ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
THAIWARE.COM | ทิปส์ไอที
 

DisplayLink คืออะไร ? ทำงานอย่างไร ? และข้อดี และข้อเสียมีอะไรบ้าง ?

DisplayLink คืออะไร ? ทำงานอย่างไร ? และข้อดี และข้อเสียมีอะไรบ้าง ?
ภาพจาก : https://www.synaptics.com/products/displaylink-graphics/small-office
เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 1,876
เขียนโดย :
0 DisplayLink+%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B5+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87+%3F
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

DisplayLink คืออะไร ? ข้อดี และข้อเสียมีอะไรบ้าง ?

ในการต่อหน้าจอแสดงผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่มีจำนวนพอร์ตค่อนข้างจำกัด ทั่วไปแล้วเราก็จะต่อผ่านพอร์ต พอร์ต HDMI, Thunderbolt หรือไม่ก็ USB-C (DP Alt Mode) ซึ่งโดย "ส่วนใหญ่" แล้ว เราจะต่อหน้าจอแสดงผลเพิ่มได้อย่างมาก 1-2 หน้าจอ แล้วแต่รุ่น อย่างเช่น Macbook Air จะต่อหน้าจอเพิ่มได้แค่ 1 หน้าจอ เท่านั้น

บทความเกี่ยวกับ Monitor อื่นๆ

เนื้อหาภายในบทความ

ถ้าเราต้องการใช้งานมากกว่า 1 หน้าจอ จะมีทางออกอย่างไรได้บ้าง ?

ก็เลยมีคน IQ 180 คิดหาทางออก ด้วยการคิดค้นวิธีการส่งสัญญาณภาพให้ออกทางช่องของ พอร์ต USB แทน ซึ่งมันถูกเรียกว่าเทคโนโลยี DisplayLink อันที่จริงก็เป็นเทคโนโลยีที่ใช้กันมาตั้งแต่หลายสิบปีก่อน แต่ในช่วงนี้มันถูกพูดถึงบ่อยครั้ง ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับการที่ MacBook Air ของ Apple ได้รับความนิยมมากขึ้นหรือเปล่า ? ซึ่งมันต่อจอนอกได้แค่เพียงจอเดียว ทำให้หลายคนหาวิธีต่อจอเพิ่ม ทำให้ DisplayLink เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น

DisplayLink ทำงานอย่างไร ? มันมีข้อดี และข้อเสียอะไรบ้าง ? มาหาข้อมูลเพิ่มเติมกันในบทความนี้

หากโน้ตบุ๊กที่คุณมีรองรับการต่อหน้าจอแสดงผลได้แค่เพียงหน้าจอเดียว แต่คุณต้องการต่อหน้าจอในจำนวนที่มากกว่านั้น ทางออกที่คุณมีก็คือใช้ "DisplayLink" (โปรดอย่าสับสนกับ DisplayPort)

DisplayLink ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยบริษัทชื่อเดียวกัน DisplayLink Corp. (ชื่อเดิมคือ Newnham Research) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีบริษัท Synaptics เป็นเจ้าของ ชื่อนี้หลายคนอาจจะคุ้นหูกันมาบ้าง เพราะเป็นบริษัทที่ทำ Click wheel ใน iPod ให้กับ Apple และยัง OEM พวกเซ็นเซอร์ Touchpad และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในสมาร์ทโฟนให้อีกหลายบริษัท

คุณสมบัติของ DisplayLink คือมันเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารถส่งสัญญาณภาพไปยังหน้าจอแสดงผลผ่านทางพอร์ต USB หรือ Wi-Fi ได้ จากเดิมที่จะส่งผ่านพอร์ต HDMI หรือ DisplayPort โดยในช่วงแรกที่เปิดตัวออกมา มันอยู่ในรูปแบบของอุปกรณ์เสริมเป็นช่องเสียบ (Dock) สำหรับโน้ตบุ๊ก แต่ในปัจจุบันนี้ก็แพร่หลายไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแสดงผลวิดีโอด้วย เช่นสายอะแดปเตอร์ หรือหน้าจอแสดงผล

DisplayLink คืออะไร ? ทำงานอย่างไร ? และข้อดี และข้อเสียมีอะไรบ้าง ?
DisplayLink Dock รุ่น CSV-3242HD ของ Club
ภาพจาก : https://www.club-3d.com/en/detail/2406/usb_gen1_type_a_dual_display_docking_station/

ในการทำงานของ DisplayLink จะมีองค์ประกอบอยู่ 2 ส่วน คือ Virtual Graphics Card (VGC) ซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ และ Hardware Rendering Engine (HRE) ชิปฮาร์ดแวร์ที่ติดตั้งภายในหน้าจอ หรือเชื่อมต่อกับหน้าจอ

ซอฟต์แวร์ DisplayLink VGC เป็นเทคโนโลยี ซอฟต์แวร์แบบกรรมสิทธิ์ (Proprietary Software) ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows, macOS และ Linux บนเครื่องที่เป็นโฮสต์ มันทำหน้าที่ในการรับข้อมูลจากกราฟิกการ์ดเพื่อนำสัญญาณมาบีบอัด จากนั้นก็ส่งไปยังหน้าจอแสดงผลผ่านเครือข่ายมาตรฐานอย่าง USB, Wireless USB, Ethernet หรือ Wi-Fi

จากนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของ Hardware Rendering Engine (HRE) ที่จะนำข้อมูลที่ได้รับมาแปลงกลับเป็นสัญญาณภาพอีกครั้งเพื่อให้แสดงผลบนหน้าจอได้

DisplayLink คืออะไร ? ทำงานอย่างไร ? และข้อดี และข้อเสียมีอะไรบ้าง ?

จุดนี้อาจจะมีข้อสังเกตว่ากราฟิกการ์ดในปัจจุบันก็สามารถส่งสัญญาณภาพผ่าน Ethernet และ Wi-Fi ได้อยู่แล้ว ทำไมจะต้องใช้ DisplayLink ด้วย นั่นก็เพราะว่ามันเป็นเทคโนโลยีเพียงตัวเดียวที่มีในขณะนี้ ที่สามารถส่งสัญญาณผ่าน USB 2.0, USB 3.0 และ Wireless USB ได้

ระบบปฏิบัติการที่รองรับเทคโนโลยี DisplayLink ก็ครอบคลุมกว่า สามารถใช้งานได้บนระบบปฏิบัติการ Windows 10, Windows 8, Windows 7, Windows Vista, Windows XP, macOS, Android, ChromeOS และ Ubuntu

การส่งสัญญาณวิดีโอผ่านทางพอร์ต USB เป็นไอเดียที่ดี อย่างไรก็ตาม การใช้งาน DisplayLink ก็มีข้อจำกัดที่ต้องยอมรับมันให้ได้อยู่เหมือนกัน

เราต้องรู้ก่อนว่าการส่งสัญญาณวิดีโอนั้นมีการใช้แบนด์วิดท์ (Bandwidth) ที่สูงมาก สัญญาณของวิดีโอความละเอียด 4K 60fps ที่ยังไม่ได้ผ่านการบีบอัดนั้นใช้แบนด์วิดท์ประมาณ 12 Gbps ในขณะที่ชิป DisplayLink เวอร์ชันล่าสุดที่รองรับ USB 3.0 นั้น รองรับแบนด์วิดท์สูงสุดแค่ 5 - 10 Gbps เท่านั้น สัญญาณสำหรับจอเดียวก็ไม่พอใช้งานแล้ว ไม่ต้องคิดเลยว่าถ้าต่อจอมากกว่านั้น มันจะพอใช้ได้อย่างไร ? นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม DisplayLink จึงต้องมีการบีบอัดสัญญาณภาพก่อน

ในการใช้งานทั่วไปอย่างการใช้ เว็บเบราว์เซอร์, ทำงานเอกสาร, อีเมล, เขียนโค้ด ฯลฯ ที่การแสดงผลบนหน้าจอไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเฟรมต่อเฟรมบ่อยครั้ง การบีบอัดของ DisplayLink ก็พอจะทำงานได้ทัน ผู้ใช้จะไม่สังเกตเห็นถึงความแตกต่างมากนัก ซึ่งทาง DisplayLink เองก็ยืนยันว่าเทคโนโลยีบีบอัดที่พวกเขาใช้ ได้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษให้เหมาะกับเนื้อหาวิดีโอ และงานกราฟิก แต่สำหรับการเล่นเกมบนเว็บไซต์ของ Synaptics ระบุว่ามันเหมาะสำหรับการเล่นเกมแบบแคสชวล (Casual) เท่านั้น ถ้าต้องการเล่นเกมแบบจริงจังแนะนำให้ใช้เทคโนโลยีอื่นแทน

DisplayLink คืออะไร ? ทำงานอย่างไร ? และข้อดี และข้อเสียมีอะไรบ้าง ?
ภาพจาก : https://www.synaptics.com/products/displaylink-graphics/small-office/faq#collapseTwelve

อีกหนึ่งข้อเสียคือในการใช้งาน DisplayLink ผู้ใช้จำเป็นจะต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ และไดร์เวอร์เพิ่มด้วย เพื่อให้สามารถแสดงหน้า Lock Screen บนหน้าจอ DisplayLink ได้ ไม่อย่างนั้นหน้า Lock Screen จะแสดงผลแค่บนหน้าจอแรกที่เป็นหน้าจอหลักเท่านั้น

นอกจากนี้ หากคุณเป็นผู้ใช้อุปกรณ์ของ Apple คุณสมบัติ Unlockm with Apple Watch จะไม่สามารถใช้งานควบคู่ไปกับ DisplayLink ได้ โดยทาง Apple จะปิดการทำงานของคุณสมบัติดังกล่าว โดยแจ้งเตือนว่า

"Unlocking with Apple Watch is not available while your screen is being shared (การปลดล็อกด้วย Apple Watch ไม่สามารถใช้งานได้ในขณะที่หน้าจอกำลังถูกแบ่งปันอยู่)"

และในกรณีที่คุณใช้งาน DisplayLink ผ่าน Dock ที่มีพอร์ต USB ให้ใช้งาน เวลาที่คุณคัดลอกไฟล์ขนาดใหญ่ผ่านไดร์ฟ USB ที่ต่อกับ Dock อยู่ มันจะไปแย่งแบนด์วิดท์ที่ DisplayLink ใช้งานอยู่ ส่งผลให้เฟรมเรตลดลงได้อย่างมีนัย

DisplayLink ยังมีข้อจำกัดอื่น ๆ อีกเมื่อใช้งานบน Macs โดยมันไม่รองรับ HDCP ทำให้ไม่สามารถใช้บริการแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่าง Netflix, Hulu, iTunes Movies ฯลฯ, รองรับการต่อหน้าจอเพิ่มได้มากสุดเพียง 4 หน้าจอ แต่ไม่ว่ามันจะมีข้อจำกัดอะไร ? เราก็ไม่มีทางเลือกอื่นให้ใช้งานอยู่ดี


ที่มา : en.wikipedia.org , www.pcworld.com , juicedsystems.com , danielcompton.net , www.synaptics.com , visiontek.com , docking-stations.info , en.wikipedia.org

0 DisplayLink+%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B5+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87+%3F
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
ระดับผู้ใช้ : Admin    Thaiware
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ
 
 
 

ทิปส์ไอทีที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น