ไม่หมกเม็ด! ''6 เทคนิค'' ที่จะทำให้คุณเก่งขึ้นใน Dragon Ball Legends!

แม้ Dragon Ball Legends จะมีส่วนผสมของเกมส์แนว RPG บนมือถือ (Mobile RPG) ในปริมาณที่สูงตามสูตรของเกมส์แพลตฟอร์มดังกล่าว แต่กระนั้น ในภาคของการต่อสู้เอง กลับทำออกมาได้สนุกชวนให้ลุ้นระทึก และซ้ำยังต้องอาศัยฝีมือในการเล่นเป็นหนึ่งในตัวกำหนดผลแพ้ชนะ ด้วยเหตุนี้ผู้เขียนจึงหาเทคนิคดีๆ ที่จะทำให้ผู้เล่นมันส์และเชี่ยวชาญในการต่อสู้ของเกมส์นี้มากยิ่งขึ้น แต่มันจะมีอะไรบ้าง เชิญตามอ่านต่อกันได้เลยครับ!  

1. หลบการโจมตีและสวนกลับอีกฝั่งด้วยท่าเคลื่อนไหวชั่วพริบตา!

เห็นเครื่องหมายตกใจเมื่อใดตวัดนิ้วไปทางซ้ายหรือขวาเพื่อหลบและสวนกลับได้เลย!

หากผู้เล่นทำการตวัดหน้าจอนิ้วไปทางซ้ายหรือขวาในจังหวะที่เห็นไอคอนเครื่องหมายตกใจปรากฎขึ้น ตัวละครของผู้เล่นก็จะทำการใช้ท่าเคลื่อนไหวชั่วพริบตา (Vanishing Step)โดยอัตโนมัติที่เป็นการหลบการโจมตีของอีกฝั่งพร้อมหายตัวไปปรากฎอยู่ใกล้ๆ กับศัตรู (ซึ่งจะโต้กลับด้วยวิธีไหนก็ตามแต่เราละ) แต่ท่านี้เมื่อใช้ไปแล้ว ก็อาจจะต้องรอคูลน์ดาวสักนิดถึงจะกลับไปใช้ใหม่ได้ 

2. ลูกศรตรงไอคอนตัวละครในตอนต่อสู้จะบ่งบอกว่าแพ้หรือชนะธาตุ

ตามขนบของเกมส์ที่ผสมโรงแนว RPG มือถือ ที่จะต้องมีระบบชนะ/แพ้ธาตุศัตรูเข้ามาเพื่อเสริมให้ผู้เล่นมีความได้เปรียบในการต่อสู้มากขึ้น (และเสียเงินเติมกาชามากขึ้นด้วยเช่นกัน...) ซึ่งโชคดีที่ Dragon Ball Legends ค่อนข้างอำนวยความสะดวกให้ผู้เล่นพอสมควร เพราะเราจะสามารถรับรู้ได้ในการต่อสู้ (จากปกติของเกมส์อื่นแนวเดียวกันต้องดูจากหน้าจอตอนหยุดเกมส์หรือไม่ก็หน้าเมนูหรือดัชนีย์นู่นแหน่ะ) ได้ในทันที โดยเครื่องหมาย "ลูกศรสีฟ้าชี้ขึ้น" จะแปลว่าตัวละครปัจจุบันของผู้เล่นมีธาตุที่ชนะฝั่งตรงข้าม และกลับกันหากเห็น "ลูกศรสีแดงชี้ลง" คือตัวละครตัวนั้นแพ้ทางนั่นเองครับ

3. หากใช้การ์ดโจมตีประเภทไหนสำเร็จ การตามด้วยการ์ดพุ่งเข้าโจมตี (Strike) จะเป็นท่าที่ "หลบความเสียหายไม่ได้"

        
ภาพซ้ายคือการใช้ท่าการ์ดสีแดง (Strike) โดยไม่ได้ใช้ท่าการ์ดสีเหลือง (Blast) ก่อน | ภาพขวาคือการใช้คอมโบสร้างความเสียหายด้วยการ์ดเหลืองและต่อด้วยการ์ดแดงสำเร็จซึ่งศัตรูจะหลบความเสียหายไม่ได้ (แถมมีอนิเมชั่นเท่ๆ ให้ดูด้วย!)

แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่ฝั่งของเราที่สามารถใช้ท่าเคลื่อนไหวชั่วพริบตา อีกฝั่งเองถ้าหากมีสติพอก็ทำได้เช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าอยากจะสร้างความเสียหายให้กับอีกฝั่งแบบชัวร์แล้วละก็ ให้เราลองหาจังหวะใช้การ์ดประเภทโจมตีแบบใดก็ได้และสร้างความเสียหายให้สำเร็จ จากนั้นให้เราตามด้วยการ์ดสีแดง (Strike) ต่อในทันที ความเสียหายจากท่าของการ์ดอันหลังนี้จะโดนใส่ศัตรูแน่นอน แถมตัวเกมส์ยังใส่อนิเมชั่นสั้นๆ มาให้เราดูเพื่อเป็นการรับประกันว่า "โดนจริงๆ นะจ๊ะ!" (ฮ่าๆ) 

4. ถ้ารักษาระยะห่างจากอีกฝั่งมากพอการโจมตีจากการ์ดระยะไกล (Blast) จะใช้ป้องกันท่าของการ์ดเดียวกันนี้ได้

เป็นอีกหนึ่งวิธีป้องกันความเสียหายที่โอเคใช้ได้ คือการรักษาระยะห่างจากศัตรูที่นอกจากจะเป็นการคิดหาจังหวะเข้าทำแล้ว หากฝั่งตรงข้ามใช้การ์ดโจมตีระยะไกลมา ผู้เล่นจะสามารถใช้การ์ดเดียวกันนี้ในการป้องกันพลังโจมตีได้ด้วยนะ 

5. ตะวัดนิ้วไปขึ้นบนเพื่อพุ่งเข้าหาอีกฝั่งด้วยความรวดเร็ว (Dash ไงละ!)

ถ้ากะจังหวะดีๆ จะกลายเป็นคอมโบแบบอินฟินิตี้เลยทีเดียว

นอกเหนือจากการ์ดสีแดง (Strike) แล้ว ตัวเกมส์ยังสามารถแดชหรือเคลื่อนที่เขาหาศัตรูด้วยความเร็วสูงโดยไม่ต้องเสียค่าพลังอะไรเลยอยู่ แถมวิธีการใช้ก็ง่ายๆ เพียงผู้เล่นตวัดนิ้วทิศทางขึ้นข้างบนแค่นั้น ซึ่งท่านี้ผู้เขียนแนะนำให้ใช้หลังจากที่เราสร้างความเสียหายเสร็จเพื่อเป็นการต่อคอมโบสร้างความเสียหายต่อไม่ให้ศัตรูกดหลบได้ง่ายๆ เพราะยิ่งระยะประชั้นชิดมากเท่าไหร่ เครื่องหมายตกใจหรือท่าเคลื่อนไหวชั่วพริบตาจะยิ่งกดยากมากขึ้นนั่นเอง

6. ตัวละครที่กำลัง EXP Training อยู่เอาไปเล่นได้ตามปกตินั่นแหละ

รูปกระดองเต่าหมายถึงตัวละครตัวนั้นกำลัง EXP Training อยู่ แต่จริงๆ ก็ยังสามารถเอามาเล่นได้อยู่นะ 

อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าตัวละครที่กำลัง EXP Training อยู่เราจะต้องปล่อยให้พี่แกเพิ่มเลเวลจนครบเวลาที่เราเลือก (30 นาที - 3 ชั่วโมง) เพราะจริงๆ แล้วเรายังสามารถเอาตัวละครเหล่านั้นไปใช้เล่นได้อยู่ ก็ลองนึกภาพตามสิว่าหากตัวละครตัวนั้นเป็นตัวโปรดและตัวถนัดของเรา แต่ไม่สามารถเอามาลง PVP หรือใช้ผ่านเนื้อเรื่องที่โหดขึ้นเรื่อยๆ ได้ เราจะต้องรอจนเหงือกแห้งขนาดไหน...

ก็หวังว่าเทคนิคของเกมส์ Dragon Ball Legends นี้จะมีประโยชน์สำหรับแฟนๆ หรือเกมเมอร์ไม่มากก็น้อยนะ ซึ่งถ้าผู้เขียนเจอเทคนิคหรืออะไรเจ๋งๆ อีกไม่ต้องห่วงครับเดี๋ยวจะรีบเอามานำเสนออีกแน่นอน ขอให้สาดคลื่นเต่ากันอย่างเมามันส์นะวัยรุ่น!