หากพูดถึงบริการเก็บไฟล์บนคลาวด์ (Cloud storage) ที่นิยมใช้กันล่ะก็ คนส่วนใหญ่จะนึกถึง Dropbox, Google Drive หรือไม่ก็ OneDrive แต่ปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่จะนิยมใช้สองอย่างหลังกันมากกว่า ในกรณีที่ใช้บริการฟรี Google Drive เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากให้มามากถึง 15GB ในขณะที่ OneDrive ให้มา 5GB และ Dropbox ให้แค่ 2GB เท่านั้น แต่ถ้าใช้แบบเสียค่าบริการล่ะ? Google Drive หรือ OneDrive จะคุ้มค่ากว่ากัน มาลองเปรียบเทียบสิ่งที่ได้ในแต่ละด้านกันสักหน่อยดีกว่า
มีความแตกต่างในด้านนี้ค่อนข้างเยอะเลยล่ะ Google ให้พื้นที่เริ่มต้นฟรีมาถึง 15GB และสามารถจ่ายเงินเพิ่ม เริ่มต้นเพียงปีละ 700 บาท (เดือนละ 70 บาท) สำหรับพื้นที่ขนาด 100GB ซึ่ง Google รวมบริการคลาวด์ที่มีทั้งหมดเอาไว้ในชื่อ Google One พื้นที่ที่เราได้มาสามารถใช้งานร่วมกับ Drive และ Photos ได้ด้วย รวมทั้งยังแบ่งพื้นที่ให้กับสมาชิกในครอบครัวให้มาใช้งานได้
ในส่วนของ Microsoft จะมีความแตกต่างออกไป โดยพื้นที่จะถูกพ่วงมากับการสมัครบริการ Microsoft Office แบบรายเดือน ซึ่ง Office 365 Home มีราคาเริ่มต้นที่ปีละ 2,099 บาท ได้พื้นที่ 1TB พร้อมกับสามารถใช้งานซอฟต์แวร์ตระกูล Office ได้ด้วย หากต้องการใช้หลายคน (สูงสุด 6 คน คนละ 1TB) จะอยู่ที่ปีละ 2,899 บาท
ในส่วนของการขยายพื้นที่ ขอยกตัวอย่างที่ระดับ 2TB เพราะทั้งคู่มีให้เลือกเหมือนกัน Google Drive จะอยู่ที่ปีละ 3,500 บาท ส่วนของ Microsoft จะเป็นทางเลือกจ่ายเพิ่มจากเดิมประมาณปีละ 1,050 บาท รวมเป็น 3,149 บาท
เมื่อพิจารณาแล้ว หากเราต้องการพื้นที่เพิ่มเพียงอย่างเดียว และไม่ต้องการพื้นที่ขนาดมากถึงระดับ TB แค่ 100-200GB ก็เพียงพอแล้ว การเลือก Google Drive ก็จะประหยัดและคุ้มค่ากว่า OneDrive มาก แต่ในกรณีที่คุณต้องใช้ Office 365 อยู่แล้ว ต้องการพื้นที่เก็บไฟล์ขนาดใหญ่ OneDrive ถึงจะคุ้มค่ากว่า
ผู้ชนะด้านความคุ้มค่า : OneDrive
ผู้ชนะด้านพื้นที่ใช้งาน : Google Drive
ถ้าเป็นในอดีต เรื่องการค้นหาคงต้องยกให้ Google ที่ค้นหาไฟล์ที่ต้องการง่ายกว่ามาก โดย Google จะแสดงผลการค้นหาให้เราเห็นตั้งแต่ที่เริ่มพิมพ์คำค้น ในขณะที่ OneDrive จะไม่แสดงผลอะไรทั้งสิ้นจนกว่าเราจะกด Enter เสียก่อน
แต่ปัจจุบัน OneDrive ก็สามารถแสดงผลการค้นหาแบบ Google Drive ได้แล้วนะ ดังนั้นยกนี้ถือว่าเสมอ
ผลการตัดสิน : เสมอ
OneDrive ถูกรวมเอาไว้เป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการ Windows 10 เลย เราสามารถเข้าถึงไฟล์บน OneDrive ได้จาก Explorer โดยตรง พร้อมทั้งสามารถ Sync ไฟล์บน Desktop ขึ้นไปเก็บไว้บน OneDrive ได้ทันที
ส่วน Google Drive ก็สามารถทำได้เช่นกัน แม้จะต้องลงโปรแกรม "Backup and Sync" ก่อนก็ตาม แต่มันก็ไม่ได้ยุ่งยากขนาดนั้น
ผลการตัดสิน : เสมอ
ข่าวร้าย คือ ทั้งคู่ไม่มีระบบ End-to-end encryption ให้ใช้
End-to-end encryption เป็นการเข้ารหัสไฟล์ (Encryption)ภายในเครื่องของคุณ ก่อนที่จะส่งไฟล์ไปเก็บบนเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งกุญแจสำหรับถอดรหัส (Decryption) จะอยู่ที่คุณเพียงคนเดียว |
ไม่ใช่ว่ามันไม่มีระบบเข้ารหัสไฟล์เลยนะ เพียงแต่ว่าไฟล์ของคุณจะถูกไปยังคลาวด์ผ่านการเข้ารหัสของระบบ HTTPS จากนั้นทาง Google และ Microsoft จะทำการเข้ารหัสไฟล์ให้ด้วยกุญแจของพวกเขาเอง ทำให้ถึงแม้ว่าหากแฮกเกอร์โจมตีเข้าไปขโมยข้อมูลของคุณออกมาได้ ก็ไม่สามารถอ่านข้อมูลของคุณได้ง่ายๆ
อย่างไรก็ตาม นั่นหมายความว่า ทั้ง Google และ Microsoft สามารถ "เปิดอ่าน" ข้อมูลของคุณได้ หากพวกเขาคิดจะทำ หรือถูกศาลบังคับแล้วพวกเขายินยอมทำตามเปิดเผยข้อมูลของลูกค้า
หากคุณต้องการทำ End-to-end encryption บนเครื่องตัวเองก่อนที่จะอัปโหลด ก็สามารถทำได้ด้วยตนเองนะ มีซอฟต์แวร์หลายตัวที่สามารถทำได้ เช่น Cryptomator ที่ช่วยเข้ารหัสไฟล์ให้เราก่อนอัปโหลดขึ้นไปเก็บบน OneDrive หรือ Google Drive ได้
ผลการตัดสิน : เสมอ
แม้ Google Drive กับ OneDrive จะไม่ได้ถูกแฮกง่ายๆ แต่อาจจะเกิดความบังเอิญมีคนรู้รหัสผ่านของคุณแล้วแอบเข้าไปส่องไฟล์ หรือคุณลืมออกจากระบบ ฯลฯ
OneDrive มีลูกเล่นที่ชื่อว่า "กรุสมบัติส่วนตัว" (Peronal Vault) ให้เพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าว มันไม่ได้มาช่วยเพิ่มการเข้ารหัสไฟล์ให้ซับซ้อนขึ้น แต่มันเป็นโฟลเดอร์ที่ถูกเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดขึ้นอีกระดับ ด้วยการใช้ Two Factor Authentication โดยเราอาจจะตั้งค่าให้ใช้ต้องใส่รหัสผ่านชั่วคราวที่ได้จาก SMS หรืออีเมลเพิ่มเติม ในการเข้าไปดูไฟล์ในกรุสมบัติส่วนตัว และโฟลเดอร์จะปิดตัวอัตโนมัติภายใน 20 นาที หากไม่มีกิจกรรมเคลื่อนไหวเกิดขึ้น
บัญชีแบบฟรีสามารถเก็บไฟล์เอาไว้ในกรุสมบัติส่วนตัวเอาไว้ได้ 3 ไฟล์ ส่วนผู้ใช้ที่เสียเงินจะเก็บได้ไม่จำกัด ส่วน Google Drive ไม่มีลูกเล่นแบบนี้ให้ใช้งาน
ผลการตัดสิน : OneDrive ชนะ
เป็นการยากที่จะฟันธงว่าบริการไหนดีกว่ากัน มันขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนมากกว่า หากคุณเป็นผู้ใช้ Microsoft Office และคิดว่าต้องการใช้ Personal Vault ก็ควรจะใช้ OneDrive
ในทางกลับกัน หากงานส่วนใหญ่ของคุณทำบน Gmail, Docs และ Sheets แน่นอนว่า Google Drive ก็จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |
ความคิดเห็นที่ 1
4 ตุลาคม 2563 23:13:10
|
||
สำหรับผมให้google drive no.1 เนื่องจากการใช้งานฟังชั่นได้หลากหลาย สมัครได้มา 15gb ซึ่งเยอะมาก แถมยังสมัครง่ายอีก และแถมยังลิงค์แบบลูปได้อีกด้วย ดูไฟล์vdoสะดวก แถมยังการการคัดลอกลิ้งค์ ไว้ดูไฟล์แชร์ให้คนอื่นสะดวก มีเครื่องเล่นvdo ซึ่งการทำงานได้ดีมากอีกด้วน
|
||