ปกติแล้ว แอปพลิเคชันและเกมบนมือถือที่อยู่บน Store จะมีให้ดาวน์โหลดฟรี แต่ถ้าอยากเอาโฆษณาออก หรือมีคุณสมบัติเพิ่มเติม ก็สามารถกดซื้อในแอปฯ หรือ In-App Purchase ได้ นั่นคือ ดาวน์โหลดแอปฯ ฟรี ในตอนแรก สามารถใช้คุณสมบัติในแอปฯ ได้ฟรี จะมีบางคุณสมบัติต้องซื้อ อันนี้ไม่ค่อยมีประเด็น เพราะว่า เราได้ใช้แอปฯ ฟรี ถ้าดีจริงๆ แล้วอยากใช้จริงๆ เราค่อยซื้อเพิ่มเพื่อปลดล็อกการปิดกั้นบางอย่าง เช่น ลายน้ำโลโก้แอปฯ และอีกแบบคือ แอปฯ แบบที่ต้องเสียเงินซื้อตั้งแต่แรก กรณีหลังนี้ ถ้าเราเสียเงินซื้อไปแล้ว ไม่พอใจ เกมเล่นแล้วไม่สนุก ไม่ชอบ ควบคุมยาก ภาพแย่ แอปฯไม่ดี UX UI ไม่ดี เราสามารถขอเงินคืนได้ โดยสิ่งที่เราจะต้องมีก็คือ ใบเสร็จรับเงิน ที่ปกติจะส่งให้เราผ่านอีเมล เพราะจะต้องใช้ เลขที่คำสั่งซื้อใบเสร็จรับเงิน ในการขอเงินคืน ถ้าเป็นบัญชี Google Play ก็จะเป็นอีเมลของ Gmail เดียวกับที่เราใช้สมัครบริการ Googla Play ผูกกับมือถือ Android หรือ iOS ก็เป็นอีเมลที่เราใช้สมัครบัญชี
ผู้เขียน ประสบปัญหาด้วยตนเอง จึงเป็นที่มาของบทความนี้ หลังจากที่ Mega Man Mobile เปิดให้ดาวน์โหลดวันแรก ด้วยราคาแอปฯ 77 บาท (ราคา อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันนั้น) เล่นๆไปแล้วควบคุมยาก แต่ดันติดประชุม เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว ไม่ได้เล่นแป๊ปเดียว แล้วขอเงินคืนทันที ก่อนอื่นเราไปดูเงื่อนไขของ Google Play Store ก่อน
การขอเงินคืน สามารถทำได้ ภายใต้เงื่อนไขของบริการ Store ที่เราซื้อ สำหรับ Google Play Store บนมือถือ Android นั้น แบ่งออกเป็น ขอเงินคืนภายใน 2 ชั่วโมง และภายใน 48 ชั่วโมงของการสั่งซื้อ
ถ้าซื้อแอปฯ เรียบร้อย ลองเล่นแล้ว ไม่ประทับใจ ภายใน 2 ชั่วโมงหลังกดซื้อ ขอเงินคืนได้ โดยเข้าไปที่หน้าของ Google Play Store แล้วเข้าไปที่เมนู บัญชี (Account) > ประวัติการสั่งซื้อ (Order History) และเลือก "ขอเงินคืน" (ถ้าภายใน 2 ชั่วโมง จะมีอยู่ในเมนูนี้) แต่ไม่เจอตรงนี้ แสดงว่าถ้าเกิน 2 ชั่วโมง ให้อ่านหัวข้อถัดไป
หากเกินจาก 2 ชั่วโมง แต่ไม่ถึง 48 ชั่วโมง จะต้องยื่นขอเงินคืนจากอีกเมนูนึงคือ "ความช่วยเหลือและความคิดเห็น (Help & Feedback)" จากนั้นเข้าไปที่ หัวข้อ "จัดการแอปของคุณ" จะมีส่วนของ "การคืนผลิตภัณฑ์และการคืนเงินใน Google Play" ยื่นแบบฟอร์มจากส่วนนี้ เพื่อขอเงินคืน
การกรอกยื่นขอเงินคืน จะต้องใช้ เลขที่ใบสั่งซื้อ จากอีเมลที่ส่งมาให้เราตอนที่กดซื้อแอปพลิเคชัน ผมซื้อแอปฯ ช่วง 9 โมงกว่า แต่ขอเงินคืนบ่ายโมงกว่า เลยระยะเวลา 2 ชั่วโมงแรกไปแล้ว แต่ยังอยู่ใน 48 ชั่วโมง
กดที่ "ส่งคำขอเงินคืนออนไลน์" กรอกแบบฟอร์มให้ครบถ้วนเพื่อขอคืนเงิน
ตรวจสอบอีเมลที่ใช้ซื้อให้ถูกต้อง กรอกชื่อ นามสกุลจริงที่สมัครไว้
เลือกประเภทของการสั่งซื้อ กรณีนี้ ผู้เขียนซื้อแอปฯ สังเกตว่า ถ้าเป็นการซื้อในแอปฯ หรือ In-App Purchase ที่กล่าวตอนต้นบทความก็มีให้เราป้อนตรงนี้ด้วย
สำคัญที่สุดคือ กรอกเลขที่ใบสั่งซื้อ จะใช้การ Copy - Paste จากอีเมลก็สะดวกดี (เอาจากอีเมลที่ยืนยันคำสั่งซื้อ)
กรอกสาเหตุการขอเงินคืนตามจริง แอปฯ ควบคุมยาก และไม่ตรงกับที่เราคาดหวังไว้แต่แรก
ผู้เขียน เลือกให้ส่งอีเมล รอแป๊บเดียว ก็มีอีเมลแจ้งผลการขอคืนเงิน และคืนเงินเข้าบัตรเรียบร้อย
ใน SMS ก็มีแจ้ง (ผู้เขียนใช้บริการ SMS แจ้งของบัตรเครดิต)
ตรวจสอบกับแอปฯ ของบัตรเครดิตที่เราใช้ซื้อแอปพลิเคชัน ได้เงินคืนทันทีแบบไวมาก ยื่นขอเงินคืน ก็ได้เงินคืนทันที
การขอเงินคืนสำหรับผู้ใช้ iPhone, iPad
สำหรับ iOS ผู้ที่ใช้ iPhone, iPad ซื้อแอปฯ เกม จาก Apple Store สามารถเข้าผ่านเว็บไซต์ https://reportaproblem.apple.com ล็อกอินด้วย Apple ID ของเรา จะเห็นรายการสั่งซื้อย้อนหลัง 90 วัน นั่นหมายความว่า เราสามารถขอเงินคืนได้ภายใน 90 วัน หลังจากซื้อ ซึ่งให้โอกาสได้นานกว่า Google Play Store บน Android โดยรวมถึง เพลง หนัง รายการทีวี แอปฯ หนังสือ
หากมีรายการที่เราสั่งซื้อ แล้วไม่ประทับใจ หรือเผลอกดซื้อพลาด (รวมไปถึงให้เด็กเล่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต แล้วมีค่าใช้จ่าย) ก็สามารถกด Report a Problem เพื่อยื่นขอเงินคืนได้ ถ้าเกิน 90 วัน ให้ติดต่อฝ่ายบริการช่วยเหลือของ iTunes Store แล้วเลือก สินค้าที่เราซื้อ การเรียกเก็บเงิน และการแลกใช้ ที่เว็บ https://getsupport.apple.com/
อีกแบบนึงก็คือ ค่าบริการในการสมัครสมาชิก หรือการสมัครรับข้อมูล ข่าวสาร เพลง ที่มีการต่ออายุโดยอัตโนมัติ อย่างเช่น การสมัครสมาชิก Apple Music การสมัครรับหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือพวก HBO NOW, Spotify, Netflix, Pandora, Hulu แบบนี้จะมีการตัดเงินเราทุกเดือน ส่วนนี้สามารถยกเลิกการรับสมาชิกรายเดือนได้
โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > iTunes Store และ App Store แตะที่ Apple ID ที่ด้านบนสุดของหน้าจอ หรือถ้าใครตั้งให้สแกนนิ้วก็สแกนนิ้ว
จัดการในส่วนของ Subscriptions เพื่อยกเลิกบริการที่หักรายเดือน
อ่านวิธีการยกเลิกเพิ่มเติมได้ที่ https://support.apple.com/th-th/HT202039
การซื้อแอปพลิเคชันของแท้ มีข้อดีตรงที่ สามารถขอเงินคืนได้ สะดวก ง่าย แต่อาจจะรอเวลาสัก 1 สัปดาห์ และสามารถขอการสนับสนุนจากผู้พัฒนาแอปฯ ได้ ผู้พัฒนาก็ทราบว่า แอปฯ ของตนมีข้อบกพร่องตรงไหน ทำไมคนซื้อแล้วขอเงินคืน มีอะไรที่ควรปรับปรุง อีกมุมนึง ก่อนซื้อแอปฯ แนะนำให้อ่าน ความคิดเห็นของผู้ที่เคยซื้อแอปฯ ไปใช้แล้วว่าเป็นอย่างไร ถ้าเราได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีกับแอปฯ ก็แนะนำให้ใส่ในช่องความคิดเห็นบน Store เพื่อให้คนอื่นๆทราบและพิจารณาก่อนซื้อแอปพลิเคชันนั้นๆ
|
ความคิดเห็นที่ 1
25 เมษายน 2564 09:12:48
|
|||||||||||
GUEST |
พลวัฒน์
ทำแบบไหนก็ไม่ได้ครับ เติมไปเมื่อไม่กี่ขั่วโมงนี้เองมันบอกแต่ว่า ไม่เป็นไปตามนโยบาย
|
||||||||||