สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ไทยแวร์มีทิปส์ดีๆ ที่จะใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือกซื้อสมาร์ทโฟนซักเครื่องสำหรับเพื่อนๆ ที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าอยากจะได้สมาร์ทโฟนอะไร มาฝากให้ได้นำไปเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจกัน โดยในทิปส์ไอทีครั้งนี้ถือเป็นทิปส์ที่ค่อนข้างต่างจากทิปส์อื่นๆ เพราะในทิปส์นี้จะเป็นทิปส์ที่เน้นเรื่องของข้อมูลซะเป็นส่วนใหญ่ โดยทางไทยแวร์คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใครหลายๆ คนที่กำลังจะตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ หรือกำลังจะย้ายระบบปฏิบัติการบนสมาร์ทโฟนที่ใช้อยู่ ซึ่งหากใครที่กำลังคิดไม่ตก หรือยังเลือกสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ไม่ถูกล่ะก็ ลองมาดูข้อมูล และคำแนะนำดีๆ ที่ไทยแวร์นำมาฝากในวันนี้กัน
ระบบปฏิบัติการนั้น สำคัญไฉน?
ภาพประกอบจาก www.androidorigin.com
สำหรับเรื่องของระบบปฏิบัติการนั้นถือได้ว่าเข้าวินมาเป็นอันดับแรกของการเป็นหนึ่งในข้อมูลการตัดสินใจเลือกซื้อสมาร์ทโฟนในปัจจุบันเลยทีเดียว เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่จะคำนึงถึงเรื่องของระบบปฏิบัติการก่อนเป็นอย่างแรก ซึ่งในปัจจุบันระบบปฏิบัติการของสมาร์ทโฟนก็มีมาให้เลือกมากมาย แต่ว่าที่มีผู้ใช้งานกันเยอะจริงๆ และยังคงมีแนวโน้มของผู้ใช้มากขึ้นเรื่อยๆ ก็คือ สมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android และ iOS นอกจากนี้ก็ยังมี Windows Phone ที่ก็มียอดผู้ใช้งานค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามลำดับ เช่นเดียวกัน ซึ่งแต่ละระบบปฏิบัติการนั้นก็มีความสามารถหรือรูปแบบที่แตกต่างกันไป โดยหากเป็นระบบปฏิบัติการ iOS แน่นอนว่าคุณจะได้สัมผัสกับสมาร์ทโฟนจาก Apple ที่มีผู้คนให้ความสนใจทั่วโลกอย่าง iPhone โดยทั้งรูปลักษณ์ของสมาร์ทโฟน รวมถึงยูเซอร์อินเตอร์เฟส หรือที่เรียกกันว่า UI ต่างมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังมีแอปพลิเคชันรองรับให้ใช้งานกันมากมายจากทาง Apple’s store หรือ App Store ในจุดนี้ถือว่าเป็นข้อดีสำหรับผู้ใช้งานเพราะจะทำให้ได้ใช้งานแอปพลิเคชันเจ๋งๆ จากนักพัฒนาแอปฯ ทั่วโลก เรียกได้ว่าทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์นั้นได้สร้างอัตลักษณ์ให้กับสมาร์ทโฟนอย่าง iPhone จนมีผู้ใช้งานทั่วโลกให้ความสนใจ ส่วน Android นั้นก็ถือว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่มีผู้ใช้งานมากอีกระบบปฏิบัติการหนึ่งเช่นเดียวกัน
โดยสาเหตุที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกให้ความสนใจนั้น ก็มาจากหลายๆ ปัจจัยด้วยกันซึ่งปัจจัยแรกน่าจะเป็นเรื่องของราคา ที่สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android นั้นมีผู้ผลิตหลายเจ้า หลายแบรนด์ ทำให้มีการผลิตสมาร์ทโฟน Android ออกมาหลายต่อหลายรุ่น และออกมาเป็นคู่แข่งทางการตลาดกับ iPhone ซึ่งความหลายหลายของผลิตภัณฑ์นั้นทำให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคที่มีงบกำจัดได้มากกว่า iPhone อีกทั้งในส่วนของการปรับแต่งเครื่อง ฮาร์ดแวร์ แอปพลิเคชันที่มีให้เลือกดาวน์โหลดกันใน Play Store อย่างมากมายไม่แพ้ App Store รวมไปถึงดีไซน์ที่มีมาให้ผู้บริโภคได้ตัดสินใจอย่างหลากหลายจากหลายค่ายผู้ผลิต ทำให้ Android กลายอีกทางเลือกหนึ่งที่เรียกความสนใจจากผู้บริโภคได้ทั่วโลกเช่นเดียวกัน
สำหรับ Windows Phone นั้นหลักๆ แล้วจะเป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกสร้างขึ้นมาให้สามารถใช้งานได้ใกล้เคียงกับระบบปฏิบัติการ Windows ที่เราใช้กันบนเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยจุดเด่นของ Windows Phone นั้น จะเป็นเรื่องของรูปร่างหน้าตาอินเตอร์เฟสที่เป็นเอกลักษณ์คล้ายกับ Windows 8 เป็นต้นไป มีแหล่งดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ใน Store เป็นของตนเอง แต่ทว่าการดาวน์โหลดแอปฯ หรือว่าแอปพลิเคชันต่างๆ ที่รองรับอาจจะยังมีไม่มากพอ ซึ่งผู้ใช้งานจำเป็นต้องรอคอยการพัฒนา หรือการปรับปรุงเวอร์ชันของ Windows Phone ในอนาคต
แล้วขนาดหน้าจอล่ะ ?
ขนาดหน้าจอ ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่เป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้ซื้อสมาร์ทโฟนให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ อีกเช่นกัน โดยขนาดหน้าจอของสมาร์ทโฟนในปัจจุบันนั้น จะสามารถแบ่งออกได้เป็นสามระดับ นั่นก็คือ
Small Screen (มีขนาดเล็กกว่า 4.5 นิ้ว)
สมาร์ทโฟนหน้าจอเล็กที่มีขนาดน้อยกว่า 4.5 นิ้ว ข้อดีของมันก็คือ ช่วยให้ผู้ที่ต้องการความคล่องตัวในการหยิบจับ สามารถพกพามันใส่กระเป๋ากางเกง หรือใส่กระเป๋าที่มีขนาดเล็กไปได้ทุกๆ ที่ สมาร์ทโฟนที่มีขนาดหน้าจอไม่ใหญ่มาก จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถหยิบจับมันได้อย่างคล่องมือ และพอดีกับการใช้งานซึ่งในบางครั้งหากใช้งานสมาร์ทโฟนมือเดียว ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องกางนิ้วออกมาก แต่ข้อเสียบางจุดก็คือ เวลาเล่นเกมส์ เล่นโซเชียลมีเดีย หรือดูหนังอาจจะไม่ถนัดเท่าใดนัก
Medium Screen (4.5 ถึง 5.4 นิ้ว)
สมาร์ทโฟนที่มีขนาดหน้าจอที่ถูกจัดอยู่ในขนาดกลางนั้น ส่วนใหญ่จะมีขนาด 4.5 ถึง 5.4 นิ้ว ซึ่งผู้ใช้งานยังคงสามารถใช้งานด้วยมือเดียวได้อยู่ สมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอขนาดกลางจำพวกนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความพอดีในการใช้งาน เพราะขนาดหน้าจอที่ดูไม่เล็กจนเกินไปหรือไม่ใหญ่เกินไป จะทำให้ผู้ใช้สามารถสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น การใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ก็จะสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน และดูสบายตากว่าหน้าจอขนาดเล็ก
Large Screen/Phablet (5.5 นิ้ว หรือมากกว่า)
สมาร์ทโฟนที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ประมาณ 5.5 นิ้วหรือมากกว่า มักจะถูกเรียกว่า Phablets ซึ่งหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ 5.5 นิ้วขึ้นไปนี้ ข้อดีของมันก็มีหลากหลายด้านด้วยกัน โดยไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในส่วนของแอปพลิเคชันต่างๆ รับชมมีเดียอย่างเช่นดูหนังฟังเพลง ดู MV หรือคลิปวิดีโอ หรือใช้เป็นเหมือนกับอุปกรณ์ในการอ่านหนังสือ E-Book หน้าจอที่มีขนาดใหญ่ 5.5 นิ้วขึ้นไปจะสามารถตอบโจทย์ในข้อนี้ได้เป็นอย่างดี แต่ทว่าผู้ใช้งานก็จำเป็นที่จะต้องแลกกับการที่เราต้องแบกเจ้า Phablets ซึ่งมีขนาดใหญ่ และน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นไปด้วยนะ
คุณภาพของหน้าจอก็เป็นสิ่งสำคัญ
เมื่อพูดเรื่องขนาดของหน้าจอไปแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ คุณภาพการแสดงผลของหน้าจอ เพราะสมาร์ทโฟนที่ดี แน่นอนว่าจอแสดงผลจำเป็นที่จะต้องดีด้วย โดยทั้งความคมชัดรวมถึงรายละเอียดของการแสดงผลต่างๆ ทางหน้าจอนับว่าเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นปัจจัยต้นๆ ที่จะทำให้ผู้ใช้งานเลือกซื้อสมาร์ทโฟนซักเครื่อง ซึ่งถ้าหากสมาร์ทโฟนของเรามีหน้าจอที่มีความคมชัด ให้แสงที่สวยงาม แน่นอนว่าย่อมส่งผลดีต่อการใช้งานของเราใช่มั้ยล่ะ เพราะไม่ว่าจะดูหนัง ดูรูปภาพ หรือใช้งานแอปพิลเคชั่นที่มาพร้อมกับกราฟิกสูงๆ เราก็จะสามารถรับชมภาพเหล่านั้นได้อย่างเต็มอรรถรส โดยหากมีงบถึงแนะนำให้เลือกซื้อสมาร์ทโฟนที่มีความละเอียดหน้าจอแบบ Full HD 1080p ขึ้นไป
หน่วยประมวลผล
สำหรับหน่วยประมวลผล (CPU) ถือเป็นสิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ซื้อมองข้ามไปไม่ได้เลย เพราะในปัจจุบันหากเราอยากได้สมาร์ทโฟนดีๆ ซักเครื่องที่จะสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน รวมถึงใช้งานเพื่อเอาไว้สำหรับรองรับกับแอปพลิเคชันใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ผู้ซื้อจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบสเปค หรือรายละเอียดรุ่นของสมาร์ทโฟนเครื่องนั้นอย่างละเอียด โดยเฉพาะเรื่องของหน่วยประมวลผล เพราะถ้าหากสมาร์ทโฟนของท่านใช้หน่วยประมวลผลที่เป็นรุ่นใหม่ และมีความรวดเร็วแล้วล่ะก็ แน่นอนว่าการใช้งานสมาร์ทโฟนของคุณก็จะลื่นไหล รวมถึงสามารถรองรับกับแอปพลิเคชัน และฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกนานเลยทีเดียว
แรม (RAM) และ รอม (ROM) Internal Storage ?
เมื่อพูดถึงหน่วยประมวลผลไปแล้ว สิ่งที่จะไม่พูดไม่ได้เลยก็คือหน่วยความจำ หรือแรม (RAM) และ Internal Storage หรือรอม (ROM) ซึ่งทั้งสองตัวนี้ถือเป็นหน่วยความจำด้วยกันทั้งคู่ แต่ต่างกันตรงที่แรม (RAM) จะเป็นหน่วยความจำหลัก แบบชั่วคราว มีไว้สำหรับเก็บข้อมูลที่รอเอาไปใช้ แต่รอม (ROM) จะเป็นหน่วยความจำถาวร หากอยู่บนสมาร์ทโฟนมันก็จะมีหน้าที่เอาไว้สำหรับเก็บแอปพลิเคชัน หรือไฟล์มีเดียต่างๆ เช่นหนัง หรือรูปภาพ ฯลฯ ทั้งสองสิ่งนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ผู้ซื้อควรคำนึงถึงให้มาก เพราะถ้าหากว่าสมาร์ทโฟนของเรามีหน่วยความจำมาก ทั้ง RAM และ ROM สมาร์ทโฟนของเราย่อมทำงาน รวมถึงรองรับการเก็บข้อมูล หรือโหลดแอปฯ ได้ดีกว่า (สำหรับ ROM นั้นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ส่วนใหญ่สามารถเพิ่มหน่วยความจำในจุดนี้ได้ด้วยการ์ดหน่วยความจำ แต่ RAM นั้น ผู้ใช้งานไม่สามารถใส่เพิ่มเหมือนคอมพิวเตอร์ได้) โดยหากใครที่กำลังจะซื้อสมาร์ทโฟนมาไว้สำหรับ เล่นแอปฯ แชท หรือโทรเข้าโทรออกธรรมดา ถ่ายรูปลงโซเชียลนิดหน่อย แรมเพียงแค่ 1 GB ก็น่าจะเพียงพอ แต่หากอยากได้สมาร์ทโฟนมาเพื่อเล่นเกมส์ หรือใช้งานแอปพลิเคชันที่ค่อนข้างหนักหน่วงพอสมควร ก็เลือกสมาร์ทโฟนที่มีแรม 2-3 GB ไปเลย เพราะคุ้มค่าคุ้มราคากว่า ส่วน ROM นั้น ก็น่าจะเป็นหลักการเดียวกัน โดยหากเน้นการใช้งานแอปฯ ต้องการโหลดแอปฯ หรือใส่ไฟล์มีเดียมากๆ ก็เลือกที่มีความจุมากๆ อย่าง 64 GB ไปเลย
ความจุของแบตเตอรี่ (Battery Life)
ความจุของแบตเตอรี่ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเช่นเดียวกันในการเลือกสมาร์ทโฟนซักเครื่อง เพราะสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับความจุของแบตเตอรี่ที่มาก จะยิ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานสมาร์ทโฟนของคุณได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น และยิ่งถ้าหากเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ที่มาพร้อมกับสเปคเครื่องที่สุดยอดด้วยแล้ว ย่อมจะกินแบตเตอรี่มากยิ่งขึ้นอยากแน่นอน ยกตัวอย่างเช่นหากสมาร์ทโฟนของคุณรองรับเครือข่าย 4G LTE แน่นอนว่ามันย่อมจะกินแบตฯ มาก หรือหน้าจอแสดงผลที่ยิ่งคมชัด และให้การแสดงผลยิ่งสวยเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เปลืองแบตเตอรี่ ดังนั้นความจุของแบตเตอรี่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้งานไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าหากซื้อสมาร์ทโฟนที่มีสเปคแรงจริง แต่ความจุของแบตเตอรี่มีเพียงน้อยนิด แน่นอนว่าคุณอาจจะต้องวิ่งหาที่ชาร์จอยู่บ่อยๆ หรือว่าต้องพก Power Bank อยู่ตลอดเวลา
กล้องถ่ายรูป
ปัจจุบันสิ่งที่คนส่วนใหญ่ถามหากับตัวแทนจำหน่ายมือถือ หรือพนักงานขายสมาร์ทโฟนคงจะหนีไม่พ้นคำถามที่ว่า ตัวนี้กล้องเท่าไหร่? แล้วกล้องหน้าล่ะ?... ดังนั้นกล้องถ่ายรูปของสมาร์ทโฟนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ให้ความสนใจ ยิ่งในสมัยนี้ที่ผู้คนนิยมให้ความสนใจกับการแชร์ข้อมูลบนโลกออนไลน์อย่างโซเชียลมีเดียด้วยแล้ว กล้องถ่ายรูปบนสมาร์ทโฟน ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากเพราะมันสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังติดตัวเราไปด้วยทุกที่ ซึ่งหลักการเลือกซื้อสมาร์ทโฟน หลายๆ คนอาจจะมองว่ากล้องยิ่งชัดเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะกล้องของสมาร์ทโฟนที่ดีนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความละเอียดเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับวัสดุของชิ้นเลนส์ เซ็นเซอร์ของกล้อง รวมถึงระบบประมวลผลของกล้องในส่วนอื่นๆ ด้วย ดังนั้นจึงไม่แปลกเลย ที่ในบางครั้งเราจะเห็นกล้องที่ความละเอียดน้อยกว่า แต่ถ่ายภาพได้สวยกว่ากล้องที่มีความละเอียดมากกว่า ดังนั้นการจะเลือกซื้อสมาร์ทโฟนกล้องสวย ก็ไม่ใช่ว่าผู้ซื้อจะต้องดูที่ความละเอียดของกล้องเพียงอย่างเดียว แต่ผู้ซื้อจำเป็นต้องทำการบ้านมาเป็นอย่างดี และตระหนักถึงส่วนประกอบอื่นๆ ของกล้องด้วย มิเช่นนั้นคุณอาจจะได้สมาร์ทโฟนกล้องความละเอียดสูง แต่ถ่ายภาพมายังไงก็ห่วยก็เป็นได้
สมาร์ทโฟนที่ดีนอกจากสเปคที่คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปแล้ว ดีไซน์ต้องดีด้วย
ดีไซน์ถือเป็นเรื่องที่ควรคำนึงถึงเช่นเดียวกัน สำหรับการเลือกซื้อสมาร์ทโฟน เพราะว่าดีไซน์ของสมาร์ทโฟนที่เราใช้ จะบ่งบอกถึงรสนิยมส่วนตัวของเรา หรืออีกนัยหนึ่งมันสามารถบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของผู้ใช้งานได้อีกด้วย ซึ่งมือถือแต่ละแบรนด์ แต่ละยี่ห้อต่างก็มีดีไซน์ และรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันไป (ไม่นับมือถือก็อปเกรด A นะ) อีกทั้งวัสดุที่นำมาใช้ทำเป็นตัวเครื่องต่างก็ไม่เหมือนกัน รวมถึงงานประกอบต่างๆ ดังนั้นผู้ซื้อควรทำการบ้านเป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน ในเรื่องของวัสดุ ดีไซน์ และงานประกอบของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแต่ละยี่ห้อ เพราะหากเราคำนึงถึงแค่เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง มันอาจจะดูไม่คุ้มค่าสำหรับการจ่ายเงินเพื่อสมาร์ทโฟน 1 เครื่อง ดังนั้นการศึกษารายละเอียด และเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ในเรื่องของรูปลักษณ์ ดีไซน์ วัสดุ รวมถึงความคงทนจากงานประกอบ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ซื้อ เพราะจะทำให้เราได้ของที่คุ้มค่า คุ้มราคา และถูกใจเรามากที่สุด และที่สำคัญทำให้ผู้ซื้อได้สมาร์ทที่ไม่ดูเชยล้าสมัยไปใช้งานอีกด้วย
ฟีเจอร์เสริมอื่นๆ
ฟีเจอร์เสริมอื่นๆ หลายๆ คนอาจจะไม่ได้คิดถึงจุดนี้ เพราะว่าหลักๆ แล้ว สมาร์ทโฟนก็จะมีเอาไว้ใช้งานในเรื่องของการเป็นโทรศัทพ์ ที่สามารถโทรเข้า โทรออก ส่งข้อความ ถ่ายรูป หรือใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ดาวน์โหลดมา แต่ใครจะรู้เลยว่าฟีเจอร์เสริมอื่นๆ ก็มีความสำคัญเหมือนกันนะ เพราะว่าฟีเจอร์เสริมนั้น ถือว่าเป็นลูกเล่นที่สมาร์ทโฟนในบางรุ่น หรือบางยี่ห้อได้ใส่เข้ามาให้เราเลือกใช้งานเพิ่มเติม ยกตัวอย่างเช่นฟีเจอร์ Wireless Charging ที่ผู้ใช้งานสามารถชาร์จสมาร์ทโฟน อย่าง Samsung Galaxy S6 ได้ โดยที่ไม่ต้องเสียบสายชาร์จ หรือฟังก์ชั่น สแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อกของ iPhone ซึ่งช่วยป้องกันความปลอดภัยให้กับสมาร์ทโฟนของคุณได้ในระดับหนึ่ง โดยฟีเจอร์เสริมเหล่านั้น ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มทางเลือกในการใช้งาน และเพิ่มความสามารถให้กับสมาร์ทโฟน ซึ่งสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับฟีเจอร์เสริมนับว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะช่วยให้ผู้ใช้งานสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน สมาร์ทโฟนที่มีมาพร้อมกับฟีเจอร์เสริม แน่นอนว่าก็ย่อมมาพร้อมกับราคาที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นผู้ใช้จึงต้องคำนึงถึงการใช้งานให้รอบคอบก่อนการเลือกซื้อ เพราะถ้าหากไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ฟีเจอร์เสริมขนาดนั้น ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเงินทีสูงกว่า เพื่อเลือกสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับค่าตัวที่สูงลิ่ว เพราะมาพร้อมฟีเจอร์เสริมที่ออกมาดึงดูดผู้บริโภค
สำหรับข้อมูลที่กล่าวไปยังข้างต้นนั้น ถือว่าเป็นข้อมูลบางส่วนที่จะช่วยให้ผู้อ่าน สามารถนำไปใช้เป็นหลักในการพิจารณาเลือกซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ของตนเอง ซึ่งทิปส์ที่ไทยแวร์นำมาฝากกันในวันนี้ถือว่าเป็นทิปส์กันลืมเกี่ยวกับข้อที่ควรนึกถึง สำหรับผู้ที่กำลังจะซื้อมือถือใหม่ซักเครื่องเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะช่วยให้มือใหม่ที่กำลังจะเลือกซื้อสมาร์ทโฟนได้รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งจำเป็นที่ควรนึกถึงหากอยากได้สมาร์ทโฟนดีๆ ซักเครื่องแล้ว ข้อมูลดังกล่าวยังสามารถเป็นไกด์ไลน์ที่นำไปสู่การเลือกซื้อสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่า กับราคาที่ต้องเสียไปอีกด้วย โดยหากใครที่กำลังอยากได้สมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ และได้นำเอาข้อมูลดังข้างต้นไปวิเคราะห์ร่วมด้วยแล้ว อาจจะทำให้เกิดปิ๊งไอเดียดีๆ ในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ที่ทั้งคุ้มค่ากับราคา และเหมาะสมกับการใช้งานของผู้อ่านก็เป็นได้