ย้อนไปเมื่อตอน Apple เปิดตัว iPhone X ที่มาพร้อมกับกล้องหน้า TrueDepth ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ใบหน้าของเซ็นเซอร์ในตัวกล้อง Apple ได้นำมาพัฒนาลูกเล่นที่เรียกว่า Animoji มันเป็นการทำอนิเมชั่นตัวการ์ตูนให้ขยับได้ตามใบหน้าของเรา โดยสามารถจับความเคลื่อนไหวของปากในเวลาพูด, การกระพริบตา และการส่ายหน้าไปมาได้อย่างแม่นยำ
6 เดือนผ่านมา Samsung ได้เปิดตัว Galaxy S9 ซึ่งหนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ที่ถูกใส่เข้ามา ก็คือ ลูกเล่นที่มีชื่อว่า AR Emoji เป็นการใช้กล้องหน้าควบคุมตัวการ์ตูนคล้ายกับ Animoji
การทำงานของทั้งสองสิ่งนี้ ฟังดูจะคล้ายๆ กัน แต่เอาจริงๆ มันค่อนข้างแตกต่างกันมากพอสมควรเลยล่ะ แตกต่างกันอย่าง มาดูกันครับ
Animoji ใช้เทคโนโลยี TrueDepth ที่มีอยู่ในกล้องของ iPhone X ในการสร้างแผนที่ 3 มิติ ของใบหน้าของผู้ใช้ขึ้นมา แล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวให้ตรงกันกับตัวโมเดลอนิเมชั่น ซึ่งจับได้ละเอียด และค่อนข้างแม่นยำมาก
การบันทึก Animoji จะทำผ่านแอปฯ Messages บน iOS 11 บน iPhone X เท่านั้น โดยมีตัวการ์ตูนให้เลือกใช้อยู่ 12 แบบ สามารถบันทึกเป็นวิดีโอได้ความยาวสูงสุด 10 วินาที โดยมันจะบันทึกทั้งสีหน้า และเสียงพูดของเรา รวมถึงสามารถบันทึก Animoji เก็บไว้ในเครื่อง หรือส่งต่อผ่านแอปฯ อื่นได้ด้วย
AR Emoji บน Galaxy S9 ทำงานโดยพึ่งพากล้องหน้า 8MP f/1.7AF ที่มีอยู่ ในการใช้งานครั้งแรก เราจะต้องตั้งค่าก่อน ด้วยการถ่ายภาพเซลฟี่ของตนเอง จากนั้นซอฟต์แวร์ Machine learning ภายในเครื่องจะทำการสร้างตัวอนิเมชั่นของเราขึ้นมาให้ โดยตัวการ์ตูนที่ได้จะมีความคล้ายกับเราเป็นอย่างมาก การจับความเคลื่อนไหวของใบหน้าก็สามารถทำได้เช่นกัน
ข้อดีของ AR Emoji คือ ตัวละครที่เราสร้างขึ้นมา สามารถปรับเปลี่ยนทรงผม, ตกแต่งตัวละครอย่างเช่น ใส่แว่นตา, เสื้อผ้า ฯลฯ เพิ่มได้ การสร้าง AR Emoji สามารถทำได้ผ่านตัวคีย์บอร์ดที่มาพร้อมกับรอมเครื่อง หรือแอปฯ Messages ก็ได้ การบันทึกไฟล์สามารถบันทึกเป็นวิดีโอ, ภาพ GIF หรือ PNG ได้ตามต้องการ ทำให้ส่งต่อไปยังแอปฯ อื่นได้ง่ายๆ
จุดนี้ ต้องยกให้ Animoji ตัวกล้อง TrueDepth สามารถจับความเคลื่อนไหว ได้ค่อนข้างละเอียด ดวงตา, คิ้ว, การขยับปาก จะละเอียด และแม่นยำกว่า AR Emoji อยู่พอสมควร
You are the one for me pic.twitter.com/SBfOlZBv4c
— Animoji Karaoke (@AnimojiVids) November 5, 2017
Animoji มีตัวการ์ตูนให้เลือกใช้อยู่ 12 ตัว ซึ่งทาง Aooke ระบุว่าจะเพิ่มเข้ามาอีกใน iOS 11.3 อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับความสามารถในการปรับแต่งกับ AR Emoji แล้ว ของฝั่ง Samsung ทำได้เยอะกว่ามาก ไหนจะเรื่องสร้างตัวละครได้เอง ตัวละครที่สร้างมาแล้ว สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้อีก อย่างทรงผม และการแต่งกายเป็นต้น
การแชร์,บันทึก และสร้าง Animoji จะต้องเริ่มต้นที่แอปฯ Messages บน iPhone x เท่านั้น และแม้ว่าจะสามารถแชร์เป็นภาพ GIF บน Social Network ได้ด้วย แต่หากเทียบกับ AR Emoji ของ Samsung ที่สามารถสร้างจากที่ไหนก็ได้ เพราะเป็นการเรียกการใช้งานผ่านคีย์บอร์ดที่มากับเครื่อง AR Emoji ก็ถือว่าสะดวกกว่ามาก อีกทั้งมันยังสร้างสติ๊กเกอร์เป็นคอลเลคชั่นได้ถึง 18 ภาพ ให้เราเรียกใช้งานได้ง่ายๆ การแชร์สามารถเลือกได้ทั้งไฟล์ GIF หรือ PNG
แม้ว่า Animoji และ AR Emoji จะมีชื่อที่คล้ายกัน และเป้าหมายในการใช้คล้ายคลึงกัน แต่รูปแบบการทำงาน และเทคโนโลยีที่ใช้ก็ค่อนข้างแตกต่างกันพอสมควรนะครับ
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |