ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
THAIWARE.COM | ทิปส์ไอที
 

Game Mode บน Windows 10 และ Windows 11 คืออะไร ? ทำงานยังไง ? และ ใช้งานยังไง ?

Game Mode บน Windows 10 และ Windows 11 คืออะไร ? ทำงานยังไง ? และ ใช้งานยังไง ?

เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 15,385
เขียนโดย :
0 Game+Mode+%E0%B8%9A%E0%B8%99+Windows+10+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0+Windows+11+%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%87+%3F+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0+%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%87+%3F
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

Game Mode บน Windows 10 และ Windows 11 คืออะไร ?
และ โหมดเกม ทำงานยังไง ? และ ใช้งานยังไง ?

สำหรับผู้ใช้งาน ระบบปฏิบัติการ Windows อาจคุ้นเคยกับคุณสมบัติของ โหมดเกม (Game Mode) กันมาตั้งแต่ Windows 10 แล้ว มันคือ โหมด หรือ ระบบ ที่ได้ออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์ (นักเล่นเกม) ซึ่งจะช่วยให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์ในการเล่นเกมที่ดีมากยิ่งขึ้น แม้คอมพิวเตอร์เหล่านั้นจะมีอายุการใช้งานมากเพียงใด จนกระทั่งทุกวันนี้พอมี Windows 11 เข้ามาคุณสมบัติของ Game Mode ก็ยังคงอยู่ 

สำหรับใครที่สงสัยว่า Game Mode ทำงานอย่างไร หรือ ใช้งานอย่างไรบน ระบบปฏิบัติการ Windows 11 บทความนี้เราจะมาอธิบายให้ทุกคนฟัง พร้อมกับตอบคำถามที่หลายคนสงสัยว่า จริง ๆ แล้ว Game Mode มันช่วยได้จริงหรือเปล่า ? มาดูกัน

เนื้อหาภายในบทความ

Game Mode คืออะไร ? 

Game Mode คือ คุณสมบัติที่มีมาใน Windows 10 และ Windows 11 ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมให้กับผู้ใช้ เครื่องคอมพิวเตอร์ PC แต่เดิมเป็นฟีเจอร์บนเครื่อง Xbox One ก่อนถูกนำมาใช้บนเครื่อง PC ด้วยนั่นเอง

โดยจุดมุ่งหมายของ Game Mode คือ การแก้ปัญหาเรื่อง Frame Rate หรือ Frame per Second (FPS) และทำให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์ในการเล่นที่ดีมากกว่าเดิม ลื่นไหลต่อเนื่อง ไม่ถูกขัดจังหวะในช่วงเวลาสำคัญ

ข้อมูลเพิ่มเติม : Frame Rate กับ Refresh Rate คืออะไร ? และ แตกต่างกันอย่างไร ?

Game Mode บน Windows 10 และ Windows 11 คืออะไร ? ทำงานยังไง ? และ ใช้งานยังไง ?

ซึ่งถ้าเราเปิดใช้ Game Mode มันก็จะเข้าไปจัดลำดับความสำคัญของการใช้ทรัพยากรบนเครื่อง โดยลดการดึงทรัพยากรอย่าง หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) และ การ์ดจอ (Graphic Card) จากโปรแกรมต่าง ๆ ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง มาให้กับเกมของคุณแทน

และนอกจากนี้แล้ว Game Mode ยังสามารถหยุดการอัปเดตไดรเวอร์อัตโนมัติของ Windows Update และหยุดการอัปเดตข้อมูลใหม่ ๆ จากแอปพลิเคชันที่ทำงานอยู่เบื้องหลังได้ด้วย จุดนี้เองที่ทำให้การเล่นเกมมีความลื่นไหลกว่าเดิม ปัญหาเรื่องการตบบอสแพ้ตอนเฟรมเรทตกก็จะหมดไป

อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า Game Mode จะไปช่วยบูทประสิทธิภาพสูงสุดของการ์ดจอได้ แต่ความจริงไม่ใช่ มันแค่ช่วยป้องกันเฟรมเรทตกเท่านั้น และจุดประสงค์หลักในการออกแบบ ก็คือการช่วยเหลือเหล่าเกมเมอร์ให้ได้เล่นเกมที่ตัวเองรัก แม้ว่าเครื่องจะผ่านการใช้งานมานานแล้วจนประสิทธิภาพดรอปลงนั่นเอง ดังนั้นหากนำเครื่องที่มีสเปกสูงอยู่แล้วมาใช้กับ Game Mode คุณอาจไม่ค่อยได้เห็นผลต่างที่ชัดเจนเท่าไหร่

วิธีเปิดใช้ Game Mode ?

อันที่จริง ทั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 และ Windows 11 ระบบ Game Mode จะถูกตั้งค่าเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้น (Default) อยู่แล้ว ถ้าผู้ใช้ไม่ได้เผลอไปปิดเข้า แต่สำหรับใครที่อยากรู้วิธีเปิดใช้ ก็สามารถทำตามขั้นตอนได้ง่าย ๆ 

  1. เปิดการตั้งค่า "Windows" ด้วย "ปุ่ม  Windows + i"
  2. จากนั้นไปที่ "เมนู Gaming" ฝั่งซ้าย และเลื่อนแถบ เพื่อกดเปิดใช้ Game Mode ตามภาพ เป็นอันเสร็จ

หน้าจอปรับตั้งโหมดเกม (Game Mode) บน Windows 10 และ Windows 11
หน้าต่างเมนู Settings บน Windows 11
ภาพจาก : https://www.digitalcitizen.life/game-mode-windows/ 

ส่วนการเข้าบน ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ก็ไม่แตกต่างเท่าไหร่ ให้กด "ปุ่ม Windows + i" เหมือนเดิม จากนั้นไปที่ "หมวด Gaming" และเลือก "เมนูย่อย Game Mode" เพื่อเลื่อนแถบเปิดเช่นเดิม

หน้าจอปรับตั้งโหมดเกม (Game Mode) บน Windows 10 และ Windows 11
หน้าต่างเมนู Settings บน Windows 10
ภาพจาก : https://www.digitalcitizen.life/game-mode-windows/ 

ข้อจำกัดอย่างหนึ่งของ Game Mode คือ บางเกมที่ Windows ไม่รู้จัก Game Mode จะไม่สามารถดึงทรัพยากรไปให้ได้ และน่าเสียดายที่สุดคือทาง Microsoft ไม่ได้ระบุรายชื่อเกมที่รองรับด้วย ดังนั้นจึงไม่มีวิธีที่จะบอกได้อย่างชัดเจนว่าเกมที่คุณเล่นอยู่นั้นรองรับ Game Mode หรือไม่ แต่อย่างน้อยคุณก็สามารถเปิดใช้ได้ตลอด มันไม่ได้มีข้อเสียอะไร

สรุปแล้ว Game Mode ได้ผลจริงหรือไม่ ?

ขอสารภาพว่า ผู้เขียนตั้งใจจะทดสอบด้วยตัวเองบนโน้ตบุ๊คเกมมิ่งที่ใช้งานอยู่เป็นประจำ และ นำประสบการณ์จริงมาบอกต่อ แต่เนื่องจากผลลัพธ์ที่ออกมา คือ ความแตกต่างระหว่างเปิดกับปิด Game Mode ไม่ชัดเจน ไม่ค่อยเห็นผลเลย ทำให้ไม่สามารถสรุปอะไรให้ผู้อ่านได้จริง ๆ 

แต่ถ้าดูจากคลิปการทดสอบโดยช่อง YouTube ช่อง "Benchmark" ที่นำ 8 เกมมาทดสอบฟีเจอร์ Game Mode บน Windows 11 ผลก็เป็นดังคลิปต่อไปนี้


สเปกเครื่องที่ช่อง Benchmark ใช้คือ intel Core i7-10700K และการ์ดจอ Nvidia GeForce RTX 3090 24 GB.

จากในคลิปฝั่งซ้ายคือภาพที่ปิดใช้งาน Game Mode ส่วนฝั่งขวาคือภาพที่เปิดใช้งาน Game Mode ซึ่งหากวัดจากค่า Avg FPS หรือค่าเฉลี่ยของ FPS จะพบว่าฝั่งขวาที่เปิด Game Mode มีค่าเฉลี่ย FPS ที่สูงกว่าประมาณ 2 - 10  หน่วย แสดงว่าหลังจากเปิด Game Mode แล้วทำให้ประสิทธิภาพของเฟรมเรทมีความเสถียรมากกว่า และไม่แกว่งจนค่าเฉลี่ยตกไปเยอะ 

จริง ๆ ถ้าถามว่าด้วยความต่างแค่นี้ จะมีผลต่อเกมหรือไม่ ผู้ใช้คงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "ไม่" แหล่ะครับ แต่อย่างที่บอกเอาไว้ว่า จุดประสงค์จริง ๆ ของ Game Mode คือ เขาตั้งใจทำออกมาสำหรับสเปกของเครื่องที่ตกรุ่น หรือ สเปกที่ไม่สูงมากอยู่แล้ว ถ้าได้ทดสอบกับคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊คเก่า ๆ ของท่านเอง อาจจะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากกว่านี้ 

Game Mode บนทีวีช่วยทำอะไรได้บ้าง ?

Game Mode บน Windows 10 และ Windows 11 คืออะไร ? ทำงานยังไง ? และ ใช้งานยังไง ?

สุดท้ายนี้ ขอนอกประเด็นไปจาก Game Mode ที่มีอยู่ บนระบบปฏิบัติการ Windows เพราะหลายคนมีคำถามว่า TV ยุคนี้มักจะมี Game Mode มาให้ในการตั้งค่าด้วย แล้ว Game Mode บน TV มันทำอะไรได้ ?

คำตอบคือ เมื่อเราเปิดใช้ Game Mode บนโทรทัศน์ (TV) ระบบมันจะเข้าไปตัดกระบวนการทำงานบางอย่าง เช่น การปรับสี และ ลดทอนเอฟเฟคอื่น ๆ เพื่อทำให้ภาพบนหน้าจอทีวีสามารถตอบสนองต่อการควบคุมของผู้เล่นได้เร็วที่สุด (ลดค่า "Input Lag" นั่นเอง) อธิบายง่าย ๆ คือ ทำให้จอทีวีเน้นแสดงผลเร็วขึ้น แทนที่จะมาเพิ่มภาพกราฟิก ให้ดูสวยเกินความจำเป็น นั่นเองครับ


ที่มา : www.digitalcitizen.life , www.digitalcitizen.life

0 Game+Mode+%E0%B8%9A%E0%B8%99+Windows+10+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0+Windows+11+%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%87+%3F+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0+%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%87+%3F
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
ระดับผู้ใช้ : Admin    Thaiware
งานเขียนคืออาหาร ปลายปากกา ก็คือปลายตะหลิว
 
 
 

ทิปส์ไอทีที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น