ระบบปฏิบัติการ Windows เป็นระบบปฏิบัติการที่มีมาอย่างยาวนาน หลายสิบปีแล้ว และผ่านการพัฒนามาหลายเวอร์ชัน (ประวัติการพัฒนาของระบบปฏิบัติการ Windows เวอร์ชันต่าง ๆ) ซึ่งหากเราแบ่งตามฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสมต่อการใช้งานแล้ว จะมี Windows กับ Windows Server ซึ่งทั้งคู่หน้าตาแทบจะเหมือนกัน แต่ว่ามันได้รับการออกแบบมาให้เหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกันนะ
แรกเริ่มเดิมที ระบบปฏิบัติการ Windows ทำมาให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล แต่เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น เครือข่ายต่าง ๆ ขยายใหญ่ว่าเดิม ทำให้ Microsoft เริ่มพัฒนาระบบปฏิบัติการ Windows สำหรับใช้ด้านธุรกิจ และเครือข่าย ที่ต้องมีการควบคุมดูแลทรัพยากรระบบที่สูงกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลขึ้นมา
หลายคนน่าจะสงสัยว่ามันต่างกันอย่างไร ส่วนใหญ่เราก็น่าจะใช้งาน Windows 10 กันแหละ แต่หากอยากจะใช้ Windows Server บ้าง จะใช้ได้หรือเปล่า สามารถดูหนัง ทำงาน ฟังเพลง เล่นเกมได้หรือไม่ ? สามารถหาคำตอบได้ในบทความนี้เลยครับ
ก่อนจะไปถึงความแตกต่าง เราอยากจะเล่าถึงความเป็นมาของมันก่อนสักเล็กน้อย ว่า Windows Server มีที่มาที่ไปอย่างไร
Windows สำหรับ Server เวอร์ชันแรกนั้น คือ Windows NT Advanced Server 3.1 เปิดตัวในปี ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) ทาง Microsoft ได้เปิดตัวออกมา 2 เวอร์ชัน คือ เวอร์ชันสำหรับใช้ในเครื่องเทอร์มินัล และเวอร์ชันสำหรับเซิร์ฟเวอร์
Windows NT คำว่า NT ย่อมาจาก New Technology ที่แปลว่า "เทคโนโลยีใหม่"
ถัดมาในปี ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) ทาง Microsoft ได้เปิดตัว Windows NT Server 3.5 ที่มีการปรับปรุงให้รองรับการทำงานร่วมกับระบบ Unix และระบบ Novell Netware ซึ่งในเวลานั้นระบบเครือข่ายส่วนใหญ่จะใช้สองระบบนี้เป็นหลัก ในฐานะผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดแล้ว การที่ Windows NT Server 3.5 ทำงานร่วมกับระบบเดิมได้ทำให้มันเป็นที่ยอมรับในตลาดได้ง่ายขึ้น
พอเข้าไป ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) ซึ่งปีนี้ทาง Microsoft ได้เปิดตัว Windows 95 ที่มีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จนแทบไม่เหลือเค้าเดิมของ Windows 3.1x แล้วก็มี Windows NT Server 3.51 เปิดตัวด้วยในเวลาไล่เลี่ยกัน Windows NT Server 3.51 มีความสามารถในการบริหารจัดการคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Windows 95 อย่างงานพวกดูแลจัดการสิทธิ์การใช้งานซอฟต์แวร์ (Software License) งานติดตั้งอัปเดต Windows ให้กับคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในระบบ ผ่านเครือข่ายได้
ภาพจาก https://www.youtube.com/watch?v=Be50Xj3CTBg
Windows NT Server 4.0 ที่เปิดตัวในปี ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) เป็นเวอร์ชันสุดท้ายที่มีพ่วงคำว่า "NT" มันเป็นเวอร์ชันที่น่าจดจำด้วยเหตุผลหลายอย่าง ประการแรกมันเป็นครั้งแรกที่หน้าตาถูกออกแบบให้มีความเหมือนกับ Windows 9x (ก่อนหน้านี้หน้าตาจะเหมือน Windows 3.1x) และมันยังมาพร้อมกับระบบ IIS 2.0 (Internet Information Services) ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกลายมาเป็นซอฟต์แวร์ Web server ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งอยู่หลายสิบปี (ถูก Apache แซงไปในปี ค.ศ. 2018 หรือ พ.ศ. 2561)
Microsoft ได้ตัดชื่อ NT ออกไปในปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ด้วยการเปิดตัว Windows Server 2000 หลังจากนั้นเป็นต้นมา ชื่อเวอร์ชันของ Windows Server ก็จะตามด้วยปีที่เปิดตัว
Windows Server จะมาพร้อมกับมาตรการสนับสนุนที่เรียกว่า Long Term Servicing Channel (LTSC) พูดง่าย ๆ คือ ให้การสนับสนุนระยะยาว โดย Microsoft จะให้การสนับสนุนยาวนานถึง 10 ปี โดย 5 ปีแรก จะเป็น Mainstream support และ Extended support ได้อีก 5 ปี
Windows Server 2000 มาพร้อมกับความสามารถหลายอย่างที่ยังคงถูกใช้มาจนถึงปัจจุบันนี้ อย่างเช่น มันสนับสนุนการทำงานของ XML, Active Server Pages (ASP), Active Directory สำหรับการทำ User authentication และ Windows Server 2000 ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการแบ่งรุ่น Windows ตามความเหมาะสม โดยมันมีถึง 3 เวอร์ชันให้เลือกใช้งานเลยล่ะ คือ
ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Windows_Server_2019
เกร็ดน่าสนใจ
Microsoft ยังมี Windows Server แบบ Semi-Annual Channel (SAC) อีกด้วยนะ มันถูกตัด GUI desktop environments ออกไป แล้วทำให้รองรับ Server Core และ Nano Server ออกแบบมาให้มีขนาดที่เล็กมาก เพื่อให้เหมาะสมกับการทำงานบน Cloud ที่เป็นเทรนด์นิยมในปัจจุบันนี้
ขณะนี้มีออกมา 3 เวอร์ชัน คือ (เลขเวอร์ชัน คือ ปีตามด้วยเดือน เช่น เวอร์ชันแรกคือ เปิดตัวปี 2018 เดือน 03)
- Windows Server เวอร์ชัน 1803
- Windows Server เวอร์ชัน 1809
- Windows Server เวอร์ชัน 1903
หากคุณเพิ่งติดตั้ง Windows 10 หรือ Windows Server 2019 มาใหม่ ๆ คุณอาจจะเกิดความสับสนระหว่าง 2 เวอร์ชันได้ เพราะมันใช้โค้ดพัฒนาร่วมกัน ทำให้หน้าตาเหมือนกันมาก มีปุ่ม Start, หน้าจอ Desktop ฯลฯ เหมือนกันหมด มี Kernel เหมือนกัน สามารถติดตั้งโปรแกรมเพิ่มได้เหมือนกันหมด
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความเหมือน แต่ความแตกต่างมีมากพอสมควรนะ Windows ธรรมดาออกแบบมาเพื่อใช้งานทั่วไป ในขณะที่ Windows Server ออกแบบมาให้รองรับบริการผู้ใช้ที่อยู่ในเครือข่าย ทำให้มีพวกเครื่องมือต่าง ๆ ให้ใช้งานแตกต่างกันเป็นอย่างมาก
มีข้อแตกต่าง ๆ หลายอย่างระหว่าง Windows ปกติ กับ Windows Server มาลองดูรายละเอียดเบื้องต้นกันคร่าว ๆ
เพราะ Windows ทั้ง 2 เวอร์ชันนี้ ถูกออกแบบมาให้ใช้งานคนละประเภท ซอฟต์แวร์ที่ให้มาจึงแตกต่างกันเป็นอย่างมาก
ภาพจาก https://www.microsoft.com/en-us/cloud-platform/windows-server-pricing
ถ้าได้อ่านความแตกต่างด้านบนแล้ว ก็น่าจะเข้าใจจุดประสงค์ในการทำงานที่แตกต่างระหว่าง Windows ธรรมดากับ Windows Server กันไปแล้ว จะเห็นได้ว่า Windows Server ออกแบบมาสำหรับใช้ในเซิร์ฟเวอร์ตามชื่อของมันเลย เอาไว้ใช้ในเครื่องที่เป็นฐานข้อมูล สำหรับให้บริการข้อมูลกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ หรือจะใช้ในเรื่องของ
แม้เราจะบอกว่าตัวโค้ดของ Windows Server กับ Windows ปกติจะมีพื้นฐานร่วมกัน แต่พวกไฟล์ระบบ และไดร์เวอร์ต่าง ๆ มันไม่เหมือนกันนะครับ เนื่องจากคำถามนี้ค่อนข้างกว้าง เราจึงขอตอบแบบคร่าว ๆ นะครับ
ระบบปฏิบัติการ Windows Server 2019 รองรับการทำงานของ Office 365 ProPlus
เท่าที่เช็คกับหน้า สนับสนุนของ โปรแกรม Adobe ไม่สามารถทำงานได้
ได้ แต่ไม่ง่าย จำเป็นต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ และไดร์เวอร์เพิ่ม รวมถึงการตั้งค่าอีกหลายอย่าง
ระบบปฏิบัติการ Windows Server ทำงาน และยุ่งเกี่ยวกับงานด้านเครือข่ายเป็นหลักอยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่จะเล่นอินเทอร์เน็ตไม่ได้ โดยมันสามารถติดตั้ง เว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) เพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วไปได้เลย อย่างน้อยก็ โปรแกรม Internet Explorer 11 ที่ติดมากับตัว Windows Server ในขณะที่ โปรแกรม Mozilla Firefox หรือ โปรแกรม Google Chrome เว็บเบราว์เซอร์ยอดนิยม ก็สามารถดาวน์โหลดมาติดตั้งได้เช่นกัน
ท้ายที่สุดแล้ว แม้ Windows Server และ Windows ปกติ จะมีหน้าตาที่คล้าย ๆ กัน แต่การใช้งานนั้นแตกต่างโดยสิ้นเชิง
Windows ปกติออกแบบมาให้ใช้งานทั่วไปเป็นหลัก และมีลูกเล่นเสริมเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ ส่วน Windows Server ออกแบบมาเพื่อให้บริการงานหลาย ๆ อย่าง ให้กับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ
ทีนี้ก็น่าจะได้คำตอบกันแล้วล่ะ ว่าจะใช้ Windows แบบไหนดี
ความคิดเห็นที่ 3
21 พฤษภาคม 2558 13:28:00
|
|||||||||||
GUEST |
ุ่hoho
555
|
||||||||||
ความคิดเห็นที่ 2
7 มีนาคม 2557 11:37:32
|
|||||||||||
GUEST |
2557
กากเกรียน
|
||||||||||
ความคิดเห็นที่ 1
22 พฤศจิกายน 2555 11:08:33
|
|||||||||||
GUEST |
pop
ดี
|
||||||||||