การจัดงานสัมมนาออนไลน์ (Webinar) จัดว่าเป็นหนึ่งในวิธีการที่นักการตลาดนิยมหยิบมาใช้ใน การกำหนดกลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy) ที่แม้ว่าจะเป็นเทคนิคเก่าแก่ที่ทำกันมานานแล้ว แต่มันก็ยังเป็นวิธีที่ได้ผลดีอยู่ และกลับมาเป็นที่นิยมกันมากขึ้นอีกครั้ง ช่วงนี้ก็อยู่ในช่วงต้นปีเป็นเวลาที่นักการตลาดของหลายบริษัทน่าจะอยู่ในช่วงสรุปแผนการตลาดที่จะทำในปีนี้กันแล้ว
การทำ Webinar จึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยเป็นผลมาจาก COVID-19 ที่ทำให้เราไม่สามารถจัดงานสัมมนาแบบออฟไลน์ได้ แม้ตอนนี้สถานการณ์ COVID-19 จะคลี่คลายแล้ว แต่กระแสการทำ Webinar ก็ยังไม่จางหายไป
หากคุณมีแผนที่จะนำ Webinar มาใช้ในแผนด้วย เรามาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ Webinar Landing Page กันสักหน่อยดีกว่า ว่า Webinar มันช่วยธุรกิจอะไรคุณได้บ้าง ? และเราจะสร้าง Webinar Landing Page ที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดให้ผู้เข้าชมตัดสินใจลงทะเบียนได้อย่างไร ?
Webinar Landing Page เป็นหน้า หน้าเฉพาะเจาะจง (Landing Page) ชนิดหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อประชาสัมพันธ์ และแนะนำข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับงาน Webinar ที่กำลังจะจัดขึ้นในอนาคตอันใกล้ มันเป็นพื้นที่สำหรับบอกรายละเอียดของงาน และข้อมูลที่สามารถเพิ่มแรงจูงใจให้ผู้ที่เข้าชมตัดสินใจลงทะเบียนมากขึ้น โดยผู้จัดจะมองว่ามันเป็นภาพโปสเตอร์แบบดิจิทัลที่ใช้ประชาสัมพันธ์งานอีเวนท์ที่คุณจัดก็ได้ แต่แทนที่ที่เราจะต้องพิมพ์มันออกมาแล้วไปแปะตามเสาไฟ ก็เอามาใส่ที่ Landing Page แทนเลย
ข้อมูลสำคัญที่มีในหน้าเว็บไซต์ Webinar Landing Page ผู้ชมจะได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงาน Webinar อย่างวันเวลาที่จัดงาน, หัวข้องานสัมมนา, วิทยากรที่จะมาให้ความรู้ และวิธีการเข้าร่วมงานสัมมนา
เป้าหมายหลักของหน้า Webinar Landing Page มีอยู่เพียงหนึ่งเดียวคือ เปลี่ยนใจผู้ชมให้เป็นผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานสัมมนา ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายนี้ได้นั้น ภายในหน้า Webinar Landing Page จึงนิยมใส่ "ปุ่ม Call-to-action (CTA)" เอาไว้ด้วย เพื่อยั่วยุให้ผู้ชมอยากคลิกมัน เพื่อนำไปสู่การลงทะเบียนเข้าร่วมงาน
ภาพจาก : https://www.freepik.com/free-vector/colorful-web-buttons-pack-different-purposes_8865980.htm
นอกเหนือไปจากข้อมูลเกี่ยวกับงานสัมมนา และรายละเอียดการลงทะเบียนแล้ว ภายในหน้า Webinar Landing Page ก็ยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ อย่างการออกแบบ,ภาพ หรือวิดีโอประกอบที่สวยงามเกี่ยวกับหัวข้องานสัมมนา หรือตัววิทยากรอีกด้วย ทั้งนี้ ข้อมูลทั้งหมดควรมีเท่าที่จำเป็น และกระชับ ผู้อ่านสามารถเข้าใจสิ่งที่จะได้รับจาก Webinar อย่างรวดเร็ว
ประโยชน์ของหน้า Webinar Landing Page นั้นก็เหมือนกับหน้า Landing Page คือมันเป็นหน้าเว็บที่รวบรวมข้อมูลทุกอย่างที่นักการตลาดต้องการให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมได้เห็น มันแตกต่างจากหน้าหลัก (Homepage) ของเว็บไซต์ที่มีข้อมูลมากมาย แต่ไม่มีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เพราะมันเป็นหน้าที่ถูกเตรียมไว้ให้สำหรับผู้ชมทั่วไป
หน้า Webinar Landing Page เป็นหน้าเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับการประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับงาน Webinar โดยเฉพาะ ก็มักจะประกอบไปด้วยข้อมูลของงานอย่างวัน, เวลา, กำหนดการ, รายชื่อวิทยากร และขั้นตอนการลงทะเบียน ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้จะนำเสนอเอาไว้ในหน้าเดียวเลย เราจึงมั่นใจได้ว่าผู้ชมจะสามารถมองเห็น, เข้าถึง และเข้าใจข้อมูลทั้งหมดที่เราต้องการได้อย่างแน่นอน
เป้าหมายหลักในการมีอยู่ของหน้า Webinar Landing Page นั้นมีเพียงหนึ่งเดียวคือการ "Conversion" (หมายถึงการเปลี่ยนผู้ชม ให้เป็นผู้ซื้อ หรือผู้ลงทะเบียน) เนื่องจากมันเป็นหน้าเพจที่มีการโฟกัสเพียงเรื่องเดียว หากคุณจัดทำเนื้อหาได้ดี โอกาสที่ผู้ชมจะเกิดความสนใจ และยินยอมที่จะคลิกเพื่อดำเนินการต่อก็จะสูงขึ้น ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเป้าหมายสูงสุดที่นักการตลาดต้องการ
การสร้างลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย หรือที่เรียกว่า Lead generation ตามปกติแล้ว Webinar นั้นนิยมใช้เป็นเครื่องมือในการทำ Lead Generation อยู่แล้ว ซึ่งหน้า Webinar Landing Page สามารถใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เข้าชมอย่างชื่อ และอีเมลติดต่อ ด้วยการอาศัยประโยชน์จากขั้นตอนการลงทะเบียน ซึ่งข้อมูลนี้เป็นทรัพยากรที่มีค่ามาก สามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่อได้ อย่างการส่งต่อให้ฝ่ายขายนำไปใช้ติดต่อกลับหาลูกค้า, ส่งข้อมูลโปรโมชันให้ในอนาคต ฯลฯ
อันที่จริง การออกแบบ หน้าเฉพาะเจาะจง ของงานสัมมนาออนไลน์ (Webinar Landing Page) ก็มีเทคนิคที่ไม่ต่างจากการออกแบบหน้าเฉพาะเจาะจง (Landing Page) ชนิดอื่น ๆ มากนัก สิ่งที่ควรทำก็จะประกอบไปด้วย
การรู้ว่าเป้าหมายแคมเปญของหน้า Landing Page คือหัวใจสำคัญของความสำเร็จ Webinar Landing Page ก็เช่นกัน นักการตลาดมีเป้าหมายที่ชัดเจนเพียงหนึ่งเดียว จึงจะสามารถดึงดูดผู้ที่สนใจให้มาลงทะเบียนเข้าร่วมงาน Webinar ได้
ทุกสิ่งที่ปรากฏอยู่ในหน้า Webinar Landing Page ควรออกแบบให้ผู้ที่เข้ามาชมสามารถลงทะเบียนได้ง่ายที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ มันควรจะเรียบง่ายไม่ซับซ้อน
ทั้งนี้ นักการตลาดอาจมีเป้าหมายรองสอดแทรกเอาไว้ได้เช่นกัน แต่ต้องแน่ใจว่าเป้าหมายรองนั้นจะไม่เด่นเดินเป้าหมายหลัก ตัวอย่างเช่น หลังจากที่ผู้ชมได้ลงทะเบียนเสร็จแล้ว ในขั้นตอนสุดท้ายอาจจะมีการแนะนำให้สมัครรับจดหมายข่าว (Newsletter) ด้วย
เมื่อเป้าหมายชัดเจนแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะสรรหาคำมาหลอกล่อให้ผู้อ่านรู้สึกอยากเข้าร่วมงาน Webinar โดยไม่ว่าจะเลือกใช้ประโยคแบบไหนก็ตาม ให้ระลึกเอาไว้เสมอว่ามันต้องเข้าใจง่าย และเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์
เราต้องไม่ลืมว่า คนที่เข้ามาในหน้า Webinar Landing Page คือผู้ที่มีความสนใจในงานแล้ว พวกเขาเข้ามาเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งเป็นหน้าที่ของนักการตลาดที่ต้องเตรียมข้อมูลที่พวกเขาอยากได้ โดยข้อมูลที่ควรมี ประกอบไปด้วย
สำหรับหน้า Webinar Landing Page ควรจะระบุรายละเอียดของหัวข้อ แนะนำให้ผู้เข้าชมว่าจะมีการบรรยายเนื้อหาในด้านใดบ้าง โดยมีความยาวของเนื้อหาที่กระชับ ไม่สั้น หรือไม่ยาวจนเกินไป
Webinars เป็นงานที่ดำเนินการโดยใช้คนขับเคลื่อนงานเป็นหลัก ดังนั้น การแนะนำบุคลากรที่เกี่ยวข้องจึงมีความสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นตัววิทยากร, พิธีกร, แขกรับเชิญ ฯลฯ รวมไปถึงว่าแต่ละคนจะมาเล่าเรื่องอะไรให้ฟัง ข้อมูลเหล่านี้ควรจะนำมาใส้ไว้ในหน้า Webinar Landing Page ด้วย
งาน Webinar ของคุณจะเริ่มงานเมื่อไหร่ ? ใช้เวลานานขนาดไหน ? เปิดลงทะเบียนเมื่อไหร่ ? ข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญต่อหน้า Webinar Landing Page เป็นอย่างมาก เพื่อให้ผู้เข้าชมสามารถประเมินได้ว่า พวกเขาสามารถเข้าร่วมงานในช่วงเวลาดังกล่าวได้หรือไม่ ?
การสร้างปุ่ม Call To Action (CTA) ถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญสำหรับการออกแบบหน้า Webinar Landing Page โดยปุ่ม CTA ควรจะมีความตรงไปตรงมา และเชิญชวนให้ผู้ชมอยากที่จะคลิกมัน คำที่นิยมใช้งานกันก็อย่างเช่น ลงทะเบียนทันที, สำรองที่นั่ง ฯลฯ
ถึงแม้ข้อมูลเนื้อหาจะมีความสำคัญ สามารถส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้ที่เข้าชมหน้า Webinar Landing Page แต่ความสวยงามก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด กราฟิกที่สวยงามมีผลต่อความรู้สึกของผู้เข้าชมได้ และมันยังแสดงถึงความมืออาชีพ ความเอาใจใส่ของผู้จัดงานอีกด้วย
ก็หวังว่า บทความนี้จะช่วยให้ผู้ที่กำลังต้องรับผิดชอบจัดงาน Webinar จะได้ประโยชน์ไปไม่มากก็น้อยนะ
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |