หากพูดถึง ระบบปฏิบัติการ (Operating System - OS) เป็นหัวใจสำคัญของการใช้งานคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีอยู่มากมายให้เลือกใช้งาน แต่หนึ่งในระบบที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบันนี้คือ ChromeOS เป็นระบบปฏิบัติการจาก Google ที่ออกแบบมาเพื่อความเร็ว, ความปลอดภัย และการทำงานที่เชื่อมต่อกับระบบ คลาวด์ (Cloud) อย่างสะดวกเพื่อตอบโจทย์คนยุคใหม่
และในบทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จัก ChromeOS อย่างละเอียด ว่ามันคืออะไร ? ทำไมถึงมาแรงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ?, ฟีเจอร์เด่น ๆ มีอะไรบ้าง และที่สำคัญ ในบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนเลือกว่าระบบปฏิบัติการแบบไหนที่เหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุดในปี ค.ศ. 2025 (พ.ศ. 2568) ไม่ว่าจะเป็น ระบบปฏิบัติการ Windows, macOS, Linux หรือ ChromeOS เอง มาเปรียบเทียบจุดเด่นของ OS แต่ละตัวเพื่อให้สามารถตัดสินใจได้ถูกต้องมากที่สุดกัน
โดยพื้นฐานแล้ว ChromeOS ก็คือระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดย Google ออกแบบมาให้ทำงานผ่านระบบคลาวด์เป็นหลัก มีจุดเด่นที่ความเรียบง่าย, รวดเร็ว และปลอดภัย เน้นการใช้งานผ่าน เว็บแอปพลิเคชัน (Web Application) แทนการติดตั้งซอฟต์แวร์แบบดั้งเดิม ChromeOS ถูกออกแบบมาสำหรับ Chromebook ซึ่งเป็น โน้ตบุ๊ก (Notebook) ที่มีราคาเข้าถึงได้ เหมาะสำหรับงานพื้นฐาน เช่น หาข้อมูล, งานเอกสาร และการท่องเว็บเพื่อความบันเทิง
ภาพจาก : https://cdn.dribbble.com/users/2560422/screenshots/6316818/thumbnail_4x.png?resize=1000x750&vertical=center
ChromeOS เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) ซึ่งในช่วงแรกยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก เนื่องจากฟีเจอร์ค่อนข้างจำกัด และต้องพึ่งพาการเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ต (Internet) เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ChromeOS เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) เป็นต้นมา โดยเฉพาะในกลุ่มนักศึกษา และองค์กร เนื่องจาก Chromebook มีราคาประหยัด และฟังก์ชันที่พอเพียงต่อการใช้งาน
หลังจากนั้น Google ได้เพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น รองรับแอป Android และ Linux ทำให้ ChromeOS กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าจะไม่ทรงพลังเท่ากับ Windows หรือ macOS แต่ว่า ChromeOS เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการระบบที่ใช้งานง่าย และไม่ซับซ้อน
แม้ว่า ChromeOS จะถูกออกแบบมาให้ทำงานกับเว็บแอปเป็นหลัก แต่ด้วย การรองรับแอป Android ทำให้มีตัวเลือกซอฟต์แวร์ที่หลากหลายมากขึ้น แต่ก็อาจไม่ได้ลื่นไหลเท่ากับบนสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ...
ChromeOS มีลูกเล่นอยู่มากมายในตัวของ ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ (User Interface - UI) และ Hot keys ต่าง ๆ เราลองมาดูคุณสมบัติเด่น ๆ ของ ChromeOS ซึ่งยกมาเพียงบางส่วนที่สำคัญเท่านั้น
หนึ่งในจุดเด่นของ ChromeOS คือการรองรับอุปกรณ์เสริมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น คีย์บอร์ด (Keyboard), เมาส์ (Mouse) หรือ จอยเกม (Gamepad) ซึ่งรองรับทั้งแบบการเชื่อมต่อผ่าน พอร์ต USB และ บลูทูธ (Bluetooth) ในส่วนของจอมอนิเตอร์ภายนอก ก็สามารถเชื่อมต่อผ่าน พอร์ต HDMI, พอร์ต DisplayPort, DVI และ VGA ทำให้สามารถใช้งานแบบหลายจอ (Multiple Displays) ได้ไม่ด้อยไปกว่าระบบปฏิบัติการรุ่นพี่อย่าง Windows และ Linux อีกทั้งยังต่อ การ์ดจอเสริม (External GPU) จากภายนอกได้ สำหรับบางรุ่น ซึ่งทำได้ในราคาที่ถูกกว่า
ChromeOS รองรับการใช้งานทั้งที่เก็บข้อมูลภายใน (Local Storage) และส่วนที่สำคัญคือ ที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ (Cloud Storage) เป็นต้น
ภาพจาก : https://chromeunboxed.com/wp-content/uploads/2022/02/nfs-chromeos-step-1.jpg
ChromeOS มีโปรโตคอล SMB 3.0 ทำให้สามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ในองค์กร หรืออุปกรณ์ NAS ส่วนตัวได้สะดวกขึ้นผ่านระบบปฏิบัติการโดยตรง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจัดเก็บไฟล์ขนาดใหญ่ หรือแชร์เอกสารกันในองค์กร
ภาพจาก : https://i0.wp.com/www.chromestory.com/wp-content/uploads/2019/03/change-default-app-chromebook-1024x649.png?resize=1024%2C649&ssl=1
และเนื่องจาก ChromeOS นั้นเชื่อมกับ Google เต็มรูปแบบ หมายความว่าผู้ใช้สามารถเปิดไฟล์เอกสาร, รูปภาพ หรือวิดีโอจาก Google Drive ได้โดยตรงจาก File Manager ของเครื่อง นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าให้ไฟล์บางไฟล์ หรือโฟลเดอร์พร้อมใช้งานแบบ Offline Mode เพื่อให้สามารถเข้าถึงได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต
แม้ว่า ChromeOS จะรองรับเครื่องพิมพ์น้อยกว่า Windows และ macOS แต่ก็สามารถใช้งานได้กับเครื่องพิมพ์หลายประเภท โปรโตคอลที่รองรับก็จะมีดังนี้
หาก ChromeOS ไม่สามารถตรวจพบเครื่องพิมพ์อัตโนมัติ ผู้ใช้งานเอกก็สามารถป้อนที่อยู่ IP Address ของเครื่องพิมพ์ และติดตั้งไดรเวอร์เพิ่มเติมได้ แต่เครื่องพิมพ์เก่าเกินไป ChromeOS ก็อาจจะไม่สามารถหาเจอได้
ChromeOS รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth กับอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ ได้ตามปกติ และนอกจากนี้ยังสามารถส่งภาพขึ้นจอใหญ่ผ่าน Miracast และ Chromecast ได้โดยตรงไม่ต้องมีซอฟต์แวร์เสริม ทำให้สามารถใช้งานเป็นเครื่องมือสำหรับนำเสนองาน หรือสตรีมวิดีโอขึ้นจอทีวีได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
ภาพจาก : https://www.lifewire.com/how-to-use-your-chromebook-with-chromecast-4781895
ChromeOS มีระบบติดตั้งที่ง่าย เพียงแค่ เปิดเครื่อง และเชื่อมต่อ Wi-Fi จากนั้นลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Google รอการซิงค์ข้อมูล และเริ่มต้นใช้งานได้ทันทีในไม่กี่ขั้นตอน
อีกทั้งยังมีโหมด Guest Mode ที่สามารถเปิดใช้งานได้โดยไม่ต้องลงชื่อเข้าใช้ เหมาะสำหรับให้ผู้อื่นใช้งานชั่วคราว โดยไม่กระทบกับข้อมูลของเจ้าของเครื่อง
ภาพจาก : https://techwiser.com/wp-content/uploads/2022/05/Chromebook-Browsing-as-Guest.jpg
ที่สำคัญที่สุดของ ChromeOS ก็คือ สามารถติดตั้งแอปของ Android จาก Google Play Store ได้โดยตรง ทำให้ใช้งานแอปยอดนิยม เช่น Microsoft Office, Adobe Lightroom, Spotify, Netflix, YouTube ได้ทันทีรวมถึงเกมมือถือไมว่าจะ Minecraft หรือ Roblox ก็ได้เช่นกัน
ภาพจาก : https://static1.xdaimages.com/wordpress/wp-content/uploads/wm/2023/03/20230330_161029810_ios.jpg?q=50&fit=crop&w=1100&h=618&dpr=1.5
ในส่วนของ Linux ChromeOS ก็มีโหมด Linux Development Environment (LDE) ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถรันโปรแกรม Linux ได้ มีเครื่องมือพัฒนาโค้ดอย่าง VS Code, Android Studio หรือจะเป็น ซอฟต์แวร์สำหรับนักออกแบบ 3 มิติ (CAD Software) หรือจัดการฐานข้อมูลอย่าง SQL ก็ได้
ภาพจาก : https://www.omgubuntu.co.uk/2018/05/google-confirms-linux-apps-support-chromebooks
ChromeOS มาพร้อมระบบความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง มี Verified Boot ที่ช่วยตรวจสอบไฟล์ระบบทุกครั้งที่เปิดเครื่อง หากพบความผิดปกติ ระบบจะรีเซ็ตโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังมี การทำกระบะทราย (Sandboxing) ที่ช่วยแยกกระบวนการทำงานของแต่ละแอปเพื่อป้องกัน มัลแวร์ (Malware) ไม่ให้แพร่กระจายระหว่างแอปพลิเคชัน รวมถึงการอัปเดตอัตโนมัติ (Auto Update) ที่ช่วยให้อุปกรณ์ได้รับการอัปเดตความปลอดภัย และฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดอยู่เสมอ
อีกทั้ง ChromeOS ยังมี ระบบป้องกันข้อมูลสูญหาย ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถล็อกเอาต์ และล้างข้อมูลระยะไกลผ่านบัญชี Google ได้ในกรณีที่เครื่องสูญหาย หรือถูกขโมย ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญจะไม่ตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น
แม้ว่า ChromeOS จะออกแบบมาเพื่อการใช้งานบนคลาวด์เป็นหลัก แต่ก็สามารถทำงานแบบออฟไลน์ได้เช่นกัน โดย Google Docs, Sheets และ Slides ก็สามารถสร้าง และแก้ไขเอกสารได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และข้อมูลจะถูกซิงค์อัตโนมัติเมื่อกลับมาออนไลน์ นอกจากนี้ Gmail Offline ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถอ่าน และเขียนอีเมลล่วงหน้าได้ โดยระบบจะส่งอีเมลออกไปทันทีเมื่อมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกครั้ง
ChromeOS ยังรองรับแอปมัลติมีเดียอย่าง โปรแกรม VLC และ Google Photos ที่สามารถใช้เปิดไฟล์เพลง หรือ วิดีโอ และรูปภาพที่บันทึกไว้ในเครื่องได้ ไม่ต้องพึ่งพาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
ChromeOS รองรับการเล่นเกมในระดับหนึ่ง สามารถติดตั้ง และเล่นเกมจาก Google Play Store ได้ ซึ่งมีเกมให้เลือกมากมาย แต่ส่วนใหญ่เป็นเกมมือถือที่ออกแบบมาสำหรับโทรศัพท์ ทำให้บางเกมแสดงผลในแนวตั้ง ควบคุมไม่สะดวกนัก
สำหรับเกมที่ต้องการกราฟิกสูง ChromeOS ก็รองรับ GeForce Now ซึ่งเป็นบริการสตรีมมิ่งเกม ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมบน คอมพิวเตอร์ (PC) ได้โดยไม่ต้องติดตั้งลงบนเครื่องโดยตรง ChromeOS ยังเริ่มรองรับ Steam (เวอร์ชัน Beta) แต่ก็มีข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์
ภาพจาก : https://www.youtube.com/watch?app=desktop&v=zqoU-5YvUJo&pp=ygUII2dlZm9yY3I%3D
เป็นที่น่าเสียดาย ChromeOS นั้นไม่รองรับเกม Virtual Reality (VR) เนื่องจากฮาร์ดแวร์ และระบบปฏิบัติการไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการประมวลผลกราฟิกหนัก ๆ อีกทั้งยังไม่สามารถใช้ เทคโนโลยี Ray Tracing ได้ แต่ ChromeOS ยังสามารถใช้จอยเกมบางรุ่นได้ ทำให้สามารถเล่นเกมที่รองรับคอนโทรลเลอร์ได้เช่นกัน
โดยสรุปแล้ว หากต้องการเล่นเกมทั่วไป หรือเกมมือถือ ChromeOS ก็สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี แต่หากต้องการเล่น เกมระดับ AAA ใช้กราฟิกสูง ๆ ก็ควรเลือกใช้ Windows หรือ macOS ซึ่งรองรับการเล่นเกมได้เต็มรูปแบบมากกว่านั่นเอง
เรามาสรุปข้อดี และข้อสังเกตของ ChromeOS ให้ชัดเจนมากกว่านี้กันดีกว่า
โดยรวมแล้ว ChromeOS เหมาะสำหรับนักเรียน, พนักงานออฟฟิศ และผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการโน้ตบุ๊กใช้งานง่าย, ปลอดภัย และราคาประหยัด ด้วยระบบที่เปิดเครื่องเร็ว, อัปเดตอัตโนมัติ และรองรับแอป Android ทำให้เหมาะกับการทำงานผ่านเว็บแอป อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ปกครองที่ต้องการอุปกรณ์ปลอดภัยสำหรับเด็ก ด้วยระบบควบคุมโดยผู้ปกครองผ่าน Google Family Link
แต่เป็นที่แน่นอนว่า ChromeOS อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะทาง อย่างโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ, งานออกแบบ 3D หรือเกมกราฟิกสูง รวมถึงผู้ที่ไม่ต้องการล็อกอินบัญชี Google เพื่อใช้งาน หากต้องการอุปกรณ์ที่รองรับการทำงานขั้นสูง หรือเล่นเกมระดับ AAA อาจต้องเลือก Windows หรือ macOS แทน
เรามาถึงอีกหัวข้อที่น่าให้ความสนใจซึ่งก็ คือ OS ใดที่เหมาะกับสมกับเรา การเลือกระบบปฏิบัติการที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งาน, งบประมาณ และอุปกรณ์ที่ใช้เป็นหลัก แต่ละระบบมีจุดเด่น และข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ดังนี้
Windows เป็นระบบที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก เหมาะกับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้งาน รองรับซอฟต์แวร์หลากหลาย ทั้ง Microsoft Office, Adobe Creative Cloud นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับการเล่นเกม เพราะรองรับเกม PC เกือบทั้งหมด และมี ไดรเวอร์ (Driver) สำหรับฮาร์ดแวร์ที่หลากหลาย หากต้องการเครื่องที่สามารถทำได้ทุกอย่าง Windows เป็นตัวเลือกที่ดี
ภาพจาก : https://learn.microsoft.com/th-th/windows/apps/design/
แต่มีข้อจำกัดคือ ต้องการอัปเดตระบบอยู่เสมอ และอาจมีมัลแวร์มากกว่า OS อื่น ๆ
macOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมในหมู่มืออาชีพด้านกราฟิก, ตัดต่อวิดีโอ และนักพัฒนาแอปสำหรับ Apple ด้วยความเสถียรที่สูง, อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย และทำงานร่วมกับอุปกรณ์ Apple อื่น ๆ อย่างราบรื่น macOS จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม Mac มีตัวเลือกฮาร์ดแวร์ที่จำกัดและมีราคาสูงกว่า Windows
ภาพจาก : https://www.apple.com/th/newsroom/2021/06/macos-monterey-introduces-powerful-features-to-get-more-done/
ข้อจำกัดคือ ราคาสูง, ไม่รองรับซอฟต์แวร์บางประเภท และไม่เหมาะสำหรับการเล่นเกม
Linux เป็นระบบปฏิบัติการแบบ เปิดเผยซอร์สโค้ด (Open-Source) ที่ให้ความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ อีกทั้งยังมีผู้ให้บริการ Linux หลายเจ้า เช่น Ubuntu, Fedora, และ Arch Linux อีกทั้งความเบาบาง กินทรัพยากรต่ำ ทำให้ Linux ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการนำเครื่องเก่ากลับมาใช้ใหม่ แต่สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับ Linux อาจต้องทำความเข้าใจมาก
ภาพจาก : https://medium.com/@emediongsamuel07/how-to-update-your-linux-ubuntu-to-the-latest-version-23-04-2026aa8217f9
ข้อจำกัดคือ มีช่วงการเรียนรู้สูง และไม่รองรับซอฟต์แวร์ที่นิยมบางตัว
ตามที่ได้พูดกันไปในบทความนี้ ChromeOS ออกแบบมาให้ใช้งานบน Chromebook เป็นระบบที่รวดเร็ว, ใช้งานง่าย และเหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ และบริการของ Google เช่น Google Docs, Drive และ Gmail นอกจากนี้ยังรองรับแอป Android และในบางรุ่นสามารถรัน Linux ได้อีกด้วย แต่ก็ทราบกันดีแล้วว่า ChromeOS นั้นไม่เหมาะสำหรับงานที่ต้องใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะทาง และไม่เหมาะกับการเล่นเกม AAA กราฟิกสูงๆ นั่นเอง
ภาพจาก : https://sea.mashable.com/hp-chromebook-plus-156-inch/31961/hp-chromebook-plus-156-inch-review-a-big-screened-budget-laptop-for-the-right-user
ข้อจำกัดคือ ไม่รองรับซอฟต์แวร์แบบดั้งเดิม และต้องพึ่งพาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเป็นหลัก
สุดท้ายแล้ว เราควร เลือก OS อย่างไรให้เหมาะสม ? สรุปง่าย ๆ ก็คือ
ภาพจาก : https://androidguys.com/tips-tools/how-to-install-chrome-os-flex/
หรือหากทุกคนยังไม่แน่ใจ ก็สามารถลองใช้งานระบบปฏิบัติการแบบทดลอง เช่น ChromeOS Flex มาทดลองใช้งานบนคอมพิวเตอร์เก่าในบ้านสักเครื่องได้เลย เอาไว้เราลองมาเจาะลึกวิธีการติดตั้ง ChromeOS Flex บนคอมพิวเตอร์เครื่องเก่าของเราในบทความต่อ ๆ ไปกัน
|