เข้าเรียนที่โรงเรียน Centennial High School ใน Boise, Idaho และเมื่อเขาอยู่ ม. 2 เขาก็ได้ตัดสินใจเป็นนักแสดง ได้เข้าร่วมแสดงกับโรงละคร จนเขาตัดสินใจว่าเขาจะใช้อาชีพนักแสดงเนี่ยแหละ เลี้ยงชีพตนเอง

หลังจากเขาเรียนจบมัธยม เขาก็ได้ย้ายมายังมหานครแห่งดารา Los Angeles เพื่อเดินหน้าทำตามความตั้งใจในการเป็นนักแสดง

ช่วงปลายยุค 90s ค.ศ. 1990-1999 (พ.ศ. 2533-2542) เขาได้ทำงานอยู่ในโรงหนังที่ Universal Studios Movie Theatre ใน Hollywood

จนกระทั่งเขาได้รับงานแสดงครั้งแรกในหนังทางทีวีเรื่อง Even the Losers ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) และในตอนหนึ่งของ Beverly Hills, 90210 ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) การแสดงของเขานำมาซึ่งบทบาทของเขาในซีรีส์ Melrose Place ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542), Suddenly Susan ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542), 3rd Rock from the Sun ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) และหนังทางทีวีเรื่อง Locust Valley ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542)

การแสดงหนังครั้งแรกของเขาจริง ๆ คือในเรื่อง Whatever It Takes ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ซึ่งในระหว่างนั้นเขาก็ยังคงแสดงซีรีส์มาอย่างต่อเนื่องและก็มารับบทในหนังอีกกับบทบาท Michael Powell ตอนอายุ 21 ปี เรื่อง K-PAX ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544)

Paul ยังคงตระเวนเล่นซีรีส์และหนังมาบ้าง แต่ก็ยังไม่มีบทเด่นๆ สักที ไม่ว่าจะเป็น The Guardian ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), The X Files ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), NYPD Blue ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), CSI: Crime Scene Investigation ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), National Lampoon's Van Wilder ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), ER (2003), CSI: Miami ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) และในหนังใหญ่เรื่อง Mission: Impossible III ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) กับบทบาท Rick

หลังจากบทบาทใน M:I III ตัวของ Paul ก็ได้รับบทบาทในหนังมากขึ้น ไม่ว่าจะเรื่อง Chocking Man ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Daydreamer ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Say Goodnight ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), The Last House on the Left ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) และ Wreckage ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553)

แต่จุดเปลี่ยนและสร้างชื่อในอาชีพการแสดงของเขาจริงๆ มาจากบทบาท Jesse Pinkman ในซีรีส์ของ AMC เรื่อง Breaking Bad ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) ซึ่งจริง ๆ ตัวละครนี้จะถูกตัดออกตั้งแต่ตอนจบซีซั่น 1 แต่ผู้สร้างอย่าง Vince Gilligan ได้เปลี่ยนใจ เพราะเคมีของสองนักแสดงทั้งตัว Paul และ Bryan Cranston เข้ากันอย่างมาก แถมคนดูยังชอบอีก จนให้ทั้งคู่แสดงร่วมกันเรื่อยมาจนถึงซีซั่นสุดท้ายเลยทีเดียว

การแสดงของ Paul ในซีรีส์ Breaking Bad ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำในปี ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) แถมยังคว้ารางวัล Primetime Emmy Awards มาถึง 3 ครั้ง จากการเข้าชิง 7 ครั้งอีกด้วย

แน่นอนว่าเขายังคงแสดงมาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะในหนังหรือซีรีส์ก็ตามทั้ง Need for Speed ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Exodus: Gods and Kings ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), Eye in the Sky ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Triple 9 ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Central Intelligence ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), ซีรีส์ Black Mirror ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560), ซีรีส์ Westworld ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และ Quad ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

ในอนาคต Paul ยังคงมีผลงานให้เราได้รับชมกันอีก กับหนังเรื่อง Dual ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

28 สิงหาคม

DAVID FINCHER

David Andrew Leo Fincher เกิดวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ. 1962 (พ.ศ. 2505) ที่ Denver, Colorado ประเทศอเมริกา

แน่นอนชื่อของ David Fincher คงคุ้นหูเหล่าแฟนคลับและคนรักหนังแน่นอน เช่นเดียวกันกับหนังของเขาที่สร้างชื่อ ผ่านหู ผ่านตา หลายคนเคยรับชมกันแน่นอน หนึ่งในผู้กำกับที่ผลิตผลงานยอดเยี่ยมออกมามากมาย

Fincher ตอนอายุ 18 ปี เขาได้ไปทำงานให้กับ John Kort ที่บริษัททำหนัง Korty Films ตามมาด้วยการทำงานที่ ILM (Industrial Light and Magic) ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1981-1983 (พ.ศ. 2524-2526) เรียกได้ว่าคลุกคลีกับวงการมาโดยตลอด

จนกระทั่งเขาลาออกจาก ILM เพื่อมารับหน้าที่กำกับโฆษณาทางทีวีและ MV หลังจากเซ็นสัญญากับ N. Lee Lacy ใน Hollywood และนั่นคือจุดเริ่มต้น เขาได้กำกับโฆษณามากมายหลายตัวให้กับหลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Nike, Coca-Cola, Budweiser, Heineken, Pepsi, Levi's, Converse, AT&T หรือแม้กระทั่งแฟชั่นอย่าง Chanel คือเรียกได้ว่ากำกับมาแทบจะทุกแนว ส่วนทางด้าน MV ร่วมงานกับทำ MV ให้นักร้องดังมากมาย ไม่ว่าจะ Madonna, Sting, The Rolling Stones, Michael Jackson, Aerosmith, George Michael, Iggy Pop, The Wallflowers, Billy Idol, Steve Winwood, The Motels และ A Perfect Circle

หลังจากเริ่มเข้าวงการทำโฆษณามาตลอดตั้งแต่ปี ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) ผ่านมาจนปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ก็ได้มีผลงานหนังใหญ่เต็มตัวครั้งแรกออกมา กับภาคต่อแฟรนไชส์ดัง ถือเป็นงานใหญ่มากๆ ของ Fincher กับเรื่อง Alien 3 ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) แต่ก็ถือว่าทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจสักเท่าไหร่ แต่นั่นคือการพัฒนาการก้าวแรกของยอดผู้กำกับรายนี้

แน่นอนเขายังคงกำกับโฆษณา กำกับ MV มาอีกหลายตัว จนกระทั่งมากำกับหนังเรื่อง Se7en ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) ที่คราวนี้ต่างกับ Alien 3 ราวฟ้ากับเหว เพราะเรื่องนี้มันแจ้งเกิดในวงการหนังให้กับเขาเลยจริง ๆ ได้รับเสียงชื่นชมมากมายแถมตัวหนังยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาหนังยอดเยี่ยมแห่งปีอีกด้วย

และผลงานต่อมาของเขาก็ยังคงรักษามาตรฐานออกมาได้อย่างดีทั้งใน The Game ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) และระเบิดความยอดเยี่ยมสุด ๆ กับเรื่อง Fight Club ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542)

Fight Club คือหนังสุดแนว โคตรเท่ เรื่องราวระหว่างชายหนุ่มพนักงานออฟฟิศ ผู้เล่าเรื่อง กับนักทำสบู่ Tyler Durden ที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก่อให้เกิดการต่อสู้ใต้ดิน Fight Club ที่พัฒนาไปสู่บางอย่างที่ล้ำลึกกว่านั้นมาก มีความกวนตีน ใส่รายละเอียดปลีกย่อยมากมายให้คนดูได้สังเกต พล็อตสุดเจ๋ง การดำเนินเรื่องสุดแนว ตัวละครที่เท่ โดยรวมแล้วสนุกอย่างบอกไม่ถูกนี่คือ “หนังที่ควรดูสักครั้งก่อนตาย” กับ Fight Club ดิบดวลดิบ และความยอดเยี่ยมก็ส่งให้หนังเรื่องนี้ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขา Best Effects, Sound Effects Editing แต่น่าเสียดายที่มันไม่สามารถคว้ารางวัลไปได้

และรู้หรือไม่ว่าในหนัง Fight Club มีฉากเสี้ยววินาที ที่เห็นอวัยวะเพศชายแบบเต็ม ๆ ตา เลยทีเดียว เป็นความแสบของผุ้กำกับที่จงใจใส่เข้ามาให้เข้ากับการกระทำของตัวละคร Tyler

ผลงานของเขาหลังจากนั้นก็ไม่ลดละความยอดเยี่ยมลงมาแต่อย่างใด ไม่ว่าจะ Panic Room ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545), Zodiac ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), The Curious Case of Benjamin Button ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), The Social Network ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), The Girl with the Dragon Tattoo ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Gone Girl ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) และผลงานล่าสุดอย่าง ซีรีส์ Mindhunter ค.ศ. 2017-2019 (พ.ศ. 2560-2562)

ล่าสุดเจ้าตัวได้ฝากผลงานเอาไว้ใน Mank ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) ที่คว้ารางวัลออสการ์ไป 2 สาขา จากการเข้าชิงทั้งหมด 10 สาขา

[WINNER]

• Best Achievement in Production Design
• Best Achievement in Cinematography

[NOMINEE]

• Best Motion Picture of the Year
• Best Performance by an Actor in a Leading Role (Gary Oldman)
• Best Achievement in Directing
• Best Performance by an Actress in a Supporting Role (Amanda Seyfreid)
• Best Sound
• Best Achievement in Music Written for Motion Pictures (Original Score)
• Best Achievement in Makeup and Hairstyling
• Best Achievement in Costume Design

และเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีก 6 สาขา

• Best Motion Picture - Drama
• Best Screenplay - Motion Picture
• Best Director - Motion Picture
• Best Performance by an Actress in a Supporting Role in a Motion Picture (Amanda Seyfried)
• Best Performance by an Actor in a Motion Picture - Drama (Gary Oldman)
• Best Original Score - Motion Picture

หนึ่งในยอดผู้กำกับสุดเจ๋ง ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่หลายคนดูแล้วมองออกว่า "เนี่ยแหละ Fincher"

ยอดผู้กำกับ MV, โฆษณา และหนัง ที่ฝากผลงานยอดเยี่ยมไว้มากมาย

- DAVID FINCHER

JACK BLACK

Thomas Jacob Black หรือหลายคนคุ้นเคยกันในชื่อ Jack Black เขาเกิดวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ .1969 (พ.ศ. 2512) ที่ Hermosa Beach, California ประเทศอเมริกา

Black ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย University of California ที่ Los Angeles และขณะอยู่ที่นั่นเขาเป็นสมาชิกของชมรมการแสดงของ Tim Robbins ด้วย และมันก็นำมาซึ่งการแสดงร่วมกันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) เรื่อง Bob Roberts และในเรื่องนี้คือการเดบิวต์เล่นหนังใหญ่ครั้งแรกของเจ้าตัวด้วย

แต่จุดเริ่มต้นการแสดงของ Black มาจากซีรีส์เรื่อง The Fall Guy ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) กับบทบาทเล็ก ๆ ที่ปรากฏมาเพียง 1 ตอนเท่านั้น

อาชีพของ Black ไปได้ด้วยดี มีงานแสดงเข้ามามากมาย ไม่ว่าจะเป็น Airborne ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536), Demolition Man ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536), Waterworld ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538), ซีรีส์ The X-Files ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538), Bio-Dome ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539), The Cable Guy ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539), Mars Attacks! ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539), Enemy of the State ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541), ซีรีส์ Tenacious D ค.ศ. 1997-2000 (พ.ศ. 2540-2543), High Fidelity ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543), Run Ronnie Run ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)

แต่เชื่อว่าหลายต่อหลายคน รวมถึงตัวผมด้วยต่างรู้จักเขามาจากบทบาท Dewey Finn ครูซ่าเปิดตำราร็อคจากเรื่อง School of Rock ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) ซึ่งเรื่องนี้ก็สร้างชื่อให้กับเขาจริงๆ กับเรื่องราวของ Dewey ที่ปลอมตัวมาเป็นครูสอนแทนเพื่อนของเขา และได้สอนดนตรีให้กับเด็กในชั้นเรียนจนกลายมาเป็นวงร็อคสุดเฟี้ยว นอกจากบทบันเทิง ดูง่าย เข้าถึงไม่ยาก เพลงในเรื่องนี้ยังไพเราะแบบสุด ๆ โดยเฉพาะเพลง Rock Got No Reason ซึ่งในวันครบรอบ 10 ปีของหนังเรื่องนี้ เหล่านักแสดงและ Black เองก็ได้มารวมตัวกันเล่นดนตรีอีกครั้งด้วย

และการแสดงของเขาทำให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมเป็นครั้งแรกในชีวิตด้วย

การแสดงของ Black ในเรื่องนี้เขาไม่ได้เล่นกีตาร์ปลอมแต่อย่างใด เพราะเขาเป็นนักดนตรีและเล่นกีตาร์เองจริงๆ และการร้องของเขาก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่ธรรมดา ซึ่งในชีวิตจริงเขาก็มีวงดนตรีเป็นของตัวเองด้วย ในชื่อ Tenacious D (ซึ่งชื่อวงของเขาได้แรงบันดาลใจมาจากบทบาทที่เขาแสดงในเรื่อง Bio-Dome)

หลังจาก School of Rock เขาก็มีผลงานเข้ามาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ซีรีส์ Computerman ค.ศ. 2003-2004 (พ.ศ. 2546-2547), Anchorman: The Legend of Ron Burgundy ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), King Kong ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), Nacho Libre ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), Margot at the Wedding ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Tropic Thunder ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), ให้เสียงพากย์ตัวละคร Po ใน Kung Fu Panda ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Gulliver's Travels ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) และฝากการแสดงอันยอดเยี่ยมไว้ในเรื่อง Bernie ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีกครั้ง, Kung Fu Panda 2 ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Goosebumps ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Kung Fu Panda 3 ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559)

ยังคงรักษามาตรฐานในการแสดงมาอย่างต่อเนื่อง และเรียกเสียงหัวเราะได้ทุกครั้งที่ปรากฏตัว และเป็นตัวละครสำคัญใน Jumanji: Welcome to the Jungle ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) และในภาคต่อ Jumanji: The Next Level ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

ก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยบอกว่า Jumanji: The Next Level อาจจะเป็นหนังเรื่องสุดท้ายที่เขาจะเล่นแล้ว ก็พิจารณาว่าจะเลิกเล่นแหละ ส่วนหนึ่งเขาก็อยากมีเวลาทำเพลงกับวง Tenacious D ด้วย แต่ถึงจะอย่างนั้นก็ยังมีโปรเจคในอนาคตอีกนิดหน่อย กับ Apollo 10 1/2: A Space Age Adventure ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565), Oh Hell No ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) และ Borderlands ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

นักแสดงผู้สร้างเสียงหัวเราะให้ทุกบทบาท และสร้างรอยยิ้มให้กับคนดูได้ตลอด

- JACK BLACK

 ARMIE HAMMER

Armie Hammer มีชื่อแต่กำเนิดว่า Armand Douglas Hammer เกิดเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) ที่ Los Angeles, California ประเทศอเมริกา

พ่่อของเขาเป็นคณะกรรมการและ CEO ขององค์กร Armand Hammer Foundation ส่วนแม่ก็อยู่บอร์ดบริหาร รวมถึงพ่อแม่ของเขายังนั่งบอร์ดบริหารของ Los Angeles Dream Center and knoedler & Hammer Galleries ใน New York รวมถึงพ่อของเขาก็เป็นกรรมาธิการของ Oral Roberts University

ครอบครัวของเขาย้ายมาที่ Dallas, Texas เมื่อตอนเขามีอายุพอที่จะเข้าเรียนได้ หลังจากนั้นก็ย้ายไปยัง Cayman Island ในปี ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) อาศัยอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 5 ปี และได้เข้าเรียนที่ Grace Christian Academy โรงเรียนที่พ่อเขาตั้งขึ้น

พอ Hammer อายุได้ 13 ปี ครอบครัวก็ย้ายกลับมายัง Los Angeles และเจ้าตัวก็ได้เรียนต่อที่ L.A. Baptist High School และ Calvary Junior High School

และเจ้าตัวก็ได้เดบิวต์ทางการแสดงครั้งแรก กับการแสดงละครเวทีของโรงเรียนตอนเกรด 6 ในเรื่อง Rooster Hannigan และ Annie จนกระทั่งเขาออกจากโรงเรียนตอนเกรด 11 เพื่อไล่ล่าความฝันในการเป็นนักแสดงอย่างเต็มตัว แต่พ่อแม่อยากให้เขาเรียนต่อเสียก่อน ดังนั้นเขาจึงยอมและได้เข้าเรียนที่ Pasadena City และ UCLA

จุดเริ่มต้นในการแสดงของเขาคือการแสดงในซีรีส์เรื่อง Arrested Development ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) และก็มีผลงานตามมาอีกหน่อย จนได้แสดงหนังครั้งแรกในเรื่อง Blackout ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551)

แต่บทบาทแจ้งเกิดที่ทำให้เขาเป็นที่จับตามองคือการได้แสดงในเรื่อง The Social Network ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) ในบทแฝด Winklevoss จนมันส่งให้เขาคว้าบท Clyde Tolson ในเรื่อง J. Edgar ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Prince Alcott ใน Mirror Mirror ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555), John Reid ใน The lone Ranger ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) ร่วมกับ Johnny Depp

จนในปี ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) Hammer ได้แสดงหนังเคียงข้าง Henry Cavill ในหนังสายลับสุดเท่โคตรมีสไตล์ The man from U.N.C.L.E. ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) ผลงานของผู้กำกับ Guy Ritchie

ทำให้หลังจากนั้นงานการแสดงของเขาเปิดกว้างขึ้น ได้แสดงหนังอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น The Birth of a Nation ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Nocturnal Animals ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Mine ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Free Fire ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), ให้เสียงพากย์ใน Cars 3 ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) และยอดผลงาน Call Me by Your Name ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) เคียงข้างกับ Timothée Chalamet ส่งให้เขาเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ

ตามมาด้วยผลงานอย่างต่อเนื่อง Sorry to Bother You ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Hotel Mumbai ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), On the Basis of Sex ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561), Wounds ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562), Rebecca ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563), ซีรีส์ We Are Who We Are ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) และล่าสุดใน Crisis ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)

ในอนาคตยังมีผลงานน่าสนใจของเขาให้เราได้ติดตามกัน ทั้ง Next Goal Wins ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564), Death on the Nile ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565)

Hammer แต่งงานกับนักแสดง, นางแบบอย่่าง Elizabeth Chambers ในปี ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 2 คน (ชาย 1 หญิง 1) แต่ตอนนั้นทั้งคู่ได้ฟ้องหย่าในเดือนกรกฏาคม ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563)

30 สิงหาคม

CAMERON DIAZ

Cameron Michelle Diaz เกิดวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515) ที่ San Diego, California ประเทศอเมริกา

เธอได้อธิบายตัวเองเอาว่าว่า "รักการผจญภัย เป็นอิสระ และเป็นเด็กที่แข็งแกร่ง" และการกระทำของเธอตอกย้ำเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อครั้นอายุได้ 16 ปี เธอก็ออกจากบ้านไป และในระหว่าง 5 ปีที่ออกมาเธอได้ตระเวนไปทั่วโลกทั้ง Japan, Australia, Mexico, Morocco และ Paris

จนกระทั่งเธอกลับมา California เมื่อตอนอายุได้ 21 ปี เธอจึงเริ่มทำงานเป็นนางแบบ และเธอก็ผันตัวมาเป็นนักแสดงด้วยการไปออดิชั่นบทในหนังใหญ่เรื่อง The Mask ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) ประกอบคู่กับดาราตลก Jim Carrey เธอก็ได้แสดงโชว์ความสามารถอันน่าทึ่งให้แก่หลายคน ซึ่งมันยอดเยี่ยมมากๆ เพราะเธอไม่เคยผ่านงานแสดงมาก่อนเลย ซึ่งมันก็ส่งให้เธอได้บทบาทอีกในวงการบันเทิง

หลังจากนั้น 3 ปี เธอก็มีผลงานมาฝากทุกปีในหนังทุนต่ำ ทั้ง The Last Supper ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538), Feeling Minnesota ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) และ Head Above Water ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539)

แต่หลังจากนั้นเธอก็ได้กลับมาเล่นหนังกระแสหลักอย่าง my Best Friend's Wedding ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) ที่ได้แสดงร่วมกับ Julia Roberts และ Dermot Mulroney

เธอได้แจ้งเกิดเป็นดาราชั้นนำเต็มตัวในปี ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) กับบทบาทอันยอดเยี่ยมที่ถล่ม Box Office เรื่อง There's Something About Mary ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) และจากการแสดงของเธอในเรื่องนี้มันส่งให้เธอได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งแรกในชีวิตด้วย

หลังจากนั้นมันจึงมีผลงานของเธอมาให้เราได้เห็นกันอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Being John Malkovich ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ที่ส่งให้เธอได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำเป็นครั้งที่ 2, ดังเปรี้ยงปร้างกับ Charlie's Angels ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543), ให้เสียงพากย์เจ้าหญิง Fiona ใน Shrek ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544), แสดงร่วมกับ Tom Cruise ในเรื่อง Vanilla Sky ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) ซึ่งในเรื่องนี้ส่งให้เธอได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำเป็นครั้งที่ 3, Gangs of New York ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) ส่งให้เธอได้เข้าชิงลูกโลกทองคำครั้งที่ 4, Knight and Day ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553), The Green Hornet ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Bad Teacher ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) และอื่น ๆ อีกมากมายหลายเรื่องหลายบทบาท ซึ่งบทบาทสุดท้ายที่เธอฝากไว้คือบทบาท Hannigan จากหนังรอมคอมเรื่อง Annie ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557)

แต่ในปี ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) เธอได้มีการประกาศอำลาวงการ โดยให้เหตุผลว่า เธออยากออกไปค้นหาตัวเอง เนื่องจากเธอใช้เวลาทุ่มเทชีวิตไปกับงานแสดงและวงการบันเทิงมากมาย โดยยังไม่มีกำหนดว่าเธอจะกลับมารับงานอีกเมื่อไหร่

เมื่อก่อนชื่อของเธอนั้นอยู่ในอันดับต้น ๆ แทบทุกสำนักกับนักแสดงหญิงที่เซ็กซี่ที่สุดคนหนึ่งของ Hollywood และได้รับการยอมรับในวงกว้าง ชื่อของ Cameron Diaz คือ Superstar แห่งยุคอย่างแท้จริง

สูง สง่า มีเสน่ห์ ดวงตาฟ้าธรรมชาติที่ชวนน่าดึงดูด

- CAMERON DIAZ

31 สิงหาคม

RICHARD GERE

Richard Tiffany Gere เกิดวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 1949 (พ.ศ. 2492) ที่ Philadelphia, Pennsylvania ประเทศอเมริกา

แต่แรกเดิมที Richard เป็นนักดนตรี เขาเล่นให้กับวงของโรงเรียนมัธยมปลาย และเขียนเพลงด้วย

หลังจากเขาเรียนจบมัธยมปลาย เขาก็ได้ทุนยิมนาสติกที่มหาวิทยาลัย Massachusetts ซึ่งที่นั่นเขาเรียนเอกปรัชญา

แต่ไม่นาน เขาเรียนได้ 2 ปี ก็ลาออกจากมหาวิทยาลัย เพื่อไล่ล่าความฝันในการเป็นนักแสดง จนทำให้เขาได้มารับบทนำในละครเวที London pruduction เรื่อง Grease ในปี ค.ศ. 1973 (พ.ศ. 2516) จนทำให้ต่อมาเขาก็ได้รับบทอื่นอีก เช่น Taming of the Shrew

ในขณะที่บนจอ เขาก็มีบทบาทบ้าง แต่คนจะจดจำเขาได้จากบทบาทใน Looking for Mr. Goodbar ค.ศ. 1977 (พ.ศ. 2520) ส่วนนอกจอเขาใช้ช่วงเวลาในปี ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521) เดินทางไปเนปาล เพื่อพบกับชาวทิเบต พูดคุยกับพระ และลามะ

จนกระทั่งเขากลับมายังอเมริกา และแสดงละครบรอดเวย์อีกหลายเรื่อง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเรื่อง Bent ที่ส่งให้เขาคว้ารางวัล Theatre World Award

กลับมายังเส้นทางสาย Hollywood เขาได้รับบทในหนัง American Gigolo ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) ทำให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดัง กลายมาเป็นดาราชั้นนำ และส่งให้เขาได้รับบทใน An Officer and a Gentleman ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) ซึ่งการแสดงของเขาในเรื่องนี้มันทำให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งแรกในชีวิต

ในช่วงต้นยุค 80s (พ.ศ. 2523-2532)  Richard เขาได้เดินทางไปที่ Honduras, Micaragua และ El Salvador ในขณะที่กำลังมีสงครามและความรุนแรงทางการเมือง ซึ่งตัวเขาได้เดินทางไปกับทีมแพทย์เพื่อไปเยี่ยมและช่วยเหลือค่ายผู้ลี้ภัยในที่ต่าง ๆ

ในปี ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) Richard ได้ร่วมแสดงกับ Julia Roberts ในหนังชื่อรักอมตะตลอดกาล Pretty Women ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) ด้วยบทบาทการแสดงที่ครองใจสาว ๆ ไปทั่วโลก ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งการแสดงของทั้งคู่ทำให้แฟน ๆ เรียกร้องให้มีภาคต่อเถอะ เพราะอวยคู่นี้กันเหลือเกิน

จนเกิดเป็นหนังเรื่อง Runaway Bride ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ซึ่งประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน ซึ่งอาจจะไม่ได้รับเสียงวิจารณ์ดีเท่ากับ Pretty Women แต่ตัวหนังทำรายได้ไปไม่น้อยเลย ถึง 152 ล้านดอลลาร์สหรัฐบน Box office (ประมาณ 4,722 ล้านบาท)

ในปี ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) เขาได้แสดงผลงานอันยอดเยี่ยมเอาไว้กับบทบาท Billy Flynn ในเรื่อง Chicago ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) ที่ส่งให้เขาเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำเป็นครั้งที่ 3 และในครั้งนี้มันไม่เหมือนเดิม เพราะเขาสามารถคว้ารางวัลลูกโลกทองคำมาครอบครองได้

ผลงานของเขายังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Shall We Dance ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547), Bee Season ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548), The Hoax ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549), I'm Not There ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550), Nights in Rodanthe ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551), Hachi: A Dog's Tale ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552), The Double ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554), Arbitrage ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) ที่ส่งให้เขาเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำเป็นครั้งที่ 4, Movie 43 ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556), Time Out of Mind ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557), The Second Best Exotic Marigold Hotel ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558), Norman ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559), Three Christs ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) และผลงานล่าสุดกับซีรีส์ MotherFatherSon ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562)

Richard เคยได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 50 บุคคลที่งดงามที่สุดในโลก (50 Most Beautiful People in the World) และผู้ชายที่เซ็กซี่ที่สุด (Sexiest Man Alive) ในช่วงปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ที่จัดโดยนิตยสาร People Magazine

Richard เป็นนักมนุษยธรรม เขาเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้ง Tibet House ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์วัฒนธรรมทิเบต แถมเขายังเป็นผู้สนับสนุน Survival International เป็นเวลาหลายปี ซึ่งเป็นองค์กรระดับโลกที่สนับสนุนชนเผ่าต่าง ๆ ทางด้านสิทธิมนุษยชน ช่วยปกป้องชีวิต ดินแดน (ชนเผ่าทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นชาวพื้นเมืองของ Amazon, Maasai แถบแอฟริกาตะวันออก, Wichi ที่อาเจนติน่า และอื่นๆ ทั่วโลก) และเจ้าตัวยังสนับสนุนองค์กรการกุศลอีกมากมาย

CHRIS TUCKER

Christopher Tucker เกิดวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) ที่ Atlanta, Georgia ประเทศอเมริกา

หลังจากเรียนจบจากมัธยมปลาย Tucker ก็ได้สร้างโอกาสให้ตัวเองไป Hollywood เพื่อเดินทางไล่ล่าตามความฝันการอยากเป็นนักแสดง จนกระทั่งเขาได้ไปเป็นแขกรับเชิญในรายการ Def Comedy Jam ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ซึ่งตัวของเขาได้รับการขนานนามว่าเป็นตลกที่ "Clean" มาก เขาแสดงตลกแบบไม่หยาบคายเลย โดยคนที่เป็นแรงบันดาลใจในการเล่นตลกของเขาคือ Eddie Murphy และ Richard Pryor

Tucker เดบิวต์หนังเรื่องแรกกับ House Party 3 ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) แต่จริง ๆ แล้วผลงานการแสดงครั้งแรกของเขาเริ่มต้นกับบทเล็ก ๆ ในซีรีส์เรื่อง Hangin' with Mr. Cooper ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) และปรากฏตัวในหนังเรื่องนี้แบบ uncredit ในเรื่อง The Meteor Man ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536)

ในปี ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) เขาได้แสดงในหนังเรื่องนึง ซึ่งเป็นหนังที่สร้างชื่อโด่งดังให้กับเขา และตลกที่สุดเรื่องนึงในชีวิตการแสดงของเจ้าตัว กับเรื่อง Friday ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538)

หลังจากนั้นก็มีผลงานของเจ้าตัวออกมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะในปี ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) เขาได้เล่นหนังชื่อดังถึง 3 เรื่องในปีเดียวเลย The Fifth Element, Money Talks และ Jackie Brown

ในปี ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) เขาได้รับบทเคียงข้างกับดาราชื่อดัง เฉินหลง หรือ Jackie Chan ในหนังแอ็คชันคอเมดี้เรื่อง Rush Hour ซึ่งมันทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นั่นทำให้เกิดภาคต่อใน Rush Hour 2 ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) และ Rush Hour 3 ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) ทำให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปทั่วโลก และยังมีข่าวลือว่าเขาจะกลับมารับบท James Carter บทเดิมใน Rush Hour 4 อีกด้วย

และใน Rush Hour 3 เขาได้รับค่าตัวสูงถึง 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 776 ล้านบาท) ทำให้เขากลายเป็นนักแสดง Hollywood ที่มีค่าตัวสูงสุดในขณะนั้น

ในปี ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) Tucker ได้แสดง MV กับเพื่อนของเขา อย่าง Michael Jackson ในเพลง You Rock My World