ถึงแม้ว่าเราจะเคยได้ยิน ระบบเสียง 7.1 (7.1 Surround Sound) กันมาบ้างแล้ว แต่เชื่อว่าหลายคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ อาจจะยังทำความรู้จักกับมันไม่มากพอ โดยเฉพาะระบบเสียง 7.1 ที่หูฟังเกมมิ่งหลาย ๆ รุ่น หลาย ๆ ยี่ห้อพยายามชูจุดขายเรื่องคุณสมบัติความสมจริงของเสียงแบบนี้ในหูฟังของตนเอง
ซึ่งหูฟังที่มีคุณสมบัติดังกล่าว มักจะมีราคาที่สูงกว่าหูฟังรุ่นอื่น ๆ ด้วย ทั้งแบบมีสายและแบบไร้สาย แล้วถ้าเราบอกว่า หูฟังที่มีคุณสมบัตินี้ มันกำลังทำให้คุณเปลืองเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ล่ะ ? มันเป็นแบบนั้นเพราะอะไร ? ทำไมถึงเปลืองเงินโดยใช่เหตุ ? เราจะไปแจกแจงกันทีละข้อเลย
ระบบเสียงรอบทิศทาง (Surround Sound System) เป็นเทคนิคเสียงที่ใช้การส่งเสียงออกพร้อมกันหลายช่องทาง (ผ่านลำโพงหลายตัว) โดยลำโพงเหล่านั้นจะต้องถูกติดตั้งในพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับผู้ฟังเพื่อการสร้างประสบการณ์การรับฟังเสียงแบบ 360 องศา ซึ่งก็จะมีประเภทของเสียงรอบทิศทางที่แตกต่างกันออกไป แต่ประเภทเสียงที่เป็นตัวหลัก ๆ และเป็นที่นิยมก็คือ 5.1, 6.1, และ 7.1 เป็นต้น
ที่มาภาพ : https://en.wikipedia.org/wiki/Surround_sound
แล้วเลขที่อยู่ข้างหน้ามันต่างกันอย่างไร ? คำตอบก็คือ ตัวเลขที่อยู่ข้างหน้า จะแสดงถึงจำนวนลำโพงที่ต้องการในระบบเสียงนั้น ๆ โดย "เลขตัวแรก" คือจำนวนลำโพงหลัก และ "ตัวเลข .1" หมายถึงจำนวนซับวูฟเฟอร์ (Subwoofer) นั่นหมายถึง "ระบบเสียง 7.1" จะต้องใช้ลำโพงทั้งหมด 7 ตัวและอีก 1 ซับวูฟเฟอร์นั่นเอง
ที่มาภาพ : https://www.klipsch.com/blog/surround-sound-speaker-setup
อย่างที่เราได้อธิบายไปข้างต้นแล้วว่า คุณจะต้องใช้ลำโพงหลายตัวในการสร้างระบบเสียงรอบทิศทางขึ้นมา แต่หูฟังนั้นมีช่องทางออกของเสียงแค่สองช่องเท่านั้น (หูซ้ายกับหูขวาไง) รู้อย่างนี้แล้ว คุณกำลังคาดหวังว่าจะได้ยินอะไรไปมากกว่าการได้ยินเสียงจากลำโพงที่มีอยู่สองตัวกันล่ะ ?
ในหูฟังบางรุ่น เช่น หูฟัง Razer Tiamat มีไดรเวอร์ (Driver) หลายตัวในหูแต่ละข้าง แต่มันก็ทำให้เสียงดีขึ้นมานิดหน่อยเท่านั้นเอง และอาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ทาง Razer หยุดพัฒนาไลน์ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไปแล้ว เพราะถ้าหูฟัง Tiamat ดีจริง เหล่าผู้ที่ชื่นชอบเสียงเพลงคุณภาพสูง (Audiophiles) จะต้องหาจับจองเป็นเจ้าของจนยอดพุ่งแล้วแน่นอน
ที่มาภาพ : https://www.youtube.com/watch?v=wxxnX7mg74w
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบเสียงรอบทิศทางที่มีให้ในหูฟังเกมมิ่งนั้น ออกจะเป็นสรรพคุณที่เกินจริงไปหน่อย อีกทั้งหูฟังบางรุ่นยังไม่ได้แม้แต่ใช้เทคนิคในการปรับแต่งเสียงด้วยซ้ำ เพียงแค่ใช้การตั้งค่าอีควอไลเซอร์ (Equalizer) เพิ่มเติมให้เสียงเหมาะสมเท่านั้น ซึ่งไม่คุ้มค่าเลยกับเงินที่คุณต้องเสียเพิ่ม
เมื่อพูดถึงเรื่องระบบเสียงรอบทิศทาง ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่อง Head-Related Transfer Function (HRTF) ตัดเรื่องการคำนวนตัวเลขยุ่งยากออกไป HRTF ก็คือการคำนวณหาคลื่นเสียงว่าจะกระทบศีรษะและหูของมนุษย์อย่างไร ? การคำนวณนี้จะถูกนำไปใช้กับสัญญาณเสียงเพื่อจำลองว่าเสียงจะออกมาเป็นแบบไหนในหูฟังของคุณ
ที่มาภาพ : https://www.researchgate.net/figure/a-Illustration-of-the-head-related-transfer-function-b-Simple-linear-system_fig2_307971410
อย่างไรก็ตาม HRTF ไม่ได้สมบูรณ์แบบขนาดนั้น และสูตรคำนวณที่ว่า ก็อ้างอิงตามโมเดลศีรษะและรูปทรงใบหูทั่วไป ซึ่งโมเดลดังกล่าวอาจจะไม่ได้เหมือนรูปทรงใบหูหรือศีรษะของคุณซะทีเดียว มันก็แค่ดีพอสำหรับคนส่วนใหญ่เฉย ๆ
ปัญหาทั่วไปส่วนใหญ่ของ HRTF บนหูฟังสเตริโอ คือการแยกเสียงให้ออกทางด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่ง Dolby Atmos และ DTS Headphone : X ในบรรดาผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุดที่ถูกผลิตออกมา สามารถนำเสนอเสียงให้คุณรู้สึกว่าดังมาจากทางด้านหลังได้ แต่การทำให้ทิศทางเสียงเหมือนเข้ามาจากด้านหน้านั้น มันจะฟังเหมือนอยู่เหนือขึ้นไปด้านบนมากกว่า ซึ่งการได้ยินดังกล่าวก็อาจแตกต่างกันไปตามรูปศีรษะและหูฟังที่คุณใช้อยู่ด้วย
หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การฟังเสียงในรูปแบบ 3 มิติ และการฟังเสียงที่ดีแล้วล่ะก็ ควรเลือกซื้อหูฟังที่ให้เสียงที่ดีในแบบฉบับที่มันควรเป็น อาจจะพ่วงด้วย Dolby Atmos หรือ DTS Headphone : X ถ้าคุณงบถึง ถึงแม้ว่า Microsoft จะมีซอฟต์แวร์ HRTF รวมมาให้อยู่ในระบบปฏิบัติการ Windows แล้วก็ตาม แต่มันก็ไม่ได้แยกเสียงได้ดีเท่ากับ 2 ระบบเสียงก่อนหน้าที่พูดถึงหรอก
ที่มาภาพ : https://www.crutchfield.com/S-YaRnRxR3481/learn/dts-x-vs-dolby-atmos.html
ถ้าหากคุณเล่นเกมในที่เงียบสงบ ไม่มีเสียงรบกวนแล้วล่ะก็ คุณสามารถมองหาตัวเลือกหูฟังแบบเปิด (Open-Back Headphone) ได้ด้วย เพราะหูฟังประเภทนี้สามารถแยกพื้นที่ของเสียงได้เยี่ยม และให้คุณภาพเสียงที่ดีไม่แพ้กัน แต่มันก็จะมีข้อเสียอยู่ตรงที่จะทำให้เสียงในหูฟังของคุณเล็ดรอดออกไปด้านนอกได้ง่าย ดังนั้น ถ้าคิดจะซื้อหูฟังแบบนี้มาลองใช้ดู อย่าลืมอ่านบทความด้านล่างของเราก่อนนะ :)
อ่านเพิ่มเติม : หูฟังแบบเปิด (Open-Back Headphone) คืออะไร ? หูฟังแบบเปิด มีหลักการทำงานอย่างไร ?
|
เกมเมอร์หญิงทาสแมว ถ้าอยู่กับแมวแล้วจะน้วยแมวทั้งวัน |