ในงาน Microsoft Ignite 2023 ทาง Microsoft ได้เปิดตัวผู้ช่วยอัจฉริยะ "Copilot" ออกมาให้สาธารณชนได้สัมผัสกัน โดยเราสามารถใช้งานได้ผ่าน เครื่อง PC ที่ใช้สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows, Surface และ เว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) นอกจากนี้ ทาง Microsoft ยังพัฒนาให้มันสามารถทำงานร่วมกับ Microsoft 365 ได้อีกด้วย ช่วยให้การทำงานง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก
คำว่า "Copilot" ถ้าแปลเป็นภาษาไทยตรง ๆ ก็จะมีความหมายว่า "ผู้ช่วยนักบิน" แต่ในกรณีนี้ ก็คือผู้ช่วยอัจฉริยะที่จะมาช่วยให้เราทำสิ่งต่าง ๆ บนคอมพิวเตอร์ได้สะดวกสบายมากขึ้นนั่นเอง
ข่าวดีคือ ทาง Microsoft เปิดให้ Copilot สามารถใช้งานได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ไม่ชอบของฟรี อยากเสียเงิน ทาง Microsoft ก็ได้มีการเปิดตัว Copilot Pro เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการคุณสมบัติที่มากกว่าเดิม
แล้ว Copilot (ฟรี) กับ Copilot Pro มันแตกต่างกันอย่างไร ? คุ้มที่จะจ่ายเงินหรือขนาดไหน ? มาทำความเข้าใจกัน
Copilot เป็นบริษัทที่ทาง Microsoft ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อพัฒนา เทคโนโลยี AI โดยเฉพาะ ซึ่งก็มีการพัฒนาเจ้า Copilot ออกมาหลายตัว แต่ละตัวก็จะมีความสามารถในการทำงานที่แตกต่างกัน เพื่อตอบโจทย์วัตถุประสงค์ที่มีความหลากหลาย โดย Microsoft Copilot ก็เป็นหนึ่งในนั้น
สัตยา นาเดลลา ซีอีโอของบริษัท Microsoft ได้กล่าวในงาน Microsoft Ignite เอาไว้ว่า "พวกเราเชื่อมั่นในอนาคต ที่จะมี Copilot สำหรับทุกคน และทุกสิ่งที่คุณทำ"
สำหรับ Microsoft Copilot ก็จะเป็น AI Chatbot ตัวใหม่ที่มาแทนที่ Bing Chat โดยมันรองรับการทำงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการ โค้ดดิ้ง, เขียนบทความ, สร้างภาพ, ตอบคำถาม ฯลฯ หากคุณคุ้นเคยกับ ChatGPT อยู่แล้ว มันเป็นเทคโนโลยีประเภทเดียวกัน
นอกจากนี้ Microsoft ก็ยังมีการแยก Copilot ออกไปเพื่อสนับสนุนซอฟต์แวร์ตัวอื่น ๆ อีกหลายชนิด มีทั้ง Microsoft 365 Chat, Copilot สำหรับ Teams, Copilot สำหรับ Outlook, Copilot สำหรับ Word, Copilot สำหรับ PowerPoสำหรับt, Copilot สำหรับ Excel, Copilot สำหรับ OneNote, Copilot สำหรับ Loop, Copilot สำหรับ Whiteboard, Copilot สำหรับ Sales และ Copilot Studio
นั่นหมายความว่า ในขณะนี้เราสามารถใช้งาน Microsoft Copilot ได้ทั้งบนระบบปฏิบัติการ Windows, Android, iOS, เว็บเบราว์เซอร์ และในแอปพลิเคชันต่าง ๆ ของ Microsoft เช่น ใน Edge และ Office
ภาพจาก : https://adoption.microsoft.com/en-us/copilot/
อาจมีคนสงสัยว่า Microsoft Copilot เป็นเทคโนโลยีใหม่เลย หรือว่าแค่การเอา Bing Chat มาเปลี่ยนชื่อเท่านั้น ? คำตอบก็คือ "ใช่"
Microsoft Copilot ก็คือ Bing AI (ที่ถูกเปลี่ยนชื่อมาจาก Bing Chat) โดย Microsoft ต้องการรวมบริการ AI ทั้งหมดที่มีเอาไว้ในชื่อ Copilot เพียงชื่อเดียวไปเลย แต่แน่นอนว่ามันไม่ได้แค่เปลี่ยนชื่อเท่านั้น ทาง Microsoft ได้มีการเพิ่มคุณสมบัติใหม่เข้าไปด้วย เช่น รองรับโมเดล GPT-4 Turbo ที่ช่วยให้การตอบคำถามมีความแม่นยำ และมีความเป็นธรรมชาติมากกว่าเดิม
Microsoft Copilot นั้นมีการทำงานที่คล้ายคลึงกับ ChatGPT เป็นอย่างมาก แถมยังใช้งานโมเดล GPT-4Turbo อีกด้วย หลายคนจึงอาจมีความสงสัยว่า ทั้งคู่มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร ?
ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) ทาง Microsoft ได้เข้าไปลงทุนในบริษัท OpenAI โดยไม่มีการเปิดเผยตัวเลขที่ชัดเจน แต่ประมาณการเอาไว้ว่าหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งหลังจากที่ Microsoft เข้าไปลงทุนได้ไม่นาน เราก็ได้เห็น OpenAI เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เจ๋ง ๆ ออกมาไม่ขาดสาย เริ่มจาก DALL-E2 AI ที่สามารถสร้างภาพจากคำสั่ง (Prompt) ที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไปได้ ตามมาด้วย ChatGPT ที่ฉลาดจนทำให้หลายคนกังวลว่ามันจะเข้ามาแย่งงานของมนุษย์
ChatGPT เป็นระบบแชทที่สามารถตอบคำถามได้อย่างเป็นธรรมชาติราวกับผู้ใช้กำลังสนทนากับมนุษย์อยู่ พร้อมทั้งยังสามารถให้คำแนะนำเพิ่มเติม และช่วยเหลือผู้ใช้ได้ในหลากหลายรูปแบบ เป็นความสามารถที่เกิดจากการเทรนด์ AI ด้วยโมเดลภาษา และโมเดลข้อมูลหลายประเภทจำนวนมหาศาล ซึ่งหลายข้อมูลที่นำมาใช้เทรนด์เป็นข้อมูลที่ปกติไม่สามารถค้นหาเจอได้จากการใช้เสิร์ชเอนจิน (Search Engines) อย่างเช่น ข้อมูลที่เกิดจากการสนทนาระหว่าง AI กับผู้ใช้งาน ซึ่งปัจจุบันนี้ก็เดินทางมาถึง ChatGPT 4 แล้ว มันฉลาดถึงขั้นสามารถเขียนเรียงความ, โค้ดดิ้ง, แนะนำไอเดีย ฯลฯ ให้เราได้แล้ว
ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566) ทาง Microsoft ได้เปิดเผยว่าจะนำ ChatGPT มาใช้ในระบบค้นหาของ Bing search ซึ่งต่อมามันก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Copilot สำหรับ Web แล้วก็อย่างที่เราได้อธิบายไปข้างต้น Microsoft ได้ทำการเปลี่ยนชื่อระบบ AI ทั้งหมดเป็น Copilot โดยมี ChatGPT ที่ได้ไปลงทุนเอาไว้ มาใช้ทำงานอยู่เบื้องหลังด้วยนั่นเอง
แม้ Copilot จะใช้งานได้ฟรี แต่มันก็มีการจำกัดคุณสมบัติการทำงานบางอย่างเอาไว้ เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ใช้งานอย่างจริงจัง ทาง Microsoft ก็จะแนะนำให้ใช้ Copilot Pro ซึ่งเป็นบริการแบบรายเดือนแทน โดยมีค่าบริการอยู่ที่เดือนละ $20 (ประมาณ 715 บาท)
สิ่งที่ Copilot Pro ให้เพิ่มมาคือ เราจะสามารถใช้งาน GPT-4 Turbo โมเดลล่าสุดของ OpenAI ได้ด้วย รวมไปถึงคุณสมบัติการทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์ของ Micosoft อีกหลายส่วนดังต่อไปนี้
ทาง Microsoft ไม่มีการประกาศอย่างชัดเจนว่า Copilot Pro สามารถใช้งานในภูมิภาคไหนได้บ้าง ? บอกเพียงว่ารองรับภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ญี่ปุ่น, โปรตุเกส, สเปน และจีน ส่วน โดยในการสั่งซื้อ ขณะนี้จะรองรับประเทศ
Copilot Pro มีข้อดีในด้านคุณสมบัติการทำงานที่เยอะกว่า มีหลายคุณสมบัติที่เดิมทีใช้งานได้เฉพาะบน ChatGPT Plus เท่านั้น แต่ในตอนนี้ก็สามารถใช้งานบน Copilot Pro ได้แล้ว นอกจากนี้ มันยังมีการอัปเดตคุณสมบัติใหม่เพิ่มเข้ามาเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม Copilot เวอร์ชันฟรี ก็มีคุณสมบัติที่เพียงพอต่อการใช้งานของผู้ใช้ทั่วไปอยู่แล้ว ถ้าหากคุณไม่ได้ต้องการใช้งาน Copilot ใน Microsoft 365 เพียงแค่ต้องการใช้งาน Copilot เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม แทนที่จะใช้แค่ เครื่องมือค้นหา (Search Engine) เพียงอย่างเดียว เงินที่จ่ายเพิ่ม $20 ต่อเดือนก็อาจจะไม่คุ้มค่าเท่าไหร่นัก
สรุปแล้ว Copilot Pro ลูกเล่นเยอะ มีอัปเดตคุณสมบัติใหม่ ๆ ให้ใช้งานก่อน แต่สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว Copilot เวอร์ชันฟรีก็ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการใช้โมเดล ChatGPT-4 ฟรี ได้ดีอยู่แล้ว
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |