ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
THAIWARE.COM | ทิปส์ไอที
 

วิธีแก้ปัญหา "The System Cannot Find The Path Specified" ใน Command Prompt

วิธีแก้ปัญหา
ภาพจาก : https://www.freepik.com/free-vector/flat-design-cms-illustration_12067674.htm
เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 19,014
เขียนโดย :
0 %E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2+%22The+System+Cannot+Find+The+Path+Specified%22+%E0%B9%83%E0%B8%99+Command+Prompt
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

วิธีแก้ปัญหา "The System Cannot Find The Path Specified"
ใน  Command Prompt

ในขณะที่คุณรันคำสั่งใน Command Prompt อยู่ ถ้าหากเจอข้อผิดพลาด "The system cannot find the path specified" มันมีหลายสาเหตุที่สามารถทำให้คุณเผชิญกับปัญหานี้ได้ ตั้งแต่การใส่ที่อยู่ไฟล์ (Path) ผิดใน Command Prompt, ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในขณะติดตั้งโปรแกรม, ไฟล์รีจิสทรี (Registry File) เกิดความเสียหาย, โดน มัลแวร์ (Malware) โจมตี ฯลฯ

บทความเกี่ยวกับ Microsoft อื่นๆ

วิธีแก้ปัญหา "The System Cannot Find The Path Specified" ใน Command Prompt

หากคุณเจอปัญหา "The system cannot find the path specified" นี้อยู่ เรามีวิธีแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาฝากกัน

เนื้อหาภายในบทความ

  1. เปิด Command Prompt ด้วยโหมดผู้ดูแล
    (Use Command Prompt in Administrator Mode)
  2. ตรวจสอบว่าไฟล์ ไม่ได้ถูกเข้ารหัสเอาไว้
    (Make sure the file is Not Encrypted)
  3. สแกนหามัลแวร์
    (Scan for Malware)
  4. ตรวจสอบความถูกต้องของ ที่อยู่ไฟล์
    (Check File Path Correctiveness)
  5. ลบอักขระพิเศษออกจาก ที่อยู่ไฟล์
    (Remove Special Characters from Path)
  6. ตรวจสอบความถูกต้อง ของชุดคำสั่ง
    (Check Command Corretiveness)
  7. แก้ไข หรือลบ ที่อยู่ในตัวแปรสภาพแวดล้อม
    (Edit or Remove Path in Environment Variables)
  8. ใช้คำสั่ง SFC Scan
    (Use SFC Scan Command)
  9. อัปเดตระบบปฏิบัติการ ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
    (Update Operating System to the Latest Version)

1. เปิด Command Prompt ด้วยโหมดผู้ดูแล
(Use Command Prompt in Administrator Mode)

พวก โปรแกรมอรรถประโยชน์ (Utility Software) ส่วนใหญ่จำเป็นต้องเข้าถึงไฟล์ระบบ หรือโฟลเดอร์บางส่วนด้วย มันถึงจะสามารถเปิดใช้งานได้ ดังนั้นหากบัญชีที่คุณใช้งานในระบบอยู่ไม่มีอำนาจในการเข้าถึง ระบบก็จะแจ้งเตือนว่า "The system cannot find the path specified" ดังนั้น หากเปิดใช้งานโปรแกรมตัวไหนไม่ได้ ให้เราลองเปิดใช้งานมันใน "โหมด Administrator" ดูก่อนเป็นลำดับแรก ด้วยขั้นตอนดังนี้

  1. คลิกขวาที่ไอคอนโปรแกรมที่ต้องการใช้งาน แล้วเลือก "เมนู Run as administrator"

เปิด Command Prompt ด้วยโหมดผู้ดูแล (Use Command Prompt in Administrator Mode)

2. ตรวจสอบว่าไฟล์ ไม่ได้ถูกเข้ารหัสเอาไว้
(Make sure the file is Not Encrypted)

หากไฟล์ที่โปรแกรมต้องการเรียกใช้งานถูกเข้ารหัสเอาไว้ มันอาจมีผลให้ตัวโปรแกรมไม่สามารถเรียกใช้งานไฟล์ดังกล่าวได้ เป็นสาเหตุให้เจอแจ้งเตือน "The system cannot find the path specified" ได้เช่นกัน

ดังนั้น ให้เราดูว่ามีไฟล์ หรือโฟลเดอร์ไหนบ้างที่คาดว่าจะต้องใช้ แล้วตรวจสอบว่าโฟลเดอร์ดังกล่าวถูกเข้ารหัสเอาไว้หรือเปล่า ? ถ้าใช่ ก็ให้ปลดล็อกออกเสียก่อน ด้วยขั้นตอนดังนี้

  1. คลิกขวาที่ไฟล์ หรือโฟลเดอร์ ที่คุณคาดว่ามันถูกเข้ารหัสเอาไว้อยู่
  2. คลิกที่ "เมนู Properties" ตามด้วย "ปุ่ม Advanced..."
  3. คลิกเอาเครื่องหมาย "☑" หน้า "เมนู Encrypt contents to secure data" ออก
  4. จากนั้นก็คลิก "ปุ่ม Apply" ตามด้วย "ปุ่ม OK"

ตรวจสอบว่าไฟล์ ไม่ได้ถูกเข้ารหัสเอาไว้ (Make sure the file is Not Encrypted)

3. สแกนหามัลแวร์
(Scan for Malware)

มีมัลแวร์หลายประเภทที่ไม่ได้มีเป้าหมายในการขโมยข้อมูล แต่เป็นการจ้องจะทำลายไฟล์ในระบบคอมพิวเตอร์ให้เกิดความเสียหาย เป็นเหตุผลให้ระบบไม่สามารถเรียกใช้ไฟล์ได้อย่างที่มันควรจะเป็น ดังนั้น ก่อนที่จะเริ่มต้นแก้ไขด้วยวิธีการอื่น การสแกนมัลแวร์เพื่อตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์ของคุณไม่มีภัยร้ายซ่อนตัวอยู่ก็เป็นทางเลือกที่ดี

เราสามารถเลือกใช้โปรแกรมสแกนไวรัสของ บุคคลที่สาม (3rd-Party) ที่ชื่นชอบ หรือว่าจะใช้ Windows Security ที่ Microsoft ใส่เข้ามาให้แล้วก็ได้ เมื่อก่อนมันอาจจะดูแย่ แต่ในปัจจุบันนี้ มันทำงานดีไม่แพ้ใครเลยล่ะ

สำหรับขั้นตอนในการสั่งสแกนมัลแวร์ด้วยโปรแกรมสแกนไวรัสของ Windows สามารถทำได้ดังนี้

  1. กด "ปุ่ม Windows + i" เพื่อเปิดหน้าต่าง Settings ขึ้นมา
  2. ในพาเนลด้านซ้าย คลิกที่ "เมนู Privacy & security"
  3. ในพาเนลด้านขวา คลิกที่ "เมนู Windows Security" 
  4. คลิกที่ "ปุ่ม Open Windows Security" ตามด้วย "ปุ่ม Scan now"

สแกนหามัลแวร์ (Scan for Malware)

4. ตรวจสอบความถูกต้องของ ที่อยู่ไฟล์
(Check File Path Correctiveness)

ถ้าได้รับแจ้งเตือน  "The System Cannot Find The Path Specified" ในตอนที่กำลังใช้งาน Terminal ไม่ว่าจะเป็นใน Command Prompt หรือใน Windows PowerShell ก็ตาม อาจจะเกิดจากการที่เราพิมพ์ตำแหน่งที่อยู่ของไฟล์พลาดเอง

พยายามตรวจสอบสิ่งที่เราพิมพ์ลงไปให้ดีอีกครั้ง ว่าพิมพ์ตำแหน่งไฟล์ผิดตรงไหนหรือเปล่า ? หรือเข้าไปตรวจสอบในโฟลเดอร์ว่ามันมีไฟล์นั้นอยู่ในตำแหน่งที่เราเรียกใช้งานอยู่จริงใช่หรือไม่ ?

5. ลบอักขระพิเศษออกจาก ที่อยู่ไฟล์
(Remove Special Characters from Path)

หากว่าใน Path มีอักขระพิเศษอยู่ ก็มีโอกาสที่ตัว Command Prompt จะไม่สามารถเข้าใจคำสั่งได้อย่างถูกต้อง ทำให้มันแปลตำแหน่ง Path ผิดไปจากที่ควรจะเป็น ส่งผลให้มันไม่สามารถดำเนินการตามคำสั่งได้ เพราะหาไฟล์ไม่เจอ

ทางแก้ง่าย ๆ คือ ให้เข้าไปที่ Path ดังกล่าว แล้วแก้ไขชื่อไฟล์ หรือโฟลเดอร์ ด้วยการลบอักขระพิเศษออก ซึ่งทำได้ง่าย ๆ ด้วยการคลิกขวา แล้วเลือก "เมนู Rename" หรือกด "ปุ่ม F2"

ลบอักขระพิเศษออกจาก ที่อยู่ไฟล์ (Remove Special Characters from Path)

6. ตรวจสอบความถูกต้อง ของชุดคำสั่ง
(Check Command Corretiveness)

นอกจาก Path แล้ว หากเราเรียงลำดับคำสั่งผิด, ใช้ Syntax หรือ Command Line ผิด ก็สามารถส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดในการปฏิบัติตามคำสั่งได้เช่นกัน

7. แก้ไข หรือลบ ที่อยู่ในตัวแปรสภาพแวดล้อม
(Edit or Remove Path in Environment Variables)

ในระบบปฏิบัติการ Windows จะมีส่วนที่เรียกว่า ตัวแปรสภาพแวดล้อม (Environment Variable) ที่มีหน้าที่เก็บข้อมูล ที่สามารถส่งผลต่อกระบวนการทำงานของระบบได้ ในเวลาที่เราใช้คำสั่ง Command Line ข้อมูลตำแหน่ง Path ที่อยู่ใน Environment Variable ก็จะถูกเรียกขึ้นมาใช้งาน

ถ้างง ให้ลองจินตนาการว่าภายในคอมพิวเตอร์มีอยู่ 2 ไดเรคทอรี ถ้าต้องการที่จะเปิดโปรแกรมที่เก็บในไดเรคทอรีที่ไม่ใช่ไดเรคทอรีที่กำลังใช้งานอยู่ ระบบจะทำการค้นหาข้อมูล Path ที่ถูกบันทึกเอาไว้ใน Environment Variable ทำให้ไม่ว่าโปรแกรมดังกล่าวจะอยู่ในไดเรคทอรีไหนก็ตาม ระบบก็สามารถรันได้อย่างไม่มีปัญหา

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากมีความผิดพลาดเกิดขึ้นกับค่า Path ใน Environment Variable จะทำให้ระบบเกิดข้อผิดพลาด  "The System Cannot Find The Path Specified" ทางแก้ไขที่ดีที่สุดคือเข้าไปลบ Path ที่ผิดพลาดออกจาก Environment Variable ด้วยขั้นตอนดังนี้

  1. กด "ปุ่ม Windows + R" เพื่อเปิด "หน้าต่าง Run" ขึ้นมา
  2. พิมพ์ลงในช่องค้นหาว่า "sysdm.cpl" แล้วกด "ปุ่ม Enter"
  3. หน้าต่าง System Properties จะถูกเปิดขึ้นมา ให้เราคลิกที่ "แท็บ Advanced"
  4. คลิกที่ปุ่ม "Environment Variables..."
  5. คลิกเลือก "Path" แล้วคลิกที่ "ปุ่ม Edit"

แก้ไข หรือลบ ที่อยู่ในตัวแปรสภาพแวดล้อม (Edit or Remove Path in Environment Variables)

  1. คัดลอก Path ไปวางใน File Explorer เพื่อดูว่ามันสามารถเปิดได้หรือไม่ ? ถ้าไม่ได้แสดงว่าค่า Path ผิด ให้เราลบทิ้ง หรือทำการแก้ไขใหม่ให้ถูกต้อง

แก้ไข หรือลบ ที่อยู่ในตัวแปรสภาพแวดล้อม (Edit or Remove Path in Environment Variables)

  1. จากนั้นมาต่อที่ใต้ "หัวข้อ System Variables" ตรวจสอบค่า Path อื่น ๆ ด้วยวิธีการเดียวกับในข้อ 6.

แก้ไข หรือลบ ที่อยู่ในตัวแปรสภาพแวดล้อม (Edit or Remove Path in Environment Variables)

8. ใช้คำสั่ง SFC Scan
(Use SFC Scan Command)

เราเคยเอ่ยถึงเครื่องมือ SFC Scan มาแล้วหลายครั้ง ในหลาย ๆ บทความ เพราะมันสามารถใช้ในการแก้ไขปัญหาให้คอมพิวเตอร์ได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ไม่ว่าคุณจะเจอปัญหาอะไรอยู่ก็ตาม เพียงลองใช้คำสั่ง SFC Scan ปัญหาที่คุณเผชิญอยู่อาจจะหายได้ราวกับเวทมนต์ เราสามารถใช้คำสั่ง SFC Scan ได้ด้วยขั้นตอนดังนี้

  1. กด "ปุ่ม Windows + R" เพื่อเปิด "หน้าต่าง Run" ขึ้นมา
  2. พิมพ์ลงในช่องค้นหาว่า "cmd" แล้วกด "ปุ่ม Ctrl + Shift + Enter"
  3. โดย "หน้าต่าง Command Prompt" ก็จะถูกเปิดขึ้นมา
  4. ให้เราพิมพ์คำสั่ง sfc /scannow แล้วกด "ปุ่ม Enter" รอจนกว่ามันจะสแกนเสร็จ

ใช้คำสั่ง SFC Scan (Use SFC Scan Command)

  1. ถ้ามันแจ้งเตือนว่ามีข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้ ให้เราพิมพ์คำสั่ง exe /Online /Cleanup-image /Scanhealth แล้วกด "ปุ่ม Enter"
  2. ตามด้วยคำสั่ง exe /Online /Cleanup-image /Restorehealth แล้วกด "ปุ่ม Enter"
  3. รอมันดำเนินการตามคำสั่งจนเสร็จ แล้วรีสตาร์ตคอมพิวเตอร์หนึ่งรอบ เป็นอันเรียบร้อย

9. อัปเดตระบบปฏิบัติการ ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
(Update Operating System to the Latest Version)

วิธีสุดท้ายอาจไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหาโดยตรง แต่ก็อาจช่วยได้ เพราะการใช้ระบบปฏิบัติการที่ตกรุ่น มันอาจจะมีบั๊กระบบที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งเมื่อเราอัปเดตแพทช์ทาง Microsoft ก็จะแก้ไขบั๊กเหล่านั้นให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับขั้นตอนการอัปเดตระบบปฏิบัติการนั้นง่ายมาก 

  1. กด "ปุ่ม Windows + i" เพื่อเปิด "แอป Settings" ขึ้นมา
  2. ในพาเนลด้านขวาซ้าย คลิกที่ "ปุ่ม Check for updates" (ต้องต่ออินเทอร์เน็ตด้วย)
  3. มันจะทำการตรวจสอบ ถ้าพบการอัปเดต มันจะเริ่มดาวน์โหลดมาให้ทันที
  4. รีสตาร์ตเพื่อติดตั้งอัปเดต

อัปเดตระบบปฏิบัติการ ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด (Update Operating System to the Latest Version)


ก็หวังว่า ใครที่เจอปัญหา "The System Cannot Find The Path Specified" จะมีวิธีการใด วิธีการหนึ่งในบทความนี้ ที่ช่วยเหลือได้นะครับ


ที่มา : www.makeuseof.com

0 %E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2+%22The+System+Cannot+Find+The+Path+Specified%22+%E0%B9%83%E0%B8%99+Command+Prompt
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
ระดับผู้ใช้ : Admin    Thaiware
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ
 
 
 

ทิปส์ไอทีที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น