เครื่องเล่นเกมพกพาเหมาะกับคุณหรือไม่ ? มาดูประโยชน์ของเครื่อง Handheld ดีอย่างไร ? เหมาะกับไลฟ์สไตล์แบบไหน ?

เครื่องเล่นเกมพกพาเหมาะกับคุณหรือไม่ ? มาดูประโยชน์ของ Handheld ดีอย่างไร ? และเหมาะกับไลฟ์สไตล์แบบไหน ?

ในยุคปัจจุบันที่เกมกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของทุกคนอย่างปฏิเสธไม่ได้ การเลือกเครื่องเล่นเกมที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เหมือนกับการเลือกซื้อโทรศัพท์สักเครื่องเลย และหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมที่กำลังมาแรงคือ Handheld หรือเครื่องเล่นเกมพกพา ไม่ว่าจะเป็น Nintendo Switch 2 หรือสายวินโดว์ที่เป็น PC Handheld อย่าง Asus ROG Ally หรือเครื่องที่เอาใจผู้ใช้ Steam อย่าง Steam Deck

ซึ่งเครื่องเกมพกพาเหล่านี้ ทั้งคล่องตัว และทรงพลัง พร้อมจะดึงผู้เล่นเข้าสู่โลกแห่งเกมได้ทุกที่ทุกเวลาแต่คำถามคือ Handheld เหมาะกับเราจริง หรือไม่ ? ลองนึกภาพการยกเอาคอมพิวเตอร์ทั้งเครื่องมาใส่ไว้ในมือเรา แล้วพกพาความสนุกติดตัวไปได้ทุกที่ ดูจะเหมาะกับบางคนแต่มันก็อาจยังไม่ตอบโจทย์สำหรับทุกคน และในบทความนี้จะพาทุกคนไปสำรวจประโยชน์ของ Handheld และดูว่ามันเข้ากับไลฟ์สไตล์ของเรา หรือเปล่า ! ถ้าพร้อมแล้วเราลองมาดูแต่ละหัวข้อไปด้วยกันเลย

ภาพจาก : https://www.hardwarezone.com.sg/feature-rog-ally-x-gaming-handheld-amd-ryzen-windows

ความยืดหยุ่น และความสะดวกสบาย (Flexibility and Convenience)

เมื่อพูดถึงการเล่นเกมในยุคนี้แน่นอนว่าความยืดหยุ่น และ ความสะดวกสบาย ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกมเมอร์เลือกเครื่องเล่นเกมพกพา (Handheld) แทน โน้ตบุ๊กเกมมิ่ง กัน

เล่นเกมได้ทุกที่ ทุกเวลา

เราลองมาดูเครื่องเล่นเกมพกพาอย่าง Steam Deck หรือ Nintendo Switch ที่สามารถใช้งานได้ในหลากหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนนอนเล่นบนโซฟา, นอนเล่นบนเตียง หรือแม้แต่ในระหว่างการเดินทางบนเครื่องบิน หรือรถบัส ก็ยังหยิบมาเล่นได้ ในขณะที่โน้ตบุ๊กเกมมิ่งถึงแม้จะพกพาไปไหนมาไหนได้ แต่ยังมีข้อจำกัดในพื้นที่แคบที่ทำให้การใช้งานไม่สะดวก และข้อจำกัดด้านพลังงานอีกด้วย

ภาพจาก : https://www.reddit.com/r/SteamDeck/comments/1ajcrz2/one_way_to_play_without_getting_painful_wrists/?rdt=41647

ขนาดกะทัดรัด พกง่าย

Handheld นั้นมีความกะทัดรัดสูงกว่ามาก สามารถใส่ในกระเป๋าเป้ หรือกระเป๋าถือ ได้โดยไม่กินพื้นที่ เราไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องน้ำหนัก หรืออุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เพิ่มเติมเหมือนโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง

ภาพจาก : https://steamdecklife.com/2022/08/05/tomtoc-steam-deck-carrying-bag/

และสำหรับเกมเมอร์ที่ชื่นชอบการเล่นเกมยาว ๆ เครื่องเล่นเกมพกพามักออกแบบมาให้จับถนัดมือ และลดความเมื่อยล้าจากการเล่นนาน ๆ อีกทั้งในบางรุ่นยังสามารถปรับอุปกรณ์เสริมอย่างขาตั้ง หรือจอยคอนโทรลเลอร์ เพื่อเพิ่มความสบายได้อีกระดับนั่นเอง

การใช้เวลาร่วมกับคนรอบข้าง (Spending Quality Time with Others)

สำหรับเกมเมอร์หลายคน การเล่นเกมมักถูกมองว่าเป็นกิจกรรมส่วนตัวที่ต้องใช้สมาธิ และเวลาอยู่กับตัวเองยิ่งถ้าเล่นเกมคอมพิวเตอร์หมายความว่าจะต้องอยู่ที่หน้าจอ ห่างไกลจากคนรอบข้าง แต่ด้วยเครื่องเล่นเกมพกพา วิธีการเล่นเกมก็จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ไม่เพียงช่วยให้เราพกพาเกมโปรดไปเล่นได้ทุกที่ แต่ยังเปิดโอกาสให้ใช้เวลาคุณภาพกับคนที่เรารักได้พร้อม ๆ กัน

อีกทั้งเสียงจากเครื่องเล่นเกมพกพาหลาย ๆ รุ่น เช่น Steam Deck หรือ Nintendo Switch Lite มักออกแบบให้ดังเข้าหาเฉพาะผู้เล่น ทำให้คนที่นั่งใกล้เคียงไม่รู้สึกถูกรบกวน อีกทั้งเรายังไม่จำเป็นต้องใส่หูฟัง ทำให้สามารถพูดคุย และมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

ภาพจาก : https://steamdecklife.com/2022/08/05/tomtoc-steam-deck-carrying-bag/

ราคา และความคุ้มค่า (Price and Value)

สำหรับเกมเมอร์ การตัดสินใจระหว่าง เครื่องเล่นเกมพกพา และ โน้ตบุ๊กเกมมิ่ง หรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ มักเริ่มต้นจากคำถามเรื่องราคา และความคุ้มค่า ทุกอุปกรณ์มีข้อดีเฉพาะตัว ในบทความนี้เราจะยกจุดเด่นในเรื่องของการพกพามาคุยกัน ดังนั้น เราจะไม่พูดถึงคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และในแง่ของการลงทุนระยะยาว โน้ตบุ๊กเกมมิ่ง หรือ เครื่องเล่นเกมพกพา ใครจะคุ้มค่ากว่ากัน ลองตามมาดูเลย

ราคาเริ่มต้น

แล็ปท็อปเกมมิ่งระดับเริ่มต้นที่ให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่สมบูรณ์ มักมีราคาเริ่มต้นประมาณ 30,000 บาท ขึ้นไป และถ้าเราต้องการรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูง และรองรับเกม AAA ได้อย่างลื่นไหล ราคาอาจพุ่งสูงขึ้นถึงหมื่นบาท ทำให้โน้ตบุ๊กเกมมิ่งกลายเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างหนักหน่วงเลย

ภาพจาก : https://www.asus.com/th/laptops/for-gaming/tuf-gaming/2021-asus-tuf-gaming-a17/

ในทางกลับกัน เครื่องเล่นเกมพกพา อย่างเช่น Steam Deck รุ่นพื้นฐานมีราคาเริ่มต้นที่ไม่เกิน 20,000 บาท และ รุ่นอื่น ๆ เช่น Asus ROG Ally ก็อยู่ในช่วง 15,000 ถึง 30,000 บาท ซึ่งยังคงต่ำกว่าแล็ปท็อปเกมมิ่งระดับไฮเอนด์

ภาพจากเว็บไซต์ PowerBuy : https://www.powerbuy.co.th/

ความคุ้มค่าต่อประสิทธิภาพ

จริง ๆ แล้วโน้ตบุ๊กเกมมิ่งนั้นไม่เพียงแต่เป็นเครื่องเล่นเกม แต่ยังทำหน้าที่เป็นคอมพิวเตอร์ที่ครบเครื่อง ด้วยคีย์บอร์ด, ทัชแพด และหน้าจอขนาดใหญ่ รองรับการใช้งานที่หลากหลายกว่า เช่น การทำงาน, การเรียน หรือการตัดต่อวิดีโอ ทำให้แล็ปท็อปมีความยืดหยุ่นมากกว่านั่นเอง

ภาพจาก : https://www.wired.com/sponsored/story/msi-stealth-gs77-gaming-laptop-is-the-perfect-work-machine/

อย่างไรก็ตาม เครื่องเล่นเกมพกพาได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ประสิทธิภาพการเล่นเกมใกล้เคียงกับแล็ปท็อปในราคาที่ถูกกว่า แม้จะไม่มีความสามารถรอบด้านเท่าแล็ปท็อป แต่ก็ให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่น่าประทับใจในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่านั่นเอง

ดังนั้น หากเรากำลังมองหาอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย เอาไปใช้ทำงานอื่น ๆ ได้ และรองรับเกมระดับสูง โน้ตบุ๊กเกมมิ่งก็คุ้มค่ากว่าในระยะยาว แต่ถ้าเราต้องการเครื่องเกมที่พกพาสะดวก ราคาย่อมเยา และเน้นเล่นเกมโดยเฉพาะ เครื่องเล่นเกมพกพาอย่าง Steam Deck หรือ ROG Ally ก็คือทางเลือกที่ยอดเยี่ยมเลย

อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน (Long Battery Life)

หนึ่งในจุดอ่อนที่เห็นได้ชัดของโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง คืออายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่สั้น ซึ่งยิ่งแย่ลงเมื่อมีการติดตั้งฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังมากขึ้นไปอีก และเนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคอย่างการจำกัดความจุแบตเตอรี่ไว้ที่ 100Wh เพื่อให้สามารถพกพาขึ้นเครื่องบินได้ โน้ตบุ๊กเกมมิ่งจึงไม่สามารถใช้งานได้นานเท่าที่หลายคนต้องการ

ตัวอย่างจากเว็บไซต์ XDA-Developers ด้วยการทดสอบโน้ตบุ๊ก HP Omen 16 รุ่นปี ค.ศ.2023 (พ.ศ.2566) ที่มาพร้อม CPU Intel Core i7-13700HX และ GPU Nvidia RTX 4080 เมื่อถูกทดสอบใน PCMark 10’s Gaming Rundown Test พบว่าแบตเตอรี่ขนาด 83Wh ใช้งานได้เพียงแค่หนึ่งชั่วโมงเศษเท่านั้น และเมื่อเล่นเกมจริง ๆ อย่าง Red Dead Redemption 2 ที่ตั้งค่ากราฟิกสูงสุด โน้ตบุ๊กกลับใช้งานได้ไม่ถึง 45 นาที

ภาพจาก : https://www.xda-developers.com/hp-omen-16-2022-review/

ในทางกลับกัน เครื่องเล่นเกมพกพา เช่น Steam Deck OLED มีจุดเด่นในเรื่องอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่า แม้ว่าความยาวนานของแบตเตอรี่จะขึ้นอยู่กับประเภทของเกมที่เล่น เช่น Hades ใช้แบตเตอรี่น้อยกว่า Red Dead Redemption 2 อย่างเห็นได้ชัด แต่โดยเฉลี่ยแล้วเครื่องเล่นเกมพกพาสามารถใช้งานได้ไม่ต่ำกว่าสามชั่วโมงโดยประมาณ

ภาพจาก : https://www.youtube.com/watch?v=pK2TzU7N7s0

ฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์เกมเมอร์ (Gamer-Friendly Features)

เราลองมาดูฝั่งของ Steam ฟีเจอร์เฉพาะอย่าง Quick Resume  ฟีเจอร์นี้ช่วยให้เกมเมอร์สามารถหยุดเกมในจุดที่เล่นค้างไว้ และกลับมาเล่นต่อได้ในทันที แม้จะผ่านไปหลายชั่วโมง หรือหลายวัน เราสามารถเล่นเกมบน Steam Deck และกดเข้าสู่โหมดพักเมื่อไหร่ก็ได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าเกมจะรีเซ็ต หรือข้อมูลจะหาย เมื่อเปิดเครื่องอีกครั้ง เกมที่เล่นค้างไว้จะรอเราอยู่ในจุดเดิม

วิดีโอจาก https://www.youtube.com/watch?v=MbmGskPhats

ซึ่งฟีเจอร์นี้เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการประสบการณ์การเล่นแบบ "หยุดแล้วไปต่อ" โดยไม่ต้องเสียเวลาโหลดเกมใหม่ หรือรอการเซฟอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดเวลา และพลังงาน ทำให้ Steam Deck เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

แม้ว่าเครื่องเล่นเกมพกพาที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows เช่น ROG Ally จะมีฟีเจอร์ Hibernate ที่ช่วยให้หยุดการใช้งานชั่วคราวได้ แต่ประสบการณ์ก็ยังไม่ลื่นไหลเท่ากับ Quick Resume บน Steam Deck ซึ่งทำงานได้รวดเร็วกว่า และแทบไม่มีปัญหาด้านประสิทธิภาพ

ความหลากหลายของเกม (Variety of Games)

มาถึงหัวข้อสุดท้ายก็คือเกมที่เราเล่นนั่นเอง มีเกมจำนวนไม่น้อยที่ให้ประสบการณ์การเล่นที่ดีกว่าเมื่อเล่นบนเครื่องพกพา เช่น

• เกมแนว RPG อย่าง Persona 5 ที่ให้เราสลับระหว่างการใช้ชีวิตในโรงเรียน และสำรวจดันเจี้ยนได้อย่างลงตัว สามารถเล่นเพียง 15 นาทีในระหว่างวัน หรือจมดิ่งอยู่ในเกมบนโซฟาเป็นชั่วโมงในตอนเย็นก็ได้
• Roguelike Deck-Builders เช่น Slay the Spire, Cobalt Core, หรือ Balatro เกมเหล่านี้ออกแบบมาให้เหมาะกับการเล่นแบบช่วงสั้น ๆ ที่หยิบมาเล่นได้ทุกเมื่อ
• เกมแพลตฟอร์ม 2D และ Metroidvania อย่าง Hollow Knight หรือ Celeste รวมถึง เกมสบาย ๆ อย่าง Stardew Valley และ Dave the Diver ซึ่งสนุก และดื่มด่ำมากขึ้นเมื่อถือเครื่องเล่นไว้ใกล้ตัว

ภาพจาก : https://www.youtube.com/watch?v=D4BmndqR5Hs

ความสนุกของการเล่นบนเครื่องพกพาอยู่ที่ความใกล้ชิดกับหน้าจอ ขณะที่เราถือเครื่องเล่นในมือ หน้าจอที่อยู่เพียงไม่กี่นิ้วจากดวงตาจะช่วยสร้างความดื่มด่ำในโลกของเกม ทำให้การเล่นเกมเหล่านี้มีเสน่ห์มากกว่าการเล่นบนเดสก์ท็อป โน๊ตบุ๊ด หรือทีวีขนาดใหญ่ผ่าน Playstation

แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกเกมจะเหมาะกับเครื่องพกพา เกมบางประเภท เช่น เกมแข่งรถ อย่าง Forza Horizon 5 หรือ เกมแนวแอคชั่นกราฟิกสูง อย่าง Horizon Forbidden West ก็อาจให้ประสบการณ์ที่ดีกว่าบนหน้าจอใหญ่ ด้วยภาพที่สวยงาม และรายละเอียดที่คมชัด ทำให้การเล่นเกมเหล่านี้บนจอ Ultrawide ช่วยเพิ่มความตื่นตาตื่นใจที่เครื่องพกพาไม่สามารถเทียบได้นั่นเอง

ภาพจาก : https://www.reddit.com/r/GamingLaptops/comments/183fmof/my_first_proper_gaming_laptop_setup/

บทสรุป : เครื่องเล่นเกมพกพาเหมาะกับไลฟ์สไตล์แบบไหน (Conclusion: Which Lifestyle Suits Handheld Gaming Devices ?)

เครื่องเล่นเกมพกพา ไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์สำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการความสะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์ในหลากหลายไลฟ์สไตล์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมระหว่างการเดินทาง, คนที่ต้องการแบ่งปันช่วงเวลาแห่งความสนุกกับคนรอบตัว หรือแม้กระทั่งผู้ที่มองหาประสบการณ์การเล่นเกมที่เข้าถึงได้ง่าย และคล่องตัว

ด้วยจุดเด่นในเรื่องของความยืดหยุ่น, ขนาดที่กะทัดรัด, อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน และฟีเจอร์เฉพาะตัวที่ช่วยเพิ่มความสะดวก เครื่องเล่นเกมพกพาจึงกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มประสบการณ์การเล่นเกมแบบทุกที่ทุกเวลา

ภาพจาก : https://www.youtube.com/watch?v=-VrP4KREbHM

ในสุดท้ายแล้ว การตัดสินใจเลือกเครื่องเล่นเกมที่ใช่ขึ้นอยู่กับความต้องการ และวิถีชีวิตของเราเอง ถ้าเรามองหาอุปกรณ์ที่เติมเต็มความสนุกในทุกที่ และทุกเวลา เครื่องเล่นเกมพกพาชื่นชอบเกมแนวที่สามารถเล่นแบบสั้น ๆ และต่อเนื่องได้  เครื่องเล่นเกมพกพาก็อาจเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด แต่ถ้าต้องการเล่นเกมกราฟิกสูง สัมผัสกับประสบการณ์เต็มจอบนหน้าจอขนาดใหญ่ โน้ตบุ๊กเกมมิ่ง หรือเดสก์ท็อปยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าอยู่นั่นเอง