รวมศัพท์ในวงการ สกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี ( Cryptocurrency Terms you should know)

รวมศัพท์น่ารู้ในวงการ สกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี
(Cryptocurrency Terms you should know)

อย่าปล่อยให้พวก FUD มาทำให้คุณ FOMO ไม่งั้น คุณอาจจะจบลงที่การ REKT

ประโยคข้างต้นคือประโยคที่มีคำศัพท์ที่เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วใน วงการคริปโต (Cryptocurrency) ซึ่งถ้าคุณไม่รู้จักความหมายของคำเหล่านี้มาก่อน ก็อาจจะงงงวยกันได้ว่า คำเหล่านี้เขาหมายถึงอะไรกัน และกำลังพูดถึงสถานการณ์ หรือสภาพการณ์ของกราฟแบบไหนกันอยู่ ถ้าคุณเป็นมือใหม่เข้าวงการคริปโตแล้วล่ะก็ ตามไปอ่านศัพท์น่ารู้ในวงการคริปโต ที่นิยมใช้กันบ่อย ๆ ในทุกวันนี้ด้านล่างเลย

คำศัพท์สแลงในวงการคริปโต (Cryptocurrency Slang Terms)

HODL คืออะไร ?

HODL คำนี้ น่าจะเป็นคำสแลงที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดแล้วในบรรดาสแลงทั้งหมด แท้จริงแล้ว ที่มาของคำ ๆ นี้ มาจากการพิมพ์ผิดจากความเมาของเจ้าของกระทู้ในฟอรัมพูดคุยเกี่ยวกับ Bitcoin เมื่อปี ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) ที่พิมพ์ผิดจากคำว่า I AM HOLDING ที่แปลว่า ฉันกำลังถืออยู่ ไปเป็น I AM HODLING

โดยคำว่า HODL ปกติแล้วจะออกเสียงแบบคำว่า Hoddle (โฮดเดิล) แปลง่าย ๆ ว่า จะถือเหรียญนั้นในระยะยาว ไม่ว่าตลาดจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรหรือผันผวนแค่ไหนก็ตาม ซึ่งแฟน ๆ บิทคอยน์ได้เปลี่ยนคำนี้ให้กลายเป็นคำย่อของประโยคเต็มว่า "Hold on for dear life" หรือแปลเป็นไทยว่า ถือ (มัน) ไปทั้งชีวิต ในเวลาต่อมา

เครดิตภาพ : https://bitcointalk.org/index.php?topic=375643.0

ถึงแม้ว่าโพสต์ดั้งเดิมจะแค่พิมพ์ผิดไปเฉย ๆ แต่จริง ๆ แล้วโพสต์นั้นก็จัดได้ว่าเป็นผู้มาก่อนกาลอย่างแท้จริง เพราะในขณะที่โพสต์ถูกเผยแพร่ ราคาบิทคอยน์กำลังดิ่งลงเหว จาก $1,242 เป็น $480 ในเวลาเพียงเดือนเดียวเท่านั้น (ราว 41,000 บาท สู่ 16,000 บาท คำนวณด้วยอัตราแลกเปลี่ยน 33 บาท) ทำให้บรรดานักลงทุนที่แพนิค ต่างพากันเทขายหนีตายกันจ้าละหวั่น แต่เทรดเดอร์นามว่า GameKyuuubi หรือชื่อจริงว่า Mike อาชีพโปรแกรมเมอร์ ยังคงถือเหรียญนั้นอยู่และเขียนลงในโพสต์ว่า ในเกมที่มีผลลัพธ์เป็นศูนย์เหมือนสถานการณ์ตอนนี้ เทรดเดอร์จะได้เงินก็เพราะคุณขายมันไปนี่ล่ะ

Diamond Hands คืออะไร ?

Diamond Hands หรือ มือเพชร คำ ๆ นี้ได้มาจากทวิตของ Elon Musk เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยทวิตออกมาเป็น Emoticon สองตัวได้แก่ 💎🙌 Diamond Hands เป็นคำมีมสุดฮิตในวงการคริปโตและบรรดานักเทรดทั้งหลายบนกระทู้ Reddit ที่สื่อถึงกลุ่มคนที่ยึดมั่นในการ HODL หรือถือเหรียญระยะยาว มักถูกใช้บ่อยในกลุ่มออนไลน์ที่รวมตัวผนึกกำลังกันเพื่อเข็นราคาเหรียญมีมหรือเหรียญอื่น ๆ ให้ราคาพุ่งขึ้น

โดยทวิตที่ Elon Mask ทวิตไว้ในขณะนั้น เกิดขึ้นในตอนที่บริษัทของเขาถือบิทคอยน์อยู่เป็นมูลค่า 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 495,000 ล้านบาท) แต่ขณะนั้น บิทคอยน์ราคากำลังดิ่งลงเหวและทำให้เหรียญคริปโตอื่น ๆ ร่วมตามไปด้วย ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ทวิตข้อความนี้ไว้เพื่อประกาศแก่คนอื่น ๆ ว่า บริษัทจะไม่ขายบิทคอยน์ที่มีอยู่ออกไปแน่นอน และจะถือไปยาว ๆ

และเมื่อมีฉายาให้คนถือระยะยาวแล้ว ก็ต้องมีฉายาให้คนขี้ตกใจที่ชอบเทขายเวลาเหรียญร่วงด้วยเช่นกัน คนพวกนี้จะถูกเรียกว่า Paper Hands 🧻🤲 หรือ มือกระดาษ แทน

FOMO คืออะไร ?

FOMO (โฟโม่) ย่อมาจาก Fear of Missing Out แปลความหมายแบบไทย ๆ ได้ว่า กลัวตกขบวน / กลัวตกรถ เพราะเมื่อกราฟตลาดมีแนวโน้มพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว อารมณ์ FOMO ก็จะนำไปสู่การเทรดที่ใช้อารมณ์มากกว่าการใช้ดุลยพินิจและการไตร่ตรองอย่างรอบคอบก่อนการซื้อ และทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาดตามมา ซึ่งถือเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่งในการลงทุน เพราะอาจทำให้คุณพลาดการวิเคราะห์จุดเสี่ยงและจุดคุ้มทุนที่ดีที่สุดไปในการลงทุนครั้งนั้น ๆ ได้ ซึ่งแน่นอนว่า ไม่มีใครในโลกนี้สามารถลงเทรดได้เพอร์เฟกต์ตลอดเวลาหรอก แต่การลงทุนก็ควรเป็นไปด้วยการใช้สมองมากกว่าใช้อารมณ์นะ

เครดิตภาพ : https://www.segmentify.com/blog/fear-of-missing-out-in-ecommerce

ทางที่ดีที่สุดในการลดการ FOMO ก็คือการมีกลยุทธ์ในการลงทุน และยึดมั่นในกลยุทธ์การลงทุนของตัวเองเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเชื่อว่า หน่วยลงทุนที่คุณลงไปนั้นจะเติบโตได้ในระยะยาว หนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในการลงทุนก็คือ DCA หรือ Dollar Cost Averaging อันหมายถึง การลงทุนที่เราจะต้องลงเงินเป็นจำนวนเท่ากันในทุก ๆ สัปดาห์หรือทุก ๆ เดือนโดยไม่ต้องกังวลว่าตลาดจะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

อ่านบทความที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับอาการ FOMO ใน Social Detox คืออะไร ? เริ่มต้นยังไงได้บ้าง ?

• https://tips.thaiware.com/1729.html

FUD คืออะไร ?

FUD ย่อมาจากคำว่า Fear (ความกลัว), Uncertainty (ความไม่แน่นอน), และ Doubt (สงสัย) จัดเป็นกลยุทธ์ชวนเชื่อในทางสื่อสารมวลชนสุดคลาสสิก โดยมีไอเดียหลักก็คือ การทำให้คนทั่วไปรับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์, เทคโนโลยี, หรือผู้สมัครคนนั้น ๆ ด้วยการปล่อยข้อมูลผิด ๆ ออกไป เพื่อหวังผลให้เกิดความรู้สึกในแง่ลบ

เครดิตภาพ : https://www.altcoinbuzz.io/cryptocurrency-news/spotlight/looking-for-fud-a-harvard-economist-is-ready-to-share-some/

ในจักรวาลคริปโต FUD มักเกิดขึ้นโดยอ้างความสงสัยทั่วไปเกี่ยวกับเทคโนโลยี (สามารถเป็นได้ตั้งแต่สื่อมีเดียต่าง ๆ ไปจนถึงนักวิเคราะห์การเงิน) ใจความหลักอาจเป็นได้ทั้งเกี่ยวกับเหรียญใดเหรียญหนึ่งแบบจำเพาะเจาะจง หรือโปรโตคอล เพื่อให้เกิดการดิสเครดิตในแง่ลบ ซึ่งสิ่งที่คุณควรจะทำเป็นอย่างต่อไปเมื่อเผชิญหน้ากับการ FUD จากคนอื่น นั่นก็คือการ DYOR แล้วกอดทรัพย์สินของตัวเองไว้แน่น ๆ

DYOR คืออะไร ?

DYOR ย่อมาจากคำว่า Do your own research แปลเป็นไทยได้ว่า ลงมือค้นหาข้อมูลด้วยตนเอง การจะลงทุนใดใดก็ตาม คุณควรเริ่มต้นศึกษาหน่วยลงทุนนั้น ๆ แล้วตัดสินใจลงทุนพร้อมประเมินความเสี่ยงด้วยตนเองว่า จะทำการลงทุนเท่าไหร่ มากน้อยแค่ไหน และถ้าหากขาดทุน หรือมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น คุณสามารถรับความผันผวนได้ที่กี่เปอร์เซ็นต์ หรือเงินต้นถูกลดจำนวนไปเท่าไหร่จึงจะอยู่ในจุดที่คุณไม่สามารถรับได้อีกต่อไป เพราะเงินของคุณ กระเป๋าของคุณ ตัวคุณเท่านั้น ที่จะสามารถประเมินตัวคุณเองได้ดีที่สุด

เครดิตภาพ : https://bsctimes.com/dyor%E2%80%8A-%E2%80%8Aif-only-we-knew-how-to/

บ่อยครั้ง ที่มักเกิดเหตุการณ์ ฝากเพื่อน ฝากพี่น้อง ฝากครอบครัว หรือคนใกล้ชิดลงทุน แล้วกลายเป็นว่าขาดทุน สิ้นเนื้อประดาตัวโดยไม่สามารถตั้งตัวได้ทัน ไม่ได้เตรียมใจมาก่อน เพราะนำทรัพย์สินของตัวเองไปฝากไว้ให้ผู้อื่นดูแล จนเกิดเป็นคดีความฟ้องร้องในภายหลัง ซึ่งบางเคสก็ได้คืนบ้าง ไม่ได้คืนบ้าง เราจึงขอเน้นย้ำให้ทุกคนศึกษาและตัดสินใจลงทุนด้วยตนเองเสมอนะ :)

The Flippening คืออะไร ?

The Flippening คือเหตุการณ์พลิกผันที่เกิดขึ้นในตลาดคริปโต เมื่อ Market Cap ของ Ethereum นั้นสามารถทาบรัศมีของ Bitcoin และแซงหน้า Bitcoin ไปได้ ซึ่งในเวลาต่อมา คำ ๆ นี้ถูกใช้กับเหรียญหรือโปรโตคอลที่มีสถานการณ์คล้าย ๆ กันนี้ ที่อีกฝั่งหนึ่งเป็นเหรียญหรือโปรโตคอลเล็ก ๆ แต่สามารถทาบรัศมีกับคู่แข่งที่มีภาษีดีกว่าได้

เครดิตรูปภาพ : https://ichi.pro/th/the-flippening-kalang-ma-tae-michi-sing-thi-khun-khid-167644228445846

Laser Eyes คืออะไร ?

Laser Eyes คำนี้หลายคนอาจจะงงว่า ตาเลเซอร์ มันเกี่ยวอะไรกันกับคริปโต เดิมทีคำนี้มีที่มาจากการที่มีบรรดาคนดังและผู้สนับสนุนบิทคอยน์รายต่าง ๆ เริ่มต้นส่งสัญญาณว่าตนเองสนับสนุนสกุลเงินคริปโตอยู่ในปี ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) โดยการเพิ่ม ตาเลเซอร์ หรือ Laser Eyes เข้าไปในรูปทวิตเตอร์ของตัวเอง

เครดิตรูปภาพ : https://knowyourmeme.com/memes/laser-eyes-bitcoin-trend-laserrayuntil100k

ซึ่งบรรดาคนดังที่ว่าก็เช่น Tom Brady (ซูเปอร์สตาร์ NFL), Paris Hilton, Elon Musk, Wyoming, Cynthia Lummis วุฒิสมาชิก, และ Michael Saylor CEO MicroStrategy จากนั้นก็เลยกลายเป็นมีมที่เกิดขึ้นร่วมกับแฮชแท็ก #LaserRayUntil100K (ปล่อยเลเซอร์ จนกว่าจะครบหนึ่งแสน) หมายถึง การสนับสนุนให้สกุลเงินคริปโตสามารถเติบโตจนก้าวไปถึงจุดที่มีมูลค่าถึง $100,000 (ราว 3.3 ล้านบาท) ได้

Memecoin คืออะไร ?

Memecoin แปลตรงตัวได้ว่า เหรียญมีม หมายถึง เหรียญที่ถูกสร้างขึ้นโดยอิงจากมีมต่าง ๆ ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในขณะที่สร้างเหรียญนั้นขึ้นมา โดยเหรียญแรกของเหรียญมีมก็คือ DOGE หรือ Dogecoin เรียกสั้น ๆ ว่าเหรียญหมา ในปี ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) เหรียญ DOGE มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำให้เกิดคลื่นลูกใหญ่สำหรับเหรียญอื่น ๆ ที่มีชื่อแบบไม่อ้างอิงกับอะไรใดใด ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด (โดยมีศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนอย่าง Sushiswap ทำให้ทุกคนสามารถลิสต์เหรียญขึ้นมาได้ง่าย)

เครดิตภาพ : https://academy.binance.com/en/articles/what-are-meme-coins

ในเดือนพฤษภาคมปีเดียวกัน Vitalik Buterin ผู้ร่วมคิดค้นเหรียญ Ethereum ก็ได้ร่วมบริจาคเหรียญมีมอื่น ๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหรียญ DOGE อย่าง AKITA, SHIB, และ ELON (Dogelon Mars) เพื่อสมทบทุนบรรเทา COVID-19 และช่วยเหลือด้านอื่น ๆ ในประเทศอินเดีย ซึ่งเหรียญทั้งหลายที่ว่า ถูกฝากไว้ในกระเป๋าคริปโตของ Buterin เอง เพื่อให้เหล่านักลงทุนเชื่อว่า เขาเป็นผู้ลงทุนจริง

Moon (Mooning) คืออะไร ?

Moon หรือ มูน คำนี้ไม่ได้แปลว่าพระจันทร์แบบตรงตัว แต่หมายถึงการที่กราฟมูลค่าของเหรียญคริปโตนั้น ๆ มีแนวโน้มเติบโตพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เทรดเดอร์หลายคนนิยามการพุ่งแบบนี้ว่า To the Moon หรือ Mooning ที่แปลเป็นไทยคร่าว ๆ ได้ว่า ทะยานไปดวงจันทร์ หรือกำลังมุ่งสู่ดวงจันทร์ เหมือนจรวดที่พุ่งออกนอกโลกไปสำรวจดวงจันทร์นั่นเอง ซึ่งถ้าจะดูว่าเหรียญไหนมูนแล้วจริง ๆ ต้องไปดูที่มูลค่าการเติบโตของมันนับตั้งแต่ที่เราถือไว้ หรือราคาในช่วงแรกเริ่มของมัน ถ้าเหรียญไหนมีมูลค่ากระโดดไปเกินกว่า 1,000% ไปแล้ว ก็เรียกว่าเหรียญนั้น มูน ได้เลย

ตัวอย่างการมูนที่เห็นได้ชัดจากเหรียญ KUB ของ Bitkub ขึ้นไปถึง 1428% สำหรับคนที่เข้าซื้อตอนราคาหน่วยละ 32.70 บาท เมื่อราคาพุ่งขึ้นไปถึงหน่วยละ 500 บาท

Pump and Dump คืออะไร ?

Pump and Dump คือความพยายามในการปั๊มราคาสินทรัพย์ แล้วรีบ Cash Out หรือแลกออกไปเป็นค่าเงินสากล / เงินสด (Fiat) ก่อนที่ราคาจะดิ่งลงเหว ซึ่งบรรดาเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีที่มี Market Cap น้อย มักจะประสบปัญหานี้อยู่เนือง ๆ เหล่านักลงทุนจะทำงานร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนราคาเหรียญที่ต้องการให้พุ่งขึ้น และเมื่อราคาเหรียญสูงขึ้น บรรดานักจัดฉากทั้งหลายก็จะเริ่มเดินสายโปรโมทโอกาสอันดีนี้ไปในทุกแพลตฟอร์มโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นทวิตเตอร์, Reddit, Discord, Facebook, คอมเมนท์บน Youtube, หรือที่ใดก็ตามที่คิดว่าการโปรโมทได้ผล เพื่อดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาซื้อเหรียญนั้น ๆ ให้มากขึ้น

เครดิตภาพ : https://empirica.io/pump-and-dump-in-cryptocurrency/

เมื่อเหรียญนั้น ๆ ราคาแตะถึงจุดที่กลุ่มคนเหล่านี้ต้องการ ก็จะเริ่มทำการขายแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดออกไปเพื่อทำกำไรมหาศาลจากราคาที่พุ่งขึ้น และปล่อยให้คนที่มาเข้าทีหลัง ติดดอย กันไปตามระเบียบ

Rekt คืออะไร ?

Rekt (เร็กต์) คำนี้จะเกิดขึ้นเมื่อคุณถูกกวาดโดยเหล่า FOMO และจบลงด้วยการเป็นเหยื่อของบรรดาผู้เล่นที่ทำการ Pump and Dump เมื่อนั้นก็คือคุณ Get Rekt แล้วเรียบร้อย โดยความหมายของคำ ๆ นี้ในทางเกมแล้ว หมายถึงการพ่ายแพ้อย่างหมดท่า ซึ่งความหมายนี้ก็ถูกเปรียบเปรยในทางเดียวกันกับตลาดคริปโต หรือก็คือการขาดทุนยับเยินจากการหลงไปตามเกมของคนอื่นนั่นเอง

เครดิตรูปภาพ : https://www.youtube.com/watch?v=pj0u8dfsX8Y

Whale คืออะไร ?

Whale ภาษาไทยก็แปลตรง ๆ เลยว่า วาฬ หมายถึงบุคคลที่เป็นผู้ถือคริปโตจำนวนมหาศาลไว้ในครอบครอง สำหรับเหรียญบิทคอยน์แล้ว ผู้ที่ถือครองเหรียญนี้มากกว่า 1,000 BTC จะจัดเป็นวาฬทั้งหมด

เครดิตภาพ : https://nairametrics.com/2020/10/02/bitcoin-whale-transfers-104-million-worth-of-cryptos/

ไม่เหมือนกับผู้ถือเหรียญคริปโตเหรียญอื่น ๆ ส่วนใหญ่ ที่คำว่า วาฬ จะหมายถึงคนที่มีศักยภาพในการทำให้ตลาดเคลื่อนไหวได้ด้วยการเทรดของบุคคลเหล่านี้ อ้างอิงจากช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) ที่ผ่านมา ผู้ที่มีรายชื่อกระเป๋าคริปโตโดยมีบิทคอยน์อยู่ในครอบครองมากที่สุด 100 อันดับแรก (จากผู้ถือทั้งหมดกว่า 800,000 ราย) เป็นผู้ที่ถือครอง BTC มากกว่า 20% ของ BTC ทั้งหมด

ข้อมูลเพิ่มเติม : อันดับผู้ถือครอง พร้อมจำนวนที่ถือครอง Bitcoin ทั้งหมด

คำศัพท์ในวงการคริปโต (Cryptocurrency Terms)

Gas Fee คืออะไร ?

Gas Fee หรือ Gas นิยมเรียกกันว่าค่าแก๊ส เป็นค่าธรรมเนียมที่ผู้พัฒนาต้องจ่ายให้กับเชนที่ทำธุรกรรมอยู่เพื่อขอใช้งานระบบ ซึ่งค่าแก๊สที่ว่า ก็จะถูกจ่ายออกไปเป็นสกุลคริปโตหลักของเชนนั้น ๆ เช่น ถ้าคุณทำธุรกรรมอยู่บนเชน Ethereum คุณก็จะต้องจ่ายเป็น ETH หรือทำธุรกรรมบนเชน Binance ก็จะต้องจ่ายเป็น BNB เป็นต้น

Stake หรือ Staking คืออะไร ?

Stake หรือ Staking คือการออมคริปโตในรูปแบบหนึ่ง ซึ่งจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากทุนเดิมที่ฝากไว้เท่าใด ก็ขึ้นอยู่กับผู้รับฝากรายนั้น ๆ ระบุไว้ ซึ่งการ Stake จะไม่จำเป็นต้องเป็นสินทรัพย์คริปโตที่อยู่ในกระแสหลัก แต่อาจเป็นผู้พัฒนารายใด หรือเกมคริปโตเกมไหนจัดทำขึ้นก็ได้ และในบางครั้ง ผลตอบแทนอาจไม่ได้ออกมาในรูปของสินทรัพย์ที่เราฝากลงไป แต่อาจออกมาในรูปแบบของการให้สิทธิพิเศษอื่น ๆ เช่น การเข้าถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ในเครือของผู้รับฝากเอง เป็นต้น

รูปจากเกม CryptoCars ที่ล่าสุดมีการเปิดให้ Stake เพื่อลุ้นรับสิทธิ์ Whitelist เกม CryptoGuards กัน

Swap คืออะไร ?

Swap คือ การแลกเปลี่ยนสินทรัพย์คลิปโตจากอีกหน่วยหนึ่ง ไปเป็นอีกหน่วยหนึ่ง เช่น การแลกเปลี่ยน BNB ไปเป็น BUSD หรือการแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโตไปเป็นสกุลคริปโตเพื่อใช้กับอีกแพลตฟอร์มหนึ่ง เช่น การแลกเปลี่ยน KUB ไปเป็น LUMI เพื่อเอาไว้ใช้จ่ายซื้อขายในเกม Morning Moon Village ที่เป็นเกมในเชนของ Bitkub เอง เป็นต้น

Fiat คืออะไร ?

Fiat คือค่าเงินที่เป็นค่าเงินหรือสกุลเงินพื้นฐานที่ใช้กันในแต่ละประเทศ ซึ่งจะมี Exchange ไหนรับแลกเป็นสกุลเงินใดบ้าง ก็ขึ้นอยู่กับ Exchange นั้น ๆ โดยตรง 

BTD หรือ BTFD คืออะไร ?

BTD ย่อมาจาก Buy The Dip ส่วน BTFD ก็เหมือนกับคำก่อนหน้า แต่ต่างกันตรงที่เพิ่มคำว่า F..king เข้าไปอีกที หมายถึง การแนะนำให้บรรดานักเทรดเลือกช้อนเหรียญที่คิดว่ามันน่าจะตกลงสู่จุดที่ควรจะเป็นมูลค่าที่ต่ำที่สุดในขณะนั้นแล้ว เพื่อการทำกำไรในอนาคต

Address คืออะไร ?

Address ถ้าแปลตรงตัวก็หมายถึง ที่อยู่ แต่ในที่นี้ มันไม่ใช่ที่อยู่ที่สามารถแกะรอยตามมาบ้านเราได้ แต่หมายถึงที่อยู่ของกระเป๋าคริปโต หรือกระเป๋าธุรกรรมคริปโตของใครสักคนบนโลกออนไลน์ ที่เราสามารถตามไปดูความเคลื่อนไหวได้ แต่จะไม่สามารถรู้ได้ว่ากระเป๋าใบนั้นเป็นของใคร จนกว่าเจ้าตัวจะเป็นคนออกมาแสดงความเป็นเจ้าของเอง

เครดิตภาพ : https://www.followchain.org/coinbase-wallet-address/

ICO คืออะไร ?

ICO ย่อมาจากคำว่า Initial Coin Offering หมายถึงวิธีการระดมทุนสำหรับโปรเจกต์คริปโตตัวใหม่ ซึ่งจะมีความคล้ายคลึงกันกับการเปิดเสนอขายหุ้นครั้งแรกของบริษัทให้กับสาธารณชนทั่วไปในตลาดหุ้น (IPO หรือ Initial Public Offering)

Airdrop คืออะไร ?

Airdrop หรือ แอร์ดรอป ที่เรามักจะใช้คำนี้เรียกกันภายในเกม Battle-Royale กับกล่องไอเทมที่ตกลงมาจากบนฟ้า เมื่อถูกนำมาใช้ในโลกของคริปโตก็จะหมายถึง การแจกเหรียญคริปโตหรือสินทรัพย์ใด ๆ ก็ตามฟรี ๆ หากมีผู้มาเข้าร่วมกิจกรรมกับผู้จัด ซึ่งจะมีทั้งการแจกทุกคนที่ทำตามกติกาที่กำหนด และแจกโดยการสุ่มจากจำนวนผู้มาเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดอีกที

NFT คืออะไร ?

NFT ย่อมาจากคำว่า Non-Fungible Token เป็นหน่วยของมูลค่าที่ถูกใช้เพื่อนำเสนอความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิตอลที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เช่น งานศิลปะ หรือของสะสม ซึ่งเราจะพบ NFT ได้บ่อยบนเชน Ethereum

ข้อมูลเพิ่มเติม : NFT คืออะไร ? ทำไมถึงพิเศษกว่า Cryptocurrency ?

เครดิตภาพ : https://opensea.io/assets?search[query]=arts

Hash คืออะไร ?

Hash คือ ค่าที่ประกอบไปด้วยตัวเลขและตัวอักษรหลายตัวรวมกัน เป็นค่าที่เอาไว้ระบุบล็อกการทำธุรกรรมบนโลกคริปโต และจะถูกผูกเข้าด้วยกันกับผู้ซื้อและผู้ขายคริปโตในการทำธุรกรรมครั้งนั้น ๆ

Stable Coin คืออะไร ?

Stable Coin แปลเป็นไทยแบบตรง ๆ ได้ว่า เหรียญที่มีค่าคงที่ ซึ่งในทางคริปโตแล้วจะหมายถึง เหรียญคริปโตที่มีความผันผวนไม่มาก ซึ่งมักจะเป็นเหรียญที่อิงค่าเงิน Fiat หรือค่าเงินที่มีรัฐบาลหนุนหลัง

เครดิตภาพ : https://ethereum.org/en/stablecoins/

Wallet คืออะไร ?

Wallet หรือกระเป๋าตังค์ในโลกคริปโต เป็นที่ที่เอาไว้เก็บเงินคริปโตของคุณ ซึ่งบรรดา Exchange ทั่วไป มักจะมีกระเป๋าเงินดิจิตอลไว้ให้คุณอยู่แล้ว ซึ่งกระเป๋าคริปโตที่ว่า จะมีทั้งกระเป๋าแบบร้อน (แบบออนไลน์ และแบบสร้างขึ้นจากซอฟต์แวร์) และแบบเย็น (แบบออฟไลน์ ซึ่งมักจะอยู่ในอุปกรณ์แยกออกไปต่างหาก)

Satoshi คืออะไร ?

Satoshi หรือชื่อเต็มว่า Satoshi Nakomoto เป็นนามแฝงของผู้สร้าง Bitcoin ที่ทำให้เราได้รู้จักโลกคริปโตกันอย่างเป็นทางการ ปัจจุบันก็ยังไม่มีใครรู้ว่า แท้จริงแล้ว Nakomoto เป็นใคร มาจากไหน เป็นคนญี่ปุ่นจริง ๆ ตามชื่อหรือเปล่า หรือจริง ๆ แล้วจะมีผู้ร่วมสร้างบิทคอยน์มากกว่าหนึ่งคนกันนะ

Mining คืออะไร ?

Mining แปลเป็นภาษาไทยตรงตัวว่าการขุด ซึ่งการขุดในโลกคริปโต จะหมายถึงกระบวนการที่ทำให้เกิดเหรียญคริปโตเหรียญใหม่ขึ้นมา และประวัติ (Log) การทำธุรกรรมระหว่างผู้ใช้งานจะถูกเก็บไว้

Halving คืออะไร ?

Halving คือฟีเจอร์ที่ถูกเขียนลงบนโค้ดของ Bitcoin ตามหลังตัวเลขที่ถูกกำหนดไว้ในแต่ละบล็อกที่ถูกขุดขึ้นมา (โดยทั่วไปแล้วจะเกิดขึ้นทุก ๆ 4 ปี) โดยบิทคอยน์ที่ถูกขุดขึ้นมาใหม่จะเข้าสู่กระบวนการหมุนเวียนในระบบเป็นจำนวนครึ่งหนึ่ง (ถูกหารครึ่ง หรือ Get Halved) ซึ่งจำนวนครึ่งหนึ่ง (Halving) นี้ จะสามารถส่งผลกระทบต่อราคาของบิทคอยน์ในตลาดได้

DeFi คืออะไร ?

DeFi ย่อมาจากคำว่า Decentralized Finance แปลตรงตัวว่า การเงินไร้ศูนย์กล่าง หรือก็คือ กิจกรรมทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการเงิน จะถูกกระทำขึ้นโดยไม่มีคนกลางเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ธนาคาร รัฐบาล หรือสถาบันการเงิน

เครดิตภาพ : https://bap-software.net/en/knowledge/defi-finance/

DApps คืออะไร ?

DApps ย่อมาจาก Decentralized Applications หมายถึงแอปพลิเคชันที่ได้รับการออกแบบจากผู้พัฒนาให้ทำงานบนบล็อกเชนได้โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง ซึ่งธุรกรรมการเงินแบบไร้ศูนย์กลางนี้บ่อยครั้งที่มักถูกทำให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์โดยใช้ DApps โดยเชน Ethereum ถือเป็นเชนหลักที่สนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ผ่านเครือข่ายการเงินแบบไร้ศูนย์กลาง

Altcoin คืออะไร ?

Altcoin ชื่อเต็ม ๆ ก็คือ Alternate Coin ซึ่งหมายถึงเหรียญใดก็ได้ที่ไม่ใช่เหรียญ Bitcoin สามารถเป็นได้ทั้งเหรียญที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสองอย่าง Ethereum ไปจนถึงเหรียญอะไรก็ได้ที่มีอยู่ในตลาด ไม่ว่าจะมีค่า Market Cap ต่ำเตี้ยเรี่ยดินขนาดไหนก็ถือเป็น Altcoin หมด อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า คุณควรจะเลือกลงทุนกับเหรียญที่อยู่ในกระแสหลัก (Mainstream) และมีตลาดขนาดใหญ่รองรับ มากกว่าเหรียญอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในข่ายที่ว่านะ

Exchange คืออะไร ?

Exchange คือสถานที่สำหรับแลกเปลี่ยนเงิน Fiat ให้เป็นเงินสกุลคริปโตแบบออนไลน์ ตามที่ Exchange นั้น ๆ รองรับ หรือจะขายคริปโตออกมาเป็นเงิน Fiat ก็ย่อมได้

เครดิตภาพ : https://www.binance.com/en/blog/all/binance-enables-thai-baht-fiat-channel-with-satang-integration-421333213266550784

GameFi คืออะไร ?

GameFi เป็นตัวย่อที่เกิดจากคำสองคำมารวมกัน ได้แก่ Game และ Finance ในโลกของคริปโต คำ ๆ นี้จะเอาไว้พูดถึงเกมที่นำเอาระบบการเงินในรูปแบบต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้กับเกม และทำให้เกมเกมนั้นสามารถสร้างรายได้จากการเล่นในรูปแบบของ Play-to-Earn หรือการเล่นเพื่อสะสมรายได้เป็นเงินสกุลคริปโต

เครดิตภาพ : https://twitter.com/GenxAnalytics/status/1439610012649852931

การใช้คำว่า GameFi ถูกใช้ครั้งแรกบนทวิตเตอร์โดย Andre Cronje ผู้ก่อตั้ง Yearn.Finance เมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2563) หลังจากนั้น คำ ๆ นี้ก็ถูกนำมาใช้กันอย่างกว้างขวาง เพื่อหมายถึงเกมที่ถูกผูกเข้าไว้ด้วยกันกับระบบการเงินไร้ศูนย์กลางบนบล็อกเชน โดยการนำประโยชน์จากความนิยมในการเล่นเกม มารวมเข้ากับฟีเจอร์ต่าง ๆ ของเงินสกุลคริปโต ทำให้สามารถเล่นเกมแล้วสร้างรายได้ให้กับผู้เล่นได้