ลองนึกภาพว่า คุณเป็นผู้พัฒนาแอปพลิเคชันแล้วสามารถเลือกได้ระหว่าง แอปสโตร์ (App Store) ที่มีจำนวนผู้ใช้งานสูงกว่าอีกแพลตฟอร์มหนึ่ง แต่ทุกคนมีอุปกรณ์ของตัวเองที่ไม่เหมือนใคร ต่างรุ่น ต่างยี่ห้อ กับเลือกลงแอปสโตร์ที่มีจำนวนผู้ใช้งานจำนวนน้อยกว่า แต่ทุกคนใช้อุปกรณ์ในรุ่นที่ใกล้เคียงกันหมด แทบจะเป็นโมเดลเดียวกันหมดเลย คุณจะเลือกลงฝั่งไหน ?
นี่คือปัญหาที่นักพัฒนาทุกคนล้วนต้องเผชิญเมื่อคิดจะสร้างแอปฯ มือถือขึ้นมาสักแอปฯ หนึ่ง โดยเฉพาะเกมมือถือ และอย่างที่คุณน่าจะพอคาดเดาได้ว่า ตัวเลือกที่สองเป็นที่นิยมมากกว่าตัวเลือกแรกอยู่แล้ว ทั้ง ๆ ที่ App Store ของ Apple และ Play Store ของ Google ก็มีฟังก์ชันการใช้งานเหมือนกัน แต่ ทำไม App Store ถึงมีภาษีดีกว่า เราจะพาไปหาคำตอบกั
การทำแอปพลิเคชันบนมือถือดี ๆ ต้องใช้ทั้งเวลา, เงิน, และความพยายามจำนวนมากในการพัฒนามันขึ้นมา อีกทั้งยังมีทั้งการเดิมพันและความเสี่ยงอยู่ภายในแอปฯ ที่ทำขึ้นด้วยว่า มันอาจไม่ประสบความสำเร็จในแบบที่ตั้งใจไว้เพราะการแข่งขันที่สูงขึ้นทุกวัน และเพื่อรับมือกับความเสี่ยงนี้ ทำให้ผู้พัฒนาต้องทำให้แน่ใจว่า การทำแอปฯ ใดแอปฯ หนึ่งขึ้นมาจะคุ้มค่ากับการลงทุนที่เสียไปมากที่สุด หรือสั้น ๆ ก็คือ ต้องการความเชื่อมั่นนั่นเอง
จากรูปจะเห็นได้ว่า เมื่อผู้ใช้งานตัดสินใจเสียเงินเพื่ออะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสมัครบริการหรือการซื้อภายในแอปฯ จะมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นใน iOS มากกว่า Android
เครดิตภาพ : https://buildfire.com/ios-android-users/
ในฝั่งของระบบ Android มีความแตกต่างหลากหลายมาก แถมยังยุ่งเหยิงและทำงานด้วยยากกว่า iOS ในขณะที่ฝั่ง iOS มีความเป็นระบบที่สามารถควบคุมได้มากกว่า มีมาตรฐาน และมีความรัดกุม ทำให้ง่ายต่อการพัฒนาแอปพลิเคชันที่สามารถกำหนดและรู้ได้เลยว่า คาดหวังอะไรอยู่จากแอปฯ ที่กำลังทำ และจะปรับปรุงให้มันเป็นไปตามที่คาดหวังได้อย่างไร
นอกจากนี้ในฝั่งของ iOS ผู้พัฒนายังสามารถเห็นภาพของแอปพลิเคชันที่จะปรากฎออกมาสู่ผู้ใช้งานได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด เพราะอุปกรณ์ที่ใช้ก็ไม่แตกต่างจากที่บรรดาผู้ใช้งานจริงมีอยู่ในมือ แต่ถ้าเป็นของ Android จะแตกต่างกันออกไปอย่างแน่นอน เพราะมีโทรศัพท์นับหมื่นนับแสนรุ่นที่มีผู้ใช้ไม่เหมือนกัน แถมบางเจ้า ยังมีการออกแบบหน้าตาระบบปฏิบัติของมือถือในยี่ห้อของตัวเองเพิ่มเข้ามา เช่น OxygenOS, OneUI, ColorOS, ฯลฯ ทำให้ทุกอย่างยิ่งซับซ้อนเข้าไปอีก
เครดิตภาพ : https://www.youtube.com/watch?v=TCWuj1q7VQU
และนี่คือเหตุผลที่ว่า ทำไมแอปโซเชียลมีเดียหลัก ๆ อย่าง Instagram, Snapchat, และ TikTok สามารถรันได้อย่างลื่นไหลบน iPhone และอุปกรณ์ iOS อื่น ๆ แต่ไม่เสถียรเท่าไหร่บน Android รวมไปถึงบรรดาเกมมือถือด้วย
จากคำถามที่ว่า ในเมื่อฝั่ง Android มีผู้ใช้งานมากกว่า จริง ๆ แล้วยอมเพิ่มต้นทุน แล้วหันไปทำแอปฯ บน Android เพื่อจับกลุ่มฐานลูกค้าขนาดใหญ่ไม่ดีกว่าหรือ คำตอบก็คือ จริง ๆ สามารถทำได้ แต่น้อยครั้งที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น เพราะส่วนใหญ่แล้ว ผู้พัฒนาหน้าใหม่มักประสบปัญหาในการทำตัวเองหรือแอปฯ ของตัวเองให้เป็นที่รู้จักหรือมีชื่อเสียง ซึ่งถ้าแอปฯ ของคุณเป็นที่นิยมขึ้นมา คุณจะสามารถปรับแต่งแอปฯ ให้เข้ากันได้ดีกับมือถือแอนดรอยด์สักกี่เวอร์ชันก็ได้ เพราะหลังจากนั้น คุณก็จะได้ทุนคืนได้ไม่ยากแล้วล่ะ
เครดิตภาพ : https://www.freepik.com/free-photo/close-up-image-programer-working-his-desk-office_5698344.htm#query=code%20programing&position=7&from_view=search
หากอธิบายให้เห็นภาพมากขึ้นก็คือ ถ้าหากว่าคุณต้องการจะทำแอปฯ ลงมือถือซัมซุง คุณไม่จำเป็นต้องไปหารื้อโค้ดของระบบปฏิบัติการ Android มาทำแต่อย่างใด สิ่งที่ต้องไปปรับแต่งแก้ไขกับมันคือโค้ดสำหรับ OneUI ที่เป็นหัวใจหลักของมือถือซัมซุงต่างหาก นั่นหมายความว่าคุณก็จะต้องเพิ่มโค้ดเข้าไปอีกหลายบรรทัด พ่วงด้วยการเพิ่มเวลาสำหรับการตรวจสอบคุณภาพ (Quality Assurance) เข้าไปอีก ทำให้ฐานผู้ใช้ฝั่ง iOS ได้ใช้งานแอปฯ กันไปแล้วเรียบร้อย ในขณะที่ฝั่ง Android ยังปรับแต่งกันไม่เสร็จดี
ท้ายที่สุดแล้ว การทำธุรกิจ ก็ยังคงต้องคำนึงถึงผลกำไรมาก่อนอันดับแรกอยู่ดี และถ้าคำนวณออกมาแล้วว่า การทำแอปพลิเคชันให้กับฝั่ง Android นั้นดูไม่คุ้มค่าพอที่จะเสี่ยง การเบนเข็มไปหาฝั่ง iOS ก็ดูเป็นทางเลือกที่ดีกว่ามาก เพราะหลายครั้งแล้วที่มีบทพิสูจน์ให้เห็นว่า แอปพลิเคชันบน iOS นั้นมีความน่าเชื่อถือมากกว่า มีมาตรฐานกว่า มีความสับสนน้อยกว่าทั้งในแง่การใช้งานและการเขียนโค้ด และที่สำคัญที่สุดคือ มีความเสี่ยงน้อยกว่าด้วย
ดังนั้น ตามธรรมชาติแล้ว ผู้พัฒนาจึงเลือกที่จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาลง App Store ของ Apple มากกว่า Play Store ของ Google ไปโดยปริยายด้วยเหตุผลหลาย ๆ ข้อที่เรากล่าวไป
Fallen Knight เกมฝีมือคนไทย ที่ลงแค่ iOS และ Steam เท่านั้น ไม่ลงใน Android
เครดิตภาพ : https://fairplaystudios.net/fallen-knight/
ถ้าหากผู้ผลิตมือถือแอนดรอยด์อยากจะทำแอปฯ ให้สามารถรันได้ลื่นไหลเหมือนที่ iPhone ทำได้แล้วล่ะก็ ผู้ผลิตมือถือเหล่านี้ ก็คงจะต้องทำงานร่วมกันกับผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน ทั้งในแง่ทางเทคนิคและทางการเงิน เพื่อให้สามารถมองเห็นภาพร่วมกันและไปในแนวทางเดียวกันได้ เพราะถ้าหากขาดแรงสนับสนุนในบางด้านแล้วล่ะก็ บรรดาผู้พัฒนาเองก็ไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะแบกรับความเสี่ยงที่ว่ามาไหวด้วยเหมือนกัน
|
เกมเมอร์หญิงทาสแมว ถ้าอยู่กับแมวแล้วจะน้วยแมวทั้งวัน |