นับตั้งแต่ที่ Microsoft ได้ใส่ "เมนู Start" เข้ามาในระบบปฏิบัติการ Windows เป็นครั้งแรกใน ระบบปฏิบัติการ Windows 95 และ Windows NT 4.0 มันก็เป็น ส่วนประสานงานกับผู้ใช้ (User Interface - UI) ที่อยู่คู่กับ Windows มาโดยตลอดจวบจนปัจจุบันนี้
แม้จะมีการผลัดเปลี่ยน Windows มาแล้วหลายเวอร์ชัน แต่เมนู Start ก็ไม่เคยหายไป แถมยังมีการปรับปรุงการทำงานของมันมาโดยตลอด ซึ่งในระบบปฏิบัติการ Windows 11 มันก็ได้รับการดีไซน์ใหม่หมด มาศึกษากันหน่อยดีกว่า ว่า ผู้ใช้สามารถทำอะไรกับเมนู Start ของ Windows 11 ได้บ้าง ?
เดิมทีแต่ไหนแต่ไรมา "เมนู Start" จะอยู่ที่มุมซ้ายล่างมาโดยตลอด แต่ทันทีที่คุณอัปเดตมาใข้งานระบบปฏิบัติการ Windows 11 คุณอาจจะไม่ชินกับการที่เมนูถูกย้ายมาอยู่ที่ตรงกลางแทน ซึ่งเอาจริง ๆ มันก็ช่วยให้ผู้ที่ใช้หน้าจอขนาดใหญ่ลากเมาส์ไปคลิกได้ง่ายขึ้น เพราะพอยเตอร์ไม่ต้องเดินทางไกลไปถึงมุมซ้ายล่าง
แต่ถ้าไม่ชิน และไม่ได้ใช้หน้าจอขนาดใหญ่ ก็สามารถปรับให้มันกลับไปอยู่ที่ตำแหน่งเดิมได้ ด้วยขั้นตอนดังนี้
ในกรณีที่ต้องการย้ายตำแหน่งของ Taskbar จากด้านล่างไปไว้ที่ตำแหน่งอื่น ๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน เราเคยมีบทความแนะนำขั้นตอนการแก้ไขไปแล้ว สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม : วิธีย้ายตำแหน่งของ Taskbar ในระบบปฏิบัติการ Windows 11
ในระบบปฏิบัติการ Windows 11 "เมนู Start" จะเรียงไอคอนของ แอปพลิเคชัน (Application) หรือ ซอฟต์แวร์ (Software) เหมือนกับหน้า Home screen ของระบบปฏิบัติการ iOS หรือ Android คุณสามารถเรียงพวกมันใหม่ได้ง่าย ๆ ด้วยการคลิกค้างเอาไว้แล้วลากไปยังตำแหน่งใหม่ที่ต้องการได้ทันที หรือถ้าหากลากมันไปทับกับไอคอนอื่น ก็จะเป็นการสร้างโฟลเดอร์รวมไอคอนขึ้นมา
ไอคอนที่ปรากฏอยู่ใน "เมนู Start" เป็นเพียงทางลัด (Shortcut) ของแอปพลิเคชัน หรือซอฟต์แวร์ ที่ถูก "Pin" (ปักหมุด) เอาไว้เท่านั้น คุณสามารถคลิกขวาที่ไอคอนที่ต้องการแล้วเลือก "เมนู Pin to Start" เพื่อเรียกใช้งานมันจาก "เมนู Start" ได้อย่างสะดวกสบาย
แต่ในกรณีที่มีไอคอนที่เราไม่ต้องการถูกเพิ่มเข้ามา แล้วอยากจะลบออกจาก "เมนู Start" ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการคลิกขวาที่ไอคอนดังกล่าว แล้วเลือก "เมนู Unpin from Start"
"เมนู Start" เปรียบเสมือนบ้านที่รวมทางลัดประเภทต่าง ๆ เอาไว้ นอกเหนือจากไอคอนไว้เปิดแอปพลิเคชันแล้ว เรายังสามารถเพิ่มทางลัดสำหรับใช้เข้า โฟลเดอร์ (Folder) ต่าง ๆ ของระบบปฏิบัติการ Windows หรือแม้แต่ "เมนู Settings" เข้ามาได้ด้วย แต่ลูกเล่นนี้ไม่ได้ถูกเปิดใช้งานเอาไว้เป็นค่าเริ่มต้น ผู้ใช้จะต้องตั้งค่าเปิดใช้งานด้วยตนเอง ด้วยขั้นตอนดังนี้
หน้า "เมนู Start" ของระบบปฏิบัติการ Windows 11 จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ประกอบไปด้วย ไอคอนที่ถูกปักหมุดเอาไว้ และ Recommendations (คำแนะนำ) ซึ่งถูกแบ่งสัดส่วนออกเป็น 50:50 แต่ผู้ใช้สามารถเลือกปรับให้แสดงไอคอนเพิ่มขึ้นลด Recommendations ให้ลดลง หรือลดจำนวนไอคอนแล้วเพิ่ม Recommendations แทนก็ได้
ขั้นตอนการปรับสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
ในระบบปฏิบัติการ Windows 11 จะมีการแสดงรายชื่อไฟล์ที่ถูกเรียกใช้งานได้อย่างสะดวก ซึ่งเราสามารถปรับขนาดการแสดงผลของ Recommended หรือเลือกที่จะไม่แสดงผลได้เลย อย่างไรก็ตาม บางครั้งอาจจะมีบางไฟล์ที่เราไม่ต้องการให้มันแสดงผล ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม
หากต้องการลบออกก็ทำได้ง่ายมาก เพียงคลิกขวาที่ชื่อไฟล์ดังกล่าว แล้วเลือก "เมนู Remove from list" ได้เลย
นอกจากการแสดงผลไอคอนที่ถูกปักหมุดเอาไว้แล้ว มันยังเป็นที่ที่เราสามารถเข้าถึงรายการแอปพลิเคชัน และซอฟต์แวร์ทั้งหมดที่ถูกติดตั้งเอาไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ได้ด้วย ซึ่งมันจะถูกเรียงตามลำดับตัวอักษร แต่เราสามารถเพิ่มเซคชัน (Section) ที่แสดงรายชื่อแอปพลิเคชันที่ถูกใช้งานบ่อยที่สุด เอาไว้ที่ "หน้า All Apps" ได้ด้วย
โดยตั้งค่าได้ด้วยขั้นตอนดังนี้
หลายคนใช้ Windows 11 มานาน อาจจะไม่เคยลองคลิกขวาที่ "เมนู Start" อันนี้ถือว่าพลาดเลย เพราะมันเป็นศูนย์รวม Quick Actions ที่ใช้เข้าถึงส่วนต่าง ๆ ของระบบปฏิบัติการ Windows ได้อย่างสะดวก
ระบบปฏิบัติการ Windows 11 ตัว UI มีคุณสมบัติการทำงานแบบโปร่งใสอยู่หลายส่วน ซึ่งทาง Microsoft ได้ระบุว่าเอฟเฟคการแสดงผลเหล่านี้ไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงาน อย่างไรก็ตาม คุณอาจไม่คิดแบบนั้น หรือรู้สึกไม่ชอบ ถ้าไม่ชอบใจ ก็สามารถตั้งค่าปิดไม่ให้ "เมนู Start" และส่วนอื่น ๆ ของระบบปฏิบัติการ Windows มีความโปร่งใสได้ ด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้
"เมนู Start" เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของระบบปฏิบัติการ Windows 11 หวังว่าคำแนะนำในบทความนี้ จะช่วยให้คุณใช้งานมันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นนะ
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |